📜
จีวรกฺขนฺธกกถาวณฺณนา
๒๗๒๖-๗. จีวรํ ¶ อุปฺปชฺชติ เอตาสูติ ‘‘อุปฺปาทา’’ติ ชนิกาว วุจฺจนฺติ, จีวรวตฺถปริลาภกฺเขตฺตนฺติ อตฺโถ. ยถาห – ‘‘ยถาวุตฺตานํ จีวรานํ ปฏิลาภาย เขตฺตํ ทสฺเสตุํ อฏฺิมา ภิกฺขเว มาติกาติอาทิมาหา’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๗๙). จีวรมาติกาติ จีวรุปฺปาทเหตุภูตมาตโร. เตนาห กถินกฺขนฺธกวณฺณนายํ ‘‘มาติกาติ มาตโร, ชเนตฺติโยติ อตฺโถ’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๑๐). มาติกาติ เจตฺถ จีวรทานมธิปฺเปตํ. ยถาห ‘‘สีมาย ทานํ เอกา มาติกา, กติกาย ทานํ ทุติยา’’ติอาทิ. สีมาย เทติ, กติกาย เทติ, ภิกฺขาปฺตฺติยา เทติ, สงฺฆสฺส เทติ, อุภโตสงฺเฆ เทติ, วสฺสํวุตฺถสงฺฆสฺส เทติ, อาทิสฺส เทติ, ปุคฺคลสฺส เทติ. ‘‘อิมา ปน อฏฺ มาติกา’’ติ วุตฺตเมว นิคมนวเสน วุตฺตํ.
๒๗๒๘. ตตฺถาติ ¶ ตาสุ อฏฺมาติกาสุ. สีมาย เทตีติ ‘‘สีมาย ทมฺมี’’ติ เอวํ สีมํ ปรามสิตฺวา เทนฺโต สีมาย เทติ, เอวํ ทินฺนํ อนฺโตสีมคเตหิ ภิกฺขูหิ ภาเชตพฺพนฺติ วณฺณิตนฺติ โยชนา. ตตฺถ อนฺโตสีมคเตหีติ ทายโก ยํ สีมํ อเปกฺขิตฺวา เอวมาห, ตสฺสา สีมาย อนฺโตคเตหิ สพฺเพหิ. ภาเชตพฺพนฺติ ตํ จีวรํ ภาเชตพฺพํ. วรวณฺณินาติ ‘‘อิติปิ โส ภควา อรห’’นฺติอาทินา สกลโลกพฺยาปิคุณาติสยยุตฺเตน พฺยามปฺปภาย, ฉพฺพณฺณานํ รํสีนฺจ วเสน อุตฺตมปฺปภาติสยยุตฺเตน วรวณฺณินา วณฺณิตํ กถิตํ. อยเมตฺถ ปทวณฺณนา, อยํ ปน วินิจฺฉโย – สีมาย เทตีติ เอตฺถ ตาว ขณฺฑสีมา อุปจารสีมา สมานสํวาสสีมา อวิปฺปวาสสีมา ลาภสีมา คามสีมา นิคมสีมา นครสีมา อพฺภนฺตรสีมา อุทกุกฺเขปสีมา ชนปทสีมา รฏฺสีมา รชฺชสีมา ทีปสีมา จกฺกวาฬสีมา อิติ ปนฺนรส สีมา เวทิตพฺพา.
ตตฺถ ขณฺฑสีมา สีมากถายํ วุตฺตา. อุปจารสีมา ปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ปริกฺเขเปน, อปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ปริกฺเขปารหฏฺาเนน ปริจฺฉินฺนา โหติ. อปิจ ภิกฺขูนํ ธุวสนฺนิปาตฏฺานโต วา ปริยนฺเต ิตโภชนสาลโต วา นิพทฺธวสนกอาวาสโต วา ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส ทฺวินฺนํ เลฑฺฑุปาตานํ อนฺโต อุปจารสีมา เวทิตพฺพา. สา ปน อาวาเสสุ วฑฺฒนฺเตสุ วฑฺฒติ, ปริหายนฺเตสุ ปริหายติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘ภิกฺขูสุปิ วฑฺฒนฺเตสุ วฑฺฒตี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๗๙) วุตฺตํ. ตสฺมา สเจ วิหาเร สนฺนิปติตภิกฺขูหิ สทฺธึ ¶ เอกาพทฺธา หุตฺวา โยชนสตมฺปิ ปูเรตฺวา นิสีทนฺติ, โยชนสตมฺปิ อุปจารสีมาว โหติ, สพฺเพสํ ลาโภ ปาปุณาติ. สมานสํวาสอวิปฺปวาสสีมาทฺวยมฺปิ วุตฺตเมว.
ลาภสีมา ¶ นาม เนว สมฺมาสมฺพุทฺเธน อนฺุาตา, น ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ ปิตา, อปิจ โข ราชราชมหามตฺตา วิหารํ กาเรตฺวา คาวุตํ วา อฑฺฒโยชนํ วา โยชนํ วา สมนฺตโต ปริจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘อยํ อมฺหากํ วิหารสฺส ลาภสีมา’’ติ นามลิขิตเก ถมฺเภ นิขณิตฺวา ‘‘ยํ เอตฺถนฺตเร อุปฺปชฺชติ, สพฺพํ ตํ อมฺหากํ วิหารสฺส เทมา’’ติ สีมํ เปนฺติ, อยํ ลาภสีมา นาม. คามนิคมนครอพฺภนฺตรอุทกุกฺเขปสีมาปิ วุตฺตา เอว.
ชนปทสีมา นาม กาสิโกสลรฏฺาทีนํ อนฺโต พหู ชนปทา โหนฺติ, เอตฺถ เอเกโก ชนปทปริจฺเฉโท ชนปทสีมา. รฏฺสีมา นาม กาสิโกสลาทิรฏฺปริจฺเฉโท. รชฺชสีมา นาม มหาโจฬโภโค เกรฬโภโคติ เอวํ เอเกกสฺส รฺโ อาณาปวตฺติฏฺานํ. ทีปสีมา นาม สมุทฺทนฺเตน สมุจฺฉินฺนมหาทีปา จ อนฺตรทีปา จ. จกฺกวาฬสีมา นาม จกฺกวาฬปพฺพเตเนว ปริจฺฉินฺนา.
เอวเมตาสุ สีมาสุ ขณฺฑสีมาย เกนจิ กมฺเมน สนฺนิปติตํ สงฺฆํ ทิสฺวา ‘‘เอตฺเถว สีมาย สงฺฆสฺส เทมี’’ติ วุตฺเต ยาวติกา ภิกฺขู อนฺโตขณฺฑสีมคตา, เตหิ ภาเชตพฺพํ. เตสํเยว หิ ตํ ปาปุณาติ, อฺเสํ สีมนฺตริกาย วา อุปจารสีมาย วา ิตานมฺปิ น ปาปุณาติ. ขณฺฑสีมาย ิเต ปน รุกฺเข วา ปพฺพเต วา ิตสฺส เหฏฺา วา ปถวิยา เวมชฺฌํ คตสฺส ปาปุณาติเยว.
‘‘อิมิสฺสา อุปจารสีมาย สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ ทินฺนํ ปน ขณฺฑสีมาสีมนฺตริกาสุ ิตานมฺปิ ปาปุณาติ. ‘‘สมานสํวาสสีมาย ทมฺมี’’ติ ทินฺนํ ปน ขณฺฑสีมาสีมนฺตริกาสุ ิตานํ น ปาปุณาติ. อวิปฺปวาสสีมาลาภสีมาสุ ทินฺนํ ตาสุ สีมาสุ อนฺโตคตานํเยว ปาปุณาติ. คามสีมาทีสุ ทินฺนํ ¶ ตาสํ สีมานํ อพฺภนฺตเร พทฺธสีมาย ิตานมฺปิ ปาปุณาติ. อพฺภนฺตรสีมาอุทกุกฺเขปสีมาสุ ทินฺนํ ตตฺถ อนฺโตคตานํเยว ปาปุณาติ. ชนปทรฏฺรชฺชทีปจกฺกวาฬสีมาสุปิ คามสีมาทีสุ วุตฺตสทิโสเยว วินิจฺฉโย.
สเจ ¶ ปน ชมฺพุทีเป ิโต ‘‘ตมฺพปณฺณิทีเป สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วทติ, ตมฺพปณฺณิทีปโต เอโกปิ คนฺตฺวา สพฺเพสํ คณฺหิตุํ ลภติ. สเจปิ ตตฺเรว เอโก สภาคภิกฺขุ สภาคานํ ภาคํ คณฺหาติ, น วาเรตพฺโพ. เอวํ ตาว โย สีมํ ปรามสิตฺวา เทติ, ตสฺส ทาเน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
โย ปน ‘‘อสุกสีมายา’’ติ วตฺตุํ น ชานาติ, เกวลํ ‘‘สีมา’’ติ วจนมตฺตเมว ชานนฺโต วิหารํ อาคนฺตฺวา ‘‘สีมาย ทมฺมี’’ติ วา ‘‘สีมฏฺกสงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วา ภณติ, โส ปุจฺฉิตพฺโพ ‘‘สีมา นาม พหุวิธา, กตรํ สีมํ สนฺธาย ภณสี’’ติ, สเจ วทติ ‘‘อหํ ‘อสุกสีมา’ติ น ชานามิ, สีมฏฺกสงฺโฆ ภาเชตฺวา คณฺหตู’’ติ, กตรสีมาย ภาเชตพฺพํ? มหาสีวตฺเถโร กิราห ‘‘อวิปฺปวาสสีมายา’’ติ. ตโต นํ อาหํสุ ‘‘อวิปฺปวาสสีมา นาม ติโยชนาปิ โหติ, เอวํ สนฺเต ติโยชเน ิตา ลาภํ คณฺหิสฺสนฺติ, ติโยชเน ตฺวา อาคนฺตุกวตฺตํ ปูเรตฺวา อารามํ ปวิสิตพฺพํ ภวิสฺสติ, คมิโก ติโยชนํ คนฺตฺวา เสนาสนํ อาปุจฺฉิสฺสติ, นิสฺสยปฏิปนฺนสฺส ติโยชนาติกฺกเม นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภิสฺสติ, ปาริวาสิเกน ติโยชนํ อติกฺกมิตฺวา อรุณํ อุฏฺาเปตพฺพํ ภวิสฺสติ, ภิกฺขุนิยา ติโยชเน ตฺวา อารามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉิตพฺพํ ภวิสฺสติ, สพฺพมฺเปตํ อุปจารสีมาปริจฺเฉทวเสเนว กตฺตุํ วฏฺฏติ. ตสฺมา อุปจารสีมายเมว ภาเชตพฺพ’’นฺติ.
๒๗๒๙. เย ¶ วิหารา สงฺเฆน กติกาย เอกลาภกา สมานลาภกา เอตฺถ เอเตสุ วิหาเรสุ ทินฺนํ ‘‘กติกาย ทมฺมี’’ติ ทินฺนํ สพฺเพหิ ภิกฺขูหิ สห ภาเชตพฺพํ จีวรํ กติกาย วุจฺจตีติ โยชนา.
อยเมตฺถ วินิจฺฉโย – กติกา นาม สมานลาภกติกา, ตตฺเรวํ กติกา กาตพฺพา – เอกสฺมึ วิหาเร สนฺนิปติเตหิ ภิกฺขูหิ ยํ วิหารํ สงฺคณฺหิตุกามา สมานลาภํ กาตุํ อิจฺฉนฺติ, อสฺส นามํ คเหตฺวา ‘‘อสุโก นาม วิหาโร โปราณโก’’ติ วา ‘‘พุทฺธาธิวุตฺโถ’’ติ วา ‘‘อปฺปลาโภ’’ติ วา ยํ กิฺจิ การณํ วตฺวา ‘‘ตํ วิหารํ อิมินา วิหาเรน สทฺธึ เอกลาภํ กาตุํ สงฺฆสฺส รุจฺจตี’’ติ ติกฺขตฺตุํ สาเวตพฺพํ. เอตฺตาวตา ตสฺมึ วิหาเร นิสินฺโนปิ อิธ นิสินฺโนว โหติ. ตสฺมึ วิหาเรปิ สงฺเฆน เอวเมว กาตพฺพํ. เอตฺตาวตา อิธ ¶ นิสินฺโนปิ ตสฺมึ วิหาเร นิสินฺโนว โหติ. เอกสฺมึ ลาเภ ภาชิยมาเน อิตรสฺมึ ิตสฺส ภาคํ คเหตุํ วฏฺฏติ. เอวํ เอเกน วิหาเรน สทฺธึ พหูปิ อาวาสา เอกลาภา กาตพฺพาติ.
๒๗๓๐. จีวรทายเกน ธุวการา ปากวตฺตาทินิจฺจสกฺการา ยตฺถ สงฺฆสฺส กฺรียนฺติ กรียนฺติ ตตฺถ ตสฺมึ วิหาเร เตเนว ทายเกน สงฺฆสฺส ทินฺนํ วิหารํ ‘‘ภิกฺขาปฺตฺติยา ทินฺน’’นฺติ มเหสินา วุตฺตนฺติ โยชนา.
ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – ยสฺมึ วิหาเร อิมสฺส จีวรทายกสฺส สนฺตกํ สงฺฆสฺส ปากวตฺตํ วา วตฺตติ, ยสฺมึ วา วิหาเร ภิกฺขู อตฺตโน ภารํ กตฺวา สทา เคเห โภเชติ, ยตฺถ วา เตน อาวาโส การิโต, สลากภตฺตาทีนิ วา นิพทฺธานิ, เยน ปน สกโลปิ วิหาโร ¶ ปติฏฺาปิโต, ตตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ, อิเม ธุวการา นาม. ตสฺมา สเจ โส ‘‘ยตฺถ มยฺหํ ธุวการา กรียนฺติ, เอตฺถ ทมฺมี’’ติ วา ‘‘ตตฺถ เทถา’’ติ วา ภณติ, พหูสุ เจปิ าเนสุ ธุวการา โหนฺติ, สพฺพตฺถ ทินฺนเมว โหติ.
สเจ ปน เอกสฺมึ วิหาเร ภิกฺขู พหุตรา โหนฺติ, เตหิ วตฺตพฺพํ ‘‘ตุมฺหากํ ธุวกาเร เอกตฺถ ภิกฺขู พหู, เอกตฺถ อปฺปกา’’ติ, สเจ ‘‘ภิกฺขุคณนาย คณฺหถา’’ติ ภณติ, ตถา ภาเชตฺวา คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. เอตฺถ จ วตฺถเภสชฺชาทิ อปฺปกมฺปิ สุเขน ภาชียติ, ยทิ ปน มฺโจ วา ปีกํ วา เอกเมว โหติ, ตํ ปุจฺฉิตฺวา ยสฺส วา วิหารสฺส เอกวิหาเรปิ วา ยสฺส เสนาสนสฺส โส วิจาเรติ, ตตฺถ ทาตพฺพํ. สเจ ‘‘อสุกภิกฺขุ คณฺหตู’’ติ วทติ, วฏฺฏติ.
อถ ‘‘มยฺหํ ธุวกาเร เทถา’’ติ วตฺวา อวิจาเรตฺวาว คจฺฉติ, สงฺฆสฺสปิ วิจาเรตุํ วฏฺฏติ. เอวํ ปน วิจาเรตพฺพํ – ‘‘สงฺฆตฺเถรสฺส วสนฏฺาเน เทถา’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ ตตฺถ เสนาสนํ ปริปุณฺณํ โหติ. ยตฺถ นปฺปโหติ, ตตฺถ ทาตพฺพํ. สเจ เอโก ภิกฺขุ ‘‘มยฺหํ วสนฏฺาเน เสนาสนปริโภคภณฺฑํ นตฺถี’’ติ วทติ, ตตฺถ ทาตพฺพนฺติ.
๒๗๓๑. สงฺฆสฺส ปน ยํ ทินฺนนฺติ วิหารํ ปวิสิตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ ยํ จีวรํ ทินฺนํ. ‘‘สมฺมุขีภูเตนา’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺเธน รสฺสตฺตํ. สมฺมุขิภูเตนาติ จ ¶ อุปจารสีมาย ิเตน. ภาเชตพฺพนฺติ ฆณฺฏึ ปหริตฺวา กาลํ โฆเสตฺวา ภาเชตพฺพํ. อิทเมตฺถ มุขมตฺตทสฺสนํ. วินิจฺฉโย อฏฺกถาย (มหาว. อฏฺ. ๓๗๙) เวทิตพฺโพ. เสยฺยถิทํ – จีวรทายเกน ¶ วิหารํ ปวิสิตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ ทินฺเนสุ ภาชิยมาเนสุ สีมฏฺสฺส อสมฺปตฺตสฺสปิ ภาคํ คณฺหนฺโต น วาเรตพฺโพ. วิหาโร มหา โหติ, เถราสนโต ปฏฺาย วตฺเถสุ ทิยฺยมาเนสุ อลสชาติกา มหาเถรา ปจฺฉา อาคจฺฉนฺติ, ‘‘ภนฺเต, วีสติวสฺสานํ ทิยฺยติ, ตุมฺหากํ ิติกา อติกฺกนฺตา’’ติ น วตฺตพฺพา, ิติกํ เปตฺวา เตสํ ทตฺวา ปจฺฉา ิติกาย ทาตพฺพํ.
‘‘อสุกวิหาเร กิร พหุํ จีวรํ อุปฺปนฺน’’นฺติ สุตฺวา โยชนนฺตริกวิหารโตปิ ภิกฺขู อาคจฺฉนฺติ, สมฺปตฺตสมฺปตฺตานํ ิตฏฺานโต ปฏฺาย ทาตพฺพํ. อสมฺปตฺตานมฺปิ อุปจารสีมํ ปวิฏฺานํ อนฺเตวาสิกาทีสุ คณฺหนฺเตสุ ทาตพฺพเมว. ‘‘พหิ อุปจารสีมาย ิตานํ เทถา’’ติ วทนฺติ, น ทาตพฺพํ. สเจ ปน อุปจารสีมํ โอกฺกนฺเตหิ เอกาพทฺธา หุตฺวา อตฺตโน วิหารทฺวาเร วา อนฺโตวิหาเรเยว วา โหนฺติ, ปริสวเสน วฑฺฒิตา นาม สีมา โหติ, ตสฺมา ทาตพฺพํ. สงฺฆนวกสฺส ทินฺเนปิ ปจฺฉา อาคตานํ ทาตพฺพเมว. ทุติยภาเค ปน เถราสนํ อารุฬฺเห อาคตานํ ปมภาโค น ปาปุณาติ, ทุติยภาคโต วสฺสคฺเคน ทาตพฺพํ.
เอกสฺมึ วิหาเร ทส ภิกฺขู โหนฺติ, ทส วตฺถานิ ‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ เทนฺติ, ปาเฏกฺกํ ภาเชตพฺพานิ. สเจ ‘‘สพฺพาเนว อมฺหากํ ปาปุณนฺตี’’ติ คเหตฺวา คจฺฉนฺติ, ทุปฺปาปิตานิ เจว ทุคฺคหิตานิ จ, คตคตฏฺาเน สงฺฆิกาเนว โหนฺติ. เอกํ ปน อุทฺธริตฺวา ‘‘อิทํ ตุมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ สงฺฆตฺเถรสฺส ทตฺวา เสสานิ ‘‘อิมานิ อมฺหากํ ปาปุณนฺตี’’ติ คเหตุํ วฏฺฏติ.
เอกเมว วตฺถํ ‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ อาหรนฺติ, อภาเชตฺวาว ‘‘อมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ คณฺหนฺติ, ทุปฺปาปิตฺเจว ทุคฺคหิตฺจ, สตฺถเกน, ปน หลิทฺทิอาทินา วา เลขํ กตฺวา เอกํ ¶ โกฏฺาสํ ‘‘อิมํ านํ ตุมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ สงฺฆตฺเถรสฺส ปาเปตฺวา เสสํ ‘‘อมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ คเหตุํ วฏฺฏติ. ยํ ปน วตฺถสฺเสว ปุปฺผํ วา วลิ วา, เตน ปริจฺเฉทํ กาตุํ น วฏฺฏติ. สเจ เอกํ ตนฺตํ อุทฺธริตฺวา ‘‘อิทํ านํ ตุมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ สงฺฆตฺเถรสฺส ทตฺวา เสสํ ‘‘อมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ คณฺหนฺติ, วฏฺฏติ. ขณฺฑํ ขณฺฑํ ฉินฺทิตฺวา ภาชิยมานํ วฏฺฏติเยว.
เอกภิกฺขุเก ¶ วิหาเร สงฺฆสฺส จีวเรสุ อุปฺปนฺเนสุ สเจ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว โส ภิกฺขุ ‘‘สพฺพานิ มยฺหํ ปาปุณนฺตี’’ติ คณฺหาติ, สุคฺคหิตานิ, ิติกา ปน น ติฏฺติ. สเจ เอเกกํ อุทฺธริตฺวา ‘‘อิทํ มยฺหํ ปาปุณาตี’’ติ คณฺหาติ, ิติกา ติฏฺติ. ตตฺถ ิติกาย อฏฺิตาย ปุน อฺสฺมึ จีวเร อุปฺปนฺเน สเจ เอโก ภิกฺขุ อาคจฺฉติ, มชฺเฌ ฉินฺทิตฺวา ทฺวีหิปิ คเหตพฺพํ. ิตาย ิติกาย ปุน อฺสฺมึ จีวเร อุปฺปนฺเน สเจ นวกตโร อาคจฺฉติ, ิติกา เหฏฺา โอโรหติ. สเจ วุฑฺฒตโร อาคจฺฉติ, ิติกา อุทฺธํ อาโรหติ. อถ อฺโ นตฺถิ, ปุน อตฺตโน ปาเปตฺวา คเหตพฺพํ.
‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ วา ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส เทมา’’ติ วา เยน เกนจิ อากาเรน สงฺฆํ อามสิตฺวา ทินฺนํ ปน ปํสุกูลิกานํ น วฏฺฏติ ‘‘คหปติจีวรํ ปฏิกฺขิปามิ, ปํสุกูลิกงฺคํ สมาทิยามี’’ติ วุตฺตตฺตา, น ปน อกปฺปิยตฺตา. ภิกฺขุสงฺเฆน อปโลเกตฺวา ทินฺนมฺปิ น คเหตพฺพํ. ยํ ปน ภิกฺขุ อตฺตโน สนฺตกํ เทติ, ตํ ภิกฺขุทตฺติยํ นาม วฏฺฏติ. ปํสุกูลํ ปน น โหติ. เอวํ สนฺเตปิ ธุตงฺคํ น ภิชฺชติ. ‘‘ภิกฺขูนํ เทม, เถรานํ เทมา’’ติ วุตฺเต ปน ปํสุกูลิกานมฺปิ วฏฺฏติ. ‘‘อิทํ วตฺถํ สงฺฆสฺส เทม, อิมินา อุปาหนตฺถวิกปตฺตตฺถวิกอาโยคอํสพทฺธกาทีนิ ¶ กโรถา’’ติ ทินฺนมฺปิ วฏฺฏติ.
ปตฺตตฺถวิกาทีนํ อตฺถาย ทินฺนานิ พหูนิปิ โหนฺติ, จีวรตฺถายปิ ปโหนฺติ, ตโต จีวรํ กตฺวา ปารุปิตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน สงฺโฆ ภาชิตาติริตฺตานิ วตฺถานิ ฉินฺทิตฺวา อุปาหนตฺถวิกาทีนํ อตฺถาย ภาเชติ, ตโต คเหตุํ น วฏฺฏติ. สามิเกหิ วิจาริตเมว หิ วฏฺฏติ, น อิตรํ.
‘‘ปํสุกูลิกสงฺฆสฺส ธมฺมกรณอํสพทฺธาทีนํ อตฺถาย เทมา’’ติ วุตฺเตปิ คเหตุํ วฏฺฏติ. ปริกฺขาโร นาม ปํสุกูลิกานมฺปิ อิจฺฉิตพฺโพ. ยํ ตตฺถ อติเรกํ โหติ, ตํ จีวเรปิ อุปเนตุํ วฏฺฏติ. สุตฺตํ สงฺฆสฺส เทนฺติ, ปํสุกูลิเกหิปิ คเหตพฺพํ. อยํ ตาว วิหารํ ปวิสิตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ ทินฺเนสุ วินิจฺฉโย.
สเจ ปน พหิ อุปจารสีมาย อทฺธานปฏิปนฺเน ภิกฺขู ทิสฺวา ‘‘สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ สงฺฆตฺเถรสฺส วา สงฺฆนวกสฺส วา อาโรเจติ, สเจปิ โยชนํ ผริตฺวา ปริสา ิตา โหติ, เอกาพทฺธา ¶ เจ, สพฺเพสํ ปาปุณาติ. เย ปน ทฺวาทสหิ หตฺเถหิ ปริสํ อสมฺปตฺตา, เตสํ น ปาปุณาตีติ.
๒๗๓๒. อิทานิ ‘‘อุภโตสงฺเฆ เทตี’’ติ มาติกํ วิวรนฺโต อาห ‘‘อุภโตสงฺฆมุทฺทิสฺสา’’ติอาทิ. อุภโตสงฺฆมุทฺทิสฺสาติ ภิกฺขุสงฺฆํ, ภิกฺขุนิสงฺฆฺจ อุทฺทิสิตฺวา. เทตีติ ‘‘อุภโตสงฺฆสฺส เทมี’’ติ เทติ. ‘‘พหุ วา’’ติ เอตฺถ ‘‘พหู วา’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน รสฺสตฺตํ. ภิกฺขุนีนํ ภิกฺขู โถกา วา โหนฺตุ พหู วา, ปุคฺคลคฺเคน อกตฺวา อุภโตสงฺฆวเสน สมภาโคว กาตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา.
ตตฺรายํ ¶ วินิจฺฉโย – ‘‘อุภโตสงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วุตฺเตปิ ‘‘ทฺเวธาสงฺฆสฺส ทมฺมิ, ทฺวินฺนํ สงฺฆานํ ทมฺมิ, ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส จ ทมฺมี’’ติ วุตฺเตปิ อุภโตสงฺฆสฺส ทินฺนเมว โหติ, ทฺเว ภาเค สเม กตฺวา เอโก ทาตพฺโพ.
‘‘อุภโตสงฺฆสฺส จ ตุยฺหฺจ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต สเจ ทส ทส ภิกฺขู, ภิกฺขุนิโย จ โหนฺติ, เอกวีสติ ปฏิวีเส กตฺวา เอโก ปุคฺคลสฺส ทาตพฺโพ, ทส ภิกฺขุสงฺฆสฺส, ทส ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส. เยน ปุคฺคลิโก ลทฺโธ, โส สงฺฆโตปิ อตฺตโน วสฺสคฺเคน คเหตุํ ลภติ. กสฺมา? อุภโตสงฺฆคฺคหเณน คหิตตฺตา.
‘‘อุภโตสงฺฆสฺส จ เจติยสฺส จ ทมฺมี’’ติ วุตฺเตปิ เอเสว นโย. อิธ ปน เจติยสฺส สงฺฆโต ปาปุณนโกฏฺาโส นาม นตฺถิ, เอกปุคฺคลสฺส ปตฺตโกฏฺาสสโมว โกฏฺาโส โหติ.
‘‘อุภโตสงฺฆสฺส จ ตุยฺหฺจ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเต ปน ทฺวาวีสติ โกฏฺาเส กตฺวา ทส ภิกฺขูนํ, ทส ภิกฺขุนีนํ, เอโก ปุคฺคลสฺส, เอโก เจติยสฺส ทาตพฺโพ. ตตฺถ ปุคฺคโล สงฺฆโตปิ อตฺตโน วสฺสคฺเคน ปุน คเหตุํ ลภติ. เจติยสฺส เอโกเยว.
‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ภิกฺขุนีนฺจ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ปน มชฺเฌ ภินฺทิตฺวา น ทาตพฺพํ, ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จ คเณตฺวา ทาตพฺพํ.
‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส ¶ จ ภิกฺขุนีนฺจ ตุยฺหฺจา’’ติ วุตฺเต ปน ปุคฺคโล วิสุํ ¶ น ลภติ, ปาปุณนฏฺานโต เอกเมว ลภติ. กสฺมา? ภิกฺขุสงฺฆคฺคหเณน คหิตตฺตา.
‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ภิกฺขุนีนฺจ ตุยฺหฺจ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเตปิ เจติยสฺส เอกปุคฺคลปฏิวีโส ลพฺภติ, ปุคฺคลสฺส วิสุํ น ลพฺภติ. ตสฺมา เอกํ เจติยสฺส ทตฺวา อวเสสํ ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จ คเณตฺวา ภาเชตพฺพํ.
‘‘ภิกฺขูนฺจ ภิกฺขุนีนฺจ ทมฺมี’’ติ วุตฺเตปิ น มชฺเฌ ภินฺทิตฺวา ทาตพฺพํ, ปุคฺคลคณนาย เอว วิภชิตพฺพํ.
‘‘ภิกฺขูนฺจ ภิกฺขุนีนฺจ ตุยฺหฺจ เจติยสฺส จา’’ติ เอวํ วุตฺเตปิ เจติยสฺส เอกปุคฺคลปฏิวีโส ลพฺภติ, ปุคฺคลสฺส วิสุํ นตฺถิ, ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จ คเณตฺวา เอว ภาเชตพฺพํ. ยถา จ ภิกฺขุสงฺฆํ อาทึ กตฺวา นโย นีโต, เอวํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ อาทึ กตฺวาปิ เนตพฺโพ.
‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ตุยฺหฺจา’’ติ วุตฺเต ปุคฺคลสฺส วิสุํ น ลพฺภติ, วสฺสคฺเคเนว คเหตพฺพํ.
‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเต ปน เจติยสฺส วิสุํ ปฏิวีโส ลพฺภติ.
‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ตุยฺหฺจ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเตปิ เจติยสฺเสว ลพฺภติ, น ปุคฺคลสฺส.
‘‘ภิกฺขูนฺจ ตุยฺหฺจา’’ติ วุตฺเตปิ วิสุํ น ลพฺภติ.
‘‘ภิกฺขูนฺจ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเต ปน เจติยสฺส ลพฺภติ.
‘‘ภิกฺขูนฺจ ¶ ตุยฺหฺจ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเตปิ เจติยสฺเสว วิสุํ ลพฺภติ, น ปุคฺคลสฺส. ภิกฺขุนิสงฺฆํ อาทึ กตฺวาปิ เอวเมว โยเชตพฺพํ.
ปุพฺเพ พุทฺธปฺปมุขสฺส อุภโตสงฺฆสฺส ทานํ เทนฺติ, ภควา มชฺเฌ นิสีทติ, ทกฺขิณโต ภิกฺขู, วามโต ภิกฺขุนิโย นิสีทนฺติ, ภควา อุภินฺนํ สงฺฆตฺเถโร, ตทา ภควา อตฺตโน ลทฺธปจฺจเย อตฺตนาปิ ปริภฺุชติ, ภิกฺขูนมฺปิ ทาเปติ. เอตรหิ ปน ปณฺฑิตมนุสฺสา สธาตุกํ ปฏิมํ วา เจติยํ วา เปตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส อุภโตสงฺฆสฺส ทานํ เทนฺติ, ปฏิมาย วา ¶ เจติยสฺส วา ปุรโต อาธารเก ปตฺตํ เปตฺวา ทกฺขิโณทกํ ทตฺวา ‘‘พุทฺธานํ เทมา’’ติ ตตฺถ ยํ ปมํ ขาทนียํ โภชนียํ เทนฺติ, วิหารํ วา อาหริตฺวา ‘‘อิทํ เจติยสฺส เทมา’’ติ ปิณฺฑปาตฺจ มาลาคนฺธาทีนิ จ เทนฺติ, ตตฺถ กถํ ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ? มาลาคนฺธาทีนิ ตาว เจติเย อาโรเปตพฺพานิ, วตฺเถหิ ปฏากา, เตเลน ปทีปา กาตพฺพา. ปิณฺฑปาตมธุผาณิตาทีนิ ปน โย นิพทฺธํ เจติยสฺส ชคฺคโก โหติ ปพฺพชิโต วา คหฏฺโ วา, ตสฺส ทาตพฺพานิ. นิพทฺธชคฺคเก อสติ อาหฏปตฺตํ เปตฺวา วตฺตํ กตฺวา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. อุปกฏฺเ กาเล ภฺุชิตฺวา ปจฺฉาปิ วตฺตํ กาตุํ วฏฺฏติเยว.
มาลาคนฺธาทีสุ จ ยํ กิฺจิ ‘‘อิทํ หริตฺวา เจติยสฺส ปูชํ กโรถา’’ติ วุตฺเต ทูรมฺปิ หริตฺวา ปูเชตพฺพํ. ‘‘ภิกฺขํ สงฺฆสฺส หรา’’ติ วุตฺเตปิ หริตพฺพํ. สเจ ปน ‘‘อหํ ปิณฺฑาย จรามิ, อาสนสาลาย ภิกฺขู อตฺถิ, เต หริสฺสนฺตี’’ติ วุตฺเต ‘‘ภนฺเต, ตุยฺหํเยว ทมฺมี’’ติ วทติ, ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. อถ ปน ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทสฺสามี’’ติ หรนฺตสฺส คจฺฉโต อนฺตราว กาโล อุปกฏฺโ โหติ, อตฺตโน ปาเปตฺวา ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ.
๒๗๓๓. ยํ ปน จีวรํ ‘‘ยสฺมึ อาวาเส วสฺสํวุตฺถสฺส สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ เทติ, ตสฺมึเยว อาวาเส วุตฺถวสฺเสน สงฺเฆน วา คเณน วา ปุคฺคเลน วา ตํ จีวรํ ภาเชตพฺพนฺติ วณฺณิตํ เทสิตนฺติ โยชนา.
ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – วิหารํ ปวิสิตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ วสฺสํวุตฺถสงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ เทติ, ยาวติกา ภิกฺขู ตสฺมึ อาวาเส วสฺสํวุตฺถา, ยตฺตกา วสฺสจฺเฉทํ อกตฺวา ปุริมวสฺสํวุตฺถา, เตหิ ภาเชตพฺพํ, อฺเสํ น ปาปุณาติ. ทิสาปกฺกนฺตสฺสาปิ ¶ สติ คาหเก ¶ ยาว กถินสฺส อุพฺภารา ทาตพฺพํ. อนตฺถเต ปน กถิเน อนฺโตเหมนฺเต เอวฺจ วตฺวา ทินฺนํ ปจฺฉิมวสฺสํวุตฺถานมฺปิ ปาปุณาตีติ ลกฺขณฺู วทนฺติ. อฏฺกถาสุ ปเนตํ อวิจาริตํ.
สเจ ปน พหิ อุปจารสีมายํ ิโต ‘‘วสฺสํวุตฺถสงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วทติ, สมฺปตฺตานํ สพฺเพสํ ปาปุณาติ. อถ ‘‘อสุกวิหาเร วสฺสํวุตฺถสงฺฆสฺสา’’ติ วทติ, ตตฺร วสฺสํวุตฺถานเมว ยาว กถินสฺสุพฺภารา ปาปุณาติ. สเจ ปน คิมฺหานํ ปมทิวสโต ปฏฺาย เอวํ วทติ, ตตฺร สมฺมุขีภูตานํเยว สพฺเพสํ ปาปุณาติ. กสฺมา? ปิฏฺิสมเย อุปฺปนฺนตฺตา. อนฺโตวสฺเสเยว ‘‘วสฺสํ วสนฺตานํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ฉินฺนวสฺสา น ลภนฺติ, วสฺสํ วสนฺตาว ลภนฺติ. จีวรมาเส ปน ‘‘วสฺสํ วสนฺตานํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ปจฺฉิมิกาย วสฺสูปคตานํเยว ปาปุณาติ, ปุริมิกาย วสฺสูปคตานฺจ ฉินฺนวสฺสานฺจ น ปาปุณาติ.
จีวรมาสโต ปฏฺาย ยาว เหมนฺตสฺส ปจฺฉิโม ทิวโส, ตาว ‘‘วสฺสาวาสิกํ เทมา’’ติ วุตฺเต กถินํ อตฺถตํ วา โหตุ อนตฺถตํ วา, อตีตวสฺสํวุตฺถานเมว ปาปุณาติ. คิมฺหานํ ปมทิวสโต ปฏฺาย วุตฺเต ปน มาติกา อาโรเปตพฺพา ‘‘อตีตวสฺสาวาสสฺส ปฺจ มาสา อภิกฺกนฺตา, อนาคเต จาตุมาสจฺจเยน ภวิสฺสติ, กตรวสฺสาวาสสฺส เทสี’’ติ. สเจ ‘‘อตีตวสฺสํวุตฺถานํ ทมฺมี’’ติ วทติ, ตํ อนฺโตวสฺสํ วุตฺถานเมว ปาปุณาติ. ทิสาปกฺกนฺตานมฺปิ สภาคา คณฺหิตุํ ลภนฺติ.
สเจ ‘‘อนาคเต วสฺสาวาสิกํ ทมฺมี’’ติ วทติ, ตํ เปตฺวา วสฺสูปนายิกทิวเส คเหตพฺพํ. อถ ‘‘อคุตฺโต วิหาโร, โจรภยํ อตฺถิ, น สกฺกา เปตุํ, คณฺหิตฺวา วา อาหิณฺฑิตุ’’นฺติ ¶ วุตฺเต ‘‘สมฺปตฺตานํ ทมฺมี’’ติ วทติ, ภาเชตฺวา คเหตพฺพํ. สเจ วทติ ‘‘อิโต เม, ภนฺเต, ตติเย วสฺเส วสฺสาวาสิกํ น ทินฺนํ, ตํ ทมฺมี’’ติ, ตสฺมึ อนฺโตวสฺเส วุตฺถภิกฺขูนํ ปาปุณาติ. สเจ เต ทิสาปกฺกนฺตา, อฺโ วิสฺสาสิโก คณฺหาติ, ทาตพฺพํ. อถ เอโกเยว อวสิฏฺโ, เสสา กาลกตา, สพฺพํ เอกสฺเสว ปาปุณาติ. สเจ เอโกปิ นตฺถิ, สงฺฆิกํ โหติ, สมฺมุขีภูเตหิ ภาเชตพฺพนฺติ.
๒๗๓๔. ยาคุยา ปน ปีตาย วา ภตฺเต วา ภุตฺเต สเจ ปน อาทิสฺส ‘‘เยน เม ยาคุ ปีตา, ตสฺส ทมฺมิ, เยน เม ภตฺตํ ภุตฺตํ, ตสฺส ทมฺมี’’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา จีวรํ เทติ, วินยธเรน ¶ ตตฺถ ตตฺเถว ทานํ ทาตพฺพนฺติ โยชนา. เอส นโย ขาทนียจีวรเสนาสนเภสชฺชาทีสุ.
ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – ภิกฺขู อชฺชตนาย วา สฺวาตนาย วา ยาคุยา นิมนฺเตตฺวา เตสํ ฆรํ ปวิฏฺานํ ยาคุํ เทติ, ยาคุํ ทตฺวา ปีตาย ยาคุยา ‘‘อิมานิ จีวรานิ เยหิ มยฺหํ ยาคุ ปีตา, เตสํ ทมฺมี’’ติ เทติ, เยหิ นิมนฺติเตหิ ยาคุ ปีตา, เตสํเยว ปาปุณนฺติ, เยหิ ปน ภิกฺขาจารวตฺเตน ฆรทฺวาเรน คจฺฉนฺเตหิ วา ฆรํ ปวิฏฺเหิ วา ยาคุ ลทฺธา, เยสํ วา อาสนสาลโต ปตฺตํ อาหริตฺวา มนุสฺเสหิ นีตา, เย วา เถเรหิ เปสิตา, เตสํ น ปาปุณนฺติ.
สเจ ปน นิมนฺติตภิกฺขูหิ สทฺธึ อฺเปิ พหู อาคนฺตฺวา อนฺโตเคหฺจ พหิเคหฺจ ปูเรตฺวา นิสินฺนา, ทายโก จ เอวํ วทติ ‘‘นิมนฺติตา วา โหนฺตุ อนิมนฺติตา วา, เยสํ มยา ยาคุ ทินฺนา, สพฺเพสํ อิมานิ วตฺถานิ โหนฺตู’’ติ, สพฺเพสํ ปาปุณนฺติ. เยหิ ปน เถรานํ หตฺถโต ยาคุ ¶ ลทฺธา, เตสํ น ปาปุณนฺติ. อถ โส ‘‘เยหิ มยฺหํ ยาคุ ปีตา, สพฺเพสํ โหนฺตู’’ติ วทติ, สพฺเพสํ ปาปุณนฺติ. ภตฺตขาทนีเยสุปิ เอเสว นโย.
จีวเร วาติ ปุพฺเพปิ เยน วสฺสํ วาเสตฺวา ภิกฺขูนํ จีวรํ ทินฺนปุพฺพํ โหติ, โส เจ ภิกฺขู โภเชตฺวา วทติ ‘‘เยสํ มยา ปุพฺเพ จีวรํ ทินฺนํ, เตสํเยว อิมํ จีวรํ วา สุตฺตํ วา สปฺปิมธุผาณิตาทีนิ วา โหนฺตู’’ติ, สพฺพํ เตสํเยว ปาปุณาติ.
เสนาสเน วาติ ‘‘โย มยา การิเต วิหาเร วา ปริเวเณ วา วสติ, ตสฺสิทํ โหตู’’ติ วุตฺเต ตสฺเสว โหติ.
เภสชฺเช วาติ ‘‘มยํ กาเลน กาลํ เถรานํ สปฺปิอาทีนิ เภสชฺชานิ เทม, เยหิ ตานิ ลทฺธานิ, เตสํเยวิทํ โหตู’’ติ วุตฺเต เตสํเยว โหตีติ.
๒๗๓๕. ทียเตติ ทานนฺติ กมฺมสาธเนน จีวรํ วุจฺจติ. ยํ-สทฺเทน จีวรสฺส ปรามฏฺตฺตา ตํ-สทฺเทนาปิ ตเทว ปรามสิตพฺพนฺติ.
ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – ‘‘อิมํ ¶ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’’ติ เอวํ ปรมฺมุขา วา ‘‘อิทํ เม, ภนฺเต, ตุมฺหากํ ทมฺมี’’ติ เอวํ สมฺมุขา วา ปาทมูเล เปตฺวา วา เทติ, ตํ ตสฺเสว โหติ. สเจ ปน ‘‘อิทํ ตุมฺหากฺจ ตุมฺหากํ อนฺเตวาสิกานฺจ ทมฺมี’’ติ เอวํ วทติ, เถรสฺส จ อนฺเตวาสิกานฺจ ปาปุณาติ. อุทฺเทสํ คเหตุํ อาคโต คเหตฺวา คจฺฉนฺโต จ อตฺถิ, ตสฺสาปิ ปาปุณาติ. ‘‘ตุมฺเหหิ สทฺธึ นิพทฺธจาริกภิกฺขูนํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต อุทฺเทสนฺเตวาสิกานํ วตฺตํ กตฺวา อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีนิ คเหตฺวา วิจรนฺตานํ สพฺเพสํ ปาปุณาตีติ.
๒๗๓๗. วทติจฺเจวเมว ¶ เจติ อิจฺเจวํ ยถาวุตฺตนเยน วทติ เจ. ตนฺติ ตํ ปริกฺขารํ. เตสนฺติ มาตุอาทีนํ. สงฺฆสฺเสว สนฺตกํ โหตีติ โยชนา.
๒๗๓๘. ‘‘ปฺจนฺนํ…เป… โหตี’’ติ อิมินา ปุริมคาถาทฺวเยน วิตฺถาริตเมวตฺถํ สํขิปิตฺวา ทสฺเสติ. ปฺจนฺนํ สหธมฺมิกานํ. อจฺจเยติ กาลกิริยาย. ทานนฺติ ‘‘มยิ กาลกเต อิมํ ปริกฺขารํ ตุยฺหํ โหตุ, ตว สนฺตกํ กโรหี’’ติอาทินา ปริจฺจชนํ. กิฺจิปีติ อนฺตมโส ทนฺตกฏฺมฺปิ. คิหีนํ ปน ทานํ ตถา ทายกานํ คิหีนเมว อจฺจเย รูหตีติ โยชนา.
๒๗๓๙. ภิกฺขุ วา สามเณโร วา ภิกฺขุนิอุปสฺสเย กาลํ กโรติ, อสฺส ภิกฺขุสฺส วา สามเณรสฺส วา ปริกฺขารา ภิกฺขูนํเยว สนฺตกา ภิกฺขุสงฺฆสฺเสว สนฺตกาติ โยชนา. ภิกฺขุสงฺฆสฺเสว สนฺตกา กาลกตสฺส ภิกฺขุสงฺฆปริยาปนฺนตฺตา.
๒๗๔๐. สามเณรี วาติ เอตฺถ วา-สทฺเทน ‘‘สิกฺขมานา วา’’ติ อิทํ สงฺคณฺหาติ. วิหารสฺมึ ภิกฺขูนํ นิวาสนฏฺาเน. ตสฺสาติ ภิกฺขุนิยา วา สามเณริยา วา สิกฺขมานาย วา ปริกฺขารา ภิกฺขุนีนํ สนฺตกา โหนฺตีติ โยชนา. สนฺตกาติ เอตฺถาปิ ภิกฺขูสุ วุตฺตนเยเนวตฺโถ คเหตพฺโพ.
๒๗๔๑. เทหิ เนตฺวาติ เอตฺถ ‘‘อิมํ จีวร’’นฺติ ปกรณโต ลพฺภติ. ‘‘อิมํ จีวรํ เนตฺวา อสุกสฺส เทหี’’ติ ยํ จีวรํ ทินฺนํ, ตํ ตสฺส ปุริมสฺเสว สนฺตกํ โหติ. ‘‘อิทํ จีวรํ ¶ อสุกสฺส ทมฺมี’’ติ ยํ จีวรํ ทินฺนํ, ตํ ยสฺส ปหิยฺยติ, ตสฺส ปจฺฉิมสฺเสว สนฺตกํ โหตีติ โยชนา.
๒๗๔๒. ยถาวุตฺตวจนปฺปการานุรูเปน ¶ สามิเก ตฺวา สามิเกสุ วิสฺสาเสน วา เตสุ มเตสุ มตกจีวรมฺปิ คณฺหิตุํ วฏฺฏตีติ ทสฺเสตุํ อาห ‘‘เอว’’นฺติอาทิ. ‘‘มตสฺส วา อมตสฺส วา’’ติ ปทจฺเฉโท. วิสฺสาสํ วาปิ คณฺเหยฺยาติ ชีวนฺตสฺส สนฺตกํ วิสฺสาสคฺคาหํ คณฺเหยฺย. คณฺเห มตกจีวรนฺติ มตสฺส จีวรํ มตกปริกฺขารนีหาเรน ปาเปตฺวา คณฺเหยฺย.
๒๗๔๓. รชเต อเนนาติ รชนนฺติ มูลาทิสพฺพมาห. วนฺตโทเสนาติ สวาสนสมุจฺฉินฺนราคาทิโทเสน. ตาทินาติ รูปาทีสุ ฉฬารมฺมเณสุ ราคาทีนํ อนุปฺปตฺติยา อฏฺสุ โลกธมฺเมสุ นิพฺพิการตาย เอกสทิเสน.
๒๗๔๔-๕. ‘‘มูเล’’ติอาทีสุ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. มูลรชเน หลิทฺทึ เปตฺวา สพฺพํ มูลรชนํ วฏฺฏติ. ขนฺเธสุ รชเนสุ มฺเชฏฺฺจ ตุงฺคหารกฺจ เปตฺวา สพฺพํ ขนฺธรชนํ วฏฺฏติ. ปตฺเตสุ รชเนสุ อลฺลิยา ปตฺตํ ตถา นีลิยา ปตฺตฺจ เปตฺวา สพฺพํ ปตฺตรชนํ วฏฺฏติ. ปุปฺผรชเนสุ กุสุมฺภฺจ กึสุกฺจ เปตฺวา สพฺพํ ปุปฺผรชนํ วฏฺฏติ. ตจรชเน โลทฺทฺจ กณฺฑุลฺจ เปตฺวา สพฺพํ ตจรชนํ วฏฺฏติ. ผลรชนํ สพฺพมฺปิ วฏฺฏตีติ โยชนา.
มฺเชฏฺนฺติ เอโก สกณฺฏกรุกฺโข, วลฺลิวิเสโส จ, ยสฺส รชนํ มฺเชฏฺพีชวณฺณํ โหติ. มฺเชฏฺรุกฺขสฺส ขนฺโธ เสตวณฺโณติ โส อิธ น คเหตพฺโพ รชนาธิการตฺตา. ตุงฺคหารโก นาม เอโก สกณฺฏกรุกฺโข, ยสฺส รชนํ หริตาลวณฺณํ โหติ. อลฺลีติ จุลฺลตาปิฺฉรุกฺโข, ยสฺส ปณฺณรชนํ หลิทฺทิวณฺณํ โหติ. นีลีติ คจฺฉวิเสโส, ยสฺส ปน รชนํ นีลวณฺณํ โหติ. กึสุกํ นาม วลฺลิกึสุกปุปฺผํ, ยสฺส รชนํ โลหิตวณฺณํ โหติ.
๒๗๔๖. กิลิฏฺสาฏกนฺติ ¶ มลีนสาฏกํ. โธวิตุนฺติ เอกวารํ โธวิตุํ. อลฺลิยา โธตํ กิร สมฺมเทว รชนํ ปฏิคฺคณฺหาติ.
๒๗๔๗. จีวรานํ ¶ กถา เสสาติ เภทการณปฺปการกถาทิกา อิธ อวุตฺตกถา. ปเม กถิเน วุตฺตาติ เสโส. วิภาวินาติ ขนฺธกภาณเกน.
จีวรกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.
อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย
มหาวคฺควินิจฺฉยวณฺณนา นิฏฺิตา.