📜

กถินกฺขนฺธกกถาวณฺณนา

๒๖๙๗. วุตฺถวสฺสานํ ปุริมิกาย วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ยาว มหาปวารณา, ตาว รตฺติจฺเฉทํ อกตฺวา วุตฺถวสฺสานํ ภิกฺขูนํ เอกสฺส วา ทฺวินฺนํ ติณฺณํ จตุนฺนํ ปฺจนฺนํ อติเรกานํ วา ภิกฺขูนํ ปฺจนฺนํ อานิสํสานํ วกฺขมานานํ อนามนฺตจาราทีนํ ปฺจนฺนํ อานิสํสานํ ปฏิลาภการณา มุนิปุงฺคโว สพฺเพสํ อคาริกาทิมุนีนํ สกลคุณคเณหิ อุตฺตโม ภควา กถินตฺถารํ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสฺสํวุตฺถานํ ภิกฺขูนํ กถินํ อตฺถริตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๐๖) อพฺรฺวิ กเถสีติ โยชนา.

เอตฺถายํ วินิจฺฉโย – ‘‘กถินตฺถารํ เก ลภนฺติ, เก น ลภนฺตีติ? คณนวเสน ตาว ปจฺฉิมโกฏิยา ปฺจ ชนา ลภนฺติ, อุทฺธํ สตสหสฺสมฺปิ, ปฺจนฺนํ เหฏฺา น ลภนฺตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๐๖) อิทํ อฏฺกถาย อตฺถารกสฺส ภิกฺขุโน สงฺฆสฺส กถินทุสฺสทานกมฺมํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘วุตฺถวสฺสวเสน ปุริมิกาย วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ปมปวารณาย ปวาริตา ลภนฺติ, ฉินฺนวสฺสา วา ปจฺฉิมิกาย อุปคตา วา น ลภนฺติ. อฺสฺมึ วิหาเร วุตฺถวสฺสาปิ น ลภนฺตีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺต’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๐๖) อิทํ อฏฺกถาย อานิสํสลาภํ สนฺธาย วุตฺตํ, น กมฺมํ.

อิทานิ ตทุภยํ วิภชิตฺวา ทสฺเสติ –

‘‘ปุริมิกาย อุปคตานํ ปน สพฺเพ คณปูรกา โหนฺติ, อานิสํสํ น ลภนฺติ, อานิสํโส อิตเรสํเยว โหติ. สเจ ปุริมิกาย อุปคตา จตฺตาโร วา โหนฺติ, ตโย วา ทฺเว วา เอโก วา, อิตเร คณปูรเก กตฺวา กถินํ อตฺถริตพฺพํ. อถ จตฺตาโร ภิกฺขู อุปคตา, เอโก ปริปุณฺณวสฺโส สามเณโร, โส เจ ปจฺฉิมิกาย อุปสมฺปชฺชติ, คณปูรโก เจว โหติ, อานิสํสฺจ ลภติ . ตโย ภิกฺขู ทฺเว สามเณรา, ทฺเว ภิกฺขู ตโย สามเณรา, เอโก ภิกฺขุ จตฺตาโร สามเณราติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. สเจ ปุริมิกาย อุปคตา กถินตฺถารกุสลา น โหนฺติ, อตฺถารกุสลา ขนฺธกภาณกตฺเถรา ปริเยสิตฺวา อาเนตพฺพา, กมฺมวาจํ สาเวตฺวา กถินํ อตฺถราเปตฺวา ทานฺจ ภุฺชิตฺวา คมิสฺสนฺติ, อานิสํโส ปน อิตเรสํเยว โหตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๐๖).

กถินํ เกน ทินฺนํ วฏฺฏตีติ? เยน เกนจิ เทเวน วา มนุสฺเสน วา ปฺจนฺนํ วา สหธมฺมิกานํ อฺตเรน ทินฺนํ วฏฺฏติ. กถินทายกสฺส วตฺตํ อตฺถิ, สเจ โส ตํ อชานนฺโต ปุจฺฉติ ‘‘ภนฺเต, กถํ กถินํ ทาตพฺพ’’นฺติ, ตสฺส เอวํ อาจิกฺขิตพฺพํ ‘‘ติณฺณํ จีวรานํ อฺตรปฺปโหนกํ สูริยุคฺคมนสมเย วตฺถํ ‘กถินจีวรํ เทมา’ติ ทาตุํ วฏฺฏติ, ตสฺส ปริกมฺมตฺถํ เอตฺตกา นาม สูจิโย, เอตฺตกํ สุตฺตํ, เอตฺตกํ รชนํ, ปริกมฺมํ กโรนฺตานํ เอตฺตกานํ ภิกฺขูนํ ยาคุภตฺตฺจ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ.

กถินตฺถารเกนาปิ ธมฺเมน สเมน อุปฺปนฺนํ กถินํ อตฺถรนฺเตน วตฺตํ ชานิตพฺพํ. ตนฺตวายเคหโต หิ อาภตสนฺตาเนเนว ขลิมกฺขิตสาฏโกปิ น วฏฺฏติ, มลีนสาฏโกปิ น วฏฺฏติ, ตสฺมา กถินตฺถารสาฏกํ ลภิตฺวา สุทฺธํ โธวิตฺวา สูจิอาทีนิ จีวรกมฺมูปกรณานิ สชฺเชตฺวา พหูหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ตทเหว สิพฺพิตฺวา นิฏฺิตสูจิกมฺมํ รชิตฺวา กปฺปพินฺทุํ ทตฺวา กถินํ อตฺถริตพฺพํ. สเจ ตสฺมึ อนตฺถเตเยว อฺโ กถินสาฏกํ อตฺถริตพฺพกํ อาหรติ, อฺานิ จ พหูนิ กถินานิสํสวตฺถานิ เทติ, โย อานิสํสํ พหุํ เทติ, ตสฺส สนฺตเกเนว อตฺถริตพฺพํ. อิตโร ยถา ตถา โอวทิตฺวา สฺาเปตพฺโพ.

กถินํ ปน เกน อตฺถริตพฺพํ? ยสฺส สงฺโฆ กถินจีวรํ เทติ. สงฺเฆน ปน กสฺส ทาตพฺพํ? โย ชิณฺณจีวโร โหติ. สเจ พหู ชิณฺณจีวรา โหนฺติ, วุฑฺฒสฺส ทาตพฺพํ. วุฑฺเฒสุปิ โย มหาปริวาโร ตทเหว จีวรํ กตฺวา อตฺถริตุํ สกฺโกติ, ตสฺส ทาตพฺพํ. สเจ วุฑฺโฒ น สกฺโกติ, นวกตโร สกฺโกติ, ตสฺส ทาตพฺพํ. อปิ จ สงฺเฆน มหาเถรสฺส สงฺคหํ กาตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ‘‘ตุมฺเห, ภนฺเต, คณฺหถ, มยํ กตฺวา ทสฺสามา’’ติ วตฺตพฺพํ.

ตีสุ จีวเรสุ ยํ ชิณฺณํ โหติ, ตทตฺถาย ทาตพฺพํ. ปกติยา ทุปฏฺฏจีวรสฺส ทุปฏฺฏตฺถาเยว ทาตพฺพํ. สเจปิสฺส เอกปฏฺฏจีวรํ ฆนํ โหติ, กถินสาฏโก จ เปลโว, สารุปฺปตฺถาย ทุปฏฺฏปฺปโหนกเมว ทาตพฺพํ. ‘‘อหํ อลภนฺโต เอกปฏฺฏํ ปารุปามี’’ติ วทนฺตสฺสาปิ ทุปฏฺฏํ ทาตุํ วฏฺฏติ. โย ปน โลภปกติโก โหติ, ตสฺส น ทาตพฺพํ. เตนาปิ กถินํ อตฺถริตฺวา ‘‘ปจฺฉา วิสิพฺพิตฺวา ทฺเว จีวรานิ กริสฺสามี’’ติ น คเหตพฺพํ.

ยสฺส ปน ทิยฺยติ, ตสฺส –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อิทํ สงฺฆสฺส กถินทุสฺสํ อุปฺปนฺนํ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิมํ กถินทุสฺสํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทเทยฺย กถินํ อตฺถริตุํ, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อิทํ สงฺฆสฺส กถินทุสฺสํ อุปฺปนฺนํ, สงฺโฆ อิมํ กถินทุสฺสํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน เทติ กถินํ อตฺถริตุํ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิมสฺส กถินทุสฺสสฺส อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทานํ กถินํ อตฺถริตุํ, โส ตุณฺหสฺส, ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘ทินฺนํ อิทํ สงฺเฆน กถินทุสฺสํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน กถินํ อตฺถริตุํ, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ (มหาว. ๓๐๗) –

เอวํ ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย ทาตพฺพนฺติ เอวํ ทินฺนํ.

๒๖๙๘-๙. น อุลฺลิขิตมตฺตาทิ-จตุวีสติวชฺชิตนฺติ ปาฬิยํ อาคเตหิ ‘‘น อุลฺลิขิตมตฺเตน อตฺถตํ โหติ กถิน’’นฺติ (มหาว. ๓๐๘) อุลฺลิขิตมตฺตาทีหิ จตุวีสติยา อากาเรหิ วชฺชิตํ. จีวรนฺติ ‘‘อหเตน อตฺถตํ โหติ กถิน’’นฺติ (มหาว. ๓๐๙) ปาฬิยํ อาคตานํ โสฬสนฺนํ อาการานํ อฺตเรน ยุตฺตํ กตปริโยสิตํ ทินฺนํ กปฺปพินฺทุํ ติณฺณํ จีวรานํ อฺตรจีวรํ. เต ปน จตุวีสติ อาการา, โสฬสาการา จ ปาฬิโต (มหาว. ๓๐๘), อฏฺกถาโต (มหาว. อฏฺ. ๓๐๘) จ คเหตพฺพา. คนฺถคารวปริหารตฺถมิธ น วุตฺตา.

ภิกฺขุนา วกฺขมาเน อฏฺธมฺเม ชานนฺเตน อตฺถรเกน อาทาย คเหตฺวา ปุราณกํ อตฺตนา ปริภุฺชิยมานํ อตฺถริตพฺพจีวเรน เอกนามกํ ปุราณจีวรํ อุทฺธริตฺวา ปจฺจุทฺธริตฺวา นวํ อตฺถริตพฺพํ จีวรํ อธิฏฺหิตฺวา ปุราณปจฺจุทฺธฏจีวรสฺส นาเมน อธิฏฺหิตฺวาว ตํ อนฺตรวาสกํ เจ, ‘‘อิมินา อนฺตรวาสเกน กถินํ อตฺถรามิ’’อิติ วจสา วตฺตพฺพนฺติ โยชนา. สเจ อุตฺตราสงฺโค โหติ, ‘‘อิมินา อุตฺตราสงฺเคน กถินํ อตฺถรามิ’’, สเจ สงฺฆาฏิ โหติ, ‘‘อิมาย สงฺฆาฏิยา กถินํ อตฺถรามี’’ติ วตฺตพฺพํ.

๒๗๐๐-๑. อิจฺเจวํ ติกฺขตฺตุํ วุตฺเต กถินํ อตฺถตํ โหตีติ โยชนา. เตน ปน ภิกฺขุนา นวเกน กถินจีวรํ อาทาย สงฺฆํ อุปสงฺกมฺม ‘‘อตฺถตํ, ภนฺเต, สงฺฆสฺส กถินํ, ธมฺมิโก กถินตฺถาโร, อนุโมทถ’’อิติ วตฺตพฺพนฺติ โยชนา.

๒๗๐๒. อนุโมทเกสุ จ เถเรหิ ‘‘อตฺถตํ, อาวุโส, สงฺฆสฺส กถินํ, ธมฺมิโก กถินตฺถาโร, อนุโมทามา’’ติ วตฺตพฺพํ, นเวน ปน ‘‘อตฺถตํ, ภนฺเต, สงฺฆสฺส กถินํ, ธมฺมิโก กถินตฺถาโร, อนุโมทามี’’ติ อิติ ปุน อีรเย กเถยฺยาติ โยชนา. คาถาย ปน อนุโมทนปาสฺส อตฺถทสฺสนมุเขน ‘‘สุอตฺถตํ ตยา ภนฺเต’’ติ วุตฺตํ, น ปากฺกมทสฺสนวเสนาติ เวทิตพฺพํ.

อตฺถารเกสุ จ อนุโมทเกสุ จ นเวหิ วุฑฺฒานํ วจนกฺกโม วุตฺโต, วุฑฺเฒหิ นวานํ วจนกฺกโม ปน ตทนุสาเรน ยถารหํ โยเชตฺวา วตฺตพฺโพติ คาถาสุ น วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. อตฺถารเกน เถเรน วา นเวน วา คณปุคฺคลานํ วจนกฺกโม จ คณปุคฺคเลหิ อตฺถารกสฺส วจนกฺกโม จ วุตฺตนเยน ยถารหํ โยเชตุํ สกฺกาติ น วุตฺโต.

เอวํ อตฺถเต ปน กถิเน สเจ กถินจีวเรน สทฺธึ อาภตํ อานิสํสํ ทายกา ‘‘เยน อมฺหากํ กถินํ คหิตํ, ตสฺเสว จ เทมา’’ติ เทนฺติ, ภิกฺขุสงฺโฆ อนิสฺสโร. อถ อวิจาเรตฺวาว ทตฺวา คจฺฉนฺติ, ภิกฺขุสงฺโฆ อิสฺสโร. ตสฺมา สเจ กถินตฺถารกสฺส เสสจีวรานิปิ ทุพฺพลานิ โหนฺติ, สงฺเฆน อปโลเกตฺวา เตสมฺปิ อตฺถาย วตฺถานิ ทาตพฺพานิ, กมฺมวาจาย ปน เอกาเยว วฏฺฏติ. อวเสเส กถินานิสํเส พลววตฺถานิ วสฺสาวาสิกิติกาย ทาตพฺพานิ, ิติกาย อภาเว เถราสนโต ปฏฺาย ทาตพฺพานิ, ครุภณฺฑํ น ภาเชตพฺพํ. สเจ ปน เอกสีมาย พหู วิหารา โหนฺติ, สพฺเพ ภิกฺขู สนฺนิปาเตตฺวา เอกตฺถ กถินํ อตฺถริตพฺพํ, วิสุํ วิสุํ อตฺถริตุํ น วฏฺฏติ.

๒๗๐๓. ‘‘กถินสฺส จ กึ มูล’’นฺติอาทีนิ สยเมว วิวริสฺสติ.

๒๗๐๖. อฏฺธมฺมุทฺเทสคาถาย ปุพฺพกิจฺจํ ปุพฺพ-วจเนเนว อุตฺตรปทโลเปน วุตฺตํ. เตเนว วกฺขติ ‘‘ปุพฺพกิจฺจนฺติ วุจฺจตี’’ติ. ‘‘ปจฺจุทฺธาร’’อิติ วตฺตพฺเพ ‘‘ปจฺจุทฺธร’’อิติ คาถาพนฺธวเสน รสฺโส. เตเนว วกฺขติ ‘‘ปจฺจุทฺธาโร’’ติ. อธิฏฺหนํ อธิฏฺานํ. ปจฺจุทฺธาโร จ อธิฏฺานฺจ ปจฺจุทฺธราธิฏฺานา. อิตรีตรโยเคน ทฺวนฺทสมาโส. อตฺถาโรติ เอตฺถ ‘‘กถินตฺถาโร’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ.

‘‘มาติกา’’ติ อิมินา ‘‘อฏฺ กถินุพฺภารมาติกา’’ติ ปกรณโต วิฺายติ. ยถาห – ‘‘อฏฺิมา, ภิกฺขเว, มาติกา กถินสฺส อุพฺภารายา’’ติ (มหาว. ๓๑๐). มาติกาติ มาตโร ชเนตฺติโย, กถินุพฺภารํ เอตา อฏฺ ชเนนฺตีติ อตฺโถ. อุทฺธาโรติ กถินสฺส อุทฺธาโร. อานิสํสาติ เอตฺถ ‘‘กถินสฺสา’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ. กถินสฺส อานิสํสาติ อิเม อฏฺ ธมฺมาติ โยชนา. ยถาห ‘‘อตฺถตกถินานํ โว, ภิกฺขเว, ปฺจ กปฺปิสฺสนฺตี’’ติอาทิ (มหาว. ๓๐๖). ‘‘อานิสํเสนา’’ติปิ ปาโ. อานิสํเสน สห อิเม อฏฺ ธมฺมาติ โยชนา.

๒๗๐๗. ‘‘น อุลฺลิขิตมตฺตาทิ-จตุวีสติวชฺชิต’’นฺติอาทินา กถินํ อตฺถริตุํ กตปริโยสิตํ จีวรํ เจ ลทฺธํ, ตตฺถ ปฏิปชฺชนวิธึ ทสฺเสตฺวา สเจ อกตสิพฺพนาทิกมฺมํ วตฺถเมว ลทฺธํ, ตตฺถ ปฏิปชฺชนวิธึ ปุพฺพกิจฺจวเสน ทสฺเสตุมาห ‘‘โธวน’’นฺติอาทิ. ตตฺถ โธวนนฺติ กถินทุสฺสสฺส เสตภาวกรณํ. วิจาโรติ ‘‘ปฺจกํ วา สตฺตกํ วา นวกํ วา เอกาทสกํ วา โหตู’’ติ วิจารณํ. เฉทนนฺติ ยถาวิจาริตสฺส วตฺถสฺส เฉทนํ. พนฺธนนฺติ โมฆสุตฺตกาโรปนํ. สิพฺพนนฺติ สพฺพสูจิกมฺมํ. รชนนฺติ รชนกมฺมํ. กปฺปนฺติ กปฺปพินฺทุทานํ. ‘‘ปุพฺพกิจฺจ’’นฺติ วุจฺจติ อิทํ สพฺพํ กถินตฺถารสฺส ปมเมว กตฺตพฺพตฺตา.

๒๗๐๘. อนฺตรวาสโกติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. สงฺฆาฏิ, อุตฺตราสงฺโค, อโถ อนฺตรวาสโกติ เอสเมว ตุ ปจฺจุทฺธาโรปิ อธิฏฺานมฺปิ อตฺถาโรปิ วุตฺโตติ โยชนา.

๒๗๐๙. อฏฺมาติกา (มหาว. ๓๑๐-๓๑๑; ปริ. ๔๑๕; มหาว. อฏฺ. ๓๑๐-๓๑๑) ทสฺเสตุมาห ‘‘ปกฺกมนฺจา’’ติอาทิ. ปกฺกมนํ อนฺโต เอตสฺสาติ ปกฺกมนนฺติกาติ วตฺตพฺเพ อุตฺตรปทโลเปน ‘‘ปกฺกมน’’นฺติ วุตฺตํ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อฏฺิมาติ เอตฺถ ‘‘มาติกา’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ. อิมา อฏฺ มาติกาติ โยชนา.

๒๗๑๐. อุทฺเทสานุกฺกเมน นิทฺทิสิตุมาห ‘‘กตจีวรมาทายา’’ติอาทิ. ‘‘กตจีวรมาทายา’’ติ อิมินา จีวรปลิโพธุปจฺเฉโท ทสฺสิโต. ‘‘อาวาเส นิรเปกฺขโก’’ติ อิมินา ทุติโย อาวาสปลิโพธุปจฺเฉโท ทสฺสิโต. เอตฺถ สพฺพวากฺเยสุ ‘‘อตฺถตกถิโน โย ภิกฺขุ สเจ ปกฺกมตี’’ติ เสโส. อติกฺกนฺตาย สีมายาติ วิหารสีมาย อติกฺกนฺตาย. โหติ ปกฺกมนนฺติกาติ เอตฺถ ‘‘ตสฺส ภิกฺขุโน’’ติ เสโส, ตสฺส ภิกฺขุโน ปกฺกมนนฺติกา นาม มาติกา โหตีติ อตฺโถ.

๒๗๑๑-๒. อานิสํสํ นาม วุตฺถวสฺเสน ลทฺธํ อกตสูจิกมฺมวตฺถํ. เตเนว วกฺขติ ‘‘กโรตี’’ติอาทิ. ‘‘วิหาเร อนเปกฺขโก’’ติ อิมินา เอตฺถ ปมํ อาวาสปลิโพธุปจฺเฉโท ทสฺสิโต. สุขวิหรณํ ปโยชนมสฺสาติ สุขวิหาริโก, วิหาโรติ. ตตฺถ ตสฺมึ วิหาเร วิหรนฺโตว ตํ จีวรํ ยทิ กโรติ, ตสฺมึ จีวเร นิฏฺิเต นิฏฺานนฺตา นิฏฺานนฺติกาติ วุจฺจตีติ โยชนา. ‘‘นิฏฺิเตจีวเร’’ติ อิมินา จีวรปลิโพธุปจฺเฉโท ทสฺสิโต.

๒๗๑๓. ตมสฺสมนฺติ ตํ วุตฺถวสฺสาวาสํ. ธุรนิกฺเขเปติ อุภยธุรนิกฺเขปวเสน จิตฺตปฺปวตฺตกฺขเณ. สนฺนิฏฺานํ นาม ธุรนิกฺเขโป. เอตฺถ ปลิโพธทฺวยสฺส เอกกฺขเณเยว อุปจฺเฉโท อฏฺกถายํ วุตฺโต ‘‘สนฺนิฏฺานนฺติเก ทฺเวปิ ปลิโพธา ‘เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺส’นฺติ จินฺติตมตฺเตเยว เอกโต ฉิชฺชนฺตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๑๑).

๒๗๑๔. กถินจฺฉาทนนฺติ กถินานิสํสํ จีวรวตฺถุํ. น ปจฺเจสฺสนฺติ น ปจฺจาคมิสฺสามิ. กโรนฺตสฺเสวาติ เอตฺถ ‘‘จีวร’’นฺติ ปกรณโต ลพฺภติ. ‘‘กถินจฺฉาทน’’นฺติ อิทํ วา สมฺพนฺธนียํ. กโรนฺตสฺสาติ อนาทเร สามิวจนํ. นฏฺนฺติ โจเรหิ หฏตฺตา วา อุปจิกาทีหิ ขาทิตตฺตา วา นฏฺํ. ทฑฺฒํ วาติ อคฺคินา ทฑฺฒํ วา. นาสนนฺติกาติ เอวํ จีวรสฺส นาสนนฺเต ลพฺภมานา อยํ มาติกา นาสนนฺติกา นามาติ อตฺโถ. เอตฺถ ‘‘น ปจฺเจสฺส’’นฺติ อิมินา ปมํ อาวาสปลิโพธุปจฺเฉโท ทสฺสิโต. ‘‘กโรนฺตสฺเสวา’’ติ อิมินา ทุติยํ จีวรปลิโพธุปจฺเฉโท ทสฺสิโต.

๒๗๑๕. ลทฺธานิสํโสติ ลทฺธกถินานิสํสจีวโร. อานิสํเส จีวเร สาเปกฺโข อเปกฺขวา พหิสีมคโต วสฺสํวุตฺถสีมาย พหิสีมคโต ตํ จีวรํ กโรติ, โส กตจีวโร อนฺตรุพฺภารํ อนฺตรา อุพฺภารํ สุณาติ เจ, สวนนฺติกา นาม โหตีติ โยชนา. ‘‘พหิสีมคโต’’ติอาทินา ทุติยปลิโพธุปจฺเฉโท ทสฺสิโต. เอตฺถ ‘‘กตจีวโร’’ติ วุตฺตตฺตา จีวรปลิโพธุปจฺเฉโท ปมํ โหติ, อิตโร ปน ‘‘สห สวเนน อาวาสปลิโพโธ ฉิชฺชตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๑๑) อฏฺกถาย วุตฺตตฺตา ปจฺฉา โหติ.

๒๗๑๖-๗. จีวราสาย วสฺสํวุตฺโถ อาวาสโต ปกฺกนฺโต ‘‘ตุยฺหํ จีวรํ ทสฺสามี’’ติ เกนจิ วุตฺโต พหิสีมคโต ปน สวติ, ปุน ‘‘ตว จีวรํ ทาตุํ น สกฺโกมี’’ติ วุตฺโต อาสาย ฉินฺนมตฺตาย จีวเร ปจฺจาสาย อุปจฺฉินฺนมตฺตาย อาสาวจฺเฉทิกา นาม มาติกาติ มตา าตาติ โยชนา. อาสาวจฺฉาทิเก กถินุพฺภาเร อาวาสปลิโพโธ ปมํ ฉิชฺชติ, จีวราสาย อุปจฺฉินฺนาย จีวรปลิโพโธ ฉิชฺชติ.

๒๗๑๘-๒๐. โย วสฺสํวุตฺถวิหารมฺหา อฺํ วิหารํ คโต โหติ, โส อาคจฺฉํ อาคจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค กถินุทฺธารํ อติกฺกเมยฺย, ตสฺส โส กถินุทฺธาโร สีมาติกฺกนฺติโก มโตติ โยชนา. ตตฺถ สีมาติกฺกนฺติเก กถินุพฺภาเร จีวรปลิโพโธ ปมํ ฉิชฺชติ, ตสฺส พหิสีเม อาวาสปลิโพโธ ฉิชฺชติ.

เอตฺถ จ ‘‘สีมาติกฺกนฺติโก นาม จีวรกาลสีมาติกฺกนฺติโก’’ติ เกนจิ วุตฺตํ. ‘‘พหิสีมายํ จีวรกาลสมยสฺส อติกฺกนฺตตฺตา สีมาติกฺกนฺติโก’’ติ (สารตฺถ. ฏี. มหาว. ๓๑๑) สารตฺถทีปนิยํ วุตฺตํ. ‘‘อาคจฺฉํ อนฺตรามคฺเค, ตทุทฺธารมติกฺกเม’’ติ วุตฺตตฺตา ปน สงฺเฆน กริยมานํ อนฺตรุพฺภารํ อาคจฺฉนฺโต วิหารสีมํ อสมฺปตฺเตเยว กถินุพฺภารสฺส ชาตตฺตา ตํ น สมฺภุเณยฺย, ตสฺเสวํ สีมมติกฺกนฺตสฺเสว สโต ปุน อาคจฺฉโต อนฺตรามคฺเค ชาโต กถินุพฺภาโร สีมาติกฺกนฺติโกติ อมฺหากํ ขนฺติ.

กถินานิสํสจีวรํ อาทาย สเจ อาวาเส สาเปกฺโขว คโต โหติ, ปุน อาคนฺตฺวา กถินุทฺธารํ กถินสฺส อนฺตรุพฺภารเมว สมฺภุณาติ เจ ยทิ ปาปุเณยฺย, ตสฺส โส กถินุทฺธาโร โหติ, โส ‘‘สหุพฺภาโร’’ติ วุจฺจตีติ โยชนา. สหุพฺภาเร ทฺเว ปลิโพธา อปุพฺพํ อจริมํ ฉิชฺชนฺติ.

๒๗๒๑. ‘‘สีมาติกฺกนฺติเกนา’’ติ วตฺตพฺเพ อุตฺตรปทโลเปน ‘‘สีมโต’’ติ วุตฺตํ. ปกฺกมนฺจ นิฏฺานฺจ สนฺนิฏฺานฺจ สีมโต สีมาติกฺกนฺติเกน สห อิเม จตฺตาโร กถินุพฺภารา ปุคฺคลาธีนา ปุคฺคลายตฺตา สหุพฺภารสงฺขาโต อนฺตรุพฺภาโร สงฺฆาธีโนติ โยชนา. ‘‘อนฺตรุพฺภโร’’ติ คาถาพนฺธวเสน รสฺสตฺตํ.

๒๗๒๒. นาสนนฺติ นาสนนฺติโก. สวนนฺติ สวนนฺติโก. อาสาวจฺเฉทิกาปิ จาติ ตโยปิ กถินุพฺภารา. น ตุ สงฺฆา น ภิกฺขุโตติ สงฺฆโตปิ น โหนฺติ, ปุคฺคลโตปิ น โหนฺตีติ อตฺโถ. จีวรสฺส วินาโส สงฺฆสฺส วา จีวรสามิกสฺส วา ปโยเคน น ชาโตติ นาสนโก ตาว กถินุพฺภาโร อุภโตปิ น โหตีติ วุตฺโต. สวนฺจ อุภเยสํ ปโยคโต น ชาตนฺติ ตถา วุตฺตํ. ตถา อาสาวจฺเฉทิกาปิ.

๒๗๒๓. อาวาโสเยว ปลิโพโธติ วิคฺคโห. ปลิโพโธ จ จีวเรติ เอตฺถ จีวเรติ เภทวจนิจฺฉาย นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ, จีวรนิมิตฺตปลิโพโธติ อตฺโถ, จีวรสงฺขาโต ปลิโพโธติ วุตฺตํ โหติ. สจฺจาทิคุณยุตฺตํ มุสาวาทาทิโทสวิมุตฺตํ อตฺถํ วทติ สีเลนาติ ยุตฺตมุตฺตตฺถวาที, เตน.

๒๗๒๔. อฏฺนฺนํมาติกานนฺติ พหิสีมคตานํ วเสน วุตฺตา ปกฺกมนนฺติกาทโย สตฺต มาติกา, พหิสีมํ คนฺตฺวา อนฺตรุพฺภารํ สมฺภุณนฺตสฺส วเสน วุตฺโต สหุพฺภาโรติ อิมาสํ อฏฺนฺนํ มาติกานํ วเสน จ. อนฺตรุพฺภารโตปิ วาติ พหิสีมํ อคนฺตฺวา ตตฺเถว วสิตฺวา กถินุพฺภารกมฺเมน อุพฺภารกถินานํ วเสน ลพฺภนโต อนฺตรุพฺภารโต จาติ มเหสินา กถินสฺส ทุเว อุพฺภาราปิ วุตฺตาติ โยชนา. พหิสีมํ คนฺตฺวา อาคตสฺส วเสน สหุพฺภาโร, พหิสีมํ อาคตานํ วเสน อนฺตรุพฺภาโรติ เอโกเยว อุพฺภาโร ทฺวิธา วุตฺโต, ตสฺมา อนฺตรุพฺภารํ วิสุํ อคฺคเหตฺวา อฏฺเว มาติกา ปาฬิยํ (มหาว. ๓๑๐) วิภตฺตาติ เวทิตพฺพา.

๒๗๒๕. อนามนฺตจาโร อุตฺตรปทโลปวเสน ‘‘อนามนฺตา’’ อิติ วุตฺโต. ยาว กถินํ น อุทฺธรียติ, ตาว อนามนฺเตตฺวา จรณํ กปฺปิสฺสติ, จาริตฺตสิกฺขาปเทน อนาปตฺติ ภวิสฺสตีติ อตฺโถ.

อสมาทานจาโร ‘‘อสมาทาน’’นฺติ อุตฺตรปทโลเปน วุตฺโต. อสมาทานจาโรติ ติจีวรํ อสมาทาย จรณํ, จีวรวิปฺปวาโส กปฺปิสฺสตีติ อตฺโถ.

‘‘คณโต’’ติ อิมินา อุตฺตรปทโลเปน คณโภชนํ ทสฺสิตํ. คณโภชนมฺปิ กปฺปิสฺสติ, ตํ สรูปโต ปาจิตฺติยกณฺเฑ วุตฺตํ.

‘‘ยาวทตฺถิก’’นฺติ อิมินา ยาวทตฺถจีวรํ วุตฺตํ. ยาวทตฺถจีวรนฺติ ยาวตเกน จีวเรน อตฺโถ, ตาวตกํ อนธิฏฺิตํ อวิกปฺปิตํ กปฺปิสฺสตีติ อตฺโถ.

‘‘ตตฺถ โย จีวรุปฺปาโท’’ติ อิมินา ‘‘โย จ ตตฺถ จีวรุปฺปาโท’’ติ (มหาว. ๓๐๖) วุตฺโต อานิสํโส ทสฺสิโต. โย จ ตตฺถ จีวรุปฺปาโทติ ตตฺถ กถินตฺถตสีมายํ มตกจีวรํ วา โหตุ สงฺฆสฺส อุทฺทิสฺส ทินฺนํ วา สงฺฆิเกน ตตฺรุปฺปาเทน อาภตํ วา, เยน เกนจิ อากาเรน ยํ สงฺฆิกํ จีวรํ อุปฺปชฺชติ, ตํ เตสํ ภวิสฺสตีติ อตฺโถ. อิเม ปฺจ กถินานิสํสา จ วุตฺตาติ สมฺพนฺโธ.

กถินกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.