📜
มหาวิภงฺคสงฺคหกถาวณฺณนา
๔. เอวํ โสตุชนํ สวเน นิโยเชตฺวา ยถาปฏิฺาตํ อุตฺตรวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เมถุน’’นฺติอาทิ. ‘‘กติ อาปตฺติโย’’ติ อยํ ทิฏฺสํสนฺทนา, อทิฏฺโชตนา, วิมติจฺเฉทนา, อนุมติ, กเถตุกมฺยตาปุจฺฉาติ ปฺจนฺนํ ปุจฺฉานํ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา. ติสฺโส อาปตฺติโย ผุเสติ ตสฺสา สงฺเขปโต วิสฺสชฺชนํ.
๕. เอวํ คณนาวเสน ทสฺสิตานํ ‘‘ภเว’’ติอาทิ สรูปโต ทสฺสนํ. เขตฺเตติ ติณฺณํ มคฺคานํ อฺตรสฺมึ อลฺโลกาเส ติลพีชมตฺเตปิ ปเทเส. เมถุนํ ปฏิเสวนฺตสฺส ปาราชิกํ ภเวติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ถุลฺลจฺจย’’นฺติ วุตฺตนฺติ โยชนา. ‘‘เยภุยฺยกฺขายิเต’’ติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ, อุปฑฺฒกฺขายิเตปิ ถุลฺลจฺจยสฺส เหฏฺา วุตฺตตฺตา. วฏฺฏกเต มุเข อผุสนฺตํ องฺคชาตํ ปเวเสนฺตสฺส ทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ โยชนา.
๖. ‘‘อทินฺนํ ¶ อาทิยนฺโต’’ติอาทโยปิ วุตฺตนยาเยว.
๗. ปฺจมาสคฺฆเน วาปีติ โปราณกสฺส นีลกหาปณสฺส จตุตฺถภาคสงฺขาเต ปฺจมาเส, ตทคฺฆนเก วา. อธิเก วาติ อติเรกปฺจมาสเก วา ตทคฺฆนเก วา. อทินฺเน ปฺจวีสติยา อวหารานํ อฺตเรน อวหเฏ ปราชโย โหตีติ อตฺโถ. มาเส วา อูนมาเส วา ตทคฺฆนเก วา ทุกฺกฏํ. ตโต มชฺเฌติ ปฺจมาสกโต มชฺเฌ. ปฺจ มาสา สมาหฏา, ปฺจนฺนํ มาสานํ สมาหาโรติ วา ปฺจมาสํ, ปฺจมาสํ อคฺฆตีติ ปฺจมาสคฺฆนํ, ปฺจมาสฺจ ปฺจมาสคฺฆนฺจ ปฺจมาสคฺฆนํ, เอกเทสสรูเปกเสโสยํ, ตสฺมึ. มาเส วาติ เอตฺถาปิ มาโส จ มาสคฺฆนกฺจ มาสมาสคฺฆนโกติ วตฺตพฺเพ ‘‘มาเส’’ติ เอกเทสสรูเปกเสโส, อุตฺตรปทโลโป จ ทฏฺพฺโพ.
‘‘ปฺจมาสคฺฆเน’’ติ สามฺเน วุตฺเตปิ โปราณกสฺส นีลกหาปณสฺเสว จตุตฺถภาควเสน ปฺจมาสนิยโม ¶ กาตพฺโพ. ตถา หิ ภควตา ทุติยปาราชิกํ ปฺาเปนฺเตน ภิกฺขูสุ ปพฺพชิตํ ปุราณโวหาริกมหามตฺตํ ภิกฺขุํ ‘‘กิตฺตเกน วตฺถุนา ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร โจรํ คเหตฺวา หนติ วา พนฺธติ วา ปพฺพาเชติ วา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา เตน ‘‘ปาเทน วา ปาทารเหน วา’’ติ วุตฺเต เตเนว ปมาเณน อทินฺนํ อาทิยนฺตสฺส ปฺตฺตํ. อฏฺกถายฺจ –
‘‘ปฺจมาสโก ปาโทติ ปาฬึ อุลฺลิงฺคิตฺวา ‘ตทา ราชคเห วีสติมาสโก กหาปโณ โหติ, ตสฺมา ¶ ปฺจมาสโก ปาโท’. เอเตน ลกฺขเณน สพฺพชนปเทสุ กหาปณสฺส จตุตฺโถ ภาโค ‘ปาโท’ติ เวทิตพฺโพ. โส จ โข โปราณกสฺส นีลกหาปณสฺส วเสน, น อิตเรสํ ทุทฺรทามกาทีนํ. เตน หิ ปาเทน อตีตา พุทฺธาปิ ปาราชิกํ ปฺเปสุํ, อนาคตาปิ ปฺเปสฺสนฺติ. สพฺพพุทฺธานฺหิ ปาราชิกวตฺถุมฺหิ วา ปาราชิเก วา นานตฺตํ นตฺถิ, อิมาเนว จตฺตาริ ปาราชิกวตฺถูนิ, อิมาเนว จตฺตาริ ปาราชิกานิ, อิโต อูนํ วา อติเรกํ วา นตฺถิ. ตสฺมา ภควาปิ ธนิยํ วิครหิตฺวา ปาเทเนว ทุติยปาราชิกํ ปฺเปนฺโต ‘โย ปน ภิกฺขุ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาต’นฺติอาทิมาหา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๘๘) วุตฺตํ.
สารตฺถทีปนิยฺจ –
‘‘จตุตฺโถ ภาโค ปาโทติ เวทิตพฺโพติ อิมินาว สพฺพชนปเทสุ กหาปณสฺเสว วีสติโม ภาโคมาสโกติ อิทฺจ วุตฺตเมว โหตีติ ทฏฺพฺพํ. โปราณสตฺถานุรูปํ ลกฺขณสมฺปนฺนา อุปฺปาทิตา นีลกหาปณาติ เวทิตพฺพา. ทุทฺรทาเมน อุปฺปาทิโต ทุทฺรทามโก. โส กิร นีลกหาปณสฺส ติภาคํ อคฺฆตี’ติ วตฺวา ‘ยสฺมึ ปเทเส นีลกหาปณา น สนฺติ, ตตฺถาปิ นีลกหาปณวเสเนว ปริจฺเฉโท กาตพฺโพ. กถํ? นีลกหาปณานํ วฬฺชนฏฺาเน จ อวฬฺชนฏฺาเน จ สมานอคฺฆวเสน ปวตฺตมานํ ภณฺฑํ นีลกหาปเณน สมานคฺฆํ คเหตฺวา ตสฺส จตุตฺถภาคคฺฆนกํ นีลกหาปณสฺส ปาทคฺฆนกนฺติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา วินิจฺฉโย กาตพฺโพ’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๘๘) อยมตฺโถว วุตฺโต.
เอตฺถ ¶ กหาปณํ นาม กโรนฺตา สุวณฺเณนปิ กโรนฺติ รชเตนปิ ตมฺเพนปิ สุวณฺณรชตตมฺพมิสฺสเกนปิ ¶ . เตสุ กตรํ กหาปณํ นีลกหาปณนฺติ? เกจิ ตาว ‘‘สุวณฺณกหาปณ’’นฺติ. เกจิ ‘‘มิสฺสกกหาปณ’’นฺติ. ตตฺถ ‘‘สุวณฺณกหาปณ’’นฺติ วทนฺตานํ อยมธิปฺปาโย – ปาราชิกวตฺถุนา ปาเทน สพฺพตฺถ เอกลกฺขเณน ภวิตพฺพํ, กาลเทสปริโภคาทิวเสน อคฺฆนานตฺตํ ปาทสฺเสว ภวิตพฺพํ. ภควตา หิ ธมฺมิกราชูหิ หนนพนฺธนปพฺพาชนานุรูเปเนว อทินฺนาทาเน ปาราชิกํ ปฺตฺตํ, น อิตรถา. ตสฺมา เอสา สพฺพทา สพฺพตฺถ อพฺยภิจารีติ สุวณฺณมยสฺส กหาปณสฺส จตุตฺเถน ปาเทน ภวิตพฺพนฺติ.
‘‘มิสฺสกกหาปณ’’นฺติ วทนฺตานํ ปน อยมธิปฺปาโย –
อฏฺกถายํ –
‘‘ตทา ราชคเห วีสติมาสโก กหาปโณ โหติ, ตสฺมา ปฺจมาสโก ปาโท. เอเตน ลกฺขเณน สพฺพชนปเทสุ กหาปณสฺส จตุตฺโถ ภาโค ‘ปาโท’ติ เวทิตพฺโพ. โส จ โข โปราณกสฺส นีลกหาปณสฺส วเสน, น อิตเรสํ ทุทฺรทามกาทีน’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๘๘) –
วุตฺตตฺตา, สารตฺถทีปนิยฺจ –
‘‘โปราณสตฺถานุรูปํ ลกฺขณสมฺปนฺนา อุปฺปาทิตา นีลกหาปณาติ เวทิตพฺพา’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๘๘) –
วุตฺตตฺตา จ ‘‘วินยวินิจฺฉยํ ปตฺวา ครุเก าตพฺพ’’นฺติ วจนโต จ มิสฺสกกหาปโณเยว นีลกหาปโณ. ตตฺเถว หิ โปราณสตฺถวิหิตํ ลกฺขณํ ทิสฺสติ. กถํ? ปฺจ ¶ มาสา สุวณฺณสฺส, ตถา รชตสฺส, ทส มาสา ตมฺพสฺสาติ เอเต วีสติ มาเส มิสฺเสตฺวา พนฺธนตฺถาย วีหิมตฺตํ โลหํ ปกฺขิปิตฺวา อกฺขรานิ จ หตฺถิอาทีนมฺตรฺจ รูปํ ทสฺเสตฺวา กโต นิทฺโทสตฺตา นีลกหาปโณ นาม โหตีติ.
สิกฺขาภาชนวินิจฺฉเย จ เกสุจิ โปตฺถเกสุ ‘‘ปาโท นาม ปฺจ มาสา สุวณฺณสฺสา’’ติ ปุริมปกฺขวาทีนํ ¶ มเตน ปาโ ลิขิโต. เกสุจิ โปตฺถเกสุ ทุติยปกฺขวาทีนํ มเตน ‘‘ปฺจ มาสา หิรฺสฺสา’’ติ ปาโ ลิขิโต. สีหฬภาสาย โปราณเกหิ ลิขิตาย สามเณรสิกฺขาย ปน –
‘‘โปราณกสฺส นีลกหาปณสฺสาติ วุตฺตอฏฺกถาวจนสฺส, โปราณเก รตนสุตฺตาภิธานกสุตฺเต วุตฺตกหาปณลกฺขณสฺส จ อนุรูปโต ‘สุวณฺณรชตตมฺพานิ มิสฺเสตฺวา อุฏฺาเปตฺวา กตกหาปณํ กหาปณํ นามา’ติ จ ‘สามเณรานมุปสมฺปนฺนานฺจ อทินฺนาทานปาราชิกวตฺถุมฺหิ โก วิเสโส’ติ ปุจฺฉํ กตฺวา ‘สามเณรานํ ทสิกสุตฺเตนาปิ ปาราชิโก โหติ, อุปสมฺปนฺนานํ ปน สุวณฺณสฺส วีสติวีหิมตฺเตนา’’ติ –
จ วิเสโส ทสฺสิโต.
ตํ ปน สุวณฺณมาสกวเสน อฑฺฒติยมาสกํ โหติ, ปฺจมาสเกน จ ภควตา ปาราชิกํ ปฺตฺตํ. ตสฺมา ตสฺส ยถาวุตฺตลกฺขณสฺส กหาปณสฺส สพฺพเทเสสุ อลพฺภมานตฺตา สพฺพเทสสาธารเณน ตสฺส มิสฺสกกหาปณสฺส ปฺจมาสปาทคฺฆนเกน สุวณฺเณเนว ปาราชิกวตฺถุมฺหิ นิยมิเต สพฺพเทสวาสีนํ อุปการาย โหตีติ เอวํ สุวณฺเณเนว ปาราชิกวตฺถุปริจฺเฉโท กโต. อยเมว นิยโม ¶ สีหฬาจริยวาเทหิ สาโรติ คหิโต. ตสฺมา สิกฺขาครุเกหิ สพฺพตฺถ เปสเลหิ วินยธเรหิ อยเมว วินิจฺฉโย สารโต ปจฺเจตพฺโพ. โหนฺติ เจตฺถ –
‘‘เหมรชตตมฺเพหิ, สตฺเถ นิทฺทิฏฺลกฺขณํ;
อหาเปตฺวา กโต วีส-มาโส นีลกหาปโณ.
เหมปาทํ สชฺฌุปาทํ, ตมฺพปาททฺวยฺหิ โส;
มิสฺเสตฺวา รูปมปฺเปตฺวา, กาตุํ สตฺเถสุ ทสฺสิโต.
‘เอลา’ติ วุจฺจเต โทโส, นิทฺโทสตฺตา ตถีริโต;
ตสฺส ปาโท สุวณฺณสฺส, วีสวีหคฺฆโน มโต.
ยสฺมึ ¶ ปน ปเทเส โส, น วตฺตติ กหาปโณ;
วีสโสวณฺณวีหคฺฆํ, ตปฺปาทคฺฆนฺติ เวทิยํ.
วีสโสวณฺณวีหคฺฆํ, เถเนนฺตา ภิกฺขโว ตโต;
จวนฺติ สามฺคุณา, อิจฺจาหุ วินยฺุโน’’ติ.
๙. โอปาตนฺติ อาวาฏํ. ทุกฺเข ชาเตติ โยชนา.
๑๐. อุตฺตรึ ธมฺมนฺติ เอตฺถ ‘‘อุตฺตริมนุสฺสธมฺม’’นฺติ วตฺตพฺเพ นิรุตฺตินเยน มชฺฌปทโลปํ, นิคฺคหีตาคมฺจ กตฺวา ‘‘อุตฺตรึ ธมฺม’’นฺติ วุตฺตํ. อุตฺตริมนุสฺสานํ ฌายีนฺเจว อริยานฺจ ธมฺมํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ. อตฺตุปนายิกนฺติ อตฺตนิ ตํ อุปเนติ ‘‘มยิ อตฺถี’’ติ สมุทาจรนฺโต, อตฺตานํ วา ตตฺถ อุปเนติ ‘‘อหํ เอตฺถ สนฺทิสฺสามี’’ติ สมุทาจรนฺโตติ อตฺตุปนายิโก, ตํ อตฺตุปนายิกํ, เอวํ กตฺวา วทนฺโตติ สมฺพนฺโธ.
๑๑. ปริยาเยติ ‘‘โย เต วิหาเร วสติ, โส ภิกฺขุ อรหา’’ติอาทินา (ปริ. ๒๘๗) ปริยายภณเน. าเตติ ยํ ¶ อุทฺทิสฺส ภณติ, ตสฺมึ วิฺุมฺหิ มนุสฺสชาติเก อจิเรน าเต. โน เจติ โน เจ ชานาติ.
อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา
ปาราชิกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๓. เจเตติ, อุปกฺกมติ, มุจฺจติ, เอวํ องฺคตฺตเย ปุณฺเณ ครุกํ วุตฺตํ. ทฺวงฺเค เจเตติ, อุปกฺกมติ ยทิ น มุจฺจติ, เอวํ องฺคทฺวเย ถุลฺลจฺจยนฺติ โยชนา. ปโยเคติ ปโยเชตฺวา อุปกฺกมิตุํ องฺคชาตามสนํ, ปรสฺส อาณาปนนฺติ เอวรูเป สาหตฺถิกาณตฺติกปโยเค.
๑๔. วุตฺตนเยเนว อุปรูปริ ปฺหาปุจฺฉนํ าตุํ สกฺกาติ ตํ อวตฺตุกาโม อาห ‘‘อิโต ปฏฺายา’’ติอาทิ. มยมฺปิ ยเทตฺถ ปุพฺเพ อวุตฺตมนุตฺตานตฺถฺจ, ตเทว วณฺณยิสฺสาม.
๑๕. กาเยนาติ ¶ อตฺตโน กาเยน. กายนฺติ อิตฺถิยา กายํ. เอส นโย ‘‘กายพทฺธ’’นฺติ เอตฺถาปิ.
๑๖. อตฺตโน กาเยน ปฏิพทฺเธน อิตฺถิยา กายปฏิพทฺเธ ผุฏฺเ ตุ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.
๑๗. ติสฺโส อาปตฺติโย สิยุนฺติ โยชนา. ทฺวินฺนํ มคฺคานนฺติ วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคานํ.
๑๘. วณฺณาทิภฺเติ วณฺณาทินา ภณเน. กายปฏิพทฺเธ วณฺณาทินา ภฺเ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.
๑๙. อตฺตกามจริยายาติ อตฺตกามปาริจริยาย.
๒๐. ปณฺฑกสฺส สนฺติเกปิ อตฺตกามปาริจริยาย วณฺณํ วทโต ตสฺส ภิกฺขุโนติ โยชนา. ติรจฺฉานคตสฺสาปิ สนฺติเกติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.
๒๑. อิตฺถิปุริสานมนฺตเร ¶ สฺจริตฺตํ สฺจรณภาวํ สมาปนฺเน ภิกฺขุมฺหิ ปฏิคฺคณฺหนวีมํสาปจฺจาหรณกตฺติเก สมฺปนฺเน ตสฺส พุโธ ครุกํ นิทฺทิเสติ โยชนา.
๒๒. ทฺวงฺคสมาโยเคติ ตีสฺเวเตสุ ทฺวินฺนํ องฺคานํ ยถากถฺจิ สมาโยเค. องฺเค สติ ปเนกสฺมินฺติ ติณฺณเมกสฺมึ ปน องฺเค สติ.
๒๔. ปโยเคติ ‘‘อเทสิตวตฺถุกํ ปมาณาติกฺกนฺตํ กุฏึ, อเทสิตวตฺถุกํ มหลฺลกวิหารฺจ กาเรสฺสามี’’ติ อุปกรณตฺถํ อรฺคมนโต ปฏฺาย สพฺพปโยเค. เอกปิณฺเฑ อนาคเตติ สพฺพปริยนฺติมํ ปิณฺฑํ สนฺธาย วุตฺตํ.
๒๕. อิธ โย ภิกฺขุ อมูลเกน ปาราชิเกน ธมฺเมน อนุทฺธํเสตีติ โยชนา.
๒๖. โอกาสํ ¶ น จ กาเรตฺวาติ ‘‘กโรตุ เม, อายสฺมา, โอกาสํ, อหํ เต วตฺตุกาโม’’ติ เอวํ เตน ภิกฺขุนา โอกาสํ อการาเปตฺวา.
๒๘. อฺภาคิเยติ อฺภาคิยปเทน อุปลกฺขิตสิกฺขาปเท. เอวํ อฺตฺรปิ อีทิเสสุ าเนสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๒๙. ‘‘สมนุภาสนาย เอวา’’ติ ปทจฺเฉโท. น ปฏินิสฺสชนฺติ อปฺปฏินิสฺสชนฺโต.
๓๐. ตฺติยา ทุกฺกฏํ อาปนฺโน สิยา, ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ ถุลฺลตํ อาปนฺโน สิยา, กมฺมวาจาย โอสาเน ครุกํ อาปนฺโน สิยาติ โยชนา. ‘‘ถุลฺลต’’นฺติ อิทํ ถุลฺลจฺจยาปตฺติอุปลกฺขณวจนํ.
๓๑. จตูสุ ¶ ยาวตติยเกสุ ปเม อาปตฺติปริจฺเฉทํ ทสฺเสตฺวา อิตเรสํ ติณฺณํ เตนปิ เอกปริจฺเฉทตฺตา ตตฺถ วุตฺตนยเมว เตสุ อติทิสนฺโต อาห ‘‘เภทานุวตฺตเก’’ติอาทิ.
อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา
สงฺฆาทิเสสกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓๒. อติเรกจีวรนฺติ อนธิฏฺิตํ, อวิกปฺปิตํ วิกปฺปนุปคปมาณํ จีวรํ ลทฺธา ทสาหํ อติกฺกมนฺโต เอกเมว นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ อาปชฺชติ. ติจีวเรน เอกรตฺติมฺปิ วินา วสนฺโต เอกเมว นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ อาปชฺชติ. อิทฺจ ชาติวเสน เอกตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ วตฺถุคณนาย อาปตฺตีนํ ปริจฺฉินฺทิตพฺพตฺตา.
๓๓. คเหตฺวากาลจีวรนฺติ อกาลจีวรํ ปฏิคฺคเหตฺวา. มาสนฺติ สติยา ปจฺจาสาย นิกฺขิปิตุํ อนฺุาตํ มาสํ. อติกฺกมนฺโตติ สติยาปิ ปจฺจาสาย วีติกฺกมนฺโต อนฺโตมาเส อนธิฏฺหิตฺวา, อวิกปฺเปตฺวา วา ตึสทิวสานิ อติกฺกมนฺโต, จีวรุปฺปาททิวสํ อรุณํ อาทึ กตฺวา เอกตึสมํ อรุณํ อุฏฺาเปนฺโตติ อตฺโถ. เอกํ นิสฺสคฺคิยํ อาปตฺตึ อาปชฺชตีติ อุทีริตนฺติ โยชนา.
๓๔. อฺาติกาย ¶ ภิกฺขุนิยา. ยํกิฺจิ ปุราณจีวรนฺติ เอกวารมฺปิ ปริภุตฺตํ สงฺฆาฏิอาทีนมฺตรํ จีวรํ.
๓๕. ปโยคสฺมินฺติ ‘‘โธวา’’ติอาทิเก ภิกฺขุโน อาณตฺติกปโยเค, เอวํ อาณตฺตาย จ ภิกฺขุนิยา อุทฺธนาทิเก สพฺพสฺมึ ปโยเค จ. ‘‘นิสฺสคฺคิยาว ปาจิตฺติ โหตีติ นิสฺสคฺคิยา ปาจิตฺติ จ โหตีติ โยชนา.
๓๖. ปฏิคณฺหโตติ ¶ เอตฺถ ‘‘อฺตฺร ปาริวตฺตกา’’ติ โยชนา.
๓๘. ปโยคสฺมินฺติ วิฺาปนปโยเค. วิฺาปิเตติ วิฺาปิตจีวเร ปฏิลทฺเธ.
๓๙. ภิกฺขูติ อจฺฉินฺนจีวโร วา นฏฺจีวโร วา ภิกฺขุ. ตทุตฺตรินฺติ สนฺตรุตฺตรปรมโต อุตฺตรึ.
๔๑. ปโยเคติ วิกปฺปนาปชฺชนปโยเค.
๔๒. ทุเวติ ทุกฺกฏปาจิตฺติยวเสน ทุเว อาปตฺติโย ผุเสติ โยเชตพฺพํ.
๔๔. ปโยเคติ อนฺุาตปโยคโต อติเรกาภินิปฺผาทนปโยเค. ลาเภติ จีวรสฺส ปฏิลาเภ.
กถินวคฺควณฺณนา ปมา.
๔๕. โกสิยวคฺคสฺส อาทีสุ ปฺจสุ สิกฺขาปเทสุ ทฺเว ทฺเว อาปตฺติโยติ โยชนา. ปโยเคติ กรณการาปนปโยเค. ลาเภติ กตฺวา วา กาเรตฺวา วา ปรินิฏฺาปเน.
๔๖. ‘‘คเหตฺวา เอฬกโลมานี’’ติ ปทจฺเฉโท. อติกฺกมนฺติ อติกฺกมนฺโต.
๔๗. อฺายาติ อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา. ‘‘โธวาเปติ เอฬโลมก’’นฺติ ปทจฺเฉโท. เอฬโลมกนฺติ ¶ เอฬกโลมานิ. นิรุตฺตินเยน ก-การสฺส วิปริยาโย. ปโยเคติ โธวาปนปโยเค.
๔๙. นานาการนฺติ ¶ นานปฺปการํ. สมาปชฺชนฺติ สมาปชฺชนฺโต ภิกฺขุ. สมาปนฺเนติ สํโวหาเร สมาปนฺเน สติ. ปโยเคติ สมาปชฺชนปโยเค.
๕๐. ปโยเคติ กยวิกฺกยาปชฺชนปโยเค. ตสฺมึ กเตติ ตสฺมึ ภณฺเฑ อตฺตโน สนฺตกภาวํ นีเต.
โกสิยวคฺควณฺณนา ทุติยา.
๕๑. อติเรกกนฺติ อนธิฏฺิตํ, อวิกปฺปิตํ วา ปตฺตํ. ทสาหํ อติกฺกเมนฺตสฺส ตสฺส ภิกฺขุโน เอกาว นิสฺสคฺคิยาปตฺติ โหตีติ โยชนา.
๕๒-๓. นตฺถิ เอตสฺส ปฺจ พนฺธนานีติ อปฺจพนฺธโน, ตสฺมึ, อูนปฺจพนฺธเน ปตฺเตติ อตฺโถ. ปโยเคติ วิฺาปนปโยเค. ตสฺส ปตฺตสฺส ลาเภ ปฏิลาเภ.
๕๖. ปโยเคติ อจฺฉินฺทนอจฺฉินฺทาปนปโยเค. หเฏติ อจฺฉินฺทิตฺวา คหิเต.
๕๗. ทฺเว ปนาปตฺติโย ผุเสติ วายาปนปโยเค ทุกฺกฏํ, วิกปฺปนุปคปจฺฉิมจีวรปมาเณน วีเต นิสฺสคฺคิยนฺติ ทฺเว อาปตฺติโย อาปชฺชตีติ อตฺโถ.
๕๘-๙. โย ปน ภิกฺขุ อปฺปวาริโต อฺาตกสฺเสว ตนฺตวาเย สเมจฺจ อุปสงฺกมิตฺวา จีวเร ¶ วิกปฺปํ อาปชฺชนฺโต โหติ. โสติ โส ภิกฺขุ. ทฺเว อาปตฺติโย อาปชฺชติ, น สํสโยติ โยชนา. ปโยเคติ วิกปฺปาปชฺชนปโยเค.
๖๐. อจฺเจกสฺิตํ ¶ จีวรํ ปฏิคฺคเหตฺวาติ โยชนา. กาลนฺติ จีวรกาลํ.
๖๑. ติณฺณมฺตรํ วตฺถนฺติ ติณฺณํ จีวรานํ อฺตรํ จีวรํ. ฆเรติ อนฺตรฆเร. นิทหิตฺวาติ นิกฺขิปิตฺวา. เตน จีวเรน วินา ฉารตฺตโต อธิกํ ทิวสํ ยสฺส อารฺกสฺส วิหารสฺส โคจรคาเม ตํ จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตมฺหา วิหารา อฺตฺร วสนฺโต นิสฺสคฺคิยํ ผุเสติ โยชนา.
๖๒. สงฺฆิกํ ลาภํ ปริณตํ ชานํ ชานนฺโต.
๖๓. ปโยเคติ ปริณามนปโยเค. สพฺพตฺถาติ ปาราชิกาทีสุ สพฺพสิกฺขาปเทสุ. อปฺปนาวารปริหานีติ ปริวาเร ปมํ วุตฺตกตฺถปฺตฺติวารสฺส ปริหาปนํ, อิธ อวจนนฺติ อตฺโถ, ตสฺส วารสฺส ปริวาเร สพฺพปมตฺตา ปมํ วตฺตพฺพภาเวปิ ตตฺถ วตฺตพฺพํ ปจฺฉา คณฺหิตุกาเมน มยา ตํ เปตฺวา ปมํ อาปตฺติทสฺสนตฺถํ ตทนนฺตโร กตาปตฺติวาโร ปมํ วุตฺโตติ อธิปฺปาโย.
ปตฺตวคฺควณฺณนา ตติยา.
อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา
ตึสนิสฺสคฺคิยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖๔. มนุสฺสุตฺตริธมฺเมติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม. อภูตสฺมึ อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม สมุลฺลปิเต ปราชโย ปาราชิกาปตฺติ.
๖๕. อมูลนฺติมวตฺถุนา อมูลเกน ปาราชิเกน ธมฺเมน ภิกฺขุํ โจทนาย ครุ สงฺฆาทิเสโส โหตีติ โยชนา. ปริยายวจเนติ ‘‘โย เต วิหาเร วสตี’’ติอาทินา (ปริ. ๒๘๗) ¶ ปริยาเยน กถเน. าเตติ ยสฺส กเถติ, ตสฺมึ วจนานนฺตรเมว าเต.
๖๖. โน ¶ เจ ปน วิชานาตีติ อถ ตํ ปริยาเยน วุตฺตํ วจนานนฺตรเมว สเจ น ชานาติ. สมุทาหฏนฺติ กถิตํ.
๖๗. โอมสโต ภิกฺขุสฺส ทุเว อาปตฺติโย วุตฺตา. อุปสมฺปนฺนํ โอมสโต ปาจิตฺติ สิยา. อิตรํ อนุปสมฺปนฺนํ โอมสโต ทุกฺกฏํ สิยาติ โยชนา.
๖๘. เปสฺุหรเณปิ ทฺเว อาปตฺติโย โหนฺติ.
๖๙. ปโยเคติ ปทโส ธมฺมํ วาเจนฺตสฺส วจนกิริยารมฺภโต ปฏฺาย ยาว ปทาทีนํ ปริสมาปนํ, เอตฺถนฺตเร อกฺขรุจฺจารณปโยเค ทุกฺกฏํ. ปทานํ ปริสมตฺติยํ ปาจิตฺติยํ.
๗๐. ‘‘ติรตฺตา อนุปสมฺปนฺนสหเสยฺยายา’’ติ ปทจฺเฉโท. อนุปสมฺปนฺเนน สหเสยฺยา อนุปสมฺปนฺนสหเสยฺยา, ตาย. ติรตฺตา อุตฺตรึ อนุปสมฺปนฺนสหเสยฺยายาติ โยชนา. ปโยเคติ สยนตฺถาย เสยฺยาปฺาปนกายาวชฺชนาทิปุพฺพปโยเค. ปนฺเนติ กายปสารณลกฺขเณน สยเนน นิปนฺเน.
๗๑. โย ปน ภิกฺขุ เอกรตฺติยํ มาตุคาเมน สหเสยฺยํ กปฺเปติ. ทุกฺกฏาทโยติ ‘‘ปโยเค ทุกฺกฏํ, นิปนฺเน ปาจิตฺติย’’นฺติ ยถาวุตฺตทฺเวอาปตฺติโย อาปชฺชตีติ โยชนา.
๗๒. ปโยเคติ ยถาวุตฺตลกฺขณปโยเค.
๗๓. อนุปสมฺปนฺเนติ ¶ สมีปตฺเถ เจตํ ภุมฺมํ. อนุปสมฺปนฺนสฺส สนฺติเก ภูตํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ โย สเจ อาโรเจตีติ โยชนา. ทุกฺกฏาทโยติ ยสฺส อาโรเจติ, โส นปฺปฏิวิชานาติ, ทุกฺกฏํ, ปฏิวิชานาติ, ปาจิตฺติยนฺติ เอวํ ทฺเว อาปตฺติโย ตสฺส โหนฺติ.
๗๔. อฺโต อฺสฺส อุปสมฺปนฺนสฺส ทุฏฺุลฺลสฺส อาปตฺตึ อนุปสมฺปนฺเน อนุปสมฺปนฺนสฺส สนฺติเก วทํ วทนฺโตติ โยชนา. ปโยเคติ อารมฺภโต ปฏฺาย ปุพฺพปโยเค ทุกฺกฏํ อาคจฺฉติ ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. อาโรจิเต ปาจิตฺติ สิยาติ โยชนา.
๗๕. ปโยเคติ ¶ ‘‘อกปฺปิยปถวึ ขณิสฺสามี’’ติ กุทาล ปริเยสนาทิสพฺพปโยเคติ.
มุสาวาทวคฺควณฺณนา ปมา.
๗๖. ปาเตนฺโตติ วิโกเปนฺโต. ตสฺสาติ ภูตคามสฺส. ปาเตติ วิโกปเน.
๗๗. อฺวาทกวิเหสกานํ เอกโยคนิทฺทิฏฺตฺตา ตตฺถ วุตฺตนเยเนว วิเหสเก จ าตุํ สกฺกาติ ตตฺถ วิสุํ อาปตฺติเภโท น วุตฺโต.
๗๘. ปรนฺติ อฺํ สงฺเฆน สมฺมตเสนาสนปฺาปกาทิกํ อุปสมฺปนฺนํ. อุชฺฌาเปนฺโตติ ตสฺส อยสํ อุปฺปาเทตุกามตาย ภิกฺขูหิ อวชานาเปตุํ ‘‘ฉนฺทาย อิตฺถนฺนาโม อิทํ นาม กโรตี’’ติอาทีนิ วตฺวา อวฺาย โอโลกาเปนฺโต, ลามกโต วา จินฺตาเปนฺโต. ปโยเคติ อุชฺฌาปนตฺถาย ตสฺส อวณฺณภณนาทิเก ปุพฺพปโยเค.
๘๓. สงฺฆิเก ¶ วิหาเร ปุพฺพูปคตํ ภิกฺขุํ ชานํ ชานนฺโต อนุปขชฺช เสยฺยํ กปฺเปติ, ตสฺเสวํ เสยฺยํ กปฺปยโตติ โยชนา. ปโยเคทุกฺกฏาทโยติ เอตฺถ อลุตฺตสมาโส. อาทิ-สทฺเทน เสยฺยากปฺปเน ปาจิตฺติยํ สงฺคณฺหาติ.
๘๔. ปโยเคติ ‘‘นิกฺกฑฺฒถ อิม’’นฺติอาทิเก อาณตฺติเก วา ‘‘ยาหิ ยาหี’’ติอาทิเก วาจสิเก วา หตฺเถน ตสฺส องฺคปรามสนาทิวเสน กเต กายิเก วา นิกฺกฑฺฒนปโยเค. เสสนฺติ ปาจิตฺติยํ.
๘๕. ‘‘เวหาสกุฏิยา อุปรี’’ติ ปทจฺเฉโท. อาหจฺจปาทเกติ เอตฺถ ‘‘มฺเจ วา ปีเ วา’’ติ เสโส. สีทนฺติ นิสีทนฺโต. ทุกฺกฏาทโยติ ปโยเค ทุกฺกฏํ, นิปชฺชาย ปาจิตฺติยนฺติ อิมา อาปตฺติโย ผุเสติ อตฺโถ.
๘๖. อสฺส ปชฺชสฺส ปมปาทํ ทสกฺขรปาทกํ ฉนฺโทวิจิติยํ วุตฺตคาถา, ‘‘คาถาฉนฺโท อตีตทฺวย’’นฺติ อิมินา ฉนฺโทวิจิติลกฺขเณน คาถาฉนฺทตฺตา อธิฏฺิตฺวา ทฺวตฺติปริยาเยติ เอตฺถ อกฺขรทฺวยํ ¶ อธิกํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ปโยเคติ อธิฏฺานปโยเค. อธิฏฺิเตติ ทฺวตฺติปริยายานํ อุปริ อธิฏฺาเน กเต.
๘๗. ปโยเคติ สิฺจนสิฺจาปนปโยเค. สิตฺเตติ สิฺจนกิริยปริโยสาเน.
ภูตคามวคฺควณฺณนา ทุติยา.
๘๘. ทุกฺกฏํ ผุเสติ โยชนา. โอวทิเต ปาจิตฺติ สิยาติ โยชนา.
๘๙. วิภาโคเยว ¶ วิภาคตา.
๙๐. อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา อฺตฺร ปาริวตฺตกา จีวรํ เทนฺโต ภิกฺขุ ทุเว อาปตฺติโย ผุเสติ โยชนา. ปโยเคติ ทานปโยเค.
๙๓. ‘‘นาวํ เอก’’นฺติ ปทจฺเฉโท. ปโยเคติ อภิรุหณปโยเค. ทุกฺกฏาทโยติ อาทิ-สทฺเทน อภิรุฬฺเห ปาจิตฺติยํ สงฺคณฺหาติ.
๙๔. ‘‘ทุวิธํ อาปตฺติ’’นฺติ ปทจฺเฉโท.
๙๖. ภิกฺขุนิยา สทฺธึ รโห นิสชฺชํ กปฺเปนฺโต ภิกฺขุ ปโยเคทุกฺกฏาทโย ทฺเวปิ อาปตฺติโย ผุเสติ โยชนา.
โอวาทวคฺควณฺณนา ตติยา.
๙๗. ตทุตฺตรินฺติ ตโต ภฺุชิตุํ อนฺุาตเอกทิวสโต อุตฺตรึ ทุติยทิวสโต ปฏฺาย. อนนฺตรสฺส วคฺคสฺสาติ โอวาทวคฺคสฺส. นวเมนาติ ภิกฺขุนิยา ปริปาจิตปิณฺฑปาตสิกฺขาปเทน.
๙๙. ทฺวตฺติปตฺเตติ ¶ ทฺวตฺติปตฺตปูเร. ตทุตฺตรินฺติ ทฺวตฺติปตฺตปูรโต อุตฺตรึ. ปโยเคติ ปฏิคฺคหณปโยเค.
๑๐๒. ตสฺสาติ อภิหรนฺตสฺส. ปิฏเกติ วินยปิฏเก.
๑๐๓. ทสเมปีติ เอตฺถ ‘‘ทสเม อปี’’ติ ปทจฺเฉโท.
โภชนวคฺควณฺณนา จตุตฺถา.
๑๐๔. อเจลกาทิโนติ ¶ อาทิ-สทฺเทน ‘‘ปริพฺพาชกสฺส วา ปริพฺพาชิกาย วา’’ติ (ปาจิ. ๒๗๐) วุตฺเต สงฺคณฺหาติ. โภชนาทิกนฺติ อาทิ-สทฺเทน ขาทนียํ สงฺคณฺหาติ. ปโยเคติ สหตฺถา ทานปโยเค.
๑๐๕. ทาเปตฺวา วา อทาเปตฺวา วา กิฺจิ อามิสํ. ปโยเคติ อุยฺโยชนปโยเค. ตสฺมินฺติ ตสฺมึ ภิกฺขุมฺหิ. อุยฺโยชิเต ปาจิตฺติ สิยาติ โยชนา.
๑๐๙. อุมฺมาราติกฺกเมติ อินฺทขีลาติกฺกเม.
๑๑๐. ตทุตฺตรินฺติ ตโต ปริจฺฉินฺนรตฺติปริยนฺตโต วา ปริจฺฉินฺนเภสชฺชปริยนฺตโต วา อุตฺตรึ.
๑๑๑. อุยฺยุตฺตํ ทสฺสนตฺถาย คจฺฉนฺโต ทฺเว อาปตฺติโย ผุเสติ โยชนา.
อเจลกวคฺควณฺณนา ปฺจมา.
๑๑๔. เมเรยฺยนฺติ เมรยํ. นิรุตฺตินเยน อ-การสฺส เอ-กาโร, ย-การสฺส จ ทฺวิตฺตํ. เมรย-สทฺทปริยาโย วา เมเรยฺย-สทฺโท. มุนีติ ภิกฺขุ.
๑๑๕. ‘‘ภิกฺขุ ¶ องฺคุลิปโตเทนา’’ติ ปทจฺเฉโท. ปโยเคติ หาสาปนปโยเค. ตสฺสาติ หาสาเปนฺตสฺส.
๑๑๖. โคปฺผกา เหฏฺา อุทเก ทุกฺกฏํ. โคปฺผกโต อุปริ อุปริโคปฺผกํ, อุทกํ, ตสฺมึ, โคปฺผกโต อธิกปฺปมาเณ อุทเกติ อตฺโถ.
๑๑๗. อนาทริยนฺติ ¶ ปุคฺคลานาทริยํ, ธมฺมานาทริยํ วา. ปโยเคติ อนาทริยวเสน ปวตฺเต กายปโยเค วา วจีปโยเค วา. กเต อนาทริเย.
๑๑๙. โชตินฺติ อคฺคึ. สมาทหิตฺวานาติ ชาเลตฺวา. ‘‘วิสิพฺเพนฺโต’’ติ อิมินา ผลูปจาเรน การณํ วุตฺตํ. วิสิพฺพนกิริยา หิ สมาทหนกิริยาย ผลนฺติ วิสิพฺพนกิริยาโวหาเรน สมาทหนกิริยาว. ตสฺมา วิสิพฺเพนฺโตติ เอตฺถ สมาทหนฺโตติ อตฺโถ. ปโยเคติ สมาทหนสมาทหาปนปโยเค. วิสีวิเตติ วุตฺตนเยน สมาทหิเตติ อตฺโถ.
๑๒๐. ปโยเคติ จุณฺณมตฺติกาภิสงฺขรณาทิสพฺพปโยเค. อิตรนฺติ ปาจิตฺติยํ.
๑๒๑. ติณฺณํ ทุพฺพณฺณกรณานนฺติ กํสนีลปตฺตนีลกทฺทมสงฺขาตานํ ติณฺณํ ทุพฺพณฺณกรณานํ. เอกํ อฺตรํ อนาทิย อทตฺวา. จีวรนฺติ นวจีวรํ.
๑๒๒. นตฺถิ เอตสฺส อุทฺธารนฺติ อนุทฺธาโร, ตํ อนุทฺธารนฺติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน รสฺสตฺตํ, อกตปจฺจุทฺธารนฺติ อตฺโถ.
๑๒๓. อปนิเธนฺโตติ อปเนตฺวา นิเธนฺโต นิกฺขิเปนฺโต. ปตฺตาทิกนฺติ อาทิ-สทฺเทน จีวรนิสีทนสูจิฆรกายพนฺธนานํ คหณํ. ปโยเคติ อปนิธานปโยเค. ตสฺมึ ปตฺตาทิเก ปฺจวิเธ ปริกฺขาเร. อปนิหิเต เสสา ปาจิตฺติยาปตฺติ สิยาติ โยชนา.
สุราปานวคฺควณฺณนา ฉฏฺา.
๑๒๔. ตโปธโนติ ¶ ¶ ปาติโมกฺขสํวรสีลสงฺขาตํ ตโปธนมสฺสาติ ตโปธโน, ภิกฺขุ.
๑๒๖. มนุสฺสวิคฺคโห มนุสฺสสรีโร. ติรจฺฉานคโต นาโค วา สุปณฺโณ วา. ตสฺส โอปาตขณกสฺส.
๑๒๗. ปฏุพุทฺธินาติ สพฺเพสุ เยฺยธมฺเมสุ นิปุนาเณน ภควตา.
๑๒๘. ปโยเคติ ปริโภคตฺถาย คหณาทิเก ปโยเค. ตสฺสาติ ภิกฺขุสฺส.
๑๒๙. อุกฺโกเฏนฺโตติ อุจฺจาเลนฺโต ยถาาเน าตุํ อเทนฺโต. ปโยเคติ อุกฺโกฏนปโยเค. อุกฺโกฏิเต ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา.
๑๓๐. ทุฏฺุลฺลํ วชฺชกนฺติ สงฺฆาทิเสสาทิเก. เอกํ ปาจิตฺติยํ อาปตฺตึ อาปชฺชติ อิติ ทีปิตนฺติ โยชนา.
๑๓๑. ปโยเคติ คณปริเยสนาทิปโยเค. ทุกฺกฏํ ปตฺโต สิยา ทุกฺกฏาปตฺตึ อาปนฺโน ภเวยฺยาติ อตฺโถ. เสสาติ ปาจิตฺติยาปตฺติ อุปสมฺปาทิเต สิยา. คาถาพนฺธวเสน อุปสคฺคโลโป.
๑๓๒-๓. ชานํ เถยฺยสตฺเถน สห สํวิธาย มคฺคํ ปฏิปชฺชโต จ ตเถว มาตุคาเมน สห สํวิธาย มคฺคํ ปฏิปชฺชโต จาติ โยชนา. ปโยเคติ สํวิธาย คนฺตุํ ปฏิปุจฺฉาทิกรณปโยเค. ปฏิปนฺเนติ มคฺคปฏิปนฺเน. อนนฺตรนฺติ อทฺธโยชนคามนฺตราติกฺกมนานนฺตรํ.
๑๓๔. ตฺติยา โอสาเน ทุกฺกฏํ ผุเสติ โยชนา.
๑๓๕. อกตานุธมฺเมนาติ ¶ ¶ อนุธมฺโม วุจฺจติ อาปตฺติยา อทสฺสเน วา อปฺปฏิกมฺเม วา ปาปิกาย ทิฏฺิยา อปฺปฏินิสฺสคฺเค วา ธมฺเมน วินเยน สตฺถุสาสเนน อุกฺขิตฺตกสฺส อนุโลมวตฺตํ ทิสฺวา กตฺวา โอสารณา, โส โอสารณสงฺขาโต อนุธมฺโม ยสฺส น กโต, อยํ อกตานุธมฺโม นาม, ตาทิเสน ภิกฺขุนา สทฺธินฺติ อตฺโถ. สมฺภฺุชนฺโตติ อามิสสมฺโภคํ กโรนฺโต ภิกฺขุ. ปโยเคติ ภฺุชิตุํ อามิสปฏิคฺคหณาทิปโยเค. ภุตฺเตติ สมฺภุตฺเต, อุภยสมฺโภเค, ตทฺตเร วา กเตติ อตฺโถ.
๑๓๖. อุปลาเปนฺโตติ ปตฺตจีวรอุทฺเทสปริปุจฺฉนาทิวเสน สงฺคณฺหนฺโต. ปโยเคติ อุปลาปนปโยเค.
สปฺปาณกวคฺควณฺณนา สตฺตมา.
๑๓๗. สหธมฺมิกนฺติ กรณตฺเถ อุปโยควจนํ, ปฺจหิ สหธมฺมิเกหิ สิกฺขิตพฺพตฺตา, เตสํ วา สนฺตกตฺตา ‘‘สหธมฺมิก’’นฺติ ลทฺธนาเมน พุทฺธปฺตฺเตน สิกฺขาปเทน วุจฺจมานสฺสาติ อตฺโถ. ภณโตติ ‘‘ภิกฺขุสฺสา’’ติ อิมินา สมานาธิกรณํ.
๑๓๘. วิวณฺเณนฺโตติ ‘‘กึ ปนิเมหิ ขุทฺทานุขุทฺทเกหิ สิกฺขาปเทหิ อุทฺทิฏฺเหี’’ติอาทินา ครหนฺโต. ปโยเคติ ‘‘กึ อิเมหี’’ติอาทินา ครหณวเสน ปวตฺเต วจีปโยเค. วิวณฺณิเต ครหิเต.
๑๓๙. โมเหนฺโตติ ‘‘อิทาเนว โข อหํ, อาวุโส, ชานามี’’ติอาทินา อตฺตโน อชานนตฺเตน อาปนฺนภาวํ ทีเปตฺวา ภิกฺขุํ โมเหนฺโต, วฺเจนฺโตติ อตฺโถ. โมเหติ โมหาโรปนกมฺเม. อโรปิเต กเต.
๑๔๐. ภิกฺขุสฺส ¶ กุปิโต ปหารํ เทนฺโต ผุเสติ โยชนา. ปโยเคติ ทณฺฑาทานาทิปโยเค.
๑๔๑. ปโยเคติ อุคฺคิรณปโยเค. อุคฺคิริเตติ อุจฺจาริเต.
๑๔๒. อมูเลเนวาติ ¶ ทิฏฺาทิมูลวิรหิเตเนว. โยเคติ โอกาสการาปนาทิปโยเค. อุทฺธํสิเตติ โจทิเต.
๑๔๓. กุกฺกุจฺจํ ชนยนฺโตติ ‘‘อูนวีสติวสฺโส ตฺวํ มฺเ อุปสมฺปนฺโน’’ติอาทินา กุกฺกุจฺจํ อุปทหนฺโต. โยเคติ กุกฺกุจฺจุปฺปาทนปโยเค. อุปฺปาทิเตติ กุกฺกุจฺเจ อุปฺปาทิเต.
๑๔๔. ‘‘ติฏฺนฺโต อุปสฺสุติ’’นฺติ ปทจฺเฉโท. สุติยา สมีปํ อุปสฺสุติ, สวนูปจาเรติ อตฺโถ.
๑๔๕. ธมฺมิกานํ ตุ กมฺมานนฺติ ธมฺเมน วินเยน สตฺถุสาสเนน กตานํ อปโลกนาทีนํ จตุนฺนํ กมฺมานํ. ตโต ปุนาติ ฉนฺททานโต ปจฺฉา. ขียนธมฺมนฺติ อตฺตโน อธิปฺเปตภาววิภาวนมนฺตนํ. ทฺเว ผุเส ทุกฺกฏาทโยติ ขียนธมฺมาปชฺชนปโยเค ทุกฺกฏํ, ขียนธมฺเม อาปนฺเน ปาจิตฺติยนฺติ เอวํ ทุกฺกฏาทโย ทฺเว อาปตฺติโย อาปชฺเชยฺยาติ อตฺโถ.
๑๔๖. สงฺเฆ สงฺฆมชฺเฌ. วินิจฺฉเยติ วตฺถุโต โอติณฺณวินิจฺฉเย. นิฏฺํ อคเตติ วตฺถุมฺหิ อวินิจฺฉิเต, ตฺตึ เปตฺวา กมฺมวาจาย วา อปริโยสิตาย.
๑๔๘. สมคฺเคน สงฺเฆนาติ สมานสํวาสเกน สมานสีมายํ ิเตน สงฺเฆน.
สหธมฺมิกวคฺควณฺณนา อฏฺมา.
๑๕๐. อวิทิโต ¶ หุตฺวาติ รฺโ อวิทิตาคมโน หุตฺวา.
๑๕๒. รตนนฺติ มุตฺตาทิทสวิธํ รตนํ. ปโยเคติ รตนคฺคหณปโยเค.
๑๕๓. วิกาเลติ มชฺฌนฺติกาติกฺกมโต ปฏฺาย อรุเณ.
๑๕๕. อฏฺิทนฺตวิสาณาภินิพฺพตฺตนฺติ อฏฺิทนฺตวิสาณมยํ. ปโยเคติ การาปนปโยเค.
๑๕๖. ตสฺมึ ¶ มฺจาทิมฺหิ การาปิเต เสสา ปาจิตฺติยาปตฺติ สิยาติ โยชนา.
รตนวคฺควณฺณนา นวมา.
อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา
ปาจิตฺติยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๕๙. จตูสุ ปาฏิเทสนีเยสุปิ อวิเสเสน อาทิจฺจพนฺธุนา พุทฺเธน ทฺวิธา อาปตฺติ นิทฺทิฏฺาติ โยชนา.
๑๖๐. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ จตูสุ.
ปาฏิเทสนียกถาวณฺณนา.
เสขิยกถาวณฺณนา.
๑๖๒. ปริวาเร ปมํ ทสฺสิตโสฬสวารปฺปเภเท มหาวิภงฺเค ‘‘ปมํ ปาราชิกํ กตฺถ ปฺตฺต’’นฺติอาทิปฺปเภโท (ปริ. ๑) กตฺถปฺตฺติวาโร ¶ , ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺโต กติ อาปตฺติโย อาปชฺชตี’’ติอาทิปฺปเภโท (ปริ. ๑๕๗) กตาปตฺติวาโร, ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส อาปตฺติโย จตุนฺนํ วิปตฺตีนํ กติ วิปตฺติโย ภชนฺตี’’ติอาทิปฺปเภโท (ปริ. ๑๘๒) วิปตฺติวาโร, ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส อาปตฺติโย สตฺตนฺนํ อาปตฺติกฺขนฺธานํ กติหิ อาปตฺติกฺขนฺเธหิ สงฺคหิตา’’ติอาทิปฺปเภโท (ปริ. ๑๘๒) สงฺคหวาโร, ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส อาปตฺติโย ฉนฺนํ อาปตฺติสมุฏฺานานํ กติหิ สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺหนฺตี’’ติอาทิปฺปเภโท (ปริ. ๑๘๔) สมุฏฺานวาโร, ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส อาปตฺติโย จตุนฺนํ อธิกรณานํ กตมํ อธิกรณ’’นฺติอาทิปฺปเภโท (ปริ. ๑๘๕) อธิกรณวาโร, ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส อาปตฺติโย สตฺตนฺนํ สมถานํ กติหิ สมเถหิ สมฺมนฺตี’’ติอาทิปฺปเภโท (ปริ. ๑๘๖) สมถวาโร, ตทนนฺตโร อิเมหิ สตฺตหิ วาเรหิ มิสฺโส ¶ อฏฺโม สมุจฺจยวาโรติ อิเมสุ อฏฺสุ วาเรสุ อาทิภูเต กตฺถปฺตฺตินามเธยฺเย อปฺปนาวาเร สงฺคเหตพฺพานํ นิทานาทิสตฺตรสลกฺขณานํ อุภยวิภงฺคสาธารณโต อุปริ วกฺขมานตฺตา ตํ วารํ เปตฺวา ตทนนฺตรํ อสาธารณํ กตาปตฺติวารํ เสขิยาวสานํ ปาฬิกฺกมานุรูปํ ทสฺเสตฺวา ตทนนฺตรา วิปตฺติวาราทโย ฉ วารา อุภยวิภงฺคสาธารณโต วกฺขมานาติ กตฺวา เตปิ เปตฺวา อิเม ปจฺจยสทฺเทน อโยเชตฺวา ทสฺสิตา อฏฺเว วารา, ปุน ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนปจฺจยา ปาราชิกํ กตฺถ ปฺตฺต’’นฺติอาทินา (ปริ. ๑๘๘) ปจฺจย-สทฺทํ โยเชตฺวา ทสฺสิตา อปเร อฏฺ วารา โยชิตาติ ตตฺถาปิ ทุติยํ กตาปตฺติปจฺจยวารํ อิมินา กตาปตฺติวาเรน เอกปริจฺเฉทํ กตฺวา ทสฺเสตุมาห ‘‘ปฺตฺตา’’ติอาทิ. ปฏิเสวนปจฺจยาติ ปฏิเสวนเหตุนา.
๑๖๓. อลฺโลกาสปฺปเวสเนติ ¶ ชีวมานสรีเร ติณฺณํ มคฺคานํ อฺตรสฺมึ มคฺเค อลฺโลกาสปฺปเวสเน. มเต อกฺขายิเต วา ปิ-สทฺเทน เยภุยฺยอกฺขายิเต ปเวสเน ปเวสนนิมิตฺตํ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺโต ภิกฺขุ ปาราชิกํ ผุเสติ สมฺพนฺโธ.
๑๖๔. ตถา เยภุยฺยกฺขายิเต, อุปฑฺฒกฺขายิเต จ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺโต ภิกฺขุ ถุลฺลจฺจยํ ผุเสติ โยชนา. วฏฺฏกเต มุเข ทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. ชตุมฏฺเกติ ภิกฺขุนิยา ชตุมฏฺเก ทินฺเน ปาจิตฺติ วุตฺตาติ สมฺพนฺโธ.
๑๖๖. อวสฺสุตสฺสาติ กายสํสคฺคราเคน ตินฺตสฺส. โปสสฺสาติ คหณกิริยาสมฺพนฺเธ สามิวจนํ. ภิกฺขุนิยาติ อตฺตสมฺพนฺเธ สามิวจนํ. ‘‘อตฺตโน’’ติ เสโส. อวสฺสุเตน โปเสน อตฺตโน อธกฺขกาทิคหณํ สาทิยนฺติยา ตถา อวสฺสุตาย ภิกฺขุนิยา ปาราชิกนฺติ โยชนา.
๑๖๗. กาเยนาติ อตฺตโน กาเยน. กายนฺติ มาตุคามสฺส กายํ. ผุสโตติ กายสํสคฺคราเคน ผุสโต. กาเยน กายพทฺธนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.
๑๖๘. กาเยน ปฏิพทฺเธนาติ อตฺตโน กายปฏิพทฺเธน. ปฏิพทฺธนฺติ อิตฺถิยา กายปฏิพทฺธํ ผุสนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. ตสฺส ภิกฺขุสฺส.
‘‘มหาวิภงฺคสงฺคโห ¶ นิฏฺิโต’’ติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ โสฬสวารสงฺคเห มหาวิภงฺเค กตาปตฺติวาโรเยเวตฺถ วุตฺโต, น อิตเร วาราติ? สจฺจํ, อวยเว ปน สมุทาโยปจาเรน วุตฺตํ. สาธารณาสาธารณานํ มหาวิภงฺเค ¶ คตานํ สพฺพาปตฺติปเภทานํ ทสฺสโนปจารภูโต กตาปตฺติวาโร ทสฺสิโตติ ตํทสฺสเนน อปฺปธานา อิตเรปิ วารา อุปจารโต ทสฺสิตา โหนฺตีติ จ ตถา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา
มหาวิภงฺคสงฺคหวณฺณนา นิฏฺิตา.