📜
เอกุตฺตรนยกถาวณฺณนา
๔๒๔. อิโต ปรนฺติ อิโต สมุฏฺานวินิจฺฉยกถาย ปรํ. ปรนฺติ อุตฺตมํ. เอกุตฺตรํ นยนฺติ เอเกกองฺคาติเรกตาย เอกุตฺตรสงฺขาตํ เอกกทุกาทินยํ.
๔๒๕-๗. เก อาปตฺติกรา ธมฺมา…เป… กา จาเทสนคามินีติ เอเกกปฺหวเสน อุตฺตานตฺโถเยว.
๔๒๘. สมุฏฺานานีติ อาทิโก ¶ วิสฺสชฺชนสงฺขาโต อุตฺตรวาโท. ตตฺถ สมุฏฺานานิ…เป… ทีปิตาติ ยสฺมา เอเตสํ วเสน ปุคฺคโล อาปตฺตึ กโรติ อาปชฺชติ, ตสฺมา ‘‘อาปตฺติกรา’’ติ วุตฺตา.
๔๒๙. ตตฺถาติ ตาสุ อาปตฺตีสุ. ลหุกาติ ลหุเกน วินยกมฺเมน วิสุชฺฌนโต ลหุกา. ครุเกน วินยกมฺเมน วิสุชฺฌนโต สงฺฆาทิเสสาปตฺติ, เกนจิ อากาเรน อนาปตฺติภาวํ อุปเนตุํ อสกฺกุเณยฺยโต ปาราชิกาปตฺติ จ ครุกาปตฺติ นาม, ตา ปน ลหุกาสุ วุตฺตาสุ ตพฺพิปริยายโต าตุํ สกฺกาติ วิสฺสชฺชเน วิสุํ น วุตฺตา.
๔๓๑. ทุฏฺุํ กุจฺฉิตภาวํ ปรมเชคุจฺฉํ นินฺทนียภาวํ อุลติ คจฺฉตีติ ทุฏฺุลฺลํ, ปาราชิกสงฺฆาทิเสสํ. เตนาห ‘‘ทุวิธาปตฺติ อาทิโต’’ติ.
๔๓๒. ปฺจานนฺตริยสํยุตฺตาติ ¶ มาตุฆาตกปิตุฆาตกอรหนฺตฆาตเกหิ อาปนฺนา มนุสฺสวิคฺคหปาราชิกาปตฺติ จ โลหิตุปฺปาทกสงฺฆเภทกานํ อภพฺพตาเหตุกา กายวจีทฺวารปฺปวตฺตา อกุสลเจตนาสงฺขาตา ปาราชิกา จ อนนฺตรเมว อปายุปฺปตฺติเหตุตาย อิเม ปฺจ อนนฺตรสํยุตฺตา นาม. ตา ปน มิจฺฉตฺตนิยเตสุ อนฺโตคธตฺตา ‘‘นิยตา’’ติ วุตฺตา.
ปริวาเร (ปริ. ๓๒๑) ปน อฺเปิ อนฺตรายิกาที พหู เอกกา ทสฺสิตา, เต ปน คนฺถภีรุกชนานุคฺคเหน อาจริเยน อิธ น ทสฺสิตา. อตฺถิเกหิ ปริวาเรเยว (ปริ. ๓๒๑) คเหตพฺพา. เอตฺถ จ สตฺตปิ อาปตฺติโย สฺจิจฺจ วีติกฺกนฺตา สคฺคนฺตรายฺเจว โมกฺขนฺตรายฺจ กโรนฺตีติ อนฺตรายิกา. อชานนฺเตน วีติกฺกนฺตา ปน ปณฺณตฺติวชฺชาปตฺติ เนว สคฺคนฺตรายํ, น โมกฺขนฺตรายํ ¶ กโรตีติ อนนฺตรายิกา. อนฺตรายิกํ อาปนฺนสฺสปิ เทสนาคามินึ เทเสตฺวา วุฏฺานคามินิโต วุฏฺาย สุทฺธิปตฺตสฺส, สามเณรภูมิยํ ิตสฺส จ อวาริโต สคฺคมคฺคโมกฺขมคฺโคติ.
เอกกกถาวณฺณนา.
๔๓๕. อทฺธวิหีโน นาม อูนวีสติวสฺโส. องฺควิหีโน นาม หตฺถจฺฉินฺนาทิเภโท. วตฺถุวิปนฺโน นาม ปณฺฑโก, ติรจฺฉานคโต, อุภโตพฺยฺชนโก จ. อวเสสา เถยฺยสํวาสกาทโย อฏฺ อภพฺพฏฺานปฺปตฺตา ทุกฺกฏการิโน นาม, อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว ทุกฺกเฏน อตฺตโน กมฺเมน อภพฺพฏฺานปฺปตฺตาติ อตฺโถ. อปริปุณฺโณติ อปริปุณฺณปตฺตจีวโร. โน ยาจตีติ อุปสมฺปนฺนํ น ยาจติ. ปฏิสิทฺธาติ ‘‘ทฺเว ปุคฺคลา น อุปสมฺปาเทตพฺพา’’ติอาทินา (ปริ. ๓๒๒) วาริตา.
๔๓๖. หเวติ เอกํสตฺเถ นิปาโต. ลทฺธสมาปตฺติสฺส ภิกฺขุโน ทีปิตา อาปตฺติ อตฺถิ หเว อตฺเถว. โน ลทฺธสมาปตฺติสฺสาติ อลทฺธสมาปตฺติสฺส ทีปิตา อาปตฺติ อตฺเถวาติ โยชนา.
๔๓๗. ภูตสฺสาติ อตฺตนิ สนฺตสฺส อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส. อภูตาโรจนาปตฺตีติ จตุตฺถปาราชิกาปตฺติ. อสมาปตฺติลาภิโน นิทฺทิเสติ โยชนา.
๔๓๘. ‘‘อตฺถิ ¶ สทฺธมฺมสํยุตฺตา’’ติอาทีสุ อตฺถิ-สทฺโท ปจฺจตฺเตกวจนนฺเตหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ.
๔๓๙. ปทโสธมฺมมูลาทีติ อาทิ-สทฺเทน ‘‘อุตฺตริฉปฺปฺจวาจาธมฺมเทสนา’’ติ อาปตฺตีนํ คหณํ.
๔๔๐. โภเคติ ¶ ปริโภเค. ‘‘สปริกฺขารสํยุตา’’ติ อิทฺจ นิทสฺสนมตฺตํ. ‘‘ปตฺตจีวรานํ นิสฺสชฺชเน, กิลิฏฺจีวรานํ อโธวเน, มลคฺคหิตปตฺตสฺส อปจเน’’ติ เอวมาทิกา อยุตฺตปริโภคา อาปตฺติโยปิ สกปริกฺขารสํยุตฺตาเยว.
๔๔๑. มฺจปีาทินฺติ อาทิ-สทฺเทน ภิสิอาทีนํ คหณํ. อชฺโฌกาสตฺถเรปิ จาติ อชฺโฌกาเส อตฺถเร อตฺถราปเน สติ. อนาปุจฺฉาว คมเนติ อนาปุจฺฉิตฺวา วา คมเน. วา-สทฺเทน อนุทฺธริตฺวา วา อนุทฺธราเปตฺวา วา คมนํ สงฺคณฺหาติ. ปรสนฺตกสํยุตาติ ปรปริกฺขารปฏิพทฺธา.
๔๔๓. ‘‘สิขรณีสี’’ติ ยํ วจนํ สจฺจํ, ตํ ภณโต ครุกํ ทุฏฺุลฺลวาจาสงฺฆาทิเสโส สิยาติ โยชนา.
๔๔๕. ครุกาปตฺตีติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมปาราชิกาปตฺติ. ภูตสฺสาโรจเนติ ภูตสฺส อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส อนุปสมฺปนฺนสฺส อาโรจเน. สจฺจํ วทโตติ สจฺจํ วจนํ วทนฺตสฺส. ลหุกาติ ปาจิตฺติยาปตฺติ.
๔๔๗. วิโกเปตุนฺติ วคฺคกรเณน วิโกเปตุํ. หตฺถปาสํ ชหนฺติ อนฺโตสีมาย เอว หตฺถปาสํ ชหนฺโต, หตฺถปาสํ ชหิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทนฺโตติ อตฺโถ. ผุเสติ ภูมิคโต ผุเสยฺย.
๔๔๘. เวหาสกุฏิยา อุปริ อาหจฺจปาทกํ มฺจํ วา ปีํ วา อภินิสีทนฺโต เวหาสคโต ¶ อาปชฺชตีติ โยชนา. สเจ ตํ ภูมิยํ ปฺเปตฺวา นิสชฺเชยฺย, น อาปชฺเชยฺย. เตน วุตฺตํ ‘‘น ภูมิโต’’ติ.
๔๔๙. ปวิสนฺโตติ อารามํ ปวิสนฺโต. นิกฺขมนฺติ ตโต เอว นิกฺขมนฺโต. ตนฺติ อารามํ.
๔๕๐. วตฺตมปูเรตฺวานาติ ¶ สีสโต ฉตฺตาปนยนํ, ปาทโต อุปาหนามฺุจนวตฺตํ อกตฺวา. นิกฺขมนฺติ พหิ นิกฺขมนฺโต ฉตฺตุปาหนํ ธาเรนฺโตปิ น อาปชฺชติ.
๔๕๑. ‘‘นิกฺขมนฺโต’’ติ อิทํ ‘‘นิกฺขม’’นฺติ เอตสฺส อตฺถปทํ. ปวิสํ น จาติ ยํ อารามํ สนฺธาย คโต, ตํ ปวิสนฺโต น อาปชฺเชยฺย.
๔๕๓. ยา กาจิ ภิกฺขุนี อติคมฺภีรํ อุทกสุทฺธิกํ อาทิยนฺตี อาปตฺตึ อาปชฺชตีติ โยชนา.
๔๕๗. วตฺตํ ปนตฺตโนติ ยํ อตฺตโน เนตฺถารวตฺตํ วุตฺตํ, โส ตํ อสมาทิยนฺโตว อาปชฺชติ นามาติ โยชนา.
๔๖๐. อิตรสฺส อาจริยสฺส, ตถา สทฺธิวิหาริกสฺส จ.
๔๖๒. ททมาโนติ ปาริวตฺตกํ วินา ททมาโน.
๔๖๓. มุทูติ มุทุปิฏฺิโก. ‘‘ลมฺพีอาทิโน’’ติ ปทจฺเฉโท. อาทิ-สทฺเทน ‘‘หตฺเถน อุปกฺกมิตฺวา อสุจึ โมเจนฺตสฺส, อูรุนา องฺคชาตํ เปลฺลนฺตสฺส, อตฺตานํ วธิตฺวา วธิตฺวา โรทนฺติยา ภิกฺขุนิยา อาปตฺตี’’ติ เอวมาทีนํ สงฺคโห. อตฺตาติ เอตฺถ นิสฺสิตาติ อุตฺตรปทโลโป, วิภตฺติโลโป จ นิรุตฺติลกฺขเณน ทฏฺพฺโพ. เสสาติ เมถุนธมฺมกายสํสคฺคปหารทานาทีสุ วุตฺตาปตฺติ. ปรนิสฺสิตาติ ปรํ นิสฺสาย อาปชฺชิตพฺพาติ อตฺโถ.
๔๖๕. ‘‘น ¶ , ภิกฺขเว, โอวาโท น คเหตพฺโพ’’ติ วจนโต โอวาทํ น คณฺหนฺโต น ปฏิคฺคณฺหนฺโต วชฺชตํ อาปชฺชติ นาม.
๔๗๐. อรุณุคฺเคติ ¶ อรุณุคฺคมเน. นอรุณุคฺคเมติ อรุณุคฺคมนโต อฺสฺมึ กาเล.
๔๗๑. เอกรตฺตาติกฺกเม ฉารตฺตาติกฺกเม สตฺตาหาติกฺกเม ทสาหาติกฺกเมติ โยชนา. อาทิ-สทฺเทน มาสาทีนํ สงฺคโห. วุตฺตมาปตฺตินฺติ สพฺพตฺถ นิสฺสคฺคิเย ปาจิตฺติยาปตฺตึ. ‘‘อาปชฺชติ อรุณุคฺคเม’’ติ ปทจฺเฉโท.
๔๗๓. ปรสนฺตกํ รุกฺขลตาทึ เถยฺยาย ฉินฺทนฺตสฺส ปาราชิกํ, ฉินฺทนฺตสฺส ปาจิตฺติมตฺตํ โหตีติ อาห ‘‘ภูตคามํ ฉินฺทนฺโต ปาราชิกฺจ ปาจิตฺติฺจ ผุเส’’ติ.
๔๗๕. ฉาเทนฺโต ปนาติ เอตฺถ ‘‘กา อาปตฺตี’’ติ เสโส. ตตฺร อาห ‘‘อาปตฺตึ ฉาเทนฺโต นโร อาปชฺชตี’’ติ.
อจฺฉินฺโนติ อจฺฉินฺนจีวโร. นจฺฉาเทนฺโตติ ติเณน วา ปณฺเณน วา สาขาภงฺคาทินา เยน เกนจิ อตฺตโน หิริโกปินํ อปฺปฏิจฺฉาเทนฺโต. ยถาห – ‘‘ติเณน วา ปณฺเณน วา ปฏิจฺฉาเทตฺวา อาคนฺตพฺพํ, น ตฺเวว นคฺเคน อาคนฺตพฺพํ. โย อาคจฺเฉยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๕๑๗).
๔๗๖. กุสจีราทินฺติ อาทิ-สทฺเทน วากจีรผลกจีราทีนํ ติตฺถิยธชานํ คหณํ. ธาเรนฺโต โกจิ อาปชฺชตีติ เสโส. ตตฺราห – ‘‘กุสจีราทีนิ ธาเรนฺโต ธาเรนฺโต อาปชฺชตี’’ติ (ปริ. อฏฺ. ๓๒๒).
๔๗๗. ยํ นิสฺสฏฺปตฺตํ ‘‘อยํ เต ภิกฺขุ ปตฺโต ยาวเภทนาย ธาเรตพฺโพ’’ติ ทินฺนํ, ตํ สกฺกจฺจํ อธาเรนฺโต จ ¶ โทสวา โหติ อาปชฺชติ อาปตฺตึ. สจิตฺตกาจิตฺตกทุกสฺส สฺาวิโมกฺขทุกํ ยถากฺกมํ ปริยาโยติ อาห ‘‘สจิตฺตกทุก’’นฺติอาทิ.
ทุกกถาวณฺณนา.
๔๗๘. ยา ¶ อาปตฺติ นาเถ ติฏฺนฺเต โหติ, โน ปรินิพฺพุเต, สา อาปตฺติ อตฺถิ. ยา อาปตฺติ นาเถ ปรินิพฺพุเต โหติ, น ตุ ติฏฺนฺเต, สาปิ อตฺถิ. ยา อาปตฺติ นาเถ ติฏฺนฺเตปิ โหติ ปรินิพฺพุเตปิ, สา อาปตฺติ อตฺถีติ โยชนา.
๔๗๙. สา กตมาติ อาห ‘‘รุหิรุปฺปาทนาปตฺตี’’ติอาทิ. ตตฺถ เถรมาวุสวาเทน, วทโต ปรินิพฺพุเตติ ‘‘ยถา โข ปนานนฺท, เอตรหิ ภิกฺขู อฺมฺํ อาวุโสวาเทน สมุทาจรนฺติ, น โข มมจฺจเยน เอวํ สมุทาจริตพฺพํ…เป… นวกตเรน ภิกฺขุนา เถรตโร ภิกฺขุ ‘ภนฺเต’ติ วา ‘อายสฺมา’ติ วา สมุทาจริตพฺโพ’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๑๖) วจนโต เถรํ อาวุโสวาเทน สมุทาจรณปจฺจยา อาปตฺตึ ปรินิพฺพุเต ภควติ อาปชฺชติ, โน ติฏฺนฺเตติ อตฺโถ.
๔๘๑. กถํ กาเลเยว อาปตฺติ สิยา, น วิกาเล. กถํ วิกาเลเยว อาปตฺติ สิยา, กาเล น สิยา. กถํ กาเล เจว วิกาเล จาติ อุภยตฺถ สิยาติ ปฺเห.
๔๘๒. ยถากฺกมํ วิสฺสชฺเชนฺโต อาห ‘‘ภฺุชโต’’ติอาทิ.
๔๘๓. อวเสสํ ปน สพฺพํ อาปตฺตึ กาลวิกาเลสุ สพฺพทา อาปชฺชติ, ตตฺถ จ สํสโย นตฺถีติ โยชนา.
๔๘๔. ‘‘อตฺถาปตฺติ ¶ รตฺตึ อาปชฺชติ, โน ทิวา, อตฺถาปตฺติ ทิวา อาปชฺชติ, โน รตฺตึ, อตฺถาปตฺติ รตฺติฺเจว อาปชฺชติ ทิวา จา’’ติ (ปริ. ๓๒๓) วุตฺตํ ติกํ ทสฺเสตุมาห ‘‘รตฺติเมวา’’ติอาทิ.
๔๘๖. อตฺถาปตฺติ ทสวสฺโส อาปชฺชติ, โน อูนทสวสฺโส, สา กถํ สิยา. อตฺถาปตฺติ อูนทสวสฺโส อาปชฺชติ, โน ทสวสฺโส, สา กถํ โหติ. อตฺถาปตฺติ ทสวสฺโสปิ อาปชฺชติ อูนทสวสฺโสปีติ อุภยตฺถปิ อาปตฺติ กถํ โหตีติ โยชนา.
๔๘๗. ตตฺถ ¶ วิสฺสชฺชนมาห ‘‘อุปฏฺาเปตี’’ติอาทิ. ‘‘พาโล’’ติ เอตสฺส หิ อตฺถปทํ ‘‘อพฺยตฺโต’’ติ.
๔๘๘. อูนทสวสฺโส เอวํ ‘‘อหํ ปณฺฑิโต’’ติ ปริสํ คณฺหติ, ตถา อาปตฺตึ อาปชฺชตีติ โยชนา. ‘‘ทสวสฺโส อูโน’’ติ ปทจฺเฉโท. ทสวสฺโส, อูนทสวสฺโส จาติ อุโภเปเต ปริสุปฏฺาปนาปตฺติโต อฺํ อาปตฺตึ อาปชฺชตีติ โยชนา. เอตฺถ จ ‘‘อาปชฺชนฺเต’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน น-การโลโป.
๔๘๙. กถํ กาเฬ อาปตฺตึ อาปชฺชติ, น ชุณฺเห, กถํ ชุณฺเห อาปตฺตึ อาปชฺชติ, น กาฬสฺมึ, กถํ กาเฬ จ ชุณฺเห จาติ อุภยตฺถปิ อาปชฺชตีติ โยชนา.
๔๙๐. วิสฺสชฺชนมาห ‘‘วสฺส’’นฺติอาทิ. ‘‘อาปชฺชเต อปฺปวาเรนฺโต’’ติ ปทจฺเฉโท. ชุณฺเหติ ปุริมปกฺเข. กาฬเกติ อปรปกฺเข.
๔๙๑. อวิปตฺตินาติ จตุพฺพิธวิปตฺติรหิตตฺตา อวิปตฺตินา ภควตา ปฺตฺตํ. อวเสสนฺติ วสฺสํ อนุปคมนาปตฺติยา จ ปวารณาปตฺติยา จ อวเสสํ สพฺพํ อาปตฺตึ.
๔๙๒. วสฺสูปคมนํ ¶ กาเฬ กปฺปติ, ชุณฺเห โน กปฺปติ, ปวารณา ชุณฺเห กปฺปติ, กาเฬ โน กปฺปติ, เสสํ อนฺุาตํ สพฺพํ สงฺฆกิจฺจํ กาเฬ จ ชุณฺเห จาติ อุภยตฺถปิ กปฺปตีติ โยชนา.
๔๙๓. อตฺถาปตฺติ เหมนฺเต โหติ, อิตรอุตุทฺวเย คิมฺหานวสฺสานสงฺขาเต น โหติ, อตฺถาปตฺติ คิมฺเหเยว โหติ, น เสเสสุ วสฺสานเหมนฺตสงฺขาเตสุ, อตฺถาปตฺติ วสฺเส โหติ, โน อิตรทฺวเย เหมนฺตคิมฺหสงฺขาเตติ โยชนา.
๔๙๔-๖. สา ติวิธาปิ อาปตฺติ กตมาติ อาห ‘‘ทิเน ปาฏิปทกฺขาเต’’ติอาทิ. ตตฺถ ทิเน…เป… ปุณฺณมาสิยาติ อปรกตฺติกปุณฺณมาสิยา กาฬปกฺขปาฏิปททิวเส ปจฺจุทฺธริตฺวา ¶ วิกปฺเปตฺวา ปิตํ ปน ตํ วสฺสสาฏิกจีวรํ สเจ เหมนฺเต นิวาเสติ, เหมนฺเต อาปชฺชตีติ โยชนา.
ปจฺฉิเมติ เอตฺถ สามิวจนปฺปสงฺเค ภุมฺมํ. ปจฺฉิมสฺส กตฺติกสฺส ยสฺมึ ปุณฺณเม ทิวเส วสฺสิกสาฏิกจีวรํ ปจฺจุทฺธริตพฺพํ, ตสฺมึ ทิวเส ตํ อปจฺจุทฺธริตฺวาว ปาฏิปเท อรุณํ อุฏฺาเปนฺโต อปจฺจุทฺธรณปจฺจยา อาปตฺติ เหมนฺเตเยว อาปชฺชติ, อิตเร คิมฺหานวสฺสานอุตุทฺวเย น อาปชฺชตีติ กุรุนฺทฏฺกถายํ (ปริ. อฏฺ. ๓๒๓) นิทฺทิฏฺนฺติ โยชนา. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสฺสิกสาฏิกํ วสฺสานํ จตุมาสํ อธิฏฺาตุํ, ตโต ปรํ วิกปฺเปตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๕๘) วุตฺตปาฬิยา กุรุนฺทฏฺกถาวจนสฺส อวิรุชฺฌนโต ‘‘ตมฺปิ สุวุตฺต’’นฺติ (ปริ. อฏฺ. ๓๒๓) สมนฺตปาสาทิกาย วุตฺตตฺตา ‘‘เหมนฺเต อาปชฺชตี’’ติ วจนสฺส อุภยมฺปิ อตฺโถ โหตีติ คเหตพฺพํ.
๔๙๗. คิมฺหานมาสานํ ¶ สมฺพนฺธินิ คิมฺหิเก อุตุมฺหิ. มาสโต อติเรโก อติเรกมาโสติ กตฺวา อติเรกมาโส กาโล เสโสติ วตฺตพฺเพ กาเล. ปริเยสนฺโตติ อฺาติกอปฺปวาริตฏฺานโต สตุปฺปาทกรเณน วสฺสิกสาฏิกํ ปริเยสนฺโต จ อติเรกมาโส เสโสติ กตฺวา นิวาเสนฺโต จ คิมฺเห อาปตฺตึ อาปชฺชติ. ‘‘น ตุ เอว อิตรอุตุทฺวเย’’ติ ปทจฺเฉโท. คิมฺเห ปริเยสนฺโต ปุริมมาสตฺตเย อาปชฺชตีติ กตฺวา นิวาเสนฺโต อฑฺฒมาสาธิเก คิมฺหมาสตฺตเย อาปชฺชติ. นิสฺสนฺเทเห ‘‘คิมฺหานํ ปจฺฉิมมาสโต ปุริเมสุ สตฺตสุ มาเสสู’’ติ วุตฺตํ, ตทยุตฺตํ ‘‘คิมฺหาเนเยว อาปชฺชตี’’ติ คิมฺหาปตฺติยา ทสฺสิตตฺตา, ‘‘อิตรอุตุทฺวเย’’ติ ปฏิสิทฺธตฺตา จ. เอตฺถ จ คาถาย ปริเยสนาปตฺติยาเยว ทสฺสนํ นิทสฺสนมตฺตนฺติ กตฺวา นิวาสนาปตฺติยา จ คิมฺเหเยว สมฺภโวติ สาปิ ทสฺสิตา.
๔๙๘. อิธ ปน อิมสฺมึ สาสเน โย ภิกฺขุ วสฺสิกสาฏิกจีวเร วิชฺชมาเน นคฺโค กายํ โอวสฺสาเปติ, โส หเว เอกํเสน วสฺเส วสฺสานอุตุมฺหิ อาปชฺชตีติ โยชนา.
๔๙๙. ‘‘อตฺถาปตฺติ สงฺโฆ อาปชฺชติ, น คโณ น ปุคฺคโล, อตฺถาปตฺติ คโณ อาปชฺชติ, น สงฺโฆ น ปุคฺคโล, อตฺถาปตฺติ ปุคฺคโล อาปชฺชติ, น สงฺโฆ น คโณ’’ติ (ปริ. ๓๒๓) วุตฺตตฺติกํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อาปชฺชติ หิ สงฺโฆวา’’ติอาทิ.
๕๐๐. กถมาปชฺชตีติ ¶ อาห ‘‘อธิฏฺาน’’นฺติอาทิ. อธิฏฺานนฺติ อธิฏฺานุโปสถํ กโรนฺโต ปาริสุทฺธิอุโปสถํ วาติ สมฺพนฺโธ. อิธ อตฺตโน ยถาปตฺตมุโปสถํ อกตฺวา ¶ อปตฺตอุโปสถกรณํ อาปชฺชิตพฺพาปตฺติทสฺสนสฺส อธิปฺเปตตฺตา, อตฺตกรณโทสสฺส วิสุํ วิสุํ วกฺขมานตฺตา จ น คโณ น จ ปุคฺคโลติ เอตฺถ อธิฏฺานํ กโรนฺโต ปุคฺคโล จ ปาริสุทฺธึ กโรนฺโต คโณ จ นาปชฺชตีติ ยถาลาภโยชนา กาตพฺพา. ยถากฺกมํ โยชนํ กโรมีติ วิปริยายวิกปฺโป น กาตพฺโพ. เอวมุปริปิ วิปริยายวิปกฺขํ กตฺวา ยถาลาภโยชนาว กาตพฺพา.
๕๐๑. ‘‘อุโปสถ’’นฺติ อิทํ ‘‘สุตฺตุทฺเทสมธิฏฺาน’’นฺติ ปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ.
๕๐๒. สุตฺตุทฺเทสํ กโรนฺโต วาติ เอตฺถ วา-สทฺเทน ปาริสุทฺธึ คณฺหาติ. สุตฺตุทฺเทสํ, ปาริสุทฺธึ วา อุโปสถํ กโรนฺโต ปุคฺคโล อาปตฺตึ อาปชฺชติ, สุตฺตุทฺเทสํ กโรนฺโต สงฺโฆ จ นาปชฺชติ, ปาริสุทฺธึ กโรนฺโต คโณ จ น อาปชฺชตีติ โยชนา.
๕๐๓. กถํ ปน คิลาโนว อาปตฺตึ อาปชฺชติ, น อคิลาโน, กถํ อคิลาโนว อาปตฺตึ อาปชฺชติ, โน คิลาโน, กถํ คิลาโน จ อคิลาโน จ อุโภปิ อาปชฺชนฺตีติ โยชนา.
๕๐๔. โย ปน อกลฺลโก คิลาโน อฺเน ปน เภสชฺเชน อตฺเถ สติ ตทฺํ ตโต อฺํ เภสชฺชํ วิฺาเปติ, โส อาปชฺชติ ปาจิตฺติยาปตฺตินฺติ โยชนา.
๕๐๕. เภสชฺเชน อตฺเถ อวิชฺชมาเนปิ สเจ เภสชฺชํ วิฺาเปติ, อคิลาโนว วิฺตฺติปจฺจยา อาปตฺตึ อาปชฺชติ. เสสํ ปน อาปตฺตึ คิลานอคิลานา อุโภปิ อาปชฺชนฺติ.
๕๐๖. อตฺถาปตฺติ ¶ อนฺโตว อาปชฺชติ, น พหิทฺธา, ตถา อตฺถาปตฺติ พหิ เอว อาปชฺชติ, น อนฺโต, อตฺถาปตฺติ อนฺโต, พหิทฺธาติ อุภยตฺถปิ อาปชฺชตีติ โยชนา.
๕๐๗. เกวลํ ¶ อนฺโตเยว อาปชฺชตีติ โยชนา.
๕๐๘. มฺจาทินฺติ สงฺฆิกมฺจาทึ.
๕๐๙. ‘‘อนฺโตสีมาย เอว อาปตฺติ’’นฺติ ปทจฺเฉโท. กถํ อนฺโตสีมาย เอว อาปตฺตึ อาปชฺชติ, เนว พหิสีมาย อาปตฺตึ อาปชฺชติ, กถํ พหิสีมาย เอว อาปตฺตึ อาปชฺชติ, โน อนฺโตสีมาย อาปตฺตึ อาปชฺชติ, กถํ อนฺโตสีมาย จ พหิสีมาย จาติ อุภยตฺถปิ อาปชฺชตีติ โยชนา.
๕๑๐. สฉตฺตุปาหโน ภิกฺขูติ ฉตฺตุปาหนสหิโต อาคนฺตุโก ภิกฺขุ. ปวิสนฺโต ตโปธโนติ อาคนฺตุกวตฺตํ อทสฺเสตฺวา สงฺฆารามํ ปวิสนฺโต.
๕๑๑. ‘‘อุปจารสฺส อติกฺกเม’’ติ ปทจฺเฉโท.
๕๑๒. เสสํ สพฺพํ อาปตฺตึ อนฺโตสีมาย จ พหิสีมาย จ อาปชฺชตีติ โยชนา. เอตฺถ จ กิฺจาปิ วสฺสจฺเฉทาปตฺตึ พหิสีมาคโต อาปชฺชติ, ภิกฺขุนีอารามปเวสนาปตฺตึ อนฺโตสีมาย อาปชฺชติ, ตทุภยํ ปน อาคนฺตุกคมิกวตฺตเภทาปตฺตีหิ เอกปริจฺเฉทนฺติ อุปลกฺขณโต เอเตเนว วิฺายตีติ วิสุํ น วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. เอวํ สพฺพตฺถ อีทิเสสุ าเนสุ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
ติกกถาวณฺณนา.
๕๑๕. วจีทฺวาริกมาปตฺตินฺติ ¶ มุสาวาทเปสฺุหรณาทิวเสน วจีทฺวาเร อาปชฺชิตพฺพาปตฺตึ. ปรวาจาย สุชฺฌตีติ สงฺฆมชฺเฌ เอกวาจิกาย ติณวตฺถารกกมฺมวาจาย สุชฺฌติ.
๕๑๖. วชฺชเมว วชฺชตา, ตํ, ปาจิตฺติยนฺติ อตฺโถ.
๕๑๘-๙. ตํ ¶ เทเสตฺวา วิสุชฺฌนฺโตติ ตํ เทเสตฺวา วิสุทฺโธ โหนฺโต. ยาวตติยกํ ปนาติ ยาวตติเยน สมนุภาสนกมฺเมน อาปนฺนํ สงฺฆาทิเสสาปตฺตึ ปน. ปริวาสาทีติ อาทิ-สทฺเทน มานตฺตมูลายปฏิกสฺสนอพฺภานานิ คหิตานิ.
๕๒๒. กายทฺวาริกมาปตฺตินฺติ กายทฺวาเรน อาปชฺชิตพฺพํ ปหารทานาทิอาปตฺตึ.
๕๒๓. กาเยเนว วิสุชฺฌตีติ ติณวตฺถารกํ คนฺตฺวา กายสามคฺคึ เทนฺโต วิสุชฺฌติ.
๕๒๖. โย สุตฺโต อาปตฺตึ อาปชฺชติ, โส กถํ ปฏิพุทฺโธ วิสุชฺฌติ. โย ปฏิพุทฺโธว อาปนฺโน, โส กถํ สุตฺโต สุชฺฌตีติ โยชนา.
๕๒๘. สคารเสยฺยกาทินฺติ มาตุคาเมน สหเสยฺยาทิอาปตฺตึ.
๕๒๙. ชคฺคนฺโตติ ชาครนฺโต นิทฺทํ วิโนเทนฺโต.
๕๓๑. ปฏิพุทฺโธติ อนิทฺทายนฺโต.
๕๓๒. อจิตฺโตติ ‘‘สิกฺขาปทํ วีติกฺกมิสฺสามี’’ติ จิตฺตา ภาเวน อจิตฺโต.
๕๓๕. สจิตฺตกาปตฺตินฺติ ¶ วิกาลโภชนาทิอาปตฺตึ. ติณวตฺถาเร สยนฺโต นิทฺทายนฺโต ติณวตฺถารกกมฺเม กริยมาเน ‘‘อิมินาหํ กมฺเมน อาปตฺติโต วุฏฺามี’’ติ จิตฺตรหิโต วุฏฺหนฺโต อจิตฺตโก วิสุชฺฌติ.
‘‘อาปชฺชิตฺวา อจิตฺโตว, อจิตฺโตว วิสุชฺฌติ;
อาปชฺชิตฺวา สจิตฺโตว, สจิตฺโตว วิสุชฺฌตี’’ติ. –
ปททฺวยํ ¶ . อมิสฺเสตฺวาติ อจิตฺตสจิตฺตปเทหิ เอวเมว มิสฺสํ อกตฺวา. เอตฺถาติ ปุริมปททฺวเย. วุตฺตานุสาเรนาติ วุตฺตนยานุสาเรน.
๕๔๐. อาปชฺชิตฺวา อกมฺมโตติ สมนุภาสนกมฺมํ วินาว อาปชฺชิตฺวา.
๕๔๑. สมนุภาสเน อาปชฺชิตพฺพํ สงฺฆาทิเสสาปตฺตึ สมนุภาสนมาห การณูปจาเรน.
๕๔๒. อวเสสนฺติ มุสาวาทปาจิตฺติยาทิกํ.
๕๔๓. วิสุชฺฌติ อสมฺมุขาติ สงฺฆสฺส อสมฺมุขา วิสุชฺฌติ. อิทฺจ สมฺมุขาวินเยน เจว ปฏิฺาตกรเณน จ สเมนฺตํ อาปตฺตาธิกรณํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺถ ปุคฺคลสมฺมุขตาย สพฺภาเวปิ สงฺฆสฺส อสมฺมุขตาย อาปชฺชติ วา วิสุชฺฌติ วาติ ‘‘อสมฺมุขา’’ติ วุตฺตํ.
๕๕๑. ‘‘อจิตฺตกจตุกฺกํ อชานนฺตจตุกฺก’’นฺติ กุสลตฺติกผสฺสปฺจกาทิโวหาโร วิย อาทิปทวเสน วุตฺโต.
๕๕๒-๓. อตฺถาปตฺติ ¶ อาคนฺตุโก อาปชฺชติ, น เจตโร อาวาสิโก อาปชฺชติ, อตฺถาปตฺติ อาวาสิโกว อาปชฺชติ, น เจตโร อาคนฺตุโก อาปชฺชติ, อตฺถาปตฺติ อาคนฺตุโก จ อาวาสิโก จ เต อุโภปิ อาปชฺชนฺติ, อุโภ เสสํ น อาปชฺชนฺติ อตฺถีติ โยชนา.
๕๕๕. อิตโรติ อาวาสิโก. อาวาสวตฺตนฺติ อาวาสิเกน อาคนฺตุกสฺส กาตพฺพวตฺตํ. อาวาสีติ อาวาสิโก.
๕๕๖. น เจวาคนฺตุโกติ ตํ อาวาสิกวตฺตํ อกโรนฺโต อาคนฺตุโก น เจว อาปชฺชติ ¶ . เสสํ กายวจีทฺวาริกํ อาปตฺตึ. อุโภปิ อาคนฺตุกอาวาสิกา. ภิกฺขุภิกฺขุนีนํ อสาธารณํ อาปตฺตึ น อาปชฺชนฺติ.
๕๕๗. วตฺถุนานตฺตตาติ วีติกฺกมนานตฺตตา. อาปตฺตินานตฺตตาติ ปาราชิกาทีนํ สตฺตนฺนํ อาปตฺติกฺขนฺธานํ อฺมฺนานตฺตตา.
๕๖๓. ‘‘ปาราชิกานํ…เป… นานภาโว’’ติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ สงฺฆาทิเสสานํ อนิยตาทีหิ วตฺถุนานตาย เจว อาปตฺตินานตาย จ ลพฺภมานตฺตา.
๕๖๕. อยเมว วินิจฺฉโยติ น เกวลํ ปาราชิกาปตฺตีสุเยว สาธารณาปตฺติโย เอกโต จ วิสฺุจ อาปชฺชนฺตานํ ยถาวุตฺตวินิจฺฉโย, อถ โข อวเสสสาธารณาปตฺติโยปิ วุตฺตนเยน อาปชฺชติ, อยเมว วินิจฺฉโย โยเชตพฺโพ.
๕๗๗. อาทิยนฺโต คณฺหนฺโต. ปโยเชนฺโตติ คณฺหาเปนฺโต.
๕๗๙. อูนกํ ¶ ปาทํ…เป… ลหุํ ผุเสติ ถุลฺลจฺจยํ, ทุกฺกฏฺจ สนฺธายาห.
๕๘๐. เอเตเนว อุปาเยน, เสสกมฺปิ ปทตฺตยนฺติ โย อยํ ปมวินิจฺฉเย วุตฺตนโย, เอเตเนว นเยน อูนปาทํ อาทิยนฺโต ลหุกาปตฺตึ อาปชฺชติ, ปาทํ วา อติเรกปาทํ วา คหณตฺถํ อาณาเปนฺโต ครุํ ปาราชิกาปตฺตึ อาปชฺชติ, ปาทํ วา อติเรกปาทํ วา คณฺหนฺโต จ คหณตฺถาย อาณาเปนฺโต จ ครุเก ปาราชิกาปตฺติยํเยว ติฏฺติ, อูนปาทํ คณฺหนฺโต จ คหณตฺถาย อาณาเปนฺโต จ ลหุเก ถุลฺลจฺจเย, ทุกฺกเฏ วา ติฏฺตีติ เอวํ เสสกมฺปิ อิมํ ปทตฺตยํ. อตฺถสมฺภวโตเยวาติ ยถาวุตฺตสฺส อตฺถสฺส สมฺภววเสเนว.
๕๘๑-๒. กถํ กาเลเยว อาปตฺติ สิยา, โน วิกาเล, วิกาเลเยว อาปตฺติ สิยา, น จ กาเล, อตฺถาปตฺติ กาเล จ ปกาสิตา วิกาเล จ, อตฺถาปตฺติ เนว กาเล จ ปกาสิตา เนว วิกาเล จาติ โยชนา.
๕๘๖-๗. กาเล ¶ ปฏิคฺคหิตํ กึ กาเล กปฺปติ วิกาเล ตุ โน กปฺปติ, วิกาเล คหิตํ กึ วิกาเล กปฺปติ, โน กาเล กปฺปติ, กาเล จ วิกาเล จ ปฏิคฺคหิตํ กึ นาม กาเล จ วิกาเล จ กปฺปติ, กาเล จ วิกาเล จ ปฏิคฺคหิตํ กึ นาม กาเล จ วิกาเล จ น กปฺปติ, วท ภทฺรมุขาติ โยชนา.
๕๘๙. วิกาเลเยว กปฺปติ, อปรชฺชุ กาเลปิ น กปฺปตีติ โยชนา.
๕๙๒. กุลทูสนกมฺมาทินฺติ อาทิ-สทฺเทน อภูตาโรจนรูปิยสํโวหารวิฺตฺติกุหนาทีนํ สงฺคโห.
๕๙๓-๔. กตมา ¶ อาปตฺติ ปจฺจนฺติเมสุ เทเสสุ อาปชฺชติ, น มชฺฌิเม, กตมา อาปตฺติ มชฺฌิเม ปน เทสสฺมึ อาปชฺชติ, น จ ปจฺจนฺติเมสุ, กตมา อาปตฺติ ปจฺจนฺติเมสุ เจว เทเสสุ อาปชฺชติ มชฺฌิเม จ, กตมา อาปตฺติ ปจฺจนฺติเมสุ เจว เทเสสุ น อาปชฺชติ น มชฺฌิเม จาติ โยชนา.
๕๙๖. ‘‘โส คุณงฺคุณุปาหน’’นฺติ ปทจฺเฉโท. โส ภิกฺขูติ อตฺโถ.
๕๙๙. เอวํ ‘‘อาปชฺชติ, นาปชฺชตี’’ติ ปทวเสน ปจฺจนฺติมจตุกฺกํ ทสฺเสตฺวา ‘‘เนว กปฺปติ, น กปฺปตี’’ติ ปทวเสน ทสฺเสตุมาห ‘‘ปจฺจนฺติเมสู’’ติอาทิ.
๖๐๑. วุตฺตนฺติ ‘‘คเณน ปฺจวคฺเคนา’’ติอาทิคาถาย เหฏฺา วุตฺตํ.
๖๐๓. เอวํ วตฺตุนฺติ ‘‘น กปฺปตี’’ติ วตฺตุํ. ปฺจโลณาทิกนฺติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โลณานี’’ติอาทิ.
๖๐๘. อนฺุาตฏฺานสฺส อนฺโต โน อาปชฺชติ, ตํ อติกฺกมนฺโต พหิเยว จ อาปชฺชตีติ โยชนา.
๖๑๒. เสกฺขปฺตฺตีติ ¶ เสขิยปฺตฺติ.
๖๑๓. อคณาติ อทุติยา. เอตฺถ หิ เอกาปิ คโณ นาม.
๖๑๔. อุภยตฺถปิ อสาธารณมาปตฺตินฺติ ภิกฺขุนีนํ นิยตาปฺตฺติ เวทิตพฺพา.
๖๑๖. คิลาโน ¶ จ นาปชฺชติ, อคิลาโน จ นาปชฺชตีติ เอวํ อุโภปิ นาปชฺชนฺตีติ โยชนา. ติกาทีสุ ทสฺสิตานํ ปทานํ จตุกฺกาทิทสฺสนวเสน ปุนปฺปุนํ คหณํ.
๖๑๘. ‘‘อาปชฺชติ อคิลาโนวา’’ติ ปทจฺเฉโท.
จตุกฺกกถาวณฺณนา.
๖๒๐. ‘‘ครุถุลฺลจฺจย’’นฺติ วตฺตพฺเพ ‘‘ครุ’’นฺติ นิคฺคหีตาคโม.
๖๒๑. ปฺจ กถินานิสํสา เหฏฺา วุตฺตาเยว.
๖๒๖. อคฺคิสตฺถนขกฺกนฺตนฺติ อคฺคิสตฺถนเขหิ อกฺกนฺตํ ผุฏฺํ, ปหฏนฺติ อตฺโถ. อพีชนฺติ โนพีชํ. อุพฺพฏฺฏพีชกนฺติ นิพฺพฏฺฏพีชกํ.
๖๒๘. ปวารณาปีติ ปฏิกฺเขปปวารณาปิ. โอทนาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน สตฺตุกุมฺมาสมจฺฉมํสานํ คหณํ. กายาทิคหเณนาติ กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วา คหเณน. ‘‘ทาตุกามาภิหาโร จ, หตฺถปาเสรณกฺขม’’นฺติ อิเมหิ จตูหิ องฺเคหิ สทฺธึ เตสํ ทฺวินฺนเมกํ คเหตฺวา ปฏิคฺคหณา ปฺเจว โหนฺติ.
๖๒๙-๓๐. วินยฺุกสฺมินฺติ วินยธเร ปุคฺคเล. สกฺจ สีลนฺติ อตฺตโน ปาติโมกฺขสํวรสีลฺจ. สุรกฺขิตํ โหตีติ อาปตฺตานาปตฺติกปฺปิยากปฺปิยานํ วิชานนฺตตาย อเสวิตพฺพํ ปหาย เสวิตพฺพํเยว เสวนวเสน สุฏฺุ รกฺขิตํ โหติ. กุกฺกุจฺจมฺสฺส นิรากโรตีติ ¶ อฺสฺส สพฺรหฺมจาริโน กปฺปิยากปฺปิยวิสเย อุปฺปนฺนํ กุกฺกุจฺจํ นิวาเรติ. วิสารโท ภาสติ สงฺฆมชฺเฌติ กปฺปิยากปฺปิยานํ ¶ วินิจฺฉยกถาย อุปฺปนฺนาย นิราสงฺโก นิพฺภโย โวหรติ. เวริภิกฺขูติ อตฺตปจฺจตฺถิเก ปุคฺคเล. ธมฺมสฺส เจว ิติยา ปวตฺโตติ ‘‘วินโย นาม สาสนสฺส อายุ, วินเย ิเต สาสนํ ิตํ โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.ปมมหาสงฺคีติกถา; ที. นิ. อฏฺ. ๑.ปมมหาสงฺคีติกถา; ขุ. ปา. อฏฺ. ๕.มงฺคลสุตฺตวณฺณนา; เถรคา. อฏฺ. ๑.๒๕๑) วจนโต สทฺธมฺมฏฺิติยา ปฏิปนฺโน โหติ. ตสฺมา การณา. ตตฺถ วินยฺุภาเว. ธีโร ปฺวา ภิกฺขุ.
ปฺจกกถาวณฺณนา.
๖๓๑-๒. ฉฬภิฺเนาติ ฉ อภิฺา เอตสฺสาติ ฉฬภิฺโ, เตน. อติกฺกนฺตปมาณํ มฺจปีํ, อติกฺกนฺตปมาณํ นิสีทนฺจ ตถา อติกฺกนฺตปมาณํ กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิวสฺสสาฏิกจีวรฺจ สุคตสฺส จีวเร ปมาณิกจีวรนฺติ ฉ.
๖๓๓-๔. อฺาณฺจ กุกฺกุจฺจฺจ อฺาณกุกฺกุจฺจา, เตหิ, อฺาณตาย เจว กุกฺกุจฺจปกตตาย จาติ วุตฺตํ โหติ. วิปรีตาย สฺาย กปฺปิเย อกปฺปิยสฺาย, อกปฺปิเย กปฺปิยสฺาย.
ตตฺถ กถํ อลชฺชิตาย อาปชฺชติ? อกปฺปิยภาวํ ชานนฺโตเยว มทฺทิตฺวา วีติกฺกมํ กโรติ (กงฺขา. อฏฺ. นิทานวณฺณนา). วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘สฺจิจฺจ อาปตฺตึ อาปชฺชติ;
อาปตฺตึ ปริคูหติ;
อคติคมนฺจ คจฺฉติ;
เอทิโส วุจฺจติ อลชฺชี ปุคฺคโล’’ติ. (ปริ. ๓๕๙);
กถํ อฺาณตาย อาปชฺชติ? อฺาณปุคฺคโล มนฺโท โมมูโห กตฺตพฺพากตฺตพฺพํ อชานนฺโต อกตฺตพฺพํ กโรติ, กตฺตพฺพํ วิราเธติ. เอวํ อฺาณตาย อาปชฺชติ.
กถํ ¶ ¶ กุกฺกุจฺจปกตตาย อาปชฺชติ? กปฺปิยากปฺปิยํ นิสฺสาย กุกฺกุจฺเจ อุปฺปนฺเน วินยธรํ ปุจฺฉิตฺวา กปฺปิยํ เจ, กตฺตพฺพํ สิยา, อกปฺปิยํ เจ, น กตฺตพฺพํ, อยํ ปน ‘‘วฏฺฏตี’’ติ มทฺทิตฺวา วีติกฺกมติเยว. เอวํ กุกฺกุจฺจปกตตาย อาปชฺชติ.
กถํ กปฺปิเย อกปฺปิยสฺาย อาปชฺชติ? สูกรมํสํ ‘‘อจฺฉมํส’’นฺติ ขาทติ, กาเล วิกาลสฺาย ภฺุชติ. เอวํ กปฺปิเย อกปฺปิยสฺาย อาปชฺชติ.
กถํ อกปฺปิเย กปฺปิยสฺาย อาปชฺชติ? อจฺฉมํสํ ‘‘สูกรมํส’’นฺติ ขาทติ, วิกาเล กาลสฺาย ภฺุชติ. เอวํ อกปฺปิเย กปฺปิยสฺาย อาปชฺชติ.
กถํ สติสมฺโมสาย อาปชฺชติ? สหเสยฺยจีวรวิปฺปวาสาทีนิ สติสมฺโมสาย อาปชฺชติ.
๖๓๕-๘. ‘‘ภิกฺขุนา อุปฏฺเปตพฺโพ’’ติ ปทจฺเฉโท. ธมฺมจกฺขุนาติ ปาติโมกฺขสํวรสีลสงฺขาโต ปฏิปตฺติธมฺโมว จกฺขุ เอตสฺสาติ ธมฺมจกฺขุ, เตน ฉหิ องฺเคหิ ยุตฺเตน ธมฺมจกฺขุนา ปน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาทนา กาตพฺพา, นิสฺสโย เจว ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพติ โยชนา. อาปตฺตึ ชานาติ, อนาปตฺตึ ชานาติ, ครุํ อาปตฺตึ ชานาติ, ลหุํ อาปตฺตึ ชานาตีติ โยชนา. อสฺส ภิกฺขุโน อุภยานิ ปาติโมกฺขานิ วิตฺถารา สฺวาคตานิ ภวนฺติ, อตฺถโต สุวิภตฺตานิ ภวนฺติ, สุตฺตโส อนุพฺยฺชนโส สุวินิจฺฉิตานิ ภวนฺติ, ทสวสฺโส วา โหติ, อติเรกทสวสฺโส วาติ โยชนา.
ฉกฺกกถาวณฺณนา.
๖๓๙. สตฺต ¶ สามีจิโย วุตฺตาติ ‘‘โส จ ภิกฺขุ อนพฺภิโต, เต จ ภิกฺขู คารยฺหา, อยํ ตตฺถ สามีจิ, ยฺุชนฺตายสฺมนฺโต สกํ, มา โว สกํ วินสฺสาติ อยํ ตตฺถ สามีจิ, อยํ เต ภิกฺขุ ปตฺโต ยาว เภทนาย ธาเรตพฺโพติ, อยํ ตตฺถ สามีจิ, ตโต นีหริตฺวา ภิกฺขูหิ สทฺธึ สํวิภชิตพฺพํ, อยํ ตตฺถ สามีจิ, อฺาตพฺพํ ปริปุจฺฉิตพฺพํ ปริปฺหิตพฺพํ, อยํ ตตฺถ สามีจิ, ยสฺส ภวิสฺสติ, โส หริสฺสตีติ, อยํ ตตฺถ สามีจี’’ติ ¶ ฉ สามีจิโย ภิกฺขุปาติโมกฺเขวุตฺตา, ‘‘สา จ ภิกฺขุนี อนพฺภิตา, ตา จ ภิกฺขุนิโย คารยฺหา, อยํ ตตฺถ สามีจี’’ติ ภิกฺขุนิปาติโมกฺเข วุตฺตาย สทฺธึ สตฺต สามีจิโย วุตฺตา. สตฺเตว สมถาปิ จาติ สมฺมุขาวินยาทิสมถาปิ สตฺเตว วุตฺตา. ปฺตฺตาปตฺติโย สตฺตาติ ปาราชิกาทโย ปฺตฺตาปตฺติโย สตฺต วุตฺตา. สตฺตโพชฺฌงฺคทสฺสินาติ สติสมฺโพชฺฌงฺคาทโย สตฺต โพชฺฌงฺเค ยาถาวโต ปสฺสนฺเตน ภควตา.
สตฺตกกถาวณฺณนา.
๖๔๐-๑. อิธ กุลทูสโก ภิกฺขุ อาชีวสฺเสว การณา ปุปฺเผน, ผเลน, จุณฺเณน, มตฺติกาย, ทนฺตกฏฺเหิ, เวฬุยา, เวชฺชิกาย, ชงฺฆเปสนิเกนาติ อิเมหิ อฏฺหิ อากาเรหิ กุลานิ ทูเสตีติ โยชนา. ‘‘ปุปฺเผนา’’ติอาทินา ปุปฺผาทินา ทานเมว อุปลกฺขณโต ทสฺเสติ. ปุปฺเผนาติ ปุปฺผทาเนนาติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. ปุปฺผทานาทโย กุลทูสเน วุตฺตา.
๖๔๒-๕. ‘‘อฏฺธานติริตฺตาปิ, อติริตฺตาปิ อฏฺธา’’ติทฺวีสุ อฏฺเกสุ อฏฺ อนติริตฺเต ตาว ทสฺเสตุมาห ‘‘อกปฺปิยกตฺเจวา’’ติอาทิ ¶ . คิลานานติริตฺตกนฺติ นิทฺทิฏฺา อิเม อฏฺเว อนติริตฺตกา เยฺยาติ โยชนา. อกปฺปิยกตาทโย ปวารณสิกฺขาปทกถาวณฺณนาย วุตฺตา.
๖๔๖. าตตฺติสูติ าตทุกฺกฏํ, ตฺติทุกฺกฏฺจ. ปฏิสาวเนติ ปฏิสฺสเว. อฏฺทุกฺกฏานํ วินิจฺฉโย ทุติยปาราชิกกถาวณฺณนาย วุตฺโต.
๖๔๘-๙. เอหิภิกฺขูปสมฺปทาติ ยสกุลปุตฺตาทีนํ ‘‘เอหิ ภิกฺขู’’ติ วจเนน ภควตา ทินฺนอุปสมฺปทา. สรณคมเนน จาติ ปมโพธิยํ ตีหิ สรณคมเนหิ อนฺุาตอุปสมฺปทา. ปฺหาพฺยากรโณวาทาติ โสปากสฺส ปฺหาพฺยากรโณปสมฺปทา, มหากสฺสปตฺเถรสฺส ทินฺนโอวาทปฏิคฺคหโณปสมฺปทา จ. ครุธมฺมปฏิคฺคโหติ มหาปชาปติยา โคตมิยา อนฺุาตครุธมฺมปฏิคฺคหโณปสมฺปทา.
ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมนาติ อิทานิ ภิกฺขุอุปสมฺปทา. อฏฺวาจิกาติ ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน, ภิกฺขูนํ สนฺติเก ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมนาติ อฏฺหิ กมฺมวาจาหิ ภิกฺขุนีนํ ¶ อุปสมฺปทา อฏฺวาจิกา นาม. ทูเตน ภิกฺขุนีนนฺติ อฑฺฒกาสิยา คณิกาย อนฺุาตา ภิกฺขุนีนํ ทูเตน อุปสมฺปทา.
๖๕๐. สุทฺธทิฏฺินาติ สุฏฺุ สวาสนกิเลสานํ ปหาเนน ปริสุทฺธา สมนฺตจกฺขุสงฺขาตา ทิฏฺิ เอตสฺสาติ สุทฺธทิฏฺิ, เตน สมนฺตจกฺขุนา สมฺมาสมฺพุทฺเธน.
๖๕๑. ปาปิจฺฉา นาม อสนฺตคุณสมฺภาวนิจฺฉา.
๖๕๒-๓. น ¶ จ มชฺชโป สิยาติ มชฺชโป น สิยา มชฺชํ ปิวนฺโต น ภเวยฺย, มชฺชํ น ปิเวยฺยาติ อตฺโถ. อพฺรหฺมจริยาติ (อ. นิ. อฏฺ. ๒.๓.๗๑) อเสฏฺจริยโต เมถุนา วิรเมยฺย. รตฺตึ น ภฺุเชยฺย วิกาลโภชนนฺติ อุโปสถํ อุปวุตฺโถ รตฺติโภชนฺจ ทิวาวิกาลโภชนฺจ น ภฺุเชยฺย. น จ คนฺธมาจเรติ คนฺธฺจ น วิลิมฺเปยฺย. มฺเจ ฉมายํ ว สเยถ สนฺถเตติ กปฺปิยมฺเจ วา สุธาทิปริกมฺมกตาย ภูมิยา วา ติณปณฺณปลาลาทีนิ สนฺถริตฺวา กเต สนฺถเต วา สเยถาติ อตฺโถ. เอตฺหิ อฏฺงฺคิกมาหุโปสถนฺติ เอตํ ปาณาติปาตาทีนิ อสมาจรนฺเตน อุปวุตฺถํ อุโปสถํ อฏฺหงฺเคหิ สมนฺนาคตตฺตา ‘‘อฏฺงฺคิก’’นฺติ วทนฺติ. ทุกฺขนฺตคุนาติ วฏฺฏทุกฺขสฺส อนฺตํ อมตมหานิพฺพานํ คเตน ปตฺเตน พุทฺเธน ปกาสิตนฺติ โยชนา.
๖๕๔. ภิกฺขุโนวาทกภิกฺขุโน อฏฺงฺคานิ ภิกฺขุโนวาทกถาวณฺณนาย ทสฺสิตาเนว.
อฏฺกกถาวณฺณนา.
๖๕๕. โภชนานิ ปณีตานิ นว วุตฺตานีติ ปณีตานิ หิ โภชนสิกฺขาปเท วุตฺตานิ. ทสสุ อกปฺปิยมํเสสุ มนุสฺสมํสวชฺชิตานิ นว มํสานิ ขาทนฺตสฺส ทุกฺกฏํ นิทฺทิฏฺนฺติ โยชนา.
๖๕๖. ปาติโมกฺข…เป… ปริทีปิตาติ ภิกฺขูนํ ปฺจุทฺเทสา, ภิกฺขุนีนํ อนิยตุทฺเทเสหิ วินา จตฺตาโรติ อุทฺเทสา นว ทีปิตา. อุโปสถา นเววาติ ทิวสวเสน ตโย, การกวเสน ¶ ตโย, กรณวเสน ตโยติ นว อุโปสถา. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สาสเน. สงฺโฆ นวหิ ภิชฺชตีติ นวหิ ปุคฺคเลหิ สงฺโฆ ภิชฺชตีติ โยชนา. ยถาห –
‘‘เอกโต ¶ , อุปาลิ, จตฺตาโร โหนฺติ, เอกโต จตฺตาโร, นวโม อนุสฺสาเวติ, สลากํ คาเหติ ‘อยํ ธมฺโม, อยํ วินโย, อิทํ สตฺถุสาสนํ, อิมํ คณฺหถ, อิมํ โรเจถา’ติ. เอวมฺปิ โข, อุปาลิ, สงฺฆราชิ เจว โหติ สงฺฆเภโท จ. นวนฺนํ วา, อุปาลิ, อติเรกนวนฺนํ วา สงฺฆราชิ เจว โหติ สงฺฆเภโท จา’’ติ (จูฬว. ๓๕๑).
นวกกถาวณฺณนา.
๖๕๗. ทส อกฺโกสวตฺถูนิ วกฺขติ. ทส สิกฺขาปทานิ ปากฏาเนว. มนุสฺสมํสาทีนิ ทส อกปฺปิยมํสานิ เหฏฺา วุตฺตาเนว. สุกฺกานิ เว ทสาติ นีลาทีนิ ทส สุกฺกานิ.
๖๕๙. รฺโ อนฺเตปุรปฺปเวสเน ทส อาทีนวา เอวํ ปาฬิปาเน เวทิตพฺพา –
‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, อาทีนวา ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน. กตเม ทส? อิธ, ภิกฺขเว, ราชา มเหสิยา สทฺธึ นิสินฺโน โหติ, ตตฺร ภิกฺขุ ปวิสติ, มเหสี วา ภิกฺขุํ ทิสฺวา สิตํ ปาตุกโรติ, ภิกฺขุ วา มเหสึ ทิสฺวา สิตํ ปาตุกโรติ, ตตฺถ รฺโ เอวํ โหติ ‘อทฺธา อิเมสํ กตํ วา กริสฺสนฺติ วา’ติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปโม อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ราชา พหุกิจฺโจ พหุกรณีโย อฺตรํ อิตฺถึ คนฺตฺวา น สรติ, สา เตน คพฺภํ คณฺหาติ, ตตฺถ รฺโ เอวํ โหติ ‘น โข อิธ อฺโ โกจิ ปวิสติ อฺตฺร ปพฺพชิเตน, สิยา นุ โข ปพฺพชิตสฺส กมฺม’นฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติโย อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน.
‘‘ปุน ¶ ¶ จปรํ, ภิกฺขเว, รฺโ อนฺเตปุเร อฺตรํ รตนํ นสฺสติ, ตตฺถ รฺโ เอวํ โหติ ‘น โข อิธ อฺโ โกจิ ปวิสติ อฺตฺร ปพฺพชิเตน, สิยา นุ โข ปพฺพชิตสฺส กมฺม’นฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, ตติโย อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, รฺโ อนฺเตปุเร อพฺภนฺตรา คุยฺหมนฺตา พหิทฺธา สมฺเภทํ คจฺฉนฺติ, ตตฺถ รฺโ เอวํ โหติ ‘น โข อิธ อฺโ โกจิ ปวิสติ อฺตฺร ปพฺพชิเตน, สิยา นุ โข ปพฺพชิตสฺส กมฺม’นฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, จตุตฺโถ อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, รฺโ อนฺเตปุเร ปิตา วา ปุตฺตํ ปตฺเถติ, ปุตฺโต วา ปิตรํ ปตฺเถติ, เตสํ เอวํ โหติ ‘น โข อิธ อฺโ โกจิ ปวิสติ อฺตฺร ปพฺพชิเตน, สิยา นุ โข ปพฺพชิตสฺส กมฺม’นฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปฺจโม อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ราชา นีจฏฺานิยํ อุจฺเจ าเน เปติ, เยสํ ตํ อมนาปํ, เตสํ เอวํ โหติ ‘ราชา โข ปพฺพชิเตน สํสฏฺโ, สิยา นุ โข ปพฺพชิตสฺส กมฺม’นฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, ฉฏฺโ อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ราชา อุจฺจฏฺานิยํ นีเจ าเน เปติ, เยสํ ตํ อมนาปํ, เตสํ เอวํ โหติ ‘ราชา โข ปพฺพชิเตน สํสฏฺโ, สิยา นุ โข ปพฺพชิตสฺส กมฺม’นฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, สตฺตโม อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ราชา อกาเล เสนํ อุยฺโยเชติ, เยสํ ตํ อมนาปํ, เตสํ เอวํ โหติ ‘ราชา โข ปพฺพชิเตน สํสฏฺโ, สิยา นุ ¶ โข ปพฺพชิตสฺส กมฺม’นฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, อฏฺโม อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ราชา กาเล เสนํ อุยฺโยเชตฺวา อนฺตรามคฺคโต นิวตฺตาเปติ, เยสํ ตํ อมนาปํ, เตสํ เอวํ โหติ ‘ราชา โข ปพฺพชิเตน สํสฏฺโ, สิยา ¶ นุ โข ปพฺพชิตสฺส กมฺม’นฺติ. อยํ, ภิกฺขเว, นวโม อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, รฺโ อนฺเตปุรํ หตฺถิสมฺมทฺทํ อสฺสสมฺมทฺทํ รถสมฺมทฺทํ รชนียานิ รูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพานิ, ยานิ น ปพฺพชิตสฺส สารุปฺปานิ, อยํ, ภิกฺขเว, ทสโม อาทีนโว ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทส อาทีนวา ราชนฺเตปุรปฺปเวสเน’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๔๕; ปาจิ. ๔๙๗).
ตตฺถ จ ปิตา วา ปุตฺตํ ปตฺเถตีติ ปุตฺตํ มาเรตุมิจฺฉตีติ อตฺโถ. เอเสว นโย ปุตฺโต ปิตรํ ปตฺเถตีติ. หตฺถิสมฺมทฺทนฺติ หตฺถีนํ สมฺมทฺโท สํสฏฺโ เอตฺถาติ หตฺถิสมฺมทฺทํ. เอวํ ‘‘อสฺสสมฺมทฺท’’นฺติอาทีสุปิ.
ทสากาเรหีติ –
‘‘อาปตฺตินุกฺขิตฺตมนนฺตราย-
ปหุตฺตตาโย ตถสฺิตา จ;
ฉาเทตุกาโม อถ ฉาทนาติ;
ฉนฺนา ทสงฺเคหรุณุคฺคมมฺหีติ. –
คหิเตหิ ทสหิ องฺเคหิ.
๖๖๐. ทส กมฺมปถา ปฺุาติ ปาณาติปาตาเวรมณิอาทโย ทส กุสลกมฺมปถา. อปฺุาปิ ตถา ทสาติ ปาณาติปาตาทโย ¶ ทส อกุสลกมฺมปถาว. ทส ทานวตฺถูนิ วกฺขติ. ทเสว รตนานิ จาติ –
‘‘มุตฺตา มณี เวฬุริยา จ สงฺขา;
สิลา ปวาฬํ รชตฺจ เหมํ;
โลหีตกฺจาปิ ¶ มสารคลฺลา;
ทสฺเสติ ธีโร รตนานิ ชฺา’’ติ. –
นิทฺทิฏฺานิ ทส รตนานิ.
๖๖๒. มุนินฺเทน อวนฺทิยา ทส ปุคฺคลา ทีปิตาติ โยชนา. กถํ? ‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, อวนฺทิยา. ปุเร อุปสมฺปนฺเนน ปจฺฉา อุปสมฺปนฺโน อวนฺทิโย, อนุปสมฺปนฺโน อวนฺทิโย, นานาสํวาสโก วุฑฺฒตโร อธมฺมวาที อวนฺทิโย, มาตุคาโม อวนฺทิโย, ปณฺฑโก อวนฺทิโย, ปาริวาสิโก อวนฺทิโย, มูลายปฏิกสฺสนารโห อวนฺทิโย, มานตฺตารโห อวนฺทิโย, มานตฺตจาริโก อวนฺทิโย, อพฺภานารโห อวนฺทิโย. อิเม โข, ภิกฺขเว, ทส อวนฺทิยา’’ติ (จูฬว. ๓๑๒).
๖๖๓-๔. โสสานิกนฺติ สุสาเน ฉฑฺฑิตํ. ปาปณิกนฺติ อาปณทฺวาเร ฉฑฺฑิตํ. อุนฺทูรกฺขายิตนฺติ อุนฺทูเรหิ ขายิตํ ปริจฺจตฺตํ ปิโลติกํ. โคขายิตาทีสุปิ เอเสว นโย. ถูปจีวริกนฺติ พลิกมฺมตฺถาย วมฺมิเก ปริกฺขิปิตฺวา ปริจฺจตฺตวตฺถํ. อาภิเสกิยนฺติ ราชูนํ อภิเสกมณฺฑเป ปริจฺจตฺตวตฺถํ. คตปจฺจาคตฺจาติ สุสานคตมนุสฺเสหิ ปจฺจาคนฺตฺวา นหายิตฺวา ฉฑฺฑิตํ ปิโลติกํ.
๖๖๕. สพฺพนีลาทโย วุตฺตา, ทส จีวรธารณาติ ‘‘สพฺพนีลกานิ จีวรานิ ธาเรนฺตีติ วุตฺตวเสน ทสา’’ติ (ปริ. อฏฺ. ๓๓๐) กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. เอตฺถ อิมสฺมึ ทสเก สํกจฺจิกาย วา อุทกสาฏิกาย ¶ วา สทฺธึ ติจีวรานิ นาเมน อธิฏฺิตานิ นว จีวรานิ ‘‘ทสจีวรธารณา’’ติ วุตฺตานิ. ยถาห – ‘‘นวสุ กปฺปิยจีวเรสุ อุทกสาฏิกํ วา สํกจฺจิกํ วา ปกฺขิปิตฺวา ทสาติ วุตฺต’’นฺติ (ปริ. อฏฺ. ๓๓๐).
ทสกกถาวณฺณนา.
๖๖๖. ปณฺฑกาทโย เอกาทส อภพฺพปุคฺคลา ปน อุปสมฺปาทิตาปิ อนุปสมฺปนฺนา โหนฺตีติ โยชนา.
๖๖๗. ‘‘อกปฺปิยา’’ติ ¶ วุตฺตา ปตฺตา เอกาทส ภวนฺตีติ โยชนา. ทารุเชน ปตฺเตนาติ ทารุมเยน ปตฺเตน. รตนุพฺภวาติ รตนมยา ทส ปตฺตา เอกาทส ภวนฺตีติ โยชนา. ทารุเชน จาติ เอตฺถ จ-สทฺเทน ตมฺพโลหมยปตฺตสฺส สงฺคโห. ยถาห ‘‘เอกาทส ปตฺตาติ ตมฺพโลหมเยน วา ทารุมเยน วา สทฺธึ ทสรตนมยา’’ติ. อิธ รตนํ นาม มุตฺตาทิทสรตนํ.
๖๖๘. อกปฺปิยา ปาทุกา เอกาทส โหนฺตีติ โยชนา. ยถาห ‘‘เอกาทส ปาทุกาติ ทส รตนมยา, เอกา กฏฺปาทุกา. ติณปาทุกมฺุชปาทุกปพฺพชปาทุกาทโย ปน กฏฺปาทุกสงฺคหเมว คจฺฉนฺตี’’ติ.
๖๖๙-๗๐. อติขุทฺทกา อติมหนฺตาติ โยชนา. ขณฺฑนิมิตฺตกา ฉายานิมิตฺตกาติ โยชนา. พหิฏฺเน สมฺมตาติ สีมาย พหิ ิเตน สมฺมตา. นทิยํ, ชาตสฺสเร, สมุทฺเท วา ตถา สมฺมตาติ โยชนา. สีมาย สมฺภินฺนา สีมาย อชฺโฌตฺถฏา สีมาติ โยชนา. อิมา เอกาทส อสีมาโย สิยุนฺติ โยชนา.
๖๗๑. เอกาทเสว ¶ ปถวี กปฺปิยา, เอกาทเสว ปถวี อกปฺปิยาติ โยชนา.
ตตฺถ เอกาทส กปฺปิยปถวี นาม สุทฺธปาสาณา, สุทฺธสกฺขรา, สุทฺธกถลา, สุทฺธมรุมฺพา, สุทฺธวาลุกา, เยภุยฺเยนปาสาณา, เยภุยฺเยนสกฺขรา, เยภุยฺเยนกถลา, เยภุยฺเยนมรุมฺพา, เยภุยฺเยนวาลุกาติ อิมา ทส ทฑฺฒาย ปถวิยา วา จตุมาโสวฏฺกปํสุปฺุเชน วา มตฺติกาปฺุเชน วา สทฺธึ เอกาทส. ‘‘อปฺปปํสุกา, อปฺปมตฺติกา’’ติ (ปาจิ. ๘๖) อปราปิ ปถวิโย วุตฺตา, ตา เยภุยฺเยนปาสาณาทีสุ ปฺจสุเยว สงฺคหิตา.
เอกาทส อกปฺปิยปถวี นาม ‘‘สุทฺธปํสุ สุทฺธมตฺติกา อปฺปปาสาณา อปฺปสกฺขรา อปฺปกถลา อปฺปมรุมฺพา อปฺปวาลุกา เยภุยฺเยนปํสุกา เยภุยฺเยนมตฺติกา, อทฑฺฒาปิ วุจฺจติ ชาตา ปถวี. โยปิ ปํสุปฺุโช วา มตฺติกาปฺุโช วา อติเรกจาตุมาสํ โอวฏฺโ, อยมฺปิ วุจฺจติ ชาตปถวี’’ติ (ปาจิ. ๘๖) วุตฺตา เอกาทส.
คณฺิกา ¶ กปฺปิยา วุตฺตา, เอกาทส จ วีธกาติ เอตฺถ กปฺปิยา คณฺิกา วิธกา จ เอกาทส วุตฺตาติ โยชนา. เต ปน –
‘‘เวฬุทนฺตวิสาณฏฺิ-กฏฺลาขาผลามยา;
สงฺขนาภิมยา สุตฺต-นฬโลหมยาปิ จ;
วิธา กปฺปนฺติ กปฺปิยา, คณฺิโย จาปิ ตมฺมยา’’ติ. –
อิมาย คาถาย สงฺคหิตาติ เวทิตพฺพา.
๖๗๔-๕. อุกฺขิตฺตสฺสานุวตฺติกา ภิกฺขุนี อุภินฺนํ ภิกฺขุภิกฺขุนีนํ วสา สงฺฆาทิเสเสสุ อฏฺ ยาวตติยกาติ อิเม ¶ เอกาทส ยาวตติยกาติ ปกาสิตาติ โยชนา.
๖๗๖. นิสฺสยสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธิโย ทเสกาว เอกาทเสว วุตฺตาติ โยชนา. ฉธาจริยโต วุตฺตาติ –
‘‘ปกฺกนฺเต ปกฺขสงฺกนฺเต, วิพฺภนฺเต จาปิ นิสฺสโย;
มรณาณตฺตุปชฺฌาย-สโมธาเนหิ สมฺมตี’’ติ. –
อาจริยโต ฉธา นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิโย วุตฺตา. อุปชฺฌายา ตุ ปฺจธาติ ตาสุ อุปชฺฌายสโมธานํ วินา อวเสสาหิ ปฺจธา อุปชฺฌายปฏิปฺปสฺสทฺธิโย วุตฺตาติ อิเม เอกาทส.
เอกาทสกกถาวณฺณนา.
๖๗๗. เตรเสว ธุตงฺคานีติ ปํสุกูลิกงฺคาทีนิ ธุตงฺคานิ เตรเสว โหนฺติ.
ปรมานิ จ จุทฺทสาติ ‘‘ทสาหปรมํ อติเรกจีวรํ ธาเรตพฺพํ, มาสปรมํ เตน ภิกฺขุนา ตํ จีวรํ นิกฺขิปิตพฺพํ, สนฺตรุตฺตรปรมํ เตน ภิกฺขุนา ตโต จีวรํ สาทิตพฺพํ, ฉกฺขตฺตุปรมํ ตุณฺหีภูเตน อุทฺทิสฺส าตพฺพํ, นวํ ปน ภิกฺขุนา สนฺถตํ การาเปตฺวา ฉพฺพสฺสานิ ธาเรตพฺพํ ¶ ฉพฺพสฺสปรมตา ธาเรตพฺพํ, ติโยชนปรมํ สหตฺถา หริตพฺพานิ, ทสาหปรมํ อติเรกปตฺโต ธาเรตพฺโพ, สตฺตาหปรมํ สนฺนิธิการกํ ปริภฺุชิตพฺพานิ, ฉารตฺตปรมํ เตน ภิกฺขุนา เตน จีวเรน วิปฺปวสิตพฺพํ, จตุกฺกํสปรมํ, อฑฺฒเตยฺยกํสปรมํ, ทฺวงฺคุลปพฺพปรมํ อาทาตพฺพํ, อฏฺงฺคุลปรมํ มฺจปฏิปาทกํ, อฏฺงฺคุลปรมํ ทนฺตกฏฺ’’นฺติ อิติ อิมานิ จุทฺทส ปรมานิ.
โสฬเสว ตุ ‘‘ชาน’’นฺติ ปฺตฺตานีติ ‘‘ชาน’’นฺติ เอวํ วตฺวา ปฺตฺตานิ โสฬส. เต เอวํ เวทิตพฺพา – ชานํ สงฺฆิกํ ¶ ลาภํ ปริณตํ อตฺตโน ปริณาเมยฺย, ชานํ ปุพฺพุปคตํ ภิกฺขุํ อนุปขชฺช เสยฺยํ กปฺเปยฺย, ชานํ สปฺปาณกํ อุทกํ ติณํ วา มตฺติกํ วา สิฺเจยฺย วา สิฺจาเปยฺย วา, ชานํ ภิกฺขุนิปริปาจิตํ ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุเชยฺย, ชานํ อาสาทนาเปกฺโข, ภุตฺตสฺมึ ปาจิตฺติยํ, ชานํ สปฺปาณกํ อุทกํ ปริภฺุเชยฺย, ชานํ ยถาธมฺมํ นิหฏาธิกรณํ ปุน กมฺมาย อุกฺโกเฏยฺย, ชานํ ทุฏฺุลฺลํ อาปตฺตึ ปฏิจฺฉาเทยฺย, ชานํ อูนวีสติวสฺสํ ปุคฺคลํ อุปสมฺปาเทยฺย, ชานํ เถยฺยสตฺเถน สทฺธึ สํวิธาย เอกทฺธานมคฺคํ ปฏิปชฺเชยฺย, ชานํ ตถาวาทินา ภิกฺขุนา อกตานุธมฺเมน, ชานํ ตถานาสิตํ สมณุทฺเทสํ, ชานํ สงฺฆิกํ ลาภํ ปริณตํ ปุคฺคลสฺส ปริณาเมยฺย, ชานํ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺนํ ภิกฺขุนึ เนวตฺตนา ปฏิโจเทยฺย, ชานํ โจรึ วชฺฌํ วิทิตํ อนปโลเกตฺวา, ชานํ สภิกฺขุกํ อารามํ อนาปุจฺฉา ปวิเสยฺยาติ.
๖๗๘. อิธ อิมสฺมึ สาสเน โย ภิกฺขุ อนุตฺตรํ สอุตฺตรํ อุตฺตรปกรเณน สหิตํ สกลมฺปิ วินยวินิจฺฉยํ ชานาติ, มหตฺตเร อติวิปุเล อนุตฺตเร อุตฺตรวิรหิเต อุตฺตเม วินยนเย วินยาคเต อาปตฺติอนาปตฺติครุกลหุกกปฺปิยอกปฺปิยาทิวินิจฺฉยกมฺเม. อถ วา วินยนเย วินยปิฏเก ปวตฺตมาโน โส ภิกฺขุ นิรุตฺตโร ภวติ ปจฺจตฺถิเกหิ วตฺตพฺพํ อุตฺตรํ อติกฺกมิตฺวา ิโต, เสฏฺโ วา ภวติ, ตสฺส เจว ปเรสฺจ สํสโย น กาตพฺโพติ โยชนา. ชานตีติ คาถาพนฺธวเสน รสฺโส.
อิติ อุตฺตเร ลีนตฺถปกาสนิยา
เอกุตฺตรนยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.