📜

กมฺมฏฺานวิภาวนาวิธานกถาวณฺณนา

๓๑๒๕. ‘‘อาทิมฺหิ สีลํ ทสฺเสยฺย.

มชฺเฌ มคฺคํ วิภาวเย;

ปริโยสาเน จ นิพฺพานํ;

เอสา กถิกสณฺิตี’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๑๙๐; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๒๙๑; อ. นิ. อฏฺ. ๒.๓.๖๔) –

วุตฺตํ ธมฺมกถิกลกฺขณํ สมนุสฺสรนฺโตยมาจริโย ปาติโมกฺขสํวรสีลปริทีปกํ วินิจฺฉยํ นาติสงฺเขปวิตฺถารมุเขน ทสฺเสตฺวา ตํมูลกานํ อิตเรสฺจ ติณฺณํ สีลานํ ตํทสฺสเนเนว ทสฺสิตภาวฺจ สีลวิสุทฺธิมูลิกา จิตฺตวิสุทฺธิอาทิโย ปฺจวิสุทฺธิโย จ ตํมูลิกฺจ อริยมคฺคสงฺขาตํ าณทสฺสนวิสุทฺธึ ตทธิคมนียํ นิพฺพานฺจ ทสฺเสตฺวา ยถารทฺธํ วินยกถํ ปริโยสาเปตุกาโม อาห ‘‘ปาโมกฺเข’’ติอาทิ. ตตฺถ ปาโมกฺเขติ สมาธิอาทีนํ อนวชฺชธมฺมานํ ปติฏฺาภาเวน อุตฺตเม. โมกฺขปฺปเวสเนติ อมตมหานิพฺพานนครสฺส ปเวสนนิมิตฺเต. มุเข อสหายทฺวารภูเต. ยถาห –

‘‘สคฺคาโรหณโสปานํ, อฺํ สีลสมํ กุโต;

ทฺวารํ วา ปน นิพฺพาน-นครสฺส ปเวสเน’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๙; พุ. พํ. อฏฺ. ๓.ทีปงฺกรพุทฺธวํสวณฺณนา);

สพฺพทุกฺขกฺขเยติ ชาติทุกฺขาทิสพฺพทุกฺขานํ ขยสฺส อริยมคฺคสฺส อธิคมูปายตฺตา ผลูปจาเรน สพฺพทุกฺขกฺขยสงฺขาเต. ‘‘ปาโมกฺเข’’ติ จ ‘‘โมกฺขปฺปเวสเน มุเข’’ติ จ ‘‘สพฺพทุกฺขกฺขเย’’ติ จ ‘‘ปาติโมกฺขสฺมิ’’นฺติ เอตสฺส วิเสสนํ. วุตฺเตติ ปาราชิกโต ปฏฺาย นานปฺปการโต นิทฺทิฏฺเ สติ. อิตรตฺตยํ วุตฺตเมวาติ สมฺพนฺโธ. อินฺทฺริยสํวรสีลอาชีวปาริสุทฺธิสีลปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลสงฺขาตํ อิตรํ สีลตฺตยํ วุตฺตเมว โหติ ‘‘ราชา อาคโต’’ติ วุตฺเต ปริสาย อาคมนํ วิย, ตสฺมา ตํ น วกฺขามาติ อธิปฺปาโย.

๓๑๒๖. อิทํ จตุพฺพิธํ สีลนฺติ ปาติโมกฺขสํวรสีลาทึ จตุปาริสุทฺธิสีลํ. ตฺวาติ ลกฺขณาทิโต, โวทานโต, หานภาคิยฏฺิติภาคิยวิเสสภาคิยนิพฺเพธภาคิยาทิปฺปการโต จ ชานิตฺวา. ตตฺถาติ จตุพฺพิธสีเล. ปติฏฺิโตติ อจฺฉิทฺทาทิองฺคสมนฺนาคตภาวมาปาทเนน ปติฏฺิโต. สมาธินฺติ อุปจารปฺปนาเภทโลกิยสมาธึ. ภาเวตฺวาติ สมจตฺตาลีสาย กมฺมฏฺาเนสุ ปุนปฺปุนํ อนุโยควเสน วฑฺเฒตฺวา. ปฺายาติ ติลกฺขณาการาทิปริจฺเฉทิกาย โลกุตฺตราย ปฺาย เหตุภูตาย, กรณภูตาย จ. ปริมุจฺจตีติ สพฺพกิเลสพนฺธนํ เฉตฺวา สํสารจารกา สมนฺตโต มุจฺจติ, อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายตีติ อธิปฺปาโย.

๓๑๒๗. เอวํ สมาสโต วุตฺตเมวตฺถํ นิทฺทิสนฺโต อาห ‘‘ทสานุสฺสติโย’’ติอาทิ. ทส อนุสฺสติโย จ ทส กสิณา จ ทส อสุภา จ จตสฺโส อปฺปมฺาโย จ ตถา จตฺตาโร อารุปฺปา จ วุตฺตา. อปรํ กมฺมฏฺานทฺวยฺจ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ.

ตตฺถ ทสานุสฺสติโย นาม ‘‘พุทฺธานุสฺสติ, ธมฺมานุสฺสติ, สงฺฆานุสฺสติ, สีลานุสฺสติ, จาคานุสฺสติ, เทวตานุสฺสติ, กายคตาสติ, มรณานุสฺสติ, อานาปานสติ, อุปสมานุสฺสตี’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๔๗) เอวํ วุตฺตา ทส อนุสฺสติโย.

ทส กสิณา นาม ‘‘ปถวีกสิณํ, อาโปกสิณํ, เตโชกสิณํ, วาโยกสิณํ, นีลกสิณํ, ปีตกสิณํ, โลหิตกสิณํ, โอทาตกสิณํ, อาโลกกสิณํ, ปริจฺฉินฺนากาสกสิณ’’นฺติ (วิสุทฺธิ. ๑.๔๗) วุตฺตา อิเม ทส กสิณา.

ทส อสุภา นาม ‘‘อุทฺธุมาตกํ, วินีลกํ, วิปุพฺพกํ, วิจฺฉิทฺทกํ, วิกฺขายิตกํ, วิกฺขิตฺตกํ, หตวิกฺขิตฺตกํ, โลหิตกํ, ปุฬุวกํ, อฏฺิก’’นฺติ (วิสุทฺธิ. ๑.๔๗) วุตฺตา อิเม ทส อสุภา.

จตสฺโส อปฺปมฺาโย นาม ‘‘เมตฺตา, กรุณา, มุทิตา, อุเปกฺขา’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๔๗) วุตฺตา อิเม อปฺปมฺาโย.

จตฺตาโร อารุปฺปา นาม ‘‘อากาสานฺจายตนํ, วิฺาณฺจายตนํ, อากิฺจฺายตนํ, เนวสฺานาสฺายตน’’นฺติ (วิสุทฺธิ. ๑.๔๗) วุตฺตา อิเม อารุปฺปา. อปรํ กมฺมฏฺานทฺวยํ นาม ‘‘อาหาเรปฏิกฺกูลสฺา, จตุธาตุววตฺถาน’’นฺติ วุตฺตํ ฏฺานอุภยํ.

๓๑๒๘. อิจฺเจวํ จตฺตาลีสวิธํ มโนภุโน กมฺมฏฺานํ สพฺพมฺปิ กมฺมฏฺานํ สมุทฺทิฏฺํ สิยาติ โยชนา. กมฺมสฺส โยคสงฺขาตสฺส านํ อารมฺมณภาเวน ปวตฺติฏฺานนฺติ กมฺมฏฺานํ. ติฏฺติ เอตฺถ ผลํ ตทายตฺตวุตฺติตายาติ านํ, การณํ, กมฺมสฺส วิปสฺสนาย านํ การณํ กมฺมฏฺานํ, กสฺสาติ อาห ‘‘มโนภุโน’’ติ. มโน อภิภวตีติ มโนภู, ตสฺส มโนภุโน, กุสลจิตฺตปฺปวตฺตินิวารเณน ตถาลทฺธนามสฺส กามเทวสฺสาติ อตฺโถ. อิมินา กมฺมฏฺานคณนาปริจฺเฉโท ทสฺสิโต.

๓๑๒๙-๓๐. อิเมสํ กมฺมฏฺานานํ ภาวนามยํ ภินฺทิตฺวา ทสฺเสตุํ มาติกํ ตาว ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อุปจารปฺปนาโต’’ติอาทิ. ตตฺถ อุปจารปฺปนาโตติ ‘‘เอตฺตกานิ กมฺมฏฺานานิ อุปจาราวหานิ , เอตฺตกานิ อปฺปนาวหานี’’ติ เอวํ อุปจารปฺปนาวเสน จ. ฌานเภทาติ ‘‘เอตฺตกานิ ปมชฺฌานิกานิ, เอตฺตกานิ ติกจตุกฺกชฺฌานิกานิ, เอตฺตกานิ ปฺจกชฺฌานิกานี’’ติอาทินา ฌานเภทา จ. อติกฺกมาติ องฺคานํ, อารมฺมณานฺจ อติกฺกมโต. วฑฺฒนาวฑฺฒนา จาปีติ องฺคุลทฺวงฺคุลาทิวเสน วฑฺเฒตพฺพา, อวฑฺเฒตพฺพา จ. อารมฺมณภูมิโตติ นิมิตฺตารมฺมณาทิอารมฺมณโต เจว ลพฺภมานาลพฺภมานภูมิโต จ.

คหณาติ ทิฏฺาทิวเสน คเหตพฺพโต. ปจฺจยาติ ตํตํานานํ ปจฺจยภาวโต จ. ภิยฺโยติ ปุน-สทฺทตฺถนีหารตฺโถ. จริยานุกูลโตติ ราคจริยาทีนํ อนุกูลภาวโตติ อยํ วิเสโส อยํ เภโท. เอเตสุ จตฺตาลีสาย กมฺมฏฺาเนสุ.

๓๑๓๑. เอวํ มาติกํ นิทฺทิสิตฺวา ยถากฺกมํ นิทฺทิสนฺโต ปมํ ตาว อุปจาราวหาทโย ทสฺเสตุมาห ‘‘อฏฺานุสฺสติโย’’ติอาทิ . ตตฺถาติ ติสฺสํ มาติกายํ, เตสุ วา จตฺตาลีสาย กมฺมฏฺาเนสุ. อฏฺานุสฺสติโยติ กายคตาสติอานาปานสติทฺวยวชฺชิตา พุทฺธานุสฺสติอาทิกา อฏฺ อนุสฺสติโย จ. สฺา อาหาเรปฏิกฺกูลสฺา จ. ววตฺถานฺจ จตุธาตุววตฺถานฺจาติ อิเม ทส. อุปจาราวหาติ พุทฺธคุณาทีนํ ปรมตฺถภาวโต, อเนกวิธตฺตา, เอกสฺสาปิ คมฺภีรภาวโต จ เอเตสุ ทสสุ กมฺมฏฺาเนสุ อปฺปนาวเสน สมาธิสฺส ปติฏฺาตุมสกฺกุเณยฺยตฺตา อปฺปนาภาวนาปฺปตฺโต สมาธิ อุปจารภาเวเยว ปติฏฺาติ, ตสฺมา เอเต อุปจาราวหา.

นนุ เจตฺถ ทุติยจตุตฺถารุปฺปสมาธิ, โลกุตฺตโร จ สมาธิ ปรมตฺถธมฺเม อปฺปนํ ปาปุณาติ, ตสฺมา ‘‘ปรมตฺถภาวโต’’ติ เหตุ อปฺปนมปาปุณเน การณภาเวน น วุจฺจตีติ? น, ตสฺส ภาวนาวิเสเสน ปรมตฺถธมฺเม ปวตฺติสมฺภวโต, อิมสฺส จ รูปาวจรจตุตฺถภาวนาวิเสสสมฺภวโต จ. ตถา หิ ทุติยจตุตฺถารุปฺปสมาธิ อปฺปนาปตฺตสฺส อรูปาวจรสมาธิสฺส จตุตฺถชฺฌานสฺส อารมฺมณสมติกฺกมมตฺตภาวนาวเสน สภาวารมฺมเณปิ อปฺปนํ ปาปุณาติ. วิสุทฺธิภาวนานุกฺกมพเลน โลกุตฺตโร สมาธิ อปฺปนํ ปาปุณาตีติ.

๓๑๓๒. ตตฺถาติ เตสุ ฌานาวเหสุ ตึสกมฺมฏฺาเนสุ. อสุภาติ อุทฺธุมาตกาทโย ทส อสุภา. กายคตาสตีติ กายคตาสติ จาติ อิเม เอกาทส. ปมชฺฌานิกาติ อิเมสํ ปฏิกฺกูลารมฺมณตฺตา, ปฏิกฺกูลารมฺมเณ จ จิตฺตสฺส จณฺฑโสตาย นทิยา อริตฺตพเลน นาวาฏฺานํ วิย วิตกฺกพเลเนว ปวตฺติสมฺภวโต อวิตกฺกานํ ทุติยชฺฌานาทีนํ อสมฺภโวติ สวิตกฺกสฺส ปมชฺฌานสฺเสว สมฺภวโต ปมชฺฌานิกา. อานาปานฺจ กสิณา จาติ อิเม เอกาทส จตุกฺกชฺฌานิกา รูปาวจรจตุกฺกชฺฌานิกา จ จตุกฺกนเยน, ปฺจกชฺฌานิกา จ.

๓๑๓๓. ติสฺโสว อปฺปมฺาติ เมตฺตา, กรุณา, มุทิตาติ อปฺปมฺา ติสฺโสว. สามฺนิทฺเทเส เอตาสเมว คหณํ กถํ วิฺายตีติ? ‘‘อถ ปจฺฉิมา’’ติอาทินา จตุตฺถาย อปฺปมฺาย จตุตฺถชฺฌานิกภาวสฺส วกฺขมานตฺตา ปาริเสสโต ตํ วิฺายติ. ติกชฺฌานานีติ ติกชฺฌานิกา. ‘‘ติกชฺฌานา’’ติ วตฺตพฺเพ ลิงฺควิปลฺลาเสน เอวํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เมตฺตาทีนํ โทมนสฺสสหคตพฺยาปาทวิหึสานภิรตีนํ ปหายกตฺตา โทมนสฺสปฏิปกฺเขน โสมนสฺเสเนว สหคตตา วุตฺตาติ จตุกฺกนเยน ติกชฺฌานิกตา วุตฺตา, ปฺจกนเยน จตุกฺกชฺฌานิกตา จ.

‘‘อถา’’ติ อิทํ ‘‘ปจฺฉิมา’’ติ ปทสฺส ‘‘ติสฺโส’’ติ อิมินา ปุริมปเทน สมฺพนฺธนิวตฺตนตฺถํ. ปจฺฉิมา อปฺปมฺา, จตฺตาโร อารุปฺปา จ จตุตฺถชฺฌานิกา มตา จตุกฺกนเยน, ปฺจมชฺฌานิกา จ. ‘‘สพฺเพ สตฺตา สุขิตา โหนฺตุ, ทุกฺขา มุจฺจนฺตุ, ลทฺธสุขสมฺปตฺติโต มา วิคจฺฉนฺตู’’ติ เมตฺตาทิติวิธวสปฺปวตฺตํ พฺยาปารตฺตยํ ปหาย กมฺมสฺสกตาทสฺสเนน สตฺเตสุ มชฺฌตฺตาการปฺปตฺตภาวนานิพฺพตฺตาย ตตฺรมชฺฌตฺโตเปกฺขาย พลวตรตฺตา อปฺปนาปฺปตฺตสฺส อุเปกฺขาพฺรหฺมวิหารสฺส สุขสหคตตาสมฺภวโต อุเปกฺขาสหคตตา วุตฺตา.

๓๑๓๔. องฺคารมฺมณโต อติกฺกโม ทฺวิธา วุตฺโตติ โยชนา. จตุกฺกติกชฺฌาเนสูติ ทสกสิณา, อานาปานสตีติ เอกาทสสุ จตุกฺกชฺฌานิเกสุ เจว เมตฺตาทิปุริมพฺรหฺมวิหารตฺตยสงฺขาเตสุ ติกชฺฌานิเกสุ จ กมฺมฏฺาเนสุ. องฺคาติกฺกมตาติ เอกสฺมึเยว อารมฺมเณ วิตกฺกาทิฌานงฺค สมติกฺกเมน ปมชฺฌานาทีนํ อารมฺมเณเยว ทุติยชฺฌานาทีนํ อุปฺปตฺติโต องฺคาติกฺกโม อธิปฺเปโตติ อตฺโถ. องฺคาติกฺกโมเยว องฺคาติกฺกมตา.

๓๑๓๕. องฺคาติกฺกมโตติ ตติยชฺฌานสมฺปยุตฺตโสมนสฺสาติกฺกมนโต. อารมฺมณมติกฺกมฺมาติ ปฏิภาคนิมิตฺตกสิณุคฺฆาฏิมากาสตพฺพิสยปมารุปฺปวิฺาณตทภาวสงฺขาตานิ จตฺตาริ อารมฺมณานิ ยถากฺกมํ อติกฺกมิตฺวา. กสิณุคฺฆาฏิมากาสตพฺพิสยปมารุปฺปวิฺาณตทภาวตพฺพิสยตติยารุปฺปวิฺาณสงฺขาเตสุ จตูสุ อารมฺมเณสุ อารุปฺปา อากาสานฺจายตนาทีนิ จตฺตาริ อรูปาวจรชฺฌานานิ ชายเร อุปฺปชฺชนฺติ.

๓๑๓๖. เอตฺถาติ เอเตสุ อารมฺมเณสุ. วฑฺเฒตพฺพานีติ ‘‘ยตฺตกํ โอกาสํ กสิเณน ผรติ, ตทพฺภนฺตเร ทิพฺพาย โสตธาตุยา สทฺทํ โสตุํ, ทิพฺเพน จกฺขุนา รูปํ ปสฺสิตุํ, ปรสตฺตานฺจ เจตสา จิตฺตํ อฺาตุํ สมตฺโถ โหตี’’ติ วุตฺตปฺปโยชนํ สนฺธาย องฺคคณนาทิวเสน ปริจฺฉินฺทิตฺวา ยตฺตกํ อิจฺฉติ, ตตฺตกํ วฑฺเฒตพฺพานิ. เสสํ อสุภาทิ สพฺพํ ตํ กมฺมฏฺานํ ปโยชนาภาวา น วฑฺเฒตพฺพเมวาติ โยชนา.

๓๑๓๗. ตตฺถ เตสุ กมฺมฏฺาเนสุ ทส กสิณา จ ทส อสุภา จ กายคตาสติ, อานาปานสตีติ อิเม พาวีสติ กมฺมฏฺานานิ ปฏิภาคารมฺมณานีติ โยชนา. เอตฺถ ‘‘กสิณา’’ติอาทินา ตทารมฺมณานิ ฌานานิ คหิตานิ.

๓๑๓๘. ธาตุววตฺถนนฺติ จตุธาตุววตฺถานํ, คาถาพนฺธวเสน รสฺสตฺตํ. วิฺาณฺจาติ วิฺาณฺจายตนํ. เนวสฺาติ เนวสฺานาสฺายตนํ. ทส ทฺเวติ ทฺวาทส. ภาวโคจราติ สภาวธมฺมโคจรา, ปรมตฺถธมฺมาลมฺพณาติ วุตฺตํ โหติ.

๓๑๓๙. ทฺเว จ อารุปฺปมานสาติ อากาสานฺจายตนอากิฺจฺายตนสงฺขาตา อรูปาวจรจิตฺตุปฺปาทา ทฺเว จ. ฉ อิเม ธมฺมา นวตฺตพฺพโคจรา นิทฺทิฏฺาติ โยชนา จตุนฺนํ อปฺปมฺานํ สตฺตปฺตฺติยา, ปมารุปฺปสฺส กสิณุคฺฆาฏิมากาสปฺตฺติยา, ตติยารุปฺปสฺส ปมารุปฺปวิฺาณาภาวปฺตฺติยา จ อารมฺมณตฺตา.

๓๑๔๐. ปฏิกฺกูลสฺาติ อาหาเรปฏิกฺกูลสฺา. กายคตาสตีติ ทฺวาทเสว ภูมิโต เทเวสุ กามาวจรเทเวสุ กุณปานํ, ปฏิกฺกูลารหสฺส จ อสมฺภวา น ปวตฺตนฺตีติ โยชนา.

๓๑๔๑. ตานิ ทฺวาทส จ. ภิยฺโยติ อธิกตฺเถ นิปาโต, ตโต อธิกํ อานาปานสติ จาติ เตรส รูปารูปโลเก อสฺสาสปสฺสาสานฺจ อภาวา สพฺพโส น ชายเรติ โยชนา.

๓๑๔๒. อรูปาวจเร อรูปภเว จตุโร อารุปฺเป เปตฺวา อฺเ ฉตฺตึส ธมฺมา รูปสมติกฺกมาภาวา น ชายนฺตีติ โยชนา. สพฺเพ สมจตฺตาลีส ธมฺมา มานุเส มนุสฺสโลเก สพฺเพสเมว ลพฺภมานตฺตา ชายนฺติ.

๓๑๔๓. จตุตฺถกสิณํ หิตฺวาติ วาโยกสิณํ ทิฏฺผุฏฺเน คเหตพฺพตฺตา ตํ วชฺเชตฺวา นว กสิณา จ ทส อสุภา จาติ เต เอกูนวีสติ ธมฺมา ทิฏฺเเนว จกฺขุวิฺาเณน ปุพฺพภาเค ปริกมฺมกาเล คเหตพฺพา ภวนฺตีติ โยชนา. ปุพฺพภาเค จกฺขุนา โอโลเกตฺวา ปริกมฺมํ กตํ, เตน อุคฺคหิตนิมิตฺตํ เตสํ คเหตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ.

๓๑๔๔. ผุฏฺเนาติ นาสิกคฺเค, อุตฺตโรฏฺเ วา ผุฏฺวเสน. กายคตาสติยํ ตจปฺจกํ ทิฏฺเน คเหตพฺพํ. มาลุโตติ วาโยกสิณํ ทิฏฺผุฏฺเน คเหตพฺพํ อุจฺฉุสสฺสาทีนํ ปตฺเตสุ จลมานวณฺณคฺคหณมุเขน, กายปฺปสาทฆฏฺฏเนน จ คเหตพฺพตฺตา. เอตฺถ เอเตสุ กมฺมฏฺาเนสุ. เสสกนฺติ วุตฺตาวเสสํ. พุทฺธานุสฺสติอาทิกา อฏฺานุสฺสติโย, จตฺตาโร พฺรหฺมวิหารา, จตฺตาโร อารุปฺปา, อาหาเรปฏิกฺกูลสฺา, จตุธาตุววตฺถานํ, กายคตาสติยํ วกฺกปฺจกาทีนิ จาติ สพฺพเมตํ ปรโต สุตฺวา คเหตพฺพตฺตา สุเตเนว คเหตพฺพนฺติ วุตฺตํ.

๓๑๔๕. เอตฺถ เอเตสุ กมฺมฏฺาเนสุ อากาสกสิณํ เปตฺวา นว กสิณา ปมารุปฺปจิตฺตสฺส อารมฺมณภูตกสิณุคฺฆาฏิมากาสสฺส เหตุภาวโต ปจฺจยา ชายเร ปจฺจยา ภวนฺตีติ โยชนา.

๓๑๔๖. ทสปิ กสิณา อภิฺานํ ทิพฺพจกฺขุาณาทีนํ ปจฺจยา ภวนฺตีติ โยชนา. จตุตฺถสฺสาติ จตุตฺถสฺส พฺรหฺมวิหารสฺส.

๓๑๔๗. เหฏฺิมเหฏฺิมารุปฺปนฺติ อากาสานฺจายตนาทิกํ. ปรสฺส จ ปรสฺส จาติ วิฺาณฺจายตนาทิอุตฺตรชฺฌานสฺส ปจฺจโยติ ปกาสิตนฺติ โยชนา. เนวสฺาติ เนวสฺานาสฺายตนํ. นิโรธสฺสาติ สฺาเวทยิตนิโรธสฺส, ตาย นิโรธสมาปตฺติยา.

๓๑๔๘. สพฺเพติ สมจตฺตาลีสกมฺมฏฺานธมฺมา. สุขวิหารสฺสาติ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารสฺส. ภวนิสฺสรณสฺสจาติ วิภวูปนิสฺสยตาย วิปสฺสนาปาทกตฺเตน อาสวกฺขยาเณน อธิคนฺตพฺพสฺส นิพฺพานสฺส จ. ภวสุขานฺจาติ ปริกมฺโมปจารภาวนาวสปฺปวตฺตานิ กามาวจรกุสลจิตฺตานิ กามสุคติภวสุขานํ, รูปาวจรปฺปนาวสปวตฺตานิ รูปาวจรจิตฺตานิ รูปาวจรภวสุขานํ, อิตรานิ อรูปาวจรภูตานิ อรูปาวจรภวสุขานฺจ ปจฺจยาติ ทีปิตา.

๓๑๔๙. ทส อสุภา, กายคตาสตีติ อิเม เอกาทส ราคจริตสฺส วิเสสโต อนุกูลา วิฺเยฺยาติ โยชนา. ‘‘วิเสสโต’’ติ อิมินา ราคสฺส อุชุวิปจฺจนีกภาเวน จ อติสปฺปายโต จ วุตฺโต, อิตเร จ อปฏิกฺขิตฺตาติ ทีเปติ. วุตฺตฺเหตํ วิสุทฺธิมคฺเค ‘‘สพฺพฺเจตํ อุชุวิปจฺจนีกวเสน จ อติสปฺปายวเสน จ วุตฺตํ, ราคาทีนํ ปน อวิกฺขมฺภิกา, สทฺธาทีนํ วา อนุปการา กุสลภาวนา นาม นตฺถี’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๔๗).

๓๑๕๐. สวณฺณกสิณาติ จตูหิ วณฺณเกหิ กสิเณหิ สหิตา. จตสฺโส อปฺปมฺาโยติ อิเม อฏฺ โทสจริตสฺส อนุกูลาติ ปกาสิตาติ โยชนา.

๓๑๕๑. โมหปฺปกติโนติ โมหจริตสฺส. ‘‘อานาปานสติ เอกาวา’’ติ ปทจฺเฉโท.

๓๑๕๒. มรณูปสเมติ มรณฺจ อุปสโม จ มรณูปสมํ, ตสฺมึ มรณูปสเม. สตีติ มรณานุสฺสติ, อุปสมานุสฺสติ จาติ เอเต จตฺตาโร ธมฺมา. ปฺาปกติโนติ พุทฺธิจริตสฺส.

๓๑๕๓. อาทิอนุสฺสติจฺฉกฺกนฺติ พุทฺธธมฺมสงฺฆสีลจาคเทวตานุสฺสติสงฺขาตํ ฉกฺกํ. สทฺธาจริตวณฺณิตนฺติ สทฺธาจริตสฺส อนุกูลนฺติ กถิตํ. อารุปฺปาติ จตฺตาโร อารุปฺปา. เสสา กสิณาติ ภูตกสิณอาโลกากาสกสิณานํ วเสน ฉ กสิณาติ เสสา ทส ธมฺมา. สพฺพานุรูปกาติ สพฺเพสํ ฉนฺนํ จริยานํ อนุกูลาติ อตฺโถ.

๓๑๕๔-๘. เอวํ ยถานิกฺขิตฺตมาติกานุกฺกเมน กมฺมฏฺานปฺปเภทํ วิภาเวตฺวา อิทานิ ภาวนานยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอว’’นฺติอาทิ. เอวํ ปเภทโต ตฺวา กมฺมฏฺานานีติ ยถาวุตฺตเภทนยมุเขน ภาวนามยารมฺภทสฺสนํ. ปณฺฑิโตติ ติเหตุกปฏิสนฺธิปฺาย ปฺวา ภพฺพปุคฺคโล. เตสูติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. เมธาวีติ ปาริหาริยปฺาย สมนฺนาคโต. ทฬฺหํ คเหตฺวานาติอาทิมชฺฌปริโยสาเน สุฏฺุ สลฺลกฺขนฺเตน ทฬฺหํ อฏฺึ กตฺวา สกฺกจฺจํ อุคฺคเหตฺวา. กลฺยาณมิตฺตโกติ –

‘‘ปิโย ครุ ภาวนีโย;

วตฺตา จ วจนกฺขโม;

คมฺภีรฺจ กถํ กตฺตา;

โน จฏฺาเน นิโยชโก’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๓๗; เนตฺติ. ๑๑๓) –

วุตฺตลกฺขณโก สีลสุตปฺาทิคุณสมนฺนาคตกลฺยาณมิตฺตโก.

ปมเมว ปลิโพธานํ อุจฺเฉทํ กตฺวาติ โยชนา. ปมนฺติ ภาวนารมฺภโต ปมเมว. ปลิโพธานํ อุจฺเฉทํ กตฺวาติ –

‘‘อาวาโส จ กุลํ ลาโภ;

คโณ กมฺมฺจ ปฺจมํ;

อทฺธานํ าติ อาพาโธ;

คนฺโถ อิทฺธีติ เต ทสา’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๔๑) –

วุตฺตานํ ทสมหาปลิโพธานํ, ทีฆเกสนขโลมจฺเฉทนจีวรรชนปตฺตปจนาทีนํ ขุทฺทกปอโพธานฺจาติ อุภเยสํ ปลิโพธานํ อุจฺเฉทํ กตฺวา นิฏฺาปเนน วา อาลยปริจฺจาเคน วา อุจฺเฉทํ กตฺวา. อิทฺธิ ปเนตฺถ วิปสฺสนาย ปลิโพโธ โหติ, น สมาธิภาวนาย. วุตฺตฺเหตํ วิสุทฺธิมคฺเค ‘‘อิทฺธีติ โปถุชฺชนิกา อิทฺธิ. สา หิ อุตฺตานเสยฺยกทารโก วิย, ตรุณสสฺสํ วิย จ ทุปฺปริหารา โหติ, อปฺปมตฺตเกเนว ภิชฺชติ. สา ปน วิปสฺสนาย ปลิโพโธ โหติ, น สมาธิสฺส สมาธึ ปตฺวา ปตฺตพฺพตฺตา’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๔๑).

โทสวชฺชิเต , อนุรูเป จ วิหาเร วสนฺเตนาติ โยชนา. โทสวชฺชิเตติ –

‘‘มหาวาสํ นวาวาสํ, ชราวาสฺจ ปนฺถนึ;

โสณฺฑึ ปณฺณฺจ ปุปฺผฺจ, ผลํ ปตฺถิตเมว จ.

‘‘นครํ ทารุนา เขตฺตํ, วิสภาเคน ปฏฺฏนํ;

ปจฺจนฺตสีมาสปฺปายํ, ยตฺถ มิตฺโต น ลพฺภติ.

‘‘อฏฺารเสตานิ านานิ, อิติ วิฺาย ปณฺฑิโต;

อารกา ปริวชฺเชยฺย, มคฺคํ ปฏิภยํ ยถา’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๕๒) –

อฏฺกถาสุ วุตฺเตหิ อิเมหิ อฏฺารสหิ โทเสหิ คชฺชิเต.

อนุรูเป วสนฺเตนาติ –

‘‘อิธ , ภิกฺขเว, เสนาสนํ นาติทูรํ โหติ นจฺจาสนฺนํ คมนาคมนสมฺปนฺนํ, ทิวา อปฺปากิณฺณํ, รตฺตึ อปฺปสทฺทํ อปฺปนิคฺโฆสํ, อปฺปฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺสํ, ตสฺมึ โข ปน เสนาสเน วิหรนฺตสฺส อปฺปกสิเรเนว อุปฺปชฺชนฺติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารา, ตสฺมึ โข ปน เสนาสเน เย เต ภิกฺขู วิหรนฺติ พหุสฺสุตา อาคตาคมา ธมฺมธรา วินยธรา มาติกาธรา, เต กาเลน กาลํ อุปสงฺกมิตฺวา ปริปุจฺฉติ ปริปฺหติ ‘อิทํ, ภนฺเต, กถํ, อิมสฺส โก อตฺโถ’ติ, ตสฺส เต อายสฺมนฺโต อวิวฏฺเจว วิวรนฺติ, อนุตฺตานีกตฺจ อุตฺตานึ กโรนฺติ, อเนกวิหิเตสุ จ กงฺขฏฺานีเยสุ ธมฺเมสุ กงฺขํ ปฏิวิโนเทนฺติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, เสนาสนํ ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ โหตี’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๑๑) –

เอวํ ภควตา วณฺณิเตหิ ปฺจหิ คุเณหิ สมนฺนาคตตฺตา อนุรูเป ภาวนากมฺมานุคุเณ วิหาเร วิหรนฺเตนาติ อตฺโถ. ปมาทีนีติ ปมทุติยาทีนิ รูปาวจรชฺฌานานิ. สพฺพโส ภาเวตฺวาติ วิสุทฺธิมคฺเค ‘‘สพฺพํ ภาวนาวิธานํ อปริหาเปนฺเตน ภาเวตพฺโพ’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๔๑) นิกฺขิตฺตสฺส มาติกาปทสฺส วิตฺถารกฺกเมน ภาเวตฺวา, จิตฺตวิสุทฺธึ สมฺปาเทตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.

สปฺปฺโติ กมฺมชติเหตุกปฏิสนฺธิปฺาย เจว กมฺมฏฺานมนสิการสปฺปายานิ ปริคฺคเหตฺวา อสปฺปายํ ปริวชฺเชตฺวา สปฺปายเสวโนปการาย ปาริหาริยปฺาย จ สมนฺนาคโต โยคาวจโร. ตโตติ เนวสฺานาสฺายตนวชฺชิตรูปารูปชฺฌานํ วิปสฺสนาปาทกภาเวน สมาปชฺชิตฺวา อฏฺนฺนํ วิปสฺสนาปาทกชฺฌานานมฺตรโต ฌานา วุฏฺาย. เตนาห วิสุทฺธิมคฺเค ‘‘เปตฺวา เนวสฺานาสฺายตนํ อวเสสรูปารูปาวจรชฺฌานานํ อฺตรโต วุฏฺายา’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๖๖๓).

นามรูปววตฺถานํ กตฺวาติ วิสุทฺธิมคฺเค ทิฏฺิวิสุทฺธินิทฺเทเส วุตฺตนเยน ปฺจกฺขนฺธาทิมุเขสุ ยถิจฺฉิเตน มุเขน ปวิสิตฺวา นามรูปํ ววตฺถเปตฺวา ‘‘อิทํ นามํ, อิทํ รูปํ, อิมมฺหา นามรูปโต พฺยติริตฺตํ อตฺตาทิ กิฺจิ วตฺตพฺพํ นตฺถี’’ติ นิฏฺํ คนฺตฺวา, อิมินา ทิฏฺิวิสุทฺธิ ทสฺสิตา.

กงฺขํ วิตีริยาติ ยถาทิฏฺนามรูปธมฺมานํ วิสุทฺธิมคฺเค กงฺขาวิตรณวิสุทฺธินิทฺเทเส (วิสุทฺธิ. ๒.๖๗๘ อาทโย) วุตฺตนเยน ปฺจธา ปริคฺคเหตฺวา ‘‘น ตาวิทํ นามรูปํ อเหตุกํ, น อตฺตาทิเหตุก’’นฺติ ยาถาวโต นามรูปสฺส ปฺจธา ทสฺสเนน อทฺธตฺตยคตํ ‘‘อโหสึ นุ โข อหํ อตีตมทฺธาน’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตํ (ม. นิ. ๑.๑๘; สํ. นิ. ๒.๒๐; มหานิ. ๑๗๔) โสฬสวิธํ กงฺขํ, ‘‘สตฺถริ กงฺขตี’’ติอาทินยปฺปวตฺตํ (ธ. ส. ๑๐๐๘) อฏฺวิธฺจ กงฺขํ วีริเยน ตริตฺวา ปชหิตฺวา, อิมินา กงฺขาวิตรณวิสุทฺธิ ทสฺสิตา โหติ.

เอวํ กงฺขาวิตรณวิสุทฺธินิปฺผาทเนน าตปริฺาย ิโต โยคาวจโร สปฺปายํ นามรูปํ ลกฺขณตฺตยํ อาโรเปตฺวา กงฺขาวูปสมาเณน มคฺคามคฺคาณทสฺสนวิสุทฺธินิทฺเทเส (วิสุทฺธิ. ๒.๖๙๒ อาทโย) วุตฺตนเยน สงฺขาเร สมฺมสนฺโต โอภาโส, าณํ, ปีติ, ปสฺสทฺธิ, สุขํ, อธิโมกฺโข, ปคฺคโห, อุปฏฺานํ, อุเปกฺขา, นิกนฺตีติ ทสสุ อุปกฺกิเลเสสุ ปาตุภูเตสุ ตถา ปาตุภูเต โอภาสาทโย ทส อุปกฺกิเลเส ‘‘อมคฺโค’’ติ มคฺควีถิปฏิปนฺนํ วิปสฺสนาาณเมว ‘‘มคฺโค’’ติ ปณฺฑิโต ปฺวา โยคาวจโร ชานาตีติ อตฺโถ, อิมินา มคฺคามคฺคาณทสฺสนวิสุทฺธิ สงฺเขปโต ทสฺสิตา โหติ.

๓๑๕๙. เอตฺตาวตา เตสํ ติณฺณํ ววตฺถาเนติ โยชนา. เอตฺตาวตาติ ‘‘นามรูปววตฺถานํ กตฺวา’’ติอาทินา สงฺเขปโต ทสฺสิตนเยน. เตสํ ติณฺณนฺติ ทิฏฺิวิสุทฺธิ, กงฺขาวิตรณวิสุทฺธิ, มคฺคามคฺคาณทสฺสนวิสุทฺธีติ ตีหิ วิสุทฺธีหิ สกสกวิปสฺสนานํ นามรูปตปฺปจฺจยมคฺคามคฺคานํ ติณฺณํ. ววตฺถาเน กเต นิยเม กเต. ติณฺณํ สจฺจานนฺติ ทุกฺขสมุทยมคฺคสงฺขอาตานํ ติณฺณํ สจฺจานํ. ววตฺถานํ กตํ สิยาติ าตตีรณปริฺาสงฺขาเตน โลกิเยเนว าเณน อนุโพธวเสน นิจฺฉโย กโต โหตีติ อตฺโถ. กถํ? นามรูปววตฺถานสงฺขาเตน ทิฏฺิวิสุทฺธิาเณน ทุกฺขสจฺจววตฺถานํ กตํ โหติ, ปจฺจยปริคฺคหสงฺขาเตน กงฺขาวิตรณวิสุทฺธิาเณน สมุทยสจฺจววตฺถานํ, มคฺคามคฺคววตฺถานสงฺขาเตน มคฺคามคฺคาณทสฺสเนน มคฺคสจฺจววตฺถานํ.

๓๑๖๐-๑. เอวํ าตตีรณปริฺาทฺวยํ สงฺเขปโต ทสฺเสตฺวา ปหานปริฺาย สรีรภูตานิ นว าณานิ ทสฺเสตุมาห ‘‘อุทยพฺพยา’’ติอาทิ. ตตฺถ อุทยพฺพยาติ อุปฺปาทภงฺคานุปสฺสนาวสปฺปวตฺตา อุตฺตรปทโลเปน ‘‘อุทยพฺพยา’’ติ วุตฺตา. ตตฺถ อุทยํ มุฺจิตฺวา วเย วา ปวตฺตา ภงฺคานุปสฺสนา ‘‘ภงฺคา’’ติ วุตฺตา. ภยฺจ อาทีนโว จ นิพฺพิทา จ ภยาทีนวนิพฺพิทา, สงฺขารานํ ภยโต อนุปสฺสนวเสน ปวตฺตา ภยานุปสฺสนา จ ทิฏฺภยานํ อาทีนวโต เปกฺขนวเสน ปวตฺตา อาทีนวานุปสฺสนา จ ทิฏฺาทีนเวสุ นิพฺเพทวเสน ปวตฺตา นิพฺพิทานุปสฺสนา จ ตถา วุตฺตา. นิพฺพินฺทิตฺวา สงฺขาเรหิ มุจฺจิตุกามตาวเสเนว ปวตฺตํ าณํ มุจฺจิตุกามตาาณํ. มุจฺจนสฺส อุปายสมฺปฏิปาทนตฺถํ ปุน สงฺขารตฺตยปฏิคฺคหวสปวตฺตํ าณํ ปฏิสงฺขานุปสฺสนา.

สงฺขารธมฺเม ภยนนฺทิวิวชฺชนวเสน อชฺฌุเปกฺขิตฺวา ปวตฺตาณํ สงฺขารุเปกฺขาาณํ, สจฺจานุโลโม ตทธิคมาย เอกนฺตปจฺจโย โหตีติ ‘‘สจฺจานุโลมิก’’นฺติ จ กลาปสมฺมสนาณาทีนํ ปุริมานํ นวนฺนํ กิจฺจนิปฺผตฺติยา, อุปริ จ สตฺตตึสาย โพธิปกฺขิยธมฺมานฺจ อนุโลมนโต ‘‘อนุโลมาณ’’นฺติ จ วุตฺตํ นวมํ าณฺจาติ ยา นวานุปุพฺพวิปสฺสนาสงฺขาตา ปหานปริฺา ทสฺสิตา, อยํ ‘‘ปฏิปทาาณทสฺสน’’นฺติ ปกาสิตาติ โยชนา.

๓๑๖๒. ตโต อนุโลมาณโต ปรํ มคฺคสฺส อาวชฺชนฏฺานิยํ หุตฺวา นิพฺพานมาลมฺพิตฺวา อุปฺปนฺนสฺส ปุถุชฺชนโคตฺตสฺส อภิภวนโต, อริยโคตฺตสฺส ภาวนโต วฑฺฒนโต จ ‘‘โคตฺรภู’’ติ สงฺขํ คตสฺส จิตฺตสฺส สมนนฺตรเมว จ. สนฺติมารมฺมณํ กตฺวาติ สพฺพกิเลสทรถานฺจ สงฺขารทุกฺขคฺคิโน จ วูปสมนิมิตฺตตฺตา ‘‘สนฺติ’’นฺติ สงฺขาตํ นิโรธมาลมฺพิตฺวา. าณทสฺสนนฺติ จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ ปริฺาภิสมยาทิวเสน ชานนฏฺเน าณํ, จกฺขุนา วิย ปจฺจกฺขโต ทสฺสนฏฺเน ทสฺสนนฺติ สงฺขํ คตํ โสตาปตฺติมคฺคาณสงฺขาตํ สตฺตมวิสุทฺธิาณํ ชายเต อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ.

๓๑๖๓. ปจฺจเวกฺขณปริยนฺตนฺติ ปจฺจเวกฺขณชวนปริโยสานํ. ตสฺสาติ าณทสฺสนสงฺขาตสฺส โสตาปตฺติมคฺคสฺส. ผลนฺติ ผลจิตฺตํ อนุ ปจฺฉา มคฺคานนฺตรํ หุตฺวา ชายเต.

เอตฺถ ‘‘ปจฺจเวกฺขณปริยนฺต’’นฺติ อิทํ ‘‘ผล’’นฺติ เอตสฺส วิเสสนํ, กิริยาวิเสสนํ วา, ปจฺจเวกฺขณชวนํ มริยาทํ กตฺวาติ อตฺโถ. มคฺคานนฺตรํ ผเล ทฺวิกฺขตฺตุํ, ติกฺขตฺตุํ วา อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺเธ ตทนนฺตรเมว ภวงฺคํ โหติ, ภวงฺคํ อาวฏฺเฏตฺวา ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ มคฺคมาลมฺพิตฺวา มโนทฺวาราวชฺชนํ อุปฺปชฺชติ, ตโต ปจฺจเวกฺขณชวนานิ. เอวํ ผลจิตฺตํ ภวงฺคปริยนฺตเมว โหติ, น ปจฺจเวกฺขณปริยนฺตํ. ตถาปิ อฺเน ชวเนน อนนฺตริกํ หุตฺวา ผลชวนานมนนฺตรํ ปจฺจเวกฺขณชวนเมว ปวตฺตตีติ ทสฺสนตฺถํ ผลปจฺจเวกฺขณชวนานนฺตเร อุปฺปนฺนานิ ภวงฺคาวชฺชนานิ อพฺโพหาริกานิ กตฺวา ‘‘ปจฺจเวกฺขณปริยนฺตํ, ผลํ ตสฺสานุชายเต’’ติ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.

ปจฺจเวกฺขณฺจ มคฺคผลนิพฺพานปหีนกิเลสอวสิฏฺกิเลสานํ ปจฺจเวกฺขณวเสน ปฺจวิธํ โหติ. เตสุ เอเกกํ เอเกเกน ชวนวาเรน ปจฺจเวกฺขตีติ ปฺจ ปจฺจเวกฺขณชวนวารานิ โหนฺติ. ตานิ ปจฺจเวกฺขณคฺคหเณน สามฺโต ทสฺสิตานีติ ทฏฺพฺพานิ.

๓๑๖๔. เตเนว จ อุปาเยนาติ อุทยพฺพยานุปสฺสนาทิวิปสฺสนานํ ปมํ มคฺโค อธิคโต, เตเนว อุปาเยน. โส ภิกฺขูติ โส โยคาวจโร ภิกฺขุ. ปุนปฺปุนํ ภาเวนฺโตติ ปุนปฺปุนํ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา. ยถา ปมมคฺคผลานิ ปตฺโต, ตถา. เสสมคฺคผลานิ จาติ ทุติยาทิมคฺคผลานิ จ ปาปุณาติ.

๓๑๖๕. อิจฺเจวํ ยถาวุตฺตนเยน อุปฺปาทวยนฺตาตีตกตฺตา อจฺจนฺตํ อมตํ ธมฺมํ อเวจฺจ ปฏิวิชฺฌิตฺวา อเสสํ อกุสลํ วิทฺธํสยิตฺวา สมุจฺเฉทปฺปหาเนน ปชหิตฺวา ตโย ภเว กามภวาทีสุ ตีสุ ภเวสุ นิกนฺติยา โสสนวเสน ตโย ภเว วิเสเสน โสสยิตฺวา โส อคฺคทกฺขิเณยฺโย ขีณาสโว ภิกฺขุ ปมํ กิเลสปรินิพฺพาเน โสสิตวิปากกฺขนฺธกฏตฺตารูปสงฺขาตอุปาทิเสสรหิตตฺตา นิรุปาทิเสสํ นิพฺพานธาตุํ อุเปติ อธิคจฺฉตีติ โยชนา.

อิจฺเจวํ สงฺเขปโต กมฺมฏฺานภาวนานโย อาจริเยน ทสฺสิโตติ คนฺถภีรุชนานุคฺคหวเสน วิตฺถารวณฺณนํ อนามสิตฺวา อนุปทวณฺณนามตฺตเมเวตฺถ กตํ. วิตฺถารวณฺณนา ปนสฺส วิสุทฺธิมคฺคโต, ตพฺพณฺณนโต จ คเหตพฺพา.

๓๑๖๖-๗. วิฺาสกฺกมโต วาปีติ อกฺขรปทวากฺยสงฺขาตคนฺถรจนกฺกมโต วา. ปุพฺพาปรวเสน วาติ วตฺตพฺพานมตฺถวิเสสานํ ปฏิปาฏิวเสน วา. อกฺขรพนฺเธ วาติ สทฺทสตฺถอลงฺการสตฺถฉนฺโทวิจิติสตฺถานุปาเตน กาตพฺพาย อกฺขรปทรจนาย, คาถาพนฺเธติ อตฺโถ. อยุตฺตํ วิย ยทิ ทิสฺสตีติ โยชนา.

นฺติ ตํ ‘‘อยุตฺต’’นฺติ ทิสฺสมานฏฺานํ. ตถา น คเหตพฺพนฺติ ทิสฺสมานากาเรเนว อยุตฺตนฺติ น คเหตพฺพํ. กถํ คเหตพฺพนฺติ อาห ‘‘คเหตพฺพมโทสโต’’ติ. ตสฺส การณมาห ‘‘มยา อุปปริกฺขิตฺวา, กตตฺตา ปน สพฺพโส’’ติ. โย โย ปเนตฺถ โทโส ทิสฺสติ ขิตฺตโทโส วา โหตุ วิปลฺลาสคฺคหณโทโส วา, นาปรํ โทโสติ ทีเปติ. เตเนตํ ปกรณํ สพฺเพสํ ติปิฏกปริยตฺติปฺปเภทายตนพหุสฺสุตานํ สิกฺขากามานํ เถรานํ อตฺตโน ปมาณภูตตํ สูเจติ. อตฺตโน ปมาณสูจเนน อตฺตนา วิรจิตสฺส วินยวินิจฺฉยสฺสาปิ ปมาณตํ วิภาเวนฺโต ตสฺส สวนุคฺคหธารณาทีสุ โสตุชนํ นิโยเชตีติ ทฏฺพฺพํ.

อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย

กมฺมฏฺานภาวนาวิธานกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิคมนกถาวณฺณนา

๓๑๖๘-๗๘. เอวํ ‘‘วินโย สํวรตฺถาย, สํวโร อวิปฺปฏิสารตฺถาย, อวิปฺปฏิสาโร ปาโมชฺชตฺถาย, ปาโมชฺชํ ปีตตฺถาย, ปีติ ปสฺสทฺธตฺถาย, ปสฺสทฺธิ สุขตฺถาย, สุขํ สมาธตฺถาย, สมาธิ ยถาภูตาณทสฺสนตฺถาย, ยถาภูตาณทสฺสนํ นิพฺพิทตฺถาย, นิพฺพิทา วิราคตฺถาย, วิราโค วิมุตฺตตฺถาย, วิมุตฺติ วิมุตฺติาณทสฺสนตฺถาย, วิมุตฺติาณทสฺสนํ อนุปาทาปอนิพฺพานตฺถายา’’ติ (ปริ. ๓๖๕) ทสฺสิตานิสํสปรมฺปรานิทฺธารณมุเขน อนุปาทิเสสนิพฺพานธาตุปริยนฺตํ สานิสํสํ วินยกถํ กเถตฺวา ตสฺสา ปมาณตฺจ วิภาเวตฺวา อตฺตโน สุตพุทฺธตฺตา ‘‘สนิทานํ, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสมี’’ติ (อ. นิ. ๓.๑๒๖; กถา. ๘๐๖) วจนโต ภควโต จริตมนุวตฺตนฺโต ตสฺส เทสกาลาทิวเสน นิทานํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เสฏฺสฺสา’’ติอาทิ.

ตตฺถ เสฏฺสฺสาติ ธนธฺวตฺถาลงฺการาทิอุปโภคปริโภคสมฺปตฺติยา เจว คามราชธานิเขตฺตวตฺถุนทิตฬาการามาทิสมฺปตฺติยา จ ปสตฺถตรสฺส. นาภิภูเตติ มชฺฌวตฺติตาย นาภิสทิเส. นิรากุเลติ มชฺฌวตฺติตาเยว ปริมณฺฑลาทิสมฺภวโต วิโลปาทิอากุลรหิเต. สพฺพสฺส ปน โลกสฺส รามณียเก สมฺปิณฺฑิเต วิย รมณียตเร ภูตมงฺคเล คาเมติ สมฺพนฺโธ.

ปุนปิ กึวิสิฏฺเติ อาห ‘‘กทลี’’ติอาทิ. กทลี จ สาลฺจ ตาลฺจ อุจฺฉุ จ นาฬิเกรา จ กทลี…เป… นาฬิเกรา, เตสํ วนานิ กทลี…เป… นาฬิเกรวนานิ, เตหิ อากุเล อากิณฺเณติ อตฺโถ. กมลานิ จ อุปฺปลานิ จ กมลุปฺปลานิ, เตหิ สฺฉนฺนา กมลุปฺปลสฺฉนฺนา, สลิลสฺส อาสยา สลิลาสยา, กมลุปฺปลสฺฉนฺนา จ เต สลิลาสยา จาติ กมล…เป… สลิลาสยา, เตหิ โสภิโต กมลุปฺปลสฺฉนฺนสลิลาสยโสภิโต, ตสฺมึ.

กาเวริยา ชลํ กาเวริชลํ, กาเวริชลสฺส สมฺปาโต ปวตฺตนํ กาเวริชลสมฺปาโต, เตน ปริ สมนฺตโต ภูตํ ปวตฺติตํ มหีตลํ เอตสฺสาติ กาเวริชลสมฺปาตปริภูตมหีตโล, ตสฺมึ. อิทฺเธติ นานาสมฺปตฺติยา สมิทฺเธ. สพฺพงฺคสมฺปนฺเนติ สพฺพสุโขปกรณสมฺปนฺเน. มงฺคเลติ ชนานํ อิทฺธิวุทฺธิการณภูเต. ภูตมงฺคเลติ เอวํนามเก คาเม.

ปวโร ติรตารีณตลาทิคเณหิ กุลาจลจกฺกโภคินา โภควลยสีทนฺตรสาคราทิ อากาโร เอตาสนฺติ ปวราการา, ปาการา จ ปริขา จ ปาการปริขา, ปวราการา จ ตา ปาการปริขา จาติ ปวราการปาการปริขา, ตาหิ ปริวาริโต ปวราการปาการปริขาปริวาริโต, ตสฺมึ. ทสฺสนีเยติ ทสฺสนารเห. มโน รมติ เอตฺถาติ มโนรโม, ตสฺมึ.

ตีรสฺส อนฺโต ตีรนฺโต, ตีรเมว วา อนฺโต ตีรนฺโต, โปกฺขรณิโสพฺภอุทกวาหกปริขาทีนํ กูลปฺปเทโส, ตีรนฺเต รุหึสุ ชายึสูติ ตีรนฺตรุหา, ตีรนฺตรุหา จ เต พหุตฺตา อตีรา อปริจฺเฉทา จาติ ตีรนฺตรุหวาตีรา. ว-กาโร สนฺธิโช, ตรูนํ ราชาโน ตรุราชาโน, ตีรนฺตรุหวาตีรา จ เต ตรุราชาโน จาติ ตีรนฺตรุหวาตีรตรุราชาโน, เตหิ วิราชิโต ตีรนฺต…เป… วิราชิโต, ตสฺมึ, ปุปฺผูปคผลูปคฉายูปเคหิ มหารุกฺเขหิ ปฏิมณฺฑิเตติ อตฺโถ. ‘‘ตีรนฺตรุหวานตรุราชิวิราชิเต’’ติ วา ปาโ, ตีรนฺตรุหานํ วานตรูนํ เวตรูปรุกฺขานํ ราชีหิ ปนฺตีหิ ปฏิมณฺฑิเตติ อตฺโถ. ทิชานํ คณา ทิชคณา, นานา จ เต ทิชคณา จาติ นานาทิชคณา, เต ตโต ตโต อาคนฺตฺวา รมนฺติ เอตฺถาติ นานาทิชคณาราโม, ตสฺมึ, สุกโกกิลมยูราทิสกุณานํ อาคนฺตฺวา รมนฏฺานภูเตติ อตฺโถ. นานารามมโนรเมติ นานา อเนเก อารามา ปุปฺผผลารามา นานารามา, เตหิ มโนรโมติ นานารามมโนรโม, ตสฺมึ.

จารู จ เต ปงฺกชา จาติ จารุปงฺกชา, กมลุปฺปลกุมุทาทโย, จารุปงฺกเชหิ สํกิณฺณา สฺฉนฺนา จารุปงฺกชสํกิณฺณา, จารุปงฺกชสํกิณฺณา จ เต ตฬากา เจติ จารุปงฺกชสํกิณฺณตฬากา, เตหิ สมลงฺกโต วิภูสิโต จารุ…เป… สมลงฺกโต, ตสฺมึ. สุนฺทโร มธุโร รโส อสฺสาติ สุรสํ, สุรสฺจ ตํ อุทกฺจาติ สุรโสทกํ, สุรโสทเกน สมฺปุณฺณา สุรโสทกสมฺปุณฺณา, วรา จ เต กูปา จาติ วรกูปา, สุรโสทกสมฺปุณฺณา จ เต วรกูปา เจติ สุรโสทกสมฺปุณฺณวรกูปา, เตหิ อุปโสภิโต สุรโส…เป… กูปโสภิโต, ตสฺมึ.

วิเสเสน จิตฺราติ วิจิตฺรา, วิจิตฺรา จ เต วิปุลา จาติ วิจิตฺรวิปุลา, วิจิตฺรวิปุลา จ เต มณฺฑปา จาติ…เป… มณฺฑปา, อติสเยน อุคฺคตา อจฺจุคฺคตา, อจฺจุคฺคตา จ เต วรมณฺฑปา จาติ อจฺจุคฺควรมณฺฑปา, คาถาพนฺธวเสน วณฺณโลโป, วิจิตฺรวิปุลา จ เต อจฺจุคฺควรมณฺฑปา จาติ วิจิตฺรวิปุลอจฺจุคฺควรมณฺฑปา, เตหิ มณฺฑิโต วิภูสิโต วิจิตฺร…เป… มณฺฑิโต, ตสฺมึ. มณฺฑํ สูริยรสฺมึ ปาติ รกฺขตีติ มณฺฑโป. ตโต ตโต อาคมฺม วสนฺติ เอตฺถาติ อาวาโส, ปาสาทหมฺมิยมาฬาทโย. อเนเกหีติ พหูหิ. อจฺจนฺตนฺติ อติสเยน.

ธรณีตลํ เภตฺวา อุคฺคเตน วิย, ขรํ ผรุสํ เกลาสสิขรํ ชิตฺวา อวหสนฺเตน วิย ถูเปน จ อุปโสภิเต วิหาเรติ โยชนา.

อมฺพุํ ททาตีติ อมฺพุโท, สรเท อมฺพุโท สรทมฺพุโท, ถุลฺลนตมหนฺตภาวสามฺเน สรทมฺพุเทน สงฺกาโส สรทมฺพุทสงฺกาโส, ตสฺมึ. สมฺมา อุสฺสิโต อุคฺคโตติ สมุสฺสิโต, ตสฺมึ. โอโลเกนฺตานํ, วสนฺตานฺจ ปสาทํ จิตฺตสฺส โตสํ ชเนตีติ ปสาทชนนํ, ตสฺมึ. เอตฺตาวตา วินยวินิจฺฉยกถาย ปวตฺติตเทสํ ทสฺเสติ, ‘‘วสตา มยา’’ติ กตฺตารํ.

เทวทตฺตจิฺจมาณวิกาทีหิ กตาปราธสฺส, สีตุณฺหาทิปริสฺสยสฺส จ สหนโต, สสนฺตานคตกิเลสาทีนํ หนนโต จ สีโห วิยาติ สีโห, พุทฺโธ จ โส สีโห จาติ พุทฺธสีโห. เสฏฺปริยาโย วา สีห-สทฺโท, พุทฺธเสฏฺเนาติ อตฺโถ. วุตฺตสฺสาติ เทสิตสฺส. วินยสฺส วินยปิฏกสฺส. วินิจฺฉโยติ ปาาคโต เจว อฏฺกถาคโต จ อาจริยปรมฺปราภโต จ วินิจฺฉโย. พุทฺธสีหนฺติ เอวํนามกํ มหาเถรํ. สมุทฺทิสฺสาติ อุทฺทิสิตฺวา, เตน กตอายาจนํ ปฏิจฺจาติ วุตฺตํ โหติ. อิมินา พาหิรนิมิตฺตํ ทสฺสิตํ.

อยํ วินิจฺฉโย มม สทฺธิวิหาริกํ พุทฺธสีหํ สมุทฺทิสฺส ภิกฺขูนํ หิตตฺถาย สมาสโต วรปาสาเท วสตา มยา กโตติ โยชนา.

กิมตฺถายาติ อาห ‘‘วินยสฺสาวโพธตฺถํ, สุเขเนวาจิเรน จา’’ติ, อนุปาทิเสเสน นิพฺพานปริยนฺตานิสํสสฺส วินยปิฏกสฺส ปกรณสฺส คนฺถวเสน สมาเสตฺวา อตฺถวเสน สุฏฺุ วินิจฺฉิตตฺตา สุเขน เจว อจิเรน จ อวโพธนตฺถนฺติ วุตฺตํ โหติ. ภิกฺขูนนฺติ ปธานนิทสฺสนํ, เอกเสสนิทฺเทโส วา เหฏฺา –

‘‘ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนฺจ หิตตฺถาย สมาหิโต. ปวกฺขามี’’ติ (วิ. วิ. คนฺถารมฺภกถา ๒) –

อารทฺธตฺตา. อิมินา ปโยชนํ ทสฺสิตํ.

๓๑๗๙. เอวํ เทสกตฺตุนิมิตฺตปโยชนานิ ทสฺเสตฺวา กาลนิยมํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อจฺจุตา’’ติอาทิ. วิกฺกมนํ วิกฺกนฺโต, วิกฺกโมติ อตฺโถ. อจฺจุตํ เกนจิ อนภิภูตํ, ตฺจ ตํ วิกฺกนฺตฺจาติ อจฺจุตวิกฺกนฺตํ, อจฺจุตสฺส นารายนสฺส วิย อจฺจุตวิกฺกนฺตํ เอตสฺสาติ อจฺจุตจฺจุตวิกฺกนฺโต. โก โส? ราชา, ตสฺมึ. กลมฺภกุลํ นนฺทยตีติ กลมฺภกุลนนฺทโน, ตสฺมึ. อิมินา ตสฺส กุลวํโส นิทสฺสิโต. กลมฺภกุลวํสชาเต อจฺจุตจฺจุตวิกฺกนฺตนาเม โจฬราชินิ มหึ โจฬรฏฺํ สมนุสาสนฺเต สมฺมา อนุสาสนฺเต สติ ตสฺมึ โจฬราชินิ รชฺชํ กาเรนฺเต สติ อยํ วินิจฺฉโย มยา อารทฺโธ เจว สมาปิโต จาติ. อิมินา กาลํ นิทสฺเสติ.

๓๑๘๐. อิทานิ อิมํ วินยวินิจฺฉยปฺปกรณํ กโรนฺเตน อตฺตโน ปุฺสมฺปทํ สกลโลกหิตตฺถาย ปริณาเมนฺโต อาห ‘‘ยถา’’ติอาทิ. อยํ วินยวินิจฺฉโย อนฺตรายํ วินา ยถา สิทฺธึ นิปฺผตฺตึ ปตฺโต, ตถา สตฺตานํ ธมฺมสํยุตา กุสลนิสฺสิตา สงฺกปฺปา จิตฺตุปฺปาทา, อธิปฺเปตตฺถา วา สพฺเพ อนฺตรายํ วินา สิชฺฌนฺตุ นิปฺปชฺชนฺตูติ โยชนา.

๓๑๘๑. เตเนว ปุฺปฺผลภาเวน สกลโลกหิเตกเหตุโน ภควโต สาสนสฺส จิรฏฺิติมาสีสนฺโต อาห ‘‘ยาว ติฏฺตี’’ติอาทิ. ‘‘มนฺทาโร’’ติ วุจฺจติ สีตสินิทฺธเอกปพฺพตราชา. กํ วุจฺจติ อุทกํ, เตน ทาริโต นิคฺคมปฺปเทโส ‘‘กนฺทโร’’ติ วุจฺจติ. สีตสินิทฺธวิปุลปุลินตเลหิ, สนฺทมานสาตสีตลปสนฺนสลิเลหิ, กีฬมานนานปฺปการมจฺฉคุมฺเพหิ, อุภยตีรปุปฺผผลปลฺลวาลงฺกตตรุลตาวเนหิ, กูชมานสุกสาลิกกโอกิลมยูรหํสาทิสกุนฺตาภิรุเตหิ, ตตฺถ ตตฺถ ปริภมนฺตภมรามวชฺชาหิ จ จารุ มนุฺา กนฺทรา เอตสฺสาติ จารุกนฺทโร. กลิ วุจฺจติ อปราโธ, ตํ สาสติ หึสติ อปเนตีติ กลิสาสนํ. ‘‘กลุสาสน’’นฺติ วา ปาโ. กลุสํ วุจฺจติ ปาปํ, ตํ อสติ วิกฺขิปติ ทูรมุสฺสารยตีติ กลุสาสนํ, ปริยตฺติปฏิปตฺติปฏิเวธสงฺขาตํ ติวิธสาสนํ.

๓๑๘๒. เอวํ โอกสฺส ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺถหิตสาธกสฺส สาสนสฺส จิรฏฺิตึ ปตฺเถตฺวา เตเนว ปุฺกมฺมานุภาเวน โลกสฺส ทิฏฺธมฺมิกตฺถเหตุมาสีสนฺโต อาห ‘‘กาเล’’ติอาทิ. กาเลติ สสฺสสมิทฺธีนํ อนุรูเป กาเล. สมฺมา ปวสฺสนฺตูติ อวุฏฺิอติวุฏฺิโทสรหิตา ยถา สสฺสาทีนิ สมฺปชฺชนฺติ, ตถา วสฺสํ วุฏฺิธารํ ปวสฺสนฺตูติ อตฺโถ. วสฺสวลาหกาติ วสฺสวลาหกาธิฏฺิตา ปชฺชุนฺนเทวปุตฺตา. มหีปาลาติ ราชาโน. ธมฺมโตติ ทสราชธมฺมโต. สกลํ มหินฺติ ปถวินิสฺสิตสพฺพชนกายํ.

๓๑๘๓. เอวํ สพฺพโลกสฺส โลกิยโลกุตฺตรสมฺปตฺติสาธนตฺถาย อตฺตโน ปุฺปริณามํ กตฺวา อิทานิ วิทิตโลกุตฺตรสมฺปตฺตินิปฺผาทนวเสเนว ปุฺปริณามํ กโรนฺโต อาห ‘‘อิม’’นฺติอาทิ. อิมินา อตฺตโน วิรจิตํ ปจฺจกฺขํ วินิจฺฉยมาห. สารภูตนฺติ สีลสาราทิติวิธสิกฺขาสารสฺส ปกาสนโต หตฺถสารมิว ภูตํ. หิตนฺติ ตทตฺเถ ปฏิปชฺชนฺตานํ อนุปาทิเสสนิพฺพานาวสานสฺส หิตสฺส อาวหนโต, สํสารทุกฺขสฺส จ วูปสมนโต อมโตสธํ วิย หิตํ. อตฺถยุตฺตนฺติ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺถานํ วินยนาทีหิ ยุตฺตตฺตา อตฺถยุตฺตํ. กโรนฺเตนาติ รจยนฺเตน มยา. ยํ ปุฺํ ปตฺตนฺติ การกํ ปุนาตีติ ปุฺํ, ปุชฺชภวผลนิปฺผาทนโต วา ‘‘ปุฺ’’นฺติ สงฺขํ คตํ ยํ กุสลกมฺมํ อปริเมยฺยภวปริยนฺตํ ปสุตํ อธิคตํ. เตน ปุฺเน เหตุภูเตน. อยํ โลโกติ อยํ สกโลปิ สตฺตโลโก. มุนินฺทปฺปยาตนฺติ มุนินฺเทน สมฺมาสมฺพุทฺเธน สมฺปตฺตํ. วีตโสกนฺติ วิคตโสกํ. โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสอุปายาสาทีหิ วิคตตฺตา, เตสํ นิกฺกมนนิมิตฺตตฺตา จ อปคตโสกาทิสํสารทุกฺขํ. สิวํ ปุรํ นิพฺพานปุรํ ปาปุณาตุ สจฺฉิกโรตุ, กิเลสปรินิพฺพาเนน, อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา จ ปรินิพฺพาตูติ วุตฺตํ โหติ.

อิติ ตมฺพปณฺณิเยนาติอาทิ ปกรณการกสฺส ปภวสุทฺธิพาหุสจฺจาทิคุณมุเขน ปกรเณ คารวํ ชเนตุกาเมน เอตสฺส สิสฺเสน ปิตํ วากฺยํ.

ตตฺถ ตมฺพปณฺณิเยนาติ ตมฺพปณฺณิมฺหิ ชาโต, ตตฺถ วิทิโต, ตโต อาคโตติ วา ตมฺพปณฺณิโย, เตน. พฺยากรณมเวจฺจ อธีตวาติ เวยฺยากรโณ, ปรโม จ อุตฺตโม จ โส เวยฺยากรโณ จาติ ปรมเวยฺยากรโณ, เตน. ตีณิ ปิฏกานิ สมาหฏานิ, ติณฺณํ ปิฏกานํ สมาหาโร วา ติปิฏกํ, นียนฺติ พุชฺฌียนฺติ เสยฺยตฺถิเกหีติ นยา, นยนฺติ วา เอเตหิ โลกิยโลกุตฺตรสมฺปตฺตึ วิเสเสนาติ นยา, ปาฬินยอตฺถนยเอกตฺตนยาทโยว, ติปิฏเก อาคตา นยา ติปิฏกนยา, วิธานํ ปสาสนํ, ปวตฺตนํ วา วิธิ, ติปิฏกนยานํ วิธิ ติปิฏกนยวิธิ, ติปิฏกนยวิธิมฺหิ กุสโล ติปิฏกนยวิธิกุสโล, เตน.

ปรมา จ เต กวิชนา จาติ ปรมกวิชนา, ปรมกวิชนานํ หทยานิ ปรมกวิชนหทยานิ, ปทุมานํ วนานิ ปทุมวนานิ, ปรมกวิชนหทยานิ จ ตานิ ปทุมวนานิ จาติ ปรมกวิชนหทยปทุมวนานิ, เตสํ วิกสนํ โพธํ สูริโย วิย กโรตีติ ปรมกวิชนหทยปทุมวนวิกสนกโร, เตน. กวี จ เต วรา จาติ กวิวรา, กวีนํ วราติ วา กวิวรา, กวิวรานํ วสโภ อุตฺตโม กวิวรวสโภ, เตน, กวิราชราเชนาติ อตฺโถ.

ปรมา จ สา รติ จาติ ปรมรติ, ปรมรตึ กโรนฺตีติ ปรมรติกรานิ, วรานิ จ ตานิ มธุรานิ จาติ วรมธุรานิ, วรมธุรานิ จ ตานิ วจนานิ จาติ วรมธุรวจนานิ, ปรมรติกรานิ จ ตานิ วรมธุรวจนานิ จาติ ปรมรติกรวรมธุรวจนานิ, อุคฺคิรณํ กถนํ อุคฺคาโร, ปรมรติกรวรมธุรวจนานํ อุคฺคาโร เอตสฺสาติ ปรม…เป… วจนุคฺคาโร, เตน. อุรคปุรํ ปรมปเวณิคาโม อสฺส นิวาโสติ อุรคปุโร, เตน. พุทฺธทตฺเตนาติ เอวํนามเกน เถเรน, อาจริยพุทฺธทตฺตตฺเถเรนาติ อตฺโถ. อยํ วินยวินิจฺฉโย รจิโตติ สมฺพนฺโธ.

นิฏฺิตา จายํ วินยตฺถสารสนฺทีปนี นาม

วินยวินิจฺฉยวณฺณนา.

วินยวินิจฺฉย-ฏีกา สมตฺตา.

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส