📜

วตฺตกฺขนฺธกกถาวณฺณนา

๒๙๑๔-๕. อาคนฺตุโก จ อาวาสิโก จ ปิณฺฑจาริโก จ เสนาสนฺจ อารฺโก จ อนุโมทนา จาติ วิคฺคโห, ตาสุ วตฺตานิ, อิตรีตรโยคทฺวนฺทสมาสสฺส อุตฺตรปทลิงฺคตฺตา อิตฺถิ ลิงฺคนิทฺเทโส. ภตฺเต ภตฺตคฺเค, อุตฺตรปทโลโป. ‘‘ภตฺเต’’ติอาทีหิ ปเทหิ ‘‘วตฺตานี’’ติ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ.

อาจริโย จ อุปชฺฌายโก จ สิสฺโส จ สทฺธิวิหาริโก จ, เตสํ วตฺตานีติ วิคฺคโห. สพฺพโสติ สพฺพาวยวเภเทหิ. จตุทฺทเสวาติ อวยวเภเทหิ พหุวิธานิปิ วตฺตานิ วิสยเภเทน จุทฺทส เอว วุตฺตานิ. วิสุทฺธจิตฺเตนาติ สวาสนสกลสํกิเลสปฺปหานโต อจฺจนฺตปริสุทฺธจิตฺตสนฺตาเนน . วินายเกนาติ สตฺเต วิเนตีติ วินายโก, อนุตฺตรปุริสทมฺมสารถิภาเวน ทมฺมเทวพฺรหฺมนาคาทิเก สตฺเต นานาวิเธน วินยนุปาเยน ทเมตีติ อตฺโถ. อถ วา วิคโต นายโก อสฺสาติ วินายโก, เตน.

๒๙๑๖. อารามนฺติ เอตฺถ ตํสมีเป ตพฺโพหาโร. ยถาห ‘‘อิทานิ ‘อารามํ ปวิสิสฺสามี’ติ อิมินา อุปจารสีมสมีปํ ทสฺเสติ, ตสฺมา อุปจารสีมํ ปตฺวา อุปาหนาโอมุฺจนาทิ สพฺพํ กาตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๕๗). ‘‘ปน อปเนตพฺพ’’นฺติ ปทจฺเฉโท. มุฺจิตพฺพาติ อุปาหนา ปาทโต อปเนตพฺพา.

๒๙๑๗. โอคุณฺนนฺติ สสีสปารุปนํ. สีเส จีวรเมว วา น กาตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. เตนาติ อาคนฺตุเกน. ปานียวารินาติ ปาตพฺพชเลน.

๒๙๑๘. ปุจฺฉิตฺวาติ วสฺสคณนํ ปุจฺฉิตฺวา. วิหาเร วุฑฺฒภิกฺขุโน อาคนฺตุเกน ภิกฺขุนา วนฺทิตพฺพาว. กาเลติ กาลสฺเสว. เตน อาคนฺตุเกน ภิกฺขุนา เสนาสนํ ‘‘มยฺหํ กตรํ เสนาสนํ ปาปุณาตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพฺจาติ โยชนา.

๒๙๑๙. ‘‘ปุจฺฉิตพฺพ’’นฺติ อิทํ ‘‘วจฺจฏฺาน’’นฺติอาทิเกหิ สพฺเพหิ อุปโยคนฺตปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. ปานียเมว จาติ ‘‘กึ อิมิสฺสา โปกฺขรณิยา ปานียเมว ปิวนฺติ, อุทาหุ นหานาทิปริโภคมฺปิ กโรนฺตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๕๗) อฏฺกถาคตนเยน ปานียฺจ. ตถา ปริโภชนียฺจ. สงฺฆกติกนฺติ ‘‘เกสุจิ าเนสุ วาฬมิคา วา อมนุสฺสา วา โหนฺติ, ตสฺมา กํ กาลํ ปวิสิตพฺพํ, กํ กาลํ นิกฺขมิตพฺพ’’นฺติ อฏฺกถาคตนเยน สงฺฆสฺส กติกสณฺานฺจ. โคจราทิกนฺติ เอตฺถ จ ‘‘โคจโร ปุจฺฉิตพฺโพติ ‘โคจรคาโม อาสนฺเน, อุทาหุ ทูเร, กาลสฺเสว จ ปิณฺฑาย จริตพฺพํ, อุทาหุ โน’ติ เอวํ ภิกฺขาจาโร ปุจฺฉิตพฺโพ’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๕๗) วุตฺตนเยน โคจรฺจ. อาทิ-สทฺเทน อโคจรํ คหิตํ. ‘‘อโคจโร นาม มิจฺฉาทิฏฺิกานํ วา คาโม ปริจฺฉินฺนภิกฺโข วา คาโม, ยตฺถ เอกสฺส วา ทฺวินฺนํ วา ภิกฺขา ทิยฺยติ, โสปิ ปุจฺฉิตพฺโพ’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๕๗) วุตฺตนเยน อโคจรฺจ.

๒๙๒๐. เอวํ อาคนฺตุกวตฺตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อาวาสิกวตฺตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘วุฑฺฒ’’นฺติอาทิ. ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ปตฺตฺจ จีวรฺจ ปฏิคฺคเหตพฺพนฺติ โยชนา. จ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ.

๒๙๒๑. ตสฺสาติ อาคนฺตุกสฺส. ปาโททกฺจาติ -สทฺเทน โธตาโธตปาทา ยตฺถ ปียนฺติ, ตํ ปาทปีํ, ปาทกถลิกฺจ อุปนิกฺขิปิตพฺพนฺติ เอตํ คหิตํ. ปุจฺฉิตพฺพฺจ วารินาติ ‘‘ปานีเยน ปุจฺฉนฺเตน สเจ สกึ อานีตํ ปานียํ สพฺพํ ปิวติ, ‘ปุน อาเนมี’ติ ปุจฺฉิตพฺโพเยวา’’ติ วุตฺตนเยน ปานีเยน ปุจฺฉิตพฺโพ. อิธ -สทฺเทน –

‘‘อปิจ พีชเนนปิ พีชิตพฺโพ, พีชนฺเตน สกึ ปาทปิฏฺิยํ พีชิตฺวา สกึ มชฺเฌ, สกึ สีเส พีชิตพฺพํ, ‘อลํ โหตู’ติ วุตฺเตน ตโต มนฺทตรํ พีชิตพฺพํ. ปุน ‘อล’นฺติ วุตฺเตน ตโต มนฺทตรํ พีชิตพฺพํ. ตติยวารํ วุตฺเตน พีชนี เปตพฺพา. ปาทาปิสฺส โธวิตพฺพา, โธวิตฺวา สเจ อตฺตโน เตลํ อตฺถิ, เตน มกฺเขตพฺพา. โน เจ อตฺถิ, ตสฺส สนฺตเกน มกฺเขตพฺพา’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๕๙) –

วุตฺตวตฺตานิ สงฺคณฺหาติ.

๒๙๒๒-๓. วนฺเทยฺโยติ วุฑฺฒาคนฺตุโก วนฺทิตพฺโพ. ปฺเปตพฺพนฺติ ‘‘กตฺถ มยฺหํ เสนาสนํ ปาปุณาตี’’ติ ปุจฺฉิเตน เสนาสนํ ปฺเปตพฺพํ, ‘‘เอตํ เสนาสนํ ตุมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ เอวํ อาจิกฺขิตพฺพนฺติ อตฺโถ. ‘‘วตฺตพฺโพ’’ติ อิทํ ‘‘อชฺฌาวุตฺถมวุตฺถ’’นฺติอาทีหิ ปเทหิ ตํตํลิงฺควจนานุรูเปน ปริวตฺเตตฺวา ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. อชฺฌาวุตฺถนฺติ ปฺตฺตเสนาสนสฺส ภิกฺขูหิ ปมํ วุตฺถภาวํ. อวุตฺถํ วาติ จีวรกาลํ ตสฺมึ ภิกฺขูหิ อนชฺฌาวุตฺถภาวํ วา. โคจราโคจรํ วุตฺตเมว.

เสกฺขกุลานิ จาติ ลทฺธเสกฺขสมฺมุติกานิ กุลานิ จ วตฺตพฺพานิ. ‘‘ปเวเส นิกฺขเม กาโล’’ติ อิทํ ‘‘สงฺฆกติก’’นฺติ เอตฺถ วุตฺตตฺถเมว. ปานียาทิกนฺติ อาทิ-สทฺเทน ปริโภชนียกตฺตรยฏฺีนํ อาจิกฺขนํ สงฺคณฺหาติ.

๒๙๒๔. ยถานิสินฺเนเนวาติ อตฺตนา นิสินฺนฏฺาเนเยว นิสินฺเนน. อสฺสาติ นวกสฺส.

๒๙๒๕. ‘‘อตฺร ปตฺตํ เปหิ, อิทมาสนํ นิสีทาหี’’ติ อิจฺเจวํ อิมินา ปกาเรน สพฺพํ วตฺตพฺพนฺติ โยชนา. เทยฺยํ เสนาสนมฺปิ จาติ เสนาสนฺจ ทาตพฺพํ. -สทฺเทน ‘‘อวุตฺถํ วา อชฺฌาวุตฺถํ วา อาจิกฺขิตพฺพ’’นฺติอาทินา วุตฺตํ สมฺปิณฺเฑติ. มหาอาวาเสปิ อตฺตโน สนฺติกํ สมฺปตฺตสฺส อาคนฺตุกสฺส วตฺตํ อกาตุํ น ลพฺภติ.

๒๙๒๖. ‘‘มาติกาย นิทฺทิฏฺกฺกเมเนว วตฺตานิ กาตพฺพานิ, อุทาหุ ยถานุปฺปตฺติวเสนา’’ติ โกจิ มฺเยฺยาติ มาติกากฺกเมเนว กาตพฺพนฺติ นิยโม นตฺถิ, ยถานุปฺปตฺตวเสเนว กาตพฺพนฺติ วิฺาเปตุํ มาติกากฺกมมนาทิยิตฺวา คมิกวตฺตํ อารทฺธํ. อถ วา วตฺติจฺฉานุปุพฺพกตฺตา สทฺทปโยคสฺส มาติกากฺกมมนาทิยิตฺวา ยถิจฺฉํ นิทฺเทโส กโตติ เวทิตพฺโพติ. ทารุมตฺติกภณฺฑานีติ มฺจปีาทีนิ เจว รชนภาชนานิ จ. ปฏิสาเมตฺวาติ คุตฺตฏฺาเน เปตฺวา. อาวสถมฺปิ ถเกตฺวาติ อาวสเถ ทฺวารกวาฏาทีนิ จ ถเกตฺวา.

๒๙๒๗. อาปุจฺฉิตฺวาปีติ ภิกฺขุสฺส วา สามเณรสฺส วา อารามิกสฺส วา ‘‘อิมํ ปฏิชคฺคาหี’’ติ นิยฺยาเทตฺวา วา. ปุจฺฉิตพฺเพ อสนฺเตปีติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท ปน-สทฺทตฺโถ. โคเปตฺวา วาปิ สาธุกนฺติ ‘‘จตูสุ ปาสาเณสุ มฺจํ ปฺเปตฺวา มฺเจ มฺจํ อาโรเปตฺวา’’ติอาทินา (จูฬว. ๓๖๐) วุตฺตนเยน สมฺมา ปฏิสาเมตฺวา คนฺตพฺพนฺติ โยชนา.

๒๙๒๘. ปิณฺฑจาริกวตฺตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สหสา’’ติอาทิ. ปิณฺฑจาริโก ภิกฺขุ อนฺตรฆรํ ปวิสนฺโต สหสา น ปวิเส สีฆํ น ปวิเสยฺย, นิกฺขมนฺโต สหสา น นิกฺขเม สีฆํ น นิกฺขเมยฺย, ภิกฺขุสารุปฺเปน ปวิเสยฺย, นิกฺขเมยฺย จ. ปิณฺฑจารินา ภิกฺขุนา เคหทฺวารํ สมฺปตฺเตน อติทูเร น าตพฺพํ นิพฺพโกสโต อติทูรฏฺาเน น าตพฺพํ. อจฺจาสนฺเน น าตพฺพํ นิพฺพโกสโต อาสนฺนตเร าเน น าตพฺพํ.

๒๙๒๙. อุจฺจาเรตฺวาติ อุปนาเมตฺวา. ภาชนนฺติ ปตฺตํ. ทกฺขิเณน ปณาเมตฺวาติ ทกฺขิเณน หตฺเถน อุปนาเมตฺวา. ภิกฺขํ คณฺเหยฺยาติ เอตฺถ ‘‘อุโภหิ หตฺเถหิ ปฏิคฺคเหตฺวา’’ติ เสโส. ยถาห – ‘‘อุโภหิ หตฺเถหิ ปตฺตํ ปฏิคฺคเหตฺวา ภิกฺขา คเหตพฺพา’’ติ (จูฬว. ๓๖๖).

๒๙๓๐. สูปํ ทาตุกามา วา อทาตุกามา วา อิติ มุหุตฺตกํ สลฺลกฺเขยฺย ติฏฺเยฺย. อนฺตราติ ภิกฺขาทานสมเย. ภิกฺขาทายิกาติ อิตฺถี วา โหตุ ปุริโส วา, ภิกฺขาทานสมเย มุขํ น โอโลเกตพฺพนฺติ.

๒๙๓๑. ปิณฺฑจาริกวตฺตํ ทสฺเสตฺวา อารฺิกวตฺตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปานียาที’’ติอาทิ. ปานียาทีติ อาทิ-สทฺเทน ปริโภชนียอคฺคิอรณิสหิตกตฺตรยฏฺีนํ คหณํ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – ปานียํ อุปฏฺาเปตพฺพนฺติ สเจ ภาชนานิ นปฺปโหนฺติ, ปานียเมว ปริโภชนียมฺปิ กตฺวา อุปฏฺาเปตพฺพํ. ภาชนํ อลภนฺเตน เวฬุนาฬิกายปิ อุปฏฺาเปตพฺพํ. ตมฺปิ อลภนฺตสฺส ยถา สมีเป ขุทฺทกอาวาโฏ โหติ, เอวํ กาตพฺพํ. อรณิสหิเต อสติ อคฺคึ อกาตุมฺปิ จ วฏฺฏติ. ยถา จ อารฺิกสฺส, เอวํ กนฺตารปฏิปนฺนสฺสาปิ อรณิสหิตํ อิจฺฉิตพฺพํ. คณวาสิโน ปน เตน วินาปิ วฏฺฏตีติ.

นกฺขตฺตนฺติ อสฺสยุชาทิสตฺตวีสติวิธํ นกฺขตฺตํ ชานิตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. กถํ ชานิตพฺพนฺติ อาห ‘‘เตน โยโค จา’’ติ, เตน นกฺขตฺเตน จนฺทสฺส โยโค าตพฺโพติ อตฺโถ. ชานิตพฺพา ทิสาปิ จาติ อรฺเ วิหรนฺเตน อฏฺปิ ทิสา อสมฺโมหโต ชานิตพฺพา.

๒๙๓๒. อฺวตฺตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘วจฺจปสฺสาวติตฺถานี’’ติอาทิ. ปฏิปาฏิยา ภวนฺตีติ คตานุกฺกเมน เสวิตพฺพา ภวนฺติ. ยถาห – ‘‘วจฺจกุฏิยํ, ปสฺสาวฏฺาเน, นฺหานติตฺเถติ ตีสุปิ อาคตปฏิปาฏิเยว ปมาณ’’นฺติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๗๓). ยถาวุฑฺฒํ กโรนฺตสฺสาติ คตปฏิปาฏึ วินา วุฑฺฒปฏิปาฏิยา กโรนฺตสฺส.

๒๙๓๓. วจฺจกุฏึ ปวิสนฺโต สหสา น ปวิเสยฺย. อุพฺภชิตฺวาติ จีวรํ อุกฺขิปิตฺวา.

๒๙๓๔. นิตฺถุนนฺเตน ภิกฺขุนา วจฺจํ น กาตพฺพนฺติ โยชนา. ‘‘วจฺจสฺส ทุนฺนิคฺคมเนน อุปหโต หุตฺวา นิตฺถุนติ เจ, น โทโส’’ติ สิกฺขาภาชนวินิจฺฉเย วุตฺตํ. ทณฺฑกฏฺํ ขาทโต วจฺจํ กโรโต ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา.

๒๙๓๖. ขเรนาติ ผรุเสน วา ผาลิตกฏฺเน วา คณฺิเกน วา กณฺฏเกน วา สุสิเรน วา ปูตินา วา ทณฺเฑน น อวเลเขยฺย น ปุฺเฉยฺย. น กฏฺํ วจฺจกูปเก ฉฑฺเฑยฺยาติ ตํ กฏฺํ วจฺจกูเป น ฉฑฺเฑยฺย. ปสฺสาวโทณิยา เขฬํ น ปาเตยฺยาติ โยชนา.

๒๙๓๗. ปาทุกาสูติ วจฺจปสฺสาวปาทุกาสุ. นิกฺขมเน นิกฺขมนกาเล. ตตฺเถวาติ วจฺจปสฺสาวปาทุกาสฺเวว. ปฏิจฺฉาเทยฺยาติ อุกฺขิตฺตํ จีวรํ โอตาเรตฺวา สรีรํ ปฏิจฺฉาเทยฺย.

๒๙๓๘. โย วจฺจํ กตฺวา สลิเล สติ สเจ นาจเมยฺย อุทกกิจฺจํ น กเรยฺย, ตสฺส ทุกฺกฏํ อุทฺทิฏฺนฺติ โยชนา. โมหนาสินาติ สวาสนสฺส โมหสฺส, เตน สหเชกฏฺปหาเนกฏฺานํ สกลสํกิเลสานฺจ ปหายินา อาสวกฺขยาเณน สมุจฺฉินฺทตา มุนินา สพฺพฺุนา สมฺมาสมฺพุทฺเธน. ‘‘สลิเล สตี’’ติ อิมินา อสติ นิทฺโทสตํ ทีเปติ. ยถาห –

‘‘สติ อุทเกติ เอตฺถ สเจ อุทกํ อตฺถิ, ปฏิจฺฉนฺนฏฺานํ ปน นตฺถิ, ภาชเนน นีหริตฺวา อาจมิตพฺพํ. ภาชเน อสติ ปตฺเตน นีหริตพฺพํ. ปตฺเตปิ อสติ อสนฺตํ นาม โหติ. ‘อิทํ อติวิวฏํ, ปุรโต อฺํ อุทกํ ภวิสฺสตี’ติ คตสฺส อุทกํ อลภนฺตสฺเสว ภิกฺขาจารเวลา โหติ, กฏฺเน วา เกนจิ วา ปุฺฉิตฺวา คนฺตพฺพํ, ภุฺชิตุมฺปิ อนุโมทนมฺปิ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๗๓).

๒๙๓๙. สสทฺทนฺติ อุทกสทฺทํ กตฺวา. ‘‘ปาสาณาทิฏฺาเน ปหริตฺวา อุทกํ สทฺทายติ เจ, น โทโส’’ติ สิกฺขาภาชนวินิจฺฉเย วุตฺตํ. จปุ จปูติ จาติ ตาทิสํ อนุกรณํ กตฺวา นาจเมตพฺพนฺติ โยชนา. อาจมิตฺวาติ อุทกกิจฺจํ กตฺวา. สราเว อาจมนภาชเน อุทกํ น เสเสตพฺพนฺติ โยชนา, อิทํ ปน สพฺพสาธารณฏฺานํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยถาห อฏฺกถายํ

‘‘อาจมนสราวเกติ สพฺพสาธารณฏฺานํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ตตฺร หิ อฺเ อฺเ อาคจฺฉนฺติ, ตสฺมา อุทกํ น เสเสตพฺพํ. ยํ ปน สงฺฆิเกปิ วิหาเร เอกเทเส นิพทฺธคมนตฺถาย กตํ านํ โหติ ปุคฺคลิกฏฺานํ วา, ตสฺมึ วฏฺฏติ. วิเรจนํ ปิวิตฺวา ปุนปฺปุนํ ปวิสนฺตสฺสาปิ วฏฺฏติเยวา’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๗๔).

๒๙๔๐. อูหตมฺปีติ อฺเน วา อตฺตนา วา อสฺจิจฺจ อูหตํ มเลน ทูสิตฏฺานํ. อโธวิตฺวาติ ชเล สติ อโสเธตฺวา ชเล อสติ กฏฺเน วา เกนจิ วา ปุฺฉิตฺวา คนฺตพฺพํ. ยถาห – ‘‘อุทกํ อตฺถิ ภาชนํ นตฺถิ, อสนฺตํ นาม โหติ, ภาชนํ อตฺถิ อุทกํ นตฺถิ, เอตมฺปิ อสนฺตํ, อุภเย ปน อสติ อสนฺตเมว, กฏฺเน วา เกนจิ วา ปุฺฉิตฺวา คนฺตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๗๔). อุกฺลาปาปิ สเจ โหนฺตีติ วจฺจปสฺสาวฏฺานานิ สเจ กจวรากิณฺณานิ โหนฺติ. ‘‘อเสสโต โสเธตพฺพ’’นฺติ อิมินา ตโต กสฺสจิ กจวรสฺส อปนยนํ โสธนํ นาม น โหติ, นิสฺเสสกจวราปนยนเมว โสธนนฺติ ทีเปติ.

๒๙๔๑. ปิโรติ อวเลขนกฏฺนิกฺเขปนภาชนํ. กุมฺภี เจ ริตฺตาติ อาจมนกุมฺภี สเจ ตุจฺฉา.

๒๙๔๒. เอวํ วจฺจกุฏิวตฺตํ ทสฺเสตฺวา เสนาสนวตฺตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อนชฺฌิฏฺโ’’ติอาทิ. อนชฺฌิฏฺโติ อนนุฺาโต.

๒๙๔๓. วุฑฺฒํ อาปุจฺฉิตฺวา กเถนฺตสฺสาติ โยชนา. วุฑฺฒตราคเมติ ยํ อาปุจฺฉิตฺวา กเถตุมารทฺโธ, ตโตปิ วุฑฺฒตรสฺส ภิกฺขุโน อาคเม สติ.

๒๙๔๔. เอกวิหารสฺมินฺติ เอกสฺมึ เคเห. ‘‘อนาปุจฺฉา’’ติ อิทํ วกฺขมาเนหิ ยถารหํ โยเชตพฺพํ.

๒๙๔๕. ปมํ ยตฺถ กตฺถจิ วุฑฺฒานํ สนฺนิธาเน กตฺตพฺพวตฺตํ นิทฺทิฏฺนฺติ อิทานิ เอกวิหาเร วสนฺเตนาปิ ตสฺส กาตพฺพตํ ทสฺเสตุํ ปุนปิ ‘‘น จ ธมฺโม กเถตพฺโพ’’ติ อาห. ธมฺมจกฺขุนาติ ธมฺมโลจเนน ธมฺมครุเกน, อิมินา อตาทิสสฺส กโต วาโร นิรตฺถโกติ ทีเปติ.

๒๙๔๖. กาตพฺโพติ ชาเลตพฺโพ. โสติ ทีโป. ‘‘ทฺวารํ นาม ยสฺมา มหาวฬฺชํ, ตสฺมา ตตฺถ อาปุจฺฉนกิจฺจํ นตฺถี’’ติ (จูฬว. อฏฺ. ๓๖๙) วจนโต ตํ อวตฺวา อาปตฺติกฺเขตฺตเมว ทสฺเสตุมาห ‘‘วาตปานกวาฏานิ, ถเกยฺย วิวเรยฺย โน’’ติ.

๒๙๔๗. วุฑฺฒโตปริวตฺตเยติ เยน วุฑฺโฒ, ตโต ปริวตฺตเย, ปิฏฺึ อทสฺเสตฺวา วุฑฺฒาภิมุโข เตน ปริวตฺตเยติ อตฺโถ. จีวรกณฺเณน วา กาเยน วา ตํ วุฑฺฒํ น จ ฆฏฺฏเย.

๒๙๔๘. เอวํ เสนาสนวตฺตํ ทสฺเสตฺวา ชนฺตาฆรวตฺตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปุรโต’’ติอาทิ. เถรานํ ปุรโต เนว นฺหาเยยฺย, อุปริ ปฏิโสเต น จ นฺหาเยยฺย, โอตรนฺตานํ วุฑฺฒานํ อุตฺตรํ อุตฺตรนฺโต มคฺคํ ทเทยฺย, น ฆฏฺฏเย กาเยน วา จีวเรน วา น ฆฏฺฏเยยฺยาติ โยชนา.

‘‘ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทนฺเตน ปริมณฺฑลํ นิวาเสตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา’’ติอาทินา (จูฬว. ๓๖๔) นเยน วุตฺตานํ ภตฺตคฺควตฺตานํ เสขิยกถาย วุตฺตตฺตา จ อุปชฺฌายวตฺตาทีนํ มหาขนฺธกกถาย วุตฺตตฺตา จ อนุโมทนวตฺตานํ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ภตฺตคฺเค จตูหิ ปฺจหิ เถรานุเถเรหิ ภิกฺขูหิ อาคเมตุ’’นฺติอาทินา (จูฬว. ๓๖๒) นเยน ภตฺตคฺควตฺเตเยว อนฺโตคธภาเวน วุตฺตตฺตา จ นิทฺเทเส ตานิ น วุตฺตานิ, ตถาปิ เตสุ อนุโมทนวตฺตํ เอวํ เวทิตพฺพํ (จูฬว. อฏฺ. ๓๖๒) – สงฺฆตฺเถเร อนุโมทนตฺถาย นิสินฺเน เหฏฺา ปฏิปาฏิยา จตูหิ นิสีทิตพฺพํ. อนุเถเร นิสินฺเน มหาเถเรน จ เหฏฺา จ ตีหิ นิสีทิตพฺพํ. ปฺจเม นิสินฺเน อุปริ จตูหิ นิสีทิตพฺพํ. สงฺฆตฺเถเรน เหฏฺา ทหรภิกฺขุสฺมึ อชฺฌิฏฺเปิ สงฺฆตฺเถรโต ปฏฺาย จตูหิ นิสีทิตพฺพเมว. สเจ ปน อนุโมทโก ภิกฺขุ ‘‘คจฺฉถ, ภนฺเต, อาคเมตพฺพกิจฺจํ นตฺถี’’ติ วทติ, คนฺตุํ วฏฺฏติ. มหาเถเรน ‘‘คจฺฉาม, อาวุโส’’ติ วุตฺเต ‘‘คจฺฉถา’’ติ วทติ, เอวมฺปิ วฏฺฏติ. ‘‘พหิคาเม อาคเมสฺสามา’’ติ อาโภคํ กตฺวาปิ พหิคามํ คนฺตฺวา อตฺตโน นิสฺสิตเก ‘‘ตุมฺเห ตสฺส อาคมนํ อาคเมถา’’ติ วตฺวาปิ คนฺตุํ วฏฺฏติเยว. สเจ ปน มนุสฺสา อตฺตโน รุจิเตน เอเกน อนุโมทนํ กาเรนฺติ, เนว ตสฺส อนุโมทโต อาปตฺติ, น จ มหาเถรสฺส ภาโร โหติ. อุปนิสินฺนกถายเมว หิ มนุสฺเสสุ กถาเปนฺเตสุ มหาเถโร อาปุจฺฉิตพฺโพ, มหาเถเรน จ อนุโมทนาย อชฺฌิฏฺโว อาคเมตพฺโพติ อิทเมตฺถ ลกฺขณนฺติ.

๒๙๔๙. วตฺตนฺติ ยถาวุตฺตํ อาภิสมาจาริกวตฺตํ. ยถาห – ‘‘อาภิสมาจาริกํ อปริปูเรตฺวา สีลํ ปริปูเรสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ. น วินฺทตีติ น ลภติ.

๒๙๕๐. อเนกคฺโคติ วิกฺขิตฺตตฺตาเยว อสมาหิตจิตฺโต. น จ ปสฺสตีติ าณจกฺขุนา น ปสฺสติ, ทฏฺุํ สมตฺโถ น โหตีติ อตฺโถ. ทุกฺขาติ ชาติทุกฺขาทิทุกฺขโต.

๒๙๕๑. ตสฺมาติ ยสฺมา ทุกฺขา น ปริมุจฺจติ, ตสฺมา. โอวาทํ กตฺวา กึ วิเสสํ ปาปุณาตีติ อาห ‘‘โอวาทํ พุทฺธเสฏฺสฺส, กตฺวา นิพฺพานเมหิตี’’ติ. เอหิติ ปาปุณิสฺสติ.

วตฺตกฺขนฺธกกถาวณฺณนา.