📜
สงฺฆาทิเสสกถาวณฺณนา
๓๒๕. เอวํ ¶ นานานยปฏิมณฺฑิตสฺส ปาราชิกกณฺฑสฺส วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตทนนฺตรมุทฺทิฏฺสฺส เตรสกณฺฑสฺส วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘โมเจตุกามตา’’ติอาทิ. โมเจตุํ กาเมตีติ โมเจตุกาโม, ตสฺส ภาโว โมเจตุกามตา, ตาย สมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ โมเจตุกามตาจิตฺตํ. เอตฺถ ‘‘โมเจตุกามตา’’ติ อิมินา เอกาทสสุ ราเคสุ ‘‘โมจนสฺสาโท’’ติ วุตฺตํ อิมสฺส สงฺฆาทิเสสสฺส มูลการณํ สุกฺกโมจนวิสยํ ราคมาห.
เอกาทส ¶ ราคา นาม ‘‘โมจนสฺสาโท, มุจฺจนสฺสาโท, มุตฺตสฺสาโท, เมถุนสฺสาโท, ผสฺสสฺสาโท, กณฺฑุวนสฺสาโท, ทสฺสนสฺสาโท, นิสชฺชสฺสาโท, วาจสฺสาโท, เคหสฺสิตเปมํ, วนภงฺคิย’’นฺติ เอวมาคตา. อิธ โมจนํ นาม สมฺภวธาตุโมจนํ, ตทตฺถาย ตพฺพิสยราคสมฺปยุตฺตเวทนา โมจนสฺสาโท นาม. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘โมเจตุํ อสฺสาโท โมจนสฺสาโท’’ติ. มุจฺจมาเน อสฺสาโท มุจฺจนสฺสาโท, สมฺภวธาตุมฺหิ มุจฺจมาเน ตํราคสมฺปยุตฺตา เวทนา มุจฺจนสฺสาโท นาม. เอเตเนว นเยน มุตฺตสฺสาทาทิวาจสฺสาทาวสาเนสุ ปเทสุ อตฺถกฺกโม เวทิตพฺโพ. อิเมหิ นวหิ ปเทหิ อสฺสาทสีเสน กุนฺตยฏฺิาเยน ตํสหจริโต ราโค ทสฺสิโต. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘นวหิ ปเทหิ สมฺปยุตฺตอสฺสาทสีเสน ราโค วุตฺโต’’ติ.
เคหสฺสิตเปมนฺติ เอตฺถ เคหฏฺา มาตุอาทโย อาเธยฺยอาธารโวหาเรน ‘‘เคหา’’ติ วุจฺจนฺติ. ‘‘มฺจา อุกฺกุฏฺึ กโรนฺตี’’ติอาทีสุ วิย ตนฺนิสฺสิโต สิเนหปริยาโย ราโค ‘‘เคหสฺสิตเปม’’นฺติ วุตฺโต. อิมินา ปเทน ราคสฺส สภาโว สนฺทสฺสิโต. วนโต ภฺชิตฺวา อาภตํ ยํ กิฺจิ ผลปุปฺผาทิ วนภงฺคิยํ นาม. อิธ ปน ราควเสน ปฏิพทฺธจิตฺตํ มาตุคาเมหิ วิรหทุกฺขาปนยนตฺถํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๔๐) เตสํ าเน เปตฺวา ทสฺสนผุสนวเสน วินฺทิตุํ ราคีหิ คเหตพฺพโต เตหิ ปิฬนฺธิตมาลสหิตํ ตมฺพูลนฺติ เอวมาทิ ‘‘วนภงฺคิย’’นฺติ อธิปฺเปตํ. อิมินา ปตฺถิตวิสยโคจโร ราโค ตทายตฺตวตฺถุวเสน สนฺทสฺสิโต. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เอเกน ปเทน สรูเปเนว ราโค, เอเกน ¶ ปเทน วตฺถุนา วุตฺโต. วนภงฺโค หิ ราคสฺส วตฺถุ, น ราโคเยวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๔๐).
‘‘โมเจตุกามตา’’ติ ¶ อิทเมว อวตฺวา ‘‘จิตฺต’’นฺติ วจเนน วีติกฺกมสาธิกาย กายวิฺตฺติยา สมุฏฺาปกํ ราคสมฺปยุตฺตํ จิตฺตวิเสสํ ทสฺเสติ. เตน จิตฺเตน สมุฏฺาปิยมานํ วิฺตฺติสงฺขาตํ วีติกฺกมํ ‘‘วายาโม’’ติ อิมินา ทสฺเสติ. วายาโม นาม ตํจิตฺตสมฺปยุตฺตวีริยํ. เอตฺถ ปน ‘‘เสมฺโห คุโฬ’’ติอาทีสุ วิย ผเล เหตูปจาราเยน วีติกฺกมสฺส วิเสสเหตุภูตวีริยวาจเกน จ ปเทน วีติกฺกโมว วุตฺโตติ ทฏฺพฺพํ. อชฺฌตฺตพาหิรวตฺถุฆฏฺฏนํ, อากาเส กฏิกมฺปนนฺติ สุกฺกโมจนตฺโถ วายาโมติ อตฺโถ. สุกฺกสฺส โมจนํ สุกฺกโมจนํ.
เอตฺถ จ สุกฺกสฺสาติ ‘‘สุกฺกนฺติ ทส สุกฺกานิ นีลํ ปีตกํ โลหิตกํ โอทาตํ ตกฺกวณฺณํ ทกวณฺณํ เตลวณฺณํ ขีรวณฺณํ ทธิวณฺณํ สปฺปิวณฺณ’’นฺติ (ปารา. ๒๓๗) ปทภาชเน วุตฺตานิ สตฺตานํ ปิตฺตาทิอาสยเภเทน, ปถวิธาตุอาทีนํ จตุนฺนํ วา รสโสณิตมํสเมทอฏฺิอฏฺิมิฺชานํ ฉนฺนํ เทหธาตูนํ วา เภเทน อเนกธา ภินฺเน ทสวิเธ สุกฺเก อฺตรสฺส สุกฺกสฺสาติ อตฺโถ. โมจนํ วิสฺสฏฺีติ ปริยายํ, ปกติยา ิตสกฏฺานโต โมจนนฺติ อตฺโถ. ยถาห ปทภาชเน ‘‘วิสฺสฏฺีติ านโต จาวนา วุจฺจตี’’ติ (ปารา. ๒๓๗). อิห ‘‘านํ นาม วตฺถิสีสสงฺขาตํ มุตฺตกรณมูล’’นฺติ เกจิ. ‘‘กฏี’’ติ อปเร. ‘‘สกลกาโย’’ติ อฺเ. อิเมสํ ติณฺณํ วจเนสุ ‘‘ตติยสฺส ภาสิตํ สุภาสิต’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๓๗) อฏฺกถายํ ตติยวาทสฺส กตปาสํสตฺตา เกสโลมนขทนฺตานํ มํสวินิมุตฺตฏฺานฺจ มุตฺตกรีสเขฬสิงฺฆาณิกาถทฺธสุกฺขจมฺมฺจ วชฺเชตฺวา อวเสสํ สกลสรีรํ กายปฺปสาทภาวชีวิตินฺทฺริยอพทฺธปิตฺตานํ ¶ วิย สมฺภวธาตุยา จ านนฺติ เวทิตพฺพํ.
‘‘สุกฺกโมจน’’นฺติ อิมินากึ วุตฺตํ โหตีติ? ‘‘อาโรคฺยตฺถาย, สุขตฺถาย, เภสชฺชตฺถาย, ทานตฺถาย, ปฺุตฺถาย, ยฺตฺถาย, สคฺคตฺถาย, พีชตฺถาย, วีมํสตฺถาย, ทวตฺถาย โมเจตี’’ติ (ปารา. ๒๓๗) วุตฺตทสวิธอธิปฺปายนฺโตคธอฺตรอธิปฺปาโย หุตฺวา ‘‘ราคูปตฺถมฺเภ, วจฺจูปตฺถมฺเภ, ปสฺสาวูปตฺถมฺเภ, วาตูปตฺถมฺเภ, อุจฺจาลิงฺคปาณกทฏฺูปตฺถมฺเภ โมเจตี’’ติ (ปารา. ๒๓๗) วุตฺตปฺจวิธกาลานมฺตรกาเล ‘‘อชฺฌตฺตรูเป, พหิทฺธารูเป, อชฺฌตฺตพหิทฺธารูเป, อากาเส กฏึ กมฺเปนฺโต โมเจตี’’ติ (ปารา. ๒๓๗) วุตฺตจตุรุปายานมฺตเรน อุปาเยน ยถาวุตฺตราคปิสาจวเสน วิวโส หุตฺวา ยถาวุตฺตนีลาทิทสวิธสมฺภวธาตูนมฺตรํ ยถาวุตฺตฏฺานโต ขุทฺทกมกฺขิกาย ปิวนมตฺตมฺปิ สเจ โมเจตีติ สงฺเขปโต ¶ คเหตพฺพํ. เอตฺถ จ อุจฺจาลิงฺคปาณกา นาม โลมสปาณา, เยสํ โลเม อลฺลิเน องฺคชาตํ กมฺมนิยํ โหติ.
อฺตฺร สุปินนฺเตนาติ สุปิโน เอว สุปินนฺโต, นิสฺสกฺกวจนปฺปสงฺเค กรณวจนโต สุปินนฺตาติ อตฺโถ. สุปินา นาม ‘‘วาตาทิธาตุกฺโขภวเสน วา ปุพฺพานุภูตอิตฺถิรูปาทิวิสยวเสน วา อิฏฺานิฏฺเทวตานุภาเวน วา ปฺุเน ปฏิลภิตพฺพอตฺถสฺส, อปฺุเน ปตฺตพฺพานตฺถสฺส จ ปุพฺพนิมิตฺตวเสน วา โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๓๗) วุตฺเตสุ จตูสุ การเณสุ เอเกน การเณน กปินิทฺทาย สุปิเน ทิสฺสมานารมฺมณโต ยํ สุกฺกโมจนํ โหติ, ตํ อวิสยํ สุกฺกโมจนํ วินาติ วุตฺตํ โหติ.
สงฺฆาทิเสโสว สงฺฆาทิเสสตา. สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชิตฺวา ตโต วุฏฺาตุกามสฺส กุลปุตฺตสฺส อาทิมฺหิ ปริวาสทานตฺถํ ¶ , มชฺเฌ จ มูลายปฏิกสฺสเนน วินา วา สห วา มานตฺตทานตฺถํ, อวสาเน อพฺภานตฺถฺจ สงฺโฆ เอสิตพฺโพติ ‘‘สงฺโฆ อาทิมฺหิ เจว เสเส จ อิจฺฉิตพฺโพ อสฺสาติ สงฺฆาทิเสโส’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๓๗; กงฺขา. อฏฺ. สุกฺกวิสฺสฏฺิสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตตฺตา สงฺฆาทิเสสา นาม, สุกฺกวิสฺสฏฺิสงฺฆาทิเสสาปตฺติ โหตีติ อตฺโถ. ยถาห ปทภาชเน ‘‘สงฺโฆว ตสฺสา อาปตฺติยา ปริวาสํ เทติ, มูลาย ปฏิกสฺสติ, มานตฺตํ เทติ, อพฺเภติ, น สมฺพหุลา, น เอกปุคฺคโล, เตน วุจฺจติ ‘สงฺฆาทิเสโส’ติ. ตสฺเสว อาปตฺตินิกายสฺส นามํ นามกมฺมํ อธิวจนํ, เตนปิ วุจฺจติ ‘สงฺฆาทิเสโส’’ติ (ปารา. ๒๓๗). เอตฺถ จ ปริวาสาทิกถา สงฺฆาทิเสสาวสาเน อาคตฏฺาเนเยว อาวิ ภวิสฺสติ.
๓๒๖. เอตฺตาวตา มูลสิกฺขาปทาคตํ อตฺตูปกฺกมมูลกํ อาปตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อิมิสฺสา สงฺฆาทิเสสาปตฺติยา ปรูปกฺกเมนปิ อาปชฺชนํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปเรนา’’ติอาทิ. อุปกฺกมาเปตฺวาติ องฺคชาตสฺส คหณํ วา ฆฏฺฏนํ วา กาเรตฺวา.
๓๒๗. สฺจิจฺจาติ ‘‘อุปกฺกมามิ โมเจสฺสามี’’ติ เจเตตฺวา ปกปฺเปตฺวา. อุปกฺกมนฺตสฺสาติ อชฺฌตฺตรูปาทีสุ ตีสุ ยตฺถ กตฺถจิ ฆฏฺเฏนฺตสฺส. สมุทฺทิฏฺนฺติ ‘‘เจเตติ อุปกฺกมติ น มุจฺจติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (ปารา. ๒๖๒) ปทภาชเน ภควตา วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย.
๓๒๘. อิมิสฺสํ ¶ คาถายํ ‘‘อตฺตโน องฺคชาตํ อุปกฺกมนฺตสฺสา’’ติ อิมินา อชฺฌตฺตรูเป วา พหิทฺธารูเป วา อชฺฌตฺตพหิทฺธารูเป วา อตฺตโน องฺคชาตํ ฆฏฺเฏนฺตสฺสาติ อิมสฺส อตฺถสฺส วุตฺตตฺตา ¶ องฺคชาตฆฏฺฏเนน วินาภาวโต อิมินา อสงฺคยฺหมานสฺสาปิ อากาเส กฏิกมฺปเนน สุกฺกโมจเน สงฺฆาทิเสสสฺส ปมคาถายํ ‘‘วายาโม’’ติ สามฺวจเนน สงฺคหิตตฺตา ตํ เปตฺวา ‘‘เตน โข ปน สมเยน อฺตรสฺส ภิกฺขุโน โมจนาธิปฺปายสฺส อากาเส กฏึ กมฺเปนฺตสฺส อสุจิ มุจฺจิ…เป… อสุจิ น มุจฺจิ. ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ…เป… อนาปตฺติ ภิกฺขุ สงฺฆาทิเสสสฺส, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ อากาเสกฏิกมฺปนวตฺถุมฺหิ วุตฺตตฺตา อมุตฺเต ถุลฺลจฺจยํ สงฺคเหตุมาห ‘‘สฺจิจฺจา’’ติอาทิ.
ตตฺถ สฺจิจฺจาติ ‘‘อุปกฺกมามิ โมเจสฺสามี’’ติ ชานิตฺวา สฺชานิตฺวาติ อตฺโถ. ‘‘อุปกฺกมนฺตสฺสา’’ติ สามฺโต ตํ วิเสเสตุํ ‘‘อากาเส กมฺปเนนปี’’ติ อาห, กฏิกมฺปเนนาติ คเหตพฺพํ. กถมิทํ ลพฺภตีติ เจ? อิมาย กถาย สงฺคเหตพฺพวตฺถุมฺหิ ‘‘อากาเส กฏึ กมฺเปนฺตสฺสา’’ติ (ปารา. ๒๖๖) ปาเ ‘‘กฏึ กมฺเปนฺตสฺสา’’ติ วจนสหจรสฺส ‘‘อากาเส’’ติ วจนสฺส สนฺนิธานพเลน ลพฺภติ อตฺถปฺปกรณสทฺทนฺตรสนฺนิธานา สทฺทานํ วิเสสตฺถทีปนโต.
๓๒๙. วตฺถินฺติ มุตฺตวตฺถึ, มุตฺตกรณสฺส วตฺถินฺติ อตฺโถ. กีฬาย ปูเรตฺวาติ คามทารโก วิย กีฬิตุกามตาย มุตฺตวตฺถึ ทฬฺหํ คเหตฺวา ปูเรตฺวาติ อตฺโถ. ยถาห วตฺถิวตฺถุมฺหิ อฏฺกถายํ ‘‘เต ภิกฺขู วตฺถึ ทฬฺหํ คเหตฺวา ปูเรตฺวา ปูเรตฺวา วิสฺสชฺเชนฺตา คามทารกาวิย ปสฺสาวมกํสู’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๖๔). ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ สามฺเน กสฺมา วุตฺตนฺติ? ตสฺมึ วตฺถุสฺมึ วุตฺตนเยน โมจนาธิปฺปาเยน ทฬฺหํ คเหตฺวา ปูเรตฺวา ปูเรตฺวา วิสฺสชฺเชนฺตสฺส สุกฺเก มุตฺเต โมจนาธิปฺปาโย เจเตติ, อุปกฺกมติ, มุจฺจตีติ องฺคานํ สมฺปนฺนตฺตา สงฺฆาทิเสสสฺส ¶ , อมุตฺเต ถุลฺลจฺจยสฺส สมฺภวโต อุภยสงฺคหตฺถมาห.
๓๓๐. อุปนิชฺฌายนวตฺถุมฺหิ ‘‘น จ ภิกฺขเว สารตฺเตน มาตุคามสฺส องฺคชาตํ อุปนิชฺฌายิตพฺพํ, โย อุปนิชฺฌาเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๒๖๖) ปาฬิยํ ‘‘มาตุคามสฺสา’’ติ สามฺเน วุตฺตตฺตา ‘‘ติสฺสนฺน’’นฺติ วทติ. ติสฺสนฺนํ ปน อิตฺถีนนฺติ มนุสฺสามนุสฺสติรจฺฉานคตวเสน ติสฺสนฺนํ อิตฺถีนํ. ‘‘องฺคชาต’’นฺติ วิเสเสตฺวา วุตฺตตฺตา ‘‘นิมิตฺต’’นฺติ ¶ มุตฺตกรณเมว วุจฺจติ, ปฏสเตนาปิ ปฏิจฺฉาทิตํ วา อปฺปฏิจฺฉาทิตํ วา โยนิมคฺคนฺติ อตฺโถ. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘สเจปิ ปฏสตํ นิวตฺถา โหติ, ปุรโต วา ปจฺฉโต วา ตฺวา ‘อิมสฺมึ นาม โอกาเส นิมิตฺต’นฺติ อุปนิชฺฌายนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว. อนิวตฺถานํ คามทาริกานํ นิมิตฺตํ อุปนิชฺฌายนฺตสฺส ปน กิเมว วตฺตพฺพ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๖๖). ปุรโต วาติ เอตฺถ ‘‘ตฺวา’’ติ ปาเสโส.
๓๓๑. เอเกน…เป… ปสฺสโต เอกํ ทุกฺกฏนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘เอเกน ปโยเคน เอกํ ทุกฺกฏ’’นฺติ วจนโต อเนเกหิ ปโยเคหิ อเนกานิ ทุกฺกฏานีติ พฺยติเรกโต ลพฺภติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อิโต จิโต จ วิโลเกตฺวา ปุนปฺปุนํ อุปนิชฺฌายนฺตสฺส ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๖๖). อิมิสฺสา อฏฺกถาย ‘‘อิโต จิโต จา’’ติ วุตฺตตฺตา อุมฺมีลนนิมีลนนฺติ เอตฺถ ‘‘วิวิธา ตํ อโนโลเกตฺวา ตเมว โอโลเกนฺตสฺสา’’ติ ลพฺภติ.
๓๓๒. อโมจนาธิปฺปายสฺส มุตฺตสฺมึ อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา. โมจนาธิปฺปายํ วินา เภสชฺชกรณตฺถํ สุทฺธจิตฺเตน องฺคชาเต เภสชฺชเลปํ กโรนฺตสฺส วา สุทฺธจิตฺเตเนว อุจฺจารปสฺสาวาทึ กโรนฺตสฺส วา มุตฺเตปิ อนาปตฺตีติ ¶ อิทํ ‘‘อนาปตฺติ สุปินนฺเตน นโมจนาธิปฺปายสฺสา’’ติอาทินา (ปารา. ๒๖๓) นเยน อนาปตฺติวาเร วุตฺตเมวาติ อตฺโถ.
อิมสฺมึ ปาเ ‘‘อนุปกฺกมนฺตสฺสา’’ติ อวุตฺเตปิ อิมสฺส ปาสฺส ปุรโต ‘‘เจเตติ น อุปกฺกมติ มุจฺจติ, อนาปตฺตี’’ติ (ปารา. ๒๖๒) จ ‘‘น เจเตติ น อุปกฺกมติ มุจฺจติ, อนาปตฺตี’’ติ (ปารา. ๒๖๒) จ วจนโต ตํ สงฺคเหตุมาห ‘‘อนุปกฺกมโตปิ จ มุตฺตสฺมึ อนาปตฺติ ปกาสิตา’’ติ. โมจนสฺสาทราเคน ปีฬิโต หุตฺวา ‘‘อโห วต เม มุจฺเจยฺยา’’ติ จินฺเตตฺวา วา เอวรูปโมจนสฺสาทราคปีฬาปุพฺพงฺคมจิตฺเต อสติปิ เกวลํ กามวิตกฺกมตฺเตน อุปหโต หุตฺวา ตาทิสอชฺฌตฺติกพาหิรวตฺถูสุ ฆฏฺฏนวเสน วา อากาเส กฏิกมฺปนวเสน วา อุปกฺกมํ อกโรนฺตสฺส ตาทิสจินฺตาพเลน วา กามวิตกฺกพเลน วา สุกฺเก มุตฺเตปิ อนาปตฺตีติ อิทํ ยถาวุตฺตปาวเสน ปกาสิตนฺติ อตฺโถ.
สุปินนฺเตน มุตฺตสฺมึ, อนาปตฺติ ปกาสิตาติ เอตฺถ อนฺตสทฺทตฺถาภาวโต สุปิเนติ อตฺโถ. สุปิเน เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส วา มาตุคาเมหิ กายสํสคฺคํ อาปชฺชนฺตสฺส วา สุกฺเก มุตฺเตปิ ¶ อวิสยตฺตา อนาปตฺติ ปาฬิยํ ‘‘อนาปตฺติ ภิกฺขุ สุปินนฺเตนา’’ติ (ปารา. ๒๖๓) อิมินา ปกาสิตาติ อตฺโถ.
เอตฺถ ตฺวา อฏฺกถายํ ‘‘สุปิเน ปน อุปฺปนฺนาย อสฺสาทเจตนาย สจสฺส วิสโย โหติ, นิจฺจเลน ภวิตพฺพํ. น หตฺเถน นิมิตฺตํ กีฬาเปตพฺพํ. กาสาวปจฺจตฺถรณรกฺขนตฺถํ ปน หตฺถปุเฏน คเหตฺวา ชคฺคนตฺถาย อุทกฏฺานํ คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๖๒) วุตฺตตฺตา อณฺฑปาลิกา กิกีสกุณา วิย, วาลปาลิกา จมรี วิย, เอกเนตฺตปาลโก ปุริโส วิย จ กายชีวิเตปิ อเปกฺขํ ปหาย สีลํ ¶ รกฺขิตุกาเมน สิกฺขากาเมน นิพฺพานคามินิปฏิปตฺตึ ปูเรตุกาเมน กุลปุตฺเตน ‘‘อฺตฺร สุปินนฺตา’’ติ (ปารา. ๒๓๗) วทโต ตถาคตสฺส อธิปฺปายานุกูลํ อฏฺกถาโต ตฺวา อปฺปมตฺเตน ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ อยมตฺรานุสาสนี.
สุกฺกวิสฺสฏฺิกถาวณฺณนา.
๓๓๓. มนุสฺสิตฺถินฺติ มนุสฺสชาติกํ อิตฺถึ, ‘‘มาตุคาโม นาม มนุสฺสิตฺถี, น ยกฺขี, น เปตี, น ติรจฺฉานคตา, อนฺตมโส ตทหุชาตาปิ ทาริกา, ปเคว มหตฺตรี’’ติ (ปารา. ๒๗๑) ปทภาชเน วุตฺตตฺตา ตทหุชาตกุมาริกาภาเวนปิ ิตํ ชีวมานกมนุสฺสมาตุคามนฺติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘มนุสฺสิตฺถิ’’นฺติ สามฺวจเนน ชีวมานกมนุสฺสิตฺถินฺติ อยํ วิเสโส กุโต ลพฺภตีติ? วินีตวตฺถุมฺหิ (ปารา. ๒๘๑ อาทโย) มติตฺถิยา กายํ ผุสนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยวจนโต ปาริเสสโต ลพฺภติ. อามสนฺโตติ ‘‘หตฺถคฺคาหํ วา เวณิคฺคาหํ วา อฺตรสฺส วา อฺตรสฺส วา องฺคสฺส ปรามสน’’นฺติ (ปารา. ๒๗๐) วุตฺตตฺตา หตฺถาทิองฺคปจฺจงฺคผุสนาทินานปฺปการานํ อฺตเรน ปกาเรน อามสนฺโตติ อตฺโถ. อตฺตโน กาเยน อิตฺถิยา กายสฺส สํสคฺเค มิสฺสีภาเว ราโค กายสํสคฺคราโค. สงฺฆาทิเสโส เอตสฺส อตฺถีติ สงฺฆาทิเสสิโก, กายสํสคฺคสงฺฆาทิเสโส อาปนฺโน โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
๓๓๔. กายสํสคฺคราเคน อิตฺถิยา อนฺตมโส โลมมฺปิ อตฺตโน สรีเร โลเมน ผุสนฺตสฺส ภิกฺขุโน สงฺฆาทิเสสาปตฺติ โหตีติ โยชนา. เอตฺถ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๗๔) ‘‘โลมคณนาย สงฺฆาทิเสสา โหนฺตี’’ติ กุรุนฺทฏฺกถามตสฺส อฏฺิตตฺตา ¶ , ‘‘โกฏฺาสคณนาย น โหติ, อิตฺถิคณนาย โหตี’’ติ มหาอฏฺกถามตสฺส ิตตฺตา สงฺฆสนฺตเก มฺจปีเ ปจฺจตฺถรณาทินา เกนจิ ¶ อปฺปฏิจฺฉาทิเต ผุสนฺตสฺส วิย โลมคณนาย อหุตฺวา ผุฏฺโลมานํ พหุตฺเตปิ เอกสฺมึ ปโยเค เอกา เอว อาปตฺติ, พหูสุ ปโยเคสุ ปโยคคณนาย อาปตฺติโย โหนฺตีติ สนฺนิฏฺานํ.
๓๓๕. อิตฺถิยาติ มนุสฺสิตฺถิยา. สมฺผุฏฺโติ หตฺถาทิสรีราวยเว สํสคฺคํ สมาปนฺโน. เสวนเจตโน วายมิตฺวา กายสํสคฺคราเคน อตฺตโน กายํ จาเลตฺวาติ อตฺโถ. สงฺฆาทิเสสตาติ เอตฺถ สกตฺเถ ตทฺธิตปฺปจฺจโย. ‘‘สงฺฆาทิเสสิตา’’ติ ปน ปาโ สุนฺทโร, สงฺฆาทิเสสสฺส อตฺถิตา วิชฺชมานภาโวติ อตฺโถ. สงฺฆาทิเสสาปตฺติยา สพฺภาวสงฺขาตา อตฺถิตา อีปจฺจยตฺเถ ปุคฺคเล สงฺฆาทิเสสีสทฺทปวตฺตินิมิตฺตํ โหตีติ ภาวปจฺจโย ตํอตฺถวเสน ลพฺภติ. ยถาหุ ‘‘ยสฺส คุณสฺส หิ ภาวา ทพฺเพ สทฺทสนฺนิเวโส, ตทภิธาเน ตฺตตาทโย’’ติ.
๓๓๖. เอเกน หตฺเถน คเหตฺวาติ (กงฺขา. อฏฺ. กายสํสคฺคสิกฺขาปทวณฺณนา) เอตฺถ ‘‘กายสํสคฺคราเคนา’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ‘‘มนุสฺสิตฺถิ’’นฺติ อชฺฌาหาโร. ตํ มนุสฺสิตฺถึ. ตตฺถ ตตฺถาติ อิตฺถิยา ตสฺมึ ตสฺมึ สรีราวยเว. ‘‘เอกาวาปตฺตี’’ติ ปมํ คหิตหตฺถสฺส อนปนีตตฺตา วุตฺตํ. คหิตหตฺถํ ปน โมเจตฺวา ปุนปฺปุนํ ผุสนฺตสฺส ปโยคคณนาย อาปตฺติ โหตีติ พฺยติเรกโต ลพฺภติ.
๓๓๗. เอเกน หตฺเถน อคฺคเหตฺวา สีสโต ยาว ปาทํ, ปาทโต ยาว สีสฺจ กายา หตฺถํ อโมเจตฺวา ทิวสมฺปิ ตํ อิตฺถึ ผุสนฺตสฺส เอกาวาปตฺตีติ โยชนา. เอตฺถาปิ ‘‘อโมเจตฺวา’’ติ ¶ พฺยติเรกโต โมเจตฺวา ผุสนฺตสฺส ปโยคคณนาย อเนกาปตฺติโยติ ลพฺภติ.
๓๓๘. เอกโต คหิตปฺจงฺคุลีนํ คณนาย สเจ อาปตฺติ สิยา, เอกสฺส มาตุคามสฺส สรีรํ ราคจิตฺเตน ผุสนฺตสฺส ทฺวตฺตึสกลาปโกฏฺาสโต พฺยติเรกสฺส สรีรสฺสาภาวา ทฺวตฺตึสกลาปโกฏฺาสคณนาย อาปตฺติยา ภวิตพฺพํ, ตถา อภาวโต อิทมฺปิ น โหตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘น หิ โกฏฺาสโต สิยา’’ติ อาห.
๓๔๐-๑. อิตฺถิยา วิมติสฺสาปิ อตฺตโน กาเยน อิตฺถิยา กายํ ผุสโต ตสฺส ถุลฺลจฺจยํ สิยา, อิตฺถิยา ปณฺฑกาทิสฺิโนปิ อตฺตโนปิ กาเยน ¶ อิตฺถิยา กายํ ผุสโต ตสฺส ถุลฺลจฺจยํ สิยา. อาทิ-สทฺเทน ปุริสติรจฺฉานคตานํ สงฺคโห. อิตฺถิยา อิตฺถิสฺิโน อตฺตโน กาเยน อิตฺถิยา กายสมฺพทฺธํ ผุสโต ตสฺส ถุลฺลจฺจยํ สิยา. ปณฺฑเก ปณฺฑกสฺิโน อตฺตโน กาเยน ปณฺฑกสฺส กายํ ผุสโต ตสฺส ถุลฺลจฺจยํ สิยา. ยกฺขิเปตีสุ ยกฺขิเปติสฺิโน อตฺตโน กาเยน ตาสํ กายํ ผุสโต ตสฺส ถุลฺลจฺจยํ สิยาติ โยชนา. เอตฺถ ‘‘ปณฺฑกคฺคหเณน อุภโตพฺยฺชนโกปิ คยฺหตี’’ติ วชิรพุทฺธิฏีกายํ วุตฺตํ. ‘‘อิตฺถิยา เวมติกสฺสาปิ ปณฺฑกาทิสฺิโนปิ อตฺตโน กาเยน อิตฺถิยา กายสมฺพทฺธํ ผุสโต ตสฺส ถุลฺลจฺจยํ สิยา’’ติ น โยเชตพฺพํ. กสฺมา? ตถา โยชนายํ ปาฬิยํ ทุกฺกฏํ วุตฺตํ, น ถุลฺลจฺจยนฺติ อนิฏฺปฺปสงฺคโต.
‘‘ทุกฺกฏํ กายสํสคฺเค, ติรจฺฉานคติตฺถิยา’’ติ อิมินา วินีตวตฺถุมฺหิ อาคตนเย สงฺคหิเตปิ เตเนว นเยน ปณฺฑเก ¶ วิมติอิตฺถิสฺิตาทิอฺมติปกฺเข จ ปุริสติรจฺฉานคเตสุ ปุริสติรจฺฉานคตสฺิวิมติปณฺฑกาทิอฺมติปกฺเข จ อิติ อิเมสํ ติณฺณํ กายปฏิพทฺธามสนาทีสุ จ ปทภาชเน วุตฺตสพฺพทุกฺกฏาปตฺติโย อุปลกฺขิตาติ ทฏฺพฺพํ.
๓๔๒. อตฺตโน กาเยน ปฏิพทฺเธน อิตฺถิยา กาเยน ปฏิพทฺธํ ผุสนฺตสฺส ภิกฺขุโน ปน ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. เอตฺถ ปิ-สทฺโท วุตฺตทุกฺกฏานํ สมุจฺจยตฺโถ. จ-สทฺเทน ปน อวุตฺตสมุจฺจยตฺเถน ‘‘นิสฺสคฺคิเยน กายํ อามสติ. นิสฺสคฺคิเยน กายปฏิพทฺธํ อามสติ. นิสฺสคฺคิเยน นิสฺสคฺคิยํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๒๗๖) ปาฬิยํ อาคตทุกฺกฏานํ สงฺคโห เวทิตพฺโพ.
๓๔๓-๔. น เกวลํ ปทภาชนาคตอิตฺถิสรีราทิกเมว อนามาสํ, วินีตวตฺถูสุ ทารุธีตลิกวตฺถุอนุโลมโต โปตฺถลิกาทิอิตฺถิรูปกฺจ นิสฺสคฺคิยวารานุโลมโต อสรีรฏฺํ มาตุคาเมหิ ปริภุตฺตวตฺถาภรณาทิฺจ วิภงฺคกฺขนฺธกาทีสุ วุตฺตนยานุสาเรน อฏฺกถาคตํ อวเสสํ อนามาสวตฺถฺุจ อามสนฺตสฺส อาปตฺตึ สงฺคเหตุมาห ‘‘อิตฺถีน’’นฺติอาทิ.
‘‘อิตฺถีนํ อิตฺถิรูปฺจา’’ติ อิทํ ‘‘อิตฺถิกาย อิตฺถิธนํ (ปารา. ๓๔), สทฺธานํ สทฺธาปรายน’’นฺติอาทีสุ วิย โลกโวหารวเสน วุตฺตํ. อิตฺถีนํ ทารุโลหมยาทิกํ อิตฺถิรูปฺจาติ โยชนา. อาทิ-สทฺเทน เหฏฺิมปริจฺเฉทโต มตฺติกาย, ปิฏฺเน วา กตํ มาตุคามรูปํ สงฺคณฺหาติ. มาตุคามรูปํ เยน เกนจิ ทินฺนํ สพฺพรตนมยํ วินา อวเสสํ สาทิยิตฺวา ¶ ภินฺทิตฺวา ¶ สมณสารุปฺปปริกฺขารํ การาเปตุํ, อผุสิตฺวา ปริภฺุชิตพฺเพ วา โยเชตุํ วฏฺฏติ.
‘‘วตฺถ’’นฺติ อิมินา นิวาสนปารุปนทฺวยมฺปิ สามฺเน คหิตํ. อิทฺจ มาตุคาเมน ปริภฺุชิตุํ ปิตมฺปิ อนามาสเมว, จีวรตฺถาย ทินฺนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. เหฏฺิมปริจฺเฉเทน ติณจุมฺพฏกํ, องฺคุลิยา ปณฺณมุทฺทิกํ อุปาทาย อลงฺการเมว. เอตฺถ จ วาลเกสวฏฺฏเกเสสุ ปเวสนกทนฺตสูจิอาทิ กปฺปิยภณฺฑํ ทิยฺยมานํ สมณสารุปฺปปริกฺขารตฺถาย คเหตพฺพํ.
ตตฺถชาตผลํ ขชฺชนฺติ รุกฺเข ิตํ ขาทิตพฺพํ ปนสนาฬิเกราทิผลฺจ มนุสฺเสหิ ราสิกตํ ปริภฺุชิตพฺพผลฺจ ‘‘มนุสฺเสหิ ราสิกเตสุปิ เอเสว นโย’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๘๑) อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา อนามาสนฺติ อุปลกฺขณโต อิมินาว คเหตพฺพํ. อรฺเ รุกฺขโต ปติตํ ผลํ ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺส ทสฺสามี’’ติ คเหตุํ วฏฺฏติ. ‘‘มุคฺคาทึ ตตฺถชาตก’’นฺติ อุปลกฺขณปทตฺตา คจฺฉโต วิยุตฺตมฺปิ คเหตพฺพํ. มุคฺคาทินฺติ เอตฺถ ‘‘อปรณฺณ’’นฺติ ปาเสโส.
สพฺพานิ ธฺานีติ ‘‘สาลิ วีหิ ยโว กงฺคุ, กุทฺรูสวรกโคธุมา’’ติ วุตฺตานิ สตฺต ธฺานิ. เขตฺตมคฺเคน คจฺฉตา สาลิสีเส หตฺเถน อผุสนฺเตน คนฺตพฺพํ. สเจ มคฺโค สมฺพาโธ โหติ, สรีเร ธฺํ ผุสนฺเตปิ มคฺคตฺตา น โทโส. วีถิยํ, เคหงฺคเณ วา ธฺเสุ ปสาริเตสุ อปสกฺกิตฺวา เจ คนฺตุํ น สกฺกา, ‘‘มคฺคํ อธิฏฺาย คนฺตพฺพ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๘๑) อฏฺกถาวจนโต ‘‘อิมํ มคฺคํ คมิสฺสามี’’ติ คนฺตุํ วฏฺฏติ. ‘‘กุลเคเห ธฺมตฺถเก เจ อาสนํ ปฺาเปตฺวา ทินฺนํ โหติ, นิสีทิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๘๑ อตฺถโต สมานํ) อฏฺกถายํ วุตฺตํ. ‘‘อาสนสาลายํ ธฺเ วิปฺปกิณฺเณ อนุกฺกมิตฺวา เอกมนฺเต ปีกํ ปฺาเปตฺวา ¶ นิสีทิตพฺพํ. สเจ มนุสฺสา ตสฺมึ ธฺมตฺถเก อาสนํ ปฺาเปตฺวา เทนฺติ, นิสีทิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๘๑ อตฺถโต สมานํ) อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา อตฺตนา ตตฺถ อาสนํ ปฺาเปตฺวา นิสีทิตุํ น วฏฺฏติ.
๓๔๕. ธมนสงฺขาทึ สพฺพํ ปฺจงฺคตุริยมฺปิ จาติ สมฺพนฺโธ. ธมนสงฺโข นาม สทฺทกรณสงฺโข ¶ . อาทิ-สทฺเทน วํสสิงฺคตาฬาทีนํ สงฺคโห. ปฺจงฺคตุริยนฺติ อาตตํ, วิตตํ, อาตตวิตตํ, ฆนํ, สุสิรนฺติ ปฺจงฺคสงฺขาตํ ตุริยํ. ตตฺถ อาตตํ นาม จมฺมปริโยนทฺเธสุ เภริอาทีสุ เอกโต อากฑฺฒิตฺวา โอนทฺธํ เอกตลตุริยํ. วิตตํ นาม อุภโต อากฑฺฒิตฺวา โอนทฺธํ อุภยตลตุริยํ. อาตตวิตตํ นาม อุภยโต จ มชฺฌโต จ สพฺพโต ปริโยนนฺธิตํ. ฆนํ สมฺมาทิ. สมฺมนฺติ ตาฬํ, ฆณฺฏากิงฺกณิอาทีนมฺปิ เอตฺเถว สงฺคโห. สุสิรนฺติ วํสาทิ.
อิธ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๘๑) กุรุนฺทฏฺกถายํ วุตฺตนเยน เภริโปกฺขรฺจ เภริตลจมฺมฺจ วีณา จ วีณาโปกฺขรจมฺมฺจ ทณฺโฑ จ อนามาสํ. ‘‘ปูชํ กตฺวา เจติยงฺคณาทีสุ ปิตเภริโย อจาเลนฺเตน อวเสสฏฺานํ สมฺมชฺชิตพฺพํ. กจวรฉฑฺฑนกาเล กจวรํ วิย คเหตฺวา เอกสฺมึ าเน เปตพฺพ’’นฺติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. ตุริยภณฺเฑสุ ยํ กิฺจิ อตฺตโน ทียมานํ ตํ ปริวตฺเตตฺวา กปฺปิยปริกฺขารํ คเหตุํ อธิวาเสตพฺพํ. โทณิ วา โปกฺขรํ วา ทนฺตกฏฺนิกฺขิปนตฺถาย, จมฺมฺจ สตฺถโกสกรณตฺถาย คเหตพฺพํ.
รตนานิ จ สพฺพานีติ มุตฺตา มณิ เวฬุริโย สงฺโข สิลา ปวาฬํ รชตํ ชาตรูปํ โลหิตงฺโก มสารคลฺลนฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๘๑) วุตฺตานิ สพฺพานิ รตนานิ จ. เอตฺถ จ วิทฺธา, อวิทฺธา วา สามุทฺทิกาที สพฺพาปิ มุตฺตา อนามาสา. ภณฺฑมูลตฺถฺจ คณฺหิตุํ ¶ น วฏฺฏติ. อนฺตมโส ชาติผลิกํ อุปาทาย นีลปีตาทิเภโท สพฺโพปิ มณิ โธตวิทฺโธ อนามาโส. อาหตากาเรเนว ิโต อวิทฺธาโธโต มณิ ปตฺตาทิ ภณฺฑมูลตฺถํ อธิวาเสตุํ วฏฺฏตีติ วุตฺตํ. มหาปจฺจริยํ ปน ปฏิกฺขิตฺตํ. ปจิตฺวา กโต กาจมณิเยเวโก วฏฺฏติ. เวฬุริเย จ มณิสทิโสเยว วินิจฺฉโย.
ธมนสงฺโข ‘‘สพฺพํ ธมนสงฺขาทิ’’นฺติอาทิคาถาย ตุริเยสุ คหิโต. รตนขจิโต สงฺโข อนามาโส. ปานียสงฺโข โธโตปิ อโธโตปิ อามาโส. อวเสสสงฺโข ปน อฺชนาทิเภสชฺชตฺถํ, ปตฺตาทิภณฺฑมูลภาเวน จ อธิวาเสตุํ วฏฺฏติ. สุวณฺเณน เอกโต วิลิยาเปตฺวา กตา มุคฺควณฺณา สิลา อนามาสา. เสสา สิลา ขุทฺทกนิสานาทิกมฺมตฺถํ อธิวาเสตุํ วฏฺฏติ. ‘‘ปวาฬํ โธตมโธตฺจ วิทฺธมวิทฺธฺจ สพฺพถา อนามาสํ, นาปิ อธิวาเสตพฺพ’’นฺติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตตฺตา ปวาฬปฏิมาเจติยานิ เจว โปตฺถเกสุ ปเวเสตพฺพอาณิยา ¶ มูเล, อคฺเคจ ปเวเสตพฺพํ ปทุมาทิอากาเรน กตํ วฏฺฏฺจ น คเหตพฺพํ น ผุสิตพฺพํ.
พีชโต ปฏฺาย รชตํ, ชาตรูปฺจ กตํ วา โหตุ อกตํ วา, สพฺพโส อนามาสํ, น จ สาทิตพฺพํ. อิมินา กตํ ปฏิมาทิกฺจ อารกูฏโลหฺจ อนามาสนฺติ วกฺขติ. กตากตสุวณฺณรชตานํ อสาทิยิตพฺพตาย อิธ อฏฺกถาย อาคตตฺตา อุตฺตเรน ราชปุตฺเตน กาเรตฺวา อาหฏํ สุวณฺณเจติยํ น วฏฺฏตีติ มหาปทุมตฺเถเรน ปฏิกฺขิตฺตนฺติ สุวณฺณปฏิมาเจติยโปตฺถกาวจฺฉาทกมณิปทุมวฏฺฏาทิ ยํ กิฺจิ น สาทิตพฺพเมว, น จ อามสิตพฺพํ. เอเตน กตํ เสนาสโนปกรณํ ปน ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. ธมฺมมณฺฑเป กตมฺปิ ¶ ปฏิชคฺคิตุํ วฏฺฏติ. โลหิตวณฺโณ มณิ, มสารคลฺลมณิ จ สพฺพถา อนามาโส, น จ อธิวาเสตพฺโพติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ.
๓๔๖. สพฺพมาวุธภณฺฑนฺติ ขคฺคาทิ สพฺพํ อาวุโธปกรณํ ปตฺตาทิกปฺปิยปริกฺขารมูลตฺถาย ทียมานํ สตฺถวาณิชาย อกาตพฺพตฺตา น คเหตพฺพํ, ‘‘อิมํ คณฺหถา’’ติ ทินฺนํ ภินฺทิตฺวา ขณฺฑาขณฺฑิกํ กตฺวา ‘‘ขุราทิกปฺปิยปริกฺขารํ กาเรสฺสามี’’ติ สาทิตุํ วฏฺฏติ. สงฺคามภูมิยํ มคฺเค ปติตขคฺคาทึ ทิสฺวา ปาสาเณน ภินฺทิตฺวา ‘‘ขุราทิกปฺปิยภณฺฑานิ กาเรสฺสามี’’ติ คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. อุสุสตฺติอาทิกํ ผลโต ทณฺฑํ อปเนตฺวา กปฺปิยปริกฺขารการาปนตฺถาย คเหตพฺพํ.
ชิยาติ ธนุคุโณ. จ-กาเรน อิมิสฺสา คาถาย อวุตฺตํ องฺกุสโตมราทึ ปรหึ โสปกรณํ สงฺคณฺหาติ. ธนุทณฺฑโกติ ชิยาวิรหิโต ธนุทณฺฑโก. อิทํ ปรหึโสปกรณภณฺฑาทิกํ วิหาเร สมฺมชฺชิตพฺพฏฺาเน ปิตํ เจ, สามิกานํ วตฺวา เตหิ อคฺคหิตํ เจ, อจาเลนฺเตน สมฺมชฺชิตพฺพํ.
ชาลฺจาติ มจฺฉชาลปกฺขิชาลาทิชาลฺจ. ชาลํ ทียมานํ ฉตฺตเวนตฺถํ, อาสนเจติยาทิมตฺถเก พนฺธนาทิปโยชเน สติ ตทตฺถฺจ คเหตพฺพํ. สรวารณํ นาม ผลกาทิกํ อฺเหิ อตฺตโน วิชฺฌนตฺถาย วิสฺสฏฺสรนิวารณํ วินาสโนปโรธการณํ โหตีติ ภณฺฑมูลตฺถํ สาทิตุํ ¶ วฏฺฏติ. ‘‘ทนฺตกฏฺาธารผลกาทิ ยทิจฺฉิตํ กโรมี’’ติ มุฏฺึ อปเนตฺวา คเหตุํ วฏฺฏติ.
๓๔๗. เจติยนฺติ เอตฺถ ‘‘สุวณฺณเจติย’’นฺติ อิทํ ‘‘สุวณฺณปฏิพิมฺพาที’’ติ อนนฺตรํ วุตฺตตฺตา ลพฺภติ. สุวณฺณคฺคหณฺจุปลกฺขณนฺติ รชตมยฺจ คเหตพฺพํ. อารกูฏกนฺติ สุวณฺณวณฺณํ โลหวิเสสมาห ¶ . ‘‘อนามาส’’นฺติ อิทํ ‘‘อสมฺปฏิจฺฉิยํ วา’’ติ เอตสฺส อุปลกฺขณํ.
๓๔๘. สพฺพํ วาทิตมิติ สมฺพนฺโธ. โอนหิตุนฺติ จมฺมวรตฺตตนฺตีหิ พนฺธิตุํ. โอนหาเปตุนฺติ ตเถว อฺเหิ การาเปตุํ. วาทาเปตุนฺติ อฺเหิ วาทาเปตุํ. วาเทตุนฺติ อตฺตนา วาเทตุํ. วาทิตนฺติ วาทนียํ ยถา ‘‘กรณียํ การิต’’นฺติ, วาทนารหํ ตุริยภณฺฑนฺติ อตฺโถ. อิทฺจ โอนหนาทิกิริยาย กมฺมํ.
๓๔๙. อุปหารํ กริสฺสามาติ ปูชํ กริสฺสาม. อิติ อนุมติคฺคหณตฺถาย. วตฺตพฺพาติ เต วตฺตาโร วตฺตพฺพาติ โยชนา.
๓๕๐-๑. ธุตฺติยา อิตฺถิยาติ วิปนฺนาจาราย โลฬิตฺถิยา. สยํ ผุสิยมานสฺสาติ ภิกฺขุโน ปโยคํ วินา อิตฺถิยา อตฺตนาว ผุสิยมานสฺส. กาเยน อวายมิตฺวาติ ตสฺสา สรีรสมฺผสฺสานุภวนตฺถํ อตฺตโน กายํ อจาเลตฺวา. ผสฺสํ ปฏิวิชานโตติ ผสฺสํ อนุภวนฺตสฺส.
อสฺจิจฺจาติ เอตฺถ ‘‘ผุสเน’’ติ ปาเสโส, ‘‘อิมินา อุปาเยน อิมํ ผุสามี’’ติ อเจเตตฺวา. กึ วุตฺตํ โหติ? ‘‘อิมินา ปตฺตปฏิคฺคหณาทินา อุปาเยน เอติสฺสา สรีรสมฺผสฺสํ อนุภวิสฺสามี’’ติ อจินฺเตตฺวา ปตฺตถาลกตฏฺฏกปณฺณปุฏเภสชฺชาทึ ปฏิคฺคณฺหาเปนฺติยา หตฺเถ อตฺตโน หตฺเถน ผุสนาทีสุ อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อสฺสติยา’’ติ อิทํ ปน อิมินาว สงฺคหิตตฺตา อิธ วิสุํ น วุตฺตํ, มาตุคามสฺส สรีเร ผุสนภาวํ อชานิตฺวา อฺวิหิโต หุตฺวา สตึ อนุปฏฺเปตฺวา หตฺถปาทปสารณาทีสุ ผุสนฺตสฺสาติ อตฺโถ.
อชานนฺตสฺสาติ ¶ ทารกาการํ ทาริกํ ‘‘มาตุคาโม’’ติ อชานิตฺวา เกนจิ กรณีเยน ผุสนฺตสฺส ¶ . โมกฺขาธิปฺปายิโน จาติ ‘‘โมกฺขาธิปฺปาโย กาเยน วายมติ, ผสฺสํ ปฏิวิชานาติ, อนาปตฺติ. โมกฺขาธิปฺปาโย กาเยน วายมติ, น จ ผสฺสํ ปฏิวิชานาติ, อนาปตฺติ. โมกฺขาธิปฺปาโย น จ กาเยน วายมติ, ผสฺสํ ปฏิวิชานาติ, อนาปตฺติ. โมกฺขาธิปฺปาโย น จ กาเยน วายมติ, น จ ผสฺสํ ปฏิวิชานาติ, อนาปตฺตี’’ติ (ปารา. ๒๗๙) วุตฺตโมกฺขาธิปฺปายวโต จตุพฺพิธสฺส ปุคฺคลสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อนาปตฺตี’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ.
อิเมสุ โย มาตุคาเมน อาลิงฺคนาทิปโยเคน อชฺโฌตฺถรยมาโน ตํ อตฺตโน สรีรโต อปเนตฺวา มฺุจิตุกาโม หตฺถจาเลน, มุฏฺิอาทีหิ วา ปฏิปณามนํ, ปหรณาทิกฺจ ปโยคํ กโรติ, อยํ ปโม ปุคฺคโล. อตฺตานมชฺโฌตฺถริตุํ อาคจฺฉนฺตึ อิตฺถึ ทิสฺวา ปหรณาการาทิสพฺพปโยคํ ทสฺเสตฺวา ตาเสตฺวา อตฺตโน สรีรํ ผุสิตุํ อเทนฺโต ทุติโย. อิตฺถิยา อชฺโฌตฺถริตฺวา อาลิงฺคิโต โจปนรหิตํ มํ ‘‘อนตฺถิโก’’ติ มนฺตฺวา ‘‘สยเมว ปลายิสฺสตี’’ติ, ‘‘อโจปนเมว โมกฺโขปาโย’’ติ ตฺวา นิจฺจโลว หุตฺวา ผสฺสํ ปฏิวิชานนฺโต ตติโย. อตฺตานํ อชฺโฌตฺถริตุมาคจฺฉนฺตึ อิตฺถึ ทิสฺวา ทุติโย วิย ตาเสตุํ กายปฺปโยคํ อกตฺวา ‘‘อคเต ปาเตสฺสามิ, ปหริตฺวา ตาเสสฺสามี’’ติ วา จินฺเตตฺวา นิจฺจโลว หุตฺวา ติฏฺนฺโต จตุตฺโถติ เวทิตพฺโพ.
๓๕๒. ปเมนาติ เอตฺถ ‘‘ปาราชิเกนา’’ติ ปาเสโส, กายจิตฺตสมุฏฺานนฺติ วุตฺตํ โหติ. อิธ จิตฺตํ นาม ¶ กายสํสคฺคราคสมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ, สุกฺกวิสฺสฏฺิมฺหิ โมเจตุกามตาย สมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ.
กายสํสคฺคกถาวณฺณนา.
๓๕๓-๔. ทุฏฺุลฺลวาจสฺสาเทนาติ ทุฏฺุ กุจฺฉิตภาวํ อุลติ คจฺฉตีติ ทุฏฺุลฺลา, ทุฏฺุลฺลา จ สา วาจา จาติ ทุฏฺุลฺลวาจา, วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺเค เมถุนธมฺมปฏิสํยุตฺตา วาจา, ยถาห ‘‘ทุฏฺุลฺลา นาม วาจา วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคเมถุนธมฺมปฏิสํยุตฺตา วาจา’’ติ (ปารา. ๒๘๕), ทุฏฺุลฺลวาจาย อสฺสาโท ทุฏฺุลฺลวาจสฺสาโท, ตถาปวตฺตวจีวิฺตฺติสมุฏฺาปกจิตฺตสมฺปยุตฺตา เจตนา, เตน สมฺปยุตฺโต ราโค อิธ สหจริเยน ‘‘ทุฏฺุลฺลวาจสฺสาโท’’ติ วุตฺโต, เตน, ทุฏฺุลฺลวาจสฺสาทสมฺปยุตฺเตน ¶ ราเคนาติ อตฺโถ. อิมินา ‘‘โอภาสนฺตสฺสา’’ติ วกฺขมานโอภาสนสฺส เหตุ ทสฺสิโต.
อิตฺถิยา อิตฺถิสฺิโน ภิกฺขุโนติ โยชนา. อิตฺถิยา อิตฺถิสฺิโนติ ‘‘มาตุคาโม นาม มนุสฺสิตฺถี, น ยกฺขี, น เปตี, น ติรจฺฉานคตา, วิฺู ปฏิพลา สุภาสิตทุพฺภาสิตํ ทุฏฺุลฺลาทุฏฺุลฺลํ อาชานิตุ’’นฺติ ปทภาชเน นิทฺทิฏฺสรูปาย สุภาสิตทุพฺภาสิตํ ชานนฺติยา มนุสฺสิตฺถิยา อิตฺถิสฺิโน ภิกฺขุโนติ อตฺโถ. ‘‘ทฺวินฺนํ มคฺคาน’’นฺติ เอตสฺส สมฺพนฺธีวเสน ‘‘อิตฺถิยา’’ติ อิทํ สามิวเสน โยเชตพฺพํ, ยถาวุตฺตสรูปสฺส มาตุคามสฺส วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคนฺติ อตฺโถ. วณฺณาวณฺณวเสน จาติ ‘‘วณฺณํ ภณติ นาม ทฺเว มคฺเค โถเมติ วณฺเณติ ปสํสติ. อวณฺณํ ภณติ นาม ทฺเว มคฺเค ขุํเสติ วมฺเภติ ครหตี’’ติ นิทฺเทเส วุตฺตนเยน อุโภ มคฺเค อุทฺทิสฺส โถมนครหณวเสนาติ วุตฺตํ โหติ.
เมถุนสฺส ¶ ยาจนาทโย เมถุนยาจนาทโย, เตหิ เมถุนยาจนาทีหิ, ‘‘ยาจติปิ อายาจติปิ ปุจฺฉติปิ ปฏิปุจฺฉติปิ อาจิกฺขติปิ อนุสาสติปิ อกฺโกสติปี’’ติ (ปารา. ๒๘๕) อุทฺเทเส วุตฺตเมถุนยาจนาทิวเสนาติ วุตฺตํ โหติ. อิเมหิ ทฺวีหิ ‘‘โอภาสนฺตสฺสา’’ติ วุตฺตโอภาสนา ทสฺสิตา. โอภาสนฺตสฺสาติ อุทฺเทสยนฺตสฺส, ปกาเสนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ‘‘วิฺุ’’นฺติ อิมินา โอภาสนกิริยาย กมฺมมาห, อิมินา วิเสสิตพฺพํ ‘‘มนุสฺสิตฺถิ’’นฺติ อิทํ ปกรณโต ลพฺภติ, ยถาทสฺสิตปทภาชนาคตสรูปํ วิฺุํ ปฏิพลํ มนุสฺสิตฺถินฺติ วุตฺตํ โหติ. อนฺตมโส หตฺถมุทฺทายปีติ โอภาสเน อนฺติมปริจฺเฉททสฺสนํ. ทุฏฺุลฺลวจนสฺสาทภาเว สติ โย วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคปฏิพทฺธํ คุณโทสํ วา เมถุนธมฺมยาจนาทิวเสน วา ทุฏฺุลฺลาทุฏฺุลฺลํ ชานนฺตึ มนุสฺสิตฺถึ เหฏฺิมปริจฺเฉเทน หตฺถมุทฺทายปิ วเทยฺยาติ อตฺโถ.
อิมสฺมึ คาถาทฺวเย ทุฏฺุลฺลวาจสฺสาเทน อิตฺถิยา อิตฺถิสฺิโน วิฺุํ ตํ อิตฺถึ ทฺวินฺนํ มคฺคานํ วณฺณวเสน อนฺตมโส หตฺถมุทฺทายปิ โอภาสนฺตสฺส ภิกฺขุโน ครุกํ สิยาติ เอกํ วากฺยํ, ตถา ‘‘ทฺวินฺนํ มคฺคานํ อวณฺณวเสนา’’ติ อิมินา จ ‘‘เมถุนยาจนาทีหี’’ติ อิมินา จ โยชนาย วากฺยทฺวยนฺติ เอวํ โยชนาวเสน ตีณิ วากฺยานิ โหนฺติ.
ตตฺถ ¶ ปมวากฺเย วณฺณวจเนน สงฺคหิตํ โถมนาทิกถํ กเถนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโส โหติ. ‘‘อิตฺถิลกฺขเณน สุภลกฺขเณน สมนฺนาคตาสี’’ติ เอตฺตกเมว โถมนตฺถํ วทโต สงฺฆาทิเสโส น โหติ, ‘‘ตว วจฺจมคฺโค จ ปสฺสาวมคฺโค จ อีทิโส สุโภ สุสณฺาโน, เตน นาม ¶ อีทิเสน อิตฺถิลกฺขเณน สุภลกฺขเณน สมนฺนาคตาสี’’ติ วทนฺตสฺส โหติ. ‘‘วณฺเณติ, ปสํสตี’’ติ ปททฺวยฺจ ‘‘โถเมตี’’ติ ปทสฺส ปริยาโย.
ทุติยวากฺเย อวณฺณปทสงฺคหิตํ ขุํสนาทิตฺตเย ขุํสนํ นาม ปโตโทปเมหิ ผรุสวจเนหิ ตุทนํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ขุํเสตีติ วาจาปโตเทน ฆฏฺเฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๘๕). ปตุชฺชเตเนนาติ ‘‘ปโตโท’’ติอคจฺฉนฺเต อสฺสาทโย ปวตฺเตตุํ วิชฺฌนกปาจนทณฺโฑ วุจฺจติ. วมฺภนํ นาม อปสาทนํ. อปสาทนํ นาม คุณโต ปริหาปนํ. ยถาห ‘‘วมฺเภตีติ อปสาเทตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๘๕). ครหา นาม โทสาโรปนํ. ยถาห ‘‘ครหตีติ โทสํ เทตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๘๕). อิมํ ขุํสนาทิปฏิสํยุตฺตวจนํ วกฺขมาเนสุ ‘‘สิขรณีสิ, สมฺภินฺนาสิ, อุภโตพฺยฺชนาสี’’ติ อิเมสุ ตีสุ ปเทสุ อฺตเรน โยเชตฺวา กเถนฺตสฺเสว สงฺฆาทิเสโส, น อิตรสฺส.
ตติยวากฺเย เมถุนยาจนาทิวจเนหิ สงฺคหิตํ อายาจนาทึ กโรนฺตสฺสาปิ สงฺฆาทิเสโส. ‘‘ยาจติ นาม เทหิ เม อรหสิ เม ทาตุ’’นฺติอาทินา (ปารา. ๒๘๕) นเยน เอเกกํ ปทํ ‘‘เทหิ เม เมถุนํ ธมฺม’’นฺติอาทิวเสน เมถุนธมฺมปเทน สห ฆเฏตฺวา เมถุนธมฺมํ ยาจนฺตสฺเสว โหติ.
‘‘กทา เต มาตา ปสีทิสฺสติ, กทา เต ปิตา ปสีทิสฺสติ, กทา เต เทวตาโย ปสีทิสฺสนฺติ, กทา เต สุขโณ สุลโย สุมุหุตฺโต ภวิสฺสตี’’ติอาทิอายาจนปทนิทฺเทเส เอเกกํ ปทํ ตตฺเถว โอสาเน วุตฺเตน ‘‘กทา เต เมถุนํ ธมฺมํ ลภิสฺสามี’’ติ ปเทน ฆเฏตฺวา เมถุนํ ยาจนฺตสฺเสว โหติ.
‘‘กถํ ¶ ตฺวํ สามิกสฺส เทสิ, กถํ ชารสฺส เทสี’’ติ (ปารา. ๒๘๕) ปุจฺฉานิทฺเทสวจเนสุ จ อฺตรํ เมถุนธมฺมปเทน ฆเฏตฺวา ปุจฺฉนฺตสฺเสว โหติ.
‘‘เอวํ ¶ กิร ตฺวํ สามิกสฺส เทสิ, เอวํ ชารสฺส เทสี’’ติ (ปารา. ๒๘๕) ปฏิปุจฺฉานิทฺเทสวจเนสุ อฺตรํ เมถุนธมฺมปเทน ฆเฏตฺวา วิเสเสตฺวา ปฏิปุจฺฉนฺตสฺเสว โหติ.
‘‘กถํ ททมานา สามิกสฺส ปิยา โหตี’’ติ ปุจฺฉโต มาตุคามสฺส ‘‘เอวํ เทหิ, เอวํ เทนฺตี สามิกสฺส ปิยา ภวิสฺสติ มนาปา จา’’ติ อาณตฺติวจเน, อนุสาสนิวจเน จ เอเสว นโย.
๓๕๕. อกฺโกสนิทฺเทสาคเตสุ ‘‘อนิมิตฺตาสิ นิมิตฺตมตฺตาสิ อโลหิตาสิ ธุวโลหิตาสิ ธุวโจฬาสิ ปคฺฆรนฺตีสิ สิขรณีสิ อิตฺถิปณฺฑกาสิ เวปุริสิกาสิ สมฺภินฺนาสิ อุภโตพฺยฺชนาสี’’ติ เอกาทสสุ ปเทสุ ‘‘สิขรณีสิ สมฺภินฺนาสิ อุภโตพฺยฺชนาสี’’ติ ปทตฺตยํ ปจฺเจกํ อาปตฺติกรํ, อิมินา ปทตฺตเยน สห ปุพฺเพ วุตฺตานิ วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคเมถุนธมฺมปทานิ ตีณิ จาติ ฉปฺปทานํ ปจฺเจกํ อาปตฺติกรตฺตา อิโต ปรานิ อนิมิตฺตาทีนิ อฏฺ ปทานิ ‘‘อนิมิตฺตาสิ เมถุนธมฺมํ เทหี’’ติอาทินา นเยน เมถุนธมฺมปเทน สห ฆเฏตฺวา วุตฺตาเนว อาปตฺติกรานีติ เวทิตพฺพานิ, ‘‘เมถุนยาจนาทีหี’’ติ เอตฺถ อาทิ-สทฺทสงฺคหิเตสุ ‘‘อนิมิตฺตาสี’’ติอาทีสุ เอกาทสสุ อกฺโกสปเทสุ อนฺโตคธตฺเตปิ เกวลํ อาปตฺติกรตฺตา ครุตรํ ปทตฺตยํ วิสุํ สงฺคเหตพฺพนฺติ าเปตุมาห ‘‘สิขรณีสี’’ติอาทิ.
สิขรณีสีติ เอตฺถ ‘‘สิขรณี อสี’’ติ ปทจฺเฉโท. ‘‘อสี’’ติ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. ตุ-สทฺโท เกวลยุตฺตมฺปิ อาปตฺติกรํ ¶ โหตีติ วิเสสํ โชเตติ. เกวเลนาปิ อกฺโกสวจเนนาติ โยชนา. สิขรณีสีติ พหิ นิกฺขนฺตอาณิมํสา ภวสิ. สมฺภินฺนาสีติ มิสฺสีภูตวจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคา. อุภโตพฺยฺชนาสีติ อิตฺถินิมิตฺเตน, ปุริสนิมิตฺเตน จาติ อุภโตพฺยฺชเนหิ สมนฺนาคตา. ‘‘อยํ อิตฺถี, อยํ ปุริโส’’ติ พฺยฺชยตีติ พฺยฺชนํ, มุตฺตกรณานิ. สุณนฺติยาติ เอตฺถ ‘‘วิฺุมนุสฺสิตฺถิยา’’ติ อธิการโต ลพฺภติ, อิมินา อกฺโกสิตพฺพวตฺถุ ทสฺสิตํ โหติ. ภาสิตํ สุณนฺติยา สุภาสิตทุพฺภาสิตํ ชานนฺติยา มนุสฺสิตฺถิยา วิสเย ปวตฺตอกฺโกสวจเนน สงฺฆาทิเสโส โหตีติ อตฺโถ.
๓๕๖. ปุนปฺปุนํ โอภาสนฺตสฺส วาจานํ คณนาย ครุกา สิยุนฺติ โยชนา. เอตฺถ ‘‘เอกํ ¶ อิตฺถิ’’นฺติ อชฺฌาหริตพฺพํ. เอกวาจาย พหู โอภาสนฺตสฺส จ อิตฺถีนํ คณนาย ครุกา สิยุนฺติ โยชนา. เอตฺถาปิ ‘‘อิตฺถิโยปี’’ติ ลพฺภติ.
๓๕๗. สา เจ นปฺปฏิชานาตีติ เอตฺถ ‘‘ยํ สุณนฺตึ มนุสฺสิตฺถึ ทฺวินฺนํ มคฺคานํ วณฺณาวณฺณวเสน โอภาสติ, สา เจ น ปฏิชานาตี’’ติ สามตฺถิยา ลพฺภมานํ อาทาย โยเชตพฺพํ. อตฺตโน ภาสิตํ ทุฏฺุลฺลํ วุตฺตสมนนฺตรเมว อตฺถวเสน สเจ น ชานาตีติ อตฺโถ. ตสฺสาติ ตสฺส ทุฏฺุลฺลภาสิตภิกฺขุสฺส. อุพฺภชาณุํ, อธกฺขกํ วา อาทิสฺส ภณเน จาปิ ตสฺส ถุลฺลจฺจยํ สิยาติ โยชนา. ภณเนติ ทฺวินฺนํ มคฺคานํ วณฺณาทิกถเน, ‘‘ภณโต’’ติปิ ลิขนฺติ, ภณนฺตสฺส, ภณนเหตูติ อตฺโถ. เหตุมฺหิ อยมนฺตปจฺจโย ‘‘อสมฺพุธ’’นฺติอาทีสุ (ปารา. อฏฺ. ๑.คนฺถารมฺภกถา) วิย. อุพฺภชาณุนฺติ ชาณุโต อุทฺธํ. อกฺเขกนฺติ อกฺขกโต เหฏฺา.
๓๕๘. อุพฺภกฺขกนฺติ ¶ อกฺขกโต อุทฺธํ. อโธชาณุมณฺฑลนฺติ ชาณุมณฺฑลโต อโธ. อุทฺทิสนฺติ อุทฺทิสฺส. ‘‘อุทฺทิสฺสุพฺภกฺขํ วา ตถา, อโธชาณุมณฺฑล’’นฺติ จ ลิขนฺติ, โส ปาโ สุนฺทโร. วณฺณาทิภณเน ทุกฺกฏนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘วิฺุมนุสฺสิตฺถิยา’’ติ อธิการโต ลพฺภติ. กายปฏิพทฺเธ วณฺณาทิภณเน ทุกฺกฏนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคา สงฺฆาทิเสสกฺเขตฺตํ, อธกฺขกํ อุพฺภชาณุมณฺฑลํ ถุลฺลจฺจยกฺเขตฺตํ, อุทฺธกฺขกํ อโธชาณุมณฺฑลํ ทุกฺกฏกฺเขตฺตนฺติ อิเมสุ ตีสุ เขตฺเตสุ อกฺขกฺเจว ชาณุมณฺฑลฺจ ถุลฺลจฺจยทุกฺกฏานํ ทฺวินฺนํ อวธิภูตํ กตฺถ สงฺคยฺหตีติ? ทุกฺกฏกฺเขตฺเตเยว สงฺคยฺหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อกฺขกํ, ปน ชาณุมณฺฑลฺจ เอตฺเถว ทุกฺกฏกฺเขตฺเต สงฺคหํ คจฺฉตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๘๖).
๓๕๙. ปณฺฑเก ยกฺขิเปตีสุ ทฺวินฺนํ มคฺคานํ วณฺณาทิภณเน ตสฺส ภณนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ ภเวติ อธิการวเสน อาคตปเทหิ สห โยเชตพฺพํ. ปณฺฑกาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน ยกฺขิเปตีนํ คหณํ.
๓๖๐. อุพฺภกฺขก…เป… อยํ นโยติ ‘‘ปณฺฑกาทีสู’’ติ อิมินา โยเชตพฺพํ. อยํ นโยติ ‘‘ทุกฺกฏเมว โหตี’’ติ วุตฺโต นโย. สพฺพตฺถาติ สงฺฆาทิเสสถุลฺลจฺจยทุกฺกฏกฺเขตฺตวเสน สพฺเพสุ เขตฺเตสุ.
๓๖๑. อตฺถปุเรกฺขาโร ¶ หุตฺวา โอภาสโตปิ อนาปตฺตีติ โยชนา. มาตุคามานํ ‘‘อนิมิตฺตาสี’’ติอาทีสุ ปเทสุ อตฺถกถนํ ปุเรกฺขตฺวา ‘‘อนิมิตฺตาสี’’ติอาทิปทํ ภณนฺตสฺส วา มาตุคาเมหิ สห อฏฺกถํ สชฺฌายนฺตานํ วา อนาปตฺตีติ อตฺโถ. ธมฺมปุเรกฺขาโร หุตฺวา โอภาสโต อนาปตฺตีติ โยชนา. ปาฬิธมฺมํ วาเจนฺตสฺส วา ตาสํ ¶ สุณนฺตีนํ สชฺฌายนํ วา ปุเรกฺขตฺวา ‘‘อนิมิตฺตาสี’’ติอาทีสุ ปเทสุ ยํ กิฺจิ ปพฺพชิตสฺส วา อิตรสฺส วา มาตุคามสฺส กเถนฺตสฺส อนาปตฺตีติ. ปุเรกฺขตฺวานุสาสนินฺติ ‘‘อิทานิ อนิมิตฺตาสิ…เป… อุภโตพฺยฺชนาสิ, อปฺปมาทํ ทานิ กเรยฺยาสิ, ยถา อายติมฺปิ เอวรูปา นาโหสี’’ติ อนุสาสนึ ปุเรกฺขตฺวา.
๓๖๒. อุมฺมตฺตกาทีนนฺติ ปิตฺตุมฺมตฺตกยกฺขุมฺมตฺตกวเสน ทฺวินฺนํ อุมฺมตฺตกานฺจ อาทิ-สทฺทสงฺคหิตสฺส อิมสฺมึ อาทิกมฺมิกสฺส อุทายิตฺเถรสฺส จ อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อิทํ สิกฺขาปทํ ติสมุฏฺานํ กายจิตฺตโต จ วาจาจิตฺตโต จ กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ. กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺต’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๘๗) อฏฺกถายํ วุตฺตปกิณฺณกวินิจฺฉยํ ทสฺเสติ ‘‘สมุฏฺานาทโย…เป… ตุลฺยาวา’’ติ. เวทนาย อทินฺนาทาเนน อสมตฺตา ‘‘เวทเนตฺถ ทฺวิธา มตา’’ติ อาห, สุโขเปกฺขาเวทนาวเสน ทฺวิธา มตาติ อตฺโถ.
ทุฏฺุลฺลวาจากถาวณฺณนา.
๓๖๓. กามปาริจริยายาติ เมถุนธมฺมสงฺขาเตน กาเมน ปาริจริยาย, เมถุนธมฺเมน ปาริจริยายาติ อตฺโถ. อถ วา กามิตา ปตฺถิตาติ กามา, เมถุนราควเสน ปตฺถิตาติ อตฺโถ, กามา จ สา ปาริจริยา จาติ กามปาริจริยา, ตสฺสา กามปาริจริยายาติปิ คเหตพฺพํ, เมถุนราคจิตฺเตน อภิปตฺถิตปาริจริยายาติอตฺโถ. ‘‘วณฺณํ ภาสโต’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ, ‘‘เอตทคฺคํ ภคินิ ปาริจริยานํ ยา มาทิสํ สีลวนฺตํ กลฺยาณธมฺมํ พฺรหฺมจารึ เอเตน ธมฺเมน ปริจเรยฺยา’’ติ อตฺตโน เมถุนธมฺเมน ปาริจริยาย ¶ คุณํ อานิสํสํ กเถนฺตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺมึเยว ขเณติ ตสฺมึ ภณิตกฺขเณเยว. สา เจ ชานาตีติ ยํ อุทฺทิสฺส อภาสิ, สเจ สา วจนสมนนฺตรเมว ชานาติ.
๓๖๔. สา ¶ มนุสฺสิตฺถี โน ชานาติ เจ, ตสฺส ถุลฺลจฺจยนฺติ สมฺพนฺโธ. ยกฺขิเปติเทวีสุ ชานนฺตีสุ, ปณฺฑเก จ ชานนฺเต อตฺตกามปาริจริยาย วณฺณํ ภาสโต ตสฺส ภิกฺขุโน ถุลฺลจฺจยํ โหตีติ โยชนา. เสเสติ ปุริสติรจฺฉานคตวิสเย, ยกฺขิอาทีนํ อชานนวิสเย จ อตฺตกามปาริจริยาย วณฺณํ ภาสโต ตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา.
๓๖๕. จีวราทีหีติ จีวรปิณฺฑปาตาทีหิ. วตฺถุกาเมหีติ ตณฺหาย วตฺถุภาเวน วตฺถู จ กามิตตฺตา กามาติ จ สงฺขาเตหิ ปจฺจเยหิ.
๓๖๖. ราโค เอว ราคตา. ‘‘ราคิตา’’ติ วา ปาโ, ราโค อสฺส อตฺถีติ ราคี, ตสฺส ภาโว ราคิตา, อตฺตกามปาริจริยาย ราโคติ อตฺโถ. โอภาโสติ อตฺตกามปาริจริยาย คุณภณนํ. เตน ราเคนาติ กามปาริจริยาย ราเคน. ขเณ ตสฺมินฺติ ภณิตกฺขเณ. วิชานนนฺติ ยํ มนุสฺสิตฺถึ อุทฺทิสฺส อตฺตกามปาริจริยาย วณฺณํ ภณติ, ตาย ตสฺส วจนตฺถสฺส วิชานนนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๓๖๗. ปฺจงฺคานีติ มนุสฺสิตฺถิตา, ตํสฺิตา, ปาริจริยาย ราคิตา, เตน ราเคน โอภาสนํ, ขเณ ตสฺมึ วิชานนนฺติ อิมานิ เอตฺถ อตฺตกามปาริจริยสิกฺขาปเท ปฺจ องฺคานิ ¶ , ปฺจ อาปตฺติการณานีติ อตฺโถ. อสฺสาติ อตฺตกามปาริจริยสิกฺขาปทสฺส.
อตฺตกามปาริจริยกถาวณฺณนา.
๓๖๘. ‘‘ปฏิคฺคณฺหาตี’’ติอาทิกิริยาตฺตโยปาทานสามตฺถิเยน ติกฺขตฺตุํ ปฏิปาทนกํ ‘‘โย ภิกฺขู’’ติ จ ‘‘ครุ โหตี’’ติ ปทสามตฺถิเยน ‘‘ตสฺสา’’ติ จ ลพฺภมานตฺตา ติวิเธหิ สห ‘‘โย ภิกฺขุ ปุริสสฺส สนฺเทสํ ปฏิคฺคณฺหาติ, วีมํสติ ปจฺจาหรติ เจ, ตสฺส ครุ โหตี’’ติ เอกํ วากฺยํ โหติ. เอวํ ‘‘อิตฺถิยาปิ วา’’ติ อิมินา โยชนายปิ เอกํ วากฺยํ โหตีติ อิมิสฺสา คาถาย วากฺยทฺวยํ ยุชฺชติ.
อิธ สนฺเทสกฺกมฺจ โยชนากฺกมฺจ ชานนตฺถํ ปมํ ตาว อิตฺถีนฺจ ภริยานฺจ ปเภโท จ สรูปฺจ วิภาวียติ – เตสุ อิตฺถิโย ทสวิธา โหนฺติ. ยถาห ปทภาชเน ‘‘ทส อิตฺถิโย ¶ มาตุรกฺขิตา ปิตุรกฺขิตา มาตาปิตุรกฺขิตา ภาตุรกฺขิตา ภคินิรกฺขิตา าติรกฺขิตา โคตฺตรกฺขิตา ธมฺมรกฺขิตา สารกฺขา สปริทณฺฑา’’ติ. ภริยา จ ทสวิธา โหนฺติ. ยถาห ปทภาชเน ‘‘ทส ภริยาโย ธนกฺกีตา ฉนฺทวาสินี โภควาสินี โอทปตฺตกินี โอภฏจุมฺพฏา ทาสี จ ภริยา จ กมฺมการี จ ภริยา จ ธชาหฏา มุหุตฺติกา’’ติ (ปารา. ๓๐๓). อิมาสํ ปเภโท จ สรูปานิ จ สงฺเขปโต เอวํ เวทิตพฺพานิ –
ปุริเสหิ สห ยถา สํวาสํ น กโรติ, เอวํ มาตรา รกฺขิตา มาตุรกฺขิตา. ยถาห ‘‘มาตุรกฺขิตา นาม มาตา รกฺขติ โคเปติ อิสฺสริยํ กาเรติ วสํ วตฺเตตี’’ติ. ปิตุรกฺขิตาทีสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ ยสฺมึ โกณฺฑฺาทิโคตฺเต ชาตา, ตสฺมึเยว โคตฺเต ชาเตหิ ¶ รกฺขิตา โคตฺตรกฺขิตา. ยถาห ‘‘โคตฺตรกฺขิตา นาม สโคตฺตา รกฺขนฺตี’’ติอาทิ. เอกํ สตฺถารํ อุทฺทิสฺส ปพฺพชิเตหิ วา เอกคณปริยาปนฺเนหิ วา รกฺขิตา ธมฺมรกฺขิตา นาม. ยถาห ‘‘ธมฺมรกฺขิตา นาม สหธมฺมิกา รกฺขนฺตี’’ติอาทิ (ปารา. ๓๐๔). สารกฺขา นาม ‘‘คพฺเภปิ ปริคฺคหิตา โหติ ‘มยฺหํ เอสา’ติ อนฺตมโส มาลาคุฬปริกฺขิตฺตาปี’’ติ ปาฬิยํ วุตฺตสรูปา. สปริทณฺฑา นาม ‘‘เกหิจิ ทณฺโฑ ปิโต โหติ ‘โย อิตฺถนฺนามํ อิตฺถึ คจฺฉติ, ตสฺส เอตฺตโก ทณฺโฑ’’ติ วุตฺตสรูปาติ อยํ ทสนฺนํ อิตฺถีนํ สรูปสงฺเขโป. อิมาสุ ทสสุ สารกฺขสปริทณฺฑานํ ทฺวินฺนํ ปรปุริสเสวายํ มิจฺฉาจาโร โหติ, อิตราสํ น โหติ. อิมา ทสปิ ปฺจสีลํ รกฺขนฺเตหิ อคมนียา.
ทสสุ ภริยาสุ ‘‘ธนกฺกีตา นาม ธเนน กิณิตฺวา วาเสตี’’ติ วุตฺตตฺตา ภริยภาวาย อปฺปกํ วา พหุํ วา ธนํ ทตฺวา คหิตา ธนกฺกีตา นาม. ‘‘ฉนฺทวาสินี นาม ปิโย ปิยํ วาเสตี’’ติ วุตฺตตฺตา อตฺตรุจิยา สํวสิเตน ปุริเสน สมฺปฏิจฺฉิตา ฉนฺทวาสินี นาม. ‘‘โภควาสินี นาม โภคํ ทตฺวา วาเสตี’’ติ วุตฺตตฺตา อุทุกฺขลมุสลาทิเคโหปกรณํ ลภิตฺวา ภริยภาวํ คจฺฉนฺตี ชนปทิตฺถี โภควาสินี นาม. ‘‘ปฏวาสินี นาม ปฏํ ทตฺวา วาเสตี’’ติ วุตฺตตฺตา นิวาสนมตฺตํ วา ปารุปนมตฺตํ วา ลทฺธา ภริยภาวํ คจฺฉนฺตี ทลิทฺทิตฺถี ปฏวาสินี นาม. โอทปตฺตกินี นาม ‘‘อุทกปตฺตํ อามสิตฺวา วาเสตี’’ติ (ปารา. ๓๐๔) วุตฺตตฺตา ‘‘อิทํ อุทกํ วิย สํสฏฺา อเภชฺชา โหถา’’ติ วตฺวา เอกสฺมึ อุทกปตฺเต ปุริเสน สทฺธึ หตฺถํ โอตาเรตฺวา ภริยภาวํ นีโต มาตุคาโม วุจฺจติ. ‘‘โอภฏจุมฺพฏา นาม จุมฺพฏํ โอโรเปตฺวา ¶ วาเสตี’’ติ (ปารา. ๓๐๔) วุตฺตตฺตา สีสโต จุมฺพฏํ โอโรเปตฺวา ภริยภาวมุปนีตา กฏฺหาริกาทิอิตฺถี โอภฏจุมฺพฏา นาม. ทาสี ¶ จ ภริยา จ นาม ‘‘ทาสี เจว โหติ ภริยา จา’’ติ (ปารา. ๓๐๔) วุตฺตตฺตา ภริยํ กตฺวา วาสิตา ‘‘ตสฺเสว ทาสี จ ภริยา จา’’ติ วุตฺตา. กมฺมการี จ ภริยา จ นาม ‘‘กมฺมการี เจว โหติ ภริยา จา’’ติ (ปารา. ๓๐๔) วุตฺตตฺตา ปธานิตฺถินิรเปกฺเขน กุฏุมฺพกิจฺจํ กาเรตฺวา ภริยภาวํ นีตา ภริยา กตกมฺมา ‘‘กมฺมการี จ ภริยา จา’’ติ วุตฺตา. ‘‘ธชาหฏา นาม กรมรานีตา วุจฺจตี’’ติ (ปารา. ๓๐๔) วุตฺตตฺตา ธชํ อุสฺสาเปตฺวา คจฺฉนฺติยา มหาเสนาย สทฺธึ คนฺตฺวา ปรวิสยํ วิลุมฺปนฺเตน ปจฺฉินฺทิตฺวา อาเนตฺวา ภริยภาวมุปนีตา อิตฺถี ธชาหฏา นาม. ‘‘มุหุตฺติกา นาม ตงฺขณิกา วุจฺจตี’’ติ (ปารา. ๓๐๔) วุตฺตตฺตา อจิรกาลํ สํวาสตฺถาย คหิตา อิตฺถี มุหุตฺติกา นามาติ อยํ ทสนฺนํ ภริยานํ สรูปสงฺเขโป. ยถาวุตฺตาสุ ทสสุ อิตฺถีสุ อฺตรํ ทสนฺนํ ภริยานํ อฺตรฏฺาเน ปนตฺถมธิปฺเปตภาวํ วตฺตุํ ปุริเสน ‘‘คจฺฉ ภนฺเต อิตฺถนฺนามํ มาตุรกฺขิตํ พฺรูหิ ‘โหหิ กิร อิตฺถนฺนามสฺส ภริยา ธนกฺกีตา’ติ’’อาทินา นเยน ทินฺนสนฺเทสํ ‘‘สาธุ อุปาสกา’’ติอาทินา นเยน วจีเภทํ กตฺวา วา สีสกมฺปนาทิวเสน วา ปฏิคฺคณฺหาตีติ อาห ‘‘ปฏิคฺคณฺหาติ สนฺเทสํ ปุริสสฺสา’’ติ.
เอตฺถ ปุริสสฺสาติ อุปลกฺขณตฺตา ‘‘ปุริสสฺส มาตา ภิกฺขุํ ปหิณตี’’ติอาทินา (ปารา. ๓๒๑) นเยน ปาฬิยํ วุตฺตปุริสสฺส มาตาปิตุอาทโย จ คเหตพฺพา. วีมํสตีติ เอวํ ปฏิคฺคหิตสาสนํ ตสฺสาเยว เอกํเสน อวิราเธตฺวา วทนฺตสฺส มาตาปิตุอาทีนมฺตรสฺส วา อาโรเจตีติ อตฺโถ. เอตฺถาปิ วีมํสตีติ อุปลกฺขณตฺตา ‘‘ปฏิคฺคณฺหาติ อนฺเตวาสึ วีมํสาเปตฺวา อตฺตนา ปจฺจาหรติ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติ (ปารา. ๓๓๘) วุตฺตตฺตา วีมํสาเปตีติปิ คเหตพฺพํ. ปจฺจาหรตีติ ตถา อาหฏํ สาสนํ สุตฺวา ตสฺสา อิตฺถิยา ¶ สมฺปฏิจฺฉิเต จ อสมฺปฏิจฺฉิเต จ ลชฺชาย ตุณฺหีภูตาย จ ตํ ปวตฺตึ ปจฺจาหริตฺวา อาจิกฺขตีติ วุตฺตํ โหติ. อิธาปิ ปจฺจาหรตีติ อุปลกฺขณตฺตา ‘‘ปฏิคฺคณฺหาติ วีมํสติ อนฺเตวาสึ ปจฺจาหราเปติ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติ (ปารา. ๓๓๘) วุตฺตตฺตา ปจฺจาหราเปตีติ จ คเหตพฺพํ.
‘‘อิตฺถิยาปิ วา’’ติ อิมินา โยเชตฺวา คหิตทุติยวากฺเย จ เอวเมว อตฺโถ วตฺตพฺโพ. ตตฺถ สนฺเทสกฺกโม ปน ‘‘มาตุรกฺขิตา ภิกฺขุํ ปหิณติ ‘คจฺฉ ภนฺเต อิตฺถนฺนามํ พฺรูหิ ‘โหมิ อิตฺถนฺนามสฺส ¶ ภริยา ธนกฺกีตา’ติ’’อาทิปาฬินเยน (ปารา. ๓๓๐) ทฏฺพฺโพ. เอตฺถาปิ ‘‘วีมํสาเปติ ปจฺจาหราเปตี’’ติ อิทฺจ วุตฺตนเยเนว คเหตพฺพํ. อิมินา นิยาเมน ทสนฺนํ อิตฺถีนํ นามํ วิสุํ วิสุํ วตฺวา ทสนฺนํ ภริยานํ อฺตรตฺถาย ทียมานสนฺเทสกฺกโม โยเชตพฺโพ. อิธาปิ อิตฺถิยาปิ วาติ อุปลกฺขณตฺตา ‘‘มาตุรกฺขิตาย มาตา ภิกฺขุํ ปหิณติ ‘คจฺฉ ภนฺเต อิตฺถนฺนามํ พฺรูหิ ‘โหตุ อิตฺถนฺนามสฺส ภริยา ธนกฺกีตา’’ติอาทิปาฬิวเสน (ปารา. ๓๒๔) อิตฺถิยา มาตุปิตุอาทีนฺจ สนฺเทสกฺกโม โยเชตพฺโพ.
๓๗๐. ตํ ปวตฺตึ. สฺจริตฺตา สฺจรณเหตุ. น มุจฺจตีติ อิตฺถิปุริสานํ อนฺตเร สาสนํ ปฏิคฺคเหตฺวา สฺจรณเหตุ อาปชฺชิตพฺพสงฺฆาทิเสสโต น มุจฺจตีติ อตฺโถ.
๓๗๑. อฺํ วาติ มาตาปิตุรกฺขิตาทีสุ อฺตรํ วา. ‘‘ภาสโต’’ติ ลิขนฺติ. ‘‘เปสิโต’’ติ อิมินา วิรุทฺธตฺตา ตํ ปหาย ‘‘ภาสตี’’ติ ปาโ คเหตพฺโพ. ปาเสโส วา กาตพฺโพ. ‘‘โย อฺํ ภาสติ เจ, ตสฺส ภาสโตติ โยชนา’’ติ นิสฺสนฺเทเห วุตฺตํ. ‘‘มาตรา รกฺขิตํ อิตฺถึ ‘คจฺฉ พฺรูหี’ติ โย เปสิโต โหติ, ตสฺส ปิตุรกฺขิตํ ¶ วา อฺํ วา ภาสโต วิสงฺเกโตวา’’ติ, ‘‘มาตรา…เป… พฺรูหี’ติ เปสิโต หุตฺวา ปิตุรกฺขิตํ วา อฺํ วา ภาสโต วิสงฺเกโตวา’’ติ โยชนา ยุตฺตตราติ อมฺหากํ ขนฺติ.
๓๗๒. ปฏิคฺคณฺหนตาทีหีติ ปฏิคฺคณฺหนเมว ปฏิคฺคณฺหนตา. อาทิ-สทฺเทน วีมํสนปจฺจาหรณานิ คหิตานิ. สฺจริตฺเตติ สฺจรเณ. สมาปนฺเนติ คเต สติ. ครุกาปตฺติมาทิเสติ เอตฺถ ‘‘ตสฺสา’’ติ เสโส. อาทิเสติ กเถยฺย.
๓๗๓. ทฺวีหิ ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตนฺติ เอตฺถ ทฺวีหิ ทฺวีหิ องฺเคหิ สฺจริตฺเต สมาปนฺเน ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. ‘‘ปฏิคฺคณฺหาติ วีมํสติ น ปจฺจาหรติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. ปฏิคฺคณฺหาติ น วีมํสติ ปจฺจาหรติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. น ปฏิคฺคณฺหาติ วีมํสติ ปจฺจาหรติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (ปารา. ๓๓๘) ทฺวีหิ ทฺวีหิ องฺเคหิ ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตนฺติ อตฺโถ. ปณฺฑกาทีสูติ ปณฺฑกยกฺขิเปตีสุ. ตีหิปิ องฺเคหิ สฺจริตฺเต สมาปนฺเน ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตนฺติ โยชนา.
เอเกเนวาติ ¶ เอเกเนว องฺเคน. สพฺพตฺถาติ มาตุรกฺขิตาทีสุ สพฺพมาตุคาเมสุ จ วินีตวตฺถุมฺหิ ‘‘เตน โข ปน สมเยน อฺตโร ปุริโส อฺตรํ ภิกฺขุํ อาณาเปสิ ‘คจฺฉ ภนฺเต อิตฺถนฺนามํ อิตฺถึ วีมํสา’ติ. โส คนฺตฺวา มนุสฺเส ปุจฺฉิ ‘กหํ อิตฺถนฺนามา’ติ. สุตฺตา ภนฺเตติ…เป… มตา ภนฺเตติ. นิกฺขนฺตา ภนฺเตติ. อนิตฺถี ภนฺเตติ. อิตฺถิปณฺฑกา ภนฺเตติ. ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิ. อนาปตฺติ ภิกฺขุ สงฺฆาทิเสสสฺส, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๓๔๑) อาคตาสุ สุตฺตาทีสุ ปฺจสุ จ.
๓๗๔. อนาปตฺติ ปกาสิตาติ เจติยาทีสุ กตฺตพฺพํ นิสฺสาย อิตฺถิยา ปุริสสฺส, ปุริเสน จ อิตฺถิยา ทินฺนสาสนํ ปฏิคฺคเหตฺวา ¶ วีมํสิตฺวา ปจฺจาหริตฺวา อาโรเจนฺตสฺส อนาปตฺติภาโว ‘‘อนาปตฺติ สงฺฆสฺส วา เจติยสฺส วา คิลานสฺส วา กรณีเยน คจฺฉติ, อุมฺมตฺตกสฺส อาทิกมฺมิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๓๔๐) ปาฬิยํ วุตฺตาติ อตฺโถ.
๓๗๕. ตถา ตสฺสาติ มนุสฺสชาติกาย ตสฺสา. นนาลํวจนียตาติ ‘‘มมาย’’นฺติ วา นิคฺคหปคฺคเห วา นิราสงฺกํ วตฺตุํ นาหรตีติ อลํวจนียา, อสฺสามิกา, สา หิ เกนจิ ‘‘มยฺหํ เอสา’’ติ วตฺตุํ วา นิราสงฺเกน นิคฺคหปคฺคหวจนํ วา วตฺตุํ อสกฺกุเณยฺยา, อลํวจนียา น ภวตีติ นาลํวจนียา, สสฺสามิกา, สา หิ สามิเกน ตถา กาตุํ สกฺกุเณยฺยาติ นาลํวจนียา, นาลํวจนียา น ภวตีติ นนาลํวจนียา, อลํวจนียปเทน วุตฺตา อสฺสามิกา เอว, ปฏิเสธา ทฺเว ปกติมตฺถํ คมยนฺตีติ, นนาลํวจนียาย ภาโว นนาลํวจนียตา, นิราสงฺเกน อวจนียตา อสฺสามิกภาโวติ วุตฺตํ โหติ. สฺจริตฺตวเสน ภิกฺขุนา วจนียา น โหตีติ วา ‘‘อลํวจนียา’’ติปิ คเหตพฺพเมว. ปฏิคฺคณฺหนตาทีนํ วสาติ เอตฺถ จกาโร ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. ตโต ปฏิคฺคณฺหนวีมํสนปจฺจาหรณสงฺขาตานํ ติณฺณํ องฺคานํ วเสน จ ปุพฺเพ วุตฺตมนุสฺสิตฺถิตา นนาลํวจนียตาติ วุตฺตานํ ทฺวินฺนํ องฺคานํ วเสน จ อิทํ สิกฺขาปทํ อาปตฺติการเณหิ ปฺจหิ องฺเคหิ ยุตฺตนฺติ อตฺโถ.
๓๗๖. อิทํ สฺจริตฺตสิกฺขาปทํ. อถ วา ลิงฺควิปลฺลาเสน จ อยํ สงฺฆาทิเสโสติ คเหตพฺโพ. กายโต, วาจโต, กายวาจโต, กายจิตฺตโต, วาจาจิตฺตโต, กายวาจาจิตฺตโต วา อุปฺปชฺชนโต ฉสมุฏฺานํ. ตโต เอว อจิตฺตกมุทีริตํ. มิสฺสกสมุฏฺานฺหิ อจิตฺตกํ. อวเสสจิตฺเตสุปิ ¶ ยสฺมึ จิตฺเต อสติ อจิตฺตกํ นาม โหติ, ตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อลํวจนิยตฺตํ ¶ วา’’ติอาทิ. คาถาพนฺธวเสน รสฺโส, ‘‘อลํวจนียตฺต’’นฺติ คเหตพฺพํ. โย สนฺเทสํ เปเสติ, ตสฺมึ ปฏิพทฺธภาวนฺติ อตฺโถ. ปณฺณตฺตึ วาติ สฺจริตฺตสิกฺขาปทสงฺขาตํ ปณฺณตฺตึ วา อชานโต อจิตฺตกมุทีริตนฺติ สมฺพนฺโธ.
๓๗๗. สาสนนฺติ มาตุคามสฺส, ปุริสสฺส วา สาสนํ. กายวิกาเรนาติ สีสกมฺปนาทินา กายวิกาเรน. คเหตฺวาติ ปฏิคฺคเหตฺวา. ตํ อุปคมฺมาติ ปฏิคฺคหิตสาสนํ ยสฺส วตฺตพฺพํ โหติ, ตํ มาตุคามํ, ปุริสํ วา อุปคมฺม. วีมํสิตฺวาติ ตํ กิจฺจํ ตีเรตฺวา. หรนฺตสฺสาติ ปจฺจาหรนฺตสฺส. กายโต สิยาติ วจีเภทํ วินา ปฏิคฺคหณาทีนํ กาเยเนว กตตฺตา กายสมุฏฺานโตว สงฺฆาทิเสโส โหตีติ อตฺโถ.
๓๗๘. อิตฺถิยา วจนํ สุตฺวาติ โยชนา. ยถา นิสินฺโนวาติ ปกติยา นิสินฺนฏฺาเนเยว นิสินฺโน. ตํ วจนํ. ตตฺเถวาคตสฺเสวาติ ยตฺถ นิสินฺโน อิตฺถิยา สาสนํ ปฏิคฺคณฺหิ, ตเมว อาสนํ อวิชหิตฺวา อตฺตนา นิสินฺนฏฺานเมว อาคตสฺส สนฺนิสิตพฺพปุริสสฺเสว, เอตฺถ ‘‘อาโรเจตฺวา’’ติ ปาเสโส. ปุน ‘‘อาโรเจนฺตสฺสา’’ติ อิทํ ตตฺเถวาคตาย ตสฺสา เอว อิตฺถิยา เอวํ โยเชตพฺพํ. สาสนํ ทตฺวา คนฺตฺวา ปุน ตตฺเถว อาคตสฺส มาตุคามสฺเสว าตมนนฺตรํ กายิกกิริยํ วินา วจเนเนว อาโรเจนฺตสฺสาติ อตฺโถ. อิทํ อิตฺถิยา สาสนํ ปฏิคฺคหณาทิวเสน วุตฺตํ.
อถ วา ปุริสสฺส วจนํ สุตฺวา ยถานิสินฺโนว ตํ วจนํ อิตฺถิยา อาโรเจตฺวา ปุน ตตฺเถวาคตสฺเสว ปุริสสฺส ¶ อาโรเจนฺตสฺสาติ เอวํ ปุริสสนฺเทสํ ปฏิคฺคหณาทิวเสนาปิ โยชนา กาตพฺพา. เอตฺถ จ ตตฺเถวาคตสฺสาติ อุปลกฺขณํ. สาสนวจนมตฺเตเนว ปฏิคฺคเหตฺวา, กิจฺจนฺตเรน คนฺตฺวา วา ยทิจฺฉาวเสน ทิฏฺฏฺาเน วา วตฺวา ปุนปิ ตตฺเถว ทิฏฺฏฺาเน ปุน อาโรเจนฺตสฺส จ วจเนเนว สมุฏฺานภาโว เวทิตพฺโพ.
๓๗๙. ‘‘อลํ…เป… อชานโต’’ติ อจิตฺตกตฺตการณํ วุตฺตเมว, กสฺมา ปุน ‘‘อชานนฺตสฺส ปณฺณตฺติ’’นฺติ วุตฺตนฺติ เจ? ตทุภยสฺสาปิ วิสุํ การณาภาวํ วิฺาเปตุํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. นํ วิธินฺติ สาสนํ ปฏิคฺคเหตฺวา อาหริตฺวา อาโรเจตฺวา ปจฺจาหริตฺวา อาโรจนสงฺขาตํ ¶ วิธานํ. อรหโตปีติ ขีณาสวสฺสปิ, เสขปุถุชฺชนานํ ปเควาติ อยมตฺโถ สมฺภาวนตฺเถน อปิ-สทฺเทน โชติโต.
๓๘๐. ชานิตฺวาติ อลํวจนียภาวํ วา ปณฺณตฺตึ วา อุภยเมว วา ชานิตฺวา. ตถาติ กายวาจโต กโรนฺตสฺสาติ อิมินา โยเชตพฺพํ. สจิตฺตเกหีติ ยถาวุตฺตจิตฺเตน สจิตฺตเกหิ. เตเหวาติ กายาทีหิ เตหิ เอว, ‘‘ตีเหวา’’ติปิ ปาโ.
สฺจริตฺตกถาวณฺณนา.
๓๘๑-๒. สยํยาจิตเกเหวาติ เอตฺถ ‘‘อุปกรเณหี’’ติ ปาเสโส, ‘‘ปุริสํ เทถา’’ติอาทินา นเยน อตฺตนาว ยาจิตฺวา คหิเตหิ อุปกรเณเหวาติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘สฺาจิกา นาม สยํ ยาจิตฺวา ปุริสมฺปิ ปุริสตฺตกรมฺปิ โคณมฺปิ สกฏมฺปิ วาสิมฺปิ ปรสุมฺปิ กุาริมฺปิ กุทาลมฺปิ นิขาทนมฺปี’’ติ ¶ . เอตฺถ เอว-กาเรน อยาจิตํ นิวตฺเตติ. เตน อสฺสามิกนฺติ ทีปิตํ โหติ. ‘‘กุฏิก’’นฺติ อิมินา ‘‘กุฏิ นาม อุลฺลิตฺตา วา โหติ อวลิตฺตา วา อุลฺลิตฺตาวลิตฺตา วา’’ติ (ปารา. ๓๔๙) วุตฺตตฺตา ภูมิโต ปฏฺาย ภิตฺติจฺฉทนานิ ปฏิจฺฉาเทตฺวา มตฺติกาย วา สุธาย วา ทฺวารวาตปานาทิอเลโปกาสํ เปตฺวา อนฺโต ลิตฺตภาเวน อุลฺลิตฺตานามกํ วา ตถา พหิ ลิตฺตภาเวน อวลิตฺตานามกํ วา อนฺโต จ พหิ จ ลิตฺตภาเวน อุลฺลิตฺตาวลิตฺตานามกํ วา กุฏินฺติ วุตฺตํ โหติ.
อปฺปมาณิกนฺติ ‘‘ตตฺริทํ ปมาณํ, ทีฆโส ทฺวาทสวิทตฺถิโย สุคตวิทตฺถิยา, ติริยํ สตฺตนฺตรา’’ติ (ปารา. ๓๔๘) ทีฆปุถุลานํ วุตฺตปฺปมาเณน อติเรกตฺตา อปฺปมาณิกนฺติ อตฺโถ.
เอตฺถ จ ติลกฺขณํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ตีณิ กิเลสมูลานิ อุปฺปาเฏตฺวา กาลตฺตยวตฺต สพฺพธมฺเม ปฏิวิชฺฌิตฺวา ติภุวเนกปฏิสรณภูตสฺส ภควโต ธมฺมราชสฺส องฺคุลํ ปมาณมชฺฌิมปุริสสฺส องฺคุลโต ติวงฺคุลํ โหติ, เอกา วิทตฺถิ ติสฺโส วิทตฺถิโย โหนฺติ, เอกํ รตนํ ตีณิ รตนานิ โหนฺตีติ เอวํ นิยมิตา สุคตวิทตฺถิ จ วฑฺฒกิรตเนน ทิยฑฺฒรตนปฺปมาณา โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สุคตวิทตฺถิ นาม อิทานิ มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส ติสฺโส วิทตฺถิโย วฑฺฒกิหตฺเถน ทิยฑฺโฒ หตฺโถ โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๘-๓๔๙). ตสฺมา ¶ สุคตวิทตฺถิยา ทฺวาทส วฑฺฒกิหตฺเถน อฏฺารส หตฺถา โหนฺติ. ‘‘ทีฆโส ทฺวาทส วิทตฺถิโย สุคตวิทตฺถิยาติ พาหิริเมน มาเนนา’’ติ (ปารา. ๓๔๙) ปทภาชเน วุตฺตตฺตา อนฺติมํ สุธาเลปํ อคฺคเหตฺวา ถุสมตฺติกปริยนฺเตน วา มหามตฺติกปริยนฺเตน วา พาหิรนฺตโต อฏฺารสหตฺถปฺปมาณํ, ‘‘ติริยํ สตฺตนฺตราติ อพฺภนฺตริเมน มาเนนา’’ติ (ปารา. ๓๔๙) ¶ ปทภาชเน วุตฺตตฺตา อพฺภนฺตริเมน ปุถุลโต ทฺวาทสงฺคุลาธิกทสหตฺถปฺปมาณฺจ กุฏิยา ปมาณนฺติ คเหตพฺพํ. เอวํ ิตปมาณโต ทีฆโต ปุถุลโต วา อุภโต วา เกสคฺคมตฺตาธิกาปิ กุฏิ อาปตฺติยา องฺคํ โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อปฺปมาณิก’’นฺติ อาหาติ สงฺเขปโต เวทิตพฺพํ.
อตฺตุทฺเทสนฺติ อุทฺทิสิตพฺโพติ อุทฺเทโส, อตฺตา อุทฺเทโส เอติสฺสาติ อตฺตุทฺเทสา, กุฏิ, ตํ อตฺตุทฺเทสํ. ‘‘อตฺตุทฺเทสนฺติ อตฺตโน อตฺถายา’’ติ ปทภาชเน วุตฺตตฺตา ‘‘มยฺหํ เอสา วาสตฺถาย ภวิสฺสตี’’ติ อตฺตานํ อุทฺทิสิตฺวาติ อตฺโถ. ‘‘กโรนฺตสฺสา’’ติ อิทํ ‘‘การยมาเนนาติ กโรนฺโต วา การาเปนฺโต วา’’ติ ปทภาชเน วุตฺตนเยน ปโยชกกตฺตุโน จ คเหตพฺพตฺตา อุปลกฺขณนฺติ คเหตพฺพํ. ตถาติ เตเนว ปกาเรน, เยหิ อสฺสามิกตาทีหิ ปกาเรหิ ยุตฺตํ ปมาณาติกฺกนฺตํ กุฏึ กโรนฺตสฺส อาปตฺติ, เตเหว ปกาเรหิ ยุตฺตํ อเทสิตวตฺถุกมฺปิ กุฏึ กโรนฺตสฺสาติ. อิมินา อปฺปมาณิกํ วิย อเทสิตวตฺถุกมฺปิ วิสุํเยว อาปตฺติยา ปธานงฺคนฺติ. วสติ เอตฺถาติ วตฺถุ, ภูมิ, สา อเทสิตา เอติสฺสาติ อเทสิตวตฺถุกา, กุฏิ, ตํ อเทสิตวตฺถุกํ.
กึ วุตฺตํ โหติ? เตน กุฏิกาเรน ภิกฺขุนา กุฏิวตฺถุํ โสเธตฺวา สมตลํ กาเรตฺวา สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา วุฑฺฒานํ ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘อหํ ภนฺเต สฺาจิกาย กุฏึ กตฺตุกาโม อสฺสามิกํ อตฺตุทฺเทสํ, โสหํ ภนฺเต สงฺฆํ กุฏิวตฺถุโอโลกนํ ยาจามี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วตฺวา ยาจิเตน สงฺเฆน วา สงฺเฆน ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย สมฺมเตหิ พฺยตฺเตหิ ¶ ปฏิพเลหิ ทฺวีหิ ภิกฺขูหิ วา เตน สทฺธึ คนฺตฺวา กุฏิวตฺถุํ โอโลเกตฺวา สารมฺภภาวํ วา อปริกฺกมนภาวํ วา อุภยเมว วา ปสฺสนฺเตหิ ‘‘มายิธ กรี’’ติ นิวาเรตฺวา อนารมฺภํ เจ โหติ สปริกฺกมนํ, อาคนฺตฺวา สงฺฆสฺส อาโรจิเต กุฏิการเกเนว ภิกฺขุนา ปุพฺเพ วุตฺตนเยน สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา วุฑฺฒานํ ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘อหํ ภนฺเต สฺาจิกาย กุฏึ กตฺตุกาโม อสฺสามิกํ อตฺตุทฺเทสํ, โสหํ ภนฺเต สงฺฆํ กุฏิวตฺถุเทสนํ ยาจามี’’ติ ติกฺขตฺตุํ วตฺวา ยาจิเต วุฑฺฒานุมเตน พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย เทเสตฺวา นิยฺยาทิตกุฏิวตฺถุสฺส ¶ อภาวา อเทสิตวตฺถุกํ, เตเนว อสฺสามิกตาทิปกาเรน ยุตฺตํ ยถาวุตฺตปฺปการํ กุฏิกํ อตฺตนา ยาจิเตหิ อุปกรเณหิ กโรนฺตสฺส, การาเปนฺตสฺส จาติ วุตฺตํ โหติ.
ทฺเว สงฺฆาทิเสสา โหนฺตีติ ‘‘ภิกฺขู วา อนภิเนยฺย วตฺถุเทสนาย, ปมาณํ วา อติกฺกาเมยฺย, สงฺฆาทิเสโส’’ติ (ปารา. ๓๔๘) ตุลฺยพลตาสูจเกน วา-สทฺเทน สมฺปิณฺฑิตฺวา วุตฺตองฺคทฺวยสหิตตฺตา ทฺเว สงฺฆาทิเสสา โหนฺตีติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘ภิกฺขุ กุฏึ กโรติ อเทสิตวตฺถุกํ ปมาณาติกฺกนฺตํ อนารมฺภํ สปริกฺกมนํ, อาปตฺติ ทฺวินฺนํ สงฺฆาทิเสสาน’’นฺติ (ปารา. ๓๕๕) จ ‘‘ภิกฺขุกุฏึ กโรติ อเทสิตวตฺถุกํ อนารมฺภํ สปริกฺกมนํ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติ (ปารา. ๓๕๔) จ ‘‘ภิกฺขุ กุฏึ กโรติ ปมาณาติกฺกนฺตํ อนารมฺภํ สปริกฺกมนํ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติ (ปารา. ๓๕๕) จ วุตฺตตฺตา ทฺวีสุ องฺเคสุ เอกํ เจ, เอโกว สงฺฆาทิเสโส ¶ โหตีติ. ตํ ปน ‘‘สเจ เอกวิปนฺนา สา, ครุกํ เอกกํ สิยา’’ติ วกฺขติ.
สารมฺภาทีสูติ เอตฺถ สารมฺภ-สทฺโท โสปทฺทวปริยาโย. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สารมฺภํ อนารมฺภนฺติ สอุปทฺทวํ อนุปทฺทว’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๘-๓๔๙). เอตฺถ ‘‘เสตํ ฉาคมารเภถ ยชมาโน’’ติ ปโยเค วิย อา-ปุพฺพสฺส รภสฺส หึสตฺเถปิ ทิสฺสมานตฺตา กตฺตุสาธโน อารมฺภ-สทฺโท หึสกานํ กิปิลฺลิกาทิสตฺตานํ วาจโก ภวตีติ ตํสหิตฏฺานํ สารมฺภํ นาม โหติ. เตเนว ปทภาชเนปิ วุตฺตํ ‘‘สารมฺภํ นาม กิปิลฺลิกานํ วา อาสโย โหติ, อุปจิกานํ วา, อุนฺทูรานํ วา, อหีนํ วา, วิจฺฉิกานํ วา, สตปทีนํ วา, หตฺถีนํ วา, อสฺสานํ วา, สีหานํ วา, พฺยคฺฆานํ วา…เป… อาสโย โหตี’’ติ (ปารา. ๓๕๓).
อาทิ-สทฺเทน อปริกฺกมนํ สงฺคณฺหาติ. ‘‘สปริกฺกมนํ นาม สกฺกา โหติ ยถายุตฺเตน สกเฏน อนุปริคนฺตุํ, สมนฺตา นิสฺเสณิยา อนุปริคนฺตุํ, เอตํ สปริกฺกมนํ นามา’’ติ (ปารา. ๓๕๓) วุตฺตลกฺขณวิปริยายโต นิพฺพโกสสฺส อุทกปาตฏฺาเน เอกํ จกฺกํ เปตฺวา อิตรํ จกฺกํ พหิ เปตฺวา กุฏึ ปริกฺขิปิตฺวา อาวชฺชิยมานสฺส โคยุตฺตสกฏสฺส วา นิสฺเสณิยํ ตฺวา กุฏึ ฉาทยมานานํ นิสฺเสณิยา วา ปรโต คมิตุมสกฺกุเณยฺยตฺตา อปริกฺกมนนฺติ เวทิตพฺพํ.
เอวํ ¶ วุตฺตสารมฺภอปริกฺกมนสงฺขาตองฺคทฺวเยน ยุตฺตํ เจ, ทฺเว ทุกฺกฏานิ โหนฺติ. ยถาห ‘‘ภิกฺขุ กุฏึ กโรติ เทสิตวตฺถุกํ ปมาณิกํ สารมฺภํ อปริกฺกมนํ, อาปตฺติ ทฺวินฺนํ ทุกฺกฏาน’’นฺติ (ปารา. ๓๕๕). เอกํ เจ, เอกเมว โหติ. ยถาห ‘‘ภิกฺขุ กุฏึ กโรติ เทสิตวตฺถุกํ ปมาณิกํ สารมฺภํ สปริกฺกมนํ, อาปตฺติ ¶ ทุกฺกฏสฺส. ภิกฺขุ กุฏึ กโรติ เทสิตวตฺถุกํ ปมาณิกํ อนารมฺภํ อปริกฺกมนํ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๓๕๕) เอตํ ตยมฺปิ ‘‘สารมฺภาทีสุ ทุกฺกฏ’’นฺติ สามฺเน สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
เอกํ องฺคํ ปมาณิกตฺตํ วา เทสิตวตฺถุกตฺตํ วา วิปนฺนํ เอติสฺสาติ เอกวิปนฺนา. ปุพฺเพ วุตฺตตฺถานํ สงฺฆาทิเสสาทิปทานมตฺโถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. สาติ ยถาวุตฺตลกฺขณกุฏิ.
๓๘๓. อิทานิ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท อฏฺุปฺปตฺติยํ ‘‘เต ยาจนพหุลา วิฺตฺติพหุลา วิหรนฺติ ‘ปุริสํ เทถ ปุริสตฺตกรํ เทถา’’ติอาทิปาฬิยา (ปารา. ๓๔๒) อฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๒) อาคตํ กปฺปิยากปฺปิยวินิจฺฉยํ สงฺเขปโต ทสฺเสตุมาห ‘‘ปุริส’’นฺติอาทิ. กมฺมสหายตฺถายาติ กิสฺมิฺจิ กมฺเม สหายภาวาย, กมฺมกรณตฺถายาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อิตฺถนฺนามํ กมฺมํ กาตุํ ปุริสํ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ ยาจิตุํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘กมฺมกรณตฺถาย ‘ปุริสํ เทถา’ติ ยาจิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๒). มูลจฺเฉชฺชวเสนาติ สามิกานํ อายตฺตภาวสงฺขาตมูลสฺส ฉินฺทนวเสน, อตฺตโน อายตฺตภาวกรณวเสนาติ วุตฺตํ โหติ.
๓๘๔. อวชฺชนฺติ วชฺชรหิตํ, นิทฺโทสนฺติ อตฺโถ. มิคลุทฺทกมจฺฉพนฺธกาทีนํ สกกมฺมํ วชฺชกมฺมํ นาม. ตสฺมา มิคลุทฺทกาทโย หตฺถกมฺมํ ยาจนฺเตน ปน ‘‘ตุมฺหากํ หตฺถกมฺมํ เทถา’’ติ, ‘‘หตฺถกมฺมํ ทาตพฺพ’’นฺติ สามฺเน อวตฺวา ‘‘อิตฺถนฺนามํ กมฺมํ ทาตพฺพ’’นฺติ วิเสเสตฺวาเยว ยาจิตพฺพํ. ลุทฺทเก วา อิตเร วา นิกฺกมฺเม อยาจิตฺวาปิ ยถารุจิ กมฺมํ การาเปตุํ วฏฺฏติ. หตฺถกมฺมยาจนาย สพฺพถาปิ กปฺปิยภาวํ ทีเปตุํ ตํตํสิปฺปิเก ยาจิตฺวา มหนฺตมฺปิ ปาสาทํ การาเปนฺเตน ¶ หตฺถกมฺเม ยาจิเต อตฺตโน อโนกาสภาวํ ตฺวา อฺเสํ กโรนฺตานํ ทาตพฺพํ มูลํ ทิยฺยมานํ อธิวาเสตุํ วฏฺฏตีติ วิตฺถารโต อฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๒ อตฺถโตสมานํ) วุตฺตตฺตา กุสลานํ อตฺถํ อปริหาเปนฺเตน กปฺปิเยน สารุปฺเปน ปโยเคน ยาจิตพฺพํ. ยาจิตกมฺมํ กาตุํ อสมตฺเถหิ กโรนฺตานํ ทิยฺยมานํ หตฺถกมฺมมูลํ กมฺมํ การาเปตฺวา ¶ กมฺมการเก ทสฺเสตฺวา ทาเปตพฺพํ. เอวํ ยาจนาย อนวชฺชภาเว อฏฺกถาคตํ การณํ ทสฺเสตุมาห ‘‘หตฺถกมฺมมฺปี’’ติอาทิ. ปิ-สทฺโท อวธารเณ, ปทปูรเณ วา. หิ-สทฺโท เหตุมฺหิ. ยสฺมา อิทํ หตฺถกมฺมํ กิฺจิ วตฺถุ น โหติ, ตสฺมา อนวชฺชเมว หตฺถกมฺมํ ยาจิตุํ ปน วฏฺฏตีติ.
๓๘๕. าตกาทิเกติ าตกปวาริเต. เปตฺวาติ วชฺเชตฺวา. โคณมายาจมานสฺสาติ อฺาตกอปฺปวาริเต ตาวกาลิกํ วินา เกวลํ กมฺมกรณตฺถาย โคณํ ยาจนฺตสฺส. เตสุปีติ าตกาทีสุปิ มูลจฺเฉชฺเชน โคณมายาจนสฺส ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. ‘‘ตาวกาลิกนเยน สพฺพตฺถ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๒) อฏฺกถาวจนโต ยาว กมฺมกรณกาลํ, ตาว นิยเมตฺวา าตกอฺาตกปวาริตอปฺปวาริเต สพฺเพปิ ยาจิตุํ วฏฺฏติ. ตถา ยาจิตฺวา วา อยาจิตฺวา วา คหิโต เจ, รกฺขิตฺวา ปฏิชคฺคิตฺวา สามิกานํ นิยฺยาเทตพฺโพ, โคเณ วา นฏฺเ วิสาเณ วา ภินฺเน สามิเกสุ อสมฺปฏิจฺฉนฺเตสุ ภณฺฑเทยฺยํ.
๓๘๖. เทมาติ เอตฺถ ‘‘ตุมฺหาก’’นฺติ ปาเสโส. ‘‘วิหารสฺส เทมา’ติ วุตฺเต ปน ‘อารามิกานํ อาจิกฺขถ ปฏิชคฺคนตฺถายา’ติ วตฺตพฺพ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๒) อฏฺกถายํ วุตฺตํ. สกฏวินิจฺฉยสฺสาปิ ¶ โคณวินิจฺฉเยน สมานตฺตา ตํ อวตฺวา วิเสสมตฺตเมว ทสฺเสตุมาห ‘‘สกฏํ…เป… วฏฺฏตี’’ติ. ‘‘ตุมฺหากํ เทมาติ วุตฺเต’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ตุมฺหากเมว เทมาติ วุตฺเต ทารุภณฺฑํ นาม สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๒).
๓๘๗. กุาราทีสูติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน นิขาทนํ สงฺคณฺหาติ. อยํ นโย เวทิตพฺโพติ ปาเสโส. ‘‘สกฏํ โคโณ วิย ตาวกาลิกํ อกตฺวา อฺาตกอปฺปวาริเต น ยาจิตพฺพํ, มูลจฺเฉชฺชวเสน อฺาตกอปฺปวาริเต น ยาจิตพฺพํ, ตาวกาลิกํ ยาจิตพฺพ’’นฺติ วินิจฺฉโย จ ‘‘สกฏํ…เป… วฏฺฏตี’’ติ วิเสสวินิจฺฉโย จาติ อยํ นโย วาสิอาทีสุ จ เวทิตพฺโพติ อตฺโถ. อนชฺฌาวุตฺถกนฺติ เกนจิ ‘‘มเมต’’นฺติ อปริคฺคหิตํ, ‘‘รกฺขิตโคปิตฏฺาเนเยว หิ วิฺตฺติ นาม วุจฺจตี’’ติ อฏฺกถาวจนโต อรกฺขิตาโคปิตกนฺติ วุตฺตํ โหติ. อฏฺกถาย วลฺลิอาทิวินิจฺฉยมฺปิ วตฺวา ‘‘อนชฺฌาวุตฺถกํ ปน ยํ กิฺจิ อาหราเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๒) วุตฺตตฺตา สพฺพนฺติ ¶ อิธ วุตฺตโคณาทิกฺจ วกฺขมานวลฺลิอาทิกฺจ คเหตพฺพํ. อิมินา ปุพฺเพ วุตฺตวินิจฺฉยสฺส รกฺขิตโคปิตวิสยตฺตํ ทีปิตํ โหติ. หราเปตุมฺปิ วฏฺฏตีติ เอตฺถ อปิ-สทฺเทน ปเคว เกนจิ หริตฺวา ทินฺนนฺติ ทีเปติ.
๓๘๘. วลฺลิอาทิมฺหีติ อาทิ-สทฺเทน เวตฺตมฺุชติณมตฺติกา สงฺคณฺหาติ. เอตฺถ มฺุชปพฺพชติณํ วินา เคหจฺฉาทนติณํ ติณํ นาม. ครุภณฺฑปฺปโหนเกติ ‘‘วลฺลิ อฑฺฒพาหุมตฺตาปี’’ติอาทินา นเยน วุตฺตลกฺขเณ ครุภณฺฑปฺปโหนเก. ปเรสํ สนฺตเกเยวาติ อวธารเณน น อนชฺฌาวุตฺถเก ทุกฺกฏนฺติ พฺยติเรกโต ทีเปติ.
๓๘๙. ปจฺจเยสูติ ¶ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนสงฺขาเตสุ ตีสุ ปจฺจเยสุ. เอว-กาเรน คิลานปจฺจยสงฺขาเต จตุตฺถปจฺจเย วิฺตฺติ วฏฺฏตีติ ทีเปติ. วิฺตฺติ นาม ‘‘อาหร, เทหี’’ติ อิจฺฉิตปจฺจเย นามํ วตฺวา ยาจนา. อฏฺกถายํ วุตฺตํ ‘‘สพฺเพน สพฺพํ น วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๒) สาวธารณตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘น จ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตตฺตา เนว วฏฺฏตีติ อตฺโถ คเหตพฺโพ.
วิฺตฺติยา อลพฺภมานภาเวน สมตฺตา ปจฺจเยสุ ตีสุ อนนฺตรํ สหนิทฺทิฏฺปจฺจยตฺตยโต ตติยปจฺจเยเยว ลพฺภมานวิเสสํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตติเย ปริกโถภาสนิมิตฺตานิ จ ลพฺภเร’’ติ วุตฺตตฺตา อวสิฏฺทฺวเย ปน ปริกถาทโย น ลพฺภนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. อวุตฺเต จตุตฺถปจฺจเยปิ สมุจฺจยตฺเถน จ-กาเรน ปริกถาทิตฺตยํ ลพฺภตีติ สิทฺธตฺตา ‘‘ตีสฺเววา’’ติ เอว-กาเรน พฺยติเรกมุเขน วิฺตฺติยา จ อนฺุาตตฺตา จตุตฺเถ คิลานปจฺจเย ปริกโถภาสนิมิตฺตกมฺมวิฺตฺติโย วฏฺฏนฺตีติ สิทฺธํ. เอตฺตาวตา จตุตฺเถ ปจฺจเย ปริกถาทโย จตฺตาโรปิ วฏฺฏนฺติ, ตติยปจฺจเย วิฺตฺตึ วินา เสสตฺตยํ วฏฺฏติ, ปุริมปจฺจยทฺวเย สพฺพมฺปิ น วฏฺฏตีติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
เสนาสนปจฺจเย ปริกถาทิกนฺติ อุโปสถาคาราทิกรณารหฏฺานํ โอโลเกตฺวา อุปาสกานํ สุณนฺตานํ ‘‘อิมสฺมึ วต โอกาเส เอวรูปํ เสนาสนํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วา ‘‘ยุตฺต’’นฺติ วา ‘‘อนุรูป’’นฺติ วา ปวตฺตา กถา ปริกถา นาม. ‘‘อุปาสกา ตุมฺเห กตฺถ วสถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ปาสาเท ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘ภิกฺขูนํ ปน อุปาสกา ปาสาโท น วฏฺฏตี’’ติอาทินา นเยน ปวตฺตา ¶ กถา โอภาโส นาม. อุปาสเกสุ ปสฺสมาเนสุ ภูมิยํ รชฺชุํ ปสาเรตฺวา ภูมึ ภาเชตฺวา ขาณุเก อาโกเฏตฺวา ‘‘กิมิทํ ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ¶ ‘‘เอตฺถ อาวาสํ กโรม อุปาสกา’’ติอาทิกา กถา นิมิตฺตกถา นาม. คิลานปจฺจเย จ อิมินา นเยน ยถารหํ เวทิตพฺพํ. สพฺพเมตํ อฏฺกถาย (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๔๒) วุตฺตํ.
๓๙๐-๓. อิทานิ กุฏิการสฺส ภิกฺขุโน อาปตฺติทสฺสนตฺถมาห ‘‘อเทสิเต’’ติอาทิ. ตํ อุตฺตานตฺถเมว. นิเสนฺตสฺสาติ ปาสาเณ ฆํสิตฺวา ติขิณํ กโรนฺตสฺส. ปาจิตฺติยา สหาติ ‘‘ภูตคามปาตพฺยตาย ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๙๐) วุตฺตปาจิตฺติเยน สทฺธึ.
อาปตฺตินฺติ ปาจิตฺติยฏฺาเน ปาจิตฺติยฺเจว ทุกฺกฏฺจ อิตรตฺร สุทฺธปโยคทุกฺกฏฺจาติ อาปตฺตึ.
ยา ปนาติ ยา กุฏิ. ปเม ทุติเยติ เอตฺถ ‘‘ปิณฺเฑหี’’ติ กรณพหุวจนํ วิภตฺติวจนวิปริณามวเสน ‘‘ปิณฺเฑ’’ติ ภุมฺเมกวจนนฺตํ กตฺวา โยเชตพฺพํ, ‘‘นิกฺขิตฺเต’’ติ อชฺฌาหริตพฺพํ, ภาวลกฺขเณ ภุมฺมํ, นิกฺขิตฺเต สตีติ อตฺโถ.
๓๙๔. ‘‘สเจ อฺสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท. วิปฺปกตนฺติ อารทฺธมนิฏฺิตํ. ‘‘อนาปตฺตี’’ติ อิทํ นิฏฺิเต อาปชฺชิตพฺพสงฺฆาทิเสสาภาวํ สนฺธายาห. ปุพฺพปโยคมตฺเตน หิ ปาจิตฺติยทุกฺกฏานิปิ โหนฺติ, ตานิ ปน เทเสตพฺพานิ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘อนาปตฺตี’’ติ อากฑฺฒติ, เตน สงฺฆาทิเสสาปตฺติยา อภาวโต ปุพฺพภาเค อาปนฺนานํ ปาจิตฺติยทุกฺกฏานํ เทเสตพฺพตา จ ทีปิตา โหติ. ตํ กุฏินฺติ ตํ วิปฺปกตกุฏึ.
๓๙๕. อฺํ โภชนสาลาทึ. ตถาติ อนาปตฺติมาห.
๓๙๖. ‘‘กโรโต’’ติ ¶ อิมินา ‘‘การาปยโต’’ติปิ ลพฺภติ. อุภเยนาปิ ‘‘กฺริยโต’’ติ อิมสฺส การณํ ทสฺเสติ. ‘‘อปฺปมาณิก’’นฺติ อิมินา สงฺฆาทิเสสสฺส องฺคํ ทสฺเสติ.
๓๙๗. ตนฺติ ¶ ‘‘อปฺปมาณิก’’นฺติ เอวํ ปจฺจามสติ. ‘‘กฺริยากฺริยโต’’ติ อิทํ กุฏิยา กรณฺจ วตฺถุเทสนาย อกรณฺจ อุปาทาย วุตฺตํ.
กุฏิการสิกฺขาปทวณฺณนา.
๓๙๘. วตฺถุํ อเทเสตฺวาติ สมฺพนฺโธ, ‘‘เตน วิหารการเกน ภิกฺขุนา วิหารวตฺถุํ โสเธตฺวา สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา’’ติอาทินา (ปารา. ๓๖๗) ปทภาชเน อาคตนเยน วิหารํ การาเปนฺเตน ภิกฺขุนา วิหารวตฺถุํ โสเธตฺวา สมตลํ กาเรตฺวา สงฺฆํ อุปสงฺกมฺม วุฑฺฒานํ ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘อหํ ภนฺเต มหลฺลกํ วิหารํ กตฺตุกาโม สสฺสามิกํ อตฺตุทฺเทสํ, โสหํ ภนฺเต สงฺฆํ วิหารวตฺถุโอโลกนํ ยาจามี’’ติ ติกฺขตฺตุํ ยาจิตฺวา ลทฺเธ วุฑฺเฒ วา ภิกฺขู ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย สงฺเฆน สมฺมเต วา ภิกฺขู เนตฺวา กตปริกมฺมํ วิหารวตฺถุํ ทสฺเสตฺวา กุฏิวตฺถุโอโลกเน วิย คตภิกฺขูหิ โอโลเกตฺวา สารมฺภาทิภาวํ อุปปริกฺขิตฺวา อนารมฺภสปริกฺกมนภาวํ ตฺวา อาคนฺตฺวา สงฺฆสฺส อาโรจิเต ปุน เตน สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา วุฑฺฒานํ ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘อหํ ภนฺเต มหลฺลกํ วิหารํ กตฺตุกาโม สสฺสามิกํ อตฺตุทฺเทสํ, โสหํ ภนฺเต สงฺฆํ วิหารวตฺถุเทสนํ ยาจามี’’ติ ติกฺขตฺตุํ ยาจิตฺวา สงฺเฆน ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย วิหารวตฺถุ เทเสตพฺพํ ¶ , ตถา อกตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. อิห สารมฺภาทิ ปมสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
มหลฺลกนฺติ ‘‘สสฺสามิกภาเวน สฺาจิกกุฏิโต มหนฺตภาโว เอตสฺส อตฺถีติ มหลฺลโก. ยสฺมา วา วตฺถุํ เทสาเปตฺวา ปมาณาติกฺกเมนาปิ กาตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ปมาณมหนฺตตายปิ มหลฺลโก’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๖๖) อฏฺกถายํ วุตฺตนเยน มหนฺตภาเวน ยุตฺตนฺติ อตฺโถ. วิหารนฺติ ‘‘วิหาโร นาม อุลฺลิตฺโต วา โหติ อวลิตฺโต วา อุลฺลิตฺตาวลิตฺโต วา’’ติ (ปารา. ๓๗๑) ปทภาชเน วุตฺตปฺปการํ เสนาสนนฺติ อตฺโถ. วิหรนฺติ อสฺมินฺติ วิคฺคโห. อุลฺลิตฺตาทิสรูปํ ปุริมสิกฺขาปเท วุตฺตนยเมว. ตํ วิหารํ โย กเรยฺยาติ โยชนา. กเรยฺย วา การาเปยฺย วาติ ปุพฺเพ วุตฺตนยเมว. อตฺตวาสตฺถนฺติ อตฺตโน วาสํ ปฏิจฺจ, อิมินา ปรสฺส วาสตฺถาย กโรติ, อนาปตฺตีติ พฺยติเรกโต วิฺายติ. ‘‘ครุก’’นฺติ เอตฺถ วตฺถุเทสนาย อการาปเนน ‘‘เอโกว สงฺฆาทิเสโส โหตี’’ติ ปุพฺเพ วุตฺตวิกปฺปตฺตยํ ¶ น คเหตพฺพํ. อิทฺจ วกฺขติ ‘‘ปมาณา…เป… สงฺฆาทิเสสตา’’ติ (วิ. วิ. ๓๙๙ อาทโย).
๓๙๙. กฺริยาสมุฏฺานาภาวนฺติ ปมาณาติกฺกเมปิ อาปตฺติยา อสมฺภวโต กิริยาสมุฏฺานสฺส อิธ อภาโว าตพฺโพ. กฺริย…เป… ลกฺขเยติ เอตฺถ พฺยติเรกโต อเทสิตวตฺถุกตาย อกิริยาสมุฏฺานตา อนฺุาตา.
มหลฺลกวิหารกถาวณฺณนา.
๔๐๑-๓. เตสูติ จตุวีสติยา ปาราชิเกสุ. ภิกฺขุโน อนุรูปานิ เอกูนวีสตีติ ภิกฺขุนีนํ ปฏินิยตา อุพฺภชาณุมณฺฑลิกาทโย ¶ จตฺตาโร ตทนุโลมาย วิพฺภนฺตภิกฺขุนิยา สห ปฺจ ปาราชิเก วินา ภิกฺขุโน อนุรูปา เสสา เอกูนวีสติ ปาราชิกา.
อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ปทภาชเน ‘‘ปาราชิเกน ธมฺเมนาติ จตุนฺนํ อฺตเรนา’’ติ (ปารา. ๓๘๖) วุตฺตนยสฺส อิธ ‘‘เอกูนวีสตี’’ติ วจนํ วิรุชฺฌตีติ เจ? น วิรุชฺฌติ. กสฺมา? ยสฺมา ปทภาชนํ ปาติโมกฺขุทฺเทสาคตมตฺตํ คเหตฺวา ปวตฺตํ, อิทํ ปน พุทฺธานุมตึ คเหตฺวา วินยปริยตฺติปวตฺตกานํ อาจริยานํ มตํ คเหตฺวา ปวตฺตํ, ตสฺมา น วิรุชฺฌตีติ คเหตพฺพํ. อาจริโย สพฺพปาราชิกานํ ‘‘พฺรหฺมจริยา จาเวยฺย’’นฺติ (ปารา. ๓๘๕) วุตฺตอนุทฺธํสนสฺส เอกนฺตสาธนตฺตา ภิกฺขุนีนํ ปฏินิยตสานุโลมปาราชิกปฺจกํ วินา อวเสสํ สพฺพํ สงฺคณฺหิ, เตเนว วินยฏฺกถาย คณฺิปทวิวรเณ ‘‘จตุนฺนํ อฺตเรนาติ ปาติโมกฺขุทฺเทเส เอว อาคเต คเหตฺวา วุตฺตํ, อิตเรสํ อฺตเรนาปิ อนุทฺธํเสนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโสวา’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมา ‘‘อนุทฺธํเสยฺยา’’ติ (ปารา. ๓๘๔) ปาเ อธิปฺปายํ คเหตฺวา ปวตฺตตฺตา อิเมสํ อาจริยานํ มตํ ปมาณนฺติ คเหตพฺพํ. ‘‘เตสุ อฺตเรนา’’ติ วกฺขมานตฺตา ‘‘เอกูนวีสตี’’ติ เอตฺถ ‘‘ยานี’’ติ สามตฺถิยา ลพฺภติ.
อฺตเรน อมูลเกนาติ โยชนา. อมูลเกนาติ โจทกสฺส ทสฺสนาทีหิ โจทนามูเลหิ วิรหิตตฺตา อมูลกํ, ปาราชิกํ, เตน. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ยํ ปาราชิกํ โจทเกน จุทิตกมฺหิ ปุคฺคเล เนว ทิฏฺํ น สุตํ น ปริสงฺกิตํ, อิทํ เอเตสํ ทสฺสนสวนปริสงฺกาสงฺขาตานํ ¶ มูลานํ อภาเวน อมูลกํ นามา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๘๕-๓๘๖). เอตฺถ จ มํสจกฺขุนา วา ทิพฺพจกฺขุนา วา ทิฏฺํ ทิฏฺํ นาม ¶ . ปกติโสเตน วา ทิพฺพโสเตน วา สุตํ สุตํ นาม. จิตฺเตน ปริสงฺกิตํ ปริสงฺกิตํ นาม. ตํ ติวิธํ ทิฏฺสุตมุตปริสงฺกิตวเสน.
ตตฺถ ตาทิเส กมฺมนิเย โอกาเส มาตุคาเมน สทฺธึ ภิกฺขุโน อฺถิยํ ปโยคํ ทิสฺวา อฺถา คเหตฺวา ‘‘วีติกฺกมนํ นุ โขยมกาสี’’ติ คหณํ ทิฏฺปริสงฺกิตํ นาม. กุฏฺฏติโรหิเต ภิกฺขุมฺหิ มาตุคามสฺส สทฺทํ สุตฺวา ตตฺถ อฺสฺส วิฺุปุริสสฺส สพฺภาวํ อชานิตฺวา ‘‘วีติกฺกมนํ นุ โขยมกาสี’’ติ เอวํ คหณํ สุตปริสงฺกิตํ นาม. วิหารปริยนฺเต ตรุณมาตุคามปุริสานํ ทิวสํ วีตินาเมตฺวา คตฏฺาเน วิปฺปกิณฺณปุปฺผานิ โอโลเกตฺวา, มํสสุรคนฺธฺจ ฆายิตฺวา ‘‘อิทํ กสฺส กมฺม’’นฺติ อุปปริกฺขนฺเตน ภิกฺขุโน เจติยปูชิตมาลาคนฺธสฺส ปีตาริฏฺสฺส ภิกฺขุโน สรีรคนฺธํ ฆายิตฺวา ‘‘ตํ เอตสฺส กมฺมํ นุ โข’’ติ กิริยมานสํสโย มุตปริสงฺกิตํ นาม. เอวรูปสฺส ทิฏฺสุตปริสงฺกิตมูลกสฺส อภาวโต อมูลเกน ปาราชิเกนาติ อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน สมนฺตปาสาทิกาย (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๘๕-๓๘๖) วุตฺตนเยน ทฏฺพฺโพ.
โจเทตีติ ‘‘ปาราชิกํ ธมฺมํ อาปนฺโนสี’’ติอาทิวจเนน สยํ โจเทติ. โจทาปนํ ปน วกฺขติ. จาวนเจตโน หุตฺวาติ ‘‘อปฺเปว นาม นํ อิมมฺหา พฺรหฺมจริยา จาเวยฺย’’นฺติ อุปฺปนฺเนน ปรํ สาสนา จาเวตุกาเมน จิตฺเตน สมนฺนาคโต หุตฺวา. ‘‘สุทฺธํ วา อสุทฺธํ วา’’ติ อิทํ ‘‘โจเทตี’’ติ อิมินา วุตฺตโจทนากิริยาย กมฺมนิทฺเทโส, ‘‘อฺํ ภิกฺขุ’’นฺติ เสโส, ปาราชิกมนาปนฺนํ วา อาปนฺนํ วา อฺํ ภิกฺขุนฺติ อตฺโถ. โยติ มาติกาคตภิกฺขุ, ‘‘ทุฏฺโ โทโส อปฺปตีโต’’ติ อิทํ อชฺฌาหริตพฺพํ, อุปฺปนฺเนน โทสเลเสน ¶ สยํ ทูสิโต, ปรฺจ ทูเสนฺโต ปีติสุขาทีหิ อปคโต โย ภิกฺขูติ อตฺโถ. วกฺขมาเนน ‘‘ตสฺสา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ.
‘‘กเต โอกาสมฺหี’’ติ ปทจฺเฉโท, โอกาสํ ‘‘การาเปตฺวา’’ติ (ปารา. ๓๘๙) ปาโต อนฺโตนีตเหตฺวตฺถตาย ‘‘กเต’’ติ ‘‘การิเต’’ติ เอตสฺส ปริยาโย โหติ, ‘‘โอกาสํ เม กโรหิ, อหํ ตํ วตฺตุกาโม’’ติ โอกาเส การาปิเตติ อตฺโถ. ‘‘อกเต โอกาเส’’ติ ปทจฺเฉโท ¶ , ปุพฺเพ วุตฺโตเยวตฺโถ. ทุกฺกฏาปตฺติยา สหาติ โอกาสสฺส อการาปิตตฺตา ทุกฺกฏาปตฺติยา สทฺธึ.
๔๐๔-๕. โกณฺโสีติ ธุตฺโตสิ. เชฏฺพฺพติโกสีติ กาลีเทวีวตนิยุตฺโตสิ. กาลีเทวี กิร สิริเทวิยา เชฏฺา, ตสฺมา ตสฺสา วตธโร เชฏฺพฺพติโก วุจฺจติ. ตํ ปน วตํ สมาทิยิตฺวา ปูเรนฺโต สกลสรีเร มสึ มกฺเขตฺวา กากปตฺตานิ มุฏฺิยํ กตฺวา กาลีเทวึ ผลเก ลิขาเปตฺวา ตํ กาชโกฏิยํ พนฺธิตฺวา อุจฺฉิฏฺโทกาทิอสุจิสนฺนิจิตโอลิคลฺลํ ปวิสิตฺวา ‘‘ทุสฺสีโลสิ นิสฺสีโลสิ สีลวิรหิโตสี’’ติ โถเมนฺโต วิจรตีติ.
ทุสฺสีลตฺตา เอว หีนชฺฌาสยตาย ปาปธมฺโม ลามกสภาโวสิ. ปูตินา กมฺเมน สีลวิปตฺติยา อนฺโต ปวิฏฺตฺตา อนฺโตปูติ. ฉหิ ทฺวาเรหิ ราคาทิกิเลสานุสฺสวเนน ตินฺตตฺตา อวสฺสุโต. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว. ครุกํ นิทฺทิเสติ เอตฺถ ‘‘กโตกาสมฺหี’’ติ จ ‘‘ตเถว อกโตกาเส, ทุกฺกฏาปตฺติยา สหา’’ติ จ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. เอวมุตฺตรตฺราปิ.
๔๐๖. สมฺมุขาติ ¶ จุทิตกสฺส สมฺมุขา, อวิทูเรติ อตฺโถ. หตฺถมุทฺทายาติ มุตฺตปาณาทิวเสน. ตํ หตฺถมุทฺทาย กถิตํ. ปโรติ ยํ โจเทสิ, โส จุทิตโก ปโร. ภิกฺขุโนติ โจทกสฺส ภิกฺขุโน.
๔๐๗. สมฺมุเข ตฺวาติ จุทิตกสฺส อาสนฺเน ตฺวา. ‘‘โจทาเปนฺตสฺสา’’ติ เอตสฺส กมฺมภาวโต ปโรติ อิทํ อุปโยคนฺตวเสน สมฺพนฺธิตพฺพํ. เอวมุตฺตรตฺร. เกนจีติ อฺเน เกนจิ ปุคฺคเลน. ตสฺส โจทกสฺส. ‘‘โจทาเปนฺตสฺสา’’ติ ปุน วจนํ นิยมตฺถํ.
๔๐๘. โสปีติ อุคฺคหาปิตตฺตา โจทนํ กโรนฺโต อิตโร ปโยชฺชกปุคฺคโลปิ. เตสํ ทฺวินฺนมฺปีติ ปโยชกปโยชฺชกานํ ทฺวินฺนมฺปิ.
๔๐๙. วุตฺตฏฺานํ ปณฺณํ วา สนฺเทสํ วา หรนฺโต ทูโต นาม, โส ‘‘ปณฺณํ วา สาสนํ วา เปเสตฺวา’’ติ อิมินา สงฺคยฺหตีติ ตสฺมึ วิสุํ อวตฺตพฺเพปิ ‘‘ทุต’’นฺติ วจเนน นิสฺสฏฺทูตมาห ¶ . ปณฺณํ วา อทตฺวา ‘‘เอวฺจ เอวฺจ วทา’’ติ สาสนฺจ อทตฺวา ‘‘ตํ โจเทหี’’ติ อตฺถมตฺตเมว ทตฺวา นิสฺสฏฺโ ภิกฺขุ อิธ ‘‘นิสฺสฏฺทูโต’’ติ คเหตพฺโพ.
อถ วา ‘‘ทูต’’นฺติ อิมินา โจเทตุํ อุคฺคหาเปตฺวา, ตมนุคฺคหาเปตฺวา วา นิสฺสฏฺโ ภิกฺขุ ทูโตเยว คเหตพฺโพ. ‘‘ปณฺณ’’นฺติ อิมินา ปพฺพชิตสฺส วา อปพฺพชิตสฺส วา กสฺสจิ หตฺเถ โจทนํ ลิขิตฺวา ทินฺนปณฺณํ คเหตพฺพํ. สาสนนฺติ ‘‘ปาราชิกํ อาปนฺโน’’ติอาทินา นเยน วตฺวา เปสิยมานํ สาสนํ คเหตพฺพํ. อิทํ ตยมฺปิ ทูเร นิสีทิตฺวา อฺเหิ การาปนโต ‘‘โจทาเปนฺตสฺสา’’ติ อาห. ‘‘ปร’’นฺติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. เอตฺถ โอกาสการาปนํ นตฺถิ.
๔๑๐. ตถาติ ¶ ยถา อมูลเกน ปาราชิเกน สมฺมุขา โอกาเส การิเต, อการิเต จ, ตถา อมูลเกหิ สงฺฆาทิเสเสหีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘วุตฺเต สมฺมุขา ปเร’’ติ ภุมฺมวเสน อธิกเตน โยเชตพฺพํ, โจเทติ โจทาเปตีติ วุตฺตํ โหตีติ. ปาจิตฺติยาปตฺตีติ โอกาเส การิเต เกวลา, อการิเต ทุกฺกเฏน สหาติ คเหตพฺพํ. สมฺมุขา เสสาปตฺตีหิ ปเร วุตฺเต จาวนสฺิโน ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา. โอกาสาการาปเนนปิ ทุกฺกฏเมว โหติ.
๔๑๑. อกฺโกสนาธิปฺปายสฺสาติ ขุํสนาธิปฺปายสฺส. อกโตกาสนฺติ อการิโตกาสํ, ‘‘ปร’’นฺติ อิมินา โยเชตพฺพํ. อตฺตนาติ โจทเกน, ‘‘สยํ อการิโตกาส’’นฺติ อิมินา โยเชตพฺพํ. สห ปาจิตฺติเยนาติ ‘‘โอมสวาเท ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปารา. ๑๔) วุตฺตปาจิตฺติเยน สห. วทนฺตสฺสาติ โจเทนฺตสฺส วา โจทาเปนฺตสฺส วา, เอตฺถ ‘‘สมฺมุขา’’ติ อิทํ วกฺขมานสฺส ‘‘อสมฺมุขา’’ติ เอตสฺส วิปริยายโต ลพฺภติ, จ-กาเรน การิโตกาสปกฺเข ทุกฺกเฏน ปาจิตฺติยสมฺพนฺธี.
๔๑๒. อสมฺมุขา วทนฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘อกฺโกสนาธิปฺปายสฺสา’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ‘‘อกโตกาสมตฺตนา’’ติ นานุวตฺตติ. สตฺตหิ อาปตฺตีหีติ ปาราชิกสงฺฆาทิเสสถุลฺลจฺจยปาจิตฺติยปาฏิเทสนียทุกฺกฏทุพฺภาสิตสงฺขาเตสุ สตฺตสุ อาปตฺติกฺขนฺเธสุ เยน เกนจีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘อสมฺมุขา’’ติ อิทํ สงฺคณฺหาติ. กมฺมนฺติ ตชฺชนียาทิสตฺตวิธํ กมฺมํ.
๔๑๓. อุมฺมตฺตกาทีนนฺติ ¶ อาทิ-สทฺเทน ‘‘อนาปตฺติ สุทฺเธ อสุทฺธทิฏฺิสฺส อสุทฺเธ อสุทฺธทิฏฺิสฺส อุมฺมตฺตกสฺส อาทิกมฺมิกสฺสา’’ติ ¶ (ปารา. ๓๙๐) วุตฺเต สงฺคณฺหาติ. ปฺจงฺคสํยุตนฺติ ยํ โจเทติ, ตสฺส ‘‘อุปสมฺปนฺโน’’ติ สงฺขฺยูปคมนํ, ตสฺมึ สุทฺธสฺิตา, เยน ปาราชิเกน โจเทติ, ตสฺส ทิฏฺาทิวเสน อมูลกตา, จาวนาธิปฺปาเยน สมฺมุขา โจทนา, ตสฺส ตงฺขณวิชานนนฺติ อิเมหิ ปฺจหิ องฺเคหิ ยุตฺตํ โหติ.
๔๑๕. อิทนฺติ ‘‘สิกฺขาปท’’นฺติ เสโส, ‘‘สิกฺขาปท’’นฺติ จ อิมินา ตปฺปฏิปาทนียา อาปตฺติเยว คยฺหติ. ติสมุฏฺานนฺติ กายจิตฺตโต, วาจาจิตฺตโต, กายวาจาจิตฺตโตติ สจิตฺตเกหิ ตีหิ สมุฏฺานโต ติสมุฏฺานํ. เตเนวาห ‘‘สจิตฺต’’นฺติ. ปฏิฆจิตฺตานํ ทฺวินฺนํ อฺตเรน สหิตตฺตา สจิตฺตกํ. ตํสมฺปยุตฺตาย โทมนสฺสเวทนาย วเสน ทุกฺขเวทนํ.
ทุฏฺโทสกถาวณฺณนา.
๔๑๖. เลสมตฺตนฺติ ‘‘อฺมฺปิ วตฺถุํ ลิสฺสติ สิลิสฺสติ โวหารมตฺเตเนว อีสกํ อลฺลียตีติ เลโส, ชาติอาทีนํเยว อฺตรโกฏฺาสสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๙๑) อฏฺกถาย ทสฺสิตนิพฺพจเนสุ ‘‘เลโส นาม ทส เลสา ชาติเลโส นามเลโส’’ติอาทินา (ปารา. อฏฺ. ๓๙๔) นเยน ปทภาชเน วุตฺเตสุ ชาตินามโคตฺตาทีสุ ทสสุ เลเสสุ อฺตรเลสมตฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ.
ตตฺถ ชาติ นาม ขตฺติยพฺราหฺมณาทิชาติ. นามํ นาม อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ‘‘ฉคลโก ทพฺโพ มลฺลปุตฺโต นาม, ฉคลิกา เมตฺติยา ภิกฺขุนี นามา’’ติ ปิตํ นามํ วิย โจทเกหิ ปิตนามฺจ พุทฺธรกฺขิตาทิสกนามฺจาติ ทุวิธํ นามํ. โคตฺตํ นาม โคตมโมคฺคลฺลานาทิโคตฺตํ. ลิงฺคํ นาม ¶ ทีฆตาทิสณฺานนานตฺตฺจ กณฺหตาทิวณฺณนานตฺตฺจาติ อิทํ ทุวิธลิงฺคํ. อาปตฺติเลโส นาม ลหุกาทิรูเปน ิตปาจิตฺติยาทิอาปตฺติ. ปตฺโต นาม โลหปตฺตาทิ. จีวรํ นาม ปํสุกูลาทิ. อุปชฺฌาโย นาม จุทิตกสฺส อุปชฺฌาโย. อาจริโย นาม จุทิตกสฺส ปพฺพชฺชาจริยาทิโก. เสนาสนํ นาม จุทิตกสฺเสว นิวาสปาสาทาทิกํ.
โจเทยฺยาติ อฺขตฺติยชาติกํ ปุคฺคลํ ปาราชิกํ อชฺฌาปชฺชนฺตํ ทิสฺวา อตฺตโน เวริขตฺติยชาติกํ ¶ ปุคฺคลํ ‘‘ขตฺติโย มยา ทิฏฺโ, ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺโนสี’’ติอาทินา นเยน โจเทติ. ครุกาปตฺติ นาม สงฺฆาทิเสโส. สเจ จาวนเจตโนติ ‘‘อปฺเปว นาม นํ อิมมฺหา พฺรหฺมจริยา จาเวยฺย’’นฺติ (ปารา. ๓๙๒) วุตฺตตฺตา สเจ อิมํ สาสนา จาเวยฺยามีติ อธิปฺปาโย หุตฺวา โจเทตีติ วุตฺตํ โหติ, อิมินา พฺยติเรกวเสน น อฺาธิปฺปาโยติ วุตฺตเมว โหตีติ ปุริมสิกฺขาปทฏฺกถายํ ทสฺสิเตสุ ‘‘จาวนาธิปฺปาโย อกฺโกสาธิปฺปาโย’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๓๘๙) เอวมาทินานปฺปการาธิปฺปาเยสุ อาปตฺติยา องฺคภูตํ จาวนาธิปฺปายํ ทสฺเสตฺวา เสสาธิปฺปาเย ปฏิกฺขิปติ.
๔๑๗. ตถาสฺีติ อยํ ปาราชิกมชฺฌาปนฺโนเยวาติ ตถาสฺี. ‘‘โจเทติ วา โจทาเปติ วา’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘ตถาสฺี’’ติ อิทํ ‘‘โจทาเปตี’’ติ อิมินาปิ โยเชตพฺพํ. เสโสติ เอตฺถ ‘‘ปาราชิกานิ วุตฺตานี’’ติอาทึ กตฺวา ‘‘สจิตฺตํ ทุกฺขเวทน’’นฺติ ปริยนฺตํ กตฺวา ทสฺสิตปมสิกฺขาปทวินิจฺฉยสงฺคาหกกถาปพนฺเธน วุตฺตสพฺพวินิจฺฉเยสุ ตํสิกฺขาปทนิยตํ ‘‘อมูลเกนา’’ติ อิทฺจ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ‘‘ภิกฺขุมนฺติมวตฺถุนา…เป… อนาปตฺติ สิยา’’ติ วุตฺตมตฺถฺจ ¶ เปตฺวา อวสิฏฺสพฺพวินิจฺฉโยติ อตฺโถ. อนนฺตรสโม มโต เหฏฺา อนนฺตรํ วุตฺตสิกฺขาปเทเนว สทิโสติ เวทิตพฺโพ.
ทุติยทุฏฺโทสกถาวณฺณนา.
๔๑๘. สมคฺคสฺส สงฺฆสฺสาติ ‘‘สมคฺโค นาม สงฺโฆ สมานสํวาสโก สมานสีมายํ ิโต’’ติ ปทภาชเน วุตฺตตฺตา จิตฺเตน จ กาเยน จ เอกีภูตสฺส สงฺฆสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. จ-กาโร ปทปูรโณ, เอว-การตฺโถ วา, นสมคฺคสฺสาติ พฺยติเรกตฺโถ เวทิตพฺโพ. เภทตฺถํ วายเมยฺยาติ ‘‘อิเม กถํ กทา ภิชฺชิสฺสนฺตี’’ติ รตฺตินฺทิวํ จินฺเตตฺวา อุปายํ คเวสิตฺวา ปกฺขปริเยสนาทึ กเรยฺยาติ อตฺโถ. วุตฺตฺหิ ปาฬิยํ ‘‘เภทาย ปรกฺกเมยฺยาติ กถํ อิเม นานา อสฺสุ วินา อสฺสุ วคฺคา อสฺสูติ ปกฺขํ ปริเยสติ คณํ พนฺธตี’’ติ (ปารา. ๔๑๒).
เภทเหตุนฺติ ‘‘อิธุปาลิ ภิกฺขุ อธมฺมํ ‘ธมฺโม’ติ ทีเปติ, ธมฺมํ ‘อธมฺโม’ติ ทีเปตี’’ติอาทินา (ปริ. ๔๕๙) นเยน ขนฺธเก วุตฺตํ อฏฺารสเภทกรวตฺถุสงฺขาตํ สงฺฆเภทการณมาห ¶ . อิทเมว หิ ปทภาชเน วุตฺตํ ‘‘เภทนสํวตฺตนิกํ วา อธิกรณนฺติ อฏฺารสเภทกรวตฺถูนี’’ติ. คเหตฺวาติ ปคฺคยฺห. ติฏฺเยฺยาติ นปฺปฏินิสฺสชฺเชยฺย. ปริทีปยนฺติ เอตฺถ ปริทีเปนฺโต, น ปฏินิสฺสชฺชนฺโตติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘ติฏฺเยฺยาติ น ปฏินิสฺสชฺเชยฺยา’’ติ.
๔๑๙. ภิกฺขูหีติ ตสฺส สงฺฆเภทกสฺส ปรกฺกมนํ ปสฺสนฺเตหิ วา ทูเร เจ, ิตํ ปวตฺตึ สุณนฺเตหิ วา ลชฺชีหิ สุเปสเลหิ เสสภิกฺขูหิ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ภิกฺขูหีติ อฺเหิ ภิกฺขูหิ. เย ปสฺสนฺติ เย สุณนฺติ, เตหิ วตฺตพฺโพ’’ติ ¶ (ปารา. ๔๑๒). ตสฺส วทนฺเตหิ เอวํ วตฺตพฺพนฺติ วจนาการทสฺสนตฺถมาห ‘‘มายสฺมา สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส เภทาย ปรกฺกมิ, เภทนสํวตฺตนิกํ วา อธิกรณํ สมาทาย ปคฺคยฺห อฏฺาสิ, สเมตายสฺมา สงฺเฆน, สมคฺโค หิ สงฺโฆ สมฺโมทมาโน อวิวทมาโน เอกุทฺเทโส ผาสุ วิหรตี’’ติ (ปารา. ๔๑๑) ปาํ, ตํ เอกเทสสงฺคหวเสน อุปลกฺเขตุมาห ‘‘เภทตฺถํ…เป… เภทการณ’’นฺติ. อิติ วตฺตพฺโพติ โยชนา.
๔๒๐. วุจฺจมาโน หีติ เอตฺถ หิ-สทฺโท อปิ-สทฺทตฺโถ. ‘‘ปี’’ติ วา ปาโ, เตหิ ลชฺชิภิกฺขูหิ ‘‘มายสฺมา’’ติอาทินา นเยน วิสุํ ติกฺขตฺตุํ วุตฺโตปีติ อตฺโถ. นิสฺสชฺเชยฺย น เจว นนฺติ ตํ เภทาย ปรกฺกมนํ อปฺปฏินิสฺสชฺชนปจฺจยา ทุกฺกฏาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวาปิ น วิสฺสชฺเชยฺยาติ อตฺโถ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘โน เจ ปฏินิสฺสชฺชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๔๑๒). ตถา หิ อปฺปฏินิสฺสชฺชนฺโต หตฺเถสุ, ปาเทสุ จ คเหตฺวา สงฺฆมชฺเฌ อาเนตฺวา ตเถว ติกฺขตฺตุํ วุตฺโตปิ ตํ อวิสฺสชฺเชตฺวา ทุกฺกฏาปตฺตึ อาปนฺโนติ อิมินา จ สงฺคหิโต. วุตฺตฺเหตํ ภควตา ‘‘โส ภิกฺขุ สงฺฆมชฺฌมฺปิ อากฑฺฒิตฺวา วตฺตพฺโพ ‘มายสฺมา…เป… ผาสุ วิหรตี’ติ. ทุติยมฺปิ วตฺตพฺโพ. ตติยมฺปิ วตฺตพฺโพ. สเจ ปฏินิสฺสชฺชติ, อิจฺเจตํกุสลํ. โน เจ ปฏินิสฺสชฺชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ. อิทํ อุภยตฺถ ทุกฺกฏํ สามฺเน วกฺขติ ‘‘ติกฺขตฺตุํ ปน วุตฺตสฺส, อปริจฺจชโตปิ ต’’นฺติ.
สมนุภาสิตพฺโพติ เอตฺถ ‘‘โส ภิกฺขู’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ, ‘‘ยาวตติย’’นฺติ เสโส, ยถาห ‘‘โส ภิกฺขุ ¶ ภิกฺขูหิ ยาวตติยํ สมนุภาสิตพฺโพ’’ติ (ปารา. ๔๑๑), ตถา สงฺฆมชฺเฌปิ ติกฺขตฺตุํ วุจฺจมาโนปิ โน วิสฺสชฺเชตฺวา ทุกฺกฏํ อาปนฺโน โส อาธานคฺคาหี ภิกฺขุ ¶ สงฺเฆน ติกฺขตฺตุํ วุตฺตํ กมฺมวาจํ วตฺวา สมนุภาสิตพฺโพติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ยาวตติยํ สมนุภาสิตพฺโพติ ยาว ตติยํ สมนุภาสนํ, ตาว สมนุภาสิตพฺโพ, ตีหิ สมนุภาสนกมฺมวาจาหิ กมฺมํ กาตพฺพ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๑๑). ตนฺติ เภทาย ปรกฺกมนํ, เภทนสํวตฺตนิกํ อธิกรณํ ปคฺคเหตฺวา านฺจ. อจฺจชนฺติ, ตฺติจตุตฺถาย กมฺมวาจาย วุจฺจมานายปิ อจฺจชนฺโต. ครุกํ ผุเสติ ตติยาย กมฺมวาจาย ‘‘โส ภาเสยฺยา’’ติ ยฺยการปฺปตฺตาย สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชติ.
๔๒๑. สงฺฆสฺส เภทาย ปรกฺกมนฺตํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา, สุตฺวา, ตฺวา จ อวทนฺตสฺส ภิกฺขุโน ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.
๔๒๒. กีวทูเร วสนฺเตหิ สุตฺวา คนฺตฺวา วตฺตพฺพนฺติ อาห ‘‘คนฺตฺวา’’ติอาทิ. อทฺธโยชนเมว อทฺธโยชนตา, ตโต อธิกํ วา. คิลานํ ปฏิจฺจ อทฺธโยชนํ วุตฺตํ, อิตรํ ปฏิจฺจ ‘‘อธิกํ ทูรมฺปิ ปน คนฺตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘สเจ สกฺโกตี’’ติ. ตาวเทติ ตทา เอว, อจิรายิตฺวาติ อตฺโถ.
๔๒๓. ติกฺขตฺตุํ ปน วุตฺตสฺสาติ ‘‘มายสฺมา’’ติอาทินา นเยน วิสฺุจ สงฺฆมชฺเฌ จ ติกฺขตฺตุํ วุตฺตสฺสาปิ อปริจฺจชนฺตสฺส. ตํ เภทาย ปรกฺกมาทิกํ. เภทปฺปวตฺติยา สุตกฺขเณ สยํ อคนฺตฺวา ปณฺณํ วา สาสนํ วา เปเสนฺตสฺส อาปตฺตึ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทูตํ วา’’ติอาทิ. ยถาห อฏฺกถายํ ¶ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๑๑) ‘‘ทูตํ วา ปณฺณํ วา เปเสตฺวา วทโตปิ อาปตฺติโมกฺโข นตฺถี’’ติอาทิ.
๔๒๕. ยฺยกาเร ปน สมฺปตฺเตติ ‘‘ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺยา’’ติ (ปารา. ๔๑๓) ตติยกมฺมวาจาย อนฺเต ยฺยกาเร อุจฺจาริเต. ปสฺสมฺภนฺตีติ ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ, วูปสมนฺตีติ อตฺโถ. ทุกฺกฏาทโยติ ตฺติยา ทุกฺกฏํ, ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ ทฺเว จ ถุลฺลจฺจยา. ยถาห ‘‘สงฺฆาทิเสสํ อชฺฌาปชฺชนฺตสฺส ตฺติยา ทุกฺกฏํ, ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ ถุลฺลจฺจยา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตี’’ติ (ปารา. ๔๑๔). ตสฺมา ตฺติยา ปุพฺเพ พหิ จ สงฺฆมชฺเฌ จ ติกฺขตฺตุํ วุตฺเตปิ อปฺปฏินิสฺสชฺชเนน อาปนฺนานิ ทฺเว ทุกฺกฏานิ เทเสตพฺพานีติ วิฺายติ.
อิมิสฺสา ¶ กมฺมวาจาย กึ อาปนฺนาปตฺติโย ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ, อุทาหุ อนาปนฺนาติ วิจารณาย ‘‘โย อวสาเน ปฏินิสฺสชฺชิสฺสติ, โส ตา อาปตฺติโย น อาปชฺชติ, ตสฺมา อนาปนฺนา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๑๔) มหาสุมตฺเถรสฺส วาทํ ‘‘กิมนาปนฺนานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา’’ติ ปฏิพาหิตฺวา ‘‘ลิงฺคปริวตฺตเน อสาธารณาปตฺติโย วิย อาปนฺนา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตี’’ติ มหาปทุมตฺเถรสฺส วาโท ิโต.
๔๒๖. อกเต ปน กมฺมสฺมินฺติ ยถาวุตฺตสมนุภาสนกมฺเม อกเต. อปริจฺจชโตปิ จาติ ตํ สงฺฆเภทาย ปรกฺกมนํ อปริจฺจชนฺตสฺสาปิ. ‘‘สงฺฆาทิเสเสนา’’ติ อิมินา กมฺมํ อกตฺวา สงฺฆมชฺเฌ จ พหิ จ ติกฺขตฺตุํ วุจฺจมานสฺส อปฺปฏินิสฺสชฺชเนน ทุกฺกฏํ ปน โหตีติ พฺยติเรกโตว ทสฺเสติ.
๔๒๗. ปุพฺเพ วาติ ตฺติยา ปุพฺเพ วิสุํ, สงฺฆมชฺเฌ วา ติกฺขตฺตุํ วุจฺจมาเนปิ. ตงฺขเณปีติ ตฺติกฺขเณ วา. ตฺติยา ¶ อนิฏฺิตายปิ ปจฺฉาปิ, อิมสฺส อวธึ ทสฺเสติ ‘‘อสมฺปตฺเต ยฺยการสฺมิ’’นฺติ. ปฏินิสฺสชฺชโตปิ จ ตสฺส สงฺฆาทิเสเสน อนาปตฺติ ปกาสิตาติ ปมคาถาย ปจฺฉิมฑฺฒํ อิธาเนตฺวา โยเชตพฺพํ.
๔๒๘. เอตฺตาวตา ‘‘อนาปตฺติ อสมนุภาสนฺตสฺส ปฏินิสฺสชฺชนฺตสฺส อุมฺมตฺตกสฺส ขิตฺตจิตฺตสฺส เวทนาฏฺฏสฺส อาทิกมฺมิกสฺสา’’ติ (ปารา. ๔๑๖) ปาเ ‘‘ปฏินิสฺสชฺชนฺตสฺสา’’ติ ปเทน คหิเตสุ ‘‘ตฺติโต’’ติอาทีสุ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา ตํ นิคเมตุํ ‘‘ปฏินิสฺสชฺชโต วาปิ ต’’นฺติ อาห. นิคมนตฺถโชตโก เอวํ-สทฺโท สามตฺถิยา ลพฺภติ, เอวํ ‘‘ตฺติโต’’ติอาทินา ยถาวุตฺตนเยน ปฏินิสฺสชฺชนฺตสฺส วาติ อตฺโถ. ตนฺติ สงฺฆเภทปฺปโยคํ. อสมนุภาสโต วาติ อสมนุภาสิยมานสฺส. ‘‘อสมนุภาสิยโต’’ติ วตฺตพฺเพ วิกรณปจฺจยโลเปน ‘‘อสมนุภาสโต’’ติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อสมนุภาสนฺตสฺสาติ อสมนุภาสิยมานสฺสา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๑๖). ‘‘สงฺฆาทิเสเสน อนาปตฺติ ปกาสิตา’’ติ อนุวตฺตมานตฺตา อิจฺฉิตตฺเถ สิทฺเธปิ ปุน ‘‘อนาปตฺติ ปกาสิตา’’ติ วจเน ปุนรุตฺตตา อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ, ปทาวุตฺติ นาม อลํกาโร โหตีติ.
๔๒๙. อิมสฺส ¶ สิกฺขาปทสฺส อตฺถุปฺปตฺติยํ สงฺฆเภทตฺถํ ปฺจ วตฺถูนิ ยาจนฺเตน เทวทตฺเตน ‘‘สาธุ ภนฺเต ภิกฺขู ยาวชีวํ มจฺฉมํสํ น ขาเทยฺยุํ, โย มจฺฉมํสํ ขาเทยฺย, วชฺชํ นํ ผุเสยฺยา’’ติ (ปารา. ๔๐๙) วุตฺเต ‘‘อลํ เทวทตฺต มยา ติโกฏิปริสุทฺธํ มจฺฉมํสํ อนฺุาตํ อทิฏฺํ อสุตํ อปริสงฺกิต’’นฺติ (ปารา. ๔๐๙) อนฺุาเตสุ มจฺฉมํเสสุ กปฺปิยากปฺปิยวินิจฺฉยํ ปุพฺเพ อโนกาสาภาเวน อวตฺวา ปกตํ สิกฺขาปทวินิจฺฉยํ นิฏฺาเปตฺวา อิทานิ ปตฺตาวเสสํ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยฺหี’’ติอาทิ อารทฺธํ ¶ . ‘‘ตํ ตสฺสา’’ติ วกฺขมานตฺตา ‘‘ย’’นฺติ อิทํ ‘‘ภิกฺขุ’’นฺติ อิมินา จ ‘‘มจฺฉมํส’’นฺติ เอเตน จ โยเชตพฺพํ. มจฺฉนฺติ โอทกํ. มํสนฺติ ถลชานํ มํสํ. นิพฺเพมติโกติ ‘‘มํ อุทฺทิสฺส กต’’นฺติ วา ‘‘สงฺฆํ อุทฺทิสฺส กต’’นฺติ วา อุปฺปนฺนาย วิมติยา วิรหิโต.
๔๓๐. สมุทฺทิสฺส กตนฺติ สงฺฆํ วา อตฺตานํ วา อุทฺทิสฺส กตํ. ‘‘ตฺวา’’ติ อิมินา อชานิตฺวา ภฺุชนฺตสฺส อนาปตฺติภาวมาห.
๔๓๑. หตฺถีนํ อสฺสานํ อจฺฉานํ มนุสฺสานํ อหีนํ กุกฺกุรานํ ทีปีนํ สีหานํ พฺยคฺฆานํ ตรจฺฉานํ มํสํ อกปฺปิยํ โหตีติ โยชนา.
๔๓๒. สจิตฺตกตา อาปตฺติยาเยว ยุชฺชติ, อิธ ปน ตํเหตุกํ มํสเมว เหตุมฺหิ ผลูปจาเรน สจิตฺตกนฺติ คหิตํ. เอตฺถ จิตฺตํ นาม อตฺตานํ วา สงฺฆํ วา อุทฺทิสฺส กตภาวชานนจิตฺตํ. เสสนฺติ อนุทฺทิสฺสกตํ อกปฺปิยมํสํ. อจิตฺตกนฺติ วุตฺตนยเมว.
๔๓๓. ปุจฺฉิตฺวาเยวาติ อกปฺปิยมํสปริหารตฺถํ ทสสุ มํเสสุ นามฺจ อุทฺทิสฺสกตสฺส ปริหารตฺถํ อุภยสฺสาปิ ปฏิลทฺธาการฺจ ปุจฺฉิตฺวาเยวาติ อตฺโถ. โอทเกสุ มจฺเฉสุ อกปฺปิยาภาวโต ลทฺธากาโรว าตพฺโพ. มํเส ทิฏฺมตฺเตเยว ‘‘อิทํ อสุกมํส’’นฺติ ชานนฺติ เจ, อปุจฺฉิเตปิ โทโส นตฺถิ. ทายเกสุ มํสสฺสาภาเว ลทฺธนิยาเม อปุจฺฉิเตปิ โทโส นตฺถิ. ยถา วา ตถา วา วิมติยา อุปฺปนฺนาย อปฺปฏิคฺคาเหตฺวา นิสินฺเน ‘‘กสฺมา น ปฏิคฺคณฺหถา’’ติ ปุจฺฉิเต วิมติยา อุปฺปนฺนาการํ วตฺวา ‘‘มยํ ตุมฺเห วา อิตเร ภิกฺขู วา อุทฺทิสฺส น กริมฺหา’’ติ ¶ วตฺวา ‘‘อมฺหากเมว สนฺธาย กตํ, ปณฺณาการตฺถาย กตํ, อติถีนํ วา อตฺถาย กต’’นฺติอาทินา ¶ อตฺตนา ลทฺธปฺปการํ วตฺวา ‘‘สํสยํ อกตฺวา ปฏิคฺคเหตพฺพ’’นฺติ วเทยฺยุํ เจ, ปฏิคฺคเหตุํ วฏฺฏตีติ สพฺพมิทํ อฏฺกถาย วุตฺตํ.
ภิกฺขูนํ เอตํ วตฺตนฺติ โยชนา. วตฺตฏฺาติ สมฺมาสมฺพุทฺเธน มหากรุณาย เทสิตํ ปาติโมกฺขสํวรสีลํ วิโสเธตฺวา ปฏิปชฺชเน ปติฏฺิตา. ‘‘วินยฺุโน’’ติ อิมินา วินยํ อชานิตฺวา อุปเทสปฺปมาเณเนว วตฺตํ ปูเรนฺเตหิ วตฺตสฺส วิโรโธปิ สิยาติ เต นิวตฺเตติ. ‘‘วตฺตฏฺา’’ติ วิเสสเนน วินยํ ตฺวาปิ อปูรเณ นิวตฺเตติ. อุภเยนปิ อตฺตนา วุตฺตวินิจฺฉยสฺส ปริสุทฺธภาวํ ทีเปติ.
๔๓๔. อิทํ สมนุภาสนนฺติ ยถาวุตฺตสิกฺขาปทมาห. สมนุภาสเนน สาเธตพฺพา อาปตฺติ สมนุภาสนา การณูปจาเรน. อฺถา เอกสมุฏฺานาทิภาโว น ยุชฺชติ. เอกสมุฏฺานํ กายวาจาจิตฺตสงฺขาตํ เอกํ สมุฏฺานํ เอตสฺสาติ กตฺวา. กายกมฺมนฺติ หตฺถมุทฺทาวเสน กาเยน กาตพฺพสฺส ปฏินิสฺสชฺชนสฺส อกตตฺตา กายกมฺมํ. วจีกมฺมนฺติ วจสา กาตพฺพสฺส อกตตฺตา วจีกมฺมํ. อกฺริยนฺติ ยถาวุตฺตนเยน ‘‘สงฺฆเภโทปกฺกมนิวารณาย ปรกฺกมนํ ปฏินิสฺสชฺชามี’’ติ กายวิกาเรน วา วจีเภเทน วา อวิฺาปนโต อกิริยํ นาม โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
สงฺฆเภทกถาวณฺณนา.
๔๓๕. กิฺจิปิ วตฺตพฺพนฺติ ‘‘เอโก วา ทฺเว วา ตโย วา’ติ วุตฺตสงฺฆเภทานุวตฺตกภิกฺขุํ ปสฺสนฺเตหิ สุณนฺเตหิ ลชฺชิภิกฺขูหิ ¶ วิสฺุจ สงฺฆมชฺเฌ จ เนตฺวา ติกฺขตฺตุํเยว สงฺฆเภทานุวตฺตนสฺส อกตฺตพฺพตํ วตฺวา ตโต อโนรมนฺตานํ ตฺติจตุตฺถาย กมฺมวาจาย สมนุภาสนกมฺมํ กาตพฺพ’’นฺติ อิทฺจ ‘‘ตติยานุสฺสาวนาย ยฺย-การปฺปตฺตาย อาปชฺชนกสงฺฆาทิเสสโต ปุพฺเพ อาปนฺนา ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตี’’ติ อิทฺจ อนาปตฺติปกาโร จาติ อิมํ สาธารณวินิจฺฉยํ สนฺธายาห. วจนปฺปการเภโท ปน อตฺเถว, โส สงฺเขปโต มาติกาย (ปารา. ๔๑๘-๔๑๙) วิตฺถารโต ปทภาชเน (ปารา. ๔๑๘-๔๑๙) อาคตนเยน วตฺตพฺโพ. อสฺสาติ ทุติยสงฺฆเภทสิกฺขาปทสฺส. ‘‘สมุฏฺานา…เป… มตา’’ติ อิมินา สาธารณวินิจฺฉโย อติทิฏฺโติ ทฏฺพฺพํ.
ทุติยสงฺฆเภทกถาวณฺณนา.
๔๓๖. อุทฺเทสปริยาปนฺเนติ ¶ เอตฺถ ‘‘สิกฺขาปเท’’ติ เสโส, นิทานปาราชิกสงฺฆาทิเสสอนิยตวิตฺถารสงฺขาเต ปฺจวิธอุทฺเทสลกฺขณปาติโมกฺเข อนฺโตคธสิกฺขาปทวิสเยติ อตฺโถ. ‘‘อุทฺเทสปริยาปนฺเน สิกฺขาปเท’’ติ อิมินา ‘‘อวจนียมตฺตานํ กโรตี’’ติ อิมสฺส วิสยํ ทสฺเสติ. ภิกฺขุ ทุพฺพจชาติโกติ เอตฺถ ‘‘โย’’ติ อชฺฌาหาโร. ‘‘ทุพฺพจชาติโกติ ทุพฺพจสภาโว, วตฺตุํ อสกฺกุเณยฺโยติ อตฺโถ’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๒๕-๔๒๖) อฏฺกถาย วุตฺตโทวจสฺสตาย เหตุภูตปาปิจฺฉตาทีหิ เอกูนวีสติยา ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต หุตฺวา อตฺตนิ วุตฺตํ อนุสิฏฺึ สาทรมคฺคหเณน นาสนตา โทวจสฺสสภาโวติ อตฺโถ. วุตฺตฺเหตํ ปทภาชเน ‘‘ทุพฺพจชาติโก โหตีติ ทุพฺพโจ โหติ โทวจสฺสกรเณหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อกฺขโม อปฺปทกฺขิณคฺคาหี อนุสาสนิ’’นฺติ (ปารา. ๔๒๖).
อวจนียมตฺตานํ ¶ กโรตีติ ‘‘มา มํ อายสฺมนฺโต กิฺจิ อวจุตฺถ กลฺยาณํ วา ปาปกํ วา, อหมฺปายสฺมนฺเต น กิฺจิ วกฺขามิ กลฺยาณํ วา ปาปกํ วา, วิรมถายสฺมนฺโต มม วจนายา’’ติ (ปารา. ๔๒๕) วุตฺตนเยน อตฺตานํ อวจนียํ กโรติ. ครุกํ สิยาติ เอตฺถ ‘‘ตสฺสา’’ติ อิทํ อชฺฌาหารนยสมฺพนฺเธน ลพฺภติ. ตตฺรายํ โยชนา – ทุพฺพจชาติโก โย ภิกฺขุ อุทฺเทสปริยาปนฺเน สิกฺขาปเท อตฺตานํ อวจนียํ กโรติ, ตสฺส ครุกํ สิยาติ.
กึ วุตฺตํ โหติ? โย ภิกฺขุ อตฺตโน โทวจสฺสตํ ปสฺสนฺเตหิ, สุณนฺเตหิ จ ลชฺชิภิกฺขูหิ ‘‘มา อายสฺมา อตฺตานํ อวจนียํ อกาสิ…เป… อฺมฺวุฏฺาปเนนา’’ติ (ปารา. ๔๒๕) วุตฺตนเยน ติกฺขตฺตุํ วุตฺโตปิ ทุกฺกฏํ อาปชฺชิตฺวาปิ น วิสฺสชฺเชติ, ‘‘โส ภิกฺขุ สงฺฆมชฺฌมฺปิ อากฑฺฒิตฺวา วตฺตพฺโพ’’ติ (ปารา. ๔๒๖) วุตฺตตฺตา หตฺเถ คเหตฺวา อากฑฺฒิตฺวาปิ สงฺฆมชฺฌํ เนตฺวา ตเถว ติกฺขตฺตุํ วุตฺเต ทุกฺกฏํ อาปชฺชิตฺวาปิ น วิสฺสชฺเชติ, ตสฺส ทุพฺพจชาติกสฺส ตฺติจตุตฺถาย กมฺมวาจาย กริยมาเน สมนุภาสนกมฺเม ตติยาย กมฺมวาจาย ยฺยการปฺปตฺตาย ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว ตฺติยา ทุกฺกฏํ, ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ ถุลฺลจฺจเย จ ปฏิปฺปสฺสมฺภยมาโน สงฺฆาทิเสโส โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
๔๓๗. ทุพฺพเจติ เอตฺถ ‘‘สิกฺขาปเท’’ติ เสโส, ตถา สงฺฆเภทกวณฺณเนติ เอตฺถาปิ. สงฺฆเภโท เอว สงฺฆเภทโก, ตํ วณฺเณติ กเถตีติ สงฺฆเภทกวณฺณนํ, กึ ตํ? สิกฺขาปทํ, ตฺจ ¶ ปมเมว สงฺฆเภทกสิกฺขาปทํ คเหตพฺพํ, ตสฺมึ วุตฺตนเยนาติ โยชนา. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สมุฏฺานาทีนิ ปมสงฺฆเภทสทิสาเนวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๒๕-๔๒๖). ‘‘สพฺโพ วินิจฺฉโย’’ติ เอเตน อิธ ทสฺสิเตน ¶ ‘‘ครุกํ สิยา’’ติ เอเตน สงฺคหิตํ สงฺฆาทิเสสาวสานวินิจฺฉยํ วชฺเชตฺวา ‘‘อกเต ปนา’’ติอาทิคาถาตฺตเยน วุตฺตอนาปตฺติปฺปกาเร จ ‘‘อิทเมกสมุฏฺาน’’นฺติอาทิคาถาย วุตฺตสมุฏฺานาทิเก จ อติทิสติ.
ทุพฺพจกถาวณฺณนา.
๔๓๘. โย กุลทูสโก ภิกฺขุ, โส ฉนฺทคามิตาทีหิ ปาเปนฺโต ภิกฺขุหิ กมฺเม กริยมาเน ตํ ฉนฺทคามิตาทีหิ ปาปนํ อจฺจชนฺโต ครุกํ ผุเส สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชตีติ โยชนา. ‘‘กุลทูสโกติ กุลานิ ทูเสติ ปุปฺเผน วา ผเลน วา จุณฺเณน วา มตฺติกาย วา ทนฺตกฏฺเน วา เวฬุยา วา เวชฺชิกาย วา ชงฺฆเปสนิเกน วา’’ติ (ปารา. ๔๓๗) วจนโต สทฺธาสมฺปนฺนกุลานิ ลาภํ นิสฺสาย ปุปฺผทานาทีหิ สงฺคณฺหิตฺวา ตถา อกโรนฺเตสุ ลชฺชิภิกฺขูสุ กุลานํ สทฺธาทูสนโต กุลทูสโก, ภิกฺขุ.
ฉนฺทคามิตาทีหิ ปาเปนฺโตติ กุลทูสนกมฺมํ กโรนฺตํ ทิสฺวา วา สุตฺวา วา อวจนโต อาปชฺชิตพฺพทุกฺกฏโต มุจฺจนตฺถาย ‘‘อายสฺมา โข…เป… อลนฺเต อิธ วาเสนา’’ติ วทนฺเต ลชฺชี เปสเล ภิกฺขู ‘‘ฉนฺทคามิโน จ ภิกฺขู…เป… เอกจฺจํ น ปพฺพาเชนฺตี’’ติ ฉนฺทคามิตาทีหิ จตูหิ อคติคมเนหิ โยเชนฺโตติ อตฺโถ. กมฺเม กริยมาเนติ ยถาวุตฺตนเยน อตฺตานํ ครหนฺตานํ ภิกฺขูนํ กริยมานํ อกฺโกสนฺจ ปริภาสนฺจ เย ปสฺสนฺติ, เย จ สุณนฺติ, เตหิ ‘‘มายสฺมา เอวํ อวจ, น จ ภิกฺขู ฉนฺทคามิโน…เป… อลนฺเต อิธ วาเสนา’’ติ ติกฺขตฺตุํ วุจฺจมาโนปิ ทุกฺกฏํ อาปชฺชิตฺวาปิ อปฺปฏินิสฺสชฺชนฺตํ หตฺเถ คเหตฺวา อากฑฺฒิตฺวา สงฺฆมชฺฌํ อาเนตฺวา ‘‘มายสฺมา เอวํ อวจา’’ติอาทินา นเยเนว ¶ ปุนปิ ติกฺขตฺตุํ วุตฺเต ทุกฺกฏํ อาปชฺชิตฺวาปิ อปฺปฏินิสฺสชฺชนฺตสฺส ตฺติจตุตฺถาย กมฺมวาจาย สมนุภาสนกมฺเม กริยมาเนติ วุตฺตํ โหติ. ครุกํ ผุเสติ ตฺติยา ทุกฺกฏํ, ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ ถุลฺลจฺจเย จ ปฏิปฺปสฺสมฺเภนฺโต ตติยกมฺมวาจาย อนฺเต ยฺยกาเร สมฺปตฺเต สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชตีติ วุตฺตํ โหติ.
๔๓๙-๔๐. ‘‘กุลานิ ¶ ทูเสติ ปุปฺเผน วา’’ติอาทินา (ปารา. ๔๓๗) นเยน วุตฺตกุลทูสโนปกรณภูตจุณฺณปณฺณาทีสุ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘จุณฺณ’’นฺติอาทิ. จุณฺณนฺติ สิรีสปณฺณาทิจุณฺณํ. ปณฺณนฺติ ตมฺพูลปณฺณตาลปณฺณาทิขาทิตพฺพาขาทิตพฺพปณฺณํ. ผลนฺติ ตาลปนสาทิผลํ. ปุปฺผนฺติ จมฺปกาทิปุปฺผํ. เวฬุนฺติ อนฺโทฬิกาปาฏํ กิรณฺฑาทิกํ เวฬุํ. กฏฺนฺติ เคหทารุํ, อินฺธนฺจ. มตฺติกนฺติ ปากติกํ, ปฺจวณฺณํ วา มตฺติกํ.
อตฺตโน สนฺตกํ, ตาวกาลิกาทิวเสน คหิตํ วา จุณฺณํ…เป… มตฺติกํ กุลสงฺคหณตฺถาย ททโต กุลทูสนทุกฺกฏํ โหตีติ สมฺพนฺโธ. เถยฺยาติ โจริกา. ‘‘ททโต’’ติ อิทํ สามิวจนํ ‘‘กาตพฺโพ’’ติ ปจฺจตฺตวจนนฺตํ วิเสสิตพฺพมเปกฺขิตฺวา ‘‘ททนฺโต’’ติ วิภตฺติวิปริณาเมน ปจฺจตฺตวจนนฺตํ อนุวตฺเตตพฺพํ. กาตพฺโพติ เอตฺถ กาเรตพฺโพติ อตฺโถ. อิมินา สงฺฆสนฺตกํ, คณสนฺตกํ, อฺปุคฺคลสนฺตกฺจ จุณฺณาทึ กุลสงฺคหตฺถํ โจริกาย เทนฺโต ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพติ อิมํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสติ. สงฺฆฺสนฺตเกติ สงฺฆฺสนฺตกจุณฺณาทิเกติ อตฺโถ. เอตฺถ อฺ-สทฺเทน คณปุคฺคลานํ คหณํ.
๔๔๑. สงฺฆิกํ ครุภณฺฑํ วาติ สงฺฆสนฺตกํ ครุภณฺฑปโหนกํ วา ปณฺณาทิกํ. เสนาสนนิยามิตนฺติ ‘‘เอตฺตกา ผลรุกฺขาทโย เสนาสเน นวกมฺมตฺถายา’’ติ เอวํ นิยมิตํ ¶ วา. อิสฺสรวตาเย วาติ เอวกาเรน ‘‘เถยฺยา’’ติ อิทํ นิวตฺติตํ.
๔๔๒. หริตฺวา วาติ อตฺตนาเยว หริตฺวา วา. ‘‘ปุปฺผํ เทนฺตสฺสา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. เอส นโย อุปริปิ. หราเปตฺวา วาติ อฺสฺส หตฺเถ เปเสตฺวา วา. ปกฺโกสิตฺวา วาติ อามนฺเตตฺวา วา ปกฺโกสาเปตฺวา วาติ อุปลกฺขณโต ลพฺภติ. อาคตสฺส วาติ อตฺตนา เอว อาคตสฺส วา. ‘‘กุลสงฺคหณตฺถายา’’ติ วจเนน ‘‘เอวรูเป อธิปฺปาเย อสติ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘เจติยํ ปูชํ กโรนฺตาปิ ‘ปูเชสฺสามา’ติ ปุปฺผานิ คเหตฺวา คจฺฉนฺตาปิ ตตฺถ ตตฺถ สมฺปตฺตานํ เจติยปูชนตฺถาย เทนฺติ, เอตมฺปิ ปุปฺผทานํ นาม น โหตี’’ติอาทิกํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๖-๔๓๗) อฏฺกถาคตํ สพฺพํ วินิจฺฉยํ ทสฺสิตํ โหติ.
๔๔๓. เอวํ อุสฺสคฺคํ ทสฺเสตฺวา อปวาทํ ทสฺเสตุมาห ‘‘หริตฺวา วา’’ติอาทิ. ‘‘หราเปตฺวา’’ติ อิมินา โยเชตพฺพสฺส วา-สทฺทสฺส อวุตฺตสมฺปิณฺฑนตฺถตาย ‘‘ปกฺโกสิตฺวา วา ปกฺโกสาเปตฺวา ¶ วา, อาคตานํ วา’’ติ จ สงฺคยฺหติ. อาคตสฺเสวาติ เอวกาเรน หริตฺวา ทานาทึ นิวตฺเตติ.
๔๔๔. ตฺจาติ มาตาปิตุอาทีนํ ตํ ปุปฺผทานฺจ. วตฺถุปูชตฺถนฺติ รตนตฺตยปูชนตฺถํ. น ปนฺถาติ อฺเน ปกาเรน ทาตุํ น วฏฺฏติ. เยน ปกาเรน ทาตุํ น วฏฺฏติ, โกยํ ปกาโรติ อาห ‘‘สิวาที’’ติอาทิ. สิวาทิปูชนตฺถนฺติ มหิสฺสราทิเทวตาปูชนตฺถฺจ. มณฺฑนตฺถนฺติ ปิฬนฺธนตฺถํ. เอวํ อทาตพฺพปฺปการนิยมเนน ‘‘อิมํ วิกฺกิณิตฺวา ชีวิกํ กปฺเปสฺสนฺตี’’ติ มาตาปิตุอาทีนํ ทาตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ.
๔๔๕. ‘‘ผลาทีสุ ¶ …เป… วินิจฺฉโย’’ติ อิมินา ‘‘หริตฺวา วา หราเปตฺวา วา’’ติอาทินา ปุพฺเพ วุตฺตวินิจฺฉโย ผลปณฺณาทีสุ สพฺพตฺถ สมาโนติ ทสฺเสติ.
๔๔๖. ‘‘ปุปฺผาทิภาชเน’’ติ ปุปฺผผลาทีนํ ภาชนกาเล. สมฺมเตนาติ ปุปฺผาทิภาชนตฺถํ ขนฺธเก วุตฺตนเยน สงฺเฆน สมฺมเตน ภิกฺขุนา. อสฺสาติ ภาชนฏฺานํ อาคตสฺส. อิตเรนาติ สงฺฆสมฺมุตึ วินา ปุปฺผาทีนิ ภาชาเปนฺเตน. าเปตฺวา ทาตพฺพนฺติ สพฺพํ สงฺฆํ ชานาเปตฺวา ทาตพฺพํ.
๔๔๗. อุปฑฺฒภาวนฺติ เอเกน ภิกฺขุนา ลทฺธพฺพภาคโต อุปฑฺฒํ. ‘‘โถกํ โถก’’นฺติ อิมินา อุปฑฺฒโตปิ อปฺปตรํ คหิตํ.
๔๔๘. ปริพฺพยวิหีนสฺสาติ ตณฺฑุลาทิชีวิตวุตฺติวยมูลรหิตสฺส. สมฺปตฺติสฺสริยสฺสาปีติ อตฺตโน สมีปมุปคตสฺส อิสฺสรสฺส จ. ‘‘ทาตพฺพํ ตุ สกํ ผล’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ‘‘ปริพฺพยวิหีนานํ, ทาตุํ สปรสนฺตก’’นฺติ ขุทฺทสิกฺขาย อาคตํ, อิธ ‘‘สกํ ผล’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ ปรวจเนน วิสฺสาสิกานํ คหณํ, อิธ ปน วิสฺสาสคฺคาเหน คเหตฺวา ทียมานมฺปิ สสนฺตกเมวาติ ‘‘สก’’นฺติ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.
๔๔๙-๕๐. ยตฺร สงฺฆาราเม สงฺเฆน ผลรุกฺขปริจฺเฉทํ กตฺวา กติกา กตาติ โยชนา, ‘‘อาคนฺตุกานํ เอตฺตกํ ผลํ ทาตพฺพ’’นฺติ ผลปริจฺเฉทํ กตฺวา วา ‘‘เอตฺตเกสุ รุกฺเขสุ ผลํ ทาตพฺพ’’นฺติ ¶ รุกฺขปริจฺเฉทํ กตฺวา วา สงฺเฆน กติกา เยน ปกาเรน กตาติ อตฺโถ. ตตฺราคตสฺสปีติ เอวํ ปิตกติกวตฺตํ ตํ สงฺฆารามํ ผลตฺถาย อาคตสฺสาปิ.
ยถาปริจฺเฉทนฺติ ¶ สงฺเฆน ตถากตผลรุกฺขปริจฺเฉทมนติกฺกมฺม. ททโตติ โอจินิตฺวา ปิตผลํ, กปฺปิยการเกหิ โอจินาเปตฺวา วา เทนฺตสฺส. โอจิตผเล จ กปฺปิยการเก จ อสติ ผลตฺถาย อาคเตสุ วตฺติตพฺพวิธึ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทสฺเสตพฺพาปิ วา’’ติอาทิ. ‘‘วตฺวา’’ติ เสโส. จ-การํ อปิ-สทฺเทน เอกโต กตฺวา ‘‘อปิจา’’ติ โยชนา. เอวํ วตฺวา สงฺเฆน ปริจฺฉินฺนรุกฺขา ทสฺเสตพฺพาติ อิมินา ‘‘อิธ ผลานิ สุนฺทรานิ, อิโต คณฺหถา’ติ เอวํ ปน น วตฺตพฺพ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๖-๔๓๗) อฏฺกถา พฺยติเรกโต ทสฺสิตา โหติ.
๔๕๑. ‘‘ขณิตฺวา’’ติ เอเตน ‘‘ขณาเปตฺวา’’ติ อิทมฺปิ สงฺคหิตํ, ‘‘กปฺปิยภูมิ’’นฺติ วกฺขมานตฺตา ปถวินฺติ เอตฺถ ‘‘อกปฺปิย’’นฺติ ลพฺภติ. เตเนวาห ‘‘ปาจิตฺติเยนา’’ติ. ‘‘มาลาคจฺฉ’’นฺติ อิมินา ปุปฺผูปเค ตรุณคจฺเฉ จ มลฺลิกาสุมนาทิคุมฺพคาคจฺเฉ จ สงฺคณฺหาติ. ยถาห อฏฺกถาย ‘‘ตรุณกา หิ ปุปฺผรุกฺขาปิ ปุปฺผคจฺฉาปิ ‘มาลาวจฺฉา’ตฺเวว วุจฺจนฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑). อาทิ-สทฺเทน ผลูปครุกฺเข จ เภสชฺชรเส โอสธคจฺเฉ จ สงฺคณฺหาติ. ‘‘โรปาปเน’’ติ วกฺขมานตฺตา ‘‘สย’’นฺติ อิทํ ‘‘โรปเน’’ติ อิมินา ยุชฺชติ.
‘‘สยํ ขณิตฺวา’’ติ กสฺมา น ยุชฺชตีติ? ‘‘ขณาเปตฺวา’’ติ วกฺขมานสฺส อภาวา จ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ปถวึ ขเณยฺย วา ขณาเปยฺย วา, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๘๕) วจนโต ขณาปเน ปาจิตฺติเยน ภวิตพฺพตฺตา จ ‘‘ขณิตฺวา’’ติ อิมินา จ ขณนขณาปนานํ ทฺวินฺนเมว คเหตพฺพตฺตา น ยุชฺชติ. กุลทูสเนติ กุลทูสนนิมิตฺตํ. อกปฺปิยปถวึ ขณิตฺวา, ขณาเปตฺวา จ สยํ มาลาคจฺฉาทิโรปเน กเต อสฺส มาลาคจฺฉาทิโรปกสฺส ¶ ภิกฺขุโน อกปฺปิยปถวีขณนปจฺจเยน ปาจิตฺติเยน สทฺธึ กุลทูสเน กุลทูสนนิมิตฺตํ ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา.
๔๕๒. ‘‘ตถา’’ติ ¶ อิมินา ‘‘สยํ โรปเน’’ติ อิทํ วินา อวเสสปฺปการํ สงฺคณฺหาติ. ‘‘อกปฺปิเยน วากฺเยนา’’ติ อิทํ ‘‘อกปฺปิยปถวึ ขณาเปตฺวา’’ติ อิมินา จ ‘‘โรปาปเน’’ติ อิมินา จ ยุชฺชติ. ‘‘อิมํ ภูมึ ขณ, อิมํ คจฺฉํ โรเปหี’’ติอาทิกํ อกปฺปิยํ โวหารํ วตฺวา อกปฺปิยปถวึ ขณาเปตฺวา มาลาคจฺฉาทิโรปนํ การาเปนฺตสฺสาปิ ตเถว ปาจิตฺติยฺจ ทุกฺกฏฺจ โหตีติ อตฺโถ.
ขณนโรปเนหิ ทฺวีหิ ปาจิตฺติยทุกฺกฏานิ อวสิฏฺเหิ ตทตฺถิเกหิ สพฺพโวหารปโยคเภเทหิ กึ โหตีติ อาห ‘‘สพฺพตฺถา’’ติอาทิ. กุลทูสเนติ นิมิตฺเต, วิสเย วา ภุมฺมํ. อกปฺปิเยน วากฺเยน ปน ปถวึ ขณาเปตฺวา อกปฺปิเยน วากฺเยน โรปาปเนปิ ตถา ปาจิตฺติเยน สห กุลทูสเน ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. สพฺพตฺถ อิโต ปเรสุปิ ตทตฺถิเกน สพฺพโวหารพฺยาปาเรสุ กุลทูสนนิมิตฺตํ ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ โยชนา.
๔๕๓. กปฺปิยภูมิยา อตฺตนา ขณเน, อกปฺปิยโวหาเรน ขณาปเน จ ปาจิตฺติยาภาวโต ทุกฺกฏํเยว วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อุภยตฺถ จา’’ติอาทิ. เอตฺถ ‘‘เอว’’นฺติ เสโส, โส ยถาวุตฺตมตฺถํ นิคเมติ. เอวํ ยถาวุตฺตนเยน กปฺปิยภูมิยมฺปิ มาลาคจฺฉาทิโรปนโรปาปนสงฺขาเตสุ ทฺวีสุ าเนสุ จ ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ โยชนา.
๔๕๔. สทุกฺกฏา ¶ ปาจิตฺตีติ ‘‘อาวาฏํ ขณ, คจฺฉํ โรเปหี’’ติ เอกวารํ อาณตฺเต พหู อาวาเฏ ขณิตฺวา พหูสุ คจฺเฉสุ โรปิเตสุปิ อาณตฺติยา เอกตฺตา ทุกฺกเฏน สห ปาจิตฺติยํ โหตีติ อยมตฺโถ อกปฺปิยภูมึ สนฺธาย วุตฺโต. ‘‘สุทฺธํ วา ทุกฺกฏ’’นฺติ อิทํ อกปฺปิยภูมิยํ กปฺปิเยน โวหาเรน อาวาฏํ ขณาปกสฺส จ กปฺปิยภูมิยํ อกปฺปิยโวหาเรน อาวาฏํ ขณาปกสฺส จ ‘‘อิมํ คจฺฉํ โรเปหี’’ติ เอกวาราณตฺตปจฺจยา อาปชฺชิตพฺพํ กุลทูสนทุกฺกฏํ สนฺธาย วุตฺตํ.
๔๕๕. กปฺปิเยเนว วากฺเยนาติ เอตฺถ กปฺปิยวากฺยํ นาม ‘‘เอตฺถ อาวาฏํ ชาน, เอตฺถ อาวาฏํ ชานิตพฺพํ, เอตฺถ อาวาเฏน ภวิตพฺพ’’นฺติ เอวรูปํ วากฺยฺจ ‘‘อิมํ คจฺฉํ เอตฺถ ชาน, อยํ คจฺโฉ เอตฺถ ชานิตพฺโพ’’ติอาทิวากฺยฺจ. เอวกาเรน อกปฺปิยโวหารฺจ กปฺปิยากปฺปิยมิสฺสกโวหารฺจ นิวตฺเตติ. ปริยาโยภาสนิมิตฺตกมฺมํ ปน ‘‘อิตรตฺตยํ วฏฺฏตี’’ติ ¶ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑) อฏฺกถาวจนโต วฏฺฏติ. อุภยตฺถ จ ภูมิยาติ กปฺปิยากปฺปิยภูมีสุ ทฺวีสุ. โรปเนติ เอตฺถ สมฺพนฺธโต, ปกรณโต จ ‘‘มาลาคจฺฉาทีน’’นฺติ ลพฺภติ.
‘‘วากฺเยนา’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘โรปาปเน’’ติ วตฺตพฺโพ, ‘‘โรปเน’’ติ กิมตฺถมาหาติ เจ? สุทฺธกตฺตุนิทฺเทเสน ปโยชกสฺสาปิ สงฺคเหตพฺพโต คาถาพนฺธวเสน วุตฺตํ. อิมินา อุปริคาถาย ‘‘สยํ โรเปตุ’’นฺติ เอตฺถ ‘‘สย’’นฺติ อิมินา วิเสเสตฺวา ‘‘โรปาเปตุ’’นฺติ อิทํ นิวตฺเตติ. ‘‘ปริโภคตฺถาย หิ กปฺปิยภูมิยํ วา อกปฺปิยภูมิยํ วา กปฺปิยโวหาเรน โรปาปเน อนาปตฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑) อฏฺกถาวินิจฺฉโย อิมาย คาถาย สงฺคหิโตติ เวทิตพฺโพ. โกจิ โทโสติ ปาจิตฺติยฺจ ทุกฺกฏฺจาติ วุตฺตโทเสสุ เอโกปิ โทโส น วิชฺชตีติ อตฺโถ.
๔๕๖-๗. ‘‘สยํ ¶ โรเปตุ’’นฺติ อิทํ ‘‘อารามาทีนมตฺถายา’’ติ อิมินา สมฺพนฺธิตพฺพํ.
อาทิ-สทฺเทน วนาทึ สงฺคณฺหาติ. สยํ โรปิตสฺส วาติ เอตฺถ วา-สทฺเทน ‘‘โรปาปิตสฺสา’’ติ อิทํ สงฺคณฺหาติ, เอตสฺส วิเสสนตฺถํ ‘‘กปฺปิเยน โวหาเรนา’’ติ ปาเสโส. อยํ ปน วินิจฺฉโย ‘‘อารามตฺถาย ปน วนตฺถาย จ ฉายตฺถาย จ อกปฺปิยโวหารมตฺตเมว น วฏฺฏติ, เสสํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑) อฏฺกถาคตนเยน เวทิตพฺโพ. อนฺโต อารามภูสนตฺถาย, พหิ อรฺตฺถาย วิย ฉายตฺถาย สุทฺธจิตฺเตน ‘‘อิมํ ชานา’’ติอาทิกปฺปิยโวหาเรน โรปาปิตรุกฺเข จ กปฺปิยภูมิยฺจ อตฺตนา กเต วา อกปฺปิยโวหาเรน การาปิเต วา อกปฺปิยภูมิยฺจ กปฺปิยโวหาเรน อตฺตนา การาปิเต วา อฺเหิ กเต วา อาวาเฏ อตฺตนา โรปิเต รุกฺเข จ ผลํ ปริภฺุชิตุํ อิจฺฉติ เจ, ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ.
อารามาทีนมตฺถาย กปฺปิยภูมิยํ สยํ โรปิตสฺส วา กปฺปิยภูมิยํ วา อกปฺปิยภูมิยํ วา กปฺปิยโวหาเรน โรปาปิตสฺส วา รุกฺขสฺส ยฺจ ผลํ, ตํ ผลํ ปริภฺุชิตุํ ภิกฺขูนํ วฏฺฏตีติ โยชนา. กตฺถจิ โปตฺถเกสุ ‘‘อารามาทีนมตฺถายา’’ติ คาถาย ลิขิตฏฺาเน ¶ ‘‘กุลสงฺคหณตฺถายา’’ติอาทิคาถา ทิสฺสติ. สา ปาฬิกฺกมวิรุทฺธตฺตา อฏฺานปฺปยุตฺตา, ‘‘ปุปฺผาน’’นฺติอาทิคาถาย ปุรโต วุจฺจมานา ปน านปฺปยุตฺตา โหติ.
๔๕๘. สพฺพตฺถาติ อารามาทิอตฺถาย ปุพฺเพ วิย อตฺตนา โรปิเตสุ, โรปาปิเตสุ จ สพฺเพสุ มาลาคจฺฉาทีสุ. อกปฺปิโยทเกเนว ปาจิตฺตีติ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ชานํ สปฺปาณกํ ¶ อุทกํ ติณํ วา มตฺติกํ วา สิฺเจยฺย วา สิฺจาเปยฺย วา, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๔๐) วุตฺตา ปาจิตฺติ เอว, น ทุกฺกฏนฺติ อตฺโถ.
๔๕๙. อิทานิ ทุกฺกเฏน สทฺธึ ปาจิตฺติยวิสยํ ทสฺเสติ ‘‘กุล…เป… ทุกฺกฏ’’นฺติ. สิฺจโตติ กปฺปิโยทเกเนว สิฺจโต, สิฺจาปยโต จ.
๔๖๐. เตสํเยว ทฺวินฺนํ ปน อตฺถายาติ กุลทูสนปริโภคานํ ทฺวินฺนมตฺถาย. สิฺจเน สิฺจาปเนติ เอตฺถ ‘‘มาลาคจฺฉาทีน’’นฺติ ปกรณโต ลพฺภติ. ทุกฺกฏนฺติ เอตฺถ ‘‘เกวล’’นฺติ เสโส.
๔๖๑. โอจินาปเนติ อฺเหิ ปุปฺผานํ โอจินาปเน. สยโมจินเน จาปีติ อตฺตนาว โอจินเน จ. สปาจิตฺติยทุกฺกฏนฺติ ‘‘ภูตคามปาตพฺยตาย ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๙๐) วุตฺตตฺตา ปุปฺโผจินนเหตุ ปาจิตฺติยฺจ กุลทูสนทุกฺกฏฺจ โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
๔๖๒. ปูชาทิอตฺถาย, กุลสงฺคหตฺถาย จ ปุปฺผานํ โอจินนโอจินาปนานิ การาเปนฺตสฺส อาปตฺติยา อาปชฺชนปฺปการํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปุปฺผาน’’นฺติ. ‘‘ปุปฺผานํ คณนาย ปาจิตฺติยํ โหตี’’ติ วุตฺตตฺตา ปุปฺผโมจินโตติ เอตฺถ ‘‘วิสุํ วิสุ’’นฺติ เสโส. เอเกกปุปฺผํ โอจินนฺตสฺส ปุปฺผคณนาย ปาจิตฺติยํ โหตีติ อตฺโถ. ‘‘เอเกน ปโยเคน พหูนิ ปุปฺผานิ โอจินนฺตสฺส ปน ปโยคคณนาย โหตี’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ อิธ พฺยติเรกโต ลพฺภติ. ‘‘โอจินโต’’ติ อิมินา ‘‘โอจินาปยโต’’ติ อิทฺจ กิริยาสามฺเ วิเสสสฺส อนฺโตคธภาวโต วา อุปลกฺขณโต วา ทสฺสิตนฺติ.
ตตฺถ ¶ จ ปุปฺผานิ วิสุํ วิสุํ วตฺวา โอจินาเปนฺตสฺส ปุปฺผานํ คณนาย โหตีติ อิทเมว ¶ อาปชฺชติ. เอกวารมาณตฺเตน พหูนิ ปุปฺผานิ พหูสุ จ วาเรสุ โอจิเตสุ อาณตฺติคณนาย โหตีติ วินิจฺฉโย ทฏฺพฺโพ. อิทํ สพฺพปฺปการํ อนนฺตรวุตฺตคาถาย ทสฺสิตวิธิมฺหิ จ ทฏฺพฺพนฺติ าเปตุมาห ‘‘กุลตฺถํ เจ สทุกฺกฏา’’ติ. กุลตฺถนฺติ กุลสงฺคหตฺถํ. ‘‘สทุกฺกฏา’’ติ วุตฺตตฺตา ปาจิตฺติยฺจ ทุกฺกฏฺจ ปุปฺผคณนาย โหตีติ สิทฺธํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ปุปฺผคณนาย ทุกฺกฏปาจิตฺติยานี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑).
๔๖๓. คนฺถนํ คนฺโถ, เตน นิพฺพตฺตํ คนฺถิมํ. เอส นโย สพฺพตฺถ. คนฺถิมาทิสรูปํ สยเมว วกฺขติ. สงฺคหณํ สงฺคโห, ปุปฺผานํ สงฺคโหติ วิคฺคโห.
๔๖๔. อิมานิ คนฺถิมาทีนิ สรูปโต ทสฺเสตุมาห ‘‘ตตฺถ ทณฺเฑน ทณฺฑํ วา’’ติอาทิ. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ ฉสุ ปุปฺผสงฺคเหสุ. ‘‘ทณฺเฑน ทณฺฑํ วา’’ติ อิทํ สทณฺฑอุปฺปลาทิกุสุมํ สนฺธายาห. ‘‘วณฺเฏนปิ จ วณฺฏก’’นฺติ อิทํ สวณฺฏกรตฺตกุสุมาทึ สนฺธายาห. กรณํ สพฺพนฺติ กตํ สพฺพํ. อิธ สพฺพตฺถ กปฺปิยวิธิวิภาคํ ‘‘สพฺพเมต’’มิจฺจาทิคาถายํ วกฺขติ.
๔๖๕. สุตฺตาทีหิ โคปฺเผตฺวาติ เอตฺถ ‘‘วสฺสิกปุปฺผาทีนี’’ติ เสโส. สุตฺเตน วา กทลิวากาทีหิ วา วสฺสิกาทิปุปฺเผ คนฺถิตฺวา กตปุปฺผวิกาโร โคปฺผิมํ นาม. เอกโต วณฺฏานิ ยสฺสาติ วิคฺคโห. อุภโตวณฺฏิกาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อปฺปตฺเถ วา สกตฺเถ วา ก-กาโร ทฏฺพฺโพ. อิตฺถิลิงฺควิสเย ก-การโต ปุพฺพาการสฺส อิ-การาเทโส.
สพฺพปุปฺผานํ วณฺฏานิ เอกทิสาย กตฺวา คนฺถิตปุปฺผาวลิ เอกโตวณฺฏิกา นาม, วณฺฏานิ อุภยทิสาย กตฺวา คนฺถิตปุปฺผาวลิ ¶ อุภโตวณฺฏิกา นามาติ ตํ โคปฺผิมํ เอวํ ทุวิธํ โหตีติ อตฺโถ. ‘‘วากํ วา วลฺลึ วา รชฺชุํ วา ทิคุณํ กตฺวา ตตฺถ นีปกทมฺพาทิวณฺฏรหิตานิ ปุปฺผานิ เวเตฺวา คหณํ โคปฺผิมํ นามา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑ อตฺถโต สมานํ) อฏฺกถาย วุตฺตํ.
๔๖๖. พุนฺเทสูติ มูเลสุ. มกุลาทิกนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน วณฺฏรหิตมธุกาทิปุปฺผฺจ วณฺฏสหิตมลฺลิกาทิปุปฺผฺจ สงฺคหิตํ. สูจิอาทีหีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ตาลหีราทึ สงฺคณฺหาติ ¶ . มาลาวิกตีติ ปุปฺผมาลาวิกติ. สูจิอาทีหิ มกุลาทิกํ ปุปฺผํ พุนฺเทสุ วิชฺฌิตฺวา อาวุตา มาลาวิกติ เวธิมํ นามาติ วุจฺจตีติ โยชนา.
๔๖๗. ‘‘เวิมํ นาม ปุปฺผทามปุปฺผหตฺถเกสุ ทฏฺพฺพ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑) อฏฺกถาย ทสฺสิตปฺปกาเรสุ ปมปฺปการํ ทสฺเสติ ‘‘เวเตฺวา กตํ มาลาคุเณหิ วา’’ติ. ธมฺมเทสนาย วา ปฏิมาย วา ธาตุยา วา ปูชํ กตฺตุกามา มุทฺธนิ อุชุกํ กตฺวา มาลาทามกลาปํ โอลมฺพิตฺวา อคฺเค ฆฏิกาการทสฺสนตฺถํ มาลาวลิโย อเนกกฺขตฺตุํ ปริกฺขิปนฺตา เวเนฺติ, อิทํ เอวรูปํ มาลาคุณกรณมฺปิ เวิมํ นามาติ วุตฺตํ โหติ.
อฺปฺปการํ ทสฺเสติ ‘‘วากาทีหิ จ พทฺธํ วา’’ติ, ‘‘พนฺธิตฺวา’’ติปิ ปาโ, ‘‘กต’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ. เอกจฺเจ อุปฺปลาทิทีฆทณฺฑกุสุมานิ อฏฺ วา นว วา ทส วา กลาปํ กตฺวา เตสเมว ทณฺฑานํ วาเกหิ วา อฺเน เยน เกนจิ ทณฺฑกคฺเค เปตฺวา วา วิสุํ วา พนฺธิตฺวา อุปฺปลหตฺถาทึ กโรนฺติ, ตฺจ เวิมํ นามาติ วุตฺตํ โหติ. เอตํ ทฺวยมฺปิ น วฏฺฏติ.
กปฺปิยการเกหิ ¶ โอจินิตฺวา ปิตปุปฺผานิ สาฏเก ปกฺขิปิตฺวา ภณฺฑิกํ กตฺวา พนฺธิตุํ น วฏฺฏติ. เตสุเยว ปุปฺเผสุ อจฺฉินฺเนน ทณฺเฑน วา ตสฺมึเยว ทณฺเฑ อจฺฉินฺนวาเกน วา กลาปํ กตฺวา พนฺธิตุํ, อํสภณฺฑิกาย ปกฺขิปิตฺวา คเหตฺุจ วฏฺฏติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เตสํเยว ปน วาเกน วา ทณฺเฑน พนฺธิตุํ อํสภณฺฑิกํ วา กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ‘‘วาเกน วา ทณฺเฑน วา’ติ จ อิทํ อจฺฉินฺทิตฺวา ปริกฺขิปิตฺวา พนฺธนํ สนฺธาย วทนฺตี’’ติ สีหฬคณฺิปเท วุตฺตํ. ปทุมาทิปุปฺผานิ ปทุมาทิปณฺเณสุ นาเฬหิ ปเวเสตฺวา นาเฬหิ พหิ กตฺวา ปณฺเณน ปุปฺผานิ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ปณฺณคฺเค พนฺธิตุํ วฏฺฏติ. ‘‘ทณฺเฑ ปน พนฺธิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑) จ อฏฺกถายเมว วุตฺตํ.
๔๖๘. ปุปฺผมาลาหิ ปูรเณติ ปุปฺผาวลีหิ ปูรเณ. อิทํ กตฺถ ลพฺภตีติ อาห ‘‘โพธิ’’นฺติอาทิ. ปุปฺผปฏํ นาม มาลาวลิโย ตนฺตํ วิย ปสาเรตฺวา วตฺถํ วายนฺเตหิ วิย ติริยฺจ มาลาวลีหิ วายิตปฏํ วุจฺจติ. อิทํ ปุปฺผปฏํ มาลาวลีหิ ทีฆโส ปูรณํ สนฺธาย ¶ ปุริเม คหิตํ, ติริยโต วายนํ สนฺธาย วกฺขมาเน วายิเมปิ คหิตนฺติ ปุนรุตฺตาภาโว เวทิตพฺโพ. ปฏาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน เจติยธาตุกรณฺฑกเวทิกาทีนํ คหณํ.
ปริกฺเขเปสุ ลพฺภตีติ โพธิกฺขนฺธาทีนํ ปุนปฺปุนํ ปริกฺขิปเนสุ ลพฺภติ. โพธิกฺขนฺธาทโย ปุปฺผาวลีหิ ปริกฺขิปนฺเตหิ ปมวทฺธฏฺาเน ปุปฺผาวลิยา อนติกฺกามิเต ปุริมํ นาม านํ ยาว ปาปุณาติ, ตาว อฺเน คเหตฺวา ปริกฺขิปนฺเตน อาหริตฺวา ปุนปิ ตสฺมึ าเน ปตฺเต อฺสฺส ทานวเสน โพธิกฺขนฺธํ, เจติยํ, ธาตุกรณฺฑกํ วา ปุปฺผกฺจุเกน ฉาเทตุํ ¶ วฏฺฏตีติ อฏฺกถาย วุตฺตํ. สเจปิ ทฺเวเยว ภิกฺขู อุโภสุ ปสฺเสสุ ตฺวา ปริยาเยน หรนฺติ, วฏฺฏติเยวาติ วทนฺติ. ปุปฺผปฏวายนตฺถํ ปสาริยมานปุปฺผาวลีสุ จ เอเสว วินิจฺฉโย.
ทีฆปุปฺผาวลึ นาคทนฺเตสุ ปกฺขิปิตฺวา ปุน ปกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ. ‘‘นาคทนฺเตสุ ปน ปุปฺผวลยํ ปเวเสตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตตฺตา อฺเหิ วลยํ กตฺวา ทินฺนปุปฺผาวลิวลยํ ธาตุกรณฺฑถุปิกาย ปเวเสตุํ วฏฺฏติ. ‘‘มาลาคุเณหิ ปน พหูหิปิ กตํ ปุปฺผทามํ ลภิตฺวา อาสนมตฺถกาทีสุ พนฺธิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตตฺตา ปุปฺผทามปุปฺผาวลีนํ ปุปฺผรหิตาย สุตฺตโกฏิยา รชฺชุทณฺฑาทีสุ พนฺธิตุํ วฏฺฏติ.
๔๖๙. ปุปฺผรูปํ นาม ‘‘โคปฺผิมปุปฺเผเหว หตฺถิอสฺสาทิรูปกานิ กโรนฺติ, ตานิปิ วายิมฏฺาเน ติฏฺนฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑) วุตฺตตฺตา ตํตํรูปสณฺานํ กตฺวา ปุปฺผาวลิโย นิเวเสตฺวา กริยมานํ หตฺถิอสฺสาทิรูปํ. อิมสฺมึ อฏฺกถาปาเ ‘‘ตานิปิ วายิมฏฺาเน ติฏฺนฺตี’’ติ วุตฺตตฺตา จ ‘‘อฺเหิ กตปริจฺเฉเท ปน ปุปฺผานิ เปนฺเตน หตฺถิอสฺสาทิรูปกมฺปิ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑) อฏฺกถาปาสฺส สารตฺถทีปนิยํ ‘‘ปุปฺผานิ เปนฺเตนาติ อคนฺถิตานิ ปากติกปุปฺผานิ เปนฺเตน. ปุปฺผทามํ ปน ปูชนตฺถาย ภูมิยํ เปนฺเตน ผุสาเปตฺวา วา อผุสาเปตฺวา วา ทิคุณํ กตฺวา เปตุํ น วฏฺฏตี’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๔๓๑) วุตฺตตฺตา จ อิมํ หตฺถิอาทิรูปํ ปูเรนฺเตน มาลาวลึ อฺเหิ กตปริจฺเฉเท สมฺพนฺธิตฺวา ปาสาณอาสนมฺจปีหตฺถิรูปาทิมตฺถเก เปตฺวา ปูชนปฺปกาโร วายิมนฺติ วิฺายติ.
ปุปฺผปฏนฺติ ¶ ¶ ปุพฺเพ วุตฺตปฺปการํ ปุปฺผปฏํ ปูเรนฺเตน เอกาปิ ปุปฺผาวลิ ปริวตฺเตตฺวา น เปตพฺพา, วายนฺเตน อฺเหิ ปูริเตปิ เอกาปิ ปุปฺผาวลิ น ปาเตตพฺพา, อิทํ ปูริมวายิมานํ นานากรณํ. อาทิคฺคหเณน ปุปฺผชาลํ สงฺคณฺหาติ, ตํ กโรนฺตสฺส ชาลจฺฉิทฺทคณนาย ทุกฺกฏํ โหติ. ‘‘ภิตฺติจฺฉตฺตโพธิตฺถมฺภาทีสุปิ เอเสว นโย’’ติ วุตฺตตฺตา ฉตฺตาทีสุ จ ปุปฺผชาลํ น ทาตพฺพํ.
๔๗๐. อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส สาธารณตฺตา ‘‘ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนฺจา’’ติ อาห. พุทฺธสฺสปีติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท สมฺภาวเน, ‘‘ปูชตฺถ’’นฺติ วตฺตพฺพํ, พุทฺธสฺส ปูชตฺถายปิ กาตุํ วา การาเปตุํ วา น วฏฺฏตีติ อตฺโถ. ธมฺมสงฺฆรตนานิปิ อุปลกฺขณโต สงฺคยฺหนฺติ. เสเส กิเมว วตฺตพฺพนฺติ พฺยติเรกตฺโถ.
๔๗๑. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘สยํ ปเรหิ วา การาเปตุํ ภิกฺขูนฺจ ภิกฺขุนีนฺจ พุทฺธสฺสปี’’ติ อนนฺตรคาถาย วุตฺตมติทิสติ. กลมฺพกนฺติ ทฺวินฺนํ ธนุกานมนฺตเร โอลมฺพกทามํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘กลมฺพโกติ อฑฺฒจนฺทนาคทนฺตนฺตเร ฆฏิกาทามโอลมฺพโก วุตฺโต’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑). เอตฺถ จ ฆฏิกาทามโอลมฺพโก นาม อนฺเต ฆฏิกาการยุตฺโต ยมกทามโอลมฺพโก. กาตุนฺติ พนฺธิตุํ น วฏฺฏตีติ โยชนา. เอเกกปุปฺผทามํ ปน นิกฺขนฺตสุตฺตโกฏิยา ปพนฺธิตฺวา โอลมฺพิตุํ วฏฺฏติ. ปุปฺผทามทฺวยํ สงฺฆฏิตุกาเมนปิ นิกฺขนฺตสุตฺตโกฏิยาว สุตฺตโกฏิ สงฺฆฏิตุํ วฏฺฏติ. อฑฺฒจนฺทกเมว วาติ ‘‘อฑฺฒจนฺทากาเรน มาลาคุณปริกฺเขโป’’ติ อฏฺกถาย วุตฺตสรูปํ วา.
เอตฺถ จ อฑฺฒจนฺทากาเรน มาลาคุณปริกฺเขโป นาม อฑฺฒจนฺทากาเรน มาลาคุณสฺส ปุนปฺปุนํ หรณปจฺจาหรณวเสน ปูเรตฺวา ปริกฺขิปนํ. เตเนว ตํ ปูริเม ปวิฏฺํ. ตสฺมา เอตมฺปิ ¶ อฑฺฒจนฺทาการํ ปุนปฺปุนํ หรณปจฺจาหรณวเสน ปูริตํ น วฏฺฏติ, เอกวารํ ปน อฑฺฒจนฺทากาเรน มาลาคุณํ หริตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ. กาตุํ น วฏฺฏตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ตทุภยมฺปิ ปูริเมเยว ปวิฏฺ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑) อฏฺกถายํ วุตฺตํ. อฺเหิ ปูริตนฺติ อฺเหิ อายตํ ปสาเรตฺวา ปูริตํ ปุปฺผปฏํ. วายิตุมฺปิ จาติ ติริยํ เอกปุปฺผาวลิมฺปิ วายิตุํ ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ อิมินาว สมฺพนฺโธ.
๔๗๒. ปิฏฺกาจมยนฺติ ¶ ตณฺฑุลปิฏฺาทีหิ กตฺเจว กาจมตฺติกาย จ กตํ ปุปฺผทามํ. เภณฺฑุปุปฺผมยมฺปิ จาติ เภณฺฑุทณฺฑเกหิ มลฺลิกาสุมนจมฺปกาทิสทิสํ กตฺวา ฉิทฺเทหิ กตทามฺจ. ‘‘เคณฺฑุปุปฺผมย’’นฺติปิ ลิขนฺติ. ขรปตฺตมยนฺติ เอตฺถ ขรปตฺตํ นาม กุงฺกุฏฺขจิตํ ปุปฺผปฏนฺติ วทนฺติ. กาตุนฺติ คนฺถนคนฺถาปนาทีนิ กาตุํ. เภณฺฑุขรปตฺตทามานํ ปฏิกฺขิตฺตตฺตา เจลาทีหิ กตทามมฺปิ น วฏฺฏติ อกปฺปิยานุโลมตฺตาติ วทนฺติ.
๔๗๓. หีราทีหีติ ตาลนาฬิเกรหีราทีหิ. อาทิ-สทฺเทน ติณสลากาทึ สงฺคณฺหาติ. ปฏากตฺถนฺติ ปฏากากาเรน ปูชนตฺถํ. ‘‘วิชฺฌนฺตสฺสา’’ติ อิมินา กณฺฏเกหิ วิชฺฌนํ, หีราทีหิ อาวุณนฺจ สงฺคหิตํ.
๔๗๕. อโสกปิณฺฑิอาทีนนฺติ อโสกปุปฺผมฺชริกาทีนํ. อาทิ-สทฺเทน อฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑) เอเตเหว สทฺธึ ทสฺสิตํ ชาลวิตานํ, ฉิทฺทานิ ทสฺเสตฺวา กตเวทิกา, นาคทนฺตกํ, ปุปฺผจงฺโกฏกาปิธานํ, ตาลปณฺณวลยาทิฺจ สงฺคณฺหาติ. ธมฺมรชฺชุยาติ เอตฺถ สารตฺถทีปนิยํ ‘‘ธมฺมรชฺชุ นาม เจติยํ วา โพธึ วา ปุปฺผปเวสนตฺถ อาวชฺชิตฺวา พทฺธรชฺชู’ติ มหาคณฺิปเท, มชฺฌิมคณฺิปเท จ วุตฺตํ, ตสฺมา ตถา พทฺธาย รชฺชุยา เจติยสฺส จ อนฺตเร ปุปฺผานิ ปเวเสตุํ วฏฺฏตีติ ¶ วิฺายติ. คณฺิปเท ปน ‘ธมฺมรชฺชุนฺติ สิถิลวฏฺฏิตํ รชฺชุํ กตฺวา โพธึ วา เจติยํ วา ปริกฺขิปิตฺวา ธมฺมาสเน วา ลมฺพิตฺวา ตตฺถ ปุปฺผานิ ปเวเสนฺตี’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา สิถิลวฏฺฏิตาย รชฺชุยา อนฺตเรปิ ปุปฺผานิ ปเวเสตุํ วฏฺฏตีติ วิฺายติ, วีมํสิตฺวา ยุตฺตตรํ คเหตพฺพํ. อุภยตฺถาปิ ปเนตฺถ เนวตฺถิ วิโรโธติ อมฺหากํ ขนฺตี’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๔๓๑) ลิขิตํ.
๔๗๖. วิชฺฌนฺตสฺสปีติ ปิ-สทฺเทน ธมฺมาสนวิตานาทีสุ ปุปฺผปูชนตฺถํ สยํ กณฺฏกหีราทิปฺปเวสนํ สงฺคณฺหาติ. ‘‘วิตานาทีสุ ปุปฺผปูชนตฺถํ กณฺฏกหีราทิปฺปเวสนํ น วฏฺฏตี’ติ อิทํ อฏฺกถาจริยปฺปมาณโต คเหตพฺพ’’นฺติ สารตฺถทีปนิยํ วุตฺตํ.
๔๗๗. กปฺปิยวจนํ นาม ‘‘เอวํ ชาน, เอวํ กเต โสเภยฺย, ยถา เอตานิ ปุปฺผานิ น วิกิริยนฺติ, ตถา กโรหี’’ติอาทิ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๑) อฏฺกถาคตํ กปฺปิยวจนํ. วตฺถุปูชเนติ รตนตฺตยปูชเน. นิมิตฺตาทีสุ นิมิตฺตํ นาม ปุปฺผานิ จ คนฺถนวาเก ¶ จ คเหตฺวา คนฺถิตุํ ชานนฺตานํ สมีเป ปนํ. โอภาโส นาม ‘‘ตุมฺเหหิ ปิฬนฺธิตกุสุมานิ กสฺมา น วิกิรนฺตี’’ติ วุตฺเต ‘‘คนฺถิตตฺตา’’ติ เจ วทติ, นนุ ปูชนกปุปฺผานิ คนฺถิตุํ น วฏฺฏตีติอาทิวจนานิ. ปริยาโย นาม ปณฺฑิเตหิ ปุปฺผานิ ยถา น วิกิริยนฺติ, ตถา คนฺถิตฺวา ปูเชตุํ มนาปนฺติอาทิวจนํ. ปกาสิตา อฏฺกถายํ.
๔๗๘. ‘‘กุลานิ ทูเสติ ปุปฺเผน วา’’ติอาทิปาเ (ปารา. ๔๓๗) ‘‘เวชฺชิกาย วา ชงฺฆเปสนิเกน วา’’ติ (ปารา. ๔๓๗) วุตฺตํ เวชฺชกมฺมาทึ กุลทูสนโต วิสุํ กตฺวา ‘‘น เกวลํ…เป… กุทาจน’’นฺติ กสฺมา วุตฺตนฺติ? วิสุํ กาตุํ น วุตฺตํ. โยชนา ปเนตฺถ เอวํ เวทิตพฺพา ¶ ‘‘น เกวลมิทเมว วุตฺตปฺปการํ ปุปฺผทานาทิกุลทูสนํ กุทาจนํ อกตฺตพฺพํ, อถ โข เวชฺชกมฺมาทิ กุลทูสนมฺปิ กุทาจนํ น กตฺตพฺพ’’นฺติ. เวชฺชกมฺมาทีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน วกฺขมานปริตฺโตทกสุตฺตทานอนามฏฺปิณฺฑทานทูเตยฺยชงฺฆเปสนิเก สงฺคณฺหาติ.
๔๗๙. ‘‘กุทาจนํ น กตฺตพฺพ’’นฺติ สามฺเน นิเสเธตฺวา อิทานิ ‘‘กตฺตพฺพ’’มิจฺจาทินา อปวาทวิธึ ทสฺเสติ. ปฺจนฺนํ สหธมฺมินนฺติ ภิกฺขุภิกฺขุนิสิกฺขมานสามเณรสามเณรีนํ ปฺจนฺนํ สห สทฺธึ จริตพฺโพ ปพฺพชฺชาสาสนธมฺโม เอเตสํ อตฺถีติ ‘‘สหธมฺมิกา’’ติ สงฺขํ คตานํ. อกตวิฺตฺตึ กตฺวาปีติ อฺาตกอปฺปวาริเต เภสชฺชํ ยาจิตฺวาปิ ‘‘วเทยฺยาถ ภนฺเต เยนตฺโถ’’ติ เอวํ อกตฏฺาเน วิฺตฺติ อกตวิฺตฺติ. อตฺตโน ธเนติ สสนฺตกวิสเย.
๔๘๐. ‘‘ตถา’’ติ สหธมฺมิกานํ วุตฺตมติทิสติ. ตทุปฏฺากชนฺตุโนติ เตสํ ทฺวินฺนํ มาตาปิตูนํ เวยฺยาวจฺจกรสฺส. ภณฺฑุกสฺสาติ คิหิลิงฺเค ิตสฺสาปิ ปพฺพชฺชาเปกฺขสฺส. อตฺตโน เวยฺยาวจฺจกรสฺสปีติ อตฺตโน กมฺมกรสฺสปิ. เอตฺตกานฺจ ชนานํ ปฺจสหธมฺมิกานํ วิย อกตวิฺตฺติยาปิ เภสชฺชํ กาตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๔๘๑. เชฏฺภาตาติ อตฺตโน ปุพฺพโช ภาตา. กนิฏฺโติ อนุโช ภาตา. ตถา ภคินิโย ทุเวติ เชฏฺกนิฏฺา ทฺเว ภคินิโย. จูฬมาตาติ มาตุ กนิฏฺา. จูฬปิตาติ ปิตุ กนิฏฺโ. มหามาตาติ มาตุ เชฏฺา. มหาปิตา ปิตุ เชฏฺภาตา.
๔๘๒. ปิตุจฺฉาติ ปิตุภคินี เชฏฺกนิฏฺา. มาตุโลติ มาตุ ภาตา. เชฏฺกนิฏฺเ ทฺเว ปิตุจฺฉา ¶ , ทฺเว มาตุเล ¶ จ เอกโต กตฺวา ‘‘ทสา’’ติ วุตฺตํ. เภสชฺชํ กาตุํ วฏฺฏตีติ สมฺพนฺโธ.
๔๘๔. ‘‘ทสฺสนฺติ เม อิเม’’ติ อาโภคํ กตฺวา วา ทาตพฺพนฺติ โยชนา.
๔๘๕. เอเตสํ ทสนฺนํ าตีนํ. ยาว สตฺตมา กุลาติ เอตฺถ กุลปริจฺเฉโท กถํ คเหตพฺโพติ? ‘‘สปุตฺตทารํ ภาตุ กุฏุมฺพํ เอกํ กุลํ, เอวํ ตสฺส ปุตฺตสฺส วา ธีตุ วา กุฏุมฺพํ เอกํ กุล’’นฺติ เอวมาทินา นเยน ยาว สตฺตมา กุลปริวฏฺฏา คเหตพฺพา. ‘‘สปุตฺตปติภคินิยา กุฏุมฺพํ เอกํ กุลํ, ตถา ตสฺส ปุตฺตสฺส วา ธีตุ วา กุฏุมฺพํ เอกํ กุล’’นฺติอาทินา นเยน ยาว สตฺตมา กุลปริวฏฺฏา คเหตพฺพา. จูฬมาตาทีนมฺปิ กุลปรมฺปรา อิมินา นิยาเมน คเหตพฺพาติ วทนฺติ. กุลทูสนํ น รูหตีติ ‘‘ทาตุํ ปุปฺผํ ปนฺสฺส, อาคตสฺเสว าติโน’’ติอาทินา (วิ. วิ. ๔๔๓) นเยน กถิตวิธินา เอเตสุ ปวตฺตนฺตสฺส กุลทูสนํ น รุหตีติ วุตฺตํ โหติ.
๔๘๖. ภาตุชายาติ อตฺตโน เชฏฺสฺส วา กนิฏฺสฺส วา ภาตุ ภริยา. ภคินิสามิโกติ อตฺตโน เชฏฺาย วา กนิฏฺาย วา ภคินิยา สามิโก.
๔๘๗. ภาตุโนติ เชฏฺสฺส, กนิฏฺสฺส จ ภาตุโน. อนุ ปจฺฉา ชาตาติ อนุชา, กนิฏฺภคินี. ‘‘อนุชา’’ติ อุปลกฺขณนฺติ เชฏฺายปิ สงฺคโห. เชฏฺกนิฏฺภาตูนํ ภริยา จ เชฏฺกนิฏฺภคินีนํ สามิกา จ สเจ อฺาตกา โหนฺตีติ โยชนา. เทถาติ เอตฺถ ‘‘อิมํ เภสชฺช’’นฺติ ปาเสโส.
๔๘๘. เตสมฺปิ ¶ ภาตุภคินีนํ. ‘‘ปุตฺตาน’’นฺติ อิมินา ธีตูนมฺปิ สงฺคโห. กตฺวาติ วตฺวา. ตุมฺหากํ มาตาปิตูนํ เทถาติ เอตฺถาปิ ‘‘อิมํ เภสชฺช’’นฺติ ปกรณโต ลพฺภติ. มาตาปิตูนนฺติ อุภยสงฺคาหกวจนโต ‘‘ตุยฺหํ มาตุ วา, ตุยฺหํ ปิตุ วา’’ติ ยถาสมฺภวํ วิสุํ วิสฺุจ วตฺตพฺพํ. เตสนฺติ จ ตุมฺหากนฺติ จ สามิวจนํ. ปุตฺตานนฺติ จ มาตาปิตูนนฺติ จ สมฺปทานวจนํ.
๔๘๙. เภสชฺชกรณารหานํ ¶ วตฺตพฺพตาย ‘‘อกลฺลโก’’ติ อิทํ อิสฺสราทิปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. อกลฺลโกติ อาตุโร. กลฺลํ วุจฺจติ สุขํ, ตํ เอตสฺส อตฺถีติ กลฺลโก, น กลฺลโก อกลฺลโก. าติชนุชฺฌิโต วาติ าติชเนน ปริจฺจตฺโต วา.
๔๙๐. เอเตสํ สพฺเพสนฺติ อิสฺสราทิอาตุรานํ สพฺเพสเมเตสํ ชนานํ. ‘‘สาธุนา’’ติ วกฺขมานตฺตา อปจฺจาสีสตา สตาติ เอตฺถ สตาติ กิริยาปทํ. ‘‘อิมสฺมึ กเต อิเม มยฺหํ เอวรูปํ ทสฺสนฺตี’’ติ อตฺตโน อตฺถาย ปจฺจาสีสนํ อกโรนฺเตนาติ อตฺโถ. ภิกฺขุสงฺฆสฺส อุปการตํ ปจฺจาสีสนฺเตน กาตุํ วฏฺฏติ. ปฏิสนฺถาโรติ อามิสปฏิสนฺถาโร, ธมฺมปฏิสนฺถาโรติ ทุวิโธ ปฏิสนฺถาโร. เอตฺถ อามิสปฏิสนฺถาโร คยฺหติ. เภสชฺชํ อามิเสนปิ โหตีติ ธมฺมกถาย สงฺคโหปิ ยุชฺชเตว. ปฏิสนฺถรณํ ปฏิสนฺถาโร. ปฏิลทฺธามิสสฺส จ ธมฺมสฺส จ เตสุ จ อตฺตนิ จ ปติรูเปนากาเรน สมํ อตฺถรณํ ปวตฺตนนฺติ อตฺโถ.
อปโร นโย – อามิสสฺส จ ธมฺมสฺส จ อลาเภน อตฺตโน, ปรสฺส จ อนฺตเร สมฺภวนฺตสฺส ฉิทฺทสฺส วิวรสฺส เภทสฺส ปฏิสนฺถรณํ ปิทหนํ สงฺคหณํ ปฏิสนฺถาโร. อยฺหิ โลกสนฺนิวาโส อลพฺภมาเนน อามิเสน จ ธมฺเมน ¶ จาติ ทฺวีหิ ฉิทฺโท, ตสฺส ตํ ฉิทฺทํ ยถา น ปฺายติ, เอวํ ปีสฺส วิย ปจฺจตฺถรเณน อามิเสน, ธมฺเมน จ ปฏิสนฺถรณํ ‘‘อามิสปฏิสนฺถาโร, ธมฺมปฏิสนฺถาโร’’ติ วุจฺจตีติ. สาธุนาติ สามีจิปฺปฏิปนฺนตาทิอริยธมฺเม ปติฏฺิตุกาเมน อริยาจาเรน ภิกฺขุนาติ อตฺโถ. ‘‘อธุนา’’ติ อิทํ อิมิสฺสา ปฏิปตฺติยา สพฺพกาลํ ปฏิปชฺชิตพฺพตายปิ ปาปชนกณฺหกสํคาเม อิมสฺมึ วิปนฺนกาเล วิเสเสน อปฺปมตฺเตน ปวตฺเตตพฺพนฺติ อธิปฺปาเยน วุตฺตํ.
๔๙๑-๒. เกนจีติ อุปลกฺขณตฺตา อุปาสเกน วา อุปาสิกาย วาติ อตฺโถ. หตฺเถนาติ หตฺถาวยวา องฺคุลิโย วุตฺตา สมุทาเย ปวตฺตสฺส โวหารสฺส อวยเว ปวตฺตนโต. กตฺวาติ เอตฺถ ‘‘ปริตฺต’’นฺติ ปาเสโส, กโรติสฺส กิริยาสามฺเ วตฺตนโต ภณิตฺวาติ อตฺโถ. เตสเมว จ สนฺตกนฺติ ปริตฺตํ ภณาเปนฺตานเมว สนฺตกํ สุตฺโตทกํ. เอวํ วุตฺตตฺตา ‘‘อตฺตโน สุตฺโตทกํ อาหริตฺวา ปฺุตฺถาย อิทํ หตฺเถน จาเลตฺวา, อามสิตฺวา วา ปริตฺตํ ภณถา’’ติ วุตฺเต เกนจิ ปริตฺโตทกํ สุตฺตํ กาตพฺพํ. เกนจิ ‘‘ปริตฺโตทกสุตฺตานิ เทถา’’ติ วุตฺเต ¶ ภิกฺขุนา เตสเมว สนฺตกํ ชลํ หตฺเถน จาเลตฺวา สุตฺตกํ มทฺทิตฺวา ปริตฺตํ กตฺวา ทาตพฺพนฺติ โยชนา.
๔๙๓. อนามฏฺโปีติ หตฺเถน อนามสิโตปิ, อปพฺพชิตสฺส หตฺถโต ลทฺธา อตฺตนา วา อฺเน วา ภิกฺขุนา อคหิตคฺโคติ วุตฺตํ โหติ.
๔๙๔. โจรทามริกสฺส จาติ คามวิโลปกสฺส โจรสฺส จ.
๔๙๕. ปณฺฑุปลาสสฺสาติ ¶ ปพฺพชฺชาเปกฺขสฺส ภณฺฑุกสฺส, ปณฺฑุวณฺโณ ปลาโส ปณฺฑุปลาโส, โส วิยาติ ปณฺฑุปลาโส, ตํสทิเส ตพฺโพหาโร ‘‘สีโหยํ มาณวโก’’ติอาทีสุ วิย. ยถา ปณฺฑุปลาโส รุกฺขา ปตนาภิมุโข ติฏฺติ นิยตปาโต, เอวมยมฺปิ คิหิลิงฺคโต อปคมาภิมุโข ปพฺพชฺชูปคมเน นิยโตว ติฏฺตีติ ‘‘ปณฺฑุปลาสสทิโส’’ติ เวทิตพฺโพ.
ถาลเกปิ จาติ อตฺตโน ปริโภคถาลเกปิ. อิทฺจ นิทสฺสนมตฺตํ, ปตฺโตปิ คหิโตเยวาติ ทฏฺพฺพํ. เปตฺวาติ เอตฺถ ‘‘ปิณฺฑปาต’’นฺติ อุปโยควเสน สมฺพนฺธนียํ. ตํ ปนาติ อตฺตโน ปริโภคถาลเก เปตฺวา ทิยฺยมานํ ปิณฺฑปาตํ. ‘‘มาตาปิตูน’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๓๖-๔๓๗) อฏฺกถาวจนโต เอตฺถ ‘‘ปิตุโน’’ติ อุปลกฺขณนฺติ มาตาปิตูนมฺปีติ อตฺโถ. สเจ เอกเสโส อิจฺฉิโต, ‘‘ปิตูนมฺปี’’ติ ปาโ ยุชฺชติ.
๔๙๖. ชงฺฆเปสนิยนฺติ คิหีนํ ทูเตยฺยสาสนหรณกมฺมํ ‘‘ชงฺฆเปสนิย’’นฺติ วุจฺจติ. อปิ จาติ วุตฺตสมุจฺจโย.
๔๙๗. เอตฺตาวตา สามฺวิธึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อปวาทวิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘ภณฺฑู’’ติอาทิ วุตฺตํ. สาสนนฺติ สนฺเทสํ. หริตุนฺติ วุตฺตฏฺานํ เนตุํ.
๔๙๘. อฏฺวิเธนปีติ ปุปฺผทานาทิชงฺฆเปสนิยาวสาเนน อฏฺปฺปกาเรนปิ. กุลทูสนกมฺเมนาติ กุลานํ สทฺธาวินาสเกน อนาจารกมฺเมน. ลทฺธนฺติ เอตฺถ ‘‘โภชน’’นฺติ อิทํ ‘‘ภฺุชิตุ’’นฺติ จ ‘‘อชฺโฌหาเรสู’’ติ จ วุตฺตตฺตา, ‘‘เสเสสุปิ อยํ นโย’’ติ วกฺขมานตฺตา ¶ จ ลพฺภติ. ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ เอเกนาปิ กุลทูสเนน กมฺเมน อุปฺปาทิตปจฺจโย ¶ สพฺเพสมฺปิ น วฏฺฏตีติ ‘‘ปฺจนฺนํ สหธมฺมีนํ น จ วฏฺฏตี’’ติ สพฺพปฏิเสโธ กโต.
๔๙๙. สพฺพตฺถาติ ‘‘อชฺโฌหาเรสู’’ติ เอตสฺส วิเสสนํ, สพฺเพสูติ อตฺโถ. ‘‘อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเร’’ติ อฏฺกถาคตํ สงฺคณฺหาติ. ‘‘อชฺโฌหาเรสู’’ติ อิทํ ปรคลํ กาตพฺพํ อามิสํ สนฺธายาห. เสสปจฺจเย ปฏิจฺจ ปริโภควเสเนว ‘‘เสเสสู’’ติ อาห, อนชฺโฌหรณีเยสุ เสสปจฺจเยสูติ อตฺโถ. กึ วุตฺตํ โหติ? จีวรปจฺจเย สรีรโต โมเจตฺวา ปริโภคคณนาย, เสนาสนปจฺจเย นิพฺพโกเส อุทกปตนฏฺานโต อพฺภนฺตรํ ปวิฏฺวารคณนาย, มฺจปีาทิเสนาสเน นิสีทนสยนาทิปริโภคคณนาย, อนชฺโฌหริตฺวา อพฺภฺชนาเลปนาทิวเสน กาตพฺพเภสชฺเช สรีรโต โมเจตฺวา วารคณนายาติ วุตฺตํ โหติ. อยํ นโยติ ‘‘ทุกฺกฏํ ปริทีปิต’’นฺติ วุตฺโต นโย.
๕๐๐. ‘‘อุปฺปนฺนปจฺจยา’’ติ อิทํ ‘‘อภูตาโรจเนนา’’ติ อิทมเปกฺขิตฺวา วุตฺตํ. ‘‘กตฺวา รูปิยโวหาร’’นฺติ อิทมเปกฺขิตฺวา ‘‘อุปฺปาทิตปจฺจยา’’ติ โยชนา กาตพฺพา. รูปิยโวหารวินิจฺฉโย นิสฺสคฺคิเย อาวิ ภวิสฺสติ. อภูตาโรจนวินิจฺฉโย จตุตฺถปาราชิเก วุตฺโต. สมานาติ ปกาสิตาติ กุลทูสนกมฺเมน อุปฺปาทิตปจฺจเยหิ สทิสาติ อฏฺกถายํ วุตฺตาติ อตฺโถ. อิมินา ตตฺถาปิ วินิจฺฉโย เอตฺตโกเยวาติ อติทิสติ.
๕๐๑. ‘‘สํสารวาโส ทุกฺข’’นฺติ ตฺวา นิพฺพานาธิคเม มานสํ พนฺธิตฺวา นิพฺพานคามินึ ปฏิปทํ สนฺธาย สาสนาวติณฺเณน สิกฺขากาเมน กุลปุตฺเตน เสวิตกฺขเณเยว ชีวิตหรณสมตฺถวิสมิสฺสปูติมุตฺตํ ¶ วิย วชฺชนียํ อกปฺปิยปจฺจยํ อุปฺปาเทตุํ กริยมานํ อกปฺปิโยปายปฺปการํ เอกโต ทสฺเสตุมาห ‘‘วิฺตฺตี’’ติอาทิ. ตตฺถ วิฺตฺติ ยาจนา. อนุปฺปทานนฺติ ปิณฺฑปฏิปิณฺฑทานํ. เวชฺชกมฺมํ วุตฺตนยเมว. อเนสนํ นาม อปฺปิจฺฉตาย อนนุรูเปน ปโยเคน ปจฺจยปริเยสนํ.
ปาริภฏฺยตา นาม อิสฺสเร เสวิตุํ ปริวาเรตฺวา เตสํ จิตฺตรุจิตํ วิลปนฺตานํ ปริภฏานํ เสวกชนานํ วิย ลาภตฺถิกสฺส ภิกฺขุโน ปจฺจยทายเกสุ ปวตฺตีติ เวทิตพฺโพ. ปริ สมนฺตโต ภฏติ เสวตีติ ปริภโฏ, อิสฺสรชนานํ สมีปาวจโร เสวกชโน, ปริภโฏ วิยาติ ¶ ปริภโฏ, ภิกฺขุ, ปริภฏสฺส กมฺมํ ปาริภฏฺยํ, ตสฺส ภาโว ปาริภฏฺยตา. อถ วา ปริภฏติ ธาติ วิย กุลทารเก องฺเก กรณาทิวเสน ธาเรตีติ ปริภโฏ, ปริภฏสฺส กมฺมํ ปาริภฏฺยํ, ตสฺส ภาโว ปาริภฏฺยตาติ ลาภาสาย ภิกฺขุโน กุลทารเกสุ อนนุโลมิกา ปวตฺติ วุจฺจติ.
มุคฺคสูปตา นาม ปกฺกมุคฺคา วิย ปกฺกาปกฺกพีชมิสฺสา ลาภาสาย ทายกานํ จิตฺตาราธนตฺถาย สจฺจาลีกมิสฺสกตา. ยถา มุคฺเคสุ ปจฺจมาเนสุ โกจิเทว น ปจฺจติ, พหโว ปจฺจนฺติ, เอวเมว ยสฺส ทายเกหิ สทฺธึ กเถนฺตสฺส กิฺจิเทว สจฺจํ โหติ, อสจฺจเมว พหุกํ โหติ, อยํ วุจฺจติ มุคฺคสูปสทิสตฺตา ‘‘มุคฺคสูโป’’ติ, ตสฺส กมฺมํ มุคฺคสูปํ, ตสฺส ภาโว มุคฺคสูปตา. วตฺถุวิชฺชกํ นาม กูปวตฺถุเคหวตฺถุอาทีนํ อาจิกฺขนํ. วตฺถุวิชฺชายกานํ กตํ วตฺถุวิชฺชกํ.
๕๐๒. ชงฺฆเปสนิยํ, ทูตกมฺมฺจ วุตฺตนยเมว. กุลทูสนนฺติ วุตฺตาวเสสํ. อภูตาโรจนฺจ วุตฺตนยเมว. พุทฺธปฏิกุฏฺนฺติ ¶ พุทฺเธหิ ปฏิกฺโกสิตํ ครหิตํ ยถาวุตฺตํ มิจฺฉาชีวฺจ อวุตฺตฺจ องฺควิชฺชานกฺขตฺตวิชฺชาอุกฺกาปาตทิสาฑาหภูมิจาลาทิเภทํ มิจฺฉาชีวนูปายํ สพฺพํ. วิวชฺชเยติ วิสมิว, คูถมุตฺตํ วิย จ อารกา ปริวชฺเชยฺยาติ อตฺโถ. ‘‘สิกฺขากาโม กุลปุตฺโต’’ติ สามตฺถิยา ลพฺภติ.
๕๐๓. ปฏินิสฺสชฺชโตปิ ตนฺติ สมนุภาสนกมฺมโต ปุพฺเพ วา ตฺติจตุตฺถาสุ กมฺมวาจาสุ อนฺตกมฺมวาจาย ยฺย-การํ อปฺปตฺตาย วา กุลทูสนกมฺมํ ปชหนฺตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. สงฺฆเภทสมนฺติ ปมสงฺฆเภเทน สมนฺติ.
กุลทูสนกถาวณฺณนา.
๕๐๔. ‘‘ชาน’’นฺติ อิมสฺส ‘‘ภิกฺขุนา’’ติ เอตสฺส วิเสสนตฺตา ชานตาติ คเหตพฺพํ. ปาฬิยา ลิขิเต สีหฬคณฺิปเท ปน เอวรูปํ อาปตฺตึ อาปนฺโนสฺมีติ ตฺวาติ อตฺโถ วุตฺโต. ยาวตีหนฺติ ยตฺตกานิ อหานิ, ‘‘ฉาทิตา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ, ฉาทนกิริยาอจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. ฉาทิตาติ ‘‘อหํ อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปนฺโน’’ติ สพฺรหฺมจารีนํ อนาโรจนทิวเสน ¶ ปฏิจฺฉาทิตา. อาปตฺตีติ สงฺฆาทิเสสาปตฺติ. อกามาติ อรุจิยาว สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชิตฺวา อกตปฏิกมฺมสฺส สคฺคโมกฺขานํ อนฺตรายกรตฺตาติ อธิปฺปาโย. ปริวตฺถพฺพนฺติ ปริวาสํ สมาทาย วตฺถพฺพํ. กิตฺตกํ กาลนฺติ อาห ‘‘ตาวตีห’’นฺติ, ตตฺตกานิ อหานีติ วุตฺตํ โหติ. อาปชฺชิตฺวา ยตฺตกานิ อหานิ ปฏิจฺฉาเทติ, ตตฺตกาเนว อหานีติ อตฺโถ.
๕๐๕-๖. อาปตฺติ กิตฺตเกน ปฏิจฺฉนฺนา โหตีติ อาห ‘‘อาปตฺติ จา’’ติอาทิ. ตตฺถ อาปตฺติ จาติ สงฺฆาทิเสสาปตฺติ จ. อนุกฺขิตฺโต จาติ อุกฺเขปนียกมฺเมน สยํ อนิสฺสาริโต ¶ จ. ปหู จาติ สยํ สพฺรหฺมจารีนํ สนฺติกํ คนฺตฺวา อาโรเจตุํ ปโหติ จ. อนนฺตรายิโก จาติ คมนวิพนฺธเกน ราชโจราทิอนฺตราเยน วิรหิโต จ. จตุสฺว ปีติ เอตฺถ ‘‘เอเตสู’’ติ เสโส, เอเตสุ จตูสูติ อตฺโถ. ตํสฺีติ อาปตฺติสฺี อนุกฺขิตฺตสฺี ปหุสฺี อนนฺตรายิกสฺีติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺส เอวํสฺิโน อิเมสุ จตูสุ ตถาสฺิโน ปุคฺคลสฺส. ฉาเทตุกามตาติ อาจริยาทีสุ คารเวน วา ครหาทิภยา วา ‘‘น อาโรเจสฺสามี’’ติ ปฏิจฺฉาเทตุกามตา จ. ฉาทนนฺติ ตถา จินฺเตตฺวา ‘‘อหํ อิตฺถนฺนามํ อาปนฺโน’’ติ อวตฺวา ปฏิจฺฉาทนฺจาติ อิเมหิ ทสหิ องฺเคหิ. ‘‘ภิกฺขุนา’’ติ กตฺตุนิทฺเทสตฺตา ฉนฺนาติ เอตฺถ ฉาทิตาติ อตฺโถ. กาลวิธึ ทสฺเสติ ‘‘อรุณุคฺคมเนนา’’ติ, อาปตฺติอาปนฺนทิวสํ เขเปตฺวา อรุณุฏฺาเนน สทฺธึ ฉนฺนา โหตีติ อตฺโถ.
ทฺเวภาณวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕๐๗. เอวํ ปฏิจฺฉนฺนสงฺฆาทิเสสปฏิกมฺมตฺถํ ‘‘อกามา ปริวตฺถพฺพ’’นฺติ วิหิตสฺส ปริวาสสฺส โก เภโท, โก ปวตฺติกฺกโมติ อาห ‘‘ติวิโธ’’ติอาทิ. โส ปริวาโส ติวิโธ ทีปิโตติ สมฺพนฺโธ. เกนาติ อาห ‘‘ติวิธาเปตเจตสา’’ติ. ‘‘ติสฺโส วิธา, เสยฺโยหมสฺมีติ วิธา, สทิโสหมสฺมีติ วิธา, หีโนหมสฺมีติ วิธา’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๐๕) วุตฺตวิธาย มานนามเธยฺยโต ติวิธมานโต อปคตจิตฺเตน สมฺมาสมฺพุทฺเธนาติ อตฺโถ.
ปฏิจฺฉนฺนา อาปตฺติ เอตสฺสาติ ปฏิจฺฉนฺโน. อริสาทีนํ อาคติคณตฺตา ตตฺถ ปกฺขิปเนน อ-การปจฺจโย ทฏฺพฺโพ. เตเนว วกฺขติ ‘‘ปฏิจฺฉนฺนาย ทาตพฺโพ’’ติอาทิ.
สุทฺธนฺโตติ ¶ ¶ ‘‘อุโภ โกฏิโย โสเธตฺวา ทาตพฺพปริวาโส สุทฺธนฺโต นามา’’ติ ปาฬิคณฺิปเท วุตฺตตฺตา อุปสมฺปทากาลสงฺขาโต สุทฺโธ ปุพฺพนฺโต, อาโรจิตกาลสงฺขาโต สุทฺโธ อปรนฺโต จ ปริวาสสมาทานกาเล วา ปริวสนกาเล วา อุปปริกฺขิตฺวา ทิฏฺา สุทฺธา อนฺตา อนาปตฺติกาลสงฺขาตา อุโภ โกฏิโย อสฺสาติ กตฺวา สุทฺธนฺตนามโก ปริวาโส จ. เอตฺถ จ เภทาทึ วกฺขติ.
สมฺมา ทิวสาทีนํ โอธานํ ปกฺเขโป ยตฺถ โส สโมธาโน, ปริวาโส. ทิวเสสุ ทิวเส วา อาปตฺตีสุ อาปตฺติโย วา สพฺพา นานาวตฺถุกา อาปตฺติโย เอกโต กตฺวา โอธาย ทาตพฺพปริวาโสติ อตฺโถ. เอตฺถาปิ เภทาทึ วกฺขติ.
๕๐๘. ตตฺราติ เตสุ ตีสุ ปริวาเสสุ. ‘‘โย’’ติ เสโส. อิตีติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. โย ปฏิจฺฉนฺนปริวาโส, อยนฺติ เอวํ ปกาสิโตติ โยชนา.
๕๐๙-๑๐. ปริวาสทานกาเล วุจฺจมานาย กมฺมวาจาย ปธานลกฺขณํ ทสฺเสตุมาห ‘‘วตฺถุโคตฺตวเสนา’’ติอาทิ. ตตฺถ ‘‘วตฺถู’’ติ สุกฺกโมจนาทิโก วีติกฺกโม วุจฺจติ. อยเมว สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทิกํ คํ วาจํ สฺฺจ ตายติ รกฺขตีติ กตฺวา ‘‘โคตฺต’’นฺติ วุจฺจติ. ตฺหิ สชาติยสาธารณวิชาติยวินิวตฺตนวเสน อฺตฺถ คนฺตุํ อทตฺวา วาจํ สทฺทํ, ตพฺพิสยํ สฺฺจ รกฺขติ. อิทํ วตฺถุโคตฺตทฺวยวาจกํ สุกฺกวิสฺสฏฺิกายสํสคฺควิเสสวจนฺจ ‘‘นานาวตฺถุกา’’ติ สามฺวจนฺจาติ อิมินา วจนทฺวเยนาติ วุตฺตํ โหติ. วุตฺตฺเหตํ อฏฺกถายํ ‘‘สุกฺกวิสฺสฏฺึ กายสํสคฺค’นฺติอาทิวจเนนาปิ ‘นานาวตฺถุกาโย’ติอาทิวจเนนาปิ วตฺถุเจว ¶ โคตฺตฺจ สงฺคหิต’’นฺติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒). นามาปตฺติวเสน วาติ เอตฺถ สงฺฆาทิเสโสติ สชาติสาธารณนามํ, อาปตฺตีติ สพฺพสาธารณนามนฺติ ทฺวีหิ นาเมหิ ตํตํวีติกฺกมวเสน อาปชฺชิตพฺพโต ตเทว อาปตฺตีติ เอวมุภินฺนํ นามาปตฺตีนํ วเสน วาติ อตฺโถ.
กมฺมวาจา หิ กาตพฺพาติ ‘‘วตฺถุโคตฺตวเสนาปี’’ติ เอตฺถ อปิ-สทฺโท ‘‘นามาปตฺติวเสน วา’’ติ เอตฺถ สงฺฆาทิเสโสติ สชาติสาธารณนามํ, อาปตฺตีติ สพฺพสาธารณนามนฺติ ทฺวีหิ นาเมหีติ อิทํ สมุจฺจิโนตีติ อุภยํ เอกโต โยเชตฺวา กมฺมวาจา กาตพฺพาติ. ‘‘นามาปตฺติวเสน ¶ วา’’ติ เอตฺถ วิกปฺปตฺเถน วา-สทฺเทน, ‘‘อหํ ภนฺเต สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชึ เอกาหปฏิจฺฉนฺนาโย’ติ เอวํ นามมตฺตวเสน วา โยชนา กาตพฺพา’’ติ อฏฺกถาย วุตฺตวิเสสนิวตฺตนตฺถมตฺตสทฺทวเสน จ วตฺถุโคตฺตวิรหิเตน เกวเลน นามาปตฺติมตฺเตน ปโยเชตฺวา กาตพฺพาเยวาติ วุตฺตํ โหติ. กมฺมวาจาย กรณปฺปกาโร ปน สมุจฺจยกฺขนฺธเก อาคตนเยน อาปนฺนปุคฺคลนาเมน จ เอกาหปฏิจฺฉนฺนาทิวจเนน จ โยเชตฺวา ทฏฺพฺโพ. ตสฺส ทาตพฺโพติ โยชนา. ‘‘ปริวาโส’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ, ปฏิจฺฉนฺนาปตฺติกสฺส ปุคฺคลสฺส ปริวาโส ทาตพฺโพติ อตฺโถ.
เตน จาติ ลทฺธปริวาเสน อนฺโตสีมาย อุกฺกุฏิกํ นิสินฺเนน ปคฺคหิตฺชลินา ภิกฺขุนา จ. สมาทิยิตฺวาติ เอตฺถาปิ ‘‘วตฺต’’นฺติ สามตฺถิยา ลพฺภติ. ‘‘สมาทาเนปฺยยํ นโย’’ติ (วิ. วิ. ๕๑๔) วกฺขมานตฺตา ‘‘วตฺตํ สมาทิยามิ, ปริวาสํ สมาทิยามี’’ติ อิเมสํ ทฺวินฺนํ อฺตรํ วา ทฺวยเมว วา ติกฺขตฺตุํ วตฺวา ปาริวาสิกกฺขนฺธเก วุตฺตวตฺตปูรณตฺถํ สมาทิยิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. อาทิโต สงฺฆสฺส อาโรเจตพฺพนฺติ โยชนา. ตถา ¶ วตฺตํ สมาทิยิตฺวา นิสินฺเนน ปมํ สงฺฆสฺส ‘‘อหํ ภนฺเต เอกํ อาปตฺตึ อาปชฺชึ สฺเจตนิกํ สุกฺกวิสฺสฏฺึ เอกาหปฏิจฺฉนฺนํ, โสหํ สงฺฆํ เอกิสฺสา อาปตฺติยา สฺเจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฏฺิยา เอกาหปฏิจฺฉนฺนาย เอกาหปริวาสํ ยาจึ, ตสฺส เม สงฺโฆ เอกิสฺสา อาปตฺติยา สฺเจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฏฺิยา เอกาหปฏิจฺฉนฺนาย เอกาหปริวาสํ อทาสิ, โสหํ ปริวสามิ, เวทยามาหํ ภนฺเต, เวทยตีติ มํ สงฺโฆ ธาเรตู’’ติ เอวํ อาโรเจตพฺพํ.
‘‘อิมฺจ ปนตฺถํ คเหตฺวา ยาย กายจิ วาจาย อาโรเจตุํ วฏฺฏติเยวา’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒) อฏฺกถาวจนโต ยาย กายจิ ภาสายปิ อาโรเจตุํ วฏฺฏติ.
๕๑๑. ปุนปฺปุนาคตานนฺติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขูน’’นฺติ เสโส. ปุพฺเพ อาโรจนฏฺานํ อสมฺปตฺตานํ อาคนฺตุกานํ ภิกฺขูนมฺปิ. อาโรเจนฺโตวาติ เอกสฺส อาโรจเน โส เจ วุฑฺฒตโร โหติ, ‘‘ภนฺเต’’ติ วตฺวา ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว วตฺวา, นวโก เจ, ‘‘อาวุโส’’ติ วตฺวา อวสาเน ‘‘มํ อายสฺมา ธาเรตู’’ติ, ทฺเว เจ โหนฺติ, ‘‘มํ อายสฺมนฺตา ธาเรนฺตู’’ติ, ตโย เจ, ‘‘มํ อายสฺมนฺโต ธาเรนฺตู’’ติ วตฺวา อาโรเจนฺโตว. รตฺติยา เฉทํ อกตฺวาติ ‘‘ปกตตฺเตน ภิกฺขุนา สทฺธึ เอกจฺฉนฺเน’’ติอาทินา (จูฬว. ๘๑) นเยน วุตฺตเอกเสนาสเน ปกตตฺเตน ภิกฺขุนา สทฺธึ อรุณุฏฺาปนวเสน ¶ กริยมาเนน สหวาเสน วา ‘‘ปกตตฺตภิกฺขูหิ วินา เอกเกน วาโส’’ติ วุตฺตวิปฺปวาเสน วา ‘‘อาคนฺตุกานํ อาโรจนาย อกรณ’’นฺติ วุตฺตอนาโรจเนน วา สมฺภวนฺตํ รตฺติจฺเฉทมกตฺวา. วตฺตเภทํ อกตฺวา วา ปาริวาสิกกฺขนฺธเก ปาริวาสิกสฺส ปฺตฺตวตฺตโต เอกมฺปิ อหาเปตฺวา จ. สทา วเสติ ปริวาสํ วสิตุํ ¶ ปริกปฺปิตา สพฺพทิวสา ยาว ขิณนฺติ, ตาว วเสยฺยาติ อตฺโถ.
๕๑๒. ตตฺถ ปริวาโส วิโสเธตุํ น สกฺกา เจติ ตสฺส วิหารสฺส มหนฺตตฺตา อาคเต อาคนฺตุกภิกฺขู ปริเยสิตฺวา อาโรเจนฺเตน รตฺติจฺเฉทํ อกตฺวา ปริวาสํ โสเธตุํ น สกฺกา เจ โหติ. ตํ วตฺตํ นิกฺขิปิตฺวานาติ ตถา สมาทินฺนํ วตฺตํ อุปริ วกฺขมานนเยน นิกฺขิปิตฺวา.
๕๑๓. กตฺถ นิกฺขิเปยฺยาติ อาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ. ตตฺเถว สงฺฆมชฺเฌ วาติ อตฺตโน ยสฺมึ วตฺตํ สมาทินฺนํ, ตสฺมึเยว สงฺฆมชฺเฌ วา. ปุคฺคเล วาติ ภิกฺขูสุ อุฏฺาย ตตฺถ ตตฺถ คเตสุ อนฺโตสีมายเยว โอหีเน เอกภิกฺขุมฺหิ วา อสติยา พหิสีมํ คเตน สริตกฺขเณ อตฺตนา สทฺธึ คจฺฉนฺเต ตสฺสาเยว ปริสาย ปริวาสทาเน สมฺมุขีภูเต ปุคฺคเล วา อาคนฺตุกภิกฺขุ เจ, ตสฺส วา สนฺติเก อาโรเจตฺวา วตฺตํ นิกฺขิปิตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ. กถํ นิกฺขิเป’ติ อาห ‘‘นิกฺขิปามี’’ติอาทิ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘นิกฺขิปามี’’ติ เอตํ ปจฺจามสติ. ตํ วตฺตนฺติ อตฺตนา สมาทินฺนํ ตํ วตฺตํ.
๕๑๔. อยํ นโยติ ‘‘เอกปเทนาปิ ทฺวีหิ ปเทหิ วา ปนา’’ติ เอวํ อนนฺตโรทิตนโย.
๕๑๕-๒๐. ปกตตฺโตติ วุจฺจตีติ สคฺคโมกฺขาวรณาภาเวน ปกโต ปุพฺพสรูเปเนว ิโต อตฺตา เอตสฺสาติ ‘‘ปกตตฺโต’’ติ กถียติ. ปจฺจูสกาลสฺมินฺติ อรุณโต ปุริมกาเล.
ปริกฺขิตฺตวิหารสฺสาติ เอตฺถ ปาการาทีหิ ปริกฺขิตฺตํ เอกมฺปิ เสนาสนํ วิหรนฺติ อสฺมินฺติ กตฺวา ตถา วุจฺจติ. ทฺเว ¶ เลฑฺฑุปาเต อติกฺกมฺมาติ โยชนา. เลฑฺฑุปาตทฺวยสฺส อวธึ ทสฺเสติ ‘‘ปริกฺเขปโต พหี’’ติ, ‘‘อปริกฺขิตฺตโต ปริกฺเขปารหฏฺานา พหี’’ติ จ.
ปริกฺเขปารหฏฺานํ ¶ นาม กตมนฺติ? วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๓๑) ธุตงฺคนิทฺเทเส ‘‘มชฺฌิมฏฺกถายํ ปน วิหารสฺสาปิ คามสฺเสว อุปจารํ นีหริตฺวา อุภินฺนํ เลฑฺฑุปาตานํ อพฺภนฺตรา มินิตพฺพ’นฺติ วุตฺตํ. อิทเมตฺถปมาณ’’นฺติ วุตฺตตฺตา อปริกฺขิตฺตสฺส ปมเลฑฺฑุปาตํ โหติ, คาเม วุตฺเตน วิธินา วิหารปริยนฺเต ิตภตฺตสาลคิลานสาลาทิเสนาสเน เจ ปริกฺเขโป อตฺถิ, ตตฺถ วา, นตฺถิ เจ, นิพฺพโกสสฺส อุทกปาตฏฺาเน ิเตน มาตุคาเมน ฉฑฺฑิตภาชนโธวโนทกปตนฏฺาเน วา เสนาสนโต ทูเร เจติยงฺคเณ, โพธิยงฺคเณ วา ตฺวา พลมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส หตฺถํ ปสาเรตฺวา อตฺตโน พลปฺปมาเณน ขิตฺตสฺส มุฏฺิยา คหิตปาสาณสฺส ปตนฏฺานํ วิหารูปจาโร นาม, ตเทว ปาการาทีหิ ปริกฺเขปารหฏฺานํ นาม. ตตฺถ ตฺวา ตเถว ขิตฺตสฺส ปาสาณสฺส ปตนฏฺานํ เอโก เลฑฺฑุปาโต, ตตฺถาปิ ตฺวา ตเถว ขิตฺตสฺส ปาสาณสฺส ปตนฏฺานํ เอโก เลฑฺฑุปาโตติ เอวํ ทฺเว เลฑฺฑุปาตา คเหตพฺพา.
มคฺคโต โอกฺกมิตฺวาติ มคฺคโต อปสกฺกิตฺวา. คุมฺเพนาติ รุกฺขคหเนน วา ลตาคหเนน วา. วติยาติ กณฺฏกสาขาทีหิ กตาย วติยา.
วตฺตมาทายาติ ปุพฺเพ วุตฺตนเยน วตฺตํ สมาทิยิตฺวา. อาโรเจตฺวาติ ยถาวุตฺตนเยน อาโรเจตฺวา.
นิกฺขิปิตฺวาติ ปุพฺเพ วุตฺตนเยน วตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา. ภิกฺขูติ อตฺตนา สทฺธึ หตฺถปาสทานตฺถาย อาคโต ภิกฺขุ. ยสฺส กสฺสจีติ เอตฺถ ‘‘สนฺติเก’’ติ เสโส.
อาโรเจตฺวา ¶ วาติ อตฺตโน นวกตโร เจ, ‘‘อาวุโส’’ติ, วุฑฺโฒ เจ, ‘‘ภนฺเต’’ติ วตฺวา ยถาวุตฺตนเยเนว อาโรเจตฺวา. เสสนฺติ อวเสสวินิจฺฉยํ. สมุจฺจยสฺสาติ จูฬวคฺคาคตสฺส ตติยสมุจฺจยกฺขนฺธกสฺส. อฏฺกถายจาติ ‘‘สเจ อฺโ โกจิ ภิกฺขุ เกนจิเทว กรณีเยนา’’ติอาทินา (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒) อฏฺกถาคตวินิจฺฉเยนาปิ.
วิภาวเยติ ‘‘สเจ ยํ ภิกฺขุํ ตตฺถ อาคตํ ปสฺสติ, ภาสมานสฺส สทฺทํ สุณาติ, ตสฺส อาโรเจตพฺพํ. ตถา อกโรนฺตสฺส รตฺติจฺเฉโท จ วตฺตเภโท จ โหติ ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. สเจ โส ทฺวาทสรตนพฺภนฺตรํ ปตฺวา ตสฺส อชานนฺตสฺเสว ปกฺกนฺโต โหติ, รตฺติจฺเฉโทว โหติ, น วตฺตเภโท ¶ . สเจ อตฺตนา สทฺธึ อาคโต เกนจิเทว กรณีเยน คโต โหติ, วิหารํ คนฺตฺวา ยํ ปมํ ปสฺสติ, ตสฺส สนฺติเก อาโรเจตฺวา วตฺตํ นิกฺขิปิตพฺพํ. เอวํ ปริกปฺปิตทิวเส ปุณฺเณ กุกฺกุจฺจวิโนทนตฺถํ อติเรเก จ ทิวเส วตฺตํ ปูเรตฺวา ปริโยสาเน วตฺเต อสมาทินฺเน มานตฺตารโห น โหตีติ สงฺฆํ อุปสงฺกมฺม วตฺตํ สมาทิยิตฺวา ขนฺธเก อาคตนเยเนว มานตฺตํ ยาจิตพฺพํ. อนิกฺขิตฺตวตฺเตน จริตุกามสฺส ปุน วตฺตสมาทานํ กาตพฺพํ น โหตี’’ติ เอตฺตโก วิเสโส, อิมํ อฏฺกถาคตํ วินิจฺฉยํ ปกาเสยฺยาติ วุตฺตํ โหตีติ.
ปฏิจฺฉนฺนปริวาสกถาวณฺณนา.
๕๒๑. น ชานตีติ เอตฺถ ฉนฺทวเสน รสฺโส กโต. อาปตฺตีนฺจ รตฺตีนํ, ปริจฺเฉทํ น ชานตีติ พหู สงฺฆาทิเสเส อาปชฺชิตฺวาปิ ‘‘เอตฺตกาหํ อาปตฺติโย อาปนฺโน’’ติ อตฺตโน อาปนฺนสงฺฆาทิเสสาปตฺตีนํ ปริจฺเฉทํ ¶ น ชานาติ, ‘‘มยา อาปนฺนาปตฺติ เอตฺตเก ทิวเส ปฏิจฺฉนฺนา’’ติ ทิวสปริจฺเฉทํ น ชานาติ.
๕๒๒. อิทานิ ตสฺส ปเภทํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอเสวา’’ติอาทิ. ปริสุทฺเธหีติ สกลสํกิเลสปฺปหาเนน ปริสุทฺธสนฺตาเนหิ อุปาลิตฺเถราทิปุพฺพาจริเยหิ. เอโสว สุทฺธนฺโตติ เอโส ยถาวุตฺตสรูโป สุทฺธนฺตปริวาโส. จูฬสุทฺธนฺตนาโม จาติ ‘‘โย อุปสมฺปทโต ปฏฺาย อนุโลมกฺกเมน วา’’ติอาทินา (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒) อฏฺกถายํ วุตฺตนเยน อุปสมฺปทมาฬกโต ปฏฺาย อนุโลมวเสน วา อาโรจิตทิวสโต ปฏฺาย ปฏิโลมวเสน วา สรนฺเต ‘‘กิตฺตกานิ ทิวสานิ ปริสุทฺโธติ สรสี’’ติ วินยธเรหิ ปุจฺฉิเต ‘‘เอตฺตกํ กาลํ ปริสุทฺโธสฺมี’’ติ วุตฺตวโต เตน วุตฺตสุทฺธทินานิ ปริยนฺตํ กตฺวา ทินฺโน ยาว อุปสมฺปนฺนทิวโส, ตาว พหุทิวเสสุ เนตพฺพํ มหาสุทฺธนฺตํ สนฺธาย อิตรทินานํ ปูเรตพฺพตฺตา จูฬสุทฺธนฺโต นามาติ วุตฺตํ โหติ.
‘‘อยฺหิ สุทฺธนฺตปริวาโส นาม อุทฺธมฺปิ อาโรหติ, เหฏฺาปิ โอโรหติ, อิทมสฺส ลกฺขณ’’นฺติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒) วุตฺตตฺตา อิมํ ปริวาสํ ปริวสนโต ปจฺฉา ทิวสํ สรนฺโต ปริกปฺเปตฺวา โยเชตฺวา คหิตทิวสโต วฑฺเฒติ วา หาเปติ วา, อุภยตฺถาปิ ‘‘ปุน ปริวาสทานกิจฺจํ นตฺถี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒) วจนโต ปุพฺเพ ทินฺนปริวาโสเยว ปมาณํ ¶ . ‘‘เอตสฺส อปฺปฏิจฺฉนฺนํ ‘ปฏิจฺฉนฺนา’ติ วา อจิรปฏิจฺฉนฺนํ ‘จิรปฏิจฺฉนฺนา’ติ วา อสมฺพหุลมฺปิ ‘สมฺพหุลา’ติ วา วิปรีตโต คเหตฺวา วินยกมฺมํ กโรนฺตสฺส อาปตฺติโต วุฏฺานํ โหติ, ปฏิจฺฉนฺนํ ‘อปฺปฏิจฺฉนฺนา’ติอาทิวิปริยาเยน น โหตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒ อตฺถโต สมานํ) อฏฺกถาคตนโย เวทิตพฺโพ.
มหาสุทฺธนฺตนามโกติ ¶ ‘‘โย ปน ยถาวุตฺเตน อนุโลมปฏิโลมนเยน ปุจฺฉิยมาโนปิ รตฺติปริยนฺตํ น ชานาติ, เนว สรติ, เวมติโก วา โหติ, ตสฺส ทินฺโน สุทฺธนฺตปริวาโส มหาสุทฺธนฺโตติ วุจฺจตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒) อฏฺกถายํ นิทฺทิฏฺสรูโป มหาสุทฺธนฺโต นาม. ‘‘อยํ อุทฺธํ นาโรหติ, เหฏฺา ปน โอโรหตี’’ติ วุตฺตตฺตา อยํ ปริวาโส ยาว อุปสมฺปนฺนทิวโส, ตาว ปูเรตพฺพโต ตโต อุทฺธํ นาโรหติ. อนฺตราเฬ อตฺตโน สุทฺธกาลํ ปริกปฺเปตฺวา สรติ เจ, ตโต ปฏฺาย นิวตฺตนโต ทิวสหานํ ปน โหเตว.
๕๒๓. ‘‘อฺตโร ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปนฺโน โหติ, โส อาปตฺติปริยนฺตํ น ชานาติ, รตฺติปริยนฺตํ น ชานาตี’’ติ (จูฬว. ๑๕๖) อาคตวตฺถุมฺหิ อิมสฺส ปริวาสสฺส อนฺุาตตฺตา ตํ วตฺถุํ สงฺคเหตุํ ‘‘อาปตฺตีนํ จา’’ติอาทึ วตฺวาปิ ‘‘อาปตฺติปริยนฺตํ ปน ‘เอตฺตกา อหํ อาปตฺติโย อาปนฺโน’ติ ชานาตุ วา มา วา, อการณเมต’’นฺติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒) ปฏิเสเธตฺวา อฏฺกถายํ ปธานภาเวน วุตฺตรตฺติปริยนฺตสฺส อปริชานนมตฺตเมว ปมาณนฺติ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทุวิโธปี’’ติอาทิ. ทุวิโธปิ อยํ สุทฺธนฺตปริวาโส เอกจฺจํ รตฺติปริจฺเฉทํ, สกลํ วา รตฺติปริจฺเฉทํ อชานโต วา วิมติสฺส วา ทาตพฺโพติ โยชนา.
สุทฺธนฺตปริวาสกถาวณฺณนา.
๕๒๔. อิตโรปิ โส สโมธานปริวาโส ติธา มโตติ โยชนา. ธาตุสทฺทานํ อเนกตฺถตฺตา ‘‘โอธาน’’นฺติ มกฺขนํ วุจฺจติ. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘โอธุนิตฺวา ¶ มกฺเขตฺวา’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒). ‘‘สโมธาน’’นฺติ ปกฺเขโป วุจฺจติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สโมทหิตฺวา’’ติ. โอธานฺจ สโมธานฺจ โอธานสโมธานํ, ตํ ยตฺถ โส ปริวาโส ‘‘โอธานสโมธาโน’’ติ เวทิตพฺโพ. อริสาทิคเณ อนฺโตคธตฺตา เหตฺถ, อุปริ จ เอวรูเป าเน อ-การปจฺจโย ทฏฺพฺโพ ¶ . ปริวุตฺถทิวสานํ มกฺขนฺจ มูลาปตฺติยํ อนฺตราปตฺตีนํ ปกฺขิปนฺจ ยสฺมึ โส ปริวาโสติ วุตฺตํ โหติ. เตเนเวตฺถ ‘‘ทิวเส ปริวุตฺเถ ตุ, โอธุนิตฺวา ปทียเต’’ติ วกฺขติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ปริวุตฺถทิวเส โอธุนิตฺวา มกฺเขตฺวา ปุริมาย อาปตฺติยา มูลทิวสปริจฺเฉเท ปจฺฉา อาปนฺนํ อาปตฺตึ สโมทหิตฺวา’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒).
อคฺฆปุพฺพโก มิสฺสกปุพฺพโก สโมธานปริวาโสติ โยชนา, อคฺฆสโมธานปริวาโส มิสฺสกสโมธานปริวาโสติ วุตฺตํ โหติ. อคฺโฆ จ มิสฺสโก จ อคฺฆมิสฺสกา, เต ปุพฺพกา เอตสฺสาติ อคฺฆมิสฺสกปุพฺพโก, สโมธาโน. อคฺเฆน สโมธานํ อคฺฆสโมธานํ, ตํ ยตฺถ โส อคฺฆสโมธาโน, อาปนฺนาสุ พหูสุ สพฺพจิรปฏิจฺฉนฺนาปตฺตีนํ ทิวสคณนคฺเฆเนว ปจฺฉา อาปนฺนอาปตฺตีนํ ปกฺเขปยุตฺตปริวาโสติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อคฺฆสโมธาโน นาม สมฺพหุลาสุ อาปตฺตีสุ ยา เอกา วา ทฺเว วา ติสฺโส วา สมฺพหุลา วา อาปตฺติโย สพฺพจิรปฏิจฺฉนฺนาโย, ตาสํ อคฺเฆน สโมธาย ตาสํ รตฺติปริจฺเฉทวเสน อวเสสานํ อูนตรปฏิจฺฉนฺนานํ อาปตฺตีนํ ปริวาโส ทิยฺยติ, อยํ วุจฺจติ อคฺฆสโมธาโน’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒). มิสฺสกานํ นานาวตฺถุกานํ อาปตฺตีนํ สโมธานํ มิสฺสกสโมธานํ, ตํ ยตฺถ โส ปริวาโส มิสฺสกสโมธาโน. มิสฺสกานํ นานาวตฺถุกานํ อาปตฺตีนํ เอกโต ปกฺเขปยุตฺโต ปริวาโสติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘มิสฺสกสโมธาโน ¶ นาม โย นานาวตฺถุกา อาปตฺติโย เอกโต กตฺวา ทิยฺยตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒).
๕๒๕-๗. เอวํ ติวิเธ สโมธานปริวาเส ปมปริวาสสฺส วิเสสนภูตตาย อวยวานํ ทฺวินฺนํ โอธานสโมธานสทฺทานํ อตฺถานุวาเทน ตทุภยโอธานสโมธานสรูปํ วิธาตุมาห ‘‘อาปชฺชิตฺวา…เป… ปกาสิโต’’ติ. ตตฺถ ปมสฺส โอธาน-สทฺทสงฺขาตสฺส อวยวสฺส อตฺถสรูปานุวาทมาห ‘‘อาปชฺชิตฺวา…เป… ปทียเต’’ติ. ทุติยาวยวสงฺขาตสโมธาน-สทฺทสฺส อตฺถสรูปานุวาทมาห ‘‘ปุริมาปตฺติยา…เป… ภิกฺขุโน’’ติ. เตเนว อุภยตฺถานุวาเท ‘‘ภิกฺขุโน’’ติ ปททฺวยสฺส, ‘‘ปทียเต ทาตพฺโพ’’ติ กิริยาปททฺวยสฺส จ วิสุํ วิสุํ คหิตตฺตา ปุนรุตฺติโทสาภาโว เวทิตพฺโพ. เอวํ อวยวตฺถานุวาเทน วิธาตพฺพสมุทายํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอโสธานสโมธานปริวาโส ปกาสิโต’’ติ. เอตฺถ ฉาเทนฺตสฺส หีติ หิ-สทฺโท เหตุมฺหิ. เอโสธานสโมธาโนติ เอตฺถ เอต-สทฺทสมฺพนฺเธน ‘‘โย’’ติ ลพฺภติ.
ตตฺรายํ ¶ โยชนา – อาปชฺชิตฺวา…เป… โอธุนิตฺวา โย ยสฺมา ปทียเต, ปุริมาปตฺติยา…เป… โย ยสฺมา ทาตพฺโพ, ตสฺมา เอโสธานสโมธานปริวาโส ปกาสิโตติ.
ตตฺถ อนฺตราปตฺตึ อาปชฺชิตฺวาติ ปฏิจฺฉนฺนาปตฺติยา ปริวสนฺโต วา มานตฺตารโห วา มานตฺตํ จรนฺโต วา อพฺภานารโห วา หุตฺวา กทาจิ อฺํ สงฺฆาทิเสสาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา. ฉาเทนฺตสฺสาติ ปมํ อาปนฺนาปตฺติยาปฏิจฺฉาทิตกาเลน สมํ วา อูนํ วา กาลํ ปฏิจฺฉาเทนฺตสฺส. ‘‘มูลายปฏิกสฺสเนน เต ปริวุตฺถทิวเส จ มานตฺตจิณฺณทิวเส ¶ จ สพฺเพ โอธุนิตฺวา’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒) อฏฺกถาวจนโต เอตฺถ ‘‘ปริวุตฺเถ’’ติ อุปลกฺขณตฺตา ‘‘มานตฺตจิณฺเณ จา’’ติ คเหตพฺพํ. โอธุนิตฺวาติ จ มูลายปฏิกสฺสนวเสน มกฺเขตฺวา, อทิวเส กตฺวาติ อธิปฺปาโย.
โย ยสฺมา ปทียเต, โส ปริวาโส สฏฺิวสฺสานิ ปริวสิตฺวา มานตฺตารโห หุตฺวาปิ อนฺตราปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา เอกาหมฺปิ ปฏิจฺฉาทิเต มูลายปฏิกสฺสเนน เต ทิวเส สพฺเพ มกฺเขตฺวา ตาเนว สฏฺิวสฺสานิ ปุนปิ ยสฺมา ปทียเตติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สฏฺิวสฺสานิ ปริวสิตฺวา มานตฺตารโห หุตฺวาปิ หิ เอกทิวสํ อนฺตราปตฺตึ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ปุนปิ สฏฺิวสฺสานิ ปริวาสารโห โหตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒).
ปุริมาปตฺติยาติ เตน อาปนฺนาสุ สมฺพหุลาสุ อาปตฺตีสุ สพฺพาปตฺตีนํ ปุเรตรเมว ปฏิจฺฉนฺนาย อาปตฺติยา. มูลทิวเสติ ปมํ วีติกฺกมทิวเส. วินิจฺฉิเตติ ‘‘อสุกสํวจฺฉเร อสุกมาเส อสุกทิวเส’’ติ นิยมิเต. สโมธาย ปกฺขิปิตฺวา ทาตพฺโพติ สมฺพนฺโธ. วิธานโต ยาจมานสฺสาติ วิธานโต สงฺเฆน ทาตพฺโพติ โยเชตพฺพํ, สมุจฺจยกฺขนฺธเก วุตฺเตน วิธินา ยาจมานสฺส ตตฺเถว วุตฺตวิธินา สงฺเฆน ทาตพฺโพติ อตฺโถ. ‘‘เอโส โอธานสโมธานปริวาโส’’ติ ปทจฺเฉโท.
๕๒๘-๙. ตถา วุจฺจตีติ สมฺพนฺโธ. ตาสํ อคฺฆวเสน หีติ หิ-สทฺโท เหตุมฺหิ. ‘‘โสติ ตํสทฺทสมฺพนฺเธน ‘‘โย’’ติ ลพฺภติ. ตตฺรายํ โยชนา – สมฺพหุลา…เป… ตาสํ อคฺฆวเสน ตโต อูนปฏิจฺฉนฺนานํ อาปตฺตีนํ ¶ สโมธาย โย ยสฺมา ปทาตพฺโพ ปริวาโส, ตสฺมา โส ยถา อวยวตฺถวเสน ¶ ‘‘โอธานสโมธาโน’’ติ ปริวาโส วุตฺโต, ตถา ‘‘อคฺฆสโมธาโน’’ติ วุจฺจตีติ.
ตตฺถ สมฺพหุลาสูติ ยาสํ อาปตฺตีนํ ปริวสิตุกาโม, ตาสุ สมฺพหุลาสุ อาปตฺตีสุ, นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. ‘‘เอกา วา’’ติอาทิ นิทฺธาริยนิทฺเทโส. ตาสํ อาปตฺตีนํ. อคฺฆวเสนาติ คณนวเสน, รตฺติปริจฺเฉทวเสนาติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ตาสํ รตฺติปริจฺเฉทวเสนา’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๑๐๒). ‘‘ปทาตพฺโพ’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ตโตติ จิรปฏิจฺฉนฺนาปตฺติโต. อูนปฏิจฺฉนฺนานํ อาปตฺตีนนฺติ เอตฺถ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ, อูนปฏิจฺฉนฺนาโย อาปตฺติโย สโมธายาติ วุตฺตํ โหติ.
๕๓๐. นานา สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทีนิ วตฺถูนิ ยาสํ ตา นานาวตฺถุกา, นานาวตฺถุกา สฺา ยาสํ อาปตฺตีนํ ตา นานาวตฺถุกสฺาโย. สพฺพาติ เอตฺถ ‘‘ยา’’ติ เสโส, สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทิกุลทูสนาวสานา ยา สพฺพา เตรส สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโยติ อตฺโถ. ตา สพฺพาติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท วตฺตพฺโพ. ทาตพฺโพติ เอตฺถ ‘‘ปริวาโส’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ตา สพฺพาปิ เอกโต กตฺวา ทาตพฺโพ ปริวาโสติ โยชนา. ตสฺส เตรส สงฺฆาทิเสสาปตฺติโยปิ เอกโต กตฺวาติ อตฺโถ. ‘‘อหํ ภนฺเต สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชึ เอกํ สุกฺกวิสฺสฏฺึ…เป… เอกํ กุลทูสกํ, โสหํ ภนฺเต สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ ยาจามี’’ติ ติกฺขตฺตุํ ยาจนาย จ ตทนุรูปาย ตฺติยา จ กมฺมวาจาสุ จ นามํ ¶ วตฺวา ทาตพฺพปริวาโส มิสฺสโก มโต ‘‘มิสฺสกสโมธานปริวาโส’’ติ าโต. ทฺเว, ติสฺโส, จตสฺโส, อติเรกา จ อาปนฺนสฺสาปิ ปริวาสํ เทนฺเตน อิมินา นิยาเมน วตฺถุํ, นามํ วิเสเสตฺวา คเหตพฺพํ.
สโมธานปริวาสกถาวณฺณนา.
๕๓๑. ปริวุตฺถปริวาสสฺสาติ ติวิเธ ปริวาเส อฺตรสฺส วเสน ปริวุตฺถปริวาสสฺส. อุตฺตริ ฉ รตฺติโยติ ปริวาสโต อุตฺตริ ฉ รตฺติโย, ฉ ทิวเสติ วุตฺตํ โหติ, ‘‘จริตุ’’นฺติ เสโส, จรณกิริยาย อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. มานตฺตํ เทยฺยนฺติ โยชนา, ‘‘สงฺเฆนา’’ติ สามตฺถิยา ¶ ลพฺภติ. สมุจฺจยกฺขนฺธเก วุตฺตนเยน โยเชตฺวา ฉารตฺตฺจ ทาตพฺโพ, ภิกฺขุมานนวิธิ ภิกฺขุสฺส ทาตพฺโพติ อตฺโถ.
‘‘ปริวุตฺถปริวาสสฺสา’’ติ อิมินา ปฏิจฺฉนฺนมานตฺตํ ปกตํ, ตตฺถ ปเภเท อสติ กสฺมา ‘‘ปฏิจฺฉนฺนาปฏิจฺฉนฺนวสา ทุเว’’ติ วุตฺตนฺติ? ปกตเภทมนเปกฺขิตฺวา ฉารตฺตมานตฺเต ลพฺภมานวิสยเภทํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. เอวฺหิ สติ สโมธานมานตฺเต จ ‘‘ฉารตฺตํ มานตฺตํ เทตู’’ติ (จูฬว. ๑๒๘) ปาฬิยํ วุตฺตตฺตา ตมฺปิ คเหตฺวา ‘‘ติธา’’ติ กสฺมา น วุตฺตนฺติ? ตมฺปิ ปฏิจฺฉนฺนาปตฺติยา ปริวุตฺถปริวาสสฺเสว ทาตพฺพมานตฺตนฺติ ปฏิจฺฉนฺนมานตฺตวจเนเนว สงฺคหิตตฺตา วิสุํ น วุตฺตํ. เตเนว จตุพฺพิเธ มานตฺเต อิเมหิ ทฺวีหิ วินา ทสฺเสตพฺเพสุ ทฺวีสุ มานตฺเตสุ ปกฺขมานตฺตมตฺตํ ‘‘ฉาเทนฺติยา’’ติอาทิคาถาย ทสฺเสตฺวา สโมธานมานตฺตํ วิสุํ น ทสฺสิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
๕๓๔-๖. วินิทฺทิฏฺปฺปการนฺติ ‘‘ปริกฺขิตฺตวิหารสฺสา’’ติอาทินา ยถาวุตฺตคาถาทฺวเยน นิทฺทิฏฺปฺปการํ. อาทิยิตฺวาน ตํ ¶ เตสนฺติ เอตฺถ ‘‘สนฺติเก’’ติ วกฺขมานโต ลพฺภติ. เตสํ จตุนฺนํ สมฺมุขา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ตํ วตฺตํ สมาทิยิตฺวาติ อตฺโถ. ‘‘ตํ เตสํ สนฺติเก’’ติ อิทํ ‘‘อาโรเจตฺวา’’ติ อิมินาปิ ยุชฺชติ. เตสเมว สมฺมุขา นิสินฺเนน ‘‘อหํ ภนฺเต เอกํ อาปตฺตึ อาปชฺชึ สฺเจตนิกํ สุกฺกวิสฺสฏฺิ’’นฺติอาทินา นเยน สมุจฺจยกฺขนฺธกาคตํ อาโรจนํ กตฺวา. อิมินา อนฺโตอรุเณ ทิฏฺานํ อฺเสมฺปิ อาโรจนํ อุปลกฺขิตํ.
นิกฺขิเป สนฺติเก เตสํ วตฺตนฺติ เอตฺถ ‘‘อรุเณ อุฏฺิเต’’ติ อชฺฌาหริตพฺพํ. อรุเณ อุคฺคเต เตสํ ภิกฺขูนํ สมฺมุขา ยถาวุตฺตนเยเนว นิสีทิตฺวา ‘‘วตฺตํ นิกฺขิปามิ, มานตฺตํ นิกฺขิปามี’’ติ อิเมสุ ทฺวีสุ เอกํ วา ทฺวยเมว วา วตฺวา วตฺตํ นิกฺขิเป.
๕๓๗. ตสฺส มานตฺตสฺส. รตฺติจฺเฉทาทิโกติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน วตฺตเภโท คหิโต. อฏฺกถาวเสน ปาฬิวเสนาติ โยชนา.
๕๓๘. วีสติยา ¶ ภิกฺขูนํ วคฺโค สมูโห วีสติวคฺโค, โส เอว วีสติวคฺคิโก. อพฺเภยฺยาติ โอสาเรยฺย, อพฺภนฺตรํ กเรยฺยาติ อตฺโถ. วิธินาติ สมุจฺจยกฺขนฺธกาคตกฺกเมน. อพฺภิโตติ สํวาเสน อนฺโต กโต, ปกตตฺโตติ ปกติสภาโว, อาปตฺตึ อนาปนฺนกาลสทิโส โหตีติ อตฺโถ.
๕๓๙. อาปตฺตึ ฉาเทนฺติยา ภิกฺขุนิยาติ โยชนา, ‘‘อาปชฺชิตฺวา’’ติ เสโส, อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา ‘‘อาปตฺติ จา’’ติอาทินา (วิ. วิ. ๕๐๕) นเยน ปุพฺเพ ทสฺสิเตหิ ทสหิ องฺเคหิ ปฏิจฺฉาเทนฺติยา ภิกฺขุนิยา อตฺตโน อาปตฺตึ ฉาเทนฺติยา ภิกฺขุนิยา. น จ อาปตฺตีติ เอตฺถ ‘‘อตฺตโน’’ติ อิมินา อฺิสฺสา ¶ อาปตฺตึ ปฏิจฺฉาเทนฺติยา วชฺชปฏิจฺฉาทิกาสงฺขาตปาราชิกาปตฺตีติ ทีปิตํ โหติ. ‘‘ภิกฺขุนิยา’’ติ อิมินา ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏาปตฺติภาวํ ทีเปติ.
๕๔๑. วิรุทฺธมตฺถํ นยติ ปชหตีติ วินโย, วินิจฺฉโย, ตํ วินยปิฏกตฺถวินิจฺฉยวิเสสวิสยํ สมฺโมหสงฺขาตํ วิรุทฺธํ ปจฺจตฺถิกํ ตทงฺควเสน ปชหนโต วินยนยสงฺขาตํ ตโต เอว อติพุทฺธิทีปนํ, อติสเยน พุทฺธึ ทีเปตีติ อติพุทฺธิทีปนํ, ตํ วินยตฺถวินิจฺฉยกํ าณปทีปํ วิเสเสน ชาเลนฺตํ. วิวิเธหิ นเยหิ ยุตฺตตาย วิวิธนยยุตํ. วินยนเยติ วินยปิฏกสฺส ปรสนฺตานปาปเน, วินยวณฺณนายนฺติ วุตฺตํ โหติ.
อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา
วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย
สงฺฆาทิเสสกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.