📜
ขุทฺทกวตฺถุกฺขนฺธกกถาวณฺณนา
๒๗๘๓. กุฏฺเฏติ อิฏฺกาสิลาทารุกุฏฺฏานํ อฺตรสฺมึ. อฏฺฏาเนติ เอตฺถ อฏฺฏานํ นาม รุกฺเข ผลกํ วิย ตจฺเฉตฺวา อฏฺปทากาเรน ราชิโย ฉินฺทิตฺวา นหานติตฺเถ นิขณนฺติ, ตตฺถ จุณฺณานิ อากิริตฺวา มนุสฺสา กายํ ฆํสนฺติ.
๒๗๘๔. คนฺธพฺพหตฺเถนาติ นหานติตฺเถ ปิเตน ทารุมยหตฺเถน. เตน กิร จุณฺณานิ คเหตฺวา มนุสฺสา สรีรํ ฆํสนฺติ. กุรุวินฺทกสุตฺติยาติ กุรุวินฺทกปาสาณจุณฺณานิ ลาขาย พนฺธิตฺวา กตคุฬิกกลาปโก วุจฺจติ, ตํ อุโภสุ อนฺเตสุ คเหตฺวา สรีรํ ฆํสนฺติ. มลฺลเกนาติ มกรทนฺตกํ ฉินฺทิตฺวา มลฺลกมูลสณฺาเนน กเตน มลฺลเกน, อิทํ คิลานสฺสาปิ น วฏฺฏติ. อฺมฺฺจ กายโตติ อฺมฺํ สรีเรน ฆํเสยฺย.
๒๗๘๕. อกตํ มลฺลกํ นาม มกรทนฺเต อจฺฉินฺทิตฺวา กตํ, อิทํ อคิลานสฺส น วฏฺฏติ.
๒๗๘๖. กปาลิฏฺกขณฺฑานีติ กปาลขณฺฑอิฏฺกขณฺฑานิ. สพฺพสฺสาติ คิลานาคิลานสฺส ¶ สรีเร ฆํสิตฺวา อุพฺพฏฺเฏตุํ วฏฺฏติ. ‘‘ปุถุปาณิก’’นฺติ หตฺถปริกมฺมํ วุจฺจติ, ตสฺมา สพฺพสฺส หตฺเถน ปิฏฺิปริกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. ‘‘วตฺถวฏฺฏี’’ติ อิทํ ปาฬิยํ วุตฺตอุกฺกาสิกสฺส ¶ ปริยายํ, ตสฺมา นหายนฺตสฺส ยสฺส กสฺสจิ นหานสาฏกวฏฺฏิยาปิ ฆํสิตุํ วฏฺฏติ.
๒๗๘๗. เผณกํ นาม สมุทฺทเผณํ. กถลนฺติ กปาลขณฺฑํ. ปาทฆํสเน วุตฺตา อนฺุาตา. กตกํ นาม ปทุมกณฺณิกาการํ ปาทฆํสนตฺถํ กณฺฏเก อุฏฺาเปตฺวา กตํ, เอตํ เนว ปฏิคฺคเหตุํ, น ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ.
๒๗๘๘. ยํ กิฺจิปิ อลงฺการนฺติ หตฺถูปคาทิอลงฺกาเรสุ ยํ กิฺจิ อลงฺการํ.
๒๗๘๙. โอสณฺเยฺยาติ อลงฺการตฺถํ สงฺขโรนฺโต นเมยฺย. หตฺถผณเกนาติ หตฺเถเนว ผณกิจฺจํ กโรนฺตา องฺคุลีหิ โอสณฺเนฺติ. ผณเกนาติ ทนฺตมยาทีสุ เยน เกนจิ. โกจฺเฉนาติ อุสิรมเยน วา มฺุชปพฺพชมเยน วา โกจฺเฉน.
๒๗๙๐. สิตฺถเตโลทเตเลหีติ สิตฺถเตลฺจ อุทกเตลฺจาติ วิคฺคโห, เตหิ. ตตฺถ สิตฺถเตลํ นาม มธุสิตฺถกนิยฺยาสาทิ ยํ กิฺจิ จิกฺกณํ. จิกฺกณํ นาม นิยฺยาสํ. อุทกเตลํ นาม อุทกมิสฺสกํ เตลํ. กตฺถจิ โปตฺถเกสุ ‘‘สิฏฺา’’ติ ปาโ, โสเยวตฺโถ. อนุโลมนิปาตตฺถนฺติ นลาฏาภิมุขํ อนุโลเมน ปาตนตฺถํ. อุทฺธโลเมนาติ อุทฺธคฺคํ หุตฺวา ิตโลเมน.
๒๗๙๑. หตฺถํ เตเลน เตเมตฺวาติ กรตลํ เตเลน มกฺเขตฺวา. สิโรรุหา เกสา. อุณฺหาภิตตฺตสฺสาติ อุณฺหาภิตตฺตรชสิรสฺส. อลฺลหตฺเถน สิโรรุเห ปฺุฉิตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา.
๒๗๙๒. อาทาเส ¶ อุทปตฺเต วาติ เอตฺถ กํสปตฺตาทีนิปิ, เยสุ มุขนิมิตฺตํ ปฺายติ, สพฺพานิ อาทาสสงฺขเมว คจฺฉนฺติ, กฺชิยาทีนิปิ จ อุทปตฺตสงฺขเมว, ตสฺมา ยตฺถ กตฺถจิ โอโลเกนฺตสฺส ทุกฺกฏํ.
๒๗๙๓. เยน ¶ เหตุนา มุขํ โอโลเกนฺตสฺส อนาปตฺติ, ตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สฺฉวิ’’นฺติอาทิ. อาพาธปจฺจยา ‘‘เม มุเข วโณ สฺฉวิ นุ โข, อุทาหุ น สฺฉวี’’ติ มุขํ ทฏฺฺุจ ‘‘อหํ ชิณฺโณ นุ โข, อุทาหุ โน’’ติ อตฺตโน อายุสงฺขารชานนตฺถฺจ มุขํ ทฏฺุํ วฏฺฏตีติ โยชนา.
๒๗๙๔. นจฺจํ วาติ ยํ กิฺจิ นจฺจํ อนฺตมโส โมรนจฺจมฺปิ. คีตนฺติ ยํ กิฺจิ นฏคีตํ วา สาธุคีตํ วา อนฺตมโส ทนฺตคีตมฺปิ, ยํ ‘‘คายิสฺสามา’’ติ ปุพฺพภาเค โอกูชนฺตา กโรนฺติ, เอตมฺปิ น วฏฺฏติ. วาทิตนฺติ ยํ กิฺจิ วาทิตํ. ทฏฺุํ วา ปน โสตุํ วาติ นจฺจํ ทฏฺุํ วา คีตํ วาทิตํ โสตุํ วา.
๒๗๙๕. สยํ นจฺจนฺตสฺส วา นจฺจาเปนฺตสฺส วา คายนฺตสฺส วา คายาเปนฺตสฺส วา วาเทนฺตสฺส วา วาทาเปนฺตสฺส วา ทุกฺกฏเมว อฏฺกถาย (จูฬว. อฏฺ. ๒๔๘) วุตฺตนฺติ ตเทกเทสํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทฏฺุมนฺตมโส’’ติอาทิ.
๒๗๙๖. สุณาตีติ คีตํ วา วาทิตํ วา. ปสฺสตีติ นจฺจํ ปสฺสติ.
๒๗๙๗. ปสฺสิสฺสามีติ เอตฺถ ‘‘สุณิสฺสามี’’ติ เสโส. ‘‘นจฺจํ ปสฺสิสฺสามิ, คีตํ, วาทิตํ วา สุณิสฺสามี’’ติ วิหารโต วิหารํ คจฺฉโต วาปิ ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา.
๒๗๙๘. อุฏฺหิตฺวาน คจฺฉโตติ ‘‘นจฺจํ ปสฺสิสฺสามี’’ติ, ‘‘คีตํ, วาทิตํ วา สุณิสฺสามี’’ติ นิสินฺนฏฺานโต อุฏฺหิตฺวา อนฺโตวิหาเรปิ ¶ ตํ ตํ ทิสํ คจฺฉโต อาปตฺติ โหตีติ โยชนา. วีถิยํ ตฺวา คีวํ ปสาเรตฺวา ปสฺสโตปิ จ อาปตฺตีติ โยชนา.
๒๗๙๙. ทีฆาติ ทฺวงฺคุลโต ทีฆา. น ธาเรยฺยาติ น ธาเรตพฺพา. ทฺวงฺคุลํ วา ทุมาสํ วาติ เอตฺถ ทฺเว องฺคุลานิ ปริมาณํ เอตสฺสาติ ทฺวงฺคุโล, เกโส. ทฺเว มาสา อุกฺกฏฺปริจฺเฉโท อสฺสาติ ทุมาโส. เกสํ ธาเรนฺโต ทฺวงฺคุลํ วา ธาเรยฺย ทุมาสํ วา. ตโต อุทฺธํ น วฏฺฏตีติ ตโต ทฺวงฺคุลโต วา ทุมาสโต วา เกสโต อุทฺธํ เกสํ ธาเรตุํ น วฏฺฏติ.
อถ ¶ วา ทฺเว องฺคุลานิ สมาหฏานิ ทฺวงฺคุลํ, ทฺเว มาสา สมาหฏา ทุมาสํ, อุภยตฺถ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. เกเส ธาเรนฺโต ทฺวงฺคุลมตฺตํ วา ธาเรยฺย ทุมาสมตฺตํ วา, ตโต กาลปริมาณโต อุทฺธํ เกเส ธาเรตุํ น วฏฺฏตีติ อตฺโถ. สเจ เกเส อนฺโตทฺเวมาเส ทฺวงฺคุเล ปาปุณนฺติ, อนฺโตทฺเวมาเสเยว ฉินฺทิตพฺพา. ทฺวงฺคุเล หิ อติกฺกเมตุํ น วฏฺฏติ. สเจปิ น ทีฆา, ทฺเวมาสโต เอกทิวสมฺปิ อติกฺกเมตุํ น ลภติเยว. เอวมยํ อุภเยนปิ อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทเนว วุตฺโต, ตโต โอรํ ปน นวฏฺฏนภาโว นาม นตฺถิ.
๒๘๐๐. ทีเฆ นเข, ทีฆานิ นาสิกโลมานิ จ น ธารเยติ โยชนา, น ธาเรยฺย, ฉินฺเทยฺยาติ อตฺโถ. วีสติมฏฺนฺติ วีสติยา นขานํ มฏฺํ ลิขิตมฏฺภาวํ กาตุํ ภิกฺขุโน น วฏฺฏตีติ โยชนา. สตฺถเกน ตจฺเฉตฺวา จุณฺณเกน ปมชฺชิตฺวา ผลิกมณีนํ วิย อุชฺชลกรณํ ลิขิตมฏฺํ นาม. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มลมตฺตํ อปกฑฺฒิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๗๔) อนฺุาตตฺตา มุคฺคผลตจาทีหิ นขมลํ อปเนตุํ วฏฺฏติ.
๒๘๐๑. กปฺปาเปยฺย ¶ วิสุํ มสฺสุนฺติ โย เกสจฺฉินฺโน วิสุํ มสฺสุํ กปฺปาเปยฺย. ทาิกํ เปยฺยาติ เกเส ฉินฺทาเปตฺวา มสฺสุํ อกปฺปาเปตฺวา วิสุํ เปยฺย. สมฺพาเธติ อุปกจฺฉกมุตฺตกรณสงฺขาเต สมฺพาธฏฺาเน. โลมํ สํหราเปยฺยวาติ สตฺเถน วา สณฺฑาเสน วา อฺเน เยน เกนจิ ปเรน ฉินฺทาเปยฺย, สยํ วา ฉินฺเทยฺย. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาพาธปจฺจยา สมฺพาเธ โลมํ สํหราเปตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๗๕) อนฺุาตตฺตา ยถาวุตฺตสมฺพาเธ คณฺฑปิฬกวณาทิเก อาพาเธ สติ โลมํ สํหราเปตุํ วฏฺฏติ.
๒๘๐๒. อคิลานสฺส ฉินฺทโต ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. อฺเน วา ปุคฺคเลน ตถา กตฺตริยา ฉินฺทาเปนฺตสฺส ทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ.
๒๘๐๓. เสสงฺคเฉทเนติ องฺคุลิยาทิอวเสสสรีราวยวานํ เฉทเน. อตฺตวเธติ อตฺตุปกฺกเมน วา อาณตฺติยา อุปกฺกเมน วา อตฺตโน ชีวิตนาเส.
๒๘๐๔. องฺคนฺติ องฺคชาตโต อวเสสํ สรีราวยวํ. อหิกีฏาทิทฏฺสฺส ตปฺปฏิการวเสน ¶ องฺคํ ฉินฺทโต น โทโส. ตาทิสาพาธปจฺจยา ตปฺปฏิการวเสน องฺคํ ฉินฺทโต น โทโส. โลหิตํ โมเจนฺตสฺสาปิ น โทโสติ โยชนา.
๒๘๐๕. อปริสฺสาวโน ภิกฺขุ สเจ มคฺคํ คจฺฉติ, ทุกฺกฏํ. มคฺเค อทฺธาเน ตํ ปริสฺสาวนํ ยาจมานสฺส โย น ททาติ, ตสฺส อททโต อเทนฺตสฺสาปิ ตเถว ทุกฺกฏเมวาติ โยชนา. โย ปน อตฺตโน หตฺเถ ปริสฺสาวเน วิชฺชมาเนปิ ยาจติ, ตสฺส น อกามา ทาตพฺพํ.
๒๘๐๖. ‘‘นคฺโค’’ติ ¶ ปทํ ‘‘น ภฺุเช’’ติอาทิ กิริยาปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. น ภฺุเชติ ภตฺตาทึ ภฺุชิตพฺพํ น ภฺุเชยฺย. น ปิเวติ ยาคุอาทึ ปาตพฺพํ น ปิเวยฺย. น จ ขาเทติ มูลขาทนียาทิกํ ขาทนียํ น ขาเทยฺย. น สายเยติ ผาณิตาทิกํ สายิตพฺพฺจ น สาเยยฺย น ลิเหยฺย. น ทเทติ อฺสฺส ภตฺตาทึ กิฺจิ น ทเทยฺย. น คณฺเหยฺยาติ ตถา สยํ นคฺโค หุตฺวา น ปฏิคฺคณฺเหยฺย. อฺชสํ มคฺคํ.
๒๘๐๗. ปริกมฺมํ น กาตพฺพนฺติ ปิฏฺิปริกมฺมาทิปริกมฺมํ น กาตพฺพํ. การเยติ สยํ นคฺโค หุตฺวา อฺเน ปิฏฺิปริกมฺมาทิปริกมฺมํ น การาเปยฺยาติ อตฺโถ.
๒๘๐๘. ปิฏฺิกมฺมาทิเก ปริกมฺเม ชนฺตาฆราทิกา ติสฺโส ปฏิจฺฉาที วุตฺตา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติสฺโส ปฏิจฺฉาทิโย ชนฺตาฆรปฏิจฺฉาทึ อุทกปฏิจฺฉาทึ วตฺถปฏิจฺฉาทิ’’นฺติ (จูฬว. ๒๖๑) อนฺุาตาติ โยชนา. ปฏิจฺฉาเทติ หิริโกปินนฺติ ปฏิจฺฉาทิ, ชนฺตาฆรเมว ปฏิจฺฉาทิ ชนฺตาฆรปฏิจฺฉาทิ. อุทกเมว ปฏิจฺฉาทิ อุทกปฏิจฺฉาทิ. วตฺถเมว ปฏิจฺฉาทิ วตฺถปฏิจฺฉาทิ. ‘‘สพฺพตฺถ ปน วฏฺฏตี’’ติ อิมินา อิตรปฏิจฺฉาทิทฺวยํ ปริกมฺเมเยว วฏฺฏตีติ ทีเปติ. สพฺพตฺถาติ โภชนาทิสพฺพกิจฺเจสุ.
๒๘๐๙. ยตฺถ กตฺถจิ เปฬายนฺติ ตมฺพโลหวฏฺฏโลหกํสโลหกาฬโลหสุวณฺณรชตาทีหิ กตาย วา ทารุมยาย วา ยาย กายจิ เปฬาย อาสิตฺตกูปธาเน. ภฺุชิตุํ น จ วฏฺฏตีติ ภาชนํ เปตฺวา ภฺุชิตุํ น วฏฺฏติ. ยถาห – ‘‘อาสิตฺตกูปธานํ นาม ตมฺพโลเหน วา รชเตน วา กตาย เปฬาย เอตํ อธิวจนํ, ‘น ภิกฺขเว อาสิตฺตกูปธาเน ภฺุชิตพฺพ’นฺติ สามฺเน ปฏิกฺขิตฺตตฺตา ¶ ปน ¶ ทารุมยาปิ น วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๒๖๔). ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว มโฬริก’’นฺติ (จูฬว. ๒๖๔) อนฺุาตตฺตา มโฬริกาย เปตฺวา ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. ‘‘มโฬริกา’’ติ จ ทณฺฑาธารโก วุจฺจติ, ยํ ตโย, จตฺตาโร, พหู วา ทณฺฑเก อุปริ จ เหฏฺา จ วิตฺถตํ มชฺเฌ สงฺกุจิตํ กตฺวา พนฺธิตฺวา อาธารกํ กโรนฺติ. ยฏฺิอาธารกปณฺณาธารกปจฺฉิกปิฏฺฆฏกกวาฏกาทิภาชนมุขอุทุกฺขลาทีนิปิ เอตฺเถว สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. ยฏฺิอาธารโกติ ยฏฺึเยว อุชุกํ เปตฺวา พนฺธีกตอาธารโก.
เอกภาชเน วิสุํ วิสุํ โภชนสฺสาปิ สมฺภวโต ‘‘ภฺุชโต เอกภาชเน’’ติ เอตฺตเกเยว วุตฺเต ตสฺสาปิ ปสงฺโค สิยาติ ตนฺนิวตฺตนตฺถมาห ‘‘เอกโต’’ติ. ‘‘ภฺุชโต’’ติ อิทํ อุปลกฺขณํ. เอกโต เอกภาชเน ยาคุอาทิปานมฺปิ น วฏฺฏติ. ยถาห – ‘‘น, ภิกฺขเว, เอกถาลเก ปาตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๒๖๔). อถ วา ภฺุชโตติ อชฺโฌหารสามฺเน ปานมฺปิ สงฺคหิตนฺติ เวทิตพฺพํ. อยเมตฺถ วินิจฺฉโย – สเจ เอโก ภิกฺขุ ภาชนโต ผลํ วา ปูวํ วา คเหตฺวา คจฺฉติ, ตสฺมึ อปคเต อิตรสฺส เสสกํ ภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. อิตรสฺสาปิ ตสฺมึ ขเณ ปุน คเหตุํ วฏฺฏตีติ.
๒๘๑๐. เย ทฺเว วา ตโย วา ภิกฺขู เอกปาวุรณา วา เอกตฺถรณา วา เอกตฺถรณปาวุรณา วา นิปชฺชนฺติ, เตสฺจ, เย เอกมฺเจปิ เอกโต นิปชฺชนฺติ, เตสฺจ อาปตฺติ ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา.
๒๘๑๑. สงฺฆาฏิปลฺลตฺถิกมุปาคโตติ เอตฺถ สงฺฆาฏีติ สงฺฆาฏินาเมน อธิฏฺิตจีวรมาห. สงฺฆาฏิปลฺลตฺถิกํ อุปคเตน ยุตฺโต หุตฺวาติ อตฺโถ. น นิสีเทยฺยาติ วิหาเร ¶ วา อนฺตรฆเร วา ยตฺถ กตฺถจิ น นิสีเทยฺย. ‘‘สงฺฆาฏีติ นาเมน อธิฏฺิตจีวรโวหารปฺปตฺตมธิฏฺิตจีวรํ ‘สงฺฆาฏี’ติ วุตฺต’’นฺติ นิสฺสนฺเทเห, ขุทฺทสิกฺขาวณฺณนายมฺปิ ‘‘สงฺฆาฏิยา น ปลฺลตฺเถติ อธิฏฺิตจีวเรน วิหาเร วา อนฺตรฆเร วา ปลฺลตฺถิโก น กาตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘อนฺโตคาเม วาสตฺถาย อุปคเตน อธิฏฺิตํ สงฺฆาฏึ วินา เสสจีวเรหิ ปลฺลตฺถิกาย นิสีทิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ.
กิฺจิ ¶ กีฬํ น กีเฬยฺยาติ ชุตกีฬาทิกํ ยํ กิฺจิ กายิกวาจสิกกีฬิกํ น กีเฬยฺย. น จ คาหเยติ น จ คาหาเปยฺย, น หราเปยฺยาติ อตฺโถ.
๒๘๑๒. ทาิกายปีติ มสฺสุมฺหิ. อุคฺคตนฺติ เอตฺถ ‘‘พีภจฺฉ’’นฺติ เสโส. อฺนฺติ อปลิตํ. ตาทิสนฺติ พีภจฺฉํ.
๒๘๑๓. ‘‘อคิลาโน’’ติ อิมินา คิลานสฺส อนาปตฺติภาวํ ทีเปติ. ‘‘ธาเรยฺยา’’ติ อิมินา สุทฺธกตฺตุนิทฺเทเสน อคิลานสฺสปิ ปรํ ธาราปเน, ปรสฺส ธารณสาทิยเน จ อนาปตฺตีติ วิฺายตีติ. อตฺตโน คุตฺตตฺถํ, จีวราทีนํ คุตฺตตฺถฺจ วฏฺฏตีติ โยชนา. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (จูฬว. อฏฺ. ๒๗๐) – ยสฺส กายทาโห วา ปิตฺตโกโป วา โหติ, จกฺขุ วา ทุพฺพลํ, อฺโ วา โกจิ อาพาโธ วินา ฉตฺเตน อุปฺปชฺชติ, ตสฺส คาเม วา อรฺเ วา ฉตฺตํ วฏฺฏติ. วาฬมิคโจรภเยสุ อตฺตคุตฺตตฺถํ, วสฺเส ปน จีวรคุตฺตตฺถมฺปิ วฏฺฏติ. เอกปณฺณจฺฉตฺตํ ปน สพฺพตฺเถว วฏฺฏติ. ‘‘เอกปณฺณจฺฉตฺตํ นาม ตาลปตฺต’’นฺติ คณฺิปเทสุ วุตฺตนฺติ.
๒๘๑๔. หตฺถิโสณฺฑากาโร อเภโทปจาเรน ‘‘หตฺถิโสณฺฑ’’นฺติ วุตฺโต. เอวมุปริปิ. จีวรสฺส นามเธยฺยํ ‘‘วสน’’นฺติ ¶ อิทํ. ‘‘นิวาเสนฺตสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ ปททฺวยฺจ ‘‘หตฺถิโสณฺฑ’’นฺติอาทีหิ สพฺพปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. เวลฺลิยนฺติ เอตฺถ คาถาพนฺธวเสน สํ-สทฺทโลโป, สํเวลฺลิยนฺติ อตฺโถ.
เอตฺถ หตฺถิโสณฺฑํ (จูฬว. อฏฺ. ๒๘๐) นาม นาภิมูลโต หตฺถิโสณฺฑสณฺานํ โอลมฺพกํ กตฺวา นิวตฺถํ โจฬิกิตฺถีนํ นิวาสนํ วิย. จตุกฺกณฺณํ นาม อุปริโต ทฺเว, เหฏฺโต ทฺเวติ เอวํ จตฺตาโร กณฺเณ ทสฺเสตฺวา นิวตฺถํ. มจฺฉวาฬกํ นาม เอกโต ทสนฺตํ เอกโต ปาสนฺตํ โอลมฺเพตฺวา นิวตฺถํ. สํเวลฺลิยนฺติ มลฺลกมฺมการาทโย วิย กจฺฉํ พนฺธิตฺวา นิวาสนํ. ตาลวณฺฏกํ นาม ตาลวณฺฏากาเรน สาฏกํ โอลมฺเพตฺวา นิวาสนํ. จ-สทฺเทน สตวลิกํ สงฺคณฺหาติ. สตวลิกํ นาม ทีฆสาฏกํ อเนกกฺขตฺตุํ โอภฺชิตฺวา โอวฏฺฏิกํ กโรนฺเตน นิวตฺถํ, วามทกฺขิณปสฺเสสุ วา นิรนฺตรํ วลิโย ทสฺเสตฺวา นิวตฺถํ. สเจ ปน ชาณุโต ปฏฺาย เอกา วา ทฺเว วา วลิโย ปฺายนฺติ, วฏฺฏติ. เอวํ นิวาเสตุํ คิลานสฺสปิ มคฺคปฏิปนฺนสฺสปิ น วฏฺฏติ.
ยมฺปิ ¶ มคฺคํ คจฺฉนฺตา เอกํ วา ทฺเว วา โกเณ อุกฺขิปิตฺวา อนฺตรวาสกสฺส อุปริ ลคฺเคนฺติ, อนฺโต วา เอกํ กาสาวํ ตถา นิวาเสตฺวา พหิ อปรํ นิวาเสนฺติ, สพฺพํ น วฏฺฏติ. คิลาโน ปน อนฺโตกาสาวสฺส โอวฏฺฏิกํ ทสฺเสตฺวา อปรํ อุปริ นิวาเสตุํ ลภติ. อคิลาเนน ทฺเว นิวาเสนฺเตน สคุณํ กตฺวา นิวาเสตพฺพานิ. อิติ ยฺจ อิธ ปฏิกฺขิตฺตํ, ยฺจ เสขิยวณฺณนายํ, ตํ สพฺพํ วชฺเชตฺวา นิพฺพิการํ ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทนฺเตน ปริมณฺฑลํ นิวาเสตพฺพํ. ยํ กิฺจิ วิการํ กโรนฺโต ทุกฺกฏา น มุจฺจติ.
๒๘๑๕. คิหิปารุปนนฺติ ¶ ‘‘เสตปฏปารุตํ (จูฬว. อฏฺ. ๒๘๐) ปริพฺพาชกปารุตํ เอกสาฏกปารุตํ โสณฺฑปารุตํ อนฺเตปุริกปารุตํ มหาเชฏฺกปารุตํ กุฏิปเวสกปารุตํ พฺราหฺมณปารุตํ ปาฬิการกปารุต’’นฺติ เอวมาทิปริมณฺฑลลกฺขณโต อฺถา ปารุตํ, สพฺพเมตํ คิหิปารุตํ นาม. ตสฺมา ยถา เสตปฏา อฑฺฒปาลกนิคณฺา ปารุปนฺติ, ยถา จ เอกจฺเจ ปริพฺพาชกา อุรํ วิวริตฺวา ทฺวีสุ อํสกูเฏสุ ปาวุรณํ เปนฺติ, ยถา จ เอกสาฏกา มนุสฺสา นิวตฺถสาฏกสฺส เอเกนนฺเตน ปิฏฺึ ปารุปิตฺวา อุโภ กณฺเณ อุโภสุ อํสกูเฏสุ เปนฺติ, ยถา จ สุราโสณฺฑาทโย สาฏเกน คีวํ ปริกฺขิปนฺตา อุโภ อนฺเต อุทเร วา โอลมฺเพนฺติ, ปิฏฺิยํ วา ขิปนฺติ, ยถา จ อนฺเตปุริกาโย อกฺขิตารกมตฺตํ ทสฺเสตฺวา โอคุณฺิกํ ปารุปนฺติ, ยถา จ มหาเชฏฺา ทีฆสาฏกํ นิวาเสตฺวา ตสฺเสว เอเกนนฺเตน สกลสรีรํ ปารุปนฺติ, ยถา จ กสฺสกา เขตฺตกุฏึ ปวิสนฺตา สาฏกํ ปลิเวเตฺวา อุปกจฺฉเก ปกฺขิปิตฺวา ตสฺเสว เอเกนนฺเตน สรีรํ ปารุปนฺติ, ยถา จ พฺราหฺมณา อุภินฺนํ อุปกจฺฉกานํ อนฺตเรน สาฏกํ ปเวเสตฺวา อํสกูเฏสุ ปกฺขิปนฺติ, ยถา จ ปาฬิการโก ภิกฺขุ เอกํสปารุปเนน ปารุตํ วามพาหํ วิวริตฺวา จีวรํ อํสกูฏํ อาโรเปติ, เอวํ อปารุปิตฺวา สพฺเพปิ เอเต, อฺเ จ เอวรูเป ปารุปนโทเส วชฺเชตฺวา นิพฺพิการํ ปริมณฺฑลํ ปารุปิตพฺพํ. ตถา อปารุปิตฺวา อาราเม วา อนฺตรฆเร วา อนาทเรน ยํ กิฺจิ วิการํ กโรนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. ปริมณฺฑลโต วิมุตฺตลกฺขณนิวาสนปารุปนโทเส วชฺเชตฺวา ปริมณฺฑลภาโวเยว วุตฺตลกฺขโณ อธิปฺเปโตติ อตฺโถ.
๒๘๑๖. โลกายตํ น วาเจยฺยาติ ‘‘สพฺพํ อุจฺฉิฏฺํ, สพฺพํ อนุจฺฉิฏฺํ, เสโต กาโก, กาโฬ พโก อิมินา จ อิมินา จ การเณนา’’ติ เอวมาทินิรตฺถกการณปฏิสํยุตฺตํ ติตฺถิยสตฺถํ ¶ อฺเสํ น วาเจยฺย. น จ ตํ ปริยาปุเณติ ตํ โลกายตํ น จ ปริยาปุเณยฺย น ¶ อุคฺคณฺเหยฺย. ติรจฺฉานวิชฺชาติ หตฺถิสิปฺปอสฺสสิปฺปธนุสิปฺปาทิกา ปโรปฆาตกรา วิชฺชา จ. ภิกฺขุนา น ปริยาปุณิตพฺพา, น วาเจตพฺพาติ โยชนา.
๒๘๑๗. สพฺพาจามริพีชนีติ เสตาทิวณฺเณหิ สพฺเพหิ จมรวาเลหิ กตา พีชนี. น จาลิมฺเปยฺย ทายํ วาติ ทวฑาหาทิอุปทฺทวนิวารณาย อนฺุาตํ ปฏคฺคิทานการณํ วินา อรฺํ อคฺคินา น อาลิมฺเปยฺย. ทวฑาเห ปน อาคจฺฉนฺเต อนุปสมฺปนฺเน อสติ ปฏคฺคึ ทาตุํ, อปฺปหริตกรเณน วา ปริขาขณเนน วา ปริตฺตาณํ กาตุํ, เสนาสนํ ปตฺตํ วา อปฺปตฺตํ วา อคฺคึ อลฺลสาขํ ภฺชิตฺวา นิพฺพาเปตฺุจ ลภติ. อุทเกน ปน กปฺปิเยเนว ลภติ, เนตเรน. อนุปสมฺปนฺเน ปน สติ เตเนว กปฺปิยโวหาเรน การาเปตพฺพํ. มุขํ น จ ลฺเชติ มโนสิลาทินา มุขํ น ลิมฺเปยฺย, ติลเกน องฺคํ น กเรยฺยาติ อตฺโถ.
๒๘๑๘. อุภโตกาชนฺติ อุภโตโกฏิยา ภารวหนโกฏิกาชํ. อนฺตรกาชกนฺติ อุภยโกฏิยา ิตวาหเกหิ วหิตพฺพํ มชฺเฌภารยุตฺตกาชํ. สีสกฺขนฺธกฏิภาราทโย เหฏฺา วุตฺตลกฺขณาว.
๒๘๑๙. โย ภิกฺขุ วฑฺฒกิองฺคุเลน อฏฺงฺคุลาธิกํ วา เตเนว องฺคุเลน จตุรงฺคุลปจฺฉิมํ วา ทนฺตกฏฺํ ขาทติ, เอวํ ขาทโต ตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา.
๒๘๒๐. กิจฺเจ สติปีติ สุกฺขกฏฺาทิคฺคหณกิจฺเจ ปน สติ. โปริสนฺติ ปุริสปฺปมาณํ, พฺยามมตฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ. อาปทาสูติ วาฬมิคาทโย วา ทิสฺวา มคฺคมูฬฺโห วา ทิสา โอโลเกตุกาโม หุตฺวา ทวฑาหํ วา อุทโกฆํ วา อาคจฺฉนฺตํ ¶ ทิสฺวา วา เอวรูปาสุ อาปทาสุ. วฏฺฏเตวาภิรูหิตุนฺติ อติอุจฺจมฺปิ รุกฺขํ อาโรหิตุํ วฏฺฏติ เอว.
๒๘๒๑. สเจ อกลฺลโก คิลาโน น สิยา, ลสุณํ มาคธํ อามกํ ภณฺฑิกลสุณํ น จ ขาเทยฺย เนว ปริภฺุเชยฺยาติ โยชนา. ภณฺฑิกลสุณํ นาม จตุมิฺชโต ปฏฺาย พหุมิฺชํ. ปลณฺฑุกภฺชนกาทิลสุเณ มคเธสุ ชาตตฺเตปิ น โทโส. ลสุณวิภาโค เหฏฺา ทสฺสิโตเยว. คิลานสฺส ปน ลสุณํ ขาทิตุํ วฏฺฏติ. ยถาห – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาพาธปจฺจยา ลสุณํ ขาทิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๘๙). อาพาธปจฺจยาติ ยสฺส อาพาธสฺส ลสุณํ ¶ เภสชฺชํ โหติ, ตปฺปจฺจยาติ อตฺโถ. พุทฺธวจนนฺติ สงฺคีติตฺตยารุฬฺหา ปิฏกตฺตยปาฬิ. อฺถาติ สกฺกฏาทิขลิตวจนมยํ วาจนามคฺคํ น โรเปตพฺพํ, ตถา น เปตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๒๘๒๒. ขิปิเตติ เยน เกนจิ ขิปิเต. ‘‘ชีวา’’ติ น วตฺตพฺพนฺติ โยชนา. ภิกฺขุนา ขิปิเต คิหินา ‘‘ชีวถา’’ติ วุตฺเตน ปุน ‘‘จิรํ ชีวา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา. ‘‘จิร’’นฺติ ปเท สติปิ วฏฺฏติ.
๒๘๒๓. อาโกเฏนฺตสฺสาติ กาเยน วา กายปฏิพทฺธาทีหิ วา ปหรนฺตสฺส. ปุปฺผสํกิณฺเณติ ปุปฺผสนฺถเต.
๒๘๒๔. นฺหาปิตา ปุพฺพกา เอตสฺสาติ นฺหาปิตปุพฺพโก, นฺหาปิตชาติโกติ อตฺโถ. ขุรภณฺฑนฺติ นฺหาปิตปริกฺขารํ. น คณฺเหยฺยาติ น ปริหเรยฺย. สเจ โย นฺหาปิตชาติโก โหติ, โส ขุรภณฺฑํ คเหตฺวา น หเรยฺยาติ อตฺโถ. อฺสฺส หตฺถโต คเหตฺวา เกสจฺเฉทาทิ กาตุํ วฏฺฏติ. อุณฺณีติ เกสกมฺพลํ วินา อุณฺณมยา ปาวุรณชาติ. ‘‘โคนกํ ¶ กุตฺตกํ จิตฺตก’’มิจฺจาทินา วุตฺตเภทวนฺตตาย อาห ‘‘สพฺพา’’ติ. อุณฺณมยํ อนฺโตกริตฺวา ปารุปิตุํ วฏฺฏตีติ อาห ‘‘พาหิรโลมิกา’’ติ. ยถาห – ‘‘น, ภิกฺขเว, พาหิรโลมี อุณฺณีธาเรตพฺพา’’ติ (จูฬว. ๒๔๙). สิกฺขาปทฏฺกถายํ ‘‘อุณฺณโลมานิ พหิ กตฺวา อุณฺณปาวารํ ปารุปนฺติ, ตถา ธาเรนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. โลมานิ อนฺโต กตฺวา ปารุปิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๒๔๙).
๒๘๒๕. องฺคราคํ นาม กุงฺกุมาทิ. กโรนฺตสฺสาติ อพฺภฺชนฺตสฺส. อกายพนฺธนสฺส คามํ ปวิสโตปิ ทุกฺกฏํ สมุทีริตนฺติ โยชนา. เอตฺถ จ อสติยา อพนฺธิตฺวา นิกฺขนฺเตน ยตฺถ สรติ, ตตฺถ พนฺธิตพฺพํ. ‘‘อาสนสาลาย พนฺธิสฺสามี’’ติ คนฺตุํ วฏฺฏติ. สริตฺวา ยาว น พนฺธติ, น ตาว ปิณฺฑาย จริตพฺพํ.
๒๘๒๖. สพฺพํ อายุธํ วินา สพฺพํ โลหชํ โลหมยภณฺฑฺจ ปตฺตํ, สงฺกมนียปาทุกํ, ยถาวุตฺตลกฺขณํ ปลฺลงฺกํ, อาสนฺทิฺจ วินา สพฺพํ ทารุชํ ทารุมยภณฺฑฺจ วุตฺตลกฺขณเมว กตกํ ¶ , กุมฺภการิกํ ธนิยสฺเสว สพฺพมตฺติกามยํ กุฏิฺจ วินา สพฺพํ มตฺติกามยํ ภณฺฑฺจ กปฺปิยนฺติ โยชนา.
ขุทฺทกวตฺถุกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.