📜
เสนาสนกฺขนฺธกกถาวณฺณนา
๒๘๒๗. อาสนฺทิโกติ จตุรสฺสปีํ. อติกฺกนฺตปมาโณติ เหฏฺา อฏนิยา วฑฺฒกิหตฺถโต อุจฺจตรปฺปมาณปาทโก. เอกปสฺสโต ทีโฆ ปน อุจฺจปาทโก น วฏฺฏติ. ยถาห ¶ – ‘‘อุจฺจกมฺปิ อาสนฺทิกนฺติ วจนโต เอกโตภาเคน ทีฆปีเมว หิ อฏฺงฺคุลาธิกปาทกํ น วฏฺฏติ, จตุรสฺสอาสนฺทิโก ปน ปมาณาติกฺกนฺโตปิ วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๒๙๗).
ตถาติ อิมินา ‘‘อติกฺกนฺตปมาโณ’’ติ อิทํ ปจฺจามสติ. ปฺจงฺคปีนฺติ จตฺตาโร ปาทา, อปสฺเสนนฺติ อิเมหิ ปฺจงฺเคหิ ยุตฺตปีํ. สตฺตงฺคนฺติ ตีสุ ทิสาสุ อปสฺสเย โยเชตฺวา กตํ. ตฺหิ จตูหิ ปาเทหิ, ตีหิ อปสฺเสหิ จ ยุตฺตตฺตา ‘‘สตฺตงฺคปี’’นฺติ วุตฺตํ. เอส นโย มฺเจปิ. ยถาห – ‘‘สตฺตงฺโค นาม ตีสุ ทิสาสุ อปสฺสยํ กตฺวา กตมฺโจ, อยมฺปิ ปมาณาติกฺกนฺโต วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๒๙๗).
๒๘๒๘. ตูโลนทฺธาติ อุปริ ตูลํ ปกฺขิปิตฺวา พทฺธา. ฆเรเยวาติ คิหีนํ เคเหเยว นิสีทิตุํ วฏฺฏตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘นิสีทิตุ’’นฺติ อิมินาว สยนํ ปฏิกฺขิตฺตํ. สีสปาทูปธานนฺติ สีสูปธานฺเจว ปาทูปธานฺจ. จ-สทฺโท ปิ-สทฺทตฺเถ โส ‘‘อคิลานสฺสา’’ติ เอตฺถ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺโพ, เตน อคิลานสฺสาปิ ตาว วฏฺฏติ, ปเคว คิลานสฺสาติ ทีเปติ.
๒๘๒๙. น เกวลํ คิลานสฺส สีสปาทูปธานเมว วฏฺฏติ, อถ โข อิทมฺปีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘สนฺถริตฺวา’’ติอาทิ. อุปธานานิ สนฺถริตฺวาติ พหู อุปธานานิ อตฺถริตฺวา. ตตฺถ จาติ ตสฺมึ อุปธานสนฺถเร. ปจฺจตฺถรณกํ ทตฺวาติ อุปริ ปจฺจตฺถรณกํ อตฺถริตฺวา.
๒๘๓๐. ติริยนฺติ ¶ วิตฺถารโต. มุฏฺิรตนนฺติ ปากติกมุฏฺิกรตนํ. ตํ ปน วฑฺฒกีนํ วิทตฺถิมตฺตํ. มิตนฺติ ปากฏิตํ ปมาณยุตฺตํ โหตีติ โยชนา. กตฺถจิ โปตฺถเกสุ ‘‘มต’’นฺติ ¶ ปาโ ทิสฺสติ, โส น คเหตพฺโพ. ทีฆโตติ พิมฺโพหนสฺส ทีฆโต. ทิยฑฺฒนฺติ ทิยฑฺฒหตฺถํ วา ทฺวิหตฺถํ วา โหตีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. อิทเมว หิ ‘‘สีสปฺปมาณพิมฺโพหน’’นฺติ อธิปฺเปตํ. ยถาห –
‘‘สีสปฺปมาณํ นาม ยสฺส วิตฺถารโต ตีสุ กณฺเณสุ ทฺวินฺนํ กณฺณานํ อนฺตรํ มินิยมานํ วิทตฺถิ เจว จตุรงฺคุลฺจ โหติ, มชฺฌฏฺานํ มุฏฺิรตนํ โหติ. ทีฆโต ปน ทิยฑฺฒรตนํ วา ทฺวิรตนํ วาติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. อยํ สีสปฺปมาณสฺส อุกฺกฏฺปริจฺเฉโท, อิโต อุทฺธํ น วฏฺฏติ, เหฏฺา ปน วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๒๙๗).
๒๘๓๑. โจฬนฺติ ปิโลติกา. ปณฺณนฺติ รุกฺขลตานํ ปณฺณํ. อุณฺณาติ เอฬกาทีนํ โลมํ. ติณนฺติ ทพฺพติณาทิ ยํ กิฺจิ ติณํ. วากนฺติ กทลิอกฺกมกจิวากาทิกํ. เอเตหิ ปฺจหิ ปูริตา ภิสิโย ตูลานํ คณนาวสา เหตุคพฺภานํ เอเตสํ ปฺจนฺนํ คพฺภานํ คณนาวเสน ปฺจ ภาสิตาติ โยชนา.
๒๘๓๒. พิมฺโพหนคพฺภํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ภิสี’’ติอาทิ. ปฺเจวาติ ยถาวุตฺตโจฬาทิปฺเจว. ตถา ตูลานิ ตีณิปีติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตีณิ ตูลานิ รุกฺขตูลํ ลตาตูลํ โปฏกิตูล’’นฺติ (จูฬว. ๒๙๗) อนฺุาตานิ ตีณิปิ ตูลานิ. เอตฺถ จ รุกฺขตูลํ นาม สิมฺพลิรุกฺขาทีนํ เยสํ เกสฺจิ รุกฺขานํ ตูลํ. ลตาตูลํ นาม ขีรวลฺลิอาทีนํ ยาสํ กาสฺจิ วลฺลีนํ ตูลํ. โปฏกิตูลํ นาม โปฏกิติณาทีนํ เยสํ เกสฺจิ ติณชาติกานํ อนฺตมโส อุจฺฉุนฬาทีนมฺปิ ตูลํ. โลมานิ มิคปกฺขีนนฺติ สีหาทิจตุปฺปทานํ, โมราทิปกฺขีนํ โลมานิ. อิเมติ ภิสิคพฺภาทโย อิเม ทส พิมฺโพหนสฺส คพฺภาติ สมฺพนฺโธ.
๒๘๓๓. เอวํ ¶ กปฺปิยํ ภิสิพิมฺโพหนคพฺภํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อกปฺปิยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘มนุสฺสโลม’’นฺติอาทิ. โลเมสุ มนุสฺสโลมฺจ ปุปฺเผสุ พกุลปิยงฺคุปุปฺผาทิกํ สพฺพํ ปุปฺผฺจ ปณฺเณสุ ¶ จ สุทฺธํ เกวลํ ตมาลปตฺตฺจ น วฏฺฏตีติ โยชนา. ‘‘สุทฺธ’’นฺติ อิมินา ตมาลปตฺตํ เสสคพฺเภหิ มิสฺสํ วฏฺฏตีติ พฺยติเรกโต ทีเปติ.
๒๘๓๔. มสูรเกติ จมฺมฉวิภิสิพิมฺโพหเน.
๒๘๓๕. ‘‘สุทฺธ’’นฺติ อิมินา พฺยติเรกโต ทสฺสิตเมวตฺถํ สรูปโต วิภาเวตุมาห ‘‘มิสฺส’’นฺติอาทิ.
๒๘๓๖. ติรจฺฉานคตสฺส วาติ อนฺตมโส คณฺฑุปฺปาทสฺสาปิ. กาเรนฺตสฺสาติ จิตฺตกมฺมกฏฺกมฺมาทิวเสน การาเปนฺตสฺส วา กโรนฺตสฺส วา.
๒๘๓๗. ชาตกนฺติ อปณฺณกชาตกาทิชาตกฺจ. วตฺถุนฺติ วิมานวตฺถุอาทิกํ ปสาทชนกํ วา เปตวตฺถุอาทิกํ สํเวคชนกํ วา วตฺถุํ. วา-สทฺเทน อฏฺกถาคตํ อิธ ทสฺสิตปกรณํ สงฺคณฺหาติ. ปเรหิ วาติ เอตฺถ วา-สทฺโท อวธารเณ, เตน ปเรหิ การาเปตุเมว วฏฺฏติ, น สยํ กาตุนฺติ ทีเปติ. สยํ กาตุมฺปีติ เอตฺถ อปิ-สทฺโท ปเคว การาเปตุนฺติ ทีเปติ.
๒๘๓๘. โย ปน ภิกฺขุ ทฺวีหิ วสฺเสหิ วา เอเกน วา วสฺเสน ยสฺส ภิกฺขุโน วุฑฺฒตโร วา โหติ ทหรตโร วา, โส เตน ภิกฺขุนา สมานาสนิโก นาม โหตีติ โยชนา.
๒๘๓๙. ‘‘สตฺตวสฺเสน ปฺจวสฺโส’’ติ อิทํ ทฺวีหิ วสฺเสหิ วุฑฺฒนวกานํ สมานาสนิกตฺเต อุทาหรณํ. ‘‘ฉ ¶ วสฺเสน ปฺจวสฺโส’’ติ อิทํ เอกวสฺเสน วุฑฺฒนวกานํ สมานาสนิกตฺเต อุทาหรณํ.
๒๘๔๐. ยํ ติณฺณํ นิสีทิตุํ ปโหติ, ตํ เหฏฺา ทีฆาสนํ นามาติ โยชนา. ‘‘สมานาสนิกา มฺเจ นิสีทิตฺวา มฺจํ ภินฺทึสุ, ปีเ นิสีทิตฺวา ปีํ ภินฺทึสู’’ติ (จูฬว. ๓๒๐) อาโรปิเต วตฺถุมฺหิ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทุวคฺคสฺส มฺจํ ทุวคฺคสฺส ปี’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๐) อนฺุาตตฺตา ‘‘ทฺเว’’ติ สมานาสนิเก ทฺเว สนฺธาย วุตฺตํ.
๒๘๔๑. อุภโตพฺยฺชนํ ¶ , อิตฺถึ, ปณฺฑกํ เปตฺวา สพฺเพหิปิ คหฏฺเหิ, ปพฺพชิเตหิ วา ปุริเสหิ สห ทีฆาสเน นิสีทิตุํ อนฺุาตนฺติ โยชนา. โปตฺถเกสุ ปน กตฺถจิ ‘‘สพฺเพส’’นฺติ สามิวจนนฺโต ปาโ ทิสฺสติ, ตโต ‘‘สพฺเพหิปี’’ติ กรณวจนนฺโตว ปาโ ยุตฺตตโร. กรณวจนปฺปสงฺเค วา สามิวจนนิทฺเทโสติ เวทิตพฺพํ. ยถาห ‘‘ยํ ติณฺณํ ปโหติ, ตํ สํหาริมํ วา โหตุ อสํหาริมํ วา, ตถารูเป อปิ ผลกขณฺเฑ อนุปสมฺปนฺเนนาปิ สทฺธึ นิสีทิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๐).
๒๘๔๒. ปุริมิโกติ ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย สมฺมเตน ‘‘น ฉนฺทาคตึ คจฺเฉยฺย…เป… คหิตาคหิตฺจ ชาเนยฺยา’’ติ (จูฬว. ๓๑๗) วุตฺเตหิ ปฺจหิ องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา ปุริมวสฺสูปนายิกทิวเส ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปมํ ภิกฺขู คเณตุํ, ปมํ ภิกฺขู คเณตฺวา เสยฺยา คเณตุํ, เสยฺยา คเณตฺวา เสยฺยคฺเคน คาเหตุ’’นฺติอาทินา (จูฬว. ๓๑๘) นเยน อนฺุาตนิยาเมเนว เสนาสนคฺคาหาปนํ ปุริมิโก นาม เสนาสนคฺคาโห. เอวเมว ปจฺฉิมิกาย ¶ วสฺสูปนายิกทิวเส เสนาสนคฺคาหาปนํ ปจฺฉิมิโก นาม. เอวเมว มหาปวารณาทิวสสฺส อนนฺตรทิวเส ‘‘ภนฺเต, อนฺตรามุตฺตกํ เสนาสนํ คณฺหถา’’ติ วตฺวา วุฑฺฒปฏิปาฏิยา เสนาสนคฺคาหาปนํ อนฺตรามุตฺตโก นาม. ปกาสิโต ‘‘อปรชฺชุคตาย อาสาฬฺหิยาปุริมิโก คาหาเปตพฺโพ, มาสคตาย อาสาฬฺหิยา ปจฺฉิมิโก คาเหตพฺโพ, อปรชฺชุคตาย ปวารณาย อายตึ วสฺสาวาสตฺถาย อนฺตรามุตฺตโก คาเหตพฺโพ’’ติ (จูฬว. ๓๑๘) วุตฺโต.
๒๘๔๓. วุตฺตเมวตฺถํ นิยเมตฺวา ทสฺเสตุมาห ‘‘ปุพฺพารุณา’’ติอาทิ. อิธ ปาฏิปทา นาม ทฺเว วสฺสูปนายิกทิวสา เจว มหาปวารณาย อนนฺตรทิวโส จ. อิเมสํ ติณฺณํ ปาฏิปททิวสานํ อรุโณ ปุพฺพารุโณ นาม. เต ทิวเส อติกฺกมฺม ทุติยติถิปฏิพทฺโธ อรุโณ ปุนารุโณ นาม. อิทนฺติ อุภยารุณานนฺตรํ. เสนาสนคาหกสฺสาติ เอตฺถ สกตฺเถ ก-ปจฺจโย, เสนาสนคฺคาหสฺสาติ อตฺโถ. ยถาห – ‘‘อิทฺหิ เสนาสนคฺคาหสฺส เขตฺต’’นฺติ. วสฺสูปคเต วสฺสูปคเม กาตพฺเพ สติ, สาเธตพฺพปโยชเน ภุมฺมํ. วสฺสูปคเตติ วา นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ. ปุริมิกาย, หิ ปจฺฉิมิกาย จ วสฺสูปคมนสฺส ตํ ตทหุ เสนาสนคฺคาโห นิมิตฺตํ, อนฺตรามุตฺตโก ปน อาคมิโน วสฺสูปคมนสฺสาติ เอวํ ติวิโธปิ เสนาสนคฺคาโห วสฺสูปคมนสฺส นิมิตฺตํ โหติ.
๒๘๔๔. ปาฏิปททิวสสฺส ¶ อรุเณ อุคฺคเตเยว เสนาสเน ปน คาหิเต อฺโ ภิกฺขุ อาคนฺตฺวา สเจ เสนาสนปฺาปกํ เสนาสนํ ยาจติ, โส ภิกฺขุ เสนาสนปฺาปเกน ¶ ‘‘เสนาสนํ คาหิต’’นฺติ วตฺตพฺโพติ โยชนา.
๒๘๔๕. วสฺสาวาสสฺส อิทํ วสฺสาวาสิกํ, วสฺสํวุตฺถานํ ทาตพฺพจีวรํ, คาถาพนฺธวเสน ‘‘วสฺสวาสิก’’นฺติ รสฺสตฺตํ. สงฺฆิกํ อปโลเกตฺวา คหิตํ วสฺสาวาสิกํ จีวรํ สเจ ตตฺรชํ ตตฺรุปฺปาทํ โหติ, อนฺโตวสฺเส วิพฺภนฺโตปิ ลภเตติ โยชนา. ‘‘ตตฺรชํ สเจ’’ติ อิมินา จสฺส ทายกานํ วสฺสาวาสิกปจฺจยวเสน คาหิตํ ปน น ลภตีติ ทีเปติ. ยถาห – ‘‘ปจฺจยวเสน คาหิตํ ปน น ลภตีติ วทนฺตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๑๘).
๒๘๔๖-๘. สเจ วุตฺถวสฺโส โย ภิกฺขุ อาวาสิกหตฺถโต กิฺจิ ติจีวราทิกํ กปฺปิยภณฺฑํ อตฺตโน คเหตฺวา ‘‘อสุกสฺมึ กุเล มยฺหํ คหิตํ วสฺสาวาสิกจีวรํ คณฺห’’ อิติ เอวํ วตฺวา ตสฺส อาวาสิกสฺส ทตฺวา ทิสํ คจฺฉติ ปกฺกมติ, โส ตตฺถ คตฏฺาเน สเจ อุปฺปพฺพชติ คิหี โหติ, ตสฺส ทิสํคตสฺส สมฺปตฺตํ ตํ วสฺสาวาสิกํ เตน ตถา ทินฺนมฺปิ อาวาสิโก ภิกฺขุ คเหตุํ น ลภติ, ตสฺส ปาปิตํ วสฺสาวาสิกจีวรํ สงฺฆิกํเยว สิยาติ โยชนา. ยถาห – ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, วสฺสํวุตฺโถ ภิกฺขุ วิพฺภมติ, สงฺฆสฺเสเวต’’นฺติ.
๒๘๔๙. ตสฺมึ กุเล ทายเก มนุสฺเส สมฺมุขา เจ ปฏิจฺฉาเปติ, ตสฺส ทิสํคมิสฺส สมฺปตฺตํ วสฺสาวาสิกจีวรํ อาวาสิโก ลภตีติ โยชนา.
๒๘๕๐. ตตฺถ อาราโม นาม ปุปฺผาราโม วา ผลาราโม วา. วิหาโร นาม ยํ กิฺจิ ปาสาทาทิเสนาสนํ. วตฺถูนิ ทุวิธสฺสปีติ อารามวตฺถุ, วิหารวตฺถูติ ทุวิธสฺส วตฺถูนิ ¶ จ. อารามวตฺถุ นาม เตสํเยว อารามานํ อตฺถาย ปริจฺฉินฺทิตฺวา ปิโตกาโส, เตสุ วา อาราเมสุ วินฏฺเสุ เตสํ โปราณกภูมิภาโค. วิหารวตฺถุ นาม ตสฺส ปติฏฺาโนกาโส. ภิสิ นาม อุณฺณภิสิอาทีนํ ปฺจนฺนํ อฺตรา. พิมฺโพหนํ นาม วุตฺตปฺปการานํ พิมฺโพหนานํ อฺตรํ. มฺจํ นาม มสารโก พุนฺทิกาพทฺโธ, กุฬีรปาทโก, อาหจฺจปาทโกติ อิเมสํ ปุพฺเพ วุตฺตานํ จตุนฺนํ มฺจานํ อฺตรํ. ปีํ นาม มสารกาทีนํเยว จตุนฺนํ ปีานํ อฺตรํ.
๒๘๕๑. โลหกุมฺภี ¶ นาม กาฬโลเหน วา ตมฺพโลเหน วา เยน เกนจิ โลเหน กตา กุมฺภี. กฏาโห ปากโฏว. ‘‘ภาณก’’นฺติ อลฺชโร วุจฺจติ. อลฺชโรติ จ พหุอุทกคณฺหนิกา มหาจาฏิ, ชลํ คณฺหิตุํ อลนฺติ อลฺชโร. ‘‘วฏฺฏจาฏิ วิย หุตฺวา โถกํ ทีฆมุโข มชฺเฌ ปริจฺเฉทํ ทสฺเสตฺวา กโต’’ติ คณฺิปเท วุตฺตํ. วารโกติ ฆโฏ. กุ วุจฺจติ ปถวี, ตสฺสา ทาลนโต วิทารณโต ‘‘กุทาโล’’ติ อโยมยอุปกรณวิเสโส วุจฺจติ.
๒๘๕๒. วลฺลิเวฬุอาทีสุ เวฬูติ มหาเวณุ. ติณนฺติ เคหจฺฉาทนํ ติณํ. ปณฺณํ ตาลปณฺณาทิกํ. มฺุชนฺติ มฺุชติณํ. ปพฺพชนฺติ ปพฺพชติณํ, มตฺติกา ปกติมตฺติกา วา เครุกาทิปฺจวณฺณา วา มตฺติกา. อาห จ อฏฺกถาจริโย.
๒๘๕๓. ทฺเวติ ปมทุติยครุภณฺฑานิ. ทฺวีหิ สงฺคหิตานิ ‘‘อาโรโม, อารามวตฺถุ, อิทํ ปมํ. วิหาโร, วิหารวตฺถุ, อิทํ ทุติย’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๑-๓๒๒) วุตฺตตฺตา. จตุสงฺคหนฺติ จตูหิ ภิสิอาทีหิ ¶ สงฺคโห ยสฺสาติ วิคฺคโห. นวโกฏฺาสนฺติ โลหกุมฺภิอาทโย นว โกฏฺาสา อสฺสาติ วิคฺคโห. อฏฺธา วลฺลิอาทีหิ อฏฺหิ ปกาเรหิ.
๒๘๕๔. อิตีติ นิทสฺสนตฺเถ. เอวํ วุตฺตนเยน ปฺจหิ ราสีหิ นิทฺทิฏฺานํ ครุภณฺฑคณนานํ ปิณฺฑวเสน ปฺจวีสติวิธํ ครุภณฺฑํ ปฺจนิมฺมลโลจโน นาโถ ปกาสยีติ โยชนา. ปฺจ นิมฺมลานิ โลจนานิ ยสฺสาติ วิคฺคโห, มํสทิพฺพธมฺมพุทฺธสมนฺตจกฺขุวเสน ปฺจวิธวิปฺปสนฺนโลจโนติ อตฺโถ.
๒๘๕๕. วิสฺสชฺเชนฺโตติ อิสฺสรวตาย ปรสฺส วิสฺสชฺเชนฺโต. วิภาเชนฺโตติ วสฺสคฺเคน ปาเปตฺวา วิภาเชนฺโต. อิทฺหิ สพฺพมฺปิ ครุภณฺฑํ เสนาสนกฺขนฺธเก (จูฬว. ๓๒๑) ‘‘อวิสฺสชฺชิยํ. กิฏาคิริวตฺถุมฺหิ (จูฬว. ๓๒๒) อเวภงฺคิย’’นฺติ จ วุตฺตํ. อุภยตฺถ อาคตโวหารเภททสฺสนมุเขน ตตฺถ วิปฺปฏิปชฺชนฺตสฺส อาปตฺตึ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ภิกฺขุ ถุลฺลจฺจยํ ผุเส’’ติ. ปริวาเร ปน –
อวิสฺสชฺชิยํ ¶ อเวภงฺคิยํ, ปฺจ วุตฺตา มเหสินา;
วิสฺสชฺเชนฺตสฺส ปริภฺุชนฺตสฺส อนาปตฺติ;
ปฺหา เมสา กุสเลหิ จินฺติตาติ. (ปริ. ๔๗๙) –
อาคตํ. ตสฺมา มูลจฺเฉชฺชวเสน อวิสฺสชฺชิยํ, อเวภงฺคิยฺจ, ปริวตฺตนวเสน ปน วิสฺสชฺเชนฺตสฺส, ปริภฺุชนฺตสฺส จ อนาปตฺตีติ เอวเมตฺถ อธิปฺปาโย.
๒๘๕๖. ภิกฺขุนา ปุคฺคเลน วา สงฺเฆน วา คเณน วา ครุภณฺฑํ ตุ วิสฺสชฺชิตํ อวิสฺสฏฺเมว โหติ, วิภตฺตฺจ อวิภาชิตเมว โหตีติ โยชนา.
๒๘๕๗. เอตฺถ ¶ เอเตสุ ปฺจสุ ครุภณฺเฑสุ ปุริเมสุ ตีสุ อครุภณฺฑกํ กิฺจิ น จ อตฺถีติ โยชนา. จตุตฺเถ ปน ครุภณฺเฑ อฏฺกถาย ‘‘โลหกุมฺภี, โลหภาณกํ, โลหกฏาหนฺติ อิมานิ ตีณิ มหนฺตานิ วา โหนฺตุ ขุทฺทกานิ วา, อนฺตมโส ปสตมตฺตอุทกคณฺหนกานิปิ ครุภณฺฑานิเยวา’’ติ วุตฺตนยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘โลหกุมฺภี’’ติอาทิ.
๒๘๕๘. อิทํ ติวิธนฺติ สมฺพนฺโธ. ปาทคณฺหนโกติ เอตฺถ ปาโท นาม มคธนาฬิยา ปฺจนาฬิมตฺตคณฺหนโก ภาชนวิเสโส. ภาชนานํ ปมาณํ กโรนฺตา สีหฬทีเป เยภุยฺเยน เตเนว ปาเทน มินนฺติ. ตสฺมา อฏฺกถายํ ‘‘สีหฬทีเป ปาทคณฺหนโก ภาเชตพฺโพ’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) วุตฺตํ. โลหวารโกติ กาฬโลหตมฺพโลหวฏฺฏโลหกํสโลหานํ เยน เกนจิ กโต. ภาชิโยติ ภาเชตพฺโพ.
๒๘๕๙. ตโต อุทฺธนฺติ ตโต ปาทคณฺหนกวารกโต อุทฺธํ อธิกํ คณฺหนโก. เอวํ ปาฬิอาคตานํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อฏฺกถาคตานํ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) ทสฺเสตุมาห ‘‘ภิงฺคาราทีนี’’ติอาทิ. ภิงฺคาโร นาม อุกฺขิตฺตหตฺถิโสณฺฑากาเรน กตชลนิคฺคมกณฺณิโก อุจฺจคีโว มหามุขอุทกภาชนวิเสโส. อาทิ-สทฺเทน อฏฺกถาคตานิ ‘‘ปฏิคฺคหอุฬุงฺกทพฺพิกฏจฺฉุปาติตฏฺฏกสรกสมุคฺคองฺคารกปลฺลธูมกฏจฺฉุอาทีนิ ขุทฺทกานิ วา มหนฺตานิ วา’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) วุตฺตานิ สงฺคณฺหาติ. สพฺพานีติ ขุทฺทกานิ วา มหนฺตานิ วา.
๒๘๖๐. ตมฺพถาลกา ¶ อยถาลกา ภาเชตพฺพาติ โยชนา. จ-สทฺเทน อฏฺกถายํ วุตฺตํ ‘‘เปตฺวา ปน ภาชนวิกตึ ¶ อฺสฺมิมฺปิ กปฺปิยโลหภณฺเฑ อฺชนี อฺชนิสลากา กณฺณมลหรณี สูจิ ปณฺณสูจิ ขุทฺทโก ปิปฺผลโก ขุทฺทกํ อารกณฺฏกํ กฺุจิกา ตาฬํ กตฺตรยฏฺิเวธโก นตฺถุทานํ ภินฺทิวาโล โลหกูโฏ โลหกุฏฺฏิ โลหคุโฬ โลหปิณฺฑิ โลหอรณี จกฺกลิกํ อฺมฺปิ วิปฺปกตํ โลหภณฺฑํ ภาชิย’’นฺติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) วจนํ สงฺคณฺหาติ. ธูมเนตฺตนฺติ ธูมนาฬิกา. อาทิ-สทฺเทน ‘‘ผาลทีปรุกฺขทีปกปลฺลกโอลมฺพกทีปกอิตฺถิปุริสติรจฺฉานคตรูปกานิ ปน อฺานิ วา ภิตฺติจฺฉทนกวาฏาทีสุ อุปเนตพฺพานิ อนฺตมโส โลหขิลกํ อุปาทาย สพฺพานิ โลหภณฺฑานิ ครุภณฺฑานิเยว โหนฺตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) วุตฺตํ สงฺคณฺหาติ.
๒๘๖๑. อตฺตนา ปฏิลทฺธนฺติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ, อตฺตนา ปฏิลทฺธมฺปีติ อตฺโถ. ภิกฺขุนา อตฺตนา ปฏิลทฺธมฺปิ ตํ โลหภณฺฑํ กิฺจิปิ ปุคฺคลิกปริโภเคน น ภฺุชิตพฺพนฺติ โยชนา.
๒๘๖๒. กํสวฏฺฏโลหานํ วิการภูตานิ ตมฺพมยภาชนานิปิ ปุคฺคลิกปริโภเคน สพฺพโส ปริภฺุชิตุํ น วฏฺฏนฺตีติ โยชนา.
๒๘๖๓. เอเสว นโยติ ‘‘น ปุคฺคลิกโภเคนา’’ติอาทินา ทสฺสิตนโย. สงฺฆิเกสุ วา คิหีนํ สนฺตเกสุ วา ยถาวุตฺตภณฺเฑสุ ปริโภคปจฺจยา โทโส น อตฺถีติ โยชนา. ‘‘กํสโลหาทิภาชนํ สงฺฆสฺส ทินฺนมฺปิ ปาริหาริยํ น วฏฺฏติ, คิหิวิกตนีหาเรเนว ปริภฺุชิตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. เอตฺถ จ ปาริหาริยํ น วฏฺฏติ อตฺตโน สนฺตกํ วิย คเหตฺวา ปริภฺุชิตุํ น วฏฺฏตีติ. ‘‘คิหิวิกตนีหาเรเนว ¶ ปริภฺุชิตพฺพ’’นฺติ อิมินา สเจ อารามิกาทโย ปฏิสาเมตฺวา ปฏิเทนฺติ, ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ.
๒๘๖๔. ขีรปาสาณนฺติ มุทุกา ปาณชาติ. วุตฺตฺหิ มาติกาฏฺกถาคณฺิปเท ‘‘ขีรปาสาโณ นาม มุทุโก ปาสาโณ’’ติ. ครุกนฺติ ครุภณฺฑํ. ตฏฺฏกาทิกนฺติ อาทิ-สทฺเทน สรกาทีนํ ¶ สงฺคโห. ฆฏโกติ ขีรปาสาณมโยเยว วารโก. ‘‘ปาทคณฺหนโต อุทฺธ’’นฺติ อิมินา ปาทคณฺหนโก อครุภณฺฑนฺติ ทีเปติ.
๒๘๖๕. ‘‘สุวณฺณรชตหารกูฏชาติผลิกภาชนานิ คิหิวิกตานิปิ น วฏฺฏนฺติ, ปเคว สงฺฆิกปริโภเคน วา ปุคฺคลิกปริโภเคน วา’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) อฏฺกถายํ วุตฺตนยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สิงฺคี’’ติอาทิ. สิงฺคีติ สุวณฺณํ. สชฺฌุ รชตํ. หารกูฏํ นาม สุวณฺณวณฺณํ โลหชาตํ. ผลิเกน อุพฺภวํ ชาตํ, ผลิกมยํ ภาชนนฺติ อตฺโถ. คิหีนํ สนฺตกานิปีติ อปิ-สทฺเทน คิหิวิกตปริโภเคนาปิ ตาว น วฏฺฏนฺติ, ปเคว สงฺฆิกปริโภเคน วา ปุคฺคลิกปริโภเคน วาติ ทีเปติ. เสนาสนปริโภเค ปน อามาสมฺปิ อนามาสมฺปิ สพฺพํ วฏฺฏติ.
๒๘๖๖. ขุทฺทาติ ยาย วาสิยา เปตฺวา ทนฺตกฏฺจฺเฉทนํ วา อุจฺฉุตจฺฉนํ วา อฺํ มหากมฺมํ กาตุํ น สกฺกา, เอวรูปา ขุทฺทกา วาสิ ภาชนียา. มหตฺตรีติ ยถาวุตฺตปฺปมาณาย วาสิยา มหนฺตตรา เยน เกนจิ อากาเรน กตวาสิ ครุภณฺฑํ. เวชฺชานํ สิราเวธนกมฺปิ จ ผรสุ ตถา ครุภณฺฑนฺติ โยชนา.
๒๘๖๗. กุารีติ ¶ เอตฺถ ผรสุสทิโสว วินิจฺฉโย. ยา ปน อาวุธสงฺเขเปน กตา, อยํ อนามาสา. กุทาโล อนฺตมโส จตุรงฺคุลมตฺโตปิ. สิขรนฺติ ธนุรชฺชุโต นาเมตฺวา ทารุอาทีนํ วิชฺฌนกกณฺฏโก. เตเนวาติ นิขาทเนเนว.
๒๘๖๘. นิขาทนสฺส เภทวนฺตตาย ตํ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุมาห ‘‘จตุรสฺสมุขํ โทณิมุข’’นฺติ. โทณิมุขนฺติ โทณิ วิย อุภยปสฺเสน นามิตมุขํ. วงฺกนฺติ อคฺคโต นาเมตฺวา กตนิขาทนํ. ปิ-สทฺเทน อุชุกํ สงฺคณฺหาติ. ตตฺถ จาติ ตสฺมึ นิขาทเน. สทณฺฑํ ขุทฺทกฺจ นิขาทนํ สพฺพํ ครุภณฺฑนฺติ โยชนา. ‘‘สทณฺฑํ ขุทฺทก’’นฺติ อิมินา วิเสสนทฺวเยน อทณฺฑํ ผลมตฺตํ สิปาฏิกาย เปตฺวา ปริหรณโยคฺคํ สมฺมชฺชนิทณฺฑเวธนกํ นิขาทนํ อครุภณฺฑํ, ตโต มหนฺตํ นิขาทนํ อทณฺฑมฺปิ ครุภณฺฑนฺติ ทีเปติ. เยหิ มนุสฺเสหิ วิหาเร วาสิอาทีนิ ทินฺนานิ จ โหนฺติ, เต เจ ฆเร ทฑฺเฒ วา โจเรหิ วา วิลุตฺเต ‘‘เทถ โน, ภนฺเต, อุปกรเณ ¶ ปุน ปากติเก กริสฺสามา’’ติ วทนฺติ, ทาตพฺพา. สเจ อาหรนฺติ, น วาเรตพฺพา, อนาหรนฺตาปิ น โจเทตพฺพา.
๒๘๖๙. ‘‘กมฺมารตฏฺฏการจุนฺทการนฬการมณิการปตฺตพนฺธกานํ อธิกรณิมุฏฺิกสณฺฑาสตุลาทีนิ สพฺพานิ โลหมยอุปกรณานิ สงฺเฆ ทินฺนกาลโต ปฏฺาย ครุภณฺฑานิ. ติปุโกฏฺฏกสุวณฺณการจมฺมการอุปกรเณสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปน วิเสโส – ติปุโกฏฺฏกอุปกรเณสุปิ ติปุจฺเฉทนสตฺถกํ, สุวณฺณการอุปกรเณสุ สุวณฺณจฺเฉทนสตฺถกํ, จมฺมการอุปกรเณสุ กตปริกมฺมจมฺมฉินฺทนกํ ขุทฺทกสตฺถนฺติ อิมานิ ภาชนียภณฺฑานี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) อฏฺกถาคตํ วินิจฺฉเยกเทสํ ทสฺเสตุมาห ‘‘มุฏฺิก’’นฺติอาทิ ¶ . ตุลาทิกนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน กตฺตริอาทิอุปกรณํ สงฺคณฺหาติ.
๒๘๗๐. ‘‘นหาปิตตุนฺนการานํ อุปกรเณสุปิ เปตฺวา มหากตฺตรึ, มหาสณฺฑาสํ, มหาปิปฺผลกฺจ สพฺพํ ภาชนียํ. มหากตฺตริอาทีนิ ครุภณฺฑานี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) อฏฺกถาคตํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘นฺหาปิตกสฺสา’’ติอาทิ. นฺหาปิตกสฺส อุปกรเณสุ สณฺฑาโส, มหตฺตรี กตฺตรี จ ตุนฺนการานฺจ อุปกรเณสุ มหตฺตรี กตฺตรี จ มหาปิปฺผลกฺจ ครุภณฺฑกนฺติ โยชนา.
๒๘๗๑. เอตฺตาวตา จตุตฺถครุภณฺเฑ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปฺจมครุภณฺเฑ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘วลฺลี’’ติอาทิ. เวตฺตลตาทิกา วลฺลิ ทุลฺลภฏฺาเน สงฺฆสฺส ทินฺนา วา ตตฺถ สงฺฆสฺส ภูมิยํ ชาตา, รกฺขิตา โคปิตา วา อฑฺฒพาหุปฺปมาณา ครุภณฺฑํ โหตีติ โยชนา. ‘‘อฑฺฒพาหูติ กปฺปรโต ปฏฺาย ยาว อํสกูฏ’’นฺติ คณฺิปเท วุตฺตํ. ‘‘อฑฺฒพาหุ นาม วิทตฺถิจตุรงฺคุล’’นฺติปิ วทนฺติ. สเจ สา วลฺลิ สงฺฆกมฺเม, เจติยกมฺเม จ กเต อติเรกา โหติ, ปุคฺคลิกกมฺเมปิ อุปเนตุํ วฏฺฏติ. อรกฺขิตา ปน ครุภณฺฑเมว น โหติ.
๒๘๗๒. อฏฺกถายํ ‘‘สุตฺตมกจิวากนาฬิเกรหีรจมฺมมยา รชฺชุกา วา โยตฺตานิ วา วาเก จ นาฬิเกรหีเร จ วฏฺเฏตฺวา กตา เอกวฏฺฏา วา ทฺวิวฏฺฏา วา สงฺฆสฺส ทินฺนกาลโต ปฏฺาย ครุภณฺฑํ. สุตฺตํ ปน อวฏฺเฏตฺวา ทินฺนํ, มกจิวากนาฬิเกรหีรา จ ภาชนียา’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) อาคตวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สุตฺตวากาทินิพฺพตฺตา’’ติอาทิ. วากาทีติ ¶ อาทิ-สทฺเทน มกจิวากนาฬิเกรหีรจมฺมานํ คหณํ. นาติทีฆา รชฺชุกา. อติทีฆํ โยตฺตกํ.
๒๘๗๓. นาฬิเกรสฺส ¶ หีเร วา มกจิวาเก วา วฏฺเฏตฺวา กตา เอกวฏฺฏาปิ ครุภณฺฑกนฺติ โยชนา. เยหิ ปเนตานิ รชฺชุกโยตฺตาทีนิ ทินฺนานิ โหนฺติ, เต อตฺตโน กรณีเยน หรนฺตา น วาเรตพฺพา.
๒๘๗๔. วฑฺฒกิองฺคุเลน อฏฺงฺคุลายโต สูจิทณฺฑมตฺโต ปริณาหโต สีหฬทีเป เลขกานํ เลขนิสูจิทณฺฑมตฺโต สงฺฆสฺส ทินฺโน วา ตตฺถชาตโก วา รกฺขิโต โคปิโต เวฬุ ครุภณฺฑํ สิยาติ โยชนา. ‘‘ยํ มชฺฌิมปุริสสฺส กนิฏฺงฺคุลิยา อคฺคปฺปมาณํ, อิทํ สีหฬทีเป เลขกานํ เลขนิสูจิยา ปมาณ’’นฺติ วทนฺติ. โส จ สงฺฆกมฺเม จ เจติยกมฺเม จ กเต อติเรโก ปุคฺคลิกกมฺเม ทาตุํ วฏฺฏติ.
๒๘๗๕. ทณฺโฑ จ สลากา จ ทณฺฑสลากา, ฉตฺตสฺส ทณฺฑสลากาติ วิคฺคโห. ฉตฺตทณฺโฑ นาม ฉตฺตปิณฺฑิ. ฉตฺตสลากาติ ฉตฺตปฺชรสลากา. ทณฺโฑติ อุปาหนทณฺฑโก. ‘‘ทณฺโฑ’’ติ สามฺเน วุตฺเตปิ อฏฺกถาคเตสุ สรูเปน อิธาวุตฺโต อุปาหนทณฺโฑเยว สามฺวจเนน ปาริเสสโต คเหตพฺโพติ. ทฑฺฒเคหมนุสฺสา คณฺหิตฺวา คจฺฉนฺตา น วาเรตพฺพา.
๒๘๗๖. มฺุชาทีสุ เคหจฺฉทนารเหสุ ติเณสุ ยํ กิฺจิ มุฏฺิมตฺตํ ติณํ วา เคหจฺฉทนารหํ ตาลปณฺณาทิ เอกมฺปิ สงฺฆสฺส ทินฺนํ วา ตตฺถ สงฺฆิกภูมิยํ ชาตํ วา ครุภณฺฑํ สิยาติ โยเชตพฺพา. ตตฺถ มุฏฺิมตฺตํ นาม กรฬมตฺตํ. อิทฺจ กรฬํ กตฺวา ฉาเทนฺตานํ ฉทนกรฬวเสน คเหตพฺพํ. ตาลปณฺณาทีติ อาทิ-สทฺเทน นาฬิเกรปณฺณาทิเคหจฺฉทนปณฺณานํ คหณํ. ตมฺปิ มฺุชาทิ สงฺฆกมฺเม จ เจติยกมฺเม จ กเต อติเรกํ ปุคฺคลิกกมฺเม ทาตุํ วฏฺฏติ. ทฑฺฒเคหมนุสฺสา คเหตฺวา คจฺฉนฺติ, น วาเรตพฺพาติ.
๒๘๗๗-๘. อฏฺงฺคุลปฺปมาโณติ ¶ ทีฆโต อฏฺงฺคุลมตฺโต. เกจิ ‘‘ปุถุลโต’’ติ วทนฺติ. ริตฺตโปตฺถโกติ เลขาหิ สฺุโปตฺถโก, น ลิขิตโปตฺถโกติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อฏฺงฺคุลปฺปมาโณ’’ติ ¶ อิมินา อฏฺงฺคุลโต อูนปฺปมาโณ ภาชิโย, ‘‘ริตฺตโปตฺถโก’’ติ อิมินา อฏฺงฺคุลโต อติเรกปฺปมาโณปิ ลิขิตโปตฺถโก ภาชิโยติ ทสฺเสติ.
‘‘มตฺติกา ปกติมตฺติกา วา โหตุ ปฺจวณฺณา วา สุธา วา สชฺชุรสกงฺคุฏฺสิเลสาทีสุ วา ยํ กิฺจิ ทุลฺลภฏฺาเน อาเนตฺวา วา ทินฺนํ ตตฺถชาตกํ วา รกฺขิตโคปิตํ ตาลผลปกฺกมตฺตํ ครุภณฺฑํ โหตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) อฏฺกถาคตวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘มตฺติกา’’ติอาทิ. ปากติกา วา เสตเครุกาทิปฺจวณฺณา วาปิ มตฺติกาติ โยชนา. สิเลโส นาม กพิฏฺาทิสิเลโส. อาทิ-สทฺเทน สชฺชุรสกงฺคุฏฺาทีนํ คหณํ. ตาลปกฺกปมาณนฺติ เอกฏฺิตาลผลปมาณาปิ. ตมฺปิ มตฺติกาทิ สงฺฆกมฺเม, เจติยกมฺเม จ นิฏฺิเต อติเรกํ ปุคฺคลิกกมฺเม ทาตุํ วฏฺฏติ.
๒๘๗๙-๘๐. ‘‘เวฬุอาทิก’’นฺติ ปทจฺเฉโท. รกฺขิตํ โคปิตํ วาปิ คณฺหตา สมกํ วา อติเรกํ วา ถาวรํ อนฺตมโส ตํอคฺฆนกํ วาลิกเมว วา ทตฺวา คเหตพฺพนฺติ โยชนา.
อฏฺกถายํ ปน ‘‘รกฺขิตโคปิตํ เวฬุํ คณฺหนฺเตน สมกํ วา อติเรกํ วา ถาวรํ อนฺตมโส ตํอคฺฆนกวาลิกายปิ ผาติกมฺมํ กตฺวา คเหตพฺโพ. ผาติกมฺมํ อกตฺวา คณฺหนฺเตน ตตฺเถว วฬฺเชตพฺโพ, คมนกาเล สงฺฆิเก อาวาเส เปตฺวา คนฺตพฺพํ. อสติยา คเหตฺวา คเตน ¶ ปน ปหิณิตฺวา ทาตพฺโพ. เทสนฺตรคเตน สมฺปตฺตวิหาเร สงฺฆิกาวาเส เปตพฺโพ’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) เวฬุมฺหิเยว อยํ วินิจฺฉโย วุตฺโต, อิธ ปน ‘‘วลฺลิเวฬาทิกํ กิฺจี’’ติ วลฺลิอาทีนมฺปิ สามฺเน วุตฺตตฺตา ตํ อุปลกฺขณมตฺตํ วลฺลิอาทีสุปิ ยถารหํ ลพฺภตีติ เวทิตพฺพํ.
๒๘๘๑. อฺชนนฺติ สิลามโย. เอวํ หริตาลมโนสิลาปิ.
๒๘๘๒. ทารุภณฺเฑ อยํ วินิจฺฉโย – ปริณาหโต ยถาวุตฺต สูจิทณฺฑปฺปมาณโก อฏฺงฺคุลทีโฆ โย โกจิ ทารุภณฺฑโก ทารุทุลฺลภฏฺาเน สงฺฆสฺส ทินฺโน วา ตตฺถชาตโก วา รกฺขิตโคปิโต ครุภณฺฑํ โหตีติ โยชนา.
๒๘๘๓. เอวํ ¶ กุรุนฺทฏฺกถาย อาคตวินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา มหาอฏฺกถาย (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) อาคตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘มหาอฏฺกถาย’’นฺติอาทิ. ตตฺถ อาสนฺทิกสตฺตงฺคา วุตฺตลกฺขณาว. ‘‘ภทฺทปี’’นฺติ เวตฺตมยํ ปีํ วุจฺจติ. ปีิกาติ ปิโลติกาพทฺธปีเมว.
๒๘๘๔. เอฬกปาทปีํ นาม ทารุปฏฺฏิกาย อุปริ ปาเท เปตฺวา โภชนปลฺลงฺกํ วิย กตปีํ วุจฺจติ. ‘‘อามลกวฏฺฏกปี’’นฺติ เอตสฺส ‘‘อามณฺฑกวฏฺฏก’’นฺติ ปริยาโย, ตสฺมา อุภเยนาปิ อามลกากาเรน โยชิตํ พหุปาทกปีํ วุจฺจติ. เกสุจิ โปตฺถเกสุ ‘‘ตถามณฺฑกปีก’’นฺติ ปาโ. คาถาพนฺธวเสน มณฺฑก-สทฺทปโยโค. โกจฺฉํ ภูตคามวคฺเค จตุตฺถสิกฺขาปเท วุตฺตสรูปํ. ปลาลปีนฺติ นิปชฺชนตฺถาย กตา ปลาลภิสิ, อิมินา กทลิปตฺตาทิมยปีมฺปิ อุปลกฺขณโต ทสฺสิตํ. ยถาห – ‘‘ปลาลปีเน เจตฺถ กทลิปตฺตาทิปีานิปิ สงฺคหิตานี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑). โธวเน ¶ ผลกนฺติ จีวรโธวนผลกํ, โธวนาทิสทฺทานํ วิเยตฺถ วิภตฺติอโลโป. อิเมสุ ตาว ยํ กิฺจิ ขุทฺทกํ วา โหตุ มหนฺตํ วา, สงฺฆสฺส ทินฺนํ ครุภณฺฑํ โหติ. พฺยคฺฆจมฺมโอนทฺธมฺปิ วาฬรูปปริกฺขิตฺตํ รตนปริสิพฺพิตํ โกจฺฉํ ครุภณฺฑเมว.
๒๘๘๕. ภณฺฑิกาติ ทณฺฑกฏฺจฺเฉทนภณฺฑิกา. มุคฺคโรติ ทณฺฑมุคฺคโร. ทณฺฑมุคฺคโร นาม เยน รชิตจีวรํ โปเถนฺติ. วตฺถฆฏฺฏนมุคฺคโรติ จีวรฆฏฺฏนมุคฺคโร, เยน อนุวาตาทึ ฆฏฺเฏนฺติ. อมฺพณนฺติ ผลเกหิ โปกฺขรณิสทิสํ กตปานียภาชนํ. มฺชูสา นาม โทณิเปฬา. นาวา โปโต. รชนโทณิกา นาม ยตฺถ จีวรํ รชนฺติ, ปกฺกรชนํ วา อากิรนฺติ.
๒๘๘๖. อุฬุงฺโกติ นาฬิเกรผลกฏาหาทิมโย อุฬุงฺโก. อุภยํ ปิธานสมโก สมุคฺโค. ‘‘ขุทฺทโก ปริวิธโน กรณฺฑ’’นฺติ วทนฺติ. กรณฺโฑ จ ปาทคณฺหนกโต อติเรกปฺปมาโณ อิธ อธิปฺเปโต. กฏจฺฉูติ ทพฺพิ. อาทิ-สทฺเทน ปานียสราวปานียสงฺขาทีนํ คหณํ.
๒๘๘๗. เคหสมฺภารนฺติ เคโหปกรณํ. ถมฺภตุลาโสปานผลกาทิ ทารุมยํ, ปาสาณมยมฺปิ อิมินาว คหิตํ. กปฺปิยจมฺมนฺติ ‘‘เอฬกาชมิคาน’’นฺติอาทินา (วิ. วิ. ๒๖๕๐) เหฏฺา ทสฺสิตํ กปฺปิยจมฺมํ. ตพฺพิปริยายํ อกปฺปิยํ. อภาชิยํ ครุภณฺฑตฺตา. ภูมตฺถรณํ กตฺวา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ.
๒๘๘๘. อฏฺกถายํ ¶ ‘‘เอฬกจมฺมํ ปน ปจฺจตฺถรณคติกเมว โหติ, ตมฺปิ ครุภณฺฑเมวา’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) วุตฺตตฺตา อาห ‘‘เอฬจมฺมํ ครุํ วุตฺต’’นฺติ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘สพฺพํ มฺจปฺปมาณํ จมฺมํ ครุภณฺฑ’’นฺติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) ¶ วุตฺตํ. เอตฺถ จ ‘‘ปจฺจตฺถรณคติกเมวา’’ติ อิมินา มฺจปีเปิ อตฺถริตุํ วฏฺฏตีติ ทีเปติ. ‘‘ปาวาราทิปจฺจตฺถรณมฺปิ ครุภณฺฑ’’นฺติ เอเก, ‘‘โน’’ติ อปเร, วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ. มฺจปฺปมาณนฺติ จ ปมาณยุตฺตํ มฺจํ. ปมาณยุตฺตมฺโจ นาม ยสฺส ทีฆโส นว วิทตฺถิโย ติริยฺจ ตทุปฑฺฒํ. อุทฺธํ มุขมสฺสาติ อุทุกฺขลํ. อาทิ-สทฺเทน มุสลํ, สุปฺปํ, นิสทํ, นิสทโปโต, ปาสาณโทณิ, ปาสาณกฏาหฺจ สงฺคหิตํ. เปสการาทีติ อาทิ-สทฺเทน จมฺมการาทีนํ คหณํ. ตุริเวมาทิ เปสการภณฺฑฺจ ภสฺตาทิ จมฺมการภณฺฑฺจ กสิภณฺฑฺจ ยุคนงฺคลาทิ สงฺฆิกํ สงฺฆสนฺตกํ ครุภณฺฑนฺติ โยชนา.
๒๘๘๙. ‘‘ตเถวา’’ติ อิมินา ‘‘สงฺฆิก’’นฺติ อิทํ ปจฺจามสติ. อาธารโกติ ปตฺตาธาโร. ตาลวณฺฏนฺติ ตาลวณฺเฏหิ กตํ. เวฬุทนฺตวิลีเวหิ วา โมรปิฺเฉหิ วา จมฺมวิกตีหิ วา กตมฺปิ ตํสทิสํ ‘‘ตาลวณฺฏ’’นฺเตว วุจฺจติ. วฏฺฏวิธูปนานํ ตาลวณฺเฏเยว อนฺโตคธตฺตา ‘‘พีชนี’’ติ จตุรสฺสวิธูปนฺจ เกตกปาโรหกุนฺตาลปณฺณาทิมยทนฺตมยวิสาณมยทณฺฑกมกสพีชนี จ วุจฺจติ. ปจฺฉิ ปากฏาเยว. ปจฺฉิโต ขุทฺทโก ตาลปณฺณาทิมโย ภาชนวิเสโส จงฺโกฏกํ. สพฺพา สมฺมชฺชนีติ นาฬิเกรหีราทีหิ พทฺธา ยฏฺิสมฺมชฺชนี, มุฏฺิสมฺมชฺชนีติ ทุวิธา ปริเวณงฺคณาทิสมฺมชฺชนี จ ตเถว ทุวิธา ขชฺชูรินาฬิเกรปณฺณาทีหิ พทฺธา เคหสมฺมชฺชนี จาติ สพฺพาปิ สมฺมชฺชนี ครุภณฺฑํ โหติ.
๒๘๙๐. จกฺกยุตฺตกยานนฺติ หตฺถวฏฺฏกสกฏาทิยุตฺตยานฺจ.
๒๘๙๑. ฉตฺตนฺติ ปณฺณกิลฺชเสตจฺฉตฺตวเสน ติวิธํ ฉตฺตํ. มุฏฺิปณฺณนฺติ ตาลปณฺณํ สนฺธาย วุตฺตํ. วิสาณภาชนฺจ ตุมฺพภาชนฺจาติ ¶ วิคฺคโห, เอกเทสสรูเปกเสโส, คาถาพนฺธวเสน นิคฺคหิตาคโม จ. วิสาณมยํ, ภาชนํ ตุมฺพมยํ ภาชนฺจาติ อตฺโถ. อิธ ‘‘ปาทคณฺหนกโต อติริตฺตปฺปมาณ’’นฺติ เสโส. อรณี อรณิสหิตํ. อาทิ-สทฺเทน อามลกตุมฺพํ อนฺุาตวาสิยา ทณฺฑฺจ สงฺคณฺหาติ. ลหุ อครุภณฺฑํ, ภาชนียนฺติ อตฺโถ. ปาทคณฺหนกโต อติริตฺตปฺปมาณํ ครุภณฺฑํ.
๒๘๙๒. วิสาณนฺติ ¶ โควิสาณาทิ ยํ กิฺจิ วิสาณํ. อตจฺฉิตํ ยถาคตเมว ภาชนียํ. อนิฏฺิตํ มฺจปาทาทิ ยํ กิฺจิ ภาชนียนฺติ โยชนา. ยถาห – ‘‘มฺจปาโท มฺจอฏนี ปีปาโท ปีอฏนี วาสิผรสุอาทีนํ ทณฺโฑติ เอเตสุ ยํ กิฺจิ วิปฺปกตตจฺฉนกมฺมํ อนิฏฺิตเมว ภาชนียํ, ตจฺฉิตมฏฺํ ปน ครุภณฺฑํ โหตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑).
๒๘๙๓. นิฏฺิโต ตจฺฉิโต วาปีติ ตจฺฉิตนิฏฺิโตปิ. วิโธติ กายพนฺธเน อนฺุาตวิโธ. หิงฺคุกรณฺฑโกติ หิงฺคุมโย วา ตทาธาโร วา กรณฺฑโก. อฺชนีติ อฺชนนาฬิกา จ อฺชนกรณฺฑโก จ. สลากาโยติ อฺชนิสลากา. อุทปฺุฉนีติ หตฺถิทนฺตวิสาณาทิมยา อุทกปฺุฉนี. อิทํ สพฺพํ ภาชนียเมว.
๒๘๙๔. ปริโภคารหนฺติ มนุสฺสานํ อุปโภคปริโภคโยคฺคํ. กุลาลภณฺฑนฺติ ฆฏปิราทิกุมฺภการภณฺฑมฺปิ. ปตฺตงฺคารกฏาหนฺติ ปตฺตกฏาหํ, องฺคารกฏาหฺจ. ธูมทานํ นาฬิกา. กปลฺลิกาติ ทีปกปลฺลิกา.
๒๘๙๕. ถุปิกาติ ปาสาทาทิถุปิกา. ทีปรุกฺโขติ ปทีปาธาโร. จยนจฺฉทนิฏฺกาติ ปาการเจติยาทีนํ จยนิฏฺกา ¶ จ เคหาทีนํ ฉทนิฏฺกา จ. สพฺพมฺปีติ ยถาวุตฺตํ สพฺพมฺปิ อนวเสสํ ปริกฺขารํ.
๒๘๙๖. กฺจนโกติ สรโก. ฆฏโกติ ปาทคณฺหนกโต อนติริตฺตปฺปมาโณ ฆฏโก. ‘‘ยถา จ มตฺติกาภณฺเฑ, เอวํ โลหภณฺเฑปิ กุณฺฑิกา ภาชนียโกฏฺาสเมว ภชตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) อฏฺกถานยํ สงฺคเหตุมาห ‘‘โลหภณฺเฑปิ กุณฺฑิกาปิ จ ภาชิยา’’ติ.
๒๘๙๗. ครุ นาม ปจฺฉิมํ ครุภณฺฑตฺตยํ. ถาวรํ นาม ปุริมทฺวยํ. สงฺฆสฺสาติ สงฺเฆน. ปริวตฺเตตฺวาติ ปุคฺคลิกาทีหิ ตาทิเสหิ เตหิ ปริวตฺเตตฺวา. ตตฺรายํ ปริวตฺตนนโย (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๑) – สงฺฆสฺส นาฬิเกราราโม ทูเร โหติ, กปฺปิยการกา ตํ พหุตรํ ขาทนฺติ, ตโต สกฏเวตนํ ทตฺวา อปฺปเมว อาหรนฺติ, อฺเสํ ปน ตสฺส อารามสฺส อวิทูรคามวาสีนํ มนุสฺสานํ วิหารสฺส สมีเป อาราโม โหติ, เต สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา สเกน อาราเมน ¶ ตํ อารามํ ยาจนฺติ, สงฺเฆน ‘‘รุจฺจติ สงฺฆสฺสา’’ติ อปโลเกตฺวา สมฺปฏิจฺฉิตพฺโพ. สเจปิ ภิกฺขูนํ รุกฺขสหสฺสํ โหติ, มนุสฺสานํ ปฺจสตานิ, ‘‘นนุ ตุมฺหากํ อาราโม ขุทฺทโก’’ติ น วตฺตพฺพํ. กิฺจาปิ หิ อยํ ขุทฺทโก, อถ โข อิตรโต พหุตรํ อายํ เทติ. สเจปิ สมกเมว เทติ, เอวมฺปิ อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ ปริภฺุชิตุํ สกฺกาติ คเหตพฺพเมว.
สเจ ปน มนุสฺสานํ พหุตรา รุกฺขา โหนฺติ, ‘‘นนุ ตุมฺหากํ พหุตรา รุกฺขา’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ ‘‘อติเรกํ อมฺหากํ ปฺุํ โหตุ, สงฺฆสฺส เทมา’’ติ วทนฺติ, ชานาเปตฺวา สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. ภิกฺขูนํ รุกฺขา ผลธาริโน, มนุสฺสานํ รุกฺขา น ตาว ผลํ คณฺหนฺติ. กิฺจาปิ น คณฺหนฺติ, น ¶ จิรสฺเสว คณฺหิสฺสนฺตีติ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพเมว. มนุสฺสานํ รุกฺขา ผลธาริโน, ภิกฺขูนํ น ตาว ผลํ คณฺหนฺติ. ‘‘นนุ ตุมฺหากํ รุกฺขา ผลธาริโน’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ ‘‘คณฺหถ, ภนฺเต, อมฺหากํ ปฺุํ ภวิสฺสตี’’ติ วทนฺติ, ชานาเปตฺวา สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. เอวํ อาราเมน อาราโม ปริวตฺเตตพฺโพ. เอเตเนว นเยน อารามวตฺถุปิ วิหาโรปิ วิหารวตฺถุปิ อาราเมน ปริวตฺเตตพฺพํ. อารามวตฺถุนา จ มหนฺเตน วา ขุทฺทเกน วา อารามอารามวตฺถุวิหารวิหารวตฺถูนิ.
กถํ วิหาเรน วิหาโร ปริวตฺเตตพฺโพ? สงฺฆสฺส อนฺโตคาเม เคหํ โหติ, มนุสฺสานํ วิหารมชฺเฌ ปาสาโท, อุโภปิ อคฺเฆน สมกา, สเจ มนุสฺสา เตน ปาสาเทน ตํ เคหํ ยาจนฺติ, สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. ภิกฺขูนํ เจ มหคฺฆตรํ เคหํ โหติ, ‘‘มหคฺฆตรํ อมฺหากํ เคห’’นฺติ วุตฺเต จ ‘‘กิฺจาปิ มหคฺฆตรํ, ปพฺพชิตานํ ปน อสารุปฺปํ, น สกฺกา ตตฺถ ปพฺพชิเตหิ วสิตุํ, อิทํ ปน สารุปฺปํ, คณฺหถา’’ติ วทนฺติ, เอวมฺปิ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน มนุสฺสานํ มหคฺฆํ โหติ, ‘‘นนุ ตุมฺหากํ เคหํ มหคฺฆ’’นฺติ วตฺตพฺพํ. ‘‘โหตุ, ภนฺเต, อมฺหากํ ปฺุํ ภวิสฺสติ, คณฺหถา’’ติ วุตฺเต ปน สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. เอวํ วิหาเรน วิหาโร ปริวตฺเตตพฺโพ. เอเตเนว นเยน วิหารวตฺถุปิ อาราโมปิ อารามวตฺถุปิ วิหาเรน ปริวตฺเตตพฺพํ. วิหารวตฺถุนา จ มหคฺเฆน วา อปฺปคฺเฆน วา วิหารวิหารวตฺถุอารามอารามวตฺถูนิ. เอวํ ตาว ถาวเรน ถาวรปริวตฺตนํ เวทิตพฺพํ.
ครุภณฺเฑน ครุภณฺฑปริวตฺตเน ปน มฺจปีํ มหนฺตํ วา โหตุ ขุทฺทกํ วา, อนฺตมโส จตุรงฺคุลปาทกํ ¶ คามทารเกหิ ปํสฺวาคารเกสุ กีฬนฺเตหิ กตมฺปิ สงฺฆสฺส ทินฺนกาลโต ปฏฺาย ครุภณฺฑํ โหติ. สเจปิ ราชราชมหามตฺตาทโย เอกปฺปหาเรเนว มฺจสตํ วา มฺจสหสฺสํ วา ¶ เทนฺติ, สพฺเพ กปฺปิยมฺจา สมฺปฏิจฺฉิตพฺพา, สมฺปฏิจฺฉิตฺวา วุฑฺฒปฏิปาฏิยา ‘‘สงฺฆิกปริโภเคน ปริภฺุชถา’’ติ ทาตพฺพา, ปุคฺคลิกวเสน น ทาตพฺพา. อติเรกมฺเจ ภณฺฑาคาราทีสุ ปฺเปตฺวา ปตฺตจีวรํ นิกฺขิปิตุมฺปิ วฏฺฏติ.
พหิสีมาย ‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ ทินฺนมฺโจ สงฺฆตฺเถรสฺส วสนฏฺาเน ทาตพฺโพ. ตตฺถ เจ พหู มฺจา โหนฺติ, มฺเจน กมฺมํ นตฺถิ, ยสฺส วสนฏฺาเน กมฺมํ อตฺถิ, ตตฺถ ‘‘สงฺฆิกปริโภเคน ปริภฺุชถา’’ติ ทาตพฺโพ. มหคฺเฆน สตคฺฆนเกน, สหสฺสคฺฆนเกน วา มฺเจน อฺํ มฺจสตํ ลภติ, ปริวตฺเตตฺวา คเหตพฺพํ. น เกวลํ มฺเจน มฺโจเยว, อารามอารามวตฺถุวิหารวิหารวตฺถุปีภิสิพิมฺโพหนานิปิ ปริวตฺเตตุํ วฏฺฏนฺติ. เอส นโย ปีภิสิพิมฺโพหเนสุปิ เอเตสุ หิ กปฺปิยากปฺปิยํ วุตฺตนยเมว. ตตฺถ อกปฺปิยํ น ปริภฺุชิตพฺพํ, กปฺปิยํ สงฺฆิกปริโภเคน ปริภฺุชิตพฺพํ. อกปฺปิยํ วา มหคฺฆํ กปฺปิยํ วา ปริวตฺเตตฺวา วุตฺตวตฺถูนิ คเหตพฺพานิ, อครุภณฺฑุปคํ ปน ภิสิพิมฺโพหนํ นาม นตฺถีติ.
๒๘๙๘. ภิกฺขุ อโธเตน ปาเทน, อลฺลปาเทน วา เสนาสนํ นกฺกเมติ สมฺพนฺโธ. สยนฺติ เอตฺถ, อาสนฺติ จาติ สยนาสนํ, ปริกมฺมกตภูมตฺถรณาทิ. อลฺลปาเทน วาติ เยน อกฺกนฺตฏฺาเน อุทกํ ปฺายติ, เอวรูเปน ตินฺตปาเทน. ยถาห – ‘‘อลฺเลหิ ปาเทหีติ เยหิ อกฺกนฺตฏฺาเน อุทกํ ปฺายติ, เอวรูเปหิ ปาเทหิ ปริภณฺฑกตภูมิ วา เสนาสนํ วา น อกฺกมิตพฺพํ. สเจ ปน อุทกสิเนหมตฺตเมว ปฺายติ, น อุทกํ, วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๔). สอุปาหโนติ เอตฺถ ‘‘โธตปาทก’’นฺติ วตฺตพฺพํ. ปาเท ปฏิมุกฺกาหิ อุปาหนาหิ สอุปาหโน ภิกฺขุ โธตปาทกํ โธตปาเทหิ อกฺกมิตพฺพฏฺานํ ตเถว น อกฺกเมติ โยชนา.
๒๘๙๙. ปริกมฺมกตายาติ ¶ สุธาทิปริกมฺมกตาย. นิฏฺุภนฺตสฺสาติ เขฬํ ปาเตนฺตสฺส. ปริกมฺมกตํ ภิตฺตินฺติ เสตภิตฺตึ วา จิตฺตกมฺมกตํ วา ภิตฺตึ. น เกวลฺจ ภิตฺติเมว, ทฺวารมฺปิ วาตปานมฺปิ อปสฺเสนผลกมฺปิ ปาสาณตฺถมฺภมฺปิ รุกฺขตฺถมฺภมฺปิ จีวเรน วา เกนจิ วา อปฺปฏิจฺฉาเทตฺวา อปสฺสยิตุํ น ลภติเยว. ‘‘ทฺวารวาตปานาทโย ปน อปริกมฺมกตาปิ อปฏิจฺฉาเทตฺวา น อปสฺสยิตพฺพา’’ติ คณฺิปเท วุตฺตํ.
๒๙๐๑. นิทฺทายโต ¶ ตสฺส โกจิ สรีราวยโว ปจฺจตฺถรเณ สงฺกุฏิเต สหสา ยทิ มฺจํ ผุสติ, ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.
๒๙๐๒. โลเมสุ มฺจํ ผุสนฺเตสุ. หตฺถปาทานํ ตเลน อกฺกมิตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา. มฺจปีํ นีหรนฺตสฺส กาเย ปฏิหฺติ, อนาปตฺติ.
‘‘ทายเกหิ ‘กาเยน ผุสิตฺวา ยถาสุขํ ปริภฺุชถา’ติ ทินฺนเสนาสนํ, มฺจปีาทิฺจ ทายเกน วุตฺตนิยาเมน ปริภฺุชนฺตสฺส โทโส นตฺถี’’ติ มาติกฏฺกถาย สีหฬคณฺิปเท วุตฺตตฺตา ตถา ปริภฺุชนฺตสฺส อนาปตฺติ. ‘‘อิมํ มฺจปีาทึ สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ครุภณฺฑํ โหติ, น ภาเชตพฺพํ สงฺฆสฺส ปรามฏฺตฺตา. ‘‘อิมํ มฺจปีาทึ ภทนฺตานํ วสฺสคฺเคน คณฺหิตุํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต สติปิ ครุภณฺฑภาเว กปฺปิยวตฺถุํ ภาเชตฺวา คณฺหิตุํ วฏฺฏติ, อกปฺปิยภณฺฑเมว ภาเชตฺวา คเหตุํ น ลพฺภติ. ‘‘อิมํ มฺจปีํ วสฺสคฺเคน คเหตุํ สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วุตฺเต วสฺสคฺเคน ภาเชตฺวา คเหตพฺพํ วสฺสคฺเคน ภาชนํ ปมํ วตฺวา ปจฺฉา สงฺฆสฺส ปรามฏฺตฺตา. ‘‘สงฺฆสฺส อิมํ มฺจปีํ วสฺสคฺเคน คณฺหิตุํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ปน ครุภณฺฑํ โหติ ปมํ สงฺฆสฺส ปรามฏฺตฺตาติ ¶ อยมฺปิ วิเสโส มาติกฏฺกถา คณฺิปเทเยว วุตฺโต.
๒๙๐๓-๔. อุทฺเทสภตฺตวินิจฺฉเยกเทสํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สหสฺสคฺฆนโก’’ติอาทิ. สหสฺสคฺฆนโก สจีวโร ปิณฺฑปาโต อวสฺสิกํ ภิกฺขุํ ปตฺโต, ตสฺมึ วิหาเร จ ‘‘เอวรูโป ปิณฺฑปาโต อวสฺสิกํ ภิกฺขุํ ปตฺโต’’ติ ลิขิตฺวา ปิโตปิ จ โหติ, ตโต สฏฺิวสฺสานมจฺจเย ตาทิโส สหสฺสคฺฆนโก สจีวโร โกจิ ปิณฺฑปาโต สเจ อุปฺปนฺโน โหติ, ตํ ปิณฺฑปาตํ พุโธ วินิจฺฉยกุสโล ภิกฺขุ อวสฺสิกฏฺิติกาย อทตฺวา สฏฺิวสฺสิกฏฺิติกาย ทเทยฺยาติ โยชนา.
๒๙๐๕. อุทฺเทสภตฺตํ ภฺุชิตฺวาติ อุปสมฺปนฺนกาเล อตฺตโน วสฺสคฺเคน ปตฺตํ อุทฺเทสภตฺตํ ปริภฺุชิตฺวา. ชาโต เจ สามเณรโกติ สิกฺขาปจฺจกฺขานาทิวเสน สเจ สามเณโร ชาโต. ตนฺติ อุปสมฺปนฺนกาเล คหิตํ ตเทว อุทฺเทสภตฺตํ. สามเณรสฺส ปาฬิยาติ สามเณรปฏิปาฏิยา อตฺตโน ปตฺตํ ปจฺฉา คเหตุํ ลภติ.
๒๙๐๖. โย ¶ สามเณโร สมฺปุณฺณวีสติวสฺโส ‘‘สฺเว อุทฺเทสํ ลภิสฺสตี’’ติ วตฺตพฺโพ, อชฺช โส อุปสมฺปนฺโน โหติ, ิติกา อตีตา สิยาติ โยชนา, สฺเว ปาเปตพฺพา สามเณรฏฺิติกา อชฺช อุปสมฺปนฺนตฺตา อติกฺกนฺตา โหตีติ อตฺโถ, ตํ ภตฺตํ น ลภตีติ วุตฺตํ โหติ.
๒๙๐๗. อุทฺเทสภตฺตานนฺตรํ สลากภตฺตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สเจ ปนา’’ติอาทิ. สเจ สลากา ลทฺธา, ตํทิเน ภตฺตํ น ลทฺธํ, ปุนทิเน ตสฺส ภตฺตํ คเหตพฺพํ, น สํสโย ‘‘คเหตพฺพํ ¶ นุ โข, น คเหตพฺพ’’นฺติ เอวํ สํสโย น กาตพฺโพติ โยชนา.
๒๙๐๘. อุตฺตริ อุตฺตรํ อติเรกํ ภงฺคํ พฺยฺชนํ เอตสฺสาติ อุตฺตริภงฺคํ, ตสฺส, อติเรกพฺยฺชนสฺสาติ อตฺโถ. เอกจรสฺสาติ เอกจาริกสฺส. สลากาเยว สลากิกา.
๒๙๐๙. อุตฺตริภงฺคเมว อุตฺตริภงฺคกํ.
๒๙๑๐. เยน เยน หีติ คาหิตสลาเกน เยน เยน ภิกฺขุนา. ยํ ยนฺติ ภตฺตพฺยฺชเนสุ ยํ ยํ ภตฺตํ วา ยํ ยํ พฺยฺชนํ วา.
๒๙๑๑. สงฺฆุทฺเทสาทิกนฺติ สงฺฆภตฺตอุทฺเทสภตฺตาทิกํ. อาทิ-สทฺเทน นิมนฺตนํ, สลากํ, ปกฺขิกํ, อุโปสถิกํ, ปาฏิปทิกนฺติ ปฺจ ภตฺตานิ คหิตานิ.
ตตฺถ สพฺพสงฺฆสฺส ทินฺนํ สงฺฆภตฺตํ นาม. ‘‘สงฺฆโต เอตฺตเก ภิกฺขู อุทฺทิสิตฺวา เทถา’’ติอาทินา วตฺวา ทินฺนํ อุทฺเทสภตฺตํ. ‘‘สงฺฆโต เอตฺตกานํ ภิกฺขูนํ ภตฺตํ คณฺหถา’’ติอาทินา วตฺวา ทินฺนํ นิมนฺตนํ นาม. อตฺตโน อตฺตโน นาเมน สลากคาหกานํ ภิกฺขูนํ ทินฺนํ สลากภตฺตํ นาม. จาตุทฺทสิยํ ทินฺนํ ปกฺขิกํ. อุโปสเถ ทินฺนํ อุโปสถิกํ. ปาฏิปเท ทินฺนํ ปาฏิปทิกํ. ตํตํนาเมน ทินฺนเมว ตถา ตถา โวหรียติ. เอเตสํ ปน วิตฺถารกถา ‘‘อภิลกฺขิเตสู’’ติอาทินา (จูฬว. อฏฺ. ๓๒๕ ปกฺขิกภตฺตาทิกถา) อฏฺกถายํ วุตฺตนเยน เวทิตพฺพา. อาคนฺตุกาทีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน คมิกภตฺตํ, คิลานภตฺตํ, คิลานุปฏฺากภตฺตนฺติ ¶ ตีณิ คหิตานิ. อาคนฺตุกานํ ทินฺนํ ภตฺตํ อาคนฺตุกภตฺตํ. เอเสว นโย เสเสสุ.
๒๙๑๒. วิหารนฺติ ¶ วิหารภตฺตํ อุตฺตรปทโลเปน, วิหาเร ตตฺรุปฺปาทภตฺตสฺเสตํ อธิวจนํ. วารภตฺตนฺติ ทุพฺภิกฺขสมเย ‘‘วาเรน ภิกฺขู ชคฺคิสฺสามา’’ติ ธุรเคหโต ปฏฺาย ทินฺนํ. นิจฺจนฺติ นิจฺจภตฺตํ อุตฺตรปทโลเปน, ตฺจ ตถา วตฺวาว ทินฺนํ. กุฏิภตฺตํ นาม สงฺฆสฺส อาวาสํ กตฺวา ‘‘อมฺหากํ เสนาสนวาสิโน อมฺหากํ ภตฺตํ คณฺหนฺตู’’ติ ทินฺนํ. ปนฺนรสวิธํ สพฺพเมว ภตฺตํ อิธ อิมสฺมึ เสนาสนกฺขนฺธเก อุทฺทิฏฺํ กถิตํ. เอเตสํ วิตฺถารวินิจฺฉโย อตฺถิเกหิ สมนฺตปาสาทิกาย คเหตพฺโพ.
๒๙๑๓. ปจฺจยภาชเน มิจฺฉาปฏิปตฺติยา มหาทีนวตฺตา อปฺปมตฺเตเนว ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ ปจฺจยภาชนกํ อนุสาสนฺโต อาห ‘‘ปาฬิ’’นฺติอาทิ.
เสนาสนกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.