📜

กมฺมวิปตฺติกถาวณฺณนา

๓๐๑๔. กมฺมานํ วิปตฺติยา ทสฺสิตาย สมฺปตฺติปิ พฺยติเรกโต วิฺายตีติ กมฺมวิปตฺตึ ตาว ทสฺเสตุมาห ‘‘วตฺถุโต’’ติอาทิ. วสติ เอตฺถ กมฺมสงฺขาตํ ผลํ ตทายตฺตวุตฺติตายาติ วตฺถุ, กมฺมสฺส ปธานการณํ, ตโต วตฺถุโต จ. อนุสฺสาวนสีมโตติ อนุสฺสาวนโต, สีมโต จ. ปฺเจวาติ เอวกาเรน กมฺมโทสานํ เอตํปรมตํ ทสฺเสติ.

๓๐๑๕. ยถานิกฺขิตฺตกมฺมโทสมาติกานุกฺกเม กมฺมวิปตฺตึ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุมาห ‘‘สมฺมุขา’’ติอาทิ. สงฺฆธมฺมวินยปุคฺคลสมฺมุขาสงฺขาตํ จตุพฺพิธํ สมฺมุขาวินยํ อุปเนตฺวา กาตพฺพํ กมฺมํ สมฺมุขากรณียํ นาม.

ตตฺถ ยาวติกา ภิกฺขู กมฺมปตฺตา, เต อาคตา โหนฺติ, ฉนฺทารหานํ ฉนฺโท อาหโฏ โหติ, สมฺมุขีภูตา น ปฏิกฺโกสนฺติ, อยํ สงฺฆสมฺมุขตา. เยน ธมฺเมน เยน วินเยน เยน สตฺถุสาสเนน สงฺโฆ ตํ กมฺมํ กโรติ, อยํ ธมฺมสมฺมุขตา, วินยสมฺมุขตา. ตตฺถ ธมฺโมติ ภูตํ วตฺถุ. วินโยติ โจทนา เจว สารณา จ. สตฺถุสาสนํ นาม ตฺติสมฺปทา เจว อนุสฺสาวนสมฺปทา จ. ยสฺส สงฺโฆ ตํ กมฺมํ กโรติ, ตสฺส สมฺมุขภาโว ปุคฺคลสมฺมุขตา. เอวํ จตุพฺพิเธน สมฺมุขาวินเยน ยํ สงฺฆกมฺมํ ‘‘กรณีย’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ อสมฺมุขา กโรติ จตุพฺพิธลกฺขณโต เอกมฺปิ ปริหาเปตฺวา กโรติ, ตํ กมฺมํ วตฺถุวิปนฺนํ สมฺมุขาวินยสงฺขาเตน วตฺถุนา เวกลฺลํ ‘‘อธมฺมกมฺม’’นฺติ ปวุจฺจตีติ โยชนา.

๓๐๑๖-๘. เอวํ สมฺมุขากรณีเย วตฺถุโต กมฺมวิปตฺตึ ทสฺเสตฺวา อสมฺมุขากรณียํ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุมาห ‘‘อสมฺมุขา’’ติอาทิ.

เทวทตฺตสฺส กตํ ปกาสนียกมฺมฺจ. เสกฺขสมฺมุติ อุมฺมตฺตกสมฺมุตีติ โยชนา. อวนฺทิยกมฺมํ ปุคฺคลสีเสน ‘‘อวนฺทิโย’’ติ วุตฺตํ. อฑฺฒกาสิยา คณิกาย อนุฺาตา ทูเตน อุปสมฺปทา ทูตูปสมฺปทา. อิติ อิมานิ อฏฺ กมฺมานิ เปตฺวาน เสสานิ ปน สพฺพโส สพฺพานิ กมฺมานิ ‘‘สมฺมุขากรณียานี’’ติ โสภนคมนาทีหิ สุคโต สตฺถา อพฺรฺวิ กเถสีติ โยชนา.

๓๐๑๙-๒๐. เอวํ วตฺถุโต กมฺมวิปตฺตึ ทสฺเสตฺวา ตฺติโต ทสฺเสตุมาห ‘‘ตฺติโต’’ติอาทิ. วิปชฺชนนยาติ วินยวิปชฺชนกฺกมา. วตฺถุํ น ปรามสตีติ ยสฺส อุปสมฺปทาทิกมฺมํ กโรติ, ตํ น ปรามสติ ตสฺส นามํ น คณฺหาติ. ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วทติ. เอวํ วตฺถุํ น ปรามสติ.

สงฺฆํ น ปรามสตีติ สงฺฆสฺส นามํ น ปรามสติ ตสฺส นามํ น คณฺหาติ. ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, อยํ ธมฺมรกฺขิโต’’ติ วทติ. เอวํ สงฺฆํ น ปรามสติ.

ปุคฺคลํน ปรามสตีติ โย อุปสมฺปทาเปกฺขสฺส อุปชฺฌาโย, ตํ น ปรามสติ ตสฺส นามํ น คณฺหาติ. ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วทติ. เอวํ ปุคฺคลํ น ปรามสติ.

ตฺตึ น ปรามสตีติ สพฺเพน สพฺพํ ตฺตึ น ปรามสติ, ตฺติทุติยกมฺเม ตฺตึ อฏฺเปตฺวา ทฺวิกฺขตฺตุํ กมฺมวาจาย เอว อนุสฺสาวนกมฺมํ กโรติ, ตฺติจตุตฺถกมฺเมปิ ตฺตึ อฏฺเปตฺวา จตุกฺขตฺตุํ กมฺมวาจาย เอว อนุสฺสาวนกมฺมํ กโรติ. เอวํ ตฺตึ น ปรามสติ.

ปจฺฉา วา ตฺตึ เปตีติ ปมํ กมฺมวาจาย อนุสฺสาวนกมฺมํ กตฺวา ‘‘เอสา ตฺตี’’ติ วตฺวา ‘‘ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ วทติ. เอวํ ปจฺฉา ตฺตึ เปติ. ปฺจเหเตหีติ เอเตหิ ปฺจหิ การเณหิ.

๓๐๒๑-๒. เอวํ ตฺติโต กมฺมวิปตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อนุสฺสาวนโต ทสฺเสตุมาห ‘‘อนุสฺสาวนโต’’ติอาทิ. อนุสฺสาวนโต กมฺมโทสา ปฺจ ปกาสิตาติ โยชนา. ‘‘น ปรามสติ วตฺถุํ วา’’ติอาทีสุ วตฺถุอาทีนิ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. เอวํ ปน เนสํ อปรามสนํ โหติ (ปริ. อฏฺ. ๔๘๕) – ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ’’ติ ปมานุสฺสาวเน วา ‘‘ทุติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ… ตติยมฺปิ เอตมตฺถํ วทามิ, ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ’’ติ ทุติยตติยานุสฺสาวเนสุ วา ‘‘อยํ ธมฺมรกฺขิโต อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺสา’’ติ วทนฺโต วตฺถุํ น ปรามสติ นาม.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, อยํ ธมฺมรกฺขิโต’’ติ วทนฺโต สงฺฆํ น ปรามสติ นาม.

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตสฺสา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ ธมฺมรกฺขิโต อุปสมฺปทาเปกฺโข’’ติ วทนฺโต ปุคฺคลํ น ปรามสติ นาม.

สาวนํ หาเปตีติ สพฺเพน สพฺพํ กมฺมวาจาย อนุสฺสาวนํ น กโรติ, ตฺติทุติยกมฺเม ทฺวิกฺขตฺตุํ ตฺติเมว เปติ, ตฺติจตุตฺถกมฺเม จตุกฺขตฺตุํ ตฺติเมว เปติ. เอวํ อนุสฺสาวนํ หาเปติ. โยปิ ตฺติทุติยกมฺเม เอกํ ตฺตึ เปตฺวา เอกํ กมฺมวาจํ อนุสฺสาเวนฺโต อกฺขรํ วา ฉฑฺเฑติ, ปทํ วา ทุรุตฺตํ กโรติ, อยมฺปิ อนุสฺสาวนํ หาเปติเยว. ตฺติจตุตฺถกมฺเม ปน เอกํ ตฺตึ เปตฺวา สกิเมว วา ทฺวิกฺขตฺตุํ วา กมฺมวาจาย อนุสฺสาวนํ กโรนฺโตปิ อกฺขรํ วา ปทํ วา ฉฑฺเฑนฺโตปิ ทุรุตฺตํ กโรนฺโตปิ อนุสฺสาวนํ หาเปติเยวาติ เวทิตพฺโพ.

ทุรุตฺตํ กโรตีติ เอตฺถ ปน อยํ วินิจฺฉโย (ปริ. อฏฺ. ๔๘๕) – โย หิ อฺสฺมึ อกฺขเร วตฺตพฺเพ อฺํ วทติ, อยํ ทุรุตฺตํ กโรติ นาม. ตสฺมา กมฺมวาจํ กโรนฺเตน ภิกฺขุนา ยฺวายํ –

‘‘สิถิลํ ธนิตฺจ ทีฆรสฺสํ;

ครุกํ ลหุกฺจ นิคฺคหิตํ;

สมฺพนฺธํ ววตฺถิตํ วิมุตฺตํ;

ทสธา พฺยฺชนพุทฺธิยา ปเภโท’’ติ. (ปริ. อฏฺ. ๔๘๕) –

วุตฺโต , อยํ สุฏฺุ อุปลกฺเขตพฺโพ.

เอตฺถ หิ สิถิลํ นาม ปฺจสุ วคฺเคสุ ปมตติยํ. ธนิตํ นาม เตสฺเวว ทุติยจตุตฺถํ. ทีฆนฺติ ทีเฆน กาเลน วตฺตพฺพํ อาการาทิ . รสฺสนฺติ ตโต อุปฑฺฒกาเลน วตฺตพฺพํ อการาทิ. ครุกนฺติ ทีฆเมว, ยํ วา ‘‘อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตตฺเถรสฺส, ยสฺส นกฺขมตี’’ติ เอวํ สํโยคปรํ กตฺวา วุจฺจติ. ลหุกนฺติ รสฺสเมว, ยํ วา ‘‘อายสฺมโต พุทฺธรกฺขิตเถรสฺส, ยสฺส น ขมตี’’ติ เอวํ อสํโยคปรํ กตฺวา วุจฺจติ. นิคฺคหิตนฺติ ยํ กรณานิ นิคฺคเหตฺวา อวิสฺสชฺเชตฺวา อวิวเฏน มุเขน อนุนาสิกํ กตฺวา วตฺตพฺพํ. สมฺพนฺธนฺติ ยํ ปรปเทน สมฺพนฺธิตฺวา ‘‘ตุณฺหสฺสา’’ติ วา ‘‘ตุณฺหิสฺสา’’ติ วา วุจฺจติ. ววตฺถิตนฺติ ยํ ปรปเทน อสมฺพนฺธํ กตฺวา วิจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘ตุณฺหี อสฺสา’’ติ วา ‘‘ตุณฺห อสฺสา’’ติ วา วุจฺจติ. วิมุตฺตนฺติ ยํ กรณานิ อนิคฺคเหตฺวา วิสฺสชฺเชตฺวา วิวเฏน มุเขน อนุนาสิกํ อกตฺวา วุจฺจติ.

ตตฺถ ‘‘สุณาตุ เม’’ติ วตฺตพฺเพ ต-การสฺส ถ-การํ กตฺวา ‘‘สุณาถุ เม’’ติ วจนํ สิถิลสฺส ธนิตกรณํ นาม, ตถา ‘‘ปตฺตกลฺลํ, เอสา ตฺตี’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘ปตฺถกลฺลํ, เอสา ตฺถี’’ติอาทิวจนฺจ. ‘‘ภนฺเต สงฺโฆ’’ติ วตฺตพฺเพ ภการฆการานํ พการคกาเร กตฺวา ‘‘พนฺเต สํโค’’ติ วจนํ ธนิตสฺส สิถิลกรณํ นาม. ‘‘สุณาตุ เม’’ติ วิวเฏน มุเขน วตฺตพฺเพ ปน ‘‘สุณํตุ เม’’ติ วา ‘‘เอสา ตฺตี’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘เอสํ ตฺตี’’ติ วา อวิวเฏน มุเขน อนุนาสิกํ กตฺวา วจนํ วิมุตฺตสฺส นิคฺคหิตวจนํ นาม. ‘‘ปตฺตกลฺล’’นฺติ อวิวเฏน มุเขน อนุนาสิกํ กตฺวา วตฺตพฺเพ ‘‘ปตฺตกลฺลา’’ติ วิวเฏน มุเขน อนุนาสิกํ อกตฺวา วจนํ นิคฺคหิตสฺส วิมุตฺตวจนํ นาม. อิติ สิถิเล กตฺตพฺเพ ธนิตํ, ธนิเต กตฺตพฺเพ สิถิลํ, วิมุตฺเต กตฺตพฺเพ นิคฺคหิตํ, นิคฺคหิเต กตฺตพฺเพ วิมุตฺตนฺติ อิมานิ จตฺตาริ พฺยฺชนานิ อนฺโตกมฺมวาจาย กมฺมํ ทูเสนฺติ. เอวํ วทนฺโต หิ อฺสฺมึ อกฺขเร วตฺตพฺเพ อฺํ วทติ, ทุรุตฺตํ กโรตีติ วุจฺจติ.

อิตเรสุ ปน ทีฆรสฺสาทีสุ ฉสุ พฺยฺชเนสุ ทีฆฏฺาเน ทีฆเมว, รสฺสฏฺาเน จ รสฺสเมวาติ เอวํ ยถาาเน ตํ ตเทว อกฺขรํ ภาสนฺเตน อนุกฺกมาคตํ ปเวณึ อวินาเสนฺเตน กมฺมวาจา กาตพฺพา. สเจ ปน เอวํ อกตฺวา ทีเฆ วตฺตพฺเพ รสฺสํ, รสฺเส วา วตฺตพฺเพ ทีฆํ วทติ , ตถา ครุเก วตฺตพฺเพ ลหุกํ, ลหุเก วา วตฺตพฺเพ ครุกํ วทติ, สมฺพนฺเธ วา ปน วตฺตพฺเพ ววตฺถิตํ, ววตฺถิเต วา วตฺตพฺเพ สมฺพนฺธํ วทติ, เอวํ วุตฺเตปิ กมฺมวาจา น กุปฺปติ. อิมานิ หิ ฉ พฺยฺชนานิ กมฺมํ น โกเปนฺติ.

ยํ ปน สุตฺตนฺติกตฺเถรา ‘‘ท-กาโร ต-การมาปชฺชติ, ต-กาโร ท-การมาปชฺชติ, จ-กาโร ช-การมาปชฺชติ, ช-กาโร จ-การมาปชฺชติ, ย-กาโร ก-การมาปชฺชติ, ก-กาโร ย-การมาปชฺชติ, ตสฺมา ท-การาทีสุ วตฺตพฺเพสุ ต-การาทิวจนํ น วิรุชฺฌตี’’ติ วทนฺติ, ตํ กมฺมวาจํ ปตฺวา น วฏฺฏติ. ตสฺมา วินยธเรน เนว ท-กาโร ต-กาโร กาตพฺโพ…เป… น ก-กาโร ย-กาโร. ยถาปาฬิยา นิรุตฺตึ โสเธตฺวา ทสวิธาย พฺยฺชนนิรุตฺติยา วุตฺตโทเส ปริหรนฺเตน กมฺมวาจา กาตพฺพา. อิตรถา หิ สาวนํ หาเปติ นาม.

อสมเย สาเวตีติ สาวนาย อกาเล อนวกาเส ตฺตึ อฏฺเปตฺวา ปมํเยว อนุสฺสาวนกมฺมํ กตฺวา ปจฺฉา ตฺตึ เปติ. อิติ อิเมหิ ปฺจหากาเรหิ อนุสฺสาวนโต กมฺมานิ วิปชฺชนฺติ. เตนาห – ‘‘เอวํ ปน วิปชฺชนฺติ, อนุสฺสาวนโตปิ จา’’ติ.

๓๐๒๓. เอวํ อนุสฺสาวนโต กมฺมวิปตฺตึ ทสฺเสตฺวา สีมโต กมฺมวิปตฺติ อุโปสถกฺขนฺธกกถาย วุตฺตนยา เอวาติ ตเมว อติทิสนฺโต อาห ‘‘เอกาทสหิ…เป… มยา’’ติ. กมฺมโทโสเยว กมฺมโทสตา. ตาว ปมํ.

๓๐๒๔-๗. เอวํ สีมโต กมฺมวิปตฺตึ อติเทสโต ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปริสวเสน ทสฺเสตุมาห ‘‘จตุวคฺเคนา’’ติอาทิ. กมฺมปตฺตาติ เอตฺถ ‘‘จตฺตาโร ปกตตฺตา’’ติ เสโส. ยถาห – ‘‘จตุวคฺคกรเณ กมฺเม จตฺตาโร ภิกฺขู ปกตตฺตา กมฺมปตฺตา’’ติ (ปริ. ๔๙๗). เอตฺถ จ ปกตตฺตา นาม อนุกฺขิตฺตา อนิสฺสาริตา ปริสุทฺธสีลา จตฺตาโร ภิกฺขู. กมฺมปตฺตา กมฺมสฺส อรหา อนุจฺฉวิกา สามิโน. น เตหิ วินา ตํ กมฺมํ กรียติ, น เตสํ ฉนฺโท วา ปาริสุทฺธิ วา เอติ. อนาคตาติ ปริสาย หตฺถปาสํ อนาคตา. ฉนฺโทติ เอตฺถ ‘‘ฉนฺทารหาน’’นฺติ เสโส. ยถาห ‘‘อวเสสา ปกตตฺตา ฉนฺทารหา’’ติ. อิมินา อยมตฺโถ ทีปิโต โหติ – ‘‘อวเสสา ปน สเจปิ สหสฺสมตฺตา โหนฺติ, สเจ สมานสํวาสกา, สพฺเพ ฉนฺทารหาว โหนฺติ, ฉนฺทปาริสุทฺธึ ทตฺวา อาคจฺฉนฺตุ วา มา วา, กมฺมํ ปน ติฏฺตี’’ติ. สมฺมุขาติ สมฺมุขีภูตา.

ติวงฺคิโกติ กมฺมปตฺตานาคมนฉนฺทานาหรณปฏิกฺโกสนสงฺขาตองฺคตฺตยยุตฺโต. โทโส กมฺมวิปตฺติลกฺขโณ. ปริสาย วสา สิยาติ ปริสวเสน โหติ.

ปฏิเสเธนฺตีติ ปฏิกฺโกสนฺติ. ทุติเย จตุวคฺคิเก กมฺเม ทุวงฺคิโก โทโส ปริสาย วสา สิยาติ โยชนา.

เอตฺถ เอตสฺมึ ตติเย จตุวคฺคิเก ปฏิกฺโกโสว อตฺถิ, น อิตเร ปริสโทสาติ เอกงฺคิโก โทโส ปริสาย วสา สิยาติ โยชนา. ทุวงฺค ยุตฺตปริสาโทสสฺส ทุติยํ เทสิตตฺตา ทุวงฺค ยุตฺตปริสาโทโส ‘‘ทุติโย’’ติ วุตฺโต. ตถา ตติยํ เทสิตตฺตา เอกงฺคยุตฺโต ตติโย เวทิตพฺโพ. อิมเมว นยํ ปฺจวคฺคาทิสงฺฆตฺตยสฺส อติทิสนฺโต อาห ‘‘เอวํ…เป… ติวิเธสุปี’’ติ. อาทิ-สทฺเทน ทสวคฺควีสติวคฺคสงฺฆานํ คหณํ.

๓๐๒๘. เอวํ จตูสุ สงฺเฆสุ จตุนฺนํ ติกานํ วเสน ปริสโต กมฺมวิปตฺติยา ทฺวาทสวิธตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘จตุตฺถิกา’’ติ. อนุวาเทน ‘‘ทส ทฺเว สิยุ’’นฺติ วิธียติ. ปริสาวสา จตุตฺถิกา โทสา ทส ทฺเว ทฺวาทส สิยุนฺติ โยชนา. เอตฺถาติ เอเตสุ ‘‘วตฺถุโต’’ติอาทินา วุตฺเตสุ ปฺจสุ กมฺมโทเสสุ, นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. ‘‘ปริสาวสา’’ติ อิทํ นิทฺธาเรตพฺพํ. กมฺมานีติ อปโลกนาทีนิ จตฺตาริ. เอตฺถ จ จตุวคฺคาทิกรณีเยสุ กมฺเมสุ ปกตตฺเตน กมฺมวาจํ สาเวตฺวา กตเมว กมฺมํ กมฺมปตฺเตน กตํ โหติ. กมฺมปตฺเต ปกตตฺเต เปตฺวา อปกตตฺเตน เกนจิ, เกวเลเนว กมฺมวาจํ สาเวตฺวา กตํ อปกตตฺตกมฺมปตฺตลกฺขณาภาวา, กมฺมปตฺเตน จ กมฺมวาจาย อสฺสาวิตตฺตา อนุสฺสาวนโทเสน วิปนฺนํ โหตีติ เวทิตพฺพํ. เตเนว โปราณกวินยธรตฺเถรา กมฺมวิปตฺติสงฺกาปริหารตฺถํ ทฺวีหิ ตีหิ เอกโต กมฺมวาจํ สาวยนฺติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน ปริวาราวสาเน ปาฬิยา (ปริ. ๔๘๒ อาทโย) วา อฏฺกถาย (ปริ. อฏฺ. ๔๘๒ อาทโย) จ คเหตพฺโพ.

กมฺมวิปตฺติกถาวณฺณนา.