📜
นิสฺสคฺคิยกถาวณฺณนา
๕๕๑. เอวํ อนิยตกถํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ นิสฺสคฺคิยกถํ ทสฺเสตุมาห ‘‘โขม’’นฺติอาทิ ¶ . โขมนฺติ เอวํนามกํ จีวรํ. โขมนฺติ คจฺฉวิเสสสฺส นามํ, ตสฺส วาเกหิ กตจีวรํ การโณปจารโวหารวเสน ‘‘โขม’’นฺติ วุตฺตํ. กปฺปาสนฺติ กปฺปาสสุตฺตมยํ จีวรํ, อิทมฺปิ วุตฺตนเยเนว ‘‘กปฺปาส’’นฺติ วุจฺจติ. โกเสยฺยํ นาม โกสการกิมิโกสํ, โกเสน นิพฺพตฺตํ สุตฺตํ โกเสยฺยํ. อิธ ปน เตน โกเสยฺยสุตฺเตน นิพฺพตฺตํ จีวรํ ‘‘โกเสยฺย’’นฺติ วุตฺตํ. สาณนฺติ สาณวากสุตฺเตหิ วายิตฺวา กตจีวรํ. อิทฺจ โขมํ วิย ทฏฺพฺพํ. ภงฺคนฺติ โขมสุตฺตาทีนิ สพฺพานิ, เอกจฺจานิ วา มิสฺเสตฺวา กตจีวรํ. อิทมฺปิ กรณปฺปกาเรน ลทฺธนามกํ. ‘‘ภงฺคํ นาม เอกา คจฺฉชาติ, ตสฺสา วากมยสุตฺเตหิ วายิตฺวา กตจีวร’’นฺติ เกจิ. อิมสฺมึ ปกฺเข โขมํ วิย คเหตพฺพํ. กมฺพลนฺติ มนุสฺสโลมวาฬโลมํ วินา เสสโลเมหิ วายิตฺวา กตจีวรํ วุตฺตนฺติ. อิทํ ‘‘จีวรํ นาม ฉนฺนํ จีวรานํ อฺตรํ จีวร’’นฺติ (ปารา. ๔๖๓) ปทภาชเน จ ‘‘โขมํ กปฺปาสิกํ โกเสยฺยํ กมฺพลํ สาณํ ภงฺค’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๒-๔๖๓) อฏฺกถาย จ วุตฺตํ สนฺธายาห. ‘‘ชาติโต’’ติ ¶ อิทํ ปมาณาทิเภทสฺส วกฺขมานตฺตา วุตฺตํ. ชาติโตติ โขมาทิสามฺโต. สามฺฺหิ ‘‘ชาตี’’ติ วุจฺจติ. ทีฆรสฺสถูลสุขุมนีลปีตาทิเภทภินฺนานํ สพฺเพสํ วตฺถาวยวานํ สงฺคาหิกโขมสุตฺตมยตาสามฺํ ชาตีติ วุตฺตํ โหติ. เอวํ เสเสสุปิ.
๕๕๒. ทุกูลนฺติ เอวํนามกํ รุกฺขวากมยจีวรํ. ปตฺตุณฺณนฺติ ปตฺตุณฺณเทเส สฺชาตวตฺถํ. ‘‘ปตฺตุณฺณํ โกเสยฺยวิเสโส’’ติ อภิธานโกเส วุตฺตํ. จินนฺติ จินเทเส อุปฺปนฺนวตฺถํ. โสมารปฏฺฏกนฺติ โสมารเทเส อุปฺปนฺนวตฺถํ. ‘‘โสมารจินปฏก’’นฺติปิ ลิขนฺติ, โสเยวตฺโถ. อิทฺธิชนฺติ เอหิภิกฺขูนํ ปฺุิทฺธิยา นิพฺพตฺตํ จีวรํ. เทวทินฺนนฺติ เทวตาหิ ทินฺนํ จีวรํ. ตฺหิ กปฺปรุกฺเข นิพฺพตฺตํ, ชาลินิยา เทวกฺาย อนุรุทฺธตฺเถรสฺส ทินฺนวตฺถสทิสํ. ตสฺสาติ ชาติโต ฉพฺพิธสฺส กปฺปิยจีวรสฺส. อิทํ ฉพฺพิธจีวรํ ยถารหํ อนุโลมิกํ วุตฺตนฺติ อตฺโถ. ทุกูลฺหิ สาณสฺส อนุโลมํ วากมยตฺตา, ปตฺตุณฺณาทีนิ โกเสยฺยสฺส อนุโลมานิ ปาณเกหิ กตสุตฺตมยตฺตา, อิทฺธิชมฺปิ โขมาทีนํเยว อฺตรํ โหตีติ เตสํ อนุโลมํ, เทวทินฺนมฺปิ โขมาทีนํเยว อนุโลมํ โหติ เตสํ อฺตรภาวโต. ยถาห –
‘‘สาณสฺส ตุ ทุกูลฺหิ, อิทฺธิชํ เทวทินฺนกํ;
โขมาทีนํวสิฏฺํตุ, โกเสยฺยสฺสานุโลมิก’’นฺติ.
๕๕๓. ติณฺณํ ¶ จีวรานํ สมาหาโร ติจีวรนฺติ ปมาณยุตฺตํ สงฺฆาฏิอาทินาเมน อธิฏฺิตจีวรสฺเสว นามตฺตา ตเทว วุจฺจติ. คณนวเสน ยํ กิฺจิ จีวรตฺตยํ น วตฺตพฺพํ. สมุทฺเทกเทโสปิ ยถา ‘‘สมุทฺโท’’ติ วุจฺจติ, เอวํ อธิฏฺิเตสุ ตีสุ จีวเรสุ อฺตรํ ‘‘ติจีวร’’นฺติ วุจฺจติ. ปริกฺขารโจฬนฺติ ¶ สงฺฆาฏิอาทิวิสิฏฺนาเมหิ อนธิฏฺิตํ ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว อายาเมน อฏฺงฺคุลํ สุคตงฺคุเลน จตุรงฺคุลวิตฺถตํ ปจฺฉิมํ จีวร’’นฺติ (ปารา. ๓๕๘) อนฺุาตํ ปจฺฉิมจีวรปริยนฺตํ กตฺวา กตากตสฺส ยสฺส กสฺสจิ จีวรสฺส รุฬฺหิสฺา.
มุขํ สนฺทมานลาลํ ปฺุฉติ เอเตนาติ มุขปฺุฉนนฺติ กโปลโต นิจฺจํ สนฺทมานลาลานํ ปฺุฉนตฺถาย อนฺุาตสฺส จีวรวิเสสสฺส นามํ. นิสีทนฺติ เอตฺถาติ นิสีทนนฺติ จ ภิกฺขูนํ อตฺถริตฺวา นิสีทิตุํ อนฺุาตสฺส จีวรสฺส นามํ. อธิฏฺเยฺยาติ ‘‘อิมํ กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิ’’นฺติอาทินา (วิ. วิ. ๕๘๕) วกฺขมานนเยน นามํ คเหตฺวา อธิฏฺเยฺยาติ อตฺโถ. ปจฺจตฺถรณเมว จาติ สงฺฆิเก มฺจปีเ สรีรสมฺผุสเนน อาปชฺชิตพฺพาย อาปตฺติยา โมจนตฺถาย ตตฺถ อตฺถริตฺวา ปริโภคตฺถาย อนฺุาตํ ปจฺจตฺถรณจีวรฺจ.
๕๕๔. เอกาหนฺติ วสนกิริยาย อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. ติจีวรนฺติ ติจีวเรน. วิปฺปวเสยฺยาติ ‘‘สงฺฆาฏิยา วา อุตฺตราสงฺเคน วา อนฺตรวาสเกน วา’’ติ (ปารา. ๔๗๖) วุตฺตตฺตา เอกเทเส สมุทาโยปจารวเสน อวยวสฺส วจนโต ติณฺณํ จีวรานํ อฺตเรนาติปิ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘วินา’’ติ อิทํ ปจฺจามสติ. อธิฏฺาติ อธิฏฺายาติ คเหตพฺพํ ‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๒, ๒๓; อ. นิ. ๖.๕๘) ยถา, เอตฺถ ‘‘วฬฺชิยมาน’’นฺติ เสโส, อธิฏฺาย วฬฺชิยมานํ นิสีทนํ ตถา วินา จตุมาสํ น วเสยฺยาติ โยชนา.
๕๕๕. กปฺปิยนฺติ กปฺปิยการณํ นีลาทิวณฺณเภทกรณํ. กปฺปิยนฺติ จ การเณ การิยูปจาเรน คเหตพฺพํ. พินฺทุํ ทตฺวาติ ‘‘นีลํ วา กทฺทมํ วา กาฬสามํ วา’’ติ (ปาจิ. ๓๖๘) วุตฺตโลหมลาทินา ¶ เยน เกนจิปิ มงฺคุลปิฏฺิปฺปมาณาทิกํ พินฺทุํ ทตฺวา. ตตฺถาติ เตสุ อธิฏฺาตพฺเพสุ ติจีวราทีสุ, นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. ติจีวรนฺติ นิทฺธาริตพฺพํ. อุปปนฺนนฺติ ยุตฺตํ. ปมาเณนาติ อนนฺตรํ วกฺขมาเนน ปมาเณน. อธิฏฺาตพฺพนฺติ ‘‘อิมํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามี’’ติอาทินา ¶ วกฺขมานนเยน นามํ วตฺวา อธิฏฺาตพฺพํ. เอวกาเรน ปน นามํ วตฺวา น วิกปฺเปตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. เอส นโย เสสจีวเรสุปิ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว ติจีวรํ อธิฏฺาตุํ, น วิกปฺเปตุ’’นฺติอาทิ (มหาว. ๓๕๘). ตสฺมา ติจีวราทีนิ อธิฏฺหนฺเตน ‘‘อิมํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามี’’ติอาทินา นามํ วตฺวา อธิฏฺาตพฺพํ. วิกปฺเปนฺเตน ปน ‘‘อิมํ สงฺฆาฏิ’’นฺติอาทินา ตสฺส จีวรสฺส นามํ อคฺคเหตฺวา ‘‘อิมํ จีวรํ ตุยฺหํ วิกปฺเปมี’’ติ วิกปฺเปตพฺพํ. ติจีวรํ วา โหตุ อฺํ วา, ยทิ ตํ ตํ นามํ คเหตฺวา วิกปฺเปติ, อวิกปฺปิตํ โหติ อติเรกจีวรฏฺาเน ติฏฺติ. ตํ จีวรนฺติ สมฺพนฺโธ.
๕๕๖-๗. ‘‘อุปปนฺนํ ปมาเณนา’’ติ เอตฺถ วุตฺตปฺปมาณํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปจฺฉิมนฺเตนา’’ติอาทิ. สงฺฆฏิตฏฺเน สงฺฆาฏิ. วตฺถขณฺฑานิ สิพฺพนกมฺเมน สงฺฆเฏตฺวา กตตฺตา ‘‘สงฺฆาฏี’’ติ จีวรานํ สามฺนามํ. อิธ ปน รุฬฺหิยา อนฺตรวาสกาทิวิเสสนามพฺยติริตฺเต จีวรวิเสเส วตฺตติ. มุฏฺิปฺจกาติ เอตฺถ เอกาทีนมฏฺารสนฺตานํ สงฺขฺยาสทฺทานํ สงฺขฺเยยฺเย วตฺตมานตฺตา ปฺจสทฺโท จีวรปฺปมาณปฺปกรณโต ลพฺภมานหตฺถสงฺขาตรตเนเยว ปวตฺตติ, เตเนว มุฏฺิสทฺโทปิ อุตฺตรปทโลเปน มุฏฺิรตเน วตฺตติ. ปฺจนฺนํ ปูรโณ ปฺจโม, มุฏฺิยา ปฺจโม มุฏฺิปฺจโม. มุฏฺิปฺจโม ปริมาณเมติสฺสาติ ‘‘มุฏฺิปฺจมกา’’ติ วตฺตพฺเพ ม-การโลเปน ‘‘มุฏฺิปฺจกา’’ติ สงฺฆาฏิ วุตฺตา.
มุฏฺิตฺติกาติ ¶ เอตฺถ วุตฺตนเยน สงฺขฺเยยฺเย วตฺตมาโน ติ-สทฺโท จีวรปฺปมาณปฺปกรณโต ลพฺภมานหตฺถสงฺขาตรตเนเยว วตฺตติ, เตเนว มุฏฺิสทฺโทปิ อุตฺตรปทโลเปน มุฏฺิรตเน วตฺตติ. ติณฺณํ ปูรโณ ตติโย, มุฏฺิยา ตติโย มุฏฺิตติโย, มุฏฺิตติโย ปริมาณเมติสฺสาติ ‘‘มุฏฺิตติยกา’’ติ วตฺตพฺเพ ติย-ปจฺจยโลเปน ‘‘มุฏฺิตฺติกา’’ติ สงฺฆาฏิเยว วุจฺจติ. เอวมุปริปิ. ติริยนฺติ ติริยโต.
อุตฺตมนฺเตนาติ อุกฺกฏฺปริมาณนฺเตน. สตฺถุโน จีวรูนาปีติ ‘‘ตตฺริทํ สุคตสฺส สุคตจีวรปฺปมาณํ, ทีฆโส นว วิทตฺถิโย สุคตวิทตฺถิยา, ติริยํ ฉ วิทตฺถิโย’’ติ (ปาจิ. ๕๔๘) วุตฺตปฺปมาณสุคตจีวรโต อูนาปิ. ปิ-สทฺโท สมฺภาวเน, อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน ตตฺตกมฺปิ วฏฺฏติ, ตโต เจ อูนํ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ อตฺโถ. อนฺตทฺวยสนฺทสฺสเนน อุภยมชฺเฌ ยํ ปโหนกรุจฺจนกปฺปมาณํ, ตํ คเหตพฺพนฺติ ทสฺเสติ.
๕๕๘. มุฏฺิปฺจกสทฺโท ¶ ปุพฺเพ วุตฺตนเยนิธ ทีฆนฺเต วตฺตติ. มุฏฺิปฺจโก ทีฆนฺโต ยสฺส, ยสฺมึ วา ปมาเณติ วิคฺคโห, ทีฆนฺตโต มุฏฺิปฺจกปฺปมาเณนาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘มุฏฺิปฺจม’’นฺติปิ ลิขนฺติ. ติริยนฺตโตติ วิตฺถารนฺตโต. อฑฺฒหตฺโถ อฑฺโฒ อุตฺตรปทโลเปน, โส เตยฺโย ตติโย ยสฺส ปมาณสฺสาติ คเหตพฺพํ, ตํ, อฑฺฒเตยฺยรตนปฺปมาณํ โหตีติ อตฺโถ. ทฺวิหตฺถํ วาติ ทฺเว หตฺถา ยสฺส ปมาณสฺสาติ วิคฺคโห, ทฺวิรตนปฺปมาณํ วา โหตีติ อตฺโถ. อิทฺจ ‘‘ติริยํ ทฺวิหตฺโถปิ วฏฺฏติ. ปารุปเนนปิ หิ สกฺกา นาภึ ปฏิจฺฉาเทตุ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙) อฏฺกถาคตตฺตา วุตฺตํ. ‘‘เสเส อนฺตรวาสเก’’ติ อิทํ ยถาวุตฺตปริมาเณน ปริมิตจีวรนิทสฺสนํ.
๕๕๙. อหตาหตกปฺปานนฺติ ¶ เอตฺถ ‘‘วตฺถาน’’นฺติ เสโส. อหตานํ วตฺถานนฺติ นววตฺถานํ. อหตโต กิฺจิ อูนานิ อหตกปฺปานิ, เตสํ นวโวหารูปคานํ กติปยโธตานํ วตฺถานนฺติ วุตฺตํ โหติ. สงฺฆาฏีติ สงฺฆาฏินามกจีวรํ. ทิคุณาติ ทุปฏฺฏกตา.
๕๖๐. อุตุทฺธฏานนฺติ อติกฺกนฺตทิวสานํ, พหุกาลํ นิวาเสตฺวา ปริจฺจตฺตานนฺติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา ยานิ อุตุโต อุทฺธฏานิ, เตสํ วตฺถานนฺติ คเหตพฺพํ, ติณฺณํ อุตูนมฺตรํ อติกฺกมิตฺวา ิตานํ ปุราณวตฺถานนฺติ วุตฺตํ โหติ. จีวรานนฺติ จีวรตฺถานิ วตฺถาเนว คหิตานิ. จตุคฺคุณาติ จตุปฏฺฏา. เสสา ทุเวติ อนฺตรวาสกอุตฺตราสงฺคา ทฺเว. ยถาสุขนฺติ ยถารุจิ. ปํสุกูลนฺติ สุสานาทีสุ ปติตปิโลติกจีวรํ.
๕๖๑. ‘‘ตีณิปี’’ติอาทีสุ ‘‘ติจีวเร กยิรมาเน สพฺพํ ฉินฺนกํ นปฺปโหตี’’ติ ปาฬิยํ อาคตวตฺถุมฺหิ ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว ทฺเว ฉินฺนกานิ เอกํ อฉินฺนก’’นฺติ (มหาว. ๓๖๐) อาทิวจนโต ‘‘จีวร’’นฺติ เสโส. ฉินฺทิตพฺพนฺติ วตฺถานิ ฉินฺทิตฺวา สิพฺเพตฺวา กาตพฺพํ. ปโหติ เจติ วตฺถานิ ฉินฺทิตฺวา กรเณ ยทิ จีวรสฺส ปโหติ. สพฺเพสูติ ตีสุ จีวเรสุ. อปฺปโหนฺเตสูติ วตฺถานํ ฉินฺทิตฺวา สิพฺพเนน อปฺปโหนฺเตสุ. อนฺวาธิกนฺติ วตฺเถ อูนาติเรกํ อปเนตฺวา อาคนฺตุกปตฺตสงฺขาตํ อนุวาตํ จีวรสฺส ปริยนฺเต, มชฺเฌ จ ยถารหํ ทีฆรสฺสปริมาณยุตฺตํ อลฺลิยาเปตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๕๖๒. อจฺฉินฺนํ วาติ ยถาวุตฺตนเยน อจฺฉินฺนํ วา. อนาทินฺนนฺติ อนาทินฺนอาคนฺตุกปตฺตํ ¶ . ติจีวรนฺติ ตีสุ จีวเรสุ เอเกกนฺติ วุตฺตํ โหติ. ทุพฺโภเคนาติ ทุฏฺุ ปริโภเคน ¶ . ยถา ปริภุตฺตํ นสฺสติ, ตถา กิลิฏฺานํ โธวนาทิมกตฺวา นิวาสนาทินา ปริโภเคน.
๕๖๓-๔. กุสินฺติ อายามโต จ วิตฺถารโต จ อนุวาตํ จีวรมชฺเฌ ตาทิสเมว ทีฆปตฺตฺจ. วุตฺตฺเหตํ จีวรกฺขนฺธอฏฺกถายํ ‘‘กุสีติ อายามโต จ วิตฺถารโต จ อนุวาตาทีนํ ทีฆปตฺตานเมตํ อธิวจน’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๔๕). อฑฺฒกุสินฺติ อนุวาตสทิสํ จีวรมชฺเฌ ตตฺถ ตตฺถ รสฺสปตฺตํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘อฑฺฒกุสีติ อนฺตรนฺตรา รสฺสปตฺตานํ นาม’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๔๕). มณฺฑลนฺติ เอเกกสฺมึ ขณฺเฑ มหามณฺฑลํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘มณฺฑลนฺติ ปฺจขณฺฑิกจีวรสฺส เอเกกสฺมึ ขณฺเฑ มหามณฺฑล’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๔๕). อฑฺฒมณฺฑลนฺติ มณฺฑลสฺส อนฺโต นิเวสิยมานํ ขุทฺทกมณฺฑลํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘อฑฺฒมณฺฑลนฺติ ขุทฺทกมณฺฑล’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๔๕). วิวฏฺฏนฺติ มณฺฑลํ, อฑฺฒมณฺฑลฺจาติ ทฺเว เอกโต กตฺวา สิพฺพิตํ เวมชฺเฌ ขณฺฑํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘วิวฏฺฏนฺติ มณฺฑลฺจ อฑฺฒมณฺฑลฺจ เอกโต กตฺวา สิพฺพิตํ มชฺฌิมขณฺฑ’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๔๕). อนุวิวฏฺฏนฺติ มชฺฌิมขณฺฑสฺส อุโภสุ ปสฺเสสุ สิพฺพิตํ ตเถว ทฺวิมณฺฑลปตฺตํ ขณฺฑทฺวยํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘อนุวิวฏฺฏนฺติ ตสฺส อุโภสุ ปสฺเสสุ ทฺเว ขณฺฑานี’’ติ (มหาว. อฏฺ. ๓๔๕). พาหนฺตนฺติ เตสํ อนุวิวฏฺฏานํ พาหิรปสฺเส สิพฺพิตํ พาหิรขณฺฑทฺวยํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘พาหนฺตนฺติ เตสํ อนุวิวฏฺฏานํ พหิ เอเกกํ ขณฺฑ’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๔๕).
ปฺจนฺนํ สมาหาโร ปฺจกํ, ทสฺสิตปฺปการปฺจขณฺเฑหิ สิพฺพิตจีวรํ ปฺจกํ นาม. อาทิ-สทฺเทน สตฺตขณฺฑาทีหิ สิพฺพิตจีวรานํ คหณํ. เตเนเวตฺถาห ‘‘กตฺตพฺพํ ตุ ติจีวร’’นฺติ. สตฺตขณฺฑสฺส จีวรสฺส เอกํ มชฺฌิมขณฺฑํ วิวฏฺฏนามเมว โหติ, ตสฺส อุโภสุ ปสฺเสสุ ทฺเว ทฺเว ขณฺฑานิ ¶ จูฬานุวิวฏฺฏมหานุวิวฏฺฏสงฺขาตานิ อนุวิวฏฺฏนามาเนว โหนฺติ. วุตฺตฺเจตํ อฏฺกถายํ ‘‘อถ วา อนุวิวฏฺฏนฺติ วิวฏฺฏสฺส เอกปสฺสโต ทฺวินฺนํ, เอกปสฺสโต ทฺวินฺนนฺติ จตุนฺนมฺปิ ขณฺฑานเมตํ นาม’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๔๕). พาหนฺตนฺติ ทฺวีสุ ปริยนฺเตสุ สิพฺพนียํ พาหิรขณฺฑทฺวยํ, ตฺจ สงฺฆเฏตฺวา พาหมตฺถเก ปิยมานตฺตา ‘‘มฺจา อุกฺกุฏฺึ กโรนฺตี’’ติอาทีสุ วิย อาเธยฺเย อาธาโรปจารวเสน พาหาติ จ จีวรสฺส ปริยนฺตาวยวตฺตา ‘‘อนฺต’’นฺติ จ วุจฺจติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘พาหนฺตนฺติ สุปฺปมาณํ จีวรํ ปารุปนฺเตน สํหริตฺวา พาหาย ¶ อุปริ ปิตา อุโภ อนฺตา พหิมุขา ติฏฺนฺติ, เตสํ เอตํ นาม’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๓๔๕). อิทํ สตฺตขณฺฑจีวรเมว มหาอฏฺกถายํ วิหิตนฺติ อิทานิปิ ตเทว วฏฺฏติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘อยเมว หิ นโย มหาอฏฺกถายํ วุตฺโต’’ติ. ภิกฺขุนา กุสึ…เป… พาหนฺตมฺปิจาติ สพฺพํ วิธึ ทสฺเสตฺวาว ฉินฺนํ ปฺจกาทิปฺปเภทกํ สมณสารุปฺปํ ติจีวรํ กตฺตพฺพนฺติ โยชนา.
๕๖๕-๖. ยถาวุตฺตวิธึ อวิราเธตฺวา จีวรํ กปฺปพินฺทุํ ทตฺวา สงฺฆาฏิอาทินาเมน อธิฏฺาย ปริภฺุชนฺตสฺส อธิฏฺานํ กถํ ภิชฺชตีติ อาห ‘‘ทาเนนา’’ติอาทิ. ทาเนนาติ อฺสฺส ทาเนน. อจฺฉิชฺชคาเหนาติ อฺเน อจฺฉินฺทิตฺวา คหเณน. วิสฺสาสคฺคหเณน จาติ อตฺตนิ วิสฺสาเสน อฺสฺส คหเณน. หีนายาวตฺตเนนาติ สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขาย คิหิภาวูปคมเนน อฺสฺส ทาเน วิย จีวเร นิราลยภาเวเนว ปริจฺจตฺตา.
เกจิ ปน ‘‘หีนายาวตฺตเนนาติ ภิกฺขุนิยา คิหิภาวูปคมเนนาติ เอวมตฺถํ คเหตฺวา ภิกฺขุ ปน วิพฺภนฺโตปิ ยาว สิกฺขํ น ปจฺจกฺขาติ, ตาว ภิกฺขุเยวาติ อธิฏฺานํ น วิชหตี’’ติ ¶ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ ‘‘ภิกฺขุนิยา หีนายาวตฺตเนนา’’ติ วิเสเสตฺวา อวุตฺตตฺตา, ภิกฺขุนิยา จ คิหิภาวูปคมเน อธิฏฺานวิชหนํ วิสุํ วตฺตพฺพนฺติ นตฺถิ ตสฺสา วิพฺภมเนเนว อสฺสมณิภาวโต.
สิกฺขายาติ ภิกฺขุสิกฺขาย. ปหาเนนาติ ปจฺจกฺขาเนน. สิกฺขาปจฺจกฺขานํ ปเนตฺถ สเจ ภิกฺขุลิงฺเค ิโต สิกฺขํ ปจฺจกฺขาติ, ตสฺส กายลคฺคมฺปิจีวรํ อธิฏฺานํ วิชหตีติ ทสฺสนตฺถํ คหิตํ. ‘‘สิกฺขาย จ ปหานโต’’ติ จ ลิขนฺติ, ตํ ‘‘หีนายาวตฺตเนนาปิ, สิกฺขาย จ ปหานโต’’ติ ปากฺกเม สติ ยุชฺชติ. ยถาวุตฺโต ปน ปาโ ‘‘สิกฺขาย จ ปหาเนน, หีนายาวตฺตเนนปี’’ติ ปากฺกเม ยุชฺชติ. ยถา ตถา วา โหตุ, น โกจิ วิโรโธ.
ปจฺจุทฺธาเรนาติ จีวรสฺส ปจฺจุทฺธรเณน. ‘‘กาลกิริยายา’’ติ อฏฺกถาวจนโต วินาเสนาติ จีวรสามิกสฺส ชีวิตวินาโสว วุจฺจตีติ. ลิงฺคสฺส ปริวตฺตนาติ ภิกฺขุสฺส อิตฺถิลิงฺคปริวตฺตนา, ภิกฺขุนิยา ปุริสลิงฺคปริวตฺตนาติ เอวํ อุภยถา ลิงฺคสฺส ปริวตฺตเนน. สพฺพํ ¶ นววิธมฺปิ จีวรํ. อธิฏฺานนฺติ เอตฺถ ‘‘อิเมหิ อฏฺหี’’ติ เสโส. วุตฺโตวายมตฺโถ อฏฺกถายํ ‘‘ตตฺถ ปุริเมหิ อฏฺหิ สพฺพจีวรานิ อธิฏฺานํ วิชหนฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙). ภิชฺชตีติ ปชหติ. ฉิทฺทสฺส ภาโว ฉิทฺทภาโว, ตสฺมึ, ฉิทฺเท สติ ฉิทฺเท ชาเตติ วุตฺตํ โหติ. ติจีวรนฺติ ตีสุ จีวเรสุ อฺตรนฺติ วุตฺตํ โหติ. ติจีวรเมว วาติ คเหตพฺพํ. วุตฺตฺจ ‘‘ฉิทฺทภาเวน ปน ติจีวรสฺเสวา’’ติ.
๕๖๗. กีวปฺปมาเณ ฉิทฺเท ชาเตติ อาห ‘‘กนิฏฺสฺสา’’ติอาทิ. ‘‘กนิฏฺ…เป… มาณก’’นฺติ อิมินา เหฏฺิมปริจฺเฉทํ ทสฺเสติ.
๕๖๘. เอโก ¶ ตนฺตุปีติ ทีฆโต วา ติริยโต วา เอกมฺปิ สุตฺตํ.
๕๖๙. ชิณฺณฏฺาเน อคฺคฬํ เทนฺเตน เตจีวริเกน วตฺติตพฺพวิธึ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปม’’นฺติอาทิ. ปมนฺติ ฉินฺนฏฺานสฺส ฉินฺทนโต ปุพฺเพเยว. อคฺคฬํ ทตฺวาติ วตฺถขณฺฑํ อลฺลิยาเปตฺวา. รกฺขตีติ เอตฺถ ‘‘อธิฏฺาน’’นฺติ อนุวตฺตเต, ‘‘เตจีวริโก ภิกฺขู’’ติ ลพฺภติ, เอวํ วตฺถขณฺฑํ อลฺลิยาเปนฺโต เตจีวริโก ภิกฺขุ อธิฏฺานํ รกฺขตีติ วุตฺตํ โหติ. วิปริยาเยน อธิฏฺานํ ภินฺทตีติ ลพฺภติ. ปมํ ทฺเว โกฏิโย ฆเฏตฺวาติ โยชนา. มชฺเฌ ชิณฺณํ อธิฏฺิตจีวรํ มชฺเฌ ฉินฺทนฺโต ตโต ปุพฺเพเยว ทฺเว โกฏิโย เอกโต ฆเฏตฺวา สิพฺพิตฺวา. ปจฺฉาติ โกฏิฆฏนโต ปจฺฉา. ฉินฺทตีติ มชฺฌํ อุภยโกฏึ กาตุํ ฉินฺทติ. รกฺขตีติ วุตฺตปฺปการเมว.
๕๗๐. ติจีวเร กตฺถ ชาตํ ฉิทฺทมธิฏฺานํ ภินฺทตีติ อาห ‘‘จตุรงฺคุลา’’ติอาทิ. จตฺตาริ จ อฏฺ จ จตุรฏฺํ, จตุนฺนํ อฏฺนฺนํ วา องฺคุลานํ สมาหาโร จตุรฏฺงฺคุลํ, ตสฺมาติ คเหตพฺพํ. จตุรงฺคุลา อฏฺงฺคุลาติ โยชนา. โอรนฺติ อพฺภนฺตรํ. เอกฺจ ทฺเว จ เอกทฺเว, เตสํ เอกทฺวินฺนํ, ‘‘จีวราน’’นฺติ ปกรณโต ลพฺภติ, เอกสฺส จีวรสฺส, ทฺวินฺนฺจ จีวรานนฺติ โยชนา. ยถาสงฺขฺยานุทฺเทสวเสน เอกสฺส ติริยโต จตุรงฺคุลโต โอรํ, ทฺวินฺนํ ติริยโต อฏฺงฺคุลโต โอรนฺติ โยชนา. วากฺยทฺวเยปิ ‘‘ฉิทฺทํ ภินฺทเตวา’’ติ โยเชตพฺพํ.
เอกสฺส จีวรสฺสาติ อนฺตรวาสกจีวรสฺส. ติริยโตติ วิตฺถารโต. จตุรงฺคุลํ โอรนฺติ จตุรงฺคุลโต ¶ อพฺภนฺตเร ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ ภินฺทติ. ทฺวินฺนนฺติ อุตฺตราสงฺคสงฺฆาฏีนํ. ติริยโตติ ¶ วิตฺถารโต. อฏฺงฺคุลโต โอรนฺติ อฏฺงฺคุลโต อพฺภนฺตเร. ติณฺณมฺปิ ทีฆโต วิทตฺถิยา โอรํ ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ ภินฺทเตวาติ โยชนา. เอตฺถ วิทตฺถิ วฑฺฒกิวิทตฺถิ คเหตพฺพา. เอวํ วุตฺตปริจฺเฉทพฺภนฺตเร ฉิทฺเท ชาเต ตสฺส จีวรสฺส อติเรกจีวรตฺตา ทสาหมนติกฺกมิตฺวา สูจิกมฺมํ กตฺวา อธิฏฺาตพฺพํ. ตถา อกโรนฺเตน ปน ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตพฺพํ.
๕๗๑. ‘‘นิสีทนสฺสา’’ติ ‘‘นิสีทนจีวรสฺสา’’ติ วตฺตพฺเพ อุตฺตรปทโลเปน วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ทิยฑฺฒาติ เอตฺถ วิเสสิตพฺพา วิทตฺถิ ‘‘ทฺเว วิทตฺถิโย’’ติ จ ‘‘สุคตสฺส วิทตฺถิยา’’ติ จ วุตฺตสามตฺถิยา ลพฺภติ. อฑฺเฒน ทุติยา ทิยฑฺฒา, ทุติยํ อฑฺฒเมตสฺสาติ ‘‘ทุติยฑฺฒา’’ติ วตฺตพฺเพ ติย-ปจฺจยโลเปน ‘‘ทิยฑฺฒา’’ติ วุตฺตํ, อฑฺฒทุติยาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘สุคตสฺส วิทตฺถิยา’’ติ ปมาณนิยมสฺส กตตฺตา วฑฺฒกิวิทตฺถิยา ติสฺโส วิทตฺถิโย เอกา สุคตวิทตฺถิ โหติ. อิทํ นิสีทนจีวรํ ทีฆโต วฑฺฒกิหตฺเถน ติหตฺถํ, วิตฺถารโต ฉฬงฺคุลาธิกทฺวิหตฺถปฺปมาณํ โหติ. ‘‘ทสา วิทตฺถี’’ติ (ปาจิ. ๕๓๓) วุตฺตตฺตา ทิยฑฺฒหตฺถา ทสาติ เวทิตพฺพา.
๕๗๒. จตสฺโสติ เอตฺถาปิ ‘‘วิทตฺถิโย’’ติ สามตฺถิยาว ลพฺภติ. ‘‘กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิยา’’ติ วิภตฺติปริณาเมน ทีฆโตติ โยชนา.
๕๗๓. อฑฺฒํ เตยฺยํ ตติยํ ยสฺสา สา อฑฺฒเตยฺยา, อฑฺฒตติยาติ วุตฺตํ โหติ.
๕๗๔. ตโต อุตฺตรึ ตทุตฺตรึ, ตสฺส ตสฺส วุตฺตปฺปมาณโต อติเรกํ. อธิกจฺเฉทนนฺติ อธิกสฺส ปมาณาติริตฺตฏฺานสฺส เฉทนํ อสฺส ปาจิตฺติยสฺส เทสนายาติ ¶ อธิกจฺเฉทนํ, วุตฺตปฺปมาณโต อธิกฏฺานํ ฉินฺทิตฺวา เทเสตพฺพํ ปาจิตฺติยํ. อุทีริตํ วุตฺตํ ปาฬิยาติ อตฺโถ.
๕๗๕. อปฺปมาเณนาติ คุณวเสน อปฺปมาเณน สมฺมาสมฺพุทฺเธน.
๕๗๖. สพฺพํ วฏฺฏตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘สพฺพ’’นฺติ อิมินา อฏฺกถาย อาคตํ นีลาทึ สงฺคณฺหาติ. มหนฺตาทิเภทํ สพฺพํ ปจฺจตฺถรณจีวรํ วฏฺฏติ.
๕๗๗. ‘‘มุขปฺุฉนโจฬํ ¶ เอก’’นฺติ ปทจฺเฉโท. เอกํ โธวิตฺวา ยาว สุกฺขาปียติ, ตาว อฺเน มุขปฺุฉเนน ภวิตพฺพตฺตา อาห ‘‘ทฺเวปิ วฏฺฏนฺติ สพฺพถา’’ติ.
๕๗๙. ปมาณโต, คณนโต จ อตีตาติ ปมาณคณนาตีตา. ‘‘ปมาณาตีตา’’ติ วจเนน วินยธรานํ อปฺปมาณคุณตํ ทสฺเสติ, ‘‘คณนาตีตา’’ติ อิมินา อติกฺกนฺตคณนตํ. ปกตํ วินเย ปมํ กตํ พุทฺเธน ภควตา ปฺตฺตํ ชานนฺตีติ ปกตฺู, วินยธรา, เต ปกตฺุโน. อปริมาณคุณมณิคณภูสิตอุปาลิทาสกาทิมหาเถราจริยปรมฺปราคตา สงฺขฺยาปถาตีตา วินยธราติ วุตฺตํ โหติ.
๕๘๐. สุคตฏฺงฺคุลายามนฺติ วฑฺฒกิรตนปฺปมาณทีฆํ. จตุรงฺคุลวิตฺถตนฺติ วฑฺฒกิวิทตฺถิปฺปมาณวิตฺถารํ. วิกปฺปนุปคํ ปจฺฉิมํ จีวรํ นาม โหติ. ปจฺฉิมํ จีวรนฺติ ปริสฺสาวนปฏาทีนํ วิเสสนํ, ปจฺฉิมจีวรปฺปมาณนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๕๘๑. ปริสฺสาวปฏนฺติ อุทกปริสฺสาวนตฺถํ ปฏํ. ปตฺตตฺถวิกนฺติ ปตฺตกฺจุกํ. โปตฺถกตฺถวิกนฺติ โปตฺถกกฺจุกํ ¶ . อาทิคฺคหเณน ปจฺฉิมปฺปมาณาทึ ยํ กิฺจิ ปฏํ, ทณฺฑปฏฺจ สงฺคณฺหาติ.
๕๘๒. อธิฏฺาตุนฺติ ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตุํ. ปิเตติ อนธิฏฺาย ปิเต. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘อนาปตฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙) อาห. นตฺถิ โทสตาติ โทโส เอว โทสตา. ‘‘อตฺตโน สนฺตกภาวโต โมเจตฺวา ปิตํ สนฺธาย มหาปจฺจริยํ อนาปตฺติ วุตฺตา’’ติ วทนฺติ. ‘‘อิมินา เภสชฺชํ เจตาเปสฺสามิ, อิทํ มาตุยา ทสฺสามี’’ติ เปนฺเตน อธิฏฺาตพฺพํ. ‘‘อิทํ เภสชฺชสฺส, มาตุยา’’ติ วิภชิตฺวา สสนฺตกภาวโต โมจิเต อธิฏฺานกิจฺจํ นตฺถีติ อธิปฺปาโย. โหติ เจตฺถ –
‘‘ยํ วตฺถํ ภิกฺขุนา ลทฺธํ, กตํ มาตาทิสนฺตกํ;
นิสฺสคฺคิยํ น โหตีติ, ตมาหุ วินยฺุโน’’ติ.
๕๘๓. วสฺสมาเส จตุโรติ วสฺสาเน จตุโร มาเส, อธิฏฺานกิริยาย จตฺตาโร มาเส อวิจฺเฉโทติ ¶ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส นิวาเสตพฺพา สาฏิกา วสฺสิกสาฏิกา.
๕๘๔. กณฺฑุํ ปฏิจฺฉาเทตีติ กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิ, กณฺฑุโรคาตุรสฺส ภิกฺขุโน ตปฺปฏิจฺฉาทนตฺถมนฺุาตจีวรสฺเสตมธิวจนํ. โหนฺติ เจตฺถ –
‘‘มาติกฏฺกถายสฺสา, กณฺฑุจฺฉาทิกสาฏิยา;
น กาลาติกฺกเม วุตฺตํ, อธิฏฺานวิวฏฺฏนํ.
อธิฏฺานปหานงฺเค-สุ วุตฺตตฺตา วิเสสโต;
วีมํสิตพฺพํ วิฺูหิ, ตตฺถ ยํ การณํ สิยา’’ติ.
๕๘๖. ‘‘อสมฺมุเข ¶ เอตนฺติ จา’’ติ วจเนเนว สมฺมุเข ‘‘อิม’’นฺติ วิฺายติ. วิจกฺขโณ ปจฺจุทฺธเรยฺยาติ โยชนา.
๕๘๘. อิติ สพฺพมิทนฺติ เอวํ วุตฺตํ อิทํ ติจีวราทีนํ ปมาณาทิสพฺพวิธานํ. เตจีวริกภิกฺขุโนติ ติจีวราธิฏฺาเนน อธิฏฺิตเตจีวริกสฺส วินยเตจีวริกสฺส. ติณฺณํ จีวรานํ สมาหาโร ติจีวรํ, ติณฺณํ ติจีวรานํ สมาหาโรติ ‘‘ติติจีวร’’นฺติ วตฺตพฺเพ เอกเทสสรูเปกเสสนเยน ‘‘ติจีวร’’นฺติ นวจีวรานิ สงฺคหิตานิ, ติจีวเร นิยุตฺโต เตจีวริโกติ วินยเตจีวริโก วุจฺจติ. ธุตงฺคเตจีวริกสฺสาปิ ติจีวเร อิทเมว วิธานนฺติ โสปิ สงฺคยฺหติ. อฺเสุ วา ปน ฉสุ จีวเรสุ ปริกฺขารโจฬํ เอกํ อํสกาสาวเมว วฏฺฏติ. ตถา วตฺวาวาติ ‘‘อิมํ ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺามี’’ติอาทินา นเยน วตฺวา. ตํ ปริกฺขารโจฬํ. ปริกฺขารโจฬมสฺส อตฺถิ, ตตฺถ วา นิยุตฺโตติ ปริกฺขารโจฬิโก.
๕๘๙. ‘‘ติจีวรํ ปน ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตุํ วฏฺฏติ, น วฏฺฏตี’’ติ อนุโยคํ กตฺวา ‘‘วฏฺฏตี’’ติ ¶ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙) อฏฺกถาย วุตฺตตฺตา อิธ ‘‘ติจีวร’’นฺติ จีวรตฺตยเมว วุตฺตํ. ‘‘สุขปริหารตฺถํ เอกมฺปิ วิกปฺเปตพฺพ’’นฺติ วจนโต เอกเทเส สมุทาโยปจารวเสน เอกมฺปิ วิกปฺเปตพฺพเมว โหติ.
ปริกฺขารโจฬํ กาตุมฺปิ วฏฺฏตีติ พทฺธสีมโต พหิ วสนฺเตน เอกเกน เตจีวริเกน อนฺโตอรุเณ อสติยา ตีสุ จีวเรสุ หตฺถปาเส อกเตสุ นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ โหตีติ, วินยกมฺมํ กาตุํ สภาคปุคฺคลานํ ทุลฺลภตฺตา ¶ จ สุขปริหารตฺถํ ตีสุ เอกํ วา สพฺพานิ เอว วา ติจีวรนาเมน กตาธิฏฺานานิ ปจฺจุทฺธริตฺวา ปริกฺขารโจฬนาเมน อธิฏฺาตุมฺปิ วฏฺฏตีติ วุตฺตํ โหติ.
เอวํ อคฺคเหตฺวา ‘‘สเจ ติจีวรํ ปริกฺขารโจฬาธิฏฺานํ ลเภยฺย, อุโทสิตสิกฺขาปเท ปริหาโร นิรตฺถโก ภเวยฺยา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙) วุตฺตํ มหาปทุมตฺเถรสฺส มตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอวํ จุโทสิเต’’ติอาทิ. เอวํ เจติ เอวํ ติจีวรํ ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺหิตฺวา ปริหริตุํ วฏฺฏติ เจ. อุโทสิเตติ อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส อนนฺตเร ทุติยกถินสิกฺขาปเท. วุตฺโต ปริหาโรติ ‘‘เอกกุลสฺส คาโม โหติ ปริกฺขิตฺโต จ. อนฺโตคาเม จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา อนฺโตคาเม วตฺถพฺพ’’นฺติอาทินา (ปารา. ๔๗๘) นเยน ปทภาชนาวสาเน วุตฺโต, อิธ จ ‘‘คามาทีสุ ปเทเสสู’’ติอาทินา นเยน อนนฺตรํ วกฺขมาโน ติจีวรสฺส ปริหรณวิธิ. นิรตฺถโกติ ปริกฺขารโจฬนาเมน อธิฏฺิตจีวรสฺส เตน วิธินา ติจีวรํ อปริหรนฺตสฺสาปิ ภิกฺขุโน อนาปตฺติภาวโต นิปฺปโยชโนติ อตฺโถ.
๕๙๐. ตปฺปริหริตุมาห ‘‘น’’อิจฺจาทิ. น นิรตฺถโกติ โยชนา. เหตุํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เตจีวริกสฺเสวา’’ติอาทิ. โย ติจีวรนาเมน อธิฏฺานํ อปจฺจุทฺธริตฺวา สตึ อุปฏฺเปตฺวา อนฺโตอรุเณ จีวรํ หตฺถปาสโต อโมเจตฺวา อรุณํ อุฏฺาเปติ, ตาทิสสฺส เตจีวริกสฺเสว ตสฺมึ สิกฺขาปเท อุโทสิตปริหารสฺส ภควตา เทสิตตฺตาติ อตฺโถ. ยสฺมา ตาทิสสฺเสว เตจีวริกสฺส อุโทสิตสิกฺขาปเท ปริหาโร วุตฺโต, ตสฺมา. ตํ สพฺพมฺปีติ ตํ นววิธํ สพฺพมฺปิ จีวรํ. ปริกฺขารโจฬสฺสาติ ปริกฺขารโจฬนาเมน อธิฏฺหิตฺวา จีวรํ ปริภฺุชิตุกามสฺส ปริกฺขารโจฬนาเมน อธิฏฺาตุํ วฏฺฏติ.
๕๙๑. อิมินา ¶ อุโทสิตปริหารสฺส อนิรตฺถกภาวํ สาเธตฺวา อิทานิ ‘‘ติจีวรํ ปริกฺขารโจฬนาเมนาปิ ¶ อธิฏฺาตุํ วฏฺฏตี’’ติ อิมสฺส อธิกตฺถสฺส มหาการุณิเกน อนฺุาตภาเว กิริยนฺตรานุชานนสงฺขาตอธิกวจนสฺส าปกเหตุภาวํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อธิฏฺเตี’’ติอาทิ. อิมสฺมึเยว สิกฺขาปเท อนาปตฺติวาเร ‘‘อนาปตฺติ อนฺโตทสาหํ อธิฏฺเติ, วิกปฺเปตี’’ติ ปาเ อนาปตฺติภาเว ‘‘อธิฏฺเตี’’ติ เอตฺตเกเนว ปริยตฺเต (ปารา. ๔๖๙) ‘‘วิกปฺเปตี’’ติ กิริยนฺตรานุชานเนน ปการนฺตเรนาปิ โทโส นตฺถีติ อธิปฺปายสฺส วิฺาปิตตฺตาติ อตฺโถ.
๕๙๒. เอวํ กโรนฺตสฺสาติ ติจีวรนาเมน อธิฏฺานํ ปจฺจุทฺธริตฺวา ปริกฺขารโจฬนาเมน อธิฏฺหนฺตสฺส. อิทานิ อติปฺปสงฺคํ ทสฺเสตุกามสฺส โจทกสฺส อธิปฺปายํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอว’’นฺติอาทิ. มูลาธิฏฺานํ ปหาย กาตพฺพปฺปการนฺตรสฺสาปิ วิชฺชมานตฺตา ติจีวรํ ปจฺจุทฺธริตฺวา มุขปฺุฉนาทิกํ กตฺวา อธิฏฺหโตปิ โทโส น สิยาติ กสฺมา นาปชฺชตีติ อตฺโถ. นอิติ อติปฺปสงฺคนิวารเณ.
๕๙๓. กิจฺจวิธานโตติ เตสํ มุขปฺุฉนาทีนํ อตฺตโน อตฺตโน กิจฺจสฺส สาธนโต, ตาทิสํ กิจฺจวิเสสาเปกฺขํ วินา ตํตํนาเมน อธิฏฺาตุํ น ยุชฺชตีติ อธิปฺปาโย. อกิจฺจสฺสาติ มุขปฺุฉนาทิกิจฺจรหิตสฺส. อธิกสฺสาติ ปจฺจุทฺธริตฺวา ปมํ อธิฏฺานสฺส วิชหิตตฺตา อติเรกสฺส. อสฺสาติ ติจีวรสฺส. อธิฏฺานํ ตุ ยุชฺชตีติ ทสาหํ อนติกฺกมิตฺวา ปริกฺขารโจฬนาเมน อธิฏฺานํ ปน ยุชฺชติ.
๕๙๔. นิธานสฺส ¶ มุขํ อุปาโยติ นิธานมุขํ, อนฺตรวาสกาทิตํตํจีวรนาเมน อธิฏฺานโต อติเรกํ ยํ กิฺจิ จีวรํ ยถา ปิตํ อาปตฺตึ น กโรติ, ตถา นิธานสฺส อุปาโยติ อตฺโถ. เอตํ ปริกฺขารโจฬาธิฏฺานํ. มหาปจฺจริยนฺติ พฺราหฺมณติสฺสภเย ภิกฺขุสงฺฆํ ชมฺพุทีปํ เนตุํ สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส อาณตฺติยา วิสุกมฺเมน นิมฺมิตมหาปจฺจริยํ นิสีทิตฺวา ลิขิตตฺตา ตํนามกายํ วินยฏฺกถายํ, ‘‘มหาปจฺจริยาทิสู’’ติปิ ลิขนฺติ.
๕๙๕. ปริกฺขารโจฬนาเมน อธิฏฺานวิธานสฺส วุตฺตปฺปมาณํ กตมนฺติ อาห ‘‘จีวร’’นฺติอาทิ. ‘‘นิทาเน อุปฺปตฺติโต’’ติ ปทจฺเฉโท. ‘‘จีวรํ ปริปุณฺณ’’นฺติ นิทาเน ‘‘ติจีวรํ สมฺปุณฺณํ วิชฺชติ, อิทมติเรกจีวรํ กึ กาตพฺพ’’นฺติ ภิกฺขูหิ ภควโต อาโรจิตวตฺถุมฺหิ ¶ . อุปฺปตฺติโตติ ปริกฺขารโจฬาธิฏฺานสฺส อุปฺปนฺนตฺตา, อนฺุาตตฺตาติ อตฺโถ. ‘‘เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขูนํ ปริปุณฺณํ โหติ ติจีวรํ, อตฺโถ จ โหติ ปริสฺสาวเนหิปิ ถวิกาหิปิ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. อนุชานามิ ภิกฺขเว ปริกฺขารโจฬก’’นฺติ (มหาว. ๓๕๗) เอตฺถ ปาฬิยํ เอวํ วิปฺปวาสสุขตฺถํ นาเมนาธิฏฺิตติจีวรํ อธิฏฺานํ ปจฺจุทฺธริตฺวา ปริกฺขารโจฬนาเมน อธิฏฺาตุํ วฏฺฏตีติ สาธเนน ตเทกสาธนตฺตา เอว เอกมฺปิ จีวรํ วิกปฺเปตุํ วฏฺฏตีติ วุตฺตเมว โหติ. เตเนวาห อฏฺกถายํ ‘‘เอวฺจ สติ โย ติจีวเร เอเกน จีวเรน วิปฺปวสิตุกาโม โหติ, ตสฺส ติจีวราธิฏฺานํ ปจฺจุทฺธริตฺวา วิปฺปวาสสุขตฺถํ วิกปฺปนาย โอกาโส ทินฺโน โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙).
๕๙๖-๘. เอตฺตาวตา กปฺปิยจีวรฺจ ตตฺถ กตฺตพฺพฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อกปฺปิยจีวรํ ทสฺเสตุมาห ‘‘กุสวากาที’’ติอาทิ. กุสนฺติ ทพฺพติณํ. วากนฺติ รุกฺขาทีนํ วากํ. อาทิ-สทฺเทน ¶ ผลกํ คหิตํ, จีร-สทฺโท จีวรปริยาโย, อิมสฺมึ กุสาทโย คนฺเถตฺวา กเต จีวเรเยว วตฺตติ. เกสชํ กมฺพลนฺติ มนุสฺสเกเสหิ วีตกมฺพลฺจ. วาลชํ กมฺพลนฺติ อสฺสวาลจมรวาเลหิ วีตกมฺพลฺจ. อุลูกปกฺขนฺติ โกสิยสกุณปตฺตํ. อิธ ปน ตํ คนฺเถตฺวา กตจีวรเมว คเหตพฺพํ. อชินกฺขิเปติ อชินทีปิจมฺเม. ‘‘ธารยโต ถุลฺลจฺจย’’นฺติ ปจฺเจกํ สมฺพนฺโธ.
กทลิทุสฺเสติ กทลิวากมยวตฺเถ. เอรกทุสฺเสติ เอรกมยวตฺเถ. อกฺกทุสฺเสติ อกฺกทณฺเฑ วา เตสํ สุตฺตานิ วา คเหตฺวา กตวตฺเถ. โปตฺถเกติ มกจิวากมยวตฺเถ. ติรีเฏ วาติ เอวํนามเก รุกฺขตเจ. เวเนติ สีสเวเน. กฺจุเกติ กวเจ.
สพฺพนีลเกติ เกวลนีลเก. เอส นโย มฺเชฏฺาทีสุ. มหานามรตฺเตติ ตนุปทุมทลวณฺณรตฺเต. มหารงฺครตฺเตติ สตปทิวณฺณรตฺเต.
๕๙๙. อจฺฉินฺนทสเกติ อจฺฉินฺนา ทสา ยสฺส, ตสฺมึ จีวเร. เอส นโย ทีฆทเสปิ. ผลทเสติ ผลสทิสคนฺถิตา ทสา ยสฺส, ตสฺมึ. ปุปฺผทเสติ กณฺณิกํ พนฺธิตฺวา วิกาเสตฺวา กตา ทสา ยสฺส, ตสฺมึ จีวเรติ อตฺโถ. อจฺฉินฺนจีวรสฺสาติ นคฺคํ กตฺวา โจเรหิ วิลุตฺตจีวรสฺส ¶ . เอตฺถาติ กุสวากาทีสุ, สพฺพนีลาทีสุ จ. กิฺจีติ เอกมฺปิ อกปฺปิยํ นตฺถิ อนนุโลมิกํ นตฺถิ. ‘‘นคฺเคน เอเตสุ อกปฺปิยจีวเรสุ ยํกิฺจิ ลทฺธํ, เตน หิริโกปินํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ปจฺฉา กปฺปิยจีวเร ลทฺเธ ตํ อธิวาเสตฺวา อิทํ อกปฺปิยจีวรํ ปริจฺจชิตพฺพํ. สพฺพนีลกาทิวตฺเถสุ ลทฺเธสุ กปฺปิยรชเนน รชิตฺวา, ตํ วณฺณํ นาเสตฺวา วา กปฺปิยวตฺถานิ อุภยปสฺเสสุ ¶ อลฺลิยาเปตฺวา, ปฏิจฺฉาเทตฺวา วา นิวาเสตุํ วฏฺฏตี’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ.
๖๐๐. ‘‘อนฺโตทสาห’’นฺติ อิทํ ‘‘อธิฏฺเตี’’ติอาทีหิ สพฺพปเทหิปิ โยเชตพฺพํ. วิสฺสชฺเชตีติ อฺสฺส เทติ. อิธ ทานํ ทุวิธํ สมฺมุขาทานํ, ปรมฺมุขาทานนฺติ. ปฏิคฺคาหกํ ทิสฺวา ‘‘อิทํ ตุยฺหํ ทมฺมี’’ติ ทานํ สมฺมุขาทานํ นาม. ปรมฺมุขา ‘‘อิทํ อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’’ติ ทินฺนํ ปรมฺมุขาทานํ. ‘‘อิทํ ตฺวํ คณฺหาหี’’ติ วา ‘‘ตุยฺหํ คณฺหาหี’’ติ วา วุตฺเต ‘‘มยฺหํ คณฺหามี’’ติ สเจ วทติ, ทานคหณทฺวยมฺปิ สุทฺธํ. ‘‘อิทํ ตว สนฺตกํ กโรหิ, ตว สนฺตกํ โหตุ, ตว สนฺตกํ โหตี’’ติ ทายเกน วุตฺเต คณฺหนฺโตปิ ‘‘มม สนฺตกํ กโรมิ, มม สนฺตกํ โหตุ, มม สนฺตกํ โหตี’’ติ วทติ เจ, ทานํ, คหณฺจ อสุทฺธํ โหติ. ‘‘ตว สนฺตกํ กโรหี’’ติ วุตฺเต ปน ‘‘สาธุ ภนฺเต มยฺหํ คณฺหามี’’ติ วตฺวา คณฺหาติ, คหณํ สุทฺธํ. ‘‘อิทํ ตุยฺหํ คณฺหาหี’’ติ วุตฺเต ‘‘อหํ น คณฺหามี’’ติ วทติ, ปุน ‘‘ทินฺนํ มยา, ตุยฺหํ คณฺหาหี’’ติ วุตฺเต อิตโรปิ ปุน ปฏิกฺขิปติ, ตํ จีวรํ กสฺสจิ อสนฺตกตฺตา ทสาหาติกฺกเมนาปิ นิสฺสคฺคิยํ น โหตีติ ปจฺฉา เตสุ ทฺวีสุ โย อิจฺฉติ, เตน อธิฏฺาย ปริภฺุชิตพฺพนฺติ สพฺพมิทํ อฏฺกถาย (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙ อตฺถโต สมานํ) วุตฺตํ.
อธิฏฺิตจีวเร อธิฏฺาเน เวมติเกน อตฺตโน วิมตึ ปมํ อาวิ กตฺวา ‘‘สเจ อนธิฏฺิตํ, เอวํ กเต กปฺปิยํ โหตี’’ติ จินฺเตตฺวา นิสฺสชฺเชตฺวา วินยกมฺมํ กโรนฺตสฺส มุสาวาทโทโส นาปชฺชติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘น หิ เอวํ ชานาเปตฺวา วินยกมฺมํ กโรนฺตสฺส มุสาวาโท โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙). ‘‘เกจิ ‘ตถา เวมติกจีวรํ อฺเน ¶ วิสฺสาเสน คเหตฺวา ปุน ทาตพฺพ’นฺติ วทนฺติ, ตํ น สุนฺทร’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙ โถกํ วิสทิสํ) ตตฺเถว วุตฺตํ.
วินสฺสตีติ โจราทีหิ วินสฺสติ. ‘‘นสฺสติ, ฑยฺหติ, อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหนฺตี’’ติ อิมานิปิ ¶ วินาสปฺปการตฺตา ‘‘วินสฺสตี’’ติ อิมินาว สงฺคยฺหนฺติ. ตตฺถ ‘‘นสฺสตี’’ติ อิทํ โจราทีหิ หฏํ สนฺธาย วุตฺตํ, ‘‘วินสฺสตี’’ติ อิทํ อุนฺทูรขายิตาทึ สนฺธาย วุตฺตํ, ‘‘ฑยฺหตี’’ติ อคฺคินา ทฑฺฒํ สนฺธาย. วิสฺสาเสติ เอตฺถ สนฺทิฏฺโ จ สมฺภตฺโต จ อาลปิโต จ ชีวติ จ คหิเต จตฺตมโน โหตีติ ปฺจงฺคสมนฺนาคเตน อตฺตนิ วิสฺสาเสน อฺเน คหิเตติ อตฺโถ. ปกาสิตาติ ‘‘อนาปตฺติ อนฺโตทสาหํ อธิฏฺเตี’’ติอาทินา (ปารา. ๔๖๙) นเยน วุตฺตา.
๖๐๑. อิทํ ปน สมุฏฺานํ นาเมน กถินสมุฏฺานํ นามาติ อตฺโถ. อิทํ กถินสมุฏฺานํ นาม กายวาจโต จ กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ. อติเรกจีวรภาวสฺส ชานนจิตฺเตน ปณฺณตฺติชานนจิตฺเต อสติปิ อาปตฺติสมฺภวโต อจิตฺตํ. อนธิฏฺานโต, อวิกปฺปนโต จ อกฺริยํ. กมฺมฏฺานมนุยฺุชนฺโต วา เจติยาทึ วนฺทนฺโต วา เอกาทสมํ อรุณํ อุฏฺาเปติ, กุสลจิตฺโต อาปชฺชติ, กลหาทิปสุโต วา วีติกฺกมํ ชานนฺโต วา อุฏฺาเปติ, อกุสลจิตฺโต อาปชฺชติ, ขีณาสโว ปน อสติยา วา ปณฺณตฺตึ อชานนฺโต วา ตถา กโรนฺโต อพฺยากตจิตฺโต อาปชฺชตีติ ติจิตฺตํ. วุตฺตนเยน กมฺมฏฺานาทิมนุยฺุชนฺตสฺส โสมนสฺสจิตฺตสมงฺคิโน สุขเวทนา, อุเปกฺขาจิตฺตสมงฺคิโน อุเปกฺขาเวทนา, กลหาทิปสุตสฺส โทมนสฺสจิตฺตสมงฺคิโน ทุกฺขเวทนา โหตีติ ติเวทนํ. เอส นโย อุปริปิ เอวรูเป าเน โยเชตพฺโพ.
ปมกถินกถาวณฺณนา.
๖๐๒. คามาทีสุ ¶ ปเทเสสุ ติปฺจสูติ ติจีวรานิ นิกฺขิปิตฺวา วิปฺปวาเสน โทสํ, อุปฺปชฺชนฏฺานฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘คาโม เอกูปจาโร’’ติอาทินา (ปารา. ๔๗๗) นเยน ปาฬิยํ วุตฺตคามนิเวสนอุโทสิตอฏฺฏมาฬปาสาทหมฺมิยนาวาสตฺถเขตฺตธฺกร- ณอารามวิหารรุกฺขมูลอชฺโฌกาสสงฺขาเตสุ ปนฺนรสสุ จีวรนิกฺเขปฏฺาเนสูติ วุตฺตํ โหติ. เอตฺถ คาโม นาม เอกกุฏิกาทิคาโม.
นิเวสนํ นาม คามโต พหิ จตุสาลาทิโก เคโห. เตนาห คณฺิปเท ‘‘คามนิเวสนานํ วิเสสํ วทนฺตา ‘ปุน เอกปริจฺเฉทํ กตฺวา นิเวสิตา พหุเคหา นิเวสนํ นาม โหนฺตี’ติ วทนฺติ, ตสฺมา อิทํ นิเวสนาทิ สพฺพํ ‘คามโต พหี’ติ คเหตพฺพ’’นฺติ. อิทฺจ ตตฺเถว วุตฺตํ ‘‘นิเวสนาทิกํ ¶ อนฺโตคาเม เจ โหติ, คาเม วุตฺตปริหารสฺเสว ลพฺภนโต อนฺโตคามโต พหี’ติ คเหตพฺพ’’นฺติ.
อฏฺกถายํ ‘‘อุโทสิโตติ ยานาทีนํ ภณฺฑานํ สาลา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๘๒-๔๘๗) วุตฺตสรูปํ อุโทสิตํ นาม. ‘‘อฏฺโฏติ ปฏิราชาทิปฏิพาหนตฺถํ อิฏฺกาหิ กโต พหลภิตฺติโก จตุปฺจภูมิโก ปติสฺสยวิเสโส’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๘๒-๔๘๗) วุตฺตสรูโป อฏฺโฏ นาม. ‘‘มาโฬติ เอกกูฏสงฺคหิโต จตุรสฺสปาสาโท’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๔๘๒-๔๘๗) วุตฺโต เอกกณฺณิกสงฺคหิโต จตุรสฺสเคโห มาโฬ นาม. ปาสาโทติ ทีฆปาสาโท. หมฺมิยนฺติ มุณฺฑจฺฉทนปาสาโท. นาวาติ ยานปฺปตฺติ. สตฺถนฺติ ชงฺฆสตฺถสกฏสตฺถวเสน ทุวิโธ ชนสมูโห, โส จ นิวิฏฺานิวิฏฺวเสน ปจฺเจกํ ทุวิโธ. ตตฺถ นิวิฏฺเ วติอาทิปริกฺเขโปปิ โหเตว.
เขตฺตนฺติ ¶ ยวเขตฺตาทิเขตฺตํ. ธฺกรณํ ขลํ. อาราโม ปุปฺผาราโม, ผลาราโม จ. วิหาโรติ เอกมฺปิ เสนาสนํ วุจฺจติ. ‘‘รุกฺโข นาม ยํ มชฺฌนฺติเก กาเล สมนฺตา ฉายา ผรตี’’ติ (ปารา. ๔๙๔) วุตฺตปฺปมาณปริจฺฉนฺโน รุกฺโข. อชฺโฌกาโส นาม สตฺตพฺภนฺตโร, โส วิฺจาฏวิอาทิอคามการฺเ จ มจฺฉพนฺธานํ อคมนปเถ สมุทฺททีเป จ ลพฺภติ. มจฺฉพนฺธานํ อคมนปโถ นาม อุทกปิฏฺิยา คนฺตฺวา ปุน ตทเหว เคหํ อาคนฺตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย ทูโร สมุทฺทปฺปเทโส วุจฺจติ.
อยํ คามาทิโก ปจฺเจกํ เอกูปจาโร, นานูปจาโรติ ทุวิโธ. ตตฺถ อชฺโฌกาสํ วินา คามาทิโก ตํตํราชาทิสามิกกุลานํ เอกตฺถนานตฺถวเสน เอกกุลสนฺตโก เจ โหติ, เอกูปจาโร. นานากุลสนฺตโก เจ, นานูปจาโร โหติ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘คาโม เอกูปจาโร นาม เอกกุลสฺส คาโม โหตี’’ติอาทิ (ปารา. ๔๗๘). อฏฺกถายมฺปิ วุตฺตํ ‘‘เอกกุลสฺส คาโมติ เอกสฺส รฺโ วา โภชกสฺส วา คาโม’’ติ จ ‘‘นานากุลสฺส คาโมติ นานาราชูนํ วา โภชกานํ วา คาโม เวสาลีกุสินาราทิสทิโส’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๗๙) จ.
เอกกุเลน การาปิโต วิหาโร เอกูปจาโร, นานากุเลหิ การาปิโต นานูปจาโร โหติ. ยถาห คณฺิปเท ‘‘วิหาเร เอกกุลนานากุลโวหาโร การาปกานํ วเสน วุตฺโต’’ติ. อชฺโฌกาเส ปน ¶ อุปจารเภโท อพฺภนฺตรวเสน เวทิตพฺโพ. วุตฺตฺเจตํ ปาฬิยํ ‘‘อชฺโฌกาโส เอกูปจาโร นาม อคามเก อรฺเ สมนฺตา สตฺตพฺภนฺตรา เอกูปจาโร. ตโต ปรํ นานูปจาโร’’ติ. อิธ เอกํ อพฺภนฺตรํ อฏฺวีสติรตนํ โหติ. ยถาห ¶ อฏฺกถายํ ‘‘เอกํ อพฺภนฺตรํ อฏฺวีสติหตฺถ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๘๙). เอวํ สงฺเขปโต วุตฺตสรูปปฺปเภทานิ ปนฺนรส านานิ ทสฺเสตุมาห ‘‘คามาทีสุ ปเทเสสุ ติปฺจสู’’ติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน ปาฬิอฏฺกถาวณฺณนโต เวทิตพฺโพ.
‘‘ติจีวเรน วิปฺปวาเสยฺยาติ สงฺฆาฏิยา วา อุตฺตราสงฺเคน วา อนฺตรวาสเกน วา. อนฺโตคาเม จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา’’ติ (ปารา. ๔๗๖, ๔๗๘) วจนโต เอตฺถ ติจีวรนฺติ ติณฺณํ จีวรานมฺตรเมว จีวรํ วตฺตพฺพํ. เอกรตฺตนฺติ วิปฺปวาสกิริยาย อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. อปิ-สทฺเทน กึ ปน ทิรตฺตาทิกนฺติ ทสฺเสติ.
สงฺฆสมฺมุติยา วินาติ ติจีวรํ ปริหริตุํ อสมตฺเถน คิลาเนน ภิกฺขุนา สงฺฆํ วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห ‘‘อหํ ภนฺเต คิลาโน, น สกฺโกมิ ติจีวรํ อาทาย ปกฺกมิตุํ, โสหํ ภนฺเต สงฺฆํ ติจีวเรน อวิปฺปวาสสมฺมุตึ ยาจามี’’ติ ติกฺขตฺตุํ ยาจิเตน สงฺเฆน ตสฺส ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย ทินฺนํ อวิปฺปวาสสมฺมุตึ วินาติ วุตฺตํ โหติ. ตถา ลทฺธสมฺมุติกสฺส คิลานสฺส ภิกฺขุโน ตสฺมึ เคลฺเ อวูปสนฺเต วา วูปสนฺเตปิ จีวรนิกฺเขปฏฺานํ อาคมนกาเล วา อุปฺปนฺเน อฺเปิ โรเค อวูปสนฺเต ตายเยว สมฺมุติยา น โทโส.
๖๐๓. ภิกฺขุโนติ อลทฺธสมฺมุติกสฺส ภิกฺขุโน. เตน จีวเรน. วิปฺปวตฺถุํ น วฏฺฏตีติ วินา วสิตุํ น วฏฺฏติ. กึ วุตฺตํ โหติ? ‘‘เอกกุลสฺส คาโม โหติ ปริกฺขิตฺโต จ, อนฺโตคาเม จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา อนฺโตคาเม วตฺถพฺพํ. อปริกฺขิตฺโต โหติ, ยสฺมึ ฆเร จีวรํ นิกฺขิตฺตํ โหติ, ตสฺมึ ฆเร วตฺถพฺพํ, หตฺถปาสา วา น วิชหิตพฺพํ. นานากุลสฺส ¶ คาโม โหติ ปริกฺขิตฺโต จ, ยสฺมึ ฆเร จีวรํ นิกฺขิตฺตํ โหติ, ตสฺมึ ฆเร วตฺถพฺพํ สภาเย วา ทฺวารมูเล วา, หตฺถปาสา วา น วิชหิตพฺพ’’นฺติอาทินา (ปารา. ๔๗๘) นเยน ปาฬิยา วุตฺตฏฺานโต พหิ อรุณํ อุฏฺาเปตุํ น วฏฺฏตีติ วุตฺตํ โหติ.
อิมสฺมึ ¶ ปาเ ‘‘ปริกฺขิตฺโต’’ติ อิทํ ปากาเรน วา วติยา วา ปริขาย วา ปริกฺขิตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. หตฺถปาสา วาติ เอตฺถ หตฺถปาสา นาม อฑฺฒติยรตนํ โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ตํ ฆรํ สมนฺตโต หตฺถปาสา น วิชหิตพฺพํ, อฑฺฒเตยฺยรตนปฺปมาณา ปเทสา อุทฺธํ น วิชหิตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๗๗-๔๗๘).
วิปฺปวสนฺตสฺส โก โทโสติ อาห ‘‘โหติ…เป… อรุณุคฺคเม’’ติ. อนฺุาตฏฺานโต หิ พหิ จีวเรน วินา อรุณํ อุฏฺาเปนฺตสฺส ตํ จีวรํ นิสฺสชฺชิตพฺพํ โหติ, ตํเหตุกา ปาจิตฺติยาปตฺติปิ โหตีติ อตฺโถ. เตเนว วกฺขติ ‘‘นิสฺสชฺชิตฺวา…เป… วิฺุนา’’ติ.
๖๐๔. นฺหายนฺตสฺเสวาติ จีวรสฺส หตฺถปาสโต ทูเร นหายนฺตสฺเสว, อนาทเร สามิวจนํ.
๖๐๖. อจฺฉินฺนํ วิลุตฺตํ จีวรํ ยสฺส โส อจฺฉินฺนจีวโร, ภิกฺขุ, ตสฺส านํ อจฺฉินฺนจีวรฏฺานํ, ตสฺมึ.
๖๐๗. นิวาเสตฺวาติ เอตฺถ ‘‘อนฺตรวาสก’’นฺติ จ คเหตฺวาติ เอตฺถ ‘‘อิตรานี’’ติ จ เสโส. อิทฺจ คนฺตพฺพฏฺาเน, อาสนฺเน มคฺเค จ มนุสฺสสมฺพาเธ อสติ กตฺตพฺพทสฺสนํ. อิตรตฺถ นิวาเสตฺวา, ปารุปิตฺวา จ สงฺฆาฏึ อํเส กตฺวาว คนฺตพฺพํ โหติ. วิหาเร สภาเคสุ อลพฺภมาเนสุ อาสนสาลมฺปิ คนฺตฺวา สภาคสฺส สนฺติเก วินยกมฺมํ กตฺตพฺพนฺติ ¶ อฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๙๕ อตฺถโต สมานํ) วุตฺตํ. ‘‘นิสฺสชฺชิตฺวา’’ติ อิมินา ‘‘อิทํ เม ภนฺเต จีวรํ รตฺติวิปฺปวุตฺถํ อฺตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยา นิสฺสคฺคิยํ, อิมาหํ สงฺฆสฺส นิสฺสชฺชามี’’ติ สงฺเฆ วา ‘‘อิทํ เม ภนฺเต จีวรํ…เป… อหํ อายสฺมนฺตานํ นิสฺสชฺชามี’’ติ ติณฺณํ, ทฺวินฺนํ วา สนฺติเก วา ‘‘อิทํ เม อาวุโส…เป… อิมาหํ อายสฺมโต นิสฺสชฺชามี’’ติ เอกสฺส สนฺติเก วา วตฺวา นิสฺสชฺชิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. วิฺุนาติ เอวํ นิสฺสคฺคิยวตฺถุนิสฺสชฺชนาทินานปฺปการวิธิชานนเกน าณวตาติ อตฺโถ.
๖๐๙. ‘‘อเทนฺตสฺส จ นิสฺสฏฺํ ทุกฺกฏ’’นฺติ อิมินา ‘‘พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน อาปตฺติ ¶ ปฏิคฺคเหตพฺพา, นิสฺสฏฺจีวรํ ทาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตตฺตา อิมํ วิธึ ชานนตาย พฺยตฺเตน ยถาวิธึ กาตุํ สมตฺถตาย ปฏิพเลน ขนฺธเก (จูฬว. ๒๓๙) อาคตนเยน อาปตฺตึ ปฏิคฺคเหตฺวา นิสฺสฏฺจีวรํ หตฺเถน คเหตฺวา นิสีทาเปตฺวา สเจ สงฺโฆ โหติ, ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ, อิทํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน นิสฺสคฺคิยํ สงฺฆสฺส นิสฺสฏฺํ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทเทยฺยา’’ติ, สเจ ตโย โหนฺติ, ‘‘สุณนฺตุ เม อายสฺมนฺตา, อิทํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน นิสฺสคฺคิยํ อายสฺมนฺตานํ นิสฺสฏฺํ, ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อายสฺมนฺตา อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทเทยฺยุ’’นฺติ, สเจ เอกโก โหติ, ‘‘อิมํ จีวรํ อายสฺมโต ทมฺมี’’ติ ทาตพฺพํ, นิสฺสฏฺจีวรํ ‘‘อตฺตโนเยว ทินฺน’’นฺติ สุทฺธสฺาย คเหตฺวา อเทนฺตสฺส ทุกฺกฏํ โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
ตสฺส สนฺตกภาวํ ตฺวา เลเสน วิลุมฺปนฺตสฺส ปน ภณฺฑคฺฆวเสน ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยปาราชิกาปตฺติโย โหนฺติ. ยถาห ¶ อฏฺกถายํ ‘‘ตสฺส สนฺตกภาวํ ปน ตฺวา เลเสน อจฺฉินฺทนฺโต ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา กาเรตพฺโพ’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙). ปริยาปุตนฺติ ‘‘น ภิกฺขเว นิสฺสฏฺจีวรํ น ทาตพฺพํ, โย น ทเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๔๗๐) ปาฬิยํ วุตฺตนฺติ อตฺโถ.
๖๑๐-๑. เถเร ทหเร จาติ เอเตสุ อุโภสุปิ มคฺคํ คจฺฉนฺเตสูติ โยชนา. ‘‘เถเร’’ติ อิมินา อนิสฺสิตภาวมาห, ‘‘ทหเร จา’’ติ อิมินา นิสฺสิตภาวํ. โอหีเนติ โอสกฺกิเต. สเจ โส เถโร นิสฺสยาจริโย ภเวยฺยาติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘ครุ’’นฺติ. ตสฺมึ ทหเร. วตฺถนฺติ ตสฺส หตฺเถ ิตจีวรํ. น ปสฺสมฺภตีติ ธุรนิกฺเขปํ อกตฺวา คมเน สอุสฺสาหตฺตา นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิ น โหตีติ อธิปฺปาโย. เตเนว ‘‘มุหุตฺต’’นฺติอาทิมาห.
๖๑๔. ปจฺจุทฺธาเร อนฺโตเยวารุเณติ อิมินา สมฺพนฺโธ, ทหรภิกฺขุโน ทูรภาวฺจ อรุณุคฺคมนฺจ ตฺวา จีวรสฺส อนิสฺสคฺคิยตฺถํ ตสฺส หตฺเถ ิตภาวํ สลฺลกฺเขตฺวา ปุรารุณา ปจฺจุทฺธเรติ อตฺโถ. วิสฺสชฺเชตีติ อฺสฺส เทติ. วินสฺสตีติ โจราทีหิ นสฺสติ.
ทุติยกถินกถาวณฺณนา.
๖๑๖. อกาลจีวรนฺติ ¶ ‘‘อกาลจีวรํ นาม อนตฺถเต กถิเน เอกาทสมาเส อุปฺปนฺนํ, อตฺถเต กถิเน สตฺตมาเส อุปฺปนฺนํ, กาเลปิ อาทิสฺส ทินฺน’’นฺติ (ปารา. ๕๐๐) วจนโต อนตฺถตกถิเน วิหาเร ‘‘จีวรมาโส’’ติ โย ปุพฺพกตฺติกกาฬปกฺขปาฏิปทโต ปฏฺาย ยาว อปรกตฺติกปุณฺณมี, ตาว มาโส วุจฺจติ, ตโต ปเรสุ เอกาทสสุ มาเสสุ ¶ อุปฺปนฺนฺจ อตฺถตกถิเน วิหาเร โย จีวรมาโส, เหมนฺตา จ จตฺตาโร มาสาติ ปฺจมาสโต พหิ สตฺตสุ มาเสสุ อุปฺปนฺนฺจ อตฺถตกถิเน ปฺจ มาสา ยถาปริจฺฉินฺนกาเล สงฺฆสฺส จ ‘‘อิทํ อกาลจีวรํ ทมฺมี’’ติ ปุคฺคลสฺส จ ‘‘อิทํ ตุยฺหํ ทมฺมี’’ติ ทินฺนฺเจติ อิทํ อกาลจีวรนฺติ อตฺโถ. ‘‘อุปฺปนฺน’’นฺติ เสโส, ‘‘อุปฺปชฺเชยฺย สงฺฆโต วา คณโต วา าติโต วา มิตฺตโต วา ปํสุกูลโต วา อตฺตโน วา ธเนนา’’ติ (ปารา. ๕๐๐) วจนโต สงฺฆสฺส วา ‘‘อิทํ สุตฺตนฺติกคณสฺส เทม, อิทํ อาภิธมฺมิกคณสฺส เทมา’’ติอาทินา นเยน คณสฺส วา ทินฺนโต อตฺตโน วสฺสคฺเคน วา าติอาทิโต วา สุสานาทิปํสุกูลเขตฺตโต วา อตฺตโน สนฺตเกน สุตฺตกปฺปาสาทิกปฺปิยวตฺถุโต วา อุปฺปนฺนจีวรนฺติ อตฺโถ.
มาสปรมํ นิกฺขิเปติ มาโส ปรมํ ปมาณํ เอตสฺส นิกฺขิปนสฺสาติ มาสปรมํ, นิกฺขิปนนฺติ กิริยาวิเสสนํ กาตพฺพํ, มาสปรมํ นิกฺขิปนํ กเรยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อากงฺขมาเนน ภิกฺขุนา ปฏิคฺคเหตพฺพํ, ปฏิคฺคเหตฺวา ขิปฺปเมว กาเรตพฺพํ, โน จสฺส ปาริปูรี, มาสปรมํ เตน ภิกฺขุนา ตํ จีวรํ นิกฺขิปิตพฺพํ อูนสฺส ปาริปูริยา’’ติ (ปารา. ๕๐๐) วจนโต เอวํ อุปฺปนฺนํ จีวรํ อิจฺฉนฺเตน ปฏิคฺคเหตฺวา สเจ ปโหติ, ทสาหมนติกฺกาเมตฺวา กาเรตพฺพํ. สเจ นปฺปโหติ, อูนสฺส ปริปูรณตฺถํ มาสปรมํ เปตพฺพนฺติ อตฺโถ.
กทา เอวํ นิกฺขิปิตพฺพนฺติ อาห ‘‘สติ ปจฺจาสายา’’ติ, ‘‘ปจฺจาสา โหติ สงฺฆโต วา คณโต วา าติโต วา มิตฺตโต วา ปํสุกูลโต วา อตฺตโน วา ธเนนา’’ติ (ปารา. ๕๐๐) วุตฺตสงฺฆาทิโต อตฺตโน วสฺสคฺคาทิโต ลเภยฺย, เตน ‘‘อิมสฺส อูเน ปริปุณฺเณ กาเรสฺสามี’’ติ ปจฺจาสาย สติ เอวํ นิกฺขิปิตพฺพนฺติ อตฺโถ. ตโต อุทฺธํเปตุํ ¶ น วฏฺฏตีติ มาสโต อติเรกกาลํ นิกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ, นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยํ โหตีติ อตฺโถ.
ยทิ เอวํ ‘‘ตทหุปฺปนฺเน มูลจีวเร ปจฺจาสาจีวรํ อุปฺปชฺชติ, ทสาหา กาเรตพฺพํ…เป… วีเส ¶ อุปฺปนฺเน มูลจีวเร ปจฺจาสาจีวรํ อุปฺปชฺชติ, ทสาหา กาเรตพฺพ’’นฺติ (ปารา. ๕๐๐) กสฺมา อาหาติ? ปจฺจาสาจีวรสฺส ทสทิวเส อติกฺกมฺม เปตุํ อยุตฺตตฺตา, มูลจีวรสฺส ตคฺคติกตฺตา เอวํ วุตฺตํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘มูลจีวรสฺส อุปฺปนฺนทิวสโต ยาว วีสติโม ทิวโส, ตาว อุปฺปนฺนํ ปจฺจาสาจีวรํ มูลจีวรํ อตฺตโน คติกํ กโรตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๐๐).
ตติยกถินกถาวณฺณนา.
๖๑๘-๙. ภิกฺขุนิยา โย โธวาเปตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ภิกฺขุนี นาม อุภโตสงฺเฆ อุปสมฺปนฺนา’’ติ (ปารา. ๕๐๐) วจนโต ภิกฺขุนิสงฺเฆ ตฺติจตุตฺถาย กมฺมวาจาย, ภิกฺขุสงฺเฆ ตฺติจตุตฺถาย กมฺมวาจายาติ อฏฺวาจิกาย อุปสมฺปนฺนา ภิกฺขุนี นาม. ภุตฺตนฺติ ภิกฺขุนา อตฺตนา ปริภุตฺตํ รชิตํ อาทินฺนกปฺปํ, ‘‘ปริโภคํ กริสฺสามี’’ติ อนฺตมโส สีสํ เปตฺวา สยนมตฺเตนาปิ ปุราณภูตํ จีวรนฺติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘รชิตฺวา กปฺปํ กตฺวา เอกวารมฺปิ นิวตฺถํ วา ปารุตํ วา อนฺตมโส ปริโภคสีเสน อํเส วา มตฺถเก วา กตฺวา มคฺคํ คโต โหติ, อุสฺสีสกํ วา กตฺวา นิปนฺโน โหติ, เอตมฺปิ ปุราณจีวรเมวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๐๓-๕๐๕). วตฺถนฺติ การิเย การโณปจารวเสน จีวรเมว อาห.
อฺาติกายาติ ‘‘อฺาติกา นาม มาติโต วา ปิติโต วา ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อสมฺพทฺธา’’ติ วจนโต ¶ อตฺตโน วา ตสฺสา วา มาตุ วา ปิตุ วา ปรมฺปราย ยาว สตฺตมา ยุคา, เอตฺถนฺตเร เยน เกนจิ าตเกน อสมฺพทฺธภาเวน อฺาติกายาติ อตฺโถ. ยถา จาห อฏฺกถายํ ‘‘ปิตามโหเยว ปิตามหยุคํ. ตโต อุทฺธํ สพฺเพปิ ปุพฺพปุริสา ปิตามหคฺคหเณเนว คหิตา. เอวํ ยาว สตฺตโม ปุริโส, ตาว ยา อสมฺพทฺธา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๐๓-๕๐๕). อาโกฏาเปตีติ ปหราเปติ.
ตโต โธวาปนาทิโต. นิสฺสคฺคิยาปตฺตีติ นิสฺสคฺคิยสฺส อาปตฺติ นิสฺสคฺคิยาปตฺติ, นิสฺสคฺคิยสฺส จีวรสฺส นาเมน วิสิฏฺา ปาจิตฺติยาปตฺติ โหตีติ อตฺโถ. อิทฺจ ติณฺณํ ปโยคานํ อนฺเต อาปชฺชิตพฺพาย อาปตฺติยา ทสฺสนํ. ตสฺส นิโยเคน โธวนาทึ กโรนฺติยา ภิกฺขุนิยา ตทตฺถํ สพฺพปุพฺพปโยคคณนาย ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ โหตีติ คเหตพฺโพ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ยาว นํ โธวิตฺวา อุกฺขิปติ, ตาว ภิกฺขุนิยา ปโยเค ปโยเค ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ ¶ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๐๓-๕๐๕). ปเมนาติ ตีณิปิ การาเปนฺตสฺส ยํ ปมํ การาเปติ, เตนาติ อตฺโถ. ทีปิตนฺติ ‘‘อฺาติกาย อฺาติกสฺี ปุราณจีวรํ โธวาเปติ รชาเปติ อาโกฏาเปติ, นิสฺสคฺคิเยน อาปตฺติ ทฺวินฺนํ ทุกฺกฏาน’’นฺติอาทินา (ปารา. ๕๐๖) เทสิตํ. อิมินา นเยน ทฺเว การาเปนฺตสฺส ปเมน นิสฺสคฺคิยาปตฺติ, ทุติเยน ทุกฺกฏนฺติ อยมตฺโถ สงฺคยฺหติ.
๖๒๐. ‘‘โธวนตฺถาย เทตี’’ติ อิมินา ‘‘ภุตฺตํ วตฺถ’’นฺติ อธิการโต ลพฺภติ.
๖๒๑. สามเณรนิทฺเทเสปีติ ‘‘สามเณรา’’ติ นิทฺเทโส นาม ยสฺส, ตสฺมิมฺปิ, อตฺตนา ปริภุตฺตํ วตฺถํ โธวนตฺถาย เทตีติ โยชนา, อตฺตโน ปริภุตฺตํ จีวรํ โธวนตฺถาย ¶ สามเณรสฺส เทตีติ อตฺโถ. ปิ-สทฺโท สมุจฺจยตฺโถ. อุปสมฺปชฺชาติ ปุพฺพกิริยาย ‘‘โธวตี’’ติ อปรกิริยา สามตฺถิยา ลพฺภติ.
๖๒๒. ทหรานฺจ ภิกฺขูนนฺติ อตฺตโน นวกตรานํ ภิกฺขูนํ. นิยฺยาทิเต ทินฺเน. เอส นโยติ ‘‘เอเกน ปาจิตฺติยํ, อวสิฏฺเหิ ทฺวีหิ วา เอเกน วา สพฺพปโยเคสุ ทุกฺกฏํ โหตี’’ติ นโย.
๖๒๔. ‘‘โธวนปฺปจฺจยาเยวา’’ติ อิมินา อิตรทฺวยสฺส ตสฺส อนาณตฺติยา กตตฺตา ตโต อนาปตฺติภาวมาห.
๖๒๖. าติกาติ เอตฺถ ‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๒-๒๓, ๔๒๒; อ. นิ. ๖.๕๘; ๘.๙; มหานิ. ๒๐๖; ธ. ส. ๑๓๕๕; วิภ. ๕๑๘) วิย คาถาพนฺธวเสน ย-การโลโป, าติกาย ภิกฺขุนิยาติ อตฺโถ. ‘‘าติกา อฺาติสฺิสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท. ปจฺจตฺถรณนฺติ มฺจปีเ อตฺถริตพฺพํ ปจฺจตฺถรณจีวรฺจ.
๖๒๗. ‘‘ภิกฺขุนีนํ วเสนา’’ติ อิทํ ภิกฺขุสงฺเฆปิ อุปสมฺปนฺนา เจ, ปาจิตฺติยสมฺภวา วุตฺตํ ¶ . ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ภิกฺขูนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนาย ปน ยถาวตฺถุกเมวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๐๖). ภิกฺขุนิสงฺเฆ ปมํ อุปสมฺปชฺชิตฺวา ปจฺฉา ภิกฺขุสงฺเฆ เจ อุปสมฺปชฺชติ, เกวลํ ภิกฺขุสงฺเฆ อุปสมฺปนฺนาติ น วุจฺจตีติ ตา ภควติ ธรมาเน ปมํ ปพฺพชิตา ปฺจสตา สากิยานิโย วุจฺจนฺติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ภิกฺขูนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนา นาม ปฺจสตา สากิยานิโย’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๐๖). ภิกฺขุโน ¶ ลิงฺเค ปริวตฺเต ตสฺเสว อุปสมฺปนฺนกมฺมสฺส อนฺุาตตฺตา โสปิ คเหตพฺโพเยว.
๖๒๘. อวุตฺตา โธวตีติ ‘‘อิมํ จีวรํ โธวา’’ติ อวุตฺตา จีวรํ กิลิฏฺํ ทิสฺวา อวตฺวา ปิตฏฺานโต จีวรํ คเหตฺวา วา สยเมว วตฺวา ยาจนาทินเยน วา อนาณตฺติยา จ คเหตฺวา จีวรโธวนาทึ กเรยฺย เจ. อปริภุตฺตํ วาติ เหฏฺา วุตฺตนเยน อปริภุตฺตํ จีวรํ. อฺํ วาติ อุปาหนตฺถวิกปตฺตตฺถวิกโปตฺถกตฺถวิกมฺจปีาทึ ยํ กิฺจิ ปริกฺขารํ.
ปุราณจีวรโธวาปนกถาวณฺณนา.
๖๒๙. วิกปฺปนุปคํ ปจฺฉิมํ อุปาทาย กิฺจิ จีวรํ คณฺหโตติ โยชนา, เอตฺถ ‘‘อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา หตฺถโต’’ติ จ ‘‘าติกาย อฺาติกสฺิสฺสา’’ติ จ ‘‘เอกโตอุปสมฺปนฺนาย หตฺถโต คณฺหาตี’’ติ จ วกฺขมานวจนสามตฺถิยา ลพฺภมานโต ปุพฺเพ วุตฺตนเยน อฺาติกาย อุภโตสงฺเฆ อุปสมฺปนฺนาย ภิกฺขุนิยา หตฺถโต วิกปฺปนุปครตนวิทตฺถิปฺปมาณวตฺถโต ปฏฺาย ยํ กิฺจิ จีวรํ คณฺหนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ‘‘อาปตฺตี’’ติ สามฺเน วุตฺเตปิ ‘‘นิสฺสคฺคิยา ปาจิตฺติยาปตฺตี’’ติ ปกรณโต จ ‘‘นิสฺสคฺคิยาปตฺตี’’ติ วกฺขมานโต จ ลพฺภติ. เปตฺวา ปาริวตฺตกนฺติ ‘‘ปาริวตฺตกํ ปริตฺเตน วา วิปุลํ, วิปุเลน วา ปริตฺต’’นฺติ (ปารา. ๕๑๔) วจนโต มหาปจฺจริยํ ‘‘อนฺตมโส หรีตกขณฺเฑนาปี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๑๔) วุตฺตตฺตา จ เหฏฺิมนฺตโต หรีตกขณฺฑมฺปิ ทตฺวา คเหตพฺพํ ติจีวรฺจ ปาริวตฺตกํ นาม โหติ, ตํ เปตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ปริวตฺตนํ ปริวตฺตํ, ตํ เอตสฺส อตฺถีติ ปาริวตฺตกํ, กยวิกฺกเยน คเหตพฺพํ จีวรนฺติ อตฺโถ.
๖๓๐. คหณตฺถาย ¶ ปโยเคติ คณฺหิตุํ หตฺถปสารณาทิปฺปโยเค. ปริยาปุตนฺติ ‘‘ปฏิคฺคณฺหาติ ปโยเค ทุกฺกฏ’’นฺติ (ปารา. ๕๑๒) เทสิตํ.
๖๓๑. อนุปสมฺปนฺนหตฺเถติ ¶ ภิกฺขุภิกฺขุนิโต อฺเ สพฺเพ อนุปสมฺปนฺนา คหิตา. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สเจ ปน สิกฺขมานาสามเณรสามเณริอุปาสกอุปาสิกานํ หตฺเถ เปสิตํ ปฏิคฺคณฺหาติ, อนาปตฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๑๒).
๖๓๒. เอกโตติ เอตฺถ ภิกฺขุนิสงฺฆโตติ คเหตพฺพํ. อฺสฺมึ ปกฺเข ปาจิตฺติยเมว. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ภิกฺขูนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนาย ปน ปาจิตฺติยเมวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๑๓).
๖๓๓. ‘‘ปาริวตฺตกํ ทสฺสามี’’ติ อาโภคํ กตฺวา คณฺหาติ, โทโส น วิชฺชตีติ โยชนา.
๖๓๔. อฺํ ปริกฺขารนฺติ ถวิกกายพนฺธนาทิ อวิกปฺปิยํ วา อวิกปฺปนุปคํ วา ปริกฺขารเมว คเหตพฺพํ. วิกปฺปนุปคํ ปน น วฏฺฏติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘วิกปฺปนุปคํ ปจฺฉิมจีวรปฺปมาณํ ปน ปฏปริสฺสาวนมฺปิ น วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๑๔). จีวรปฏิคฺคณฺหนํ กิริยา, ปาริวตฺตกสฺส อทานํ อกิริยาติ กิริยาย จ อกิริยาย จ อาปชฺชิตพฺพโต กฺริยากฺริยํ.
จีวรปฏิคฺคหณกถาวณฺณนา.
๖๓๕. ‘‘อฺาตกํ อปฺปวาริต’’นฺติ ปทจฺเฉโท. ‘‘คหปตึ วา คหปตานึ วา’’ติ ปาเสโส. วุตฺตฺหิ ภควตา ‘‘อฺาตกํ คหปตึ วา คหปตานึ วา’’ติ (ปารา. ๕๑๖, ๕๑๘). ปุพฺเพ วุตฺตนเยน ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา สมฺพทฺธฺาติกตาย อภาวโต อฺาตกํ. ‘‘ยํ มยฺหํ เคเห ¶ อตฺถิ, ตํ ปวาเรมี’’ติอาทินา นเยน อปฺปวาริตํ. ‘‘คหปติ นาม โย โกจิ อคารํ อชฺฌาวสตี’’ติ (ปารา. ๕๑๙) ปาฬิยํ วุตฺตํ คหปตึ วา. ‘‘คหปตานี นาม ยา กาจิ อคารํ อชฺฌาวสตี’’ติ (ปารา. ๕๑๙) ปาฬิยํ วุตฺตํ ฆรณึ วาติ อตฺโถ.
โหติ นิสฺสคฺคิยาปตฺตีติ ‘‘อฺตฺร สมยา วิฺาเปติ, ปโยเค ทุกฺกฏํ, ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิยํ โหตี’’ติ (ปารา. ๕๑๙) ปาฬิยํ วุตฺเตสุ สพฺเพสุ ปุพฺพปโยเคสุ ทุกฺกเฏน สทฺธึ นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยํ ¶ โหตีติ วุตฺตํ โหติ. อฺตฺร สมยาติ ‘‘ตตฺถายํ สมโย, อจฺฉินฺนจีวโร วา โหติ ภิกฺขุ นฏฺจีวโร วา’’ติ (ปารา. ๕๑๘) มาติกาย, ‘‘อจฺฉินฺนจีวโร นาม ภิกฺขุสฺส จีวรํ อจฺฉินฺนํ โหติ ราชูหิ วา โจเรหิ วา ธุตฺเตหิ วา เยหิ เกหิจิ วา อจฺฉินฺนํ โหติ. นฏฺจีวโร นาม ภิกฺขุสฺส จีวรํ อคฺคินา วา ทฑฺฒํ โหติ, อุทเกน วา วูฬฺหํ โหติ, อุนฺทูเรหิ วา อุปจิกาหิ วา ขายิตํ โหตี’’ติ (ปารา. ๕๑๙) ปทภาชเน จ นิทฺทิฏฺสรูปกาลโต อฺตฺราติ อตฺโถ.
๖๓๖. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘อฺาตเก อฺาตกสฺี, เวมติโก, าตกสฺี อฺตฺร สมยา จีวรํ วิฺาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปารา. ๕๒๐) ปาจิตฺติยตฺตยํ ภควตา วุตฺตํ. ‘‘าตเก อฺาติสฺิสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท. ตตฺถาติ ตสฺมึ าตเก. เวมติกสฺสาติ ‘‘าตโก นุ โข, อฺาตโก’’ติ เวมติกสฺส. ทฺวิกทุกฺกฏํ ตเถวาติ โยชนา. ‘‘ตเถวา’’ติ ‘‘วุตฺต’’นฺติ อิทํ อากฑฺฒติ, ‘‘าตเก อฺาตกสฺี, เวมติโก อฺตฺร สมยา จีวรํ วิฺาเปติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๕๒๐) เทสิตนฺติ อตฺโถ.
๖๓๗-๘. สมเย ¶ วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. เอตฺถ ‘‘จีวรํ อฺาตกอปฺปวาริต’’นฺติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ, ยถาปริจฺฉินฺนกาลทฺวยโต อฺตรสฺมึ กาเล อฺาตกอปฺปวาริตํ จีวรํ วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ. าตเก วา ปวาริเตติ เอตฺถาปิ ‘‘อตฺตโน’’ติ อชฺฌาหาโร, ‘‘สมเย’’ติ อิมินา โยเชตพฺพํ, อตฺตโน าตกปวาริเต อสมเยปิ จีวรํ วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ. อฺสฺสตฺถายาติ เอตฺถ ‘‘อตฺตโน’’ติ เสโส, อตฺตโน าตเก, ปวาริเต วา วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา, อฺํ ภิกฺขุํ นิสฺสาย อตฺตโน าตเก วา ปวาริเต วา จีวรํ วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ. อิตรํ ปกฺขํ ทสฺเสติ ‘‘ตสฺส าตเก วา ปวาริเต วา’’ติ. ตสฺสาติ ‘‘อฺสฺสา’’ติ วุตฺตสฺส, ‘‘วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ อิมินา โยเชตพฺพํ. วาติ ปุริมวิกปฺปาเปกฺขํ. ยํ สนฺธาย จีวรํ วิฺาเปติ, ตสฺส าตเก วา ปวาริเต วา ตํเยว สนฺธาย จีวรํ วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ.
‘‘อตฺตโน วา ธเนนา’’ติ วุตฺตํ อนาปตฺติองฺคํ อุมฺมตฺตกาทิโนติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน สงฺคยฺหติ ¶ , อตฺตโน สนฺตกํ สุตฺตกปฺปาสาทิกํ กปฺปิยวตฺถุํ ทตฺวา คณฺหิตุกามตาย อกปฺปิยโวหาเรน ยาจนฺตสฺส จ อนาปตฺตีติ อตฺโถ.
อฺาตกวิฺตฺติกถาวณฺณนา.
๖๓๙. อปฺปวาริตมฺาตินฺติ เอตฺถ ‘‘คหปตึ วา คหปตานึ วา’’ติ อิทํ สามตฺถิยา ลพฺภติ. ตตุตฺตรินฺติ ตโต สนฺตรุตฺตรปรมโต อุตฺตรินฺติ คเหตพฺพํ, ‘‘สนฺตรุตฺตรปรมํ เตน ภิกฺขุนา ตโต จีวรํ สาทิตพฺพ’’นฺติ (ปารา. ๕๒๓) วุตฺตตฺตา ¶ อจฺฉินฺนจีวเรน สาทิตพฺพอนฺตรวาสกอุตฺตราสงฺคมตฺเตน อธิกนฺติ อตฺโถ.
‘‘ตโต เจ อุตฺตริ สาทิเยยฺยา’’ติ (ปารา. ๕๒๓) วจนโต ‘‘สาทิยนฺตสฺสา’’ติ วตฺตพฺพํ, เอวํ วตฺตพฺเพ ‘‘วิฺาเปนฺตสฺสา’’ติ กสฺมา วุตฺตนฺติ? อจฺฉินฺนจีวรานํ ภิกฺขูนํ ฉพฺพคฺคิเยหิ ภิกฺขูหิ จีวรวิฺาปนวตฺถุสฺมึ ‘‘กถฺหิ นาม ตุมฺเห โมฆปุริสา น มตฺตํ ชานิตฺวา พหุํ จีวรํ วิฺาเปสฺสถา’’ติ (ปารา. ๕๒๒) ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู ครหิตฺวา อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส ปฺตฺตตฺตา ‘‘สาทิตพฺพ’’นฺติ เอตฺถ วิฺาเปตพฺพนฺติ อตฺโถ โหติ, เตเนว อิมสฺมึ ปทภาชเน ‘‘ตโต เจ อุตฺตริ สาทิเยยฺยาติ ตตุตฺตริ วิฺาเปตี’’ติ (ปารา. ๕๒๔) จ อาปตฺติเภทสนฺทสฺสนฏฺาเน ‘‘อฺาตเก อฺาตกสฺี ตตุตฺตริ จีวรํ วิฺาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติอาทิวจนโต (ปารา. ๕๒๕) จ วุตฺตํ. ยทิ เอวํ สิกฺขาปเทเยว ‘‘สาทิตพฺพํ, สาทิเยยฺยา’’ติ จ อุภยตฺถ ‘‘วิฺาเปตพฺพํ, วิฺาเปยฺยา’’ติ จ กสฺมา น วุตฺตนฺติ? อจฺฉินฺนจีวรภาวํ ตฺวา อวิฺาปิเตปิ อภิหริตฺวา ทิยฺยมานมฺปิ อธิวาเสนฺเตน เอวเมว สาทิตพฺพนฺติ น วุตฺตํ. อิมสฺเสว จ อธิกวิฺาปนนิเสธนตฺถํ วทนฺเตนาปิ ‘‘ตฺเจ อฺาตโก คหปติ วา คหปตานี วา พหูหิ จีวเรหิ อภิหฏฺุํ ปวาเรยฺย, สนฺตรุตฺตรปรมํ เตน ภิกฺขุนา ตโต จีวรํ สาทิตพฺพ’’นฺติ สาทิตพฺพนิยมปฺปธานํ วุตฺตํ. ตสฺมา อจฺฉินฺนจีวเรน อตฺตนา วา ตํ สนฺธาย อฺเน วา วิฺาเปนฺเตนปิ อวิฺาเปนฺเตปิ ทิยฺยมานํ สาทิยนฺเตนาปิ สนฺตรุตฺตรปรมตํ นาติกฺกมิตพฺพนฺติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท สนฺธาย ภาสิตตฺโถติ สลฺลกฺเขตพฺพนฺติ เอตฺตกํ าเปตุํ ‘‘สาทิยนฺตสฺสา’’ติ อวตฺวา ‘‘วิฺาเปนฺตสฺสา’’ติ วุตฺตนฺติ อาจริยาภิสนฺธิ เวทิตพฺพา.
๖๔๐. อิทานิ ¶ ¶ วิฺาปเน จ อธิวาสเน จ อุภยตฺเถว นิยมํ ทสฺเสตุํ ‘‘สเจ ตีณิ นฏฺานิ โหนฺติ, ทฺเว สาทิตพฺพานิ. ทฺเว นฏฺานิ, เอกํ สาทิตพฺพํ. เอกํ นฏฺํ, น กิฺจิ สาทิตพฺพ’’นฺติ (ปารา. ๕๒๔) ปทภาชเน วุตฺตวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ยสฺสา’’ติอาทิ. ‘‘ยสฺส ตีณิปิ นฏฺานิ, ทฺเว วา นฏฺานิ, เอกํ วา นฏฺ’’นฺติ สมฺพนฺธิตฺวา ยถากฺกมํ ‘‘เตน ทฺเว สาทิตพฺพานิ, เอกํ สาทิตพฺพํ, น กิฺจิปิ สาทิตพฺพ’’นฺติ โยชนา กาตพฺพา. ยสฺส ตีณิปิ จีวรานิ นฏฺานิ, พหุ จ ทิยฺยติ, เตน ทฺเวเยว จีวรานิ สาทิตพฺพานิ. ทฺเว จีวรานิ นฏฺานิ, เอกํ สาทิตพฺพํ. เอกฺเจ นฏฺํ, น สาทิตพฺพํ, อวสิฏฺํ ปจฺฉา ธมฺเมน สเมน ลทฺธนีหาเรน คเหตพฺพนฺติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เสสํ สภาคฏฺานโต ปริเยสิสฺสตี’’ติ. ‘‘ภิกฺขุนิยา ปน ปฺจสุปิ นฏฺเสุ ทฺเว สาทิตพฺพานิ, จตูสุ นฏฺเสุ เอกํ สาทิตพฺพํ, ตีสุ นฏฺเสุ กิฺจิ น สาทิตพฺพ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๒๒-๕๒๔) อฏฺกถายํ วุตฺตํ.
๖๔๑-๒. เสสกํ อาหรนฺตสฺส อนาปตฺตีติ าตพฺพนฺติ โยชนา. เอวมุปริปิ โยเชตพฺพํ. จีวรํ โยเชตฺวา อติเรกํ วตฺถํ ปจฺจาหริตฺวา ‘‘ทสฺสามี’’ติ พหุมฺปิ คเหตฺวา คจฺฉนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ. อติเรกมฺปิ ตุมฺเหเยว คณฺหถาติ ทินฺนํ คณฺหโตปิ อนาปตฺติ. น อจฺฉินฺนการณา ทินฺเนติ โยชนา, อจฺฉินฺนจีวรภาวํ อนุทฺทิสฺส พหูนํ จีวรานํ คหณนิมิตฺเตนาปิ อนาปตฺตีติ อตฺโถ. เอวเมว ‘‘น นฏฺการณา เทนฺตี’’ติ อิทมฺปิ ทสฺสิตเมว. อจฺฉินฺนจีวเร นิสฺสาย ตตุตฺตริจีวรวิฺาปนวตฺถุมฺหิ อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส ปฺตฺตตฺตา อนาปตฺติวาเร ‘‘อฺสฺสตฺถายา’’ติ น คหิตํ.
ตตุตฺตริกถาวณฺณนา.
๖๔๓. กลฺยาณกมฺยตาเหตูติ ¶ สุนฺทรสฺส มหคฺฆสฺส กามตํ ปฏิจฺจ จีวเร วิกปฺปนํ อาปชฺเชยฺยาติ โยชนา, ‘‘กีทิเสน เต ภนฺเต จีวเรน อตฺโถ’’ติ ปุพฺเพ อปฺปวาริโต ‘‘อายตํ วา โหตุ วิตฺถตํ วา อปฺปิตํ วา สณฺหํ วา’’ติ (ปารา. ๕๒๙) ปทภาชเน วุตฺตวิสิฏฺกปฺปํ อธิกวิธานํ กโรตีติ อตฺโถ. ตสฺส ลาภา นิสฺสคฺคิยํ ภเวติ ตถา อปฺปวาริเตน หุตฺวา กเตน อธิกวิธาเนน นิปฺผนฺนจีวรสฺส ลาภปฺปโยเคน ทุกฺกฏนิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยา โหนฺติ.
๖๔๔. มหคฺฆํ ¶ …เป… วิฺาเปตีติ วีสติอคฺฆนกํ จีวรํ ทาตุกามมฺหิ อุปาสเก, ‘‘อลํ มยฺหํ เอเตน, ทสคฺฆนกํ วา อปฺปคฺฆนกํ วา เทหี’’ติ วทติ.
๖๔๕. ‘‘าตเก อฺาติสฺิสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท.
ปโมปกฺขฏกถาวณฺณนา.
๖๔๖. ปมสิกฺขาปเท เอเกน อุปาสเกน ปีฬา ลทฺธา, อิธ ทฺวีหีติ เอตฺตกํ นานากรณํ. เสสํ ปมสิกฺขาปทสทิสเมวาติ อาห ‘‘ทุติโย…เป… วินิจฺฉโย’’ติ. อุปกฺขฏปเทน ลกฺขิตํ สิกฺขาปทํ อุปกฺขฏํ, ทุติยฺจ ตํ อุปกฺขฏฺจาติ ทุติโยปกฺขฏํ, ตสฺมึ ทุติโยปกฺขเฏ. อสฺสาติ ทุติโยปกฺขฏสฺส.
ทุติโยปกฺขฏกถาวณฺณนา.
๖๔๗. รฺา วาติ ราชโต วา. ราชโต โภคฺคํ ภฺุชิตพฺพํ อสฺส อตฺถีติ ‘‘ราชโภคฺโค’’ติ วุตฺโต, ราชโต ภตฺตเวตฺตนลาภิโต ยโต กุโตจิ ทายกา อาภตนฺติ สมฺพนฺโธ. น จ วฏฺฏตีติ เอตฺถ ‘‘นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยภาวโต’’ติ ¶ อชฺฌาหริตพฺพํ. อิธ อุตฺตริกรณียํ ‘‘ติกฺขตฺตุ’’นฺติอาทิคาถาย (วิ. วิ. ๖๗๑) วกฺขติ.
๖๔๘. จีวรเจตาปนฺนวเสน อธิคตรชตาทิ เยน เกนจิ ปริยาเยนาปิ น สาทิตพฺพนฺติ ทสฺเสตุมาห ‘‘รชตํ วา’’ติอาทิ. ธวลสภาวตาย ราชตีติ รชตํ, สชฺฌุ. ชาตํ รูปํ วณฺณายตนเมตสฺสาติ ชาตรูปํ, สุวณฺณํ. กิฺจีติ อปฺปมตฺตกมฺปิ. อตฺตโน วา อตฺถาย ปรสฺส วา อตฺถาย ทิยฺยมานํ กิฺจิ คณฺหิตุํ น วฏฺฏตีติ โยชนา.
๖๔๙. อตฺตโน ปฏิคฺคหเณ อาปตฺติยา รูปิยคหณสิกฺขาปเท วกฺขมานตฺตา อฺสฺส อตฺถาย คหเณ อาปตฺติทสฺสนตฺถมาห ‘‘อฺสฺสตฺถายา’’ติอาทิ. ตตฺถ อฺสฺสตฺถายาติ อฺสฺส ปุคฺคลสฺส, คณสฺส, สงฺฆสฺส, เจติยสฺส, นวกมฺมสฺส วา อตฺถาย. นิทฺทิฏฺนฺติ อาหริตฺวา ‘‘อิมํ คณฺหถา’’ติ วุตฺตํ รชตํ, ชาตรูปํ วา อฺํ วา ยํ กิฺจิ นิสฺสคฺคิยทุกฺกฏวตฺถุํ ¶ ปฏิคฺคณฺหโต ตสฺส ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ โหตีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตนฺติ โยชนา.
๖๕๐-๑. วุตฺตเมวตฺถํ สรูปโต วิภาเวตุมาห ‘‘เนตฺวา’’ติอาทิ. เนตฺวาติ อาเนตฺวา. อกปฺปิยํ ภณฺฑนฺติ ‘‘รชตํ ชาตรูปํ วา’’ติ ยถาวุตฺตเมว อกปฺปิยภณฺฑํ. อิตฺถนฺติ วกฺขมานปฺปกาเรน. น จ วฏฺฏตีติ เอตฺถ จ-กาเรน วฏฺฏติ จาติ อนฺุาตํ กตนฺติ. ยถาห อฏฺกถายํ –
‘‘สเจ ปน ‘นยิทํ ภิกฺขูนํ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตี’ติ ปฏิกฺขิตฺเต ‘วฑฺฒกีนํ วา กมฺมกรานํ วา หตฺเถ ภวิสฺสติ, เกวลํ ตุมฺเห สุกตทุกฺกฏํ ชานาถา’ติ วตฺวา เตสํ หตฺเถ ทตฺวา ปกฺกมติ, วฏฺฏติ. อถาปิ ‘มม มนุสฺสานํ หตฺเถ ภวิสฺสติ, มยฺหเมว ¶ วา หตฺเถ ภวิสฺสติ, เกวลํ ตุมฺเห ยํ ยสฺส ทาตพฺพํ, ตทตฺถาย เปเสยฺยาถา’ติ วทติ, เอวมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๓๘-๕๓๙).
๖๕๒. วิหารสฺสาติ เอตฺถ ‘‘นวกมฺมสฺสา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๓๘-๕๓๙) อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา วตฺตพฺพํ คาถาพนฺธวเสน น วุตฺตํ.
๖๕๔. รชตํ ชาตรูปํ วา สงฺฆสฺสาติ เอตฺถ ‘‘จตฺตาโร ปจฺจเย ปริภฺุชถาติ ทินฺน’’นฺติ เสโส. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สเจ ปน โกจิ พหุมฺปิ หิรฺสุวณฺณํ อาเนตฺวา ‘อิทํ สงฺฆสฺส ทมฺมิ, จตฺตาโร ปจฺจเย ปริภฺุชถา’ติ วทติ, ตํ เจ สงฺโฆ สมฺปฏิจฺฉติ, ปฏิคฺคหเณปิ ปริโภเคปิ อาปตฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๓๘-๕๓๙). เอวํ อาภตํ ตสฺมึ สงฺเฆ โย โกจิ ภิกฺขุ ‘‘นยิทํ กปฺปตี’’ติ สเจ ปฏิกฺขิปติ, ‘‘อยํ สงฺฆสฺส ลาภนฺตรายํ กโรตี’’ติ วทนฺตสฺเสว อาปตฺติ โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘โย หิ ตํ โจเทติ, สฺเวว สาปตฺติโก โหติ, เตน ปน เอเกน พหู อนาปตฺติกา กตา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๓๘-๕๓๙). อิธ สฺเวว สาปตฺติโกติ เอตฺถ ‘‘ทุกฺกฏาปตฺติโกติ วุตฺตํ โหตี’’ติ คณฺิปเท วุตฺตํ. อิมิสฺสา คาถาย ‘‘สงฺฆสฺสา’’ติ อลิขิตฺวา ‘‘ภิกฺขุโน’’ติ จ ลิขนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ. อิทานิ ทสฺสิตอฏฺกถาปาเ ‘‘สงฺโฆ สมฺปฏิจฺฉตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๓๘-๕๓๙) วุตฺตตฺตา ‘‘สงฺฆสฺสา’’ติ ปาโ สุนฺทโร.
๖๕๕. ตฬากสฺสาติ ¶ วาปิยา. สสฺสุปฺปตฺตินิทานโต ตฬากํ เขตฺตํ, ตโต ตสฺส คหณํ วา ปริโภโค วา น จ วฏฺฏตีติ โยชนา. ตฬากสฺส จาติ เอตฺถ จ-กาเรน เขตฺตวตฺถุ สงฺคหิตํ. น จ วฏฺฏตีติ เอตฺถ จกาเรน วฏฺฏติ จาติ ทสฺสิตํ โหติ.
๖๕๖. ตํ ¶ กตมนฺติ อาห ‘‘จตฺตาโร’’ติอาทิ. สพฺพมฺปีติ ตฬากโปกฺขรณิเขตฺตาทิ สพฺพมฺปิ.
๖๕๘-๙. อปริจฺฉินฺนภาคสฺมินฺติ ‘‘อิมสฺมึ ภูมิภาเค กตสฺส กมฺเมหิ เอตฺตโก ภาโค เทยฺโย’’ติ เอวํ ปุพฺเพ อนิยมิตอาเย ภูมิภาเค. อกตปุพฺพํ นวสสฺสํ นาม. เอตฺตกํ ภาคํ เทถาติ เอตฺตกํ กหาปณภาคํ เทถ. อุฏฺาเปตีติ อุปฺปาเทติ.
‘‘กสถ วปถา’’ติ อกปฺปิยํ วาจํ วตฺวาติ โยชนา. วปถาติ จาติ เอตฺถ จ-สทฺโท อิธ อวุตฺตํ ตํกตฺตุโยคกาเล วุจฺจมานํ อกปฺปิยวจนนฺตรํ สมุจฺจิโนติ. อุปฺปาทิตฺจาติ เอตฺถ จ-สทฺโท กหาปณํ สมุจฺจิโนติ. สพฺพนฺติ ตถา อุปฺปาทิตกหาปณฺจ เอวํ อกปฺปิยโวหาเรน อุปฺปาทิตฺจาติ สพฺพํ.
๖๖๐. กสถาทิกํ วจนํ อวตฺวา ‘‘เอตฺติกาย ภูมิยา เอตฺตโก นาม ภาโค’’ติ ภูมึ โย จ ปติฏฺาเปติ, ตสฺเสเวตมกปฺปิยนฺติ วกฺขมาเนน โยเชตพฺพํ. จ-สทฺโท ‘‘โย ปนา’’ติ วกฺขมานปุคฺคลนฺตราเปกฺโข.
๖๖๑-๒. ภูมิยา สยเมว ปมาณสฺส ชานนตฺถํ ตูติ โยชนา, ‘‘เอตฺตเก ภูมิภาเค อมฺเหหิ สสฺสํ กตํ, เอตฺตกํ นาม ภาคํ คณฺหถา’’ติ กสเกหิ วุตฺเต เตสํ วจนํ อสทฺทหิตฺวา สยเมว เขตฺตภูมิยา ปมาณํ าตุกามตายาติ อตฺโถ. ตุ-สทฺโท อิมเมว วิเสสํ โชเตติ. โย ปน มินาติ, ตสฺเสเวตมกปฺปิยนฺติ วกฺขมาเนน โยเชตพฺพํ. รชฺชุยาปิ จ ทณฺเฑนาติ เอตฺถ ปาเทนาปิ มินิตุํ น วฏฺฏตีติ วทนฺติ. ‘‘รกฺขตี’’ติอาทิกิริยาปเทหิปิ เอวเมว โยเชตพฺพํ.
ขเล ¶ ตฺวา รกฺขตีติ ธฺกรเณ ตฺวา อฺเ คณฺหิตุํ อทตฺวา ปาเลติ. กถํ รกฺขิตุํ ¶ วฏฺฏติ, กถํ รกฺขิตุํ น วฏฺฏตีติ? ตํ ปน วีหึ ‘‘อิทํ วา เอตฺตกํ วา มา คณฺห, อิทํ คเหตุํ น ลพฺภตี’’ติ วา ‘‘อิโต อปเนหิ, อิธ ปฺุชํ กโรหี’’ติ วา เอวมาทินา ปโยเคน เจ รกฺขติ, ตํ อกปฺปิยํ. สเจ ‘‘มยิ ิเต รกฺขิตํ โหตี’’ติ รกฺขติ, คณฺหนฺเต วา ปสฺสิตฺวา ‘‘กึ กโรถา’’ติ ภณติ, วฏฺฏติ. รูปิยปฏิคฺคหณสิกฺขาปเท ทฺวารํ ปิทหิตฺวา รกฺขนฺเตน วสิตพฺพนฺติ หิ วุตฺตนฺติ คณฺิปเท วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ. อฺสฺมิมฺปิ คณฺิปเท วุตฺตํ ‘‘เถเนตฺวา คณฺหนฺเต สติ เอตํ โภ ปวตฺตึ ภิกฺขุสงฺฆสฺส กึ อาโรเจสฺสามีติ ปฏิปุจฺฉิตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺตี’’ติ. นีหราเปตีติ เอตฺถาปิ สเจ ปริยาเยน วทติ, วฏฺฏตีติ วทนฺติ. ตสฺเสเวตมกปฺปิยนฺติ อิทํ เขตฺตมินนาทึ กโรนฺเตน ลทฺธพฺพโต อฺสฺส อภินวุปฺปาทิตสฺส อภาวา อฺเสํ วฏฺฏตีติ ทฺวีสุ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ.
๖๖๓. ‘‘เอตฺตเกหิ วีหีหิ อิทํ อาหรถา’’ติ วุตฺตา สเจ อาหรนฺตีติ โยชนา. เอตฺถ ‘‘ตสฺเสเวตมกปฺปิย’’นฺติ อิทํ ธฺสฺส วิจาริตตฺตา วุตฺตํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ตสฺเสว อกปฺปิยํ. กสฺมา? ธฺสฺส วิจาริตตฺตา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๓๘-๕๓๙).
๖๖๔. หิรฺเนาติ กหาปเณน. ‘‘ตมกปฺปิย’’นฺติ อิทํ กหาปณานํ วิจาริตตฺตา วุตฺตํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สพฺเพสํ อกปฺปิยํ. กสฺมา? กหาปณานํ วิจาริตตฺตา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๓๘-๕๓๙).
๖๖๕. เปสการกทาสํ วาติ เปสการกสงฺขาตํ ทาสํ วา, เปสกาโร ตนฺตวาโย. อารามิกานํ นาเมน เทนฺเตติ ‘‘อารามิกํ ทมฺมิ, เวยฺยาวจฺจกรํ ทมฺมี’’ติอาทินา นเยน เทนฺเต.
๖๖๖. ขีรํ ¶ ทธิ ตกฺกํ สปฺปิ นวนีตนฺติ ปฺจโครสา.
๖๖๗. อชิกาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน มหิสํ สงฺคณฺหาติ.
๖๖๙. ปฏิสิทฺเธปีติ ปฏิกฺขิตฺเตปิ. มูลํ ทตฺวาติ กปฺปิยภณฺฑมูลํ ทตฺวา. กุกฺกุฏาทโย ปน ‘‘สุเขน วสนฺตู’’ติ อรฺเเยว วิสฺสชฺเชตพฺพํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘กุกฺกุฏสูกเร ¶ ‘สุขํ ชีวนฺตู’ติ อรฺเ วิสฺสชฺเชตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๓๘-๕๓๙). สูกรมยูราทีสุปิ ลทฺเธสุ เตสํ อนุรูเปเยว วิสเย วิสฺสชฺเชตพฺพา.
๖๗๑. ‘‘ติกฺขตฺตุ’’นฺติอาทิคาถาย โก สมฺพนฺโธ? ‘‘รฺา วา ราชโภคฺเคนา’’ติอาทิคาถาย สงฺคหิตนเยน ราชราชามจฺจพฺราหฺมณคหปตาทีสุ เยน เกนจิ อตฺตนา วา จีวรเจตาปนฺเนน จีวรํ เจตาเปตฺวา ‘‘อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ จีวเรน อจฺฉาเทหี’’ติ วตฺวา ตํ จีวรเจตาปนฺนสงฺขาตํ จีวรมูลํ ทตฺวา ปหิตทูเตน วา ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อิทํ โข ภนฺเต อายสฺมนฺตํ อุทฺทิสฺส จีวรเจตาปนฺนํ อาภตํ, ปฏิคฺคณฺหาตุ อายสฺมา จีวรเจตาปนฺน’’นฺติ ยทิ วุจฺเจยฺย, ภิกฺขุนา ‘‘น โข มยํ อาวุโส จีวรเจตาปนฺนํ ปฏิคฺคณฺหาม, จีวรฺจ โข มยํ ปฏิคฺคณฺหาม กาเลน กปฺปิย’’นฺติ วุตฺเต สเจ เตน ‘‘อตฺถิ ปนายสฺมโต โกจิ เวยฺยาวจฺจกโร’’ติ วุตฺเต จีวรตฺถิเกน ภิกฺขุนา ‘‘เอโส โข อาวุโส ภิกฺขูนํ เวยฺยาวจฺจกโร’’ติ อารามิเก วา อุปาสเก วา ทสฺสิเต ยทิ โส ตสฺส อตฺตนา อาหริตฺวา ‘‘อิมสฺส ภิกฺขุโน จีวเรน อตฺเถ สติ อิมินา จีวรํ เจตาเปตฺวา อจฺฉาเทหี’’ติ วตฺวา ตํ ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ยํ โข ภนฺเต อายสฺมา เวยฺยาวจฺจกรํ นิทฺทิสิ, สฺตฺโต โส มยา, อุปสงฺกมตุ อายสฺมา กาเลน, จีวเรน ¶ ตํ อจฺฉาเทสฺสตี’’ติ ยทิ วเทยฺย, เตน จีวรตฺถิเกน ภิกฺขุนา กึ กาตพฺพนฺติ ภควตา วุตฺตนฺติ อาหาติ อยมิมิสฺสา คาถาย สมฺพนฺโธ.
ติกฺขตฺตุํ โจทนา วุตฺตาติ ‘‘จีวรตฺถิเกน ภิกฺขเว ภิกฺขุนา เวยฺยาวจฺจกโร อุปสงฺกมิตฺวา ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ โจเทตพฺโพ สาเรตพฺโพ ‘อตฺโถ เม อาวุโส จีวเรนา’’ติ ติกฺขตฺตุํ โจทนา กาตพฺพาติ วุตฺตา.
ฉกฺขตฺตุํ านมพฺรวีติ ‘‘ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ โจทยมาโน สารยมาโน ตํ จีวรํ อภินิปฺผาเทยฺย, อิจฺเจตํ กุสลํ, โน เจ อภินิปฺผาเทยฺย, จตุกฺขตฺตุํ ปฺจกฺขตฺตุํ ฉกฺขตฺตุปรมํ ตุณฺหีภูเตน อุทฺทิสฺส าตพฺพ’’นฺติ (ปารา. ๕๓๘) วุตฺตตฺตา ติกฺขตฺตุํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อตฺโถ เม อาวุโส จีวเรนา’’ติ กตาย โจทนาย น นิปฺปชฺเชยฺย, เตน ปุน คนฺตฺวา ยํ กิฺจิ อวตฺวา ‘‘น อาสเน นิสีทิตพฺพํ, น อามิสํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ, น ธมฺโม ภาสิตพฺโพ’’ติ (ปารา. ๕๓๙) วจนโต านภฺชนกํ นิสชฺชาทึ กิฺจิ อกตฺวา ‘‘กึ การณํ อาคโตสี’’ติ ปุจฺฉิเต ‘‘ชานาหิ ¶ , อาวุโส’’ติ เอตฺตกมตฺตํ วตฺวา อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน ฉกฺขตฺตุํ านํ สทฺธมฺมวรจกฺกวตฺตินา ภควตา เทสิตนฺติ วุตฺตํ โหติ.
ยทิ โจเทติเยวาติ สเจ านํ อกตฺวา โจทนามตฺตํ กโรติ, ฉ อพฺรวีติ โยชนา, ‘‘โจทนา’’ติ สามตฺถิยโต ลพฺภติ, ฉกฺขตฺตุํ โจเทตฺวา สกิมฺปิ น าตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ.
ฉโจทนํ อกตฺวา โย านเมว กโรติ, เตน กติ านานิ กาตพฺพานีติ อาห ‘‘โจทนาทิคุณา ิตี’’ติ, ‘‘กาตพฺพา’’ติ เสโส, ‘‘อพฺรวี’’ติ อิมินา โยเชตพฺพํ, ‘‘จตุกฺขตฺตุํ โจเทตฺวา จตุกฺขตฺตุํ าตพฺพํ, ปฺจกฺขตฺตุํ โจเทตฺวา ทฺวิกฺขตฺตุํ าตพฺพํ, ฉกฺขตฺตุํ โจเทตฺวา น ¶ าตพฺพ’’นฺติ (ปารา. ๕๓๙) วจนโต, ‘‘ฉกฺขตฺตุปรม’’นฺติ (ปารา. ๕๓๙) วจนโต จ ฉกฺขตฺตุํ โจทนาย ทิคุณา ทฺวาทสกฺขตฺตุกา ิติ โหตีติ สิทฺธตฺตา โจทนเมว อกตฺวา านมตฺตเมว กโรนฺตสฺส ทฺวาทสกฺขตฺตุํ วุตฺตนเยน าตพฺพเมวาติ วุตฺตํ โหติ. ตโต ปรํ กาตพฺพํ อทสฺเสตฺวา เอตฺตเกเนว นิวตฺเตตพฺพนฺติ าเปนฺโต ‘‘ตโต เจ อุตฺตริ วายมมาโน ตํ จีวรํ อภินิปฺผาเทติ, ปโยเค ทุกฺกฏํ, ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิย’’นฺติ (ปารา. ๕๓๙) วุตฺตนยา อาปตฺติ โหตีติ ทสฺเสติ.
๖๗๒. ‘‘อโจเทตฺวา ลทฺเธ’’ติ อิทํ อุปลกฺขณํ ‘‘อฏฺตฺวา ลทฺเธ’’ติ จ คยฺหมานตฺตา.
ราชสิกฺขาปทกถาวณฺณนา.
จีวรวคฺโค ปโม.
๖๗๓. ‘‘เอเกนาปี’’ติ อิมินา กึ ปน ทฺวีหิ, พหูหิ วาติ วุตฺตํ โหติ. มิสฺเสตฺวาติ อนฺตมโส วาเตน อาหเฏนาปิ โกสิยํสุนา มิสฺเสตฺวา. สนฺถตนฺติ ‘‘สนฺถตํ นาม สนฺถริตฺวา กตํ โหติ อวายิม’’นฺติ (ปารา. ๕๔๔) ปทภาชเน จ ‘‘สเม ภูมิภาเค โกสิยํสูนิ อุปรูปริ สนฺถริตฺวา กฺชิกาทีหิ สิฺจิตฺวา กตํ โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๔๒) อฏฺกถาย จ วุตฺตสรูปํ กฺชิกํ สิฺจิตฺวา โกสิยํสูนิ อตฺถริตฺวา ยาว พหลมิจฺฉติ, ตาว วฑฺเฒตฺวา นิสีทนนิปชฺชนาทิอตฺถํ กาตพฺพํ สนฺถตนฺติ อตฺโถ. โกสิยํสุนาติ โกสิยกิมิโกสิยสฺส อิทนฺติ โกสิยํ, สุตฺตํ, ตสฺส สุตฺตสฺส อํสุ, เตน โกสิยํสุนาติ อตฺโถ ¶ . การาเปนฺตสฺสาติ อุปลกฺขณตฺตา ¶ ‘‘กโรนฺตสฺสา’’ติปิ คเหตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘การาเปยฺยาติ เอเกนาปิ โกสิยํสุนา มิสฺเสตฺวา กโรติ วา การาเปติ วา’’ติ (ปารา. ๕๔๔). เตเนวาห ‘‘ปรตฺถาย กโรนฺตสฺส การาเปนฺตสฺสา’’ติ.
๖๗๕. ภูมตฺถรณนฺติ ปริกมฺมกตาย ภูมิยา ฉวิรกฺขนตฺถาย อตฺถริตพฺพํ อตฺถรณํ. ภิสิ นาม มฺจภิสิ, ปีภิสีติ ทฺวยํ. พิพฺโพหนํ อุปธานํ.
โกสิยกถาวณฺณนา.
๖๗๖. กาฬเกฬกโลมานนฺติ ‘‘กาฬกํ นาม ทฺเว กาฬกานิ ชาติยา กาฬกํ วา รชนกาฬกํ วา’’ติ (ปารา. ๕๔๙) วจนโต เอวํ กาฬกานํ เอฬกโลมานํ. สุทฺธานนฺติ อิตรวณฺเณหิ เอฬกโลเมหิ อมิสฺสานํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สุทฺธกาฬกานนฺติ สุทฺธานํ กาฬกานํ, อฺเหิ อมิสฺสิตกาฬกานนฺติ อตฺโถ’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๔๗). กเรยฺยาติ กโรนฺตสฺส จ การาเปนฺตสฺส จาติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘การาเปยฺยาติ กโรติ วา การาเปติ วา’’ติ. อาปตฺติ โหตีติ ‘‘ปโยเค ทุกฺกฏํ, ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิย’’นฺติ ปาฬิยํ วุตฺตํ ปุพฺพปโยคทุกฺกฏฺจ นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยฺจ อาห.
สุทฺธกาฬกกถาวณฺณนา.
๖๗๗. โอทาตํ ตุลํ วา พหุํ วา สพฺพเมว วา คเหตฺวานาติ โยชนา. กปิลมฺปิ วาติ เอตฺถาปิ เอวเมว โยเชตพฺพํ. เอตฺถ สพฺพเมว วาติ สนฺถตสฺส คเหตพฺพํ สพฺพเมว วา โลมํ. กโรนฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘สนฺถต’’นฺติ อธิการโต ¶ ลพฺภติ. ‘‘นว’’นฺติ อิทํ ‘‘กโรนฺตสฺสา’’ติ ปทสามตฺถิเยน ลพฺภติ, นวํ สนฺถตํ กโรนฺตสฺสาติ อตฺโถ, ‘‘อนาปตฺตี’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. กปิลมฺปิ วาติ วากาเรน ปการนฺตเรนาปิ กโรนฺตสฺส อนาปตฺตึ สงฺคณฺหาติ. เสยฺยถิทํ? ‘‘นวํ ปน ภิกฺขุนา สนฺถตํ การยมาเนน ทฺเว ภาคา สุทฺธกาฬกานํ เอฬกโลมานํ อาทาตพฺพา ตติยํ โอทาตานํ จตุตฺถํ โคจริยาน’’นฺติ (ปารา. ๕๕๓) มาติกาย อนฺุาตปฺปกาโร เวทิตพฺโพ.
เอตฺถ ¶ ‘‘โอทาตํ กปิลมฺปิ วา’’ติ เอตสฺส ‘‘พหุํ วา’’ติ วิเสสเนน กาฬกานํ เอฬกโลมานํ ยถาวุตฺตภาคทฺวยโต อธิกํ เอฬกโลมมฺปิ น คเหตพฺพนฺติ ทีเปติ เกวลานํ กาฬกานํ เอฬกโลมานํ อคฺคเหตพฺพตาย ปมสิกฺขาปเทเนว วุตฺตตฺตา. ‘‘สพฺพเมว วา’’ติ อิมินาปิ ปุริมสิกฺขาปเท วิย อิเม โอทาตาทโย สพฺเพ เกวลา น คเหตพฺพา น โหนฺตีติ ทสฺสิตํ โหติ. ‘‘อนาปตฺตี’’ติ อิมินา เอวํ อกตฺวา อฺเน ปกาเรน กโรนฺตสฺส อาปตฺติ โหตีติ พฺยติเรกโต ทีปิตํ โหติ.
เสยฺยถิทํ? วุตฺตฺเหตํ ภควตา ‘‘อนาทา เจ ภิกฺขุ ทฺเว ภาเค สุทฺธกาฬกานํ เอฬกโลมานํ ตติยํ โอทาตานํ จตุตฺถํ โคจริยานํ นวํ สนฺถตํ การาเปยฺย, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ. ยตฺตกปฺปมาเณหิ เอฬกโลเมหิ นวํ สนฺถตํ กาตุกาโม โหติ, เต โลเม จตุภาคํ ตุลยิตฺวา ทฺเว ตุเล วา อูเน วา กาฬกโลเม คเหตฺวา เอกํ ตุลํ โอทาเตหิ วา เอกํ ตุลํ โคจริเยหิ วา กาฬเกหิ วา อูเน กตฺวา ทฺวีหิปิ อธิเก วา กตฺวา กาฬกโลเม วชฺเชตฺวา ทฺวีสุ เอกํ วา ทฺเว เอว วา คเหตฺวา กาตฺุจ การาเปตฺุจ วฏฺฏตีติ วุตฺตํ โหติ ¶ . เอวํ อนาปตฺติทสฺสเนน สพฺโพปิ สิกฺขาปทตฺโถ สงฺคหิโตติ ทฏฺพฺโพ.
๖๗๘. ‘‘อนุกฺกเมนา’’ติ อิมินา อิมเมว อคฺคเหตฺวา ปุริมานนฺตรํ วุตฺตสิกฺขาปททฺวยฺจ คเหตพฺพนฺติ ทีเปติ. นิสฺสชฺชิตฺวา ลทฺธานิปีติ โยชนา. ‘‘อปี’’ติ อิมินา ‘‘อฺเน กตํ ปฏิลภิตฺวา ปริภฺุชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๕๕๕) วุตฺตทุกฺกฏฺจ ‘‘นิสฺสคฺคิยํ จีวรํ อนิสฺสชฺชิตฺวา ปริภฺุชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๔๖๘) ปมนิสฺสคฺคิยสิกฺขาปเท วุตฺตนเยน อิหาปิ ‘‘นิสฺสคฺคิยํ สนฺถตํ อนิสฺสชฺชิตฺวา ปริภฺุชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตมฺปิ ธมฺมสงฺคหการเกหิ เปยฺยาลวเสน สํขิตฺตํ ตํ ทุกฺกฏฺจาติ อิทํ ทฺวยํ สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
๖๗๙. ตติยํ ตุ กฺริยากฺริยนฺติ อิทํ ตติยสิกฺขาปทํ ปน ‘‘ทฺเว ภาคา สุทฺธกาฬกาน’’นฺติอาทินา (ปารา. ๕๕๔) วุตฺตนเยน อคฺคเหตฺวา กาฬกานํ อติเรกคฺคหณวเสน อนนฺุาตปฺปกาเรน กรณโต กิริยากิริยํ นาม. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อาทาย จ อนาทาย จ กรณโต กิริยากิริย’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๕๒).
ทฺเวภาคกถาวณฺณนา.
๖๘๐. ฉนฺนํ ¶ วสฺสานํ โอเรนาติ ปุพฺเพ สนฺถตสฺส กตทิวสโต ปฏฺาย อุปริ ฉนฺนํ วสฺสานํ อพฺภนฺตเรติ อตฺโถ. โหติ นิสฺสคฺคิยาปตฺตีติ ฉพฺพสฺสนฺตเร กตสนฺถตํ นิสฺสคฺคิยํ โหติ, การกสฺส จ ปาจิตฺติยํ โหตีติ อตฺโถ. ภิกฺขุสมฺมุตึ เปตฺวาติ สนฺถตํ คเหตฺวา อทฺธานมคฺคํ ปฏิปชฺชิตุํ อสมตฺถสฺส คิลานสฺส ‘‘อหํ ภนฺเต คิลาโน ¶ น สกฺโกมิ สนฺถตํ อาทาย ปกฺกมิตุํ, โสหํ ภนฺเต สงฺฆํ สนฺถตสมฺมุตึ ยาจามี’’ติ (ปารา. ๕๕๙) สงฺฆมชฺเฌ นิสชฺช อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ติกฺขตฺตุํ ยาจิเต ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย คตฏฺาเน ฉพฺพสฺสานํ อนฺโตปิ สนฺถตํ กาตุํ สงฺเฆน ทินฺนสมฺมุตึ วินาติ อตฺโถ.
๖๘๒. ฉพฺพสฺสานิ กโรนฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘ยทา ปริปุณฺณานิ, ตทา’’ติ เสโส, ฉพฺพสฺเสสุ ปริปุณฺเณสุ สนฺถตํ กโรนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ยทา ฉพฺพสฺสานิ ปริปุณฺณานิ โหนฺติ, ตทา สนฺถตํ กโรตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๕๗). ตทุทฺธมฺปีติ ฉพฺพสฺสโต อุปริปิ. วิตาเนติ วิตานนิมิตฺตํ กโรนฺตสฺส. สาณิปากาเรติ ปาการสทิสติโรกรณียนิมิตฺตํ กโรนฺตสฺส. นิสฺสชฺชิตฺวา กเตปิ จาติ ปุราณสนฺถเต อฺสฺส ทตฺวา อฺสฺมึ สนฺถเต โอรโต ฉนฺนํ วสฺสานํ กเตปิ จ อนาปตฺตีติ โยชนา. อยมนาปตฺติวาโร เนว ปาฬิยํ, น อฏฺกถาสุ ทิสฺสติ, ตสฺมา โส อาจริยปรมฺปราภโต อาจริเยน ทสฺสิโตติ วิฺายติ. สาธารณวินิจฺฉยํ ปน ‘‘อนนฺตรสฺสิมสฺสาปิ, วิเสโส นุปลพฺภตี’’ติ วกฺขติ.
ฉพฺพสฺสกถาวณฺณนา.
๖๘๓. อนาทายาติ นวํ นิสีทนสนฺถตํ กโรนฺเตน ภิกฺขุนา ตสฺส วิวณฺณกรณตฺถาย ปาฬิยํ ‘‘ปุราณสนฺถตสฺส สามนฺตา สุคตวิทตฺถิ อาทาตพฺพา ทุพฺพณฺณกรณายา’’ติ (ปารา. ๕๖๗) ยา อาทาตุํ วุตฺตา, ตํ ปุราณสนฺถตสฺส ฉินฺนมุขาวตฺตโต สุคตวิทตฺถึ อทตฺวา. เอวเมตํ วุตฺตนฺติ กถํ วิฺายตีติ? ‘‘อนาทานวเสนสฺส, สุคตสฺส วิทตฺถิยา’’ติ วกฺขมาเนน วิฺายติ. สนฺถเตติ เอตฺถ ‘‘ปุราเณ’’อิติ จ กาเรตุํ กตฺจาติ เอตฺถ ‘‘นวํ นิสีทนํ สนฺถต’’นฺติ จ เสโส ¶ , ปุราเณ สนฺถเต อสนฺเต สามนฺตา สุคตวิทตฺถึ อนาทาย นวํ นิสีทนสนฺถตํ กโรนฺตสฺส อนาปตฺติ. อฺสฺสตฺถาย นวํ นิสีทนสนฺถตํ กาเรตุํ, นวํ นิสีทนสนฺถตํ อฺเน กตํ ปฏิลภิตฺวา ปริภฺุชิตฺุจ อนาปตฺตีติ โยชนา.
‘‘อฺสฺสตฺถาย ¶ กาเรตุ’’นฺติ อิทเมตฺถ ปาจิตฺติเยเนว อนาปตฺติทสฺสนนฺติ คเหตพฺพํ. ตสฺมา ‘‘อฺสฺสตฺถาย กโรติ วา การาเปติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๕๖๙) วุตฺตตฺตา จ อฏฺกถาย, ตพฺพณฺณนาสุ จ อทิสฺสมานตฺตา วา ตํ น วตฺตพฺพํ. ‘‘อนาปตฺติ ฉพฺพสฺสานิ กโรติ…เป… อฺสฺสตฺถาย กโรติ วา การาเปติ วา’’ติ (ปารา. ๕๖๔) อนนฺตรสิกฺขาปเท วุตฺตโมโลเกตฺวา วา ทุกฺกฏสฺส จ วิหิตตฺตา ปาจิตฺติเยน อนาปตฺติภาวํ สนฺธาย ลิขิตนฺติ วิฺายติ. กตฺจ ปริภฺุชิตุนฺติ เอตฺถ ‘‘อฺเนา’’ติ วตฺตพฺพํ, อิมินา ‘‘อฺเน กตํ ปฏิลภิตฺวา ปริภฺุชติ, อนาปตฺตี’’ติ ปาโว ทสฺสิโต.
๖๘๔. สุคตสฺส วิทตฺถิยา อนาทานวเสน จ อสฺส สนฺถตสฺส กรเณน จ สตฺถารา เอตํ สิกฺขาปทํ กิริยากิริยํ วุตฺตนฺติ โยชนา.
๖๘๕. นนุ จ อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส อฏฺกถาย ‘‘สมุฏฺานาทีนิ กิริยากิริยตฺตา อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส ทฺเวภาคสิกฺขาปทสทิสานี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๖๗) วุตฺตานิ, อิห ‘‘สฺจริตฺตสมา’’ติ กสฺมา วุตฺตานีติ? วุจฺจเต – ทฺเวภาคสิกฺขาปเท ‘‘สมุฏฺานาทีนิปิ โกสิยสิกฺขาปทสทิสาเนวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๕๒) อฏฺกถาย วุตฺตานิ, โกสิยสิกฺขาปเท สมุฏฺานาทีนํ สฺจริตฺเตน สมภาวสฺส วุตฺตตฺตา, มูลเมว สริตฺวา กิริยากิริยสงฺขาตวิเสสสฺส ¶ วิสุํ ทสฺสิตตฺตา อวสิฏฺวินิจฺฉยมตฺตํ สนฺธาย เอวํ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. อิมํ วิเสสํ มฺุจิตฺวา อวสิฏฺวินิจฺฉเยน ทฺวีสุ สิกฺขาปเทสุ สาธารณวินิจฺฉยสฺส อวิเสสตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อนนฺตรสฺสา’’ติอาทิ.
นิสีทนสนฺถตกถาวณฺณนา.
๖๘๖-๗. คจฺฉนฺเตติ ติโยชนปูรณฏฺานํ อติกฺกมฺม คจฺฉนฺเต. ยาเนติ สกฏาทิเก. โลมานีติ เอฬกโลมานิ. สามิกสฺสาติ ยานาทิสามิโน. อชานโตติ อนาทเร สามิวจนํ. อทฺธานมคฺคปฏิปนฺโน โย ปน ภิกฺขุ เอฬกโลมํ ลภิตฺวา ‘‘ติโยชนปรมํ สหตฺถา หาเรตพฺพานี’’ติ (ปารา. ๕๗๓) อนฺุาตตฺตา ติโยชนพฺภนฺตเร สหตฺเถนาปิ หริตฺวา ติโยชนาติกฺกเม ปเรสํ ยานาทีสุ สามิเกสุ อชานนฺเตสุ ‘‘เอเต หริสฺสนฺตี’’ติ จินฺเตตฺวา ยทิ เปยฺยาติ อตฺโถ. เตสูติ เยสุ เอฬกโลมานิ ปิตานิ, เตสุ ยานาทีสุ ติโยชนมตีเตสุ ¶ ภิกฺขุสฺส ปโยคํ วินาปิ ติโยชนํ อติกฺกนฺเตสุ ตสฺส ภิกฺขุโน อาปตฺติ โหตีติ โยชนา, ตสฺส ภิกฺขุโน ‘‘ปมํ ปาทํ ติโยชนํ อติกฺกาเมติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ทุติยํ ปาทํ อติกฺกาเมติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปารา. ๕๗๓) วุตฺตตฺตา ทุกฺกฏปาจิตฺติยา โหนฺตีติ อตฺโถ.
อยํ นโยติ ภิกฺขุโน ปโยคํ วินา ยตฺถ เอฬกโลมานิ ปิตานิ, เตสุ ยานาทีสุ ติโยชนํ อติกฺกมนฺเตสุ อาปตฺติ โหตีติ อยมตฺโถ ทฏฺพฺโพติ อตฺโถ.
๖๘๘. อคจฺฉนฺเตติ ติโยชนพฺภนฺตเร ิเต. ‘‘อภิรูหิตฺวา’’ติ อิทํ อนาปตฺติการเณสุ เอกํ ทสฺเสตุมาห. ‘‘ภูมิยฺหิ ¶ ตฺวา เทนฺโต, อวฺหายนฺโต วา ปุรโต คจฺฉติ, เอเสวนโย’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ. อนาปตฺติวาเร ‘‘อฺํ หราเปตี’’ติ วจนโต อตฺตนา เปสิเต อฺสฺมึ หรนฺเต วฏฺฏตีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘สเจ สาเรติ วฏฺฏตี’’ติ. เตเนวาห ‘‘ตํ ปนฺํ หราเปติ, วจเนน วิรุชฺฌตี’’ติ.
๖๙๐. กณฺณจฺฉิทฺเทสูติ อตฺตโน กณฺณพิเลสุ.
๖๙๑. อนาปตฺติวาเร ‘‘กตภณฺฑ’’นฺติ วุตฺตตฺตา ตตฺถ อนฺตมโส สุตฺตเกน พทฺธมตฺตมฺปิ กตภณฺฑเมวาติ อาห ‘‘สุตฺตเกน จ พนฺธิตฺวา’’ติ. เวณึ กตฺวาติ กุทฺรูสสีสปลาลเวณิสทิสํ เวณึ กตฺวา. อาปตฺติ ปริทีปิตาติ ‘‘เวณึ กตฺวา หรติ, อิทํ นิธานมุขํ นาม, อาปตฺติเยวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๗๕) อฏฺกถายํ วุตฺตํ.
๖๙๒. สุงฺกฆาตนฺติ เอตฺถ ‘‘ตํ าน’’นฺติ เสโส, ยทิ ตํ านํ สุงฺกฆาตนฺติ โยชนา, ติโยชโนสานฏฺานํ ยทิ สุงฺกฆาตฏฺานํ ภเวยฺยาติ อตฺโถ. อนุปฺปตฺวาติ ตํ านํ ปตฺวา. โจราทีหิ อุปทฺทุโต วา คจฺฉติ, โย อฺวิหิโต วา คจฺฉตีติ โยชนา. อาปตฺตีติ เอตฺถ อาปตฺติ ตสฺส คจฺฉโตติ ลพฺภติ. เอตฺถ ‘‘อาปตฺตี’’ติ อิมินา สิกฺขาปเทน อาปตฺติมาห. อิมิสฺสา อจิตฺตกตาย เตสํ ทฺวินฺนมฺปิ โหติ. อทินฺนาทานปาราชิกํ ปน สจิตฺตกตาย เอเตสํ น โหติ. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘ยา หิ ตตฺถ อาปตฺติ, สา อิธ อนาปตฺติ. ยา อิธ อาปตฺติ, สา ตตฺถ อนาปตฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๗๒). เถยฺยจิตฺเตน หรโต ภณฺฑคฺฆวเสน ปาราชิกถุลฺลจฺจยทุกฺกเฏสุ ¶ เอกํ โหติ. เตนาห อฏฺกถายํ ¶ ‘‘อทินฺนาทาเน ปน สุงฺกฆาเต อาปตฺติ โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๗๒).
๖๙๓. ติโยชนนฺติ เอตฺถ หรณกิริยาย อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. ‘‘หรนฺตสฺสา’’ติ อิมสฺส กมฺมทีปกํ ‘‘โลมานี’’ติ อิทํ ปกรณโต ลพฺภติ. ‘‘อนาปตฺติ ปกาสิตา’’ติ อิทํ สพฺพตฺถ วกฺขมาเนน สมฺพนฺธนียํ. ตานิเยว ปจฺจาหรนฺตสฺสาติ โยชนา. ติโยชนนฺติ เอตฺถ ตํเยว ติโยชนนฺติ ลพฺภติ. อตฺตนา คตํ ติโยชนํ ปุน ตาเนว โลมานิ คเหตฺวา ปจฺจาคจฺฉนฺตสฺสาติ อตฺโถ.
๖๙๔. นิวาสตฺถาย วา คนฺตฺวาติ ติโยชนพฺภนฺตเร วา สีมาย วา อาวาเส วสิตุกามตาย คนฺตฺวา. ตโต ปรํ หรนฺตสฺสาติ ตสฺมึ อาวาเส อุทฺเทสาทึ อลภิตฺวา ตโต ปรํ อฺสฺมึ อาวาเส วสิตุกามตาย ปุนปิ ติโยชนํ หรนฺตสฺสาติ อตฺโถ. อิมินาว นเยน ตโตปิ อฺํ านํ, ตโตปิ อฺนฺติ สุทฺธจิตฺเตน คตคตฏฺานโต ปุนปิ ปรมฺปรํ านํ คมนวเสน โยชนสตมฺปิ หรโต โทโส นตฺถีติ อิทมฺปิ วุตฺตํ โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เอวํ โยชนสตมฺปิ หรนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๗๕). อจฺฉินฺนํ วาปิ ลภิตฺวา หรโตปีติ ‘‘โจราวหฏปริจฺจตฺตํ ลภิตฺวา หรนฺตสฺส. อิธ สพฺพตฺเถว ‘‘นิวาสตฺถาย วา คนฺตฺวา’’ติอาทิเก อนาปตฺติวาเร ปมลทฺธฏฺานโต ปภุติ อติเรกติโยชนมฺปิ หรนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ วิฺายติ. นิสฺสฏฺํ ลภิตฺวาติ นิสฺสชฺชิตฺวา วินยกมฺมํ กตฺวา ทินฺนํ ลภิตฺวา.
๖๙๕. อฺเนาติ ตานิ หารินา อฺเน. กตภณฺฑกนฺติ ‘‘กมฺพลโกชวสนฺถตาทึ ยํ กิฺจิ อนฺตมโส สุตฺตเกน ¶ พทฺธมตฺตมฺปี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๗๕) อฏฺกถายํ วุตฺตเอฬกโลเมหิ กตภณฺฑกํ.
๖๙๖. อิทํ สมุฏฺานนฺติ อิทํ เอฬกโลมสมุฏฺานํ. ปณฺณตฺตึ อชานนตาย วา ตฺวาปิ จีวราทิปริกฺขาเรสุ โลมสฺส อลฺลินภาวํ อชานิตฺวาปิ วา ติโยชนํ อติกฺกาเมนฺตสฺส อรหโตปิ อิมาย อาปตฺติยา สมฺภวโต ‘‘อจิตฺต’’นฺติ อาห.
เอฬกโลมกถาวณฺณนา.
๖๙๗. เอฬกโลมโธวาปนกถา ¶ อุตฺตานาเยว.
เอฬกโลมโธวาปนกถาวณฺณนา.
๖๙๘. คณฺเหยฺย วาติ เอตฺถ ‘‘โย’’ติ เสโส. ‘‘คณฺเหยฺย วา คณฺหาเปยฺย วา’’ติ อิมินา ‘‘ตตฺถตฺตโน ปนตฺถายา’’ติ วกฺขมานตฺตา จ ‘‘นิสฺสชฺชิตฺวา’’ติอาทิวจนโต จ อตฺตโน อตฺถาย อุคฺคณฺเหยฺย วา อุคฺคณฺหาเปยฺย วาติ วุตฺตํ โหติ. วากาเรน ‘‘อุปนิกฺขิตฺตํ วา สาทิเยยฺยา’’ติ อิทํ สงฺคณฺหาติ, ‘‘อิทํ อยฺยสฺส โหตู’’ติ อุปนิกฺขิตฺตํ เจ สาทิยตีติ อตฺโถ.
รชตนฺติ อฺตฺถ สชฺฌุ วุจฺจติ, อิธ ปน โวหารูปคกหาปณาทิ วุจฺจติ. วุตฺตฺเหตํ ปาฬิยํ ‘‘รชตํ นาม กหาปโณ โลหมาสโก ทารุมาสโก ชตุมาสโก, เย โวหารํ คจฺฉนฺตี’’ติ (ปารา. ๕๘๔). อิธ กหาปณาทีนํ สรูปํ อฏฺกถายํ –
‘‘ตตฺถ กหาปโณติ โสวณฺณมโย วา รูปิยมโย วา ปากติโก วา. โลหมาสโกติ ตมฺพโลหาทีหิ กตมาสโก. ทารุมาสโกติ ¶ สารทารุนา วา เวฬุเปสิกาย วา อนฺตมโส ตาลปณฺเณปิ รูปํ ฉินฺทิตฺวา กตมาสโก. ชตุมาสโกติ ลาขาย วา นิยฺยาเสน วา รูปํ สมุฏฺาเปตฺวา กตมาสโก. ‘เย โวหารํ คจฺฉนฺตี’ติ อิมินา ปน ปเทน โย โย ยตฺถ ยตฺถ ชนปเท ยทา ยทา โวหารํ คจฺฉติ, อนฺตมโส อฏฺิมโยปิ จมฺมมโยปิ รุกฺขผลพีชมโยปิ สมุฏฺาปิตรูโปปิ อสมุฏฺาปิตรูโปปิ สพฺโพ สงฺคหิโต’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๓-๕๘๔) –
วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ.
เอตฺถ จ ปากติโก นาม เอตรหิ ปกติกหาปโณ. รุกฺขผลพีชมโยติ ตินฺติณิกาทิรุกฺขานํ ผลพีเชน กโต.
ชาตรูปกํ สุวณฺณํ. ยถาห ปาฬิยํ ‘‘ชาตรูปํ นาม สตฺถุวณฺโณ วุจฺจตี’’ติ (ปารา. ๕๘๔). นิสฺสชฺชิตฺวาติ ¶ เอตฺถ ‘‘เตนา’’ติ ลพฺภติ, ‘‘ภิกฺขุนา’’ติ อิมินา ยุชฺชติ, เอวํ สาทิตภิกฺขุนาติ อตฺโถ. นิสฺสชฺชิตฺวาติ อตฺตนา อุคฺคหิตํ วา ปเรน อุคฺคหาปิตํ วา อุปนิกฺขิปิตสฺส สาทิยนวเสน สาทิตํ วา รชตํ วา ชาตรูปํ วา ‘‘เตน ภิกฺขุนา สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา วุฑฺฒานํ ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา’’ติ (ปารา. ๕๘๔) วจนโต สงฺฆมชฺเฌ อุปสงฺกมิตฺวา วุฑฺฒานํ ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห ‘‘อหํ ภนฺเต รูปิยํ ปฏิคฺคเหสึ, อิทํ เม นิสฺสคฺคิยํ, อิมาหํ นิสฺสชฺชามี’’ติ นิสฺสชฺชิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.
อาปตฺติ ¶ เทเสตพฺพาวาติ อตฺตนา เอว อาปนฺนํ นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ ตสฺมึ สงฺฆมชฺเฌ เอวเมว นิสีทิตฺวา เทเสตพฺพา. เอวํ เทสิตา อาปตฺติ สงฺฆานุมเตน พฺยตฺเตน ปฏิพเลน ภิกฺขุนา ปฏิคฺคเหตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ ‘‘พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน อาปตฺติ ปฏิคฺคเหตพฺพา’’ติ (ปารา. ๕๘๔).
๖๙๙. รชตนฺติ รูปิยํ. ชาตรูปนฺติ สุวณฺณํ. อิมินา ปททฺวเยน กตากตํ สพฺพํ สงฺคณฺหาติ. อุภินฺนํ มาสโกติ ชาตรูปมาสโก, รชตมาสโกปิ จาติ วุตฺตํ โหติ. อิธ รชตมาสโกติ ‘‘รชต’’นฺติ ปทภาชเน (ปารา. ๕๘๔) วุตฺตกหาปณาทิ ปฺจปฺปกาโร มาสโก คหิโต. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘วุตฺตปฺปกาโร สพฺโพปิ รชตมาสโก’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๓-๕๘๔). อิธ ‘‘ชาตรูปมาสโก’’ติ วิสุํ คหิตตฺตา กหาปณปเทน สุวณฺณกหาปณํ วชฺเชตฺวา อิตรทฺวยเมว วตฺตพฺพํ. ‘‘นิสฺสคฺคิยาวห’’นฺติ อิทํ อตฺตโน อตฺถาย อุคฺคณฺหนอุคฺคณฺหาปนสาทิยนานิ กโรนฺตํ สนฺธายาห. ‘‘ตตฺถา’’ติอาทินา วกฺขมานนเยน ทุกฺกฏาวหฺจ โหเตว.
๗๐๐-๑. มุตฺตาทีนํ อิมสฺมึ สิกฺขาปทวิภงฺเค อวุตฺตตฺเตปิ ปาจิตฺติยกณฺเฑ นวมวคฺเค ทุติยสฺส รตนสิกฺขาปทสฺส ปทภาชเน ‘‘รตนํ นาม มุตฺตา มณิ เวฬุริโย สงฺโข สิลา ปวาลํ รชตํ ชาตรูปํ โลหิตงฺโก มสารคลฺล’’นฺติ (ปาจิ. ๕๐๖) วุตฺตานํ ทสนฺนํ รตนานํ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท นิสฺสคฺคิยวตฺถุํ กตฺวา วุตฺตํ รชตํ, ชาตรูปฺจ วชฺเชตฺวา อวสิฏฺานํ อฏฺนฺนํ รตนานํ ทุกฺกฏวตฺถุภาโว อิมสฺส อฏฺกถายํ ววตฺถาปิโตติ ทสฺสนตฺถมาห ‘‘มุตฺตา…เป… มสารคลฺล’’นฺติ. เอตฺถ เวฬุริโย คาถาพนฺธวเสน น วุตฺโต ¶ , โส เอกโยคนิทฺทิฏฺานํ ¶ สตฺตนฺนํ รตนานํ คหเณเนว คยฺหติ. มุตฺตาทโย ยถาทสฺสิตสรูปาเยว. พฺรหฺมชาลาทิสุตฺตนฺตวเสนาปิ ‘‘อกปฺปิยา’’ติ สิทฺธานํ สตฺตธฺาทีนํ ปฏิคฺคหเณ อาปตฺตึ ทสฺเสตุมาห ‘‘ธฺานี’’ติอาทิ.
๗๐๒. รตนสิกฺขาปเทเยว ‘‘รตนสมฺมต’’นฺติ อาคตํ กปฺปิยวตฺถุํ ปฏิคฺคณฺหโต อนาปตฺติภาวํ ทสฺเสตุมาห ‘‘มุคฺคมาสาทิก’’นฺติอาทิ.
๗๐๓-๔. เอวํ ติปฺปกาเรน ิตํ วตฺถุํ คณฺหโต อธิปฺปายนานตฺเตน สมฺภวนฺตํ อาปตฺติปฺปเภทํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ. ตตฺถาติ เตสุ ตีสุ นิสฺสคฺคิยาทิวตฺถูสุ. สงฺฆาทีนนฺติ สงฺฆคณปุคฺคลเจติยาทีนํ. ตนฺติ นิสฺสคฺคิยวตฺถุํ. สพฺพตฺถายาติ สพฺเพสํ อตฺถายาติ วิคฺคโห. อตฺตโน อตฺถาย จ สงฺฆาทีนมตฺถาย จ ทุกฺกฏวตฺถุํ คณฺหนฺตสฺสาปิ ทุกฺกฏเมว โหตีติ อตฺโถ. อวุตฺตสมุจฺจเยเนตฺถ จ-สทฺเทน ‘‘สพฺพมฺปิ นิกฺขิปนตฺถาย ภณฺฑาคาริกสีเสน สมฺปฏิจฺฉโต อุปริ รตนสิกฺขาปเท อาคตวเสน ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๓-๕๘๔) อฏฺกถาย วุตฺตวินิจฺฉยวิเสสสฺส สงฺคโห กโต.
๗๐๕. กหาปณาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน สุวณฺณาทีนํ สงฺคโห. ‘‘สหสฺส’’นฺติ อิทํ อุปลกฺขณํ, สหสฺสมฺปีติ วุตฺตํ โหติ.
๗๐๖. ถวิกาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน สิถิลปูริตานิ ภาชนานิ คหิตานิ. ‘‘สิถิลพทฺเธสู’’ติ วิเสสเนน พฺยติเรกวเสน ‘‘ฆนพทฺเธ, ปน ฆนปูริเต วา เอกาว อาปตฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๓-๕๘๔) อฏฺกถาเสสํ ทีเปติ.
๗๐๗. อุปนิกฺขิตฺตสาทิยนกมฺมํ ¶ ทสฺเสตุมาห ‘‘อิท’’นฺติอาทิ. คณฺหิตุกาโมปีติ เอตฺถ ‘‘โหตู’’ติ เสโส. นิเสเธตพฺพเมวาติ กาเยน วา วาจาย วา ‘‘อิทํ น กปฺปตี’’ติ ปฏิกฺขิปิตพฺพเมว, เอวํ สติ อนาปตฺติเยวาติ อตฺโถ. อยมตฺโถ อฏฺกถายํ ‘‘กายวาจาหิ วา อปฺปฏิกฺขิปิตฺวาปิ สุทฺธจิตฺโต หุตฺวา ‘นยิทํ อมฺหากํ กปฺปตี’ติ น สาทิยติ, อนาปตฺติเยวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๓-๕๘๔) อาคโตเยว.
๗๐๘. ตํ ¶ วตฺถุนฺติ ตถา ปฏิกฺขิตฺตํ วตฺถุํ. เปตฺวา ยทิ คจฺฉตีติ ‘‘ตุมฺเห คณฺหถ วา, มา วา, ทินฺนํ ทินฺนเมวา’’ติ สเจ โส เปตฺวาว คจฺฉติ. ยถา ตํ น วินสฺสติ, ตถา ตํ โคปยิตพฺพนฺติ โยชนา. ‘‘อฺโ ตตฺถ อาคนฺตฺวา ปุจฺฉตี’’ติอาทินา อฏฺกถาย วุตฺตนเยน ตตฺถาคเตน กปฺปิยการเกน ‘‘กิมิท’’นฺติ ปุจฺฉิเต สรูปํ อาวิ กตฺวา ‘‘โคปยิสฺสามหํ ภนฺเต, คุตฺตฏฺานํ ทสฺเสถา’’ติ วุตฺเต ‘‘อิมํ คเหตฺวา เอหี’’ติ อวตฺวา สตฺตภูมิกมฺปิ ปาสาทํ อภิรุหิตฺวา ‘‘อิธ เปหี’’ติ อวตฺวา ‘‘อิทํ คุตฺตฏฺาน’’นฺติ สุรกฺขิตฏฺานํ ทสฺเสตฺวา ตตฺถ ปิเต อคฺคฬํ ทตฺวา รกฺขิตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๗๐๙. คุตฺตฏฺานํ คเหตฺวา คจฺฉนฺตสฺส กปฺปิยการกสฺส อวตฺตพฺพโวหารํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อาหเรทมิท’’นฺติอาทิ. อกปฺปิยนฺติ เอตฺถ ‘‘วจน’’นฺติ ลพฺภติ. เอวํ อกปฺปิยวจนํ อวตฺวา สุรกฺขิตฏฺาเน อาหริตฺวา ปิเต กึ กาตพฺพนฺติ? วิกฺกายิเก ปตฺตจีวราทิกปฺปิยภณฺเฑ อาหเฏ ‘‘อมฺหากํ อิมินา อตฺโถ, อิมสฺส เอวรูปํ มูลมฺปิ อตฺถิ, กปฺปิยการโก เอว นตฺถี’’ติ วตฺวา เตน ‘‘อหํ กปฺปิยการโก, มยฺหํ ทสฺเสถา’’ติ วุตฺเต สเจ รุจฺจติ, ทฺวารํ วิวริตฺวา ‘‘อิทํ คณฺหา’’ติ อวตฺวา ‘‘เอตฺถ ปิต’’นฺติ ทสฺเสตฺวา ตสฺมึ ตสฺส อคฺฆปฺปมาณํ ¶ คเหตฺวา เทนฺเต อธิวาเสตพฺพํ. อติเรกํ คณฺหนฺเต ‘‘มยํ ตุมฺหากํ ภณฺฑํ น คณฺหาม, คจฺฉถา’’ติ นีหริตฺวา อคฺคฬํ ทตฺวา กปฺปิยการเก ลทฺเธ ‘‘อมฺหากํ เอวรูเปน อตฺโถ, อิทํ นาม มูลํ อตฺถี’’ติ วตฺวา เตน กิณิตฺวา ทินฺเน อธิวาเสตพฺพนฺติ อฏฺกถายํ วุตฺตนเยน ปฏิปชฺชิตพฺพํ.
๗๑๐. เปตฺวา รูปิยคฺคาหนฺติ อนนฺตรสิกฺขาปเท วกฺขมานสรูปํ สุวณฺณาทิรูปิยํ ปฏิคฺคเหตฺวา นิสฺสชฺชิตฺวา เทสิตาปตฺติกํ ปุคฺคลํ เปตฺวา. นิสฺสฏฺปริวตฺติตนฺติ เอตฺถ นิสฺสชฺชิตฺวา อาปตฺติยา เทสิตาย ‘‘สเจ ตตฺถ อาคจฺฉติ อารามิโก วา อุปาสโก วา’’ติอาทินา (ปารา. ๕๘๔) ปทภาชเน วุตฺตนเยน ตตฺถาคตํ กปฺปิยการกํ ‘‘อาวุโส อิมํ ชานา’’ติ วตฺวา ‘‘อิมินา กึ อาหริยฺยตู’’ติ เตน วุตฺเต ‘‘อิมํ วา อิมํ วา อาหรา’’ติ อวตฺวา ‘‘กปฺปิยํ อาจิกฺขิตพฺพํ สปฺปิ วา เตลํ วา มธุ วา ผาณิตํ วา’’ติ (ปารา. ๕๘๔) วุตฺตตฺตา ภิกฺขูนํ กปฺปิยวตฺถุมตฺเต อาจิกฺขิเต เตน นิสฺสฏฺวตฺถุํ ปริวตฺเตตฺวา อาหฏํ กปฺปิยภณฺฑนฺติ อตฺโถ.
๗๑๑. อตฺตโน ¶ ปตฺตภาคมฺปีติ ตถา อาหเฏ กปฺปิยภณฺเฑ สงฺฆสฺส ภาชิยมาเน อตฺตโน วสฺสคฺเคน อตฺตโน ปตฺตโกฏฺาสมฺปิ. ปฏิคฺคาหกภิกฺขุโนติ รูปิยํ ปฏิคฺคเหตฺวา อาปชฺชิตฺวา นิสฺสชฺชิตฺวา เทสิตาปตฺติกสฺส ภิกฺขุโน น วฏฺฏตีติ สมฺพนฺโธ. อฺโตติ อตฺตโต อฺสฺมา ปพฺพชิตมนุสฺสามนุสฺสติรจฺฉานคติตฺถิปุริสานํ อฺตรโต. ลทฺธนฺติ เตหิ อตฺตนา ลทฺธโกฏฺาสโต ทินฺนวเสนปิ ลทฺธํ ตํ วตฺถุํ.
๗๑๒. ยํ กิฺจิ ปจฺจยนฺติ ตํ วตฺถุํ ปริวตฺเตตฺวา คหิเตสุ จตูสุ ปจฺจเยสุ อฺตรมฺปิ ปจฺจยํ. อนฺตมโส ปถวึ ขณิตฺวา ¶ อุปฺปาทิโตทกมฺปิ ทารูหิ อาทิตฺตอคฺคิมฺปิ เตเลน ชลิตปทีปมฺปิ รุกฺเข วา เคเห วา ปกติฉายมฺปิ ตาลปณฺณมฺปิ อุปโภคปริโภคารหํ อฺมฺปิ ยํ กิฺจีติ อฏฺกถาย วุตฺตนยํ อิมินาว สงฺคหิตนฺติ คเหตพฺพํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อนฺตมโส มกฺกฏาทีหิ ตโต หริตฺวา อรฺเ ปิตํ วา เตสํ หตฺถโต คฬิตฺวา ติรจฺฉานปริคฺคหิตมฺปิ ปํสุกูลมฺปิ น วฏฺฏติเยวา’’ติอาทิ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๓-๕๘๔), ‘‘รูปิยปฏิคฺคาหกสฺส ปน เกนจิ ปริยาเยน ตโต อุปฺปนฺนปจฺจยปริโภโค น วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๘๕) จาติ. ภิกฺขุโนติ รูปิยปฏิคฺคาหกสฺส ภิกฺขุสฺส.
๗๑๓. อชฺฌาราเม วาติ อุปริ วกฺขมานลกฺขเณน ปริจฺฉินฺเน อชฺฌาราเม วา. ตํ รูปิยํ, ‘‘ปติตํ ทิสฺวา’’ติ เสโส. อชฺฌาวสเถปิ วาติ วกฺขมานลกฺขเณ อนฺโตอาวาเส จ. นิกฺขิปนฺตสฺสาติ ‘‘ยสฺส ภวิสฺสติ, โส หริสฺสตี’’ติ วุตฺเต าเน ตสฺมึ วตฺถุสฺมึ คณนฺจ อุปลกฺขณฺจ สลฺลกฺเขตฺวา เปนฺตสฺส.
๗๑๔. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘รูปิเย รูปิยสฺี, เวมติโก, อรูปิยสฺี รูปิยํ ปฏิคฺคณฺหาติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปารา. ๕๘๖) ภควตา ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. ทุกฺกฏนฺติ เอตฺถ ‘‘ทฺวิกทุกฺกฏ’’นฺติ สามตฺถิยา ลพฺภติ.
๗๑๕. กฺริยากฺริยนฺติ คหเณน อาปชฺชนโต กิริยํ. ปฏิกฺเขปสฺส อกรณโต อกิริยนฺติ.
รูปิยปฏิคฺคหณกถาวณฺณนา.
๗๑๖-๗. นิสฺสคฺคิยสฺสาปิ ¶ วตฺถุนฺติ ‘‘นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสฺส วตฺถู’’ติ ปมสิกฺขาปเท นิทฺทิฏฺเสุ รชตาทีสุ จตูสุ อฺตรํ ¶ วตฺถุํ. ทุกฺกฏสฺส จ วตฺถุํ วาติ ปมํ ทสฺสิตมุตฺตาทิทุกฺกฏวตฺถูสุ อฺตรํ วา, อิโหภยตฺถ เหตุผลสมฺพนฺเธ สามิวจนํ. กปฺปิยสฺส จ วตฺถุํ วาติ ยถาทสฺสิเตสุ เอว มุคฺคมาสาทิกปฺปิยวตฺถูสุ อฺตรํ วา, อิห อวยวาวยวิสมฺพนฺเธ สามิวจนํ. อวยวาวยวีนํ อเภเทปิ เภทูปจารวเสน ยถา ‘‘สิลาปุตฺตกสฺส สรีร’’นฺติ กปฺปิยวตฺถุนฺติ วุตฺตํ โหติ ‘‘กปฺปิเยน วตฺถุนา’’ติ วกฺขมานตฺตา. อิทาเนตฺถ ทุกฺกฏวตฺถุโน, กปฺปิยวตฺถุโน จ นิสฺสคฺคิยวตฺถุนา ปริวตฺติตตฺตา อาปตฺติ โหตีติ คเหตพฺพํ. นิสฺสคฺคิยวตฺถุนา โย ปริวตฺเตติ, ตสฺส อาปตฺตีติ โยชนา.
ทุกฺกฏสฺส วตฺถุนา, กปฺปิเยน จ วตฺถุนา วตฺถุํ นิสฺสคฺคิยสฺส ปริวตฺเตติ, อาปตฺตีติ โยชนา. อิธ อุภยตฺถาปิ ปริวตฺติตสฺส นิสฺสคฺคิยวตฺถุตฺตา อาปตฺติ โหติ. เอวํ ตีสุปิ าเนสุ ‘‘อาปตฺตี’’ติ สามฺวจเนน นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยเมว วุตฺตนฺติ ปกรณโต ลพฺภติ.
๗๑๘. ทุกฺกฏสฺเสว วตฺถุนา ทุกฺกฏสฺส จ วตฺถุํ วา ปริวตฺเตติ, ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. ‘‘วตฺถุํ วา กปฺปิยสฺสา’’ติ อิทํ วุตฺตนยเมว, กปฺปิยวตฺถุนฺติ วุตฺตํ โหติ. อิมสฺส กปฺปิยวตฺถุโนปิ ทุกฺกฏวตฺถุนา ปริวตฺติตตฺตา ทุกฺกฏํ โหตีติ คเหตพฺพํ.
๗๑๙. ‘‘วตฺถุนา กปฺปิยสฺสา’’ติ อิทมฺปิ วุตฺตนยเมว. กปฺปิยวตฺถุนาปิ ปริวตฺติเต ทุกฺกฏวตฺถุวเสน ทุกฺกฏํ โหตีติ อาห ‘‘ตถา’’ติ.
๗๒๐. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘วตฺถุโน’’ติ อิทํ อากฑฺฒติ. ‘‘นิสฺสคฺคิยสฺสา’’ติ อิมินา ปาจิตฺติยมาห. ปุพฺพนฺติ ปมํ, ปุพฺเพ ¶ วุตฺตรูปิยปฏิคฺคหณสิกฺขาปเทติ วุตฺตํ โหติ. อิมินาติ รูปิยสํโวหารสิกฺขาปเทน. ปริวตฺตนํ วาริตนฺติ สมฺพนฺโธ.
๗๒๑. รูปิยนฺติ จ สฺิสฺสาติ ‘‘รูปิยํ นาม สตฺถุวณฺโณ กหาปโณ โลหมาสโก ทารุมาสโก ชตุมาสโก, เย โวหารํ คจฺฉนฺตี’’ติ (ปารา. ๕๘๙) ปทภาชเน วุตฺเตสุ รูปิยสฺิเตสุ วตฺถูสุ ‘‘อฺตร’’นฺติ สฺิสฺส. อรูปิเยติ ขรปตฺตาทิมฺหิ. เตน อรูปิเยน. ‘‘เจตาเปนฺตสฺส อรูปิย’’นฺติ ปทจฺเฉโท. ‘‘อรูปิเย รูปิยสฺี รูปิยํ เจตาเปติ ¶ , นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปารา. ๕๙๑) วุตฺตตฺตา รูปิยปริวตฺตเน ทุกฺกฏสฺส อภาวโต, ปาจิตฺติยสฺส จ สมฺภวโต รูปิยํ น คเหตพฺพํ. อรูปิเย รูปิยํ อิติ สฺิสฺส จ วิมติสฺส จ อรูปิยํ เจตาเปนฺตสฺส เตน ทฺเว ทุกฺกฏานิ โหนฺตีติ โยชนา.
๗๒๒. อรูปิเย อรูปิยนฺติ สฺิสฺสาติ เอตฺถ ‘‘อรูปิยํ ปริวตฺเตนฺตสฺสา’’ติ เสโส. ปฺจหีติ สหตฺเถ กรณวจนํ, ‘‘สหธมฺมิเกหี’’ติ เสโส, ปฺจหิ สหธมฺมิเกหิ สทฺธินฺติ อตฺโถ. วทโตติ โวหรโต, กยวิกฺกยํ กโรนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ภิกฺขุภิกฺขุนิสามเณรสามเณริสิกฺขมานาสงฺขาเตหิ ปฺจหิ สหธมฺมิเกหิ อรูปิยํ ปริวตฺเตนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ.
๗๒๓. สํโวหาเรน สมุฏฺานโต กฺริยสมุฏฺานํ.
รูปิยสํโวหารกถาวณฺณนา.
๗๒๔. กปฺปิยํ นาม ‘‘จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารา, อนฺตมโส จุณฺณปิณฺโฑปิ ทนฺตกฏฺมฺปิ ทสิกสุตฺตมฺปี’’ติ ¶ ปทภาชเน วุตฺตานิ กปฺปิยวตฺถูนิ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘จีวราทีนํ กปฺปิยภณฺฑานํ วเสน อเนกวิธ’’นฺติ. กปฺปิเยเนวาติ เตเนว กปฺปิเยน วตฺถุนา. ‘‘กยวิกฺกยํ สมาปชฺเชยฺยาติ ‘อิมินา อิมํ เทหิ, อิมินา อิมํ อาหร, อิมินา อิมํ ปริวตฺเตหิ, อิมินา อิมํ เจตาเปหี’ติ อชฺฌาจรตี’’ติ (ปารา. ๕๙๕) วจนโต ‘‘ปริวตฺตยโต’’ติ อิมสฺส ‘‘กยวิกฺกยํ สมาปชฺชโต’’ติ ปริยาโย.
ตตฺถ อฺสฺส หตฺถโต กปฺปิยวตฺถุนา ปริวตฺเตตฺวา คหณํ กโย นาม. อตฺตโน หตฺถโต กปฺปิยวตฺถุํ ปริวตฺเตตฺวา ทานํ วิกฺกโย. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อิมินา อิมํ เทหี’ติอาทินา หิ นเยน ปรสฺส กปฺปิยภณฺฑํ คณฺหนฺโต กยํ สมาปชฺชติ, อตฺตโน กปฺปิยํ เทนฺโต วิกฺกย’’นฺติ. ‘‘เปตฺวา สหธมฺมิเก’’ติ วุตฺตตฺตา ปริวตฺตยโตติ เอตฺถ อฺเหิ สทฺธินฺติ ลพฺภติ. เอตฺถ อฺเ นาม คิหิโน อิตฺถิปุริสา, สาสนโต พาหิรา ปพฺพชิตา จ. ตสฺมา อยํ กยวิกฺกโย อนฺตมโส มาตาปิตูหิปิ น กาตพฺโพเยว. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อยฺหิ กยวิกฺกโย ¶ เปตฺวา ปฺจ สหธมฺมิเก อวเสเสหิ คิหิปพฺพชิเตหิ อนฺตมโส มาตาปิตูหิปิ สทฺธึ น วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๙๕).
๗๒๕. อกปฺปิยสฺส วตฺถุสฺสาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท วุตฺตจีวราทิกปฺปิยวตฺถุโต อฺสฺส นิสฺสคฺคิยทุกฺกฏวตฺถุสฺส. เตเนวาติ อกปฺปิยวตฺถุนาเยว. ‘‘กปฺปิยสฺส จา’’ติ ปาเสโส, เตเนว อกปฺปิเยน วตฺถุนา กปฺปิยสฺส วตฺถุสฺส ปริวตฺตนฺจาติ โยชนา. เอวฺหิ ปาเสเส อกเต อกปฺปิเยน วตฺถุนา กปฺปิยสฺส ปริวตฺตนํ กยวิกฺกเย สงฺคเหตพฺพํ สิยา, ตํ น ยุชฺชติ ตสฺส รูปิยสํโวหาเรเยว สงฺคหิตตฺตา, อิธ จ ‘‘กปฺปิยวตฺถุสฺเสว กปฺปิยวตฺถุนา ¶ ปริวตฺตนํ กยวิกฺกโย’’ติ นิยมิตตฺตา. นิทฺทิฏฺนฺติ ‘‘อกปฺปิยภณฺฑปริวตฺตนฺหิ กยวิกฺกยสงฺคหํ น คจฺฉตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๕๙๔) อฏฺกถายํ นิทฺทิฏฺนฺติ อตฺโถ.
๗๒๖. ตสฺมาติ ยสฺมา อฺตฺร สหธมฺมิเกหิ กปฺปิยวตฺถุสฺสาปิ กยวิกฺกโย น วฏฺฏติ, อกปฺปิยสฺส, กปฺปิยสฺส จ วตฺถุโน อกปฺปิเยเนว วตฺถุนา ปริวตฺตนฺจ รูปิยสํโวหาเร สงฺคหิตตฺตา กยวิกฺกยสงฺคหํ น คจฺฉติ, ตสฺมา.
๗๒๙. อิทํ นามาติ โอทนาทิกปฺปิยวตฺถุเมว อาห.
๗๓๐-๑. ‘‘คเหตฺวา’’ติอาทิคาถาย วตฺถุลกฺขณสฺส อุทาหรณํ ทสฺเสตฺวาว อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตุมาห ‘‘วิฆาสาท’’นฺติอาทิ. ฉลฺลินฺติ รุกฺขตจํ. วลฺลินฺติ ลตํ. กฏฺนฺติ อินฺธนทารุํ. ทารุนฺติ เคหสมฺภาราทิทารุํ. วิปลฺลาเสนาปิ วตฺตพฺพํ ‘‘วลฺลึ วา ปน ฉลฺลึ วา, ทารุํ วา กฏฺเมว วา’’ติ. วตฺถูนนฺติ ตถา วตฺวา อาหราปิตานํ ฉลฺลิอาทิวตฺถูนํ. กยวิกฺกเย อาปตฺติโย โหนฺตีติ โยชนา, นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยาปตฺติโย โหนฺตีติ วุตฺตํ โหติ.
๗๓๒. ‘‘อิติ เอวา’’ติ ปทจฺเฉโท, ‘‘ปิวิตฺวา’’ติอาทินา นเยน ปุพฺพกาเล วิหิตปจฺจยนฺตํ อกตฺวา วุตฺตนเยเนวาติ อตฺโถ.
๗๓๓. ภูมิยา ลิมฺปเนติ โยชนายํ ปน เสนาสนภูมิยํ ปริภณฺฑกรณกาฬกาทิวณฺณกรณวเสน ¶ เลปเน. วตฺถุโธวเนติ จีวราทิวตฺถูนํ โธวเน. เอตฺถาติ เตสุ วุตฺตปฺปกาเรสุ. เอเตสํ คหณสฺส อุปลกฺขณตฺตา เอวรูเปสุ อฺเสุ าเนสุ.
๗๓๔. อยนฺติ ¶ ภูมิโสธนาทิวเสน อาปนฺนา ปาจิตฺติยาปตฺติ.
๗๓๕. เปตฺวา ภณฺฑสามิกนฺติ เอตฺถ พฺยติเรกวเสน อฺสฺส กปฺปิยการสฺสาติ ลพฺภติ.
๗๓๖. ภาสโต อนาปตฺตีติ โยชนา. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
กยวิกฺกยกถาวณฺณนา.
โกสิยวคฺโค ทุติโย.
๗๓๗. กปฺปิยา ปตฺตา มตฺติกาโยมยา ชาติโต ทุเวติ โยชนา. วณฺณาติ ปมาณานิ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ตโย ปตฺตสฺส วณฺณาติ ตีณิ ปตฺตสฺส ปมาณานี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๒). เตนาห ‘‘อุกฺกฏฺโ มชฺฌิโมมโก’’ติ.
๗๓๘. ทฺวินฺนํ ตณฺฑุลนาฬีนนฺติ สุโกฏฺฏิตานํ อขณฺฑานํ ปุราณสาลิตณฺฑุลานํ ทฺเว นาฬิโย คเหตพฺพา. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อนุปหตปุราณสาลิตณฺฑุลานํ สุโกฏฺฏิตปริสุทฺธาน’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๒). ภตฺตนฺติ อวสฺสาวิตํ อนุตฺตณฺฑุลํ อกิลินฺนํ อปิณฺฑิตํ สุวิสทํ กุนฺทมกุลราสิสทิสํ สุปกฺโกทนเมว คเหตพฺพํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อนุตฺตณฺฑุลํ อกิลินฺนํ อปิณฺฑิตํ สุวิสทํ กุนฺทมกุลราสิสทิสํ อวสฺสาวิโตทน’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๒). มคธนาฬิยาติ มคธรฏฺเ นาฬิยา, สา นาฬิ ติลานํ อฏฺปสตานิ คณฺหาติ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘ขาริทสทฺวยํ ¶ วาโห, ขารี โทณฏฺกทฺวยํ;
ทฺวิอฏฺนาฬิโย โทโณ, นาเฬกา ปสตฏฺกํ;
ลกฺขํ ติลานํ ปสตํ, เอตํ วุตฺตํ ปมาณโต’’ติ.
‘‘มคธนาฬิ ¶ นาม อฑฺฒเตรสปลา โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๒) อนฺธกฏฺกถายํ วุตฺตํ. ตพฺพณฺณนาย ‘‘อฑฺฒเตรสปลานิ มาเสหิ คเหตพฺพานี’’ติ วุตฺตํ. เกจิ ปนาหุ –
‘‘จตุปฺปสติกา มุฏฺิ, ปลฺเจตํ จตุคฺคุณํ;
กุฑุวปฺปสตฺเจว, จตฺตาริ เจว นาฬิ ตุ.
‘‘โสเยว ปตฺโถ จตฺตาโร, ปตฺถา อฬฺหกมุจฺจเต;
อฬฺหกานมฺปิ จตฺตาริ, ‘โทโณ’ติ ปริกิตฺติโต’’ติ.
อาจริยา ปน ‘‘อฏฺปสตา มาคธนาฬี’’ติ ปุพฺพปกฺขเมว โรจยนฺติ.
ขาทนฺจ จตุพฺภาคนฺติ ตสฺมึ ภตฺเต จตุธา วิภตฺเต เอกภาคมตฺตํ หตฺถหาริยฆนมุคฺคสูปนฺติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ตสฺส โอทนสฺส จตุตฺถภาคปฺปมาโณ นาติฆโน นาติตนุโก หตฺถหาริโย สพฺพสมฺภารสงฺขโต มุคฺคสูโป ปกฺขิปิตพฺโพ’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๒).
พฺยฺชนฺจ ตทูปิยนฺติ ยาว จริมาโลปํ, ตาว สพฺพาโลปานุรูปํ มจฺฉมํสาทิพฺยฺชนฺจ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อาโลปสฺส อาโลปสฺส อนุรูปํ ยาวจริมาโลปปฺปโหนกํ มจฺฉมํสาทิพฺยฺชนํ ปกฺขิปิตพฺพ’’นฺติ. เอตฺถ จ อาโลปสฺส อาโลปสฺส อนุรูปนฺติ ‘‘พฺยฺชนสฺส มตฺตา นาม โอทนจตุตฺถภาโค’’ติ (ม. นิ. อฏฺ. ๒.๓๘๗) พฺรหฺมายุสุตฺตสฺส อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา อาโลปสฺส จตุตฺถภาคปฺปมาณํ พฺยฺชนํ อาโลปสฺส อนุรูปนฺติ คเหตพฺพํ. อิธ ปน สูปสฺเสว โอทนจตุตฺถภาคปฺปมาณํ ¶ ทสฺเสตฺวา เอตสฺส ลกฺขเณ ทสฺสิเต อิตรสฺสาปิ ทสฺสิตเมว โหตีติ พฺยฺชนสฺส ตถา วิเสเสตฺวา ปมาณํ น ทสฺสิตํ. โอทเน ปกฺขิปิตพฺพานิ สปฺปิเตลตกฺกรสกฺชิกาทีนิ คณนูปคานิ น โหนฺติ.
๗๓๙. ตํ สพฺพนฺติ ยถาวุตฺตภตฺตาทินิรวเสสํ. คณฺหตีติ วกฺขมาเนหิ ตีหิ ปกาเรหิ คณฺหาติ. ตสฺสาติ อุกฺกฏฺสฺส ปตฺตสฺส. อุปฑฺโฒติ ตสฺมึ ปตฺเต คณฺหนกทพฺพสมฺภารคาหี ปตฺโต ตํสหจริเยน ¶ ‘‘อุปฑฺโฒ’’ติ วุตฺโต. ตทุปฑฺโฒ จาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ตสฺส มชฺฌิมสฺส ปตฺตสฺส อุปฑฺโฒ ตทุปฑฺโฒติ คเหตพฺพํ.
๗๔๐. อิเมสุ ตีสุ ปตฺเตสุ อุกฺกฏฺสฺส วุตฺตํ โอทนาทิ สพฺพํ ยสฺมึ ปตฺเต ปกฺขิตฺตํ, ตสฺส มุขวฏฺฏิมตฺถเก ปฺุชิยมานํ หีรกํ เหฏฺาภาเค ผุสติ, โส อุกฺกฏฺมชฺฌิโม นาม, หีรโต อติเรกํ ติฏฺติ, โส อุกฺกฏฺโมโก นาม, อนฺโตปตฺเต มุขวฏฺฏิยา เหฏฺิมนฺตํ อปฺปตฺวา ติฏฺติ, โส อุกฺกฏฺุกฺกฏฺโ นาม, เอวํ มชฺฌิโม จ โอมโก จ ปจฺเจกํ ติวิโธ โหตีติ สพฺเพ นว ปตฺตา โหนฺตีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘อุกฺกฏฺสฺสา’’ติอาทิ. ตสฺเสวาติ อุกฺกฏฺสฺเสว. โอมโก จ มชฺฌิโม จาติ โอมกมชฺฌิมา. อิธ มชฺฌิโม จ โอมโก จ อุกฺกฏฺสฺเสว เภโท. เอส นโย อิตรทฺวเยปิ. ‘‘เอว’’นฺติ อิมินา ยถา ‘‘อุกฺกฏฺุกฺกฏฺโ อุกฺกฏฺโมโก อุกฺกฏฺมชฺฌิโม’’ติ โยเชตพฺโพ, เอวํ มชฺฌิโมมกานมฺปิ ยถากฺกมโยชนํ ทสฺเสติ ‘‘มชฺฌิโม มชฺฌิมุกฺกฏฺโ มชฺฌิโมมโก, โอมกุกฺกฏฺโ โอมกมชฺฌิโม โอมโกมโก จา’’ติ.
๗๔๑. เตสูติ ¶ นวสุ ปตฺเตสุ. ตสฺมาติ อปตฺตภาวโต. น คจฺฉนฺตีติ อุกฺกฏฺุกฺกฏฺฺจ โอมโกมกฺจาติ ทฺเว อเปกฺขิตฺวา พหุวจนํ กตํ. เอเต ภาชนสงฺเขเปน ปริภฺุชิตพฺพาติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ตสฺมา เอเต ภาชนปริโภเคน ปริภฺุชิตพฺพา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๒).
๗๔๒. ปตฺตลกฺขณสํยุตนฺติ เอตฺถ ปตฺตลกฺขณํ นาม ยถาวุตฺตปมาณยุตฺตตา, ‘‘อโยปตฺโต ปฺจหิ ปาเกหิ ปกฺโก มตฺติกาปตฺโต ทฺวีหิ ปาเกหิ ปกฺโก’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๘) วุตฺตา ปากสมฺปตฺติ, กิณิตฺวา คณฺหาติ เจ, ตสฺส ทาตพฺพมูลสฺส อเสเสตฺวา ทินฺนภาโว, ฉิทฺทาภาโว, ฉินฺนราชีนํ อภาโวติ ปฺจวิธํ. โหติ เจตฺถ –
‘‘ปมาณยุตฺตตา ปาก-สมฺปตฺติ ทินฺนมูลตา;
อจฺฉิทฺทาราชิตา เจติ, ปตฺตลกฺขณปฺจก’’นฺติ.
‘‘อธิฏฺาย วา วิกปฺเปตฺวา วา’’ติ วา-สทฺโท โยเชตพฺโพ. อธิฏฺายาติ ปมํ ปริภุตฺเต ปตฺเต สติ ตํ ปจฺจุทฺธริตฺวา อธิฏฺาตพฺพปตฺโต หตฺถปาเส เจ โหติ, วกฺขมานนเยน ‘‘อิมํ ปตฺตํ อธิฏฺามี’’ติ ¶ วจีเภทกรณวเสน วาจาย วา วจีเภทํ อกตฺวา เอวเมว จินฺเตตฺวา หตฺเถน คเหตฺวา ผนฺทาเปนฺเตน กาเยน วา ทูเร เจ หตฺถปาสา โหติ, ปิตฏฺานํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘เอตํ ปตฺตํ อธิฏฺามี’’ติ วาจา ภินฺทิตพฺพาติ อฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๘ อตฺถโต สมานํ) วุตฺตนเยน เอกเกน วา ปจฺฉา สติสมฺโมเส สราเปตฺวา กุกฺกุจฺจํ วูปสเมตุํ สมตฺถสฺส ปุคฺคลสฺส สนฺนิธาเน วา อธิฏฺายาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อฺสฺส สนฺติเก อธิฏฺาเน อยมานิสํโส – สจสฺส ‘อธิฏฺิโต นุ โข เม, โน’ติ วิมติ อุปฺปชฺชติ, อิตโร สาเรตฺวา วิมตึ ฉินฺทิสฺสตี’’ติ ¶ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๘) อยมตฺโถ อฏฺกถายํ วุตฺโต. ‘‘ทฺเว ปตฺเต อธิฏฺาตุํ น ลภตี’’ติ คณฺิปเท วุตฺตํ.
วิกปฺเปตฺวาติ (ปาจิ. ๓๗๓; ปารา. อฏฺ. ๒.๖๐๘; กงฺกา. อฏฺ. วิกปฺปนสิกฺขาปทวณฺณนา) ตฺถ วิกปฺเปตพฺพสฺส ปตฺตสฺส เอกตฺตพหุตฺตํ, สนฺนิหิตาสนฺนิหิตตฺตฺจ สลฺลกฺเขตฺวา เอกํ เจ สนฺนิหิตํ, ‘‘อิมํ ปตฺตํ ตุยฺหํ วิกปฺเปมี’’ติ วา ‘‘อิมํ ปตฺตํ ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน วิกปฺเปมี’’ติ วา อาทินา นเยน เอกํ วิกปฺเปตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. เอตฺถ ‘‘ปริภฺุเชยฺยา’’ติ วุตฺตตฺตา, ‘‘มยฺหํ สนฺตกํ ปริภฺุเชหิ วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหี’’ติ เตน อปจฺจุทฺธเฏ ปริภฺุชิตุํ อยุตฺตตฺตา ‘‘วิกปฺเปตฺวา’’ติ ปจฺจุทฺธฏวิเสโส คเหตพฺโพ.
๗๔๓. ธาเรยฺยาติ อนธิฏฺหิตฺวา, อวิกปฺเปตฺวา จ ปริภฺุชิตพฺโพ. ตํ กาลํ ปตฺตํ อติกฺกามยโตติ โยชนา. ‘‘นิสฺสคฺคิย’’นฺติ อิมินาปิ ‘‘ปตฺต’’นฺติ อิทํ ยุชฺชติ. ปตฺต-สทฺโท มาคธิกานํ ทฺวิลิงฺคโก, ตสฺมา เอวํ วุตฺโต.
๗๔๔. อธิฏฺิตวิกปฺปิเตสุ อนนฺโตคธตฺตา อติเรกภาวํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ยํ ปตฺต’’นฺติอาทิ.
๗๔๕. สมฺมุเขติ อฑฺฒเตยฺยหตฺถปฺปเทสโต อนฺโต ิตํ ปตฺตํ. ทูรสฺมินฺติ อฑฺฒเตยฺยรตนโต ปรภาเค ‘‘อนฺโตคพฺเภ วา อุปริปาสาเท วา สามนฺตวิหาเร วา’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตปฺปกาเร ทูเรปิ. ยตฺถ กตฺถจิ วิกปฺปนกาเลปิ สนฺติกทูรวจนเภทา เอวเมว โยเชตฺวา วตฺตพฺพา. ‘‘วิกปฺเปตุํ ¶ ปน พหูนิปิ ลพฺภตี’’ติ คณฺิปเท วุตฺตํ. อยํ นโยติ ‘‘อิมํ ปตฺตํ ปจฺจุทฺธรามี’’ติอาทินโย.
๗๔๖. วาจากายวเสน ¶ ทุวิเธ อธิฏฺาเน วาจาธิฏฺานํ ทสฺเสตฺวา กายาธิฏฺานํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อาโภค’’นฺติอาทิ. อาโภคนฺติ ‘‘อิมํ ปตฺตํ อธิฏฺามี’’ติ อาโภคํ. ‘‘มนสา’’ติ อิมินา น วจสาติ วุตฺตํ โหติ. กายวิกาโรว กายวิการกํ, หตฺเถน ผนฺทาปนาทิกายกิริยาติ อตฺโถ. เอเตเนว กายาธิฏฺานํ หตฺเถน อปตฺตพฺเพ ทูเร น กาตพฺพนฺติ ทสฺเสติ.
๗๔๗-๘. ‘‘ชหติ อธิฏฺาน’’นฺติ ปทจฺเฉโท. ทานโตติ อฺสฺส ทาเนน. เภทกโตติ ภิชฺชเนน. นาสโตติ ปตฺตสามิกสฺส กาลกิริยาย. วิพฺภมโตติ สิกฺขํ อปจฺจกฺขาย คิหิภาวูปคมเนน. อุทฺธารโตติ ปจฺจุทฺธรเณน. ปจฺจกฺขโตติ สิกฺขาปจฺจกฺขาเนน. ปริวตฺตนโตติ ลิงฺคปริวตฺตเนน. คาหโตติ วิสฺสาสคฺคหเณน, อจฺฉินฺทิตฺวา คหเณน จ.
กงฺคุสิตฺถปฺปมาเณนาติ สตฺตนฺนํ ธฺานํ ขุทฺทกตรสฺส กงฺคุโน สิตฺถปฺปมาเณน. เขนาติ มุขวฏฺฏิยา ทฺวงฺคุลโต เหฏฺา อากาสปริยาเยน ฉิทฺเทน. อาณิยา วาติ อโยมยาย อาณิยา วา.
๗๕๐-๑. มณิปตฺโตติ มณินา กโต. เวฬุริยุพฺภโวติ มรกตมณิมโย. ผลิกุพฺภโวติ ผลิกปาสาเณน กโต. กาจมโยติ กาจมตฺติกามโย. กํสมโยติ กํสโลเหน กโต. ติปุมโยติ กาฬติปุมโย. สีสมโยติ เสตติปุมโย. วิปลฺลาเสน จ วทนฺติ. สชฺฌุมโยติ รชตมโย.
๗๕๒. ฆฏกฏาโหติ ฆฏกปาลํ. สีสกฏาโหติ ฉวสีสกปาลํ. ตุมฺพนฺติ อลาพุ. อสฺสาติ เอกาทสวิธสฺส ¶ ปตฺตสฺส. อนุโลมิกนฺติ อกปฺปิยวเสน อนุโลมํ. ตตฺถาติ ตสฺมึ เอกาทสวิเธ. ตมฺพมยํ โลหมยํ ถาลกํ ปน วฏฺฏตีติ โยชนา, ปตฺโตเยว น วฏฺฏติ, ตมฺพโลหมยา ถาลกา ปน วฏฺฏนฺตีติ อตฺโถ.
๗๕๓. ตฏฺฏิกาทีนีติ ¶ อาทิ-สทฺเทน วฏฺฏกาทีนํ สงฺคโห. วฏฺฏกนฺติ จ อฑฺฒจนฺทากาโร โลหาทิมโย ภาชนิยวิเสโส. ปุคฺคลสฺสาติ ภิกฺขุสฺส. คิหี จ สงฺโฆ จ คิหิสงฺฆา, เตสํ สนฺตกา คิหิสงฺฆิกา.
๗๕๔. ยํ กิฺจิ ปตฺตนฺติ สตฺตสุ ปตฺเตสุ ยํ กิฺจิ ปตฺตํ. โวทกํ กตฺวาติ วิคโตทกํ กตฺวา. ปฏิสาเมยฺยาติ นิกฺเขปารหฏฺาเน นิกฺขิปนวเสน, ถวิกาย ปกฺขิปิตฺวา พนฺธนวเสน วา สงฺโคเปยฺย.
๗๕๕. โอตาเปตุนฺติ อาตเป, อคฺคิมฺหิ วา ตาเปตุํ. อุณฺเหติ ตสฺมึเยว อุณฺเห. น นิทเหตพฺโพติ น ฌาเปตพฺโพ. สีสาปนยนเมว น วฏฺฏตีติ น นิทเหตพฺโพติ อตฺโถ อธิกนิวารเณเนว วิฺายติ.
๗๕๖. มิฑฺฒนฺเตติ มิฑฺฒิยา อนฺเต. ปริภณฺฑนฺเตติ ปมุเข มหามิฑฺฒิยา อนฺเต. ‘‘วิตฺถิณฺเณติ อนฺตมโส ทฺวิปตฺตมตฺโตกาสวิตฺถาเร’’ติ เกจิ. เปตุํ ปน วฏฺฏตีติ โยชนา, วลยาทิอาธาเรน วินาปิ เปตุํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ. ‘‘มิฑฺฒิยา ปมุเข มิฑฺฒิยา จ ขรภูมิปเทสาทีสุ จ วลยมตฺถเก เปตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ.
๗๕๗. ทารุอาธารเกติ อุทุกฺขลสทิเส ทารุมเย อาธาเร. ทฺเว ปตฺเต เปตุมฺปิ วฏฺฏตีติ ปตฺตมตฺถเก อปรสฺสาปิ ปตฺตสฺส ปนวเสน ทฺเว ปตฺเต เปตุมฺปิ วฏฺฏติ. อปิ-สทฺเทน ¶ เอกสฺมึ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทสฺเสติ. อยเมว นโยติ ‘‘ทฺเวปิ ปตฺเต เปตุํ วฏฺฏตี’’ติ อยํ นโย. ทณฺฑภูมิอาธารเกสูติ เอตฺถ ทณฺฑาธาโร นาม พหูหิ ทณฺเฑหิ กโต. ภูมิอาธารโก นาม ภูมิยํ กโต อาลวาลวลยากาโร สิลิฏฺาธาโร. ‘‘ทนฺตเวตฺตลตาทิมโย ภูมิอาธารโก’’ติ เกจิ.
๗๕๘-๙. ตฏฺฏิกายาติ ตาลปณฺณาทีหิ กตตฏฺฏิกาย. โปตฺถเกติ มกจิวากมเย วา รุกฺขวากมเย วา อตฺถรเณ. กฏสารเกติ ตาลปณฺณาทีหิ วีเต อตฺถรเณ. ปริภณฺฑกตายาติ กตโคมยปริภณฺฑาย. อปิ-สทฺเทน สุธากมฺมํ กตฺวา ปาสาเณน ฆํสิตฺวา มฏฺกตาย ภูมิยา วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทสฺเสติ. วาลุกาสุ วาติ เลฑฺฑุปาสาณสกฺขรกปาลาทิอมิสฺสาสุ สณฺหสุขุมวาลุกาสูติ ¶ วุตฺตํ โหติ. เตเนวาห ‘‘ตถารูปาสู’’ติอาทิ. รชมฺหิ สนฺเตปิ อสนฺเตปิ วิสุํเยว ‘‘ขรภูมิยา น เปตพฺพ’’นฺติ วุตฺตตฺตา ‘‘สรชายา’’ติ อิมินา รโชกิณฺณํ สณฺหภูมิมาห. ขรภูมิยาติ ผรุสภูมิยา.
๗๖๐. ลคฺเคตุนฺติ โอลมฺเพตุํ. ทณฺฑโกฏิยา, นาคทนฺตโกฏิยา จ ปตฺตมุเขน ปกฺขิปิตฺวา ปนมฺปิ ลคฺคนํ นาม. ฉตฺตงฺกมฺจปีเสูติ ฉตฺเต, องฺเก, มฺจปีเ จ.
๗๖๑. อฏนีสูติ องฺเคสุ. พนฺธิตฺวาติ ถวิกาย อํสวทฺธนกาทินา เยน เกนจิ พนฺธิตฺวา. โอลมฺเพตุมฺปีติ ลคฺเคตุมฺปิ. ‘‘เปตุํ อุปรี’’ติ ปทจฺเฉโท.
๗๖๒. มฺจปีฏฺฏเกติ มฺจปีเสุ ปิตปตฺตา ยถา น ปตนฺติ, ตถา อฏนิมตฺถเก ทารุนา ปริกฺเขเป กเต มฺจปีฏฺฏกา ¶ นาม โหนฺติ, ตาทิเส มฺจปีฏฺฏเก เปตุํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ. ภตฺตปูโรปีติ ภตฺตสฺส ปูโรปิ. อปิ-สทฺเทน ยาคุเตลปริปูริตสฺสาปิ สงฺคโห. ตุจฺฉปตฺเต วินิจฺฉโย ยถาวุตฺโตเยว. ปูรณํ ปูโร, ภตฺตสฺส ปูโร ภตฺตปูโร.
ติภาณวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗๖๓. กวาฏนฺติ ทฺวารกวาฏผลกํ. ‘‘เสนาสเน ทฺวารกวาฏวาตปานกวาฏาที’’ติอาทีสุ ทฺวารผลกํ ‘‘กวาฏ’’นฺติ หิ วุตฺตํ. น ปณาเมยฺยาติ น นาเมยฺย น จาเลยฺย, น จ ปิทเหยฺยาติ อตฺโถ. ปตฺตํ หตฺเถ ยสฺส โส ปตฺตหตฺโถติ ภินฺนาธิกรโณยํ พาหิรตฺถสมาโส ‘‘วชิรปาณี’’ติอาทีสุ วิย. ‘‘ปณาเมยฺย อสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท.
๗๖๔. น นีหเรยฺย ปตฺเตน จลกานีติ รสํ ปิวิตฺวา ปาติตมธุกผลฏฺิกาทิ ฉฑฺฑิตานิ พหิ ฉฑฺเฑตุํ ปตฺเตน น นีหเรยฺย. อฏฺิกานิ วาติ ปนสฏฺิโกลฏฺิอาทิอฏฺิกานิ วา. อุจฺฉิฏฺมุทกนฺติ มุขโธวนาทิกํ อุจฺฉิฏฺมุทกํ. ปตฺเตน นีหรนฺตสฺสาติ โยชนา, พหิ ฉฑฺเฑตุํ ตํ ปตฺเต อาสิฺจิตฺวา หรนฺตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. อิตรถา อุจฺฉิฏฺปตฺตโธวโนทกมฺปิ เตเนว ปตฺเตน พหิ น นีหริตพฺพํ สิยา.
๗๖๕. ปฏิคฺคเหติ ¶ มุขโธวโนทกนฺติ ปฏิคฺคโห, เขฬมลฺลโกว. มุขโต นีหฏนฺติ มุเขน ฉฑฺฑิตํ มํสขณฺฑาทิ ยํ กิฺจิ.
๗๖๖. วินสฺสตีติ วิพฺภเมน วา สิกฺขาปจฺจกฺขาเนน วา กาลกิริยาย วา วินสฺสติ. อถ วา โยติ ปจฺจตฺตวจนํ ‘‘ยสฺสา’’ติ สามิวเสน ปริณาเมตฺวา ยสฺส ภิกฺขุโน ¶ ปตฺโต เภเทน วา อจฺเฉเทน วา โจริกาย หรเณน วา นสฺสติ, ตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา.
๗๖๗. ปมสฺสาติ ปตฺตวคฺคสฺส ปมํ สงฺคหิตตฺตา ปมสฺส. ปตฺตสฺสาติ ปตฺตสิกฺขาปทสฺส. ปเมนาติ จีวรวคฺคสฺส ปมํ สงฺคหิตตฺตา ปเมน กถิเนนาติ สมฺพนฺโธ. มเหสินาติ มหนฺเต สีลกฺขนฺธาทโย คุเณ เอสิ คเวสีติ มเหสิ. ปมสฺส ปตฺตสฺส สมุฏฺานาทโย สพฺเพ อิธ อนิทฺทิฏฺวินิจฺฉยา ปเมน กถิเนน สมา สทิสา อิติ มเหสินา มตา อนุมตา อนฺุาตาติ โยชนา.
ปมปตฺตกถาวณฺณนา.
๗๖๘. ปฺจ พนฺธนานิ อูนานิ ยสฺส โส ปฺจพนฺธนอูโน, ปตฺโต, ตสฺมึ, อพนฺธนฺจ เอกทฺวิติจตุพนฺธนฺจ ‘‘ปฺจพนฺธนอูน’’นฺติ คหิตํ. ยถาห ปาฬิยํ ‘‘อูนปฺจพนฺธโน นาม ปตฺโต อพนฺธโน วา เอกพนฺธโน วา ทฺวิพนฺธโน วา ติพนฺธโน วา จตุพนฺธโน วา’’ติ (ปารา. ๖๑๓). พนฺธเน อกเตปิ พนฺธนารโห วกฺขมานลกฺขณราชิยุตฺโตปิ ‘‘อูนปฺจพนฺธโนเยวา’’ติ คเหตพฺโพ. เอตฺถ อพนฺธโน นาม ยสฺส พนฺธนเมว นตฺถิ, โส. เตเนวาห อฏฺกถายํ ‘‘ยสฺมา อพนฺธนสฺสปิ ปตฺตสฺส ปฺจ พนฺธนานิ น ปูเรนฺติ สพฺพโส นตฺถิตายา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๑๒-๖๑๓). ทฺวงฺคุลปฺปมาณโต อูนราชิยุตฺโต อพนฺธโนกาโสปิ ‘‘อพนฺธโนเยวา’’ติ คเหตพฺโพ. ยถาห ปาฬิยํ ‘‘อพนฺธโนกาโส นาม ปตฺโต ยสฺส ทฺวงฺคุลา ราชิ น โหตี’’ติ (ปารา. ๖๑๓).
๗๖๙. อุทฺทิฏฺนฺติ ‘‘พนฺธโนกาโส นาม ปตฺโต ยสฺส ทฺวงฺคุลา ราชิ โหตี’’ติ (ปารา. ๖๑๓) ปทภาชเน วุตฺตํ. ทฺวงฺคุลาย ราชิยา เอกฺจ พนฺธนนฺติ โยชนา. ‘‘มุขวฏฺฏิโต เหฏฺา ภฏฺา’’ติ ¶ อฏฺกถาวจนโต (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๑๒-๖๑๓) ‘‘สพฺพาปิ ราชิโย มุขวฏฺฏิโต ปฏฺาย ¶ เหฏฺา ภฏฺาเยว คเหตพฺพา’’ติ นิสฺสนฺเทเห วุตฺตํ. มุขวฏฺฏึ วินา อฺตฺถาปิ อูนปฺจพนฺธเน วา อูนปฺจพนฺธโนกาเส วา สติ โสปิ ปตฺโต อูนปฺจพนฺธโน น โหตีติ น สกฺกา วตฺตุํ, ตสฺมา ‘‘มุขวฏฺฏิโต ปฏฺายา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๑๒-๖๑๓) อฏฺกถายํ นิยเมตฺวา วจนํ วีมํสิตพฺพํ. อิธ ปน ตถา นิยโม น ทสฺสิโต, ตสฺมา อยเมว วินิจฺฉโย สามฺเน วุตฺตาย ปาฬิยา อฺทตฺถุ สํสนฺทติ สเมติ. จ-การสฺส อวุตฺตสมุจฺจยตฺถตฺตา ทฺวงฺคุลทฺวงฺคุลาหิ ทฺวีหิ ทฺเว พนฺธนานิ จ ตีณิ พนฺธนานิ จาติ อิทมฺปิ วุตฺตเมว โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ยสฺส ปน ทฺเว ราชิโย, เอกาเยว วา จตุรงฺคุลา, ตสฺส ทฺเว พนฺธนานิ ทาตพฺพานิ. ยสฺส ติสฺโส, เอกาเยว วา ฉฬงฺคุลา, ตสฺส ตีณิ พนฺธนานิ ทาตพฺพานี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๑๒-๖๑๓).
อูนปฺจพนฺธนปตฺเตสุ อนฺติมปตฺตสฺส วิภาคํ ทสฺเสตุมาห ‘‘พนฺธนานิ จา’’ติอาทิ. มุขวฏฺฏิยา อฏฺงฺคุลปฺปมาณานํ จตุนฺนํ ราชีนํ จตฺตาริ พนฺธนานิ จาติ วุตฺตํ โหติ. จกาโร ปุพฺเพ วุตฺตสฺเสว สมุจฺจยํ กโรติ. อฏฺงฺคุลราชิยา ตถาติ มุขวฏฺฏิโต ปฏฺาย อฏฺงฺคุลายามํ ภฏฺาย ราชิยา ทฺวงฺคุลทฺวงฺคุลมตฺเต าเน เตเนว นีหาเรน พทฺธานิ จตฺตาริ พนฺธนานิ จาติ อตฺโถ.
๗๗๐. เอวํ อูนปฺจพนฺธนปตฺตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปริปุณฺณปฺจพนฺธนปตฺตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปฺจ วา’’ติอาทิ. มุขวฏฺฏิยา ทฺวงฺคุลทฺวงฺคุลายามํ โอติณฺณา ปฺจ ราชิโย จ. วา-สทฺเทน ปฺจพนฺธนวิกปฺปา ทสฺสิตา. เอกา วาปิ ทสงฺคุลาติ มุขวฏฺฏิโต ทสงฺคุลายามา เอกา วา ราชิ โหติ. อปิ-สทฺเทน ตสฺสา ราชิยา พนฺธโน ปฺจพนฺธนปกฺโข ทสฺสิโต. อยํ ปตฺโตติ ¶ ยสฺส ปฺจ ราชิโย วา ตตฺถ พนฺธนานิ ปฺจพนฺธนานิ วา, ทสงฺคุลา เอกา ราชิ วา ตตฺถ พนฺธนานิ ปฺจพนฺธนานิ วา สนฺติ, อยํ ปตฺโต ปฺจพนฺธโน นาม.
๗๗๑. เอตฺตาวตา มตฺติกาปตฺเต วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อโยปตฺเต ทสฺเสตุมาห ‘‘อโยปตฺโต’’ติอาทิ. ฉิทฺทานิ ปฏิจฺฉาเทตุํ พนฺธิตพฺพานิ อโยปฏฺฏานิ โลหมณฺฑลกานิ นาม. ‘‘ภณฺฑี’’ติปิ ตสฺเสว ปริยาโย. ภณฺฑิตพฺพํ พนฺธิตฺวา ฉิทฺเท ปฏิจฺฉาทิเตปิ ยตฺถ อสณฺหตาย อามิสํ ติฏฺติ, ตาทิโสปิ อปตฺโตเยวาติ อาห ‘‘มฏฺโ วฏฺฏตี’’ติ. อโยจุณฺเณน วาณิยาติ เอตฺถาปิ ‘‘มฏฺโ วฏฺฏตี’’ติ สมฺพนฺธนียํ.
๗๗๒. ตสฺส ¶ นิสฺสคฺคิยํ สงฺฆสฺส นิสฺสฏฺํ ตํ ปตฺตํ ตสฺมึ อนุกมฺปาย อคณฺหนฺตสฺสาติ โยชนา, ‘‘สงฺฆมชฺเฌ นิสฺสชฺชิตพฺโพ’’ติ (ปารา. ๖๑๓) วจนโต สงฺฆมชฺเฌ นิสฺสฏฺํ ตสฺส ตํ ปตฺตํ ตสฺมึ ปตฺตนิสฺสชฺชเก ปุคฺคเล อนุกมฺปาย อคณฺหนฺตสฺส.
๗๗๓. ทียมาเน ตุ ปตฺตสฺมินฺติ อูนปฺจพนฺธเนน ปตฺเตน วิฺาปิตนวปตฺเต ภิกฺขุมฺหิ ตํ ปตฺตํ สงฺฆมชฺเฌ นิสฺสชฺชิตฺวา อาปตฺตึ เทเสตฺวา นิสินฺเน จตสฺโส อคติโย อคมนํ, คหิตาคหิตชานนนฺติ อิเมหิ ปฺจหิ องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา ปมํ สงฺฆํ ยาจิตฺวา ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย สงฺเฆน ปตฺตคาหกํ กตฺวา สมฺมเตน นิสฺสฏฺปตฺตํ หตฺเถน คเหตฺวา ตสฺมึ สงฺเฆ สงฺฆตฺเถรโต ปฏฺาย อนุกฺกเมน อุปสงฺกมฺม วิฺายมานํ คุณํ วตฺวา ปณามิเต. ยสฺสาติ ตสฺมึ สงฺฆมชฺเฌ นิสินฺนสฺส ยสฺส ¶ ภิกฺขุโน, โรจนตฺถโยเค สมฺปทานวจนํ. โส ทียมาโน ปตฺโต. ตํ ทียมานํ ปตฺตํ.
๗๗๔. ทีปิโตติ ‘‘อปตฺตกสฺส น คาเหตพฺโพ’’ติ (ปารา. ๖๑๕) วุตฺโต. ตตฺถาติ ตสฺสํ ภิกฺขุปริสายํ. ปตฺตปริยนฺโตติ เอตฺถ ‘‘เอวํ ปริวตฺเตตฺวา ปริยนฺเต ิตปตฺโต’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๑๕) อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา เตน ปตฺตปริวตฺตเนน อาคโต วา สพฺเพหิ อคฺคหิตตฺตา อาคโต โส เอว วา ปตฺโต ปริยนฺโต นาม โหตีติ อตฺโถ. ตสฺส ภิกฺขุโนติ ปตฺตํ นิสฺสชฺชิตฺวา นิสินฺนสฺส ตสฺส ภิกฺขุโน.
๗๗๕. ตนฺติ อตฺตโน ทินฺนํ ตํ ปริยนฺตปตฺตํ. อปฺปเทเสติ มฺจปีาทิอฏฺาเน. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘มฺจปีฉตฺตนาคทนฺตาทิเก อเทเส’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๑๕). วิสฺสชฺเชตีติ อฺสฺส เทติ. อตฺตนา อทาเปตฺวา อฺเน ตํ ปตฺตํ สยเมว อตฺตโน คเหตฺวา อฺํ อนุรูปํ ปตฺตํ ทิยฺยมานํ คณฺหิตุํ วฏฺฏตีติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ. อโภเคน ปริภฺุชตีติ ยาคุรนฺธนาทิวเสน ปริภฺุชติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อโภเคนาติ ยาคุรนฺธนรชนปจนาทินา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๑๕). ‘‘อนฺตรามคฺเค ปน พฺยาธิมฺหิ อุปฺปนฺเน อฺสฺมึ ภาชเน อสติ มตฺติกาย ลิมฺปิตฺวา ยาคุํ วา ปจิตุํ อุทกํ วา ตาเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๑๕) อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา ตาทิเส าเน ตถาปิ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏตีติ เอตฺถ วิเสโส.
๗๗๖. นฏฺเติ ¶ อตฺตโน ปริภฺุชิยมาเน ปตฺเต โจรคฺคหณาทินา นฏฺเ. ภินฺเนติ เภทมุปคเต. อนาปตฺตีติ อฺํ ปตฺตํ วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺติ. ปกาสิตาติ ‘‘อนาปตฺติ นฏฺปตฺตสฺส ภินฺนปตฺตสฺส าตกานํ ปวาริตานํ อฺสฺสตฺถาย ¶ อตฺตโน ธเนนา’’ติอาทินา (ปารา. ๖๑๗) นเยน ปาฬิยํ เทสิตา. อิธ ‘‘อฺสฺสตฺถายา’’ติ วุตฺตตฺตา อตฺตโน วฬฺชิยมาเน ปตฺเต สติปิ อฺสฺสตฺถาย ปตฺตํ วิฺาเปตุํ วฏฺฏติ. าตกาทีนํ คณฺหโตติ เอตฺถ ‘‘สนฺตก’’นฺติ ลพฺภติ. อตฺตโน ธเนนาติ โยชนา. เอตฺถ ธนํ นาม สุตฺตวตฺถาทิ กปฺปิยวตฺถุ.
ทุติยปตฺตกถาวณฺณนา.
๗๗๘. สปฺปิอาทึ เภสชฺชนฺติ เอตฺถ ปาฬิยํ ‘‘เสยฺยถิทํ? สปฺปิ นวนีตํ เตลํ มธุ ผาณิต’’นฺติ (ปารา. ๖๒๒) อุทฺทิสิตฺวา ‘‘สปฺปิ นาม โคสปฺปิ วา อชิกาสปฺปิ วา มหึสสปฺปิ วา, เยสํ มํสํ กปฺปติ, เตสํ สปฺปี’’ติ (ปารา. ๖๒๓) นิทฺทิฏฺํ ฆตฺจ ‘‘เตสํเยว นวนีต’’นฺติ (ปารา. ๖๒๓) นิทฺทิฏฺํ นวนีตฺจ ‘‘ติลเตลํ สาสปเตลํ มธุกเตลํ เอรณฺฑกเตลํ วสาเตล’’นฺติ (ปารา. ๖๒๓) นิทฺทิฏฺํ เตลฺจ ‘‘มธุ นาม มกฺขิกามธู’’ติ (ปารา. ๖๒๓) นิทฺทิฏฺํ มธฺุจ ‘‘ผาณิตํ นาม อุจฺฉุมฺหา นิพฺพตฺต’’นฺติ (ปารา. ๖๒๓) นิทฺทิฏฺํ คุฬาทิผาณิตฺจาติ เอตสฺมึ ปฺจเภสชฺชราสิมฺหิ ยํ ยํ เภสชฺชนฺติ อตฺโถ. ปุเรภตฺตนฺติ ปุเรภตฺเต. ปฏิคยฺหาติ ปฏิคฺคเหตฺวา.
๗๗๙. ตํ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ เภสชฺชํ. สตฺตาหนฺติ เอตฺถ ‘‘วฏฺฏตี’’ติ กิริยาย อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. ‘‘สตฺตาหํ อติกฺกมนฺตสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท. ‘‘สตฺตาหาติกฺกเม ตสฺสา’’ติ วา ปาโ. สตฺตาหสฺส อติกฺกโม สตฺตาหาติกฺกโม, ตสฺมึ สตฺตาหาติกฺกเม. ตสฺสาติ เภสชฺชปฏิคฺคาหกสฺส ภิกฺขุโน. ‘‘นิสฺสคฺคิย’’นฺติ อิมินา ปาจิตฺติยเมว ทสฺสิตํ. นิสฺสคฺคิยวตฺถุ ภาชนคณนาย อาปตฺตึ กโรติ. เอกสฺมึ ภาชเนปิ วิสุํ วิสุํ ปิตานิ นวนีตปิณฺฑคุฬปิณฺฑสกฺกรมธุปฏลานิปิ ¶ อตฺตโน คณนาย อาปตฺตึ กโรนฺติ.
๗๘๐. คณฺหิตฺวาติ ปฏิคฺคเหตฺวา. สนฺนิธียตีติ สนฺนิธิ, สนฺนิหิตวตฺถุ, ตสฺส การกํ กรณํ ¶ อปราปรทิวสตฺถาย ปนํ, ตํ กตฺวา, ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ยถา อปรํ ทิวสํ คจฺฉติ, ตถา กตฺวา นิกฺขิปิตฺวาติ อตฺโถ. นิรามิสํ สายโตติ อามิเสน อมิสฺเสตฺวา ภฺุชนฺตสฺส.
๗๘๑. อุคฺคหิตนฺติ อปฺปฏิคฺคหาเปตฺวา หตฺเถน คหิตํ. สรีรโภเคติ พหิ สรีรปริโภเคเนว.
๗๘๒. คหิตํ ปฏิคฺคหิตํ. ตาเปตฺวาติ วิลียาเปตฺวา.
๗๘๓. ‘‘สยํ ตาเปติ…เป… น โหติ โส’’ติ อิทํ สุโธตนวนีตํ สนฺธาย วุตฺตํ, ทุทฺโธเตน ปน ทธิคุฬิกาทิสหิเตน สามํปาโก โหเตว. นวนีตสฺส ยํ สยํ ตาปนํ, โส สามํปาโก น โหตีติ โยชนา.
๗๘๔. เยน เกนจีติ อุปสมฺปนฺเนน, อนุปสมฺปนฺเนน วา.
๗๘๕. ‘‘สยํ กโรตี’’ติ อิมินา อนุปสมฺปนฺนํ นิวตฺเตติ. เตน กตํ ปน ตทหุ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตขีเรน วา ทธินา วา กตสปฺปิ อนุปสมฺปนฺเนน กตํ สามิสมฺปิ ตทหุ ปุเรภตฺตํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๒).
๗๘๖. สวตฺถุกสฺสาติ เอตฺถ วตฺถุ นาม ขีรทธิ.
๗๘๗. อสฺสาติ ปฏิคฺคหิตขีรทธีหิ กตสปฺปิมาห. ‘‘ปฏิคฺคเหตฺวา ตานี’’ติ วุตฺตตฺตาติ อิทํ ‘‘ยานิ โข ปน ตานิ ¶ คิลานานํ ภิกฺขูนํ ปฏิสายนียานิ เภสชฺชานิ, เสยฺยถิทํ? สปฺปิ นวนีตํ เตลํ มธุ ผาณิตํ, ตานิ ปฏิคฺคเหตฺวา’’ติ (ปารา. ๖๒๒) อิมสฺมึ มาติกาปาเ ‘‘ยานี’’ติ วุตฺตสปฺปิอาทีนเมว ‘‘ตานิ ปฏิคฺคเหตฺวา’’ติ วุตฺตตฺตาติ วุตฺตํ โหติ, ตตฺถ ขีรทธีนํ อวุตฺตตฺตาติ อธิปฺปาโย.
๗๘๘. กปฺปิยสปฺปิมฺหีติ ¶ กปฺปิยมํสานํ สตฺตานํ ฆเต. อกปฺปิยสปฺปิมฺหีติ อกปฺปิยมํสานํ สตฺตานํ ฆเต, ปฏิคฺคเหตฺวา สตฺตาเห อติกฺกนฺเตติ วุตฺตํ โหติ.
๗๘๙. เตน สปฺปินา อกปฺปิเยน ภวิตพฺพนฺติ อิทํ ทุกฺกฏํ กถํ โหตีติ อาห ‘‘สพฺพา’’ติอาทิ. อกปฺปิยํ มํสํ เยสํ เต อกปฺปิยมํสา, มนุสฺสาทโย, สพฺเพ จ เต อกปฺปิยมํสา จาติ สพฺพากปฺปิยมํสา, เตสํ.
๗๙๐-๑. เอวํ เจ วฏฺฏติ, ‘‘เยสํ มํสํ กปฺปติ, เตสํ สปฺปี’’ติ กสฺมา ปาฬิยํ วุตฺตนฺติ โจทนํ สมุฏฺาเปตฺวา ตํ ปริหริตุมาห ‘‘เยส’’นฺติอาทิ. ตตฺถ ‘‘เยสฺหิ กปฺปติ มํสํ, เตสํ สปฺปี’’ติ อิทํ วจนํ กึ ปโยชนํ สาเธตีติ วุตฺตํ โหติ. อิทานิ ปริจฺเฉทนิยมนสงฺขาตํ ตํปโยชนฺจ ตพฺพิสยฺจ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปณีตโภชนสฺสา’’ติอาทิ. ปณีตโภชนสฺส ปริจฺเฉทนิยามนนฺติ โยชนา. สตฺตาหกาลิเก ปฺจวิเธ เภสชฺเชติ วุตฺตํ โหติ, นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. นิสฺสคฺคิยสฺส วตฺถูนนฺติ นิทฺธาริตพฺพทสฺสนํ. นิสฺสคฺคิยสฺสาติ เอตฺถ ตํเหตุกสฺส ปาจิตฺติยสฺสาติ อตฺโถ. วตฺถูนนฺติ สปฺปินวนีตทฺวยเมว วุตฺตํ. สตฺตาหกาลิเก นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยสฺส วตฺถุ นาม เอเตสเมว สปฺปินวนีตานิ, ปณีตโภชนฺจ เตสเมว ขีรทธิสปฺปินวนีตานีติ ทสฺเสตุํ ตถา วุตฺตํ, น อกปฺปิยมํสสตฺตานํ สปฺปิอาทินิวารณตฺถํ ¶ วุตฺตนฺติ อยํ ปาฬิยํ ตถาคตา ธิปฺเปโต อตฺโถติ วุตฺตํ โหติ.
๗๙๒. คหิตุคฺคหิตาทิเก อุคฺคหิตปฏิคฺคหิตาทิเก นวนีเตปิ สพฺโพ วินิจฺฉโย สปฺปิมฺหิ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพติ โยชนา. อาทิ-สทฺเทน ปุเรภตฺตํ, ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิตขีรทธีหิ, อุคฺคหิตขีรทธีหิ จ กตํ นวนีตํ, ตาทิสเมว อกปฺปิยมํสนวนีตฺจ สงฺคหิตํ. สพฺโพ วินิจฺฉโยติ อาปตฺติอาทิกํ สพฺพวินิจฺฉยํ สงฺคณฺหาติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สพฺโพ อาปตฺตานาปตฺติปริโภคาปริโภคนโย’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๒).
๗๙๓-๔. ภิกฺขูนํ อากิรนฺตีติ เอตฺถ ‘‘ปตฺเต’’ติ สามตฺถิยา ลพฺภติ. อาทิจฺจปกฺกนฺติ อาตเป วิลีนํ. สํสฏฺํ ปริสฺสาวิตํ.
๗๙๕-๖. ติลเตลํ สาสปเตลํ มธุกเตลํ เอรณฺฑกเตลํ. คหิตนฺติ ปฏิคฺคหิตํ. ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ ¶ นิรามิสมฺปิ สายิตพฺพนฺติ โยชนา. เตสํ วสาติ สตฺตาหาติกฺกนฺตานํ เตสํ เตลานํ วเสน, เตลภาชนคณนายาติ วุตฺตํ โหติ.
๗๙๘. เตสํ ติณฺณมฺปีติ เอรณฺฑมธุกสาสปพีชานํ ติณฺณํ.
๘๐๐. สาสปาทีนนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ปฏิโลเมน มธุเกรณฺฑกานํ คหณํ. คเหตฺวาติ ปฏิคฺคเหตฺวา. ภิกฺขุนา เตลตฺถาเยว คเหตฺวา ปิตานํ สาสปาทีนํ สตฺตาหาติกฺกเม ทุกฺกฏํ สิยาติ โยชนา.
๘๐๑-๒. นาฬิเกรฺจ ¶ กรฺชฺจ นาฬิเกรกรฺชานิ, เตสํ, นาฬิเกรผลานํ, นตฺตมาลฏฺีนฺจ เตลนฺติ สมฺพนฺโธ. กุรุวกสฺสาติ อตสิพีชสฺส. นิมฺพฺจ โกสมฺพกฺจ นิมฺพโกสมฺพกานิ, เตสํ, ปุจิมนฺทพีชสฺส จ ผนฺทนพีชสฺส จ เตลนฺติ สมฺพนฺโธ. ภลฺลาตกสฺสาติ เอวํนามกสฺส รุกฺขพีชสฺส. สมยจฺจเยติ สตฺตาหาติกฺกเม.
๘๐๓. ยาวกาลิกเภทฺจาติ เอตฺถ ‘‘ยาวกาลิก’’นฺติ เภโท วิเสสนํ ยสฺสาติ วิคฺคโห, ‘‘อิทํ วตฺถุ’’นฺติ เอตสฺส อชฺโฌหรณียวิเสสิตพฺพสฺส วิเสสนํ. ยาวชีวิกนฺติปิ ตสฺเสว วิเสสนํ. เสสนฺติ ‘‘สามํปากสวตฺถุก ปุเรภตฺตปจฺฉาภตฺตปฏิคฺคหิตอุคฺคหิตกวตฺถุวิธานํ สพฺพ’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๒) อฏฺกถายํ ทสฺสิตํ เสสํ วิเสสปฺปการชาตมาห. เอตฺถาปีติ อิมสฺมึ เตลวินิจฺฉเยปิ.
๘๐๔. อจฺฉสฺส อิสสฺส. มจฺฉสฺส ชลชสฺส. วราหสฺส สูกรสฺส. สุสุกาสงฺขาตสฺส มกรสฺส. มจฺฉวจเนเนว มกรสฺส สงฺคหิตตฺเตปิ วาฬมจฺฉภาเวน วิสุํ คหณนฺติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ. คทฺรภสฺส ขรสฺส. อิเมสํ ปฺจนฺนํ สตฺตานํ วเสน ปฺจวิธานํ วสานํ เตลฺจ ปฺจปฺปการํ โหตีติ อตฺโถ.
๘๐๕. กปฺปิยากปฺปิยสฺส จาติ กปฺปิยากปฺปิยมํสสฺส สตฺตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ, สพฺพเมว ¶ วสาเตลํ วฏฺฏตีติ อิมินา สมฺพนฺโธ. เอตฺถ ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว วสานิ เภสชฺชานิ อจฺฉวสํ มจฺฉวสํ สุสุกาวสํ สูกรวสํ คทฺรภวส’’นฺติ (มหาว. ๒๖๒) อนฺุาตปาเ อจฺฉวสาคฺคหเณน มนุสฺเสหิ อฺเสํ สพฺพากปฺปิยมํสสตฺตานํ วสาย อนฺุาตตฺตา ¶ ตํ สงฺคเหตุํ อกปฺปิยคฺคหณํ กตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อจฺฉวส’นฺติ วจเนน เปตฺวา มนุสฺสวสํ สพฺเพสํ อกปฺปิยมํสานํ วสา อนฺุาตา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๓). เอตฺถ อกปฺปิยมํสสตฺตานํ มํสานํ อกปฺปิยภาโว ‘‘มํเสสุ หิ ทส มนุสฺสหตฺถิอสฺสสุนขอหิสีหพฺยคฺฆทีปิอจฺฉตรจฺฉานํ มํสานิ อกปฺปิยานิ. วสาสุ เอกา มนุสฺสวสาว. ขีราทีสุ อกปฺปิยํ นาม นตฺถี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๓) อฏฺกถาวจนโต เวทิตพฺโพ. อกปฺปิยวจเนน มนุสฺสวสายปิ คยฺหมานตฺตา ตสฺมึ นีหริตุมาห ‘‘เปตฺวา’’ติ.
๘๐๖. ปุเรภตฺตนฺติ ปุเรภตฺเต. สํสฏฺํ ปริสฺสาวิตํ. ‘‘ปุเรภตฺต’’นฺติ อิทํ ‘‘ปฏิคฺคเหตฺวาน, ปกฺกํ, สํสฏฺ’’นฺติ อิเมหิ ปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. ยถาห ปาฬิยํ ‘‘กาเล ปฏิคฺคหิตํ กาเล นิปฺปกฺกํ กาเล สํสฏฺํ เตลปริโภเคน ปริภฺุชิตุ’’นฺติ (มหาว. ๒๖๒).
๘๐๗. ตํ กตฺวา เทตีติ อปฏิคฺคหิตวสํ คเหตฺวา ปจิตฺวา เตลํ เทตีติ อตฺโถ. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘อนุปสมฺปนฺเนหิ กตํ นิพฺพฏฺฏิตวสาเตลํ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๓). ตโต อุทฺธํ สตฺตาหมนติกฺกมฺมาติ คเหตพฺพํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สตฺตาหํ นิรามิสเมว วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๓). อิธ อุภยตฺถาปิ กาเล, วิกาเล จ กปฺปิยากปฺปิยมํสวสานํ เตลํ ทิยฺยมานํ สุขุมมํสจุณฺณาทิกํ อพฺโพหาริกํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ยํ ปน ตตฺถ สุขุมรชสทิสํ มํสํ วา นฺหารุ วา อฏฺิ วา โลหิตํ วา โหติ, ตํ อพฺโพหาริก’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๓).
๘๐๘. ปฏิคฺคเหตุนฺติ เอตฺถ ‘‘วส’’นฺติ จ กาตุนฺติ เอตฺถ ‘‘เตล’’นฺติ จ ปกรณโต ลพฺภติ. กาตุนฺติ เอตฺถ ปจิตุํ ปริสฺสาวิตุนฺติ ¶ อุภยเมวาติ อตฺโถ. ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ อิทํ ปฏิคฺคหณาทิปโยคตฺตเย วิสุํ วิสุํ ทุกฺกฏตฺตา วุตฺตํ. ยถาห ปาฬิยํ ‘‘วิกาเล เจ ภิกฺขเว ปฏิคฺคหิตํ วิกาเล นิปฺปกฺกํ วิกาเล สํสฏฺํ, ตํ เจ ปริภฺุเชยฺย, อาปตฺติ ติณฺณํ ทุกฺกฏาน’’นฺติ ¶ (มหาว. ๒๖๒). อิมานิ หิ ตีหิ ปโยเคหิ ตีณิ ทุกฺกฏานิ โหนฺติ. เสโสติ อุคฺคหิตกปฏิคฺคหิตกสวตฺถุกวิสโย วินิจฺฉโย จ ภาชนคณนาย อาปตฺติเภโท จาติ เอวํปกาโร วตฺตพฺพวิเสโส.
๘๐๙. คหิตนฺติ ปฏิคฺคหิตํ. มธุกรีกตนฺติ มธุมกฺขิกาขุทฺทกมกฺขิกาภมรมกฺขิกาสงฺขาตาหิ ตีหิ มธุกรีหิ กตํ.
๘๑๐. วตฺถูนํ คณนาติ มธุปฏเลน ิตํ เจ, ปฏลคณนาย, ปีเฬตฺวา ภาชเน ปกฺขิปิตฺวา ปิตํ เจ, ภาชนคณนาย, สิเลสมิว ปตฺถินฺนํ เจ, มหาภมรมธุขณฺฑปิณฺฑวเสน, วิสุํ วิสุํ กเต เตสํ คณนายาติ อตฺโถ.
๘๑๑. ฆนาฆนนฺติ เอตฺถ คุฬฺจ นานปฺปการา สกฺกรา จ ฆนปกฺกํ นาม. ปกฺกตนุกํ ผาณิตํ อฆนปกฺกํ นาม. อุจฺฉุสิเลโส อปกฺกฆนํ นาม. อุจฺฉุทณฺฑโต ปีฬิตรโส อปกฺกาฆนํ นาม. ‘‘ผาณิตํ นาม อุจฺฉุมฺหา นิพฺพตฺต’’นฺติ (ปารา. ๖๒๓) สาธารณปาฬิวจนโต, ‘‘ผาณิตํ นาม อุจฺฉุรสํ อุปาทายา’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. เภสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา; วิ. สงฺค อฏฺ. ๙๘) อฏฺกถาวจนโต จ อิห รสาทีหิ อุจฺฉุปานมฺปิ สงฺคหิตํ. เกจิ อุจฺฉุโน จตุกาลิกตฺตํ วณฺณยนฺติ, ตํ น สารโต ปจฺเจตพฺพํ.
๘๑๒. ผาณิตนฺติ วุตฺตปฺปกาเร ตสฺมึ ผาณิเต อฺตรํ. คหิตํ ปฏิคฺคหิตํ.
๘๑๓. อสํสฏฺเนาติ ¶ อปริสฺสาวิเตน. กตผาณิตนฺติ ปริสฺสาเวตฺวา อตฺตนา กตผาณิตํ. ปุเรภตฺตํ คหิเตนาติ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิเตน. ‘‘สยํ กต’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๓) วุตฺตตฺตา กตนฺติ อุจฺฉุรโส คเหตพฺโพ.
๘๑๖. กตฺวาติ ปจิตฺวา ผาณิตํ กตฺวา.
๘๑๗. ปจฺฉาภตฺตํ กตฺจาปีติ ปจฺฉาภตฺตํ อตฺตนา จ กตํ อนุปสมฺปนฺเนน จ กตํ ผาณิตมฺปิ.
๘๑๘. กตํ ¶ …เป… สีตวารินาติ สีตุทเก มธุกปุปฺผานิ ปกฺขิปิตฺวา เปตฺวา มทฺทิตฺวา ปริสฺสาวิตรเสน กตํ มธุกผาณิตํ.
๘๑๙. อสฺสาติ มธุกผาณิตสฺส. ทุกฺกฏนฺติ ตทาธารภาชนคณนาย ทุกฺกฏํ. ขีรํ ปกฺขิปิตฺวา กตํ มธุกผาณิตํ ยาวกาลิกํ เจ โหติ, กถํ ขณฺฑสกฺกรากตํ สตฺตาหกาลิกํ โหตีติ วิจารณายํ ขีรชลฺลิกํ โธวิตฺวา โธวิตฺวา คยฺหมานตฺตา วฏฺฏตีติ ปริหรนฺติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ขณฺฑสกฺกรํ ปน ขีรชลฺลิกํ อปเนตฺวา อปเนตฺวา โสเธนฺติ, ตสฺมา วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๓). ‘‘พีชโต ปฏฺาย น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺตมธุกปุปฺผเมรยํ วินา อามกฺจ ปกฺกฺจ มธุกปุปฺผํ ปุเรภตฺตํ วฏฺฏตีติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ.
๘๒๐. สพฺเพสํ ปน ผลานนฺติ กทลิขชฺชูริอาทิผลานํ.
๘๒๑. สามฺโชตนาย วิเสเสปิ อวฏฺานโต ‘‘กาลิกา’’ติ อิมินา ‘‘ปจฺฉาภตฺตํ สติ ปจฺจเย’’ติ วจนสามตฺถิยา ยาวกาลิกวชฺชา ตโย กาลิกา คเหตพฺพา ¶ , ‘‘ปุเรภตฺตํ ยถาสุข’’นฺติ วจนสามตฺถิยา จตฺตาโรปิ คเหตพฺพา. ยาวกาลิกวชฺชา ตโย กาลิกา ปจฺฉาภตฺตํ วิกาเล ปจฺจเย ปิปาสาทิการเณ สติ เกวลมฺปิ ปจฺเจกมฺปิ มิสฺเสตฺวาปิ ปริภฺุชิตุํ ภิกฺขุสฺส วฏฺฏนฺติ. กาลิกา จตฺตาโรปิ ปุเรภตฺตํ กาเล ยาวมชฺฌนฺหา เกวลมฺปิ มิสฺเสตฺวาปิ ยถาสุขํ อสติปิ ปจฺจเย ปริภฺุชิตุํ ภิกฺขุสฺส วฏฺฏนฺตีติ โยชนา.
๘๒๒. อรุอาทีนีติ วณาทีนิ. ‘‘มกฺเขตุํ น วฏฺฏตี’’ติ อิมินา พาหิรปริโภโคปิ นิวาริโต.
๘๒๓. อนาปตฺติวาเร ‘‘อนฺโตสตฺตาห’’นฺติ อธิกาเร ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺส จตฺเตน วนฺเตน มุตฺเตน อนเปกฺโข ทตฺวา ปฏิลภิตฺวา ปริภฺุชตี’’ติ (ปารา. ๖๒๕) วุตฺตตฺตา จชิตฺวาติ เอตฺถ ‘‘อนฺโตสตฺตาหํ อนุปสมฺปนฺนสฺสา’’ติ วตฺตพฺพํ. ลภิตฺวาติ เอตฺถ ‘‘สตฺตาหาติกฺกเมปี’’ติ สามตฺถิยา ลพฺภติ. เตนาห มหาปทุมตฺเถโร ‘‘อนฺโตสตฺตาเห ทินฺนสฺส หิ ปุน ปริโภเค อาปตฺติเยว นตฺถิ, สตฺตาหาติกฺกนฺตสฺส ปน ปริโภเค อนาปตฺตีติ ทสฺสนตฺถมิทํ วุตฺต’’นฺติ. ลภิตฺวาติ ¶ คหิตเตเลน อนุปสมฺปนฺเนน สกฺกจฺจํ, อสกฺกจฺจํ วา ทินฺนํ ลภิตฺวา. สายิตุนฺติ เอตฺถ ‘‘ลภตี’’ติ เสโส.
๘๒๔. ‘‘อนาปตฺติ อธิฏฺเตี’’ติ ทฺวินฺนํ ปทานํ อนฺตเร ‘‘อนฺโตสตฺตาห’’นฺติ เสโส, สพฺพปเทหิปิ ยุชฺชติ. อธิฏฺเตีติ สตฺตาหพฺภนฺตเร สปฺปิฺจ เตลฺจ วสฺจ มุทฺธนิ เตลํ วา อพฺภฺชนํ วา, มธุํ อรุมกฺขนํ, ผาณิตํ ฆรธูปนํ ภวิสฺสตีติ อธิฏฺเติ. อธิฏฺิเตน อนธิฏฺิตํ เจ มิสฺสํ โหติ, ปุนปิ อธิฏฺาตพฺพํ. วิสฺสชฺเชตีติ อนฺโตสตฺตาเห อฺสฺส อุปสมฺปนฺนสฺส เทติ. สเจ ตถา ทินฺนํ อฺเน อปฺปฏิคฺคหิตตฺตา ¶ , เตน ปฏิคฺคหิตมฺปิ อิตรสฺส ทินฺนตฺตา เตสํ อนาปตฺตีติ อฏฺกถายํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๕ อตฺถโต สมานํ) วุตฺตํ.
วินสฺสตีติ สตฺตาหพฺภนฺตเร เยน เกนจิ อากาเรน ยถา อปริโภคํ โหติ, ตถา โจริกาย หรณาทิวเสน นสฺสติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘วินสฺสตีติ อปริโภคํ โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๕). อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหตีติ อฺโ ตสฺมึ สตฺตาหพฺภนฺตเร วิลุมฺปิตฺวา คณฺหาติ. วิสฺสาสํ คณฺหตีติ ตสฺมึเยว สตฺตาหพฺภนฺตเร อฺโ วิสฺสาสํ คณฺหาติ.
๘๒๕. อกถินจิตฺเตน สตฺถุนา สมุฏฺานาทโย สพฺเพว ปเมน กถิเนน สมา ปกาสิตาติ โยชนา. อกถินจิตฺเตนาติ มหากรุณารเสน ตินฺตตาย อกกฺกสจิตฺเตน, อวิหึสาภิรตจิตฺเตนาติ วุตฺตํ โหติ. สตฺถุนาติ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกาทีหิ อตฺเถหิ สเทวกํ โลกํ อนุสาสตีติ สตฺถา, เตน สพฺพฺุนา ทสพเลน สมฺมาสมฺพุทฺเธน.
เภสชฺชสิกฺขาปทกถาวณฺณนา.
๘๒๖. คิมฺหานนฺติ เอตฺถ ‘‘มาสาน’’นฺติ สามตฺถิยา ลพฺภติ, นิทฺธารเณ สามิวจนํ, คิมฺเหสุ จตูสุ มาเสสูติ อตฺโถ. นิทฺธาริตพฺพํ ทสฺเสติ ‘‘มาโส เสโส’’ติ, เอตฺถ ‘‘วตฺตพฺเพ กาเล’’ติ เสโส. ผคฺคุนมาสกณฺหปกฺขปาฏิปทโต ปฏฺาย เชฏฺมาสปุณฺณมิปริโยสาเนสุ ตีสุ มาเสสุ อติกฺกนฺเตสูติ อตฺโถ. เสสมาโส นาม เชฏฺมาสสฺส กณฺหปกฺขปาฏิปทโต ปฏฺาย อาสาฬฺหิมาสปุณฺณมิปริโยสาโน. คิมฺหานํ มาโส เสโสติ วตฺตพฺเพ กาเลติ อตฺโถ.
อิมสฺมึ ¶ ¶ ปจฺฉิเม คิมฺหมาเส เชฏฺมาสสฺส กณฺหปกฺโข วสฺสิกสาฏิกา เจ น ลทฺธา, ปริเยสิตุํ ลทฺธํ กาตุํ เขตฺตํ, อธิฏฺานนิวาสนานํ อเขตฺตํ. อาสาฬฺหิปุริมปกฺโข ปริเยสนกรณนิวาสนานํ เขตฺตํ, อธิฏฺาตุํ อเขตฺตํ. อาสาฬฺหิกณฺหปกฺขปาฏิปทโต ยาว ปจฺฉิมกตฺติกปุณฺณมี, อิทํ จตุนฺนมฺปิ เขตฺตนฺติ อยเมตฺถ สงฺเขโป.
ปริเยเสยฺยาติ ‘‘เย มนุสฺสา ปุพฺเพ วสฺสิกสาฏิกํ เทนฺตี’’ติอาทินา (ปารา. ๖๒๘) ปทภาชเน วุตฺตนเยน ปุพฺเพ วสฺสิกสาฏิกทายกํ อุปสงฺกมฺม ‘‘เทถ เม วสฺสิกสาฏิกจีวร’’นฺติอาทินา วจเนน อวิฺาเปตฺวา ‘‘กาโล วสฺสิกสาฏิกาย สมโย วสฺสิกสาฏิกาย, อฺเปิ มนุสฺสา วสฺสิกสาฏิกํ เทนฺตี’’ติ เอวํ สตุปฺปาทมตฺตกรเณน ปริเยเสยฺย.
สาฏิกนฺติ วสฺสิกสาฏิกํ. ‘‘อทฺธมาโส เสโส’’ติ อิทํ ‘‘คิมฺหาน’’นฺติ อิมินาว ยุชฺชติ. ตตฺถ ‘‘วตฺตพฺเพ กาเล’’ติ อชฺฌาหริตพฺพํ, อาสาฬฺหิมาสสฺส ปุริมปกฺเขติ อตฺโถ. กตฺวาติ เอตฺถ ‘‘ลทฺธ’’นฺติ สามตฺถิยา ลพฺภติ. ยถาวุตฺตนเยน สตุปฺปาเทน วา อวเสสานํ สทฺธาสมฺปนฺนกุลานํ วา สนฺติกา ลทฺธํ สิพฺพนรชนกปฺปพินฺทุทานวเสน นิฏฺาเปตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ปริทเหติ นิวาเสยฺย.
๘๒๗-๘. ปิฏฺิสมฺมเต สมเยติ ‘‘กตฺติกปุณฺณมาสิยา ปน ปจฺฉิมปาฏิปททิวสโต ปฏฺาย ยาว เชฏฺมูลปุณฺณมา อิเม สตฺต มาสา ปิฏฺิสมโย นามา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๘) เอวํ ทสฺสิเตสุ สตฺตสุ มาเสสุ. าตกาฺาตกาทิโน สตุปฺปาทํ กตฺวาติ โยชนา. อาทิ-สทฺเทน ปวาริตาปวาริตานํ สงฺคโห. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อฺาตกอปฺปวาริตฏฺานโต’’ติ.
เตสุเยวาติ ¶ าตกอฺาตกปวาริตอปฺปวาริเตสุ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘โหติ นิสฺสคฺคิยาปตฺตี’’ติ อิทํ ทสฺสิตํ. สา อาปตฺติ อฺาตกอปฺปวาริเตสุ อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปเทน โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เทถ เม วสฺสิกสาฏิกจีวร’นฺติอาทินา นเยน วิฺตฺตึ กตฺวา นิปฺผาเทนฺตสฺส อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปเทน นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๘). าตกปวาริเตสุ เตน สิกฺขาปเทน อนาปตฺติ, ปิฏฺิสมยตฺตา อิมินา ¶ อาปตฺติ โหติ. อฺาตกอปฺปวาริเตสุ จ วกฺขมานนเยน วตฺตเภททุกฺกเฏน สทฺธึ โหตีติ ทฏฺพฺพํ.
๘๒๙-๓๐. อฺาตกาทิโน กตฺวา ปน สตุปฺปาทนฺติ โยชนา. อาทิ-สทฺเทน อปฺปวาริตานํ สงฺคโห. กุจฺฉิสฺิเต สมเยติ ยถาวุตฺตปิฏฺิสมเย สตฺตมาเส วินา อิตเร ปฺจ มาสา วุตฺตา. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เชฏฺมูลปุณฺณมาสิยา ปน ปจฺฉิมปาฏิปททิวสโต ปฏฺาย ยาว กตฺติกปุณฺณมา อิเม ปฺจ มาสา กุจฺฉิสมโย นามา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๘). วตฺถนฺติ วสฺสิกสาฏิกํ. อทินฺนปุพฺเพสูติ เยหิ วสฺสิกสาฏิกา น ทินฺนปุพฺพา, เตสุ, อิมินา วตฺตเภทสฺส การณมาห. อิห วตฺตเภโท นาม ‘‘เย มนุสฺสา ปุพฺเพ วสฺสิกสาฏิกจีวรํ เทนฺตี’’ติอาทิวจนโต (ปารา. ๖๒๘) ทินฺนปุพฺเพสุ กาตพฺพสฺส สตุปฺปาทสฺส อทินฺนปุพฺเพสุ กรณํ. พฺยติเรกโต ทินฺนปุพฺเพสุ นตฺถีติ ทีปิตํ โหติ.
ตตฺราติ อฺาตกาทิมฺหิ. ‘‘นิสฺสคฺคิย’’นฺติ อิมินา อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปเทน อาปตฺตึ อาห. ยถาห กุจฺฉิสมยจตุกฺเก ‘‘วิฺตฺติมฺปิ กตฺวา นิปฺผาเทนฺตสฺส อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปเทน นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ. อยํ ปาจิตฺติยาปตฺติ ปกติยา วสฺสิกสาฏิกทายเกสุปิ โหตีติ อิทํ ¶ อฏฺกถายํ ‘‘อิทํ ปน ปกติยา วสฺสิกสาฏิกทายเกสุปิ โหติเยวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๘) วจนโต วิฺายติ.
๘๓๑. โอวสฺสาเปตีติ อากาสโต ปติตอุทเกเนว กายํ เตเมติ, อิมินา ‘‘ฆฏาทีหิ โอสิฺจิตุํ วฏฺฏตี’’ติ ทีปิตํ โหติ. ‘‘นิพฺพโกสมฺพุนา นหายิตุํ วฏฺฏตี’’ติ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. สติปิ จีวเรติ วสฺสิกสาฏิกาย สติยาปิ. ‘‘ปริโยสาเน ทุกฺกฏ’’นฺติ อิมินา พินฺทุคณนายาติ ทีเปติ. วิวฏงฺคเณติ รุกฺขาทินา เกนจิ อนาวฏฏฺาเน.
๘๓๒. มาสสฺมินฺติ คิมฺหานํ ปจฺฉิมมาสสฺมึ.
๘๓๓. ‘‘อจฺฉินฺนจีวรสฺสาติ เอตํ วสฺสิกสาฏิกเมว สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๓๐) อฏฺกถายํ วุตฺตํ. วสฺสิกสาฏิกํ นิวาเสตฺวา นหายนฺตสฺส โจรุปทฺทโว อาปทา นาม. นฺหานโกฏฺกนฺติ นหานตฺถาย กตโกฏฺกํ. ‘‘วาปี’’ติ อิมินา โปกฺขรณิชาตสฺสราทโย ¶ อุปลกฺขิตา. นฺหายนฺตสฺสาติ นคฺโค หุตฺวา นหายนฺตสฺสาติ ปกรณโต ลพฺภติ. ‘‘อากาสโต ปติตอุทเกเนวา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๒๙) อฏฺกถายเมว วุตฺตํ.
๘๓๔. กฺริยนฺติ อกาเล ปริเยสนกรณอธิฏฺานนิวาสเนหิ อาปชฺชิตพฺพโต กิริยํ. กาเยน จ วาจาย จ วิฺาปนาทึ กโรนฺตสฺส กายกมฺมํ วจีกมฺมํ โหติ.
วสฺสิกสาฏิกกถาวณฺณนา.
๘๓๕. ‘‘โย ¶ ปน ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส สามํ จีวรํ ทตฺวา’’ติ (ปารา. ๖๓๒) วจนโต สามนฺติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขู’’ติ จ ทตฺวาติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขุสฺส’’อิติ จ ลพฺภติ. จีวรนฺติ ฉนฺนํ จีวรานํ อฺตรํ จีวรํ วิกปฺปนุปคํ ปจฺฉิมํ. ‘‘กุปิโต อนตฺตมโน อจฺฉินฺเทยฺยา’’ติ (ปารา. ๖๓๒) วจนโต อจฺฉินฺทนฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘กุปิตสฺส อนตฺตมนสฺสา’’ติ เสโส, กุปิตสฺส อนตฺตมนสฺส อจฺฉินฺทนฺตสฺส วา อจฺฉินฺทาเปนฺตสฺส วาติ อตฺโถ. ตนฺติ อตฺตนา ทินฺนจีวรํ. ‘‘สกสฺายา’’ติ อิมินา ปาราชิกาย อวตฺถุภาวํ ทีเปติ.
๘๓๖. ตถาติ เอกาเยว อาปตฺตีติ ทีเปติ.
๘๓๗. วตฺถานนฺติ จีวรานํ. อสฺสาติ ภิกฺขุสฺส.
๘๔๑. สงฺฆาฏึ คณฺห, อุตฺตราสงฺคํ คณฺหาติ โยชนา.
๘๔๒. วิกปฺปนุปคํ ปจฺฉิมนฺติ เอตฺถ ‘‘จีวร’’นฺติ ลพฺภติ. อายามโต วฑฺฒกิหตฺถํ ติริยํ ตถา วิทตฺถิปฺปมาณํ วตฺถขณฺฑํ เหฏฺิมปริจฺเฉทโต วิกปฺปนุปคํ นาม. อฺํ กิฺจิ ปริกฺขารนฺติ โยชนา, อนฺตมโส สุจิมฺปีติ วุตฺตํ โหติ. ปรํ ปุคฺคลํ. ฉินฺทาเปนฺตสฺสาติ อจฺฉินฺทาเปนฺตสฺส. การิตนฺตสฺส ทฺวิกมฺมกตฺตา ‘‘ปร’’นฺติ จ ‘‘ปริกฺขาร’’นฺติ จ กมฺมทฺวยคหณํ. อฺนฺติ ปริกฺขารวิเสสนํ. ทุกฺกฏํ วตฺถุคณนาย, วจนคณนาย จ.
๘๔๔. เอวนฺติ ¶ ยถา อนุปสมฺปนฺเน อนุปสมฺปนฺนสฺิโน ทุกฺกฏํ, เอวํ อนุปสมฺปนฺเน…เป… เวมติกสฺสาปิ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. อจฺฉินฺทนฺตสฺสาติ เอตฺถ ยถาวุตฺตํ ‘‘อนุปสมฺปนฺเน’’ติ อิทํ วิภตฺติวิปริณาเมน สามิวจนํ กตฺวา ‘‘ทินฺน’’นฺติ อชฺฌาหาเรน สห โยเชตพฺพํ, ‘‘จีวร’’นฺติ ปกรณโต ¶ ลพฺภติ, อนุปสมฺปนฺนสฺส ทินฺนํ จีวรํ อจฺฉินฺทนฺตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ.
๘๔๕. โส วาติ ยสฺส จีวรํ ทินฺนํ, โส เอว วา ภิกฺขุ. ตุฏฺโ วา ทุฏฺโ วา โส เทตีติ โยชนา. วิสฺสาสเมว วาติ วิสฺสาสํ กตฺวา คณฺหโตติ โยชนา.
๘๔๖. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท.
จีวรจฺฉินฺทนกถาวณฺณนา.
๘๔๗. วิฺาเปตฺวาติ วตฺถวายาปนํ สนฺธาย ยาจิตฺวา. ฉพฺพิธํ สุตฺตนฺติ ปทภาชเน ‘‘โขมํ กปฺปาสิกํ โกเสยฺยํ กมฺพลํ สาณํ ภงฺค’’นฺติ (ปารา. ๖๓๘) อาคตํ ฉปฺปการํ สุตฺตํ. กมฺพลนฺติ เอฬกโลมสุตฺตํ. สานุโลมานิ ฉปฺปการสุตฺตานิ เหฏฺา จีวรวินิจฺฉเย วุตฺตานุสาเรน เวทิตพฺพานิ. จีวรตฺถํ วตฺถํ ‘‘จีวร’’นฺติ วุตฺตํ. ตนฺตวาเยหีติ กปฺปิยากปฺปิเยหิ เปสกาเรหิ. โปตฺถเกสุ ‘‘วายาเปตุํ น วฏฺฏตี’’ติ ปาโ ทิสฺสติ, ‘‘สเจ’’ติ อิมินา อยุชฺชมานตฺตา โส อปาโ. ‘‘วายาเปติ น วฏฺฏตี’’ติ ปาโ ยุชฺชตีติ สเจ วายาเปตีติ โยชนา, อตฺตโน อตฺถาย ยทิ วายาเปยฺยาติ อตฺโถ.
๘๔๘. ตถา อกปฺปิโย. กีทิโสติ อาห ‘‘อฺาตกาทิโก’’ติ. อฺาตกาทิโกติ อฺาตโก อาทิ ยสฺส โส อฺาตกาทิโก. อาทิ-สทฺเทน อปฺปวาริโต คหิโต. โย ภิกฺขุ ตนฺตวายสฺส อฺาตโก, เตน อปฺปวาริโต จ, ตสฺส อฺาตกาทิโก ภิกฺขุนา วิฺตฺโต โส ตนฺตวาโย อกปฺปิโยติ อตฺโถ.
๘๔๙. อกปฺปิเยนาติ ¶ วิฺาปิเตน. วายาเปนฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ, ปฏิลาเภนา’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘วายาเปติ, ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ. ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิย’’นฺติ (ปารา. ๖๓๘).
๘๕๐. กิตฺตเก ¶ วีเต นิสฺสคฺคิยํ โหตีติ อาห ‘‘วิทตฺถิมตฺเต’’ติอาทิ. หตฺถมตฺเตติ รตนมตฺเต. ปทภาชเน ‘‘ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิย’’นฺติ วุตฺตํ, อิธ ‘‘วีเต นิสฺสคฺคิย’’นฺติ กสฺมา อาหาติ? อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา. ตตฺถาปิ ตถา กสฺมา วุตฺตนฺติ? ตทนนฺตรํ อตฺตโน สนฺตกตฺตา วีตวีตฏฺานํ ปฏิลทฺธเมว โหติ, ปทภาชเนปิ อิมินา อธิปฺปาเยน ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิยํ วุตฺตํ, ตสฺมา ยาว จีวรํ วฑฺฒติ, ตาว อิมินา ปมาเณน อาปตฺติโย วฑฺฒนฺติ. ผลเกปิ จาติ เอตฺถ ผลกํ นาม ตุริวีตฏฺานํ, ยตฺถ สํหริตฺวา เปนฺติ. ผลเก ผลเกปิ จ นิสฺสคฺคิยํ วุตฺตนฺติ โยชนา.
๘๕๑. เตเนวาติ วิฺตฺตตนฺตวาเยเนว. กปฺปิยํ สุตฺตนฺติ อวิฺตฺติยา ลทฺธสุตฺตํ. กปฺปิเยน ตนฺตวาเยน อกปฺปิยสุตฺตํ วายาเปนฺตสฺส ตเถว ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.
๘๕๒. เอกนฺตริกโต วา กปฺปิยากปฺปิเยเหว สุตฺเตหิ วีเต ทุกฺกฏนฺติ โยชนา, อนฺตรนฺตรา อกปฺปิยสุตฺตานํ ปสารเณน, วายเนน จ ทุกฺกฏํ โหตีติ อตฺโถ. ทีฆโต วา ติริยโต วา กปฺปิยากปฺปิเยเหว สุตฺเตหิ วีเต ทุกฺกฏนฺติ โยชนา, ทีฆโต กปฺปิยสุตฺตํ ปสาเรตฺวา ติริยํ อกปฺปิยสุตฺเตน วีเต ทุกฺกฏํ โหตีติ อตฺโถ. วาคฺคหเณน วุตฺตวิปริยายโตปิ โยเชตพฺพํ. ทีฆโต อกปฺปิยสุตฺตํ ปสาเรตฺวา ติริยโต กปฺปิยสุตฺเตน ¶ วีเตติ อยเมตฺถ วิปริยาโย. วีเตติ เอตฺถ ‘‘ผลเก ผลเก’’ติ อนุวตฺเตตพฺพํ.
๘๕๓. กปฺปิยากปฺปิเยหิ ตนฺตวาเยหิ กปฺปิยากปฺปิยสุตฺตํ มิสฺเสตฺวา กเต วีเต ผลเก ผลเก ตสฺส ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. เวติ นิปาตมตฺตํ, อถ วา เว ตสฺมึ กเต วีเตติ อตฺโถ.
๘๕๔-๕. เต กปฺปิยากปฺปิยตนฺตวายา ปริจฺเฉทํ ทสฺเสตฺวา วาเรเนว อกปฺปิยสุตฺตํ สเจ วินนฺตีติ โยชนา. อกปฺปิเยน ตนฺตวาเยน วีเต. ฉนฺทานุรกฺขนตฺถํ ‘‘วิเต’’ติ วุตฺตํ. ปมาณสฺมินฺติ วิกปฺปนุปคปจฺฉิมปฺปมาณสฺมึ. ตทูเนติ ตโต วิกปฺปนุปคปจฺฉิมปฺปมาณโต อูเน. อิตเรนาติ กปฺปิยตนฺตวาเยน. อุภยตฺถาติ ปมาณสฺมึ, ตทูเน จ ทุกฺกฏํ เอวาติ โยชนา.
๘๕๖. สเจ ¶ กปฺปิยากปฺปิยตนฺตวายา ทฺเวปิ เวมํ อุภยโกฏิยา คเหตฺวา เอกโตว วินนฺติ วาติ โยชนา. ติริยํ สุตฺตํ ปเวเสตฺวา เยน อาโกเฏนฺโต ฆนภาวํ สมฺปาเทนฺติ, ตํ เวมํ วุจฺจติ.
๘๕๗. สพฺพตฺถ เภเทติ กปฺปิยากปฺปิยสุตฺตตนฺตวาเยหิ กเต ปมาณตทูนเอกนฺตริกทีฆติริยปฺปกาเร สพฺพตฺถ วารเภเท. อาปตฺติเภโทติ อกปฺปิยสุตฺเตหิ อายามวิตฺถารโต อกปฺปิยตนฺตวาเยน วีตปฺปเทเส ปมาณยุตฺเต ปาจิตฺติยํ, อิตรตฺร ทุกฺกฏนฺติ เภโท.
๘๕๘. กปฺปิโย ตนฺตวาโย นาม าตโก วา ปวาริโต วา กปฺปิยมูเลน ปโยชิโต วา.
๘๕๙. ‘‘อนาปตฺติ ¶ จีวรํ สิพฺเพตุํ, อาโยเค, กายพนฺธเน, อํสพทฺธเก, ปตฺตตฺถวิกาย, ปริสฺสาวเน, าตกานํ, ปวาริตานํ, อฺสฺสตฺถาย, อตฺตโน ธเนนา’’ติอาทิกํ (ปารา. ๖๔๐) อนาปตฺติวารํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อนาปตฺตี’’ติอาทิ. อิธ นิทฺทิฏฺโว ลกฺขเณน อนิทฺทิฏฺมฺปิ เวทิตพฺพํ. เอตฺถ จีวรํ สิพฺเพตุํ สุตฺตํ วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. ธนํ นาม ตณฺฑุลาทิ กปฺปิยวตฺถุ. ‘‘ปริสฺสาวเน’’ติอาทีสุ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ, ปริสฺสาวนาทินิมิตฺตํ สุตฺตฺจ ตนฺตวาเย จ วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ.
สุตฺตวิฺตฺติกถาวณฺณนา.
๘๖๐. อปฺปวาริตฺาตีนนฺติ อปฺปวาริตานํ อฺาตีนํ, ‘‘กีทิเสน เต ภนฺเต จีวเรน อตฺโถ, กีทิสํ เต จีวรํ วายาเปมี’’ติ (ปารา. ๖๔๓) ปทภาชเน วุตฺตนเยน อปฺปวาริตานํ อฺาตีนนฺติ อตฺโถ. สเมจฺจาติ อุปคนฺตฺวา. วิกปฺปนฺติ วิสิฏฺํ กปฺปํ อธิกวิธานํ. อาปชฺชตีติ กโรติ, ‘‘อิทํ โข อาวุโส จีวรํ มํ อุทฺทิสฺส วิยฺยติ, อายตฺจ กโรถ, วิตฺถตฺจ อปฺปิตฺจ สุวีตฺจ สุปฺปวายิตฺจ สุวิเลขิตฺจ สุวิตจฺฉิตฺจ กโรถา’’ติอาทินา (ปารา. ๖๔๒) นเยน ทายกานํ อธิปฺปายโต อธิกตรอายตาทิกรณตฺถํ วิธานํ กโรตีติ วุตฺตํ โหติ.
ตตฺถ ¶ อายตนฺติ ทีฆํ. วิตฺถตนฺติ ปุถุลํ. อปฺปิตนฺติ ฆนํ. สุวีตนฺติ สุฏฺุ วีตํ สพฺพฏฺาเนสุ สมํ กตฺวา วีตํ. สุปฺปวายิตนฺติ สุฏฺุ ปวายิตํ สพฺพฏฺาเน สมํ กตฺวา ตนฺเต ปสาริตํ. สุวิเลขิตนฺติ เลขนิยา สุฏฺุ วิลิขิตํ. สุวิตจฺฉิตนฺติ โกจฺเฉน สุฏฺุ วิตจฺฉิตํ, สุวินิทฺโธตนฺติ อตฺโถ.
๘๖๑. สุตฺตวฑฺฒนปฺปการํ ¶ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทีฆายตปฺปิตตฺถายา’’ติ. เตน จ ปทภาชเน ‘‘ตสฺส วจเนน อายตํ วา วิตฺถตํ วา อปฺปิตํ วา กโรติ, ปโยเค ทุกฺกฏํ, ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิยํ โหตี’’ติ (ปารา. ๖๔๓) เอตํ อายตาทิตฺตยเมว วุตฺตํ. สุตฺตวฑฺฒนเก กเตติ เอตฺถ อนนฺตรํ วตฺตพฺเพน ‘‘ปโยเค ทุกฺกฏํ ปฏิลาเภนา’’ติ ปาเสเสน สห โยชนา กาตพฺพา, ทายเกหิ ตุลยิตฺวา ทินฺนปฺปมาณโต สุตฺตํ วฑฺฒิตุํ เตน กเตน สพฺเพนาปิ ปโยเคน ภิกฺขุโน ทุกฺกฏฺจ ปฏิลาเภน นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยฺจ โหตีติ อตฺโถ.
๘๖๒. าตกาทีนํ ตนฺตวาเยสุ จีวเร วิกปฺปํ อาปชฺชนฺตสฺส อนาปตฺตึ วินิทฺทิเสติ โยชนา. อตฺตโน ธเนนาติ เอตฺถ ‘‘ปโยชิเตสู’’ติ เสโส, ตนฺตวาเยสูติ เอตสฺส วิเสสนํ. อตฺตโน ธเนน ปโยชิเตสุ ตนฺตวาเยสุ จีวเร วิกปฺปํ อาปชฺชนฺตสฺส อนาปตฺตึ วินิทฺทิเสติ โยชนา, อตฺตโน สนฺตกํ กปฺปิยวตฺถุํ คเหตฺวา วินนฺเตสุ วิกปฺปํ อาปชฺชนฺตสฺสาติ อตฺโถ. อฺสฺสตฺถาย วินนฺเตสุ วิกปฺปํ อาปชฺชนฺตสฺสาติ สห ปาเสเสน โยชนา ทฏฺพฺพา.
๘๖๓. มหคฺฆํ กตฺตุกามิโน ตนฺตวาเยหิ อปฺปคฺฆํ วายาเปนฺตสฺส อนาปตฺตึ วินิทฺทิเสติ โยชนา.
เปสการกถาวณฺณนา.
๘๖๔. วสฺสํวุตฺเถ ภิกฺขู อุทฺทิสฺสาติ ปุริมิกาย วสฺสูปคเต ภิกฺขู อุทฺทิสิตฺวา. ปวารณาย ปุพฺเพว ยํ จีวรํ ทียตีติ สมฺพนฺโธ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘ทสาหานาคตํ กตฺติกเตมาสิกปุณฺณม’’นฺติ ¶ (ปารา. ๖๔๘) ปาฬิยํ วุตฺตํ มหาปวารณาอุโปสถทิวสสฺส ปุเรตรเมว ปุพฺพกตฺติกมาสสฺส ชุณฺหปกฺขปฺจมิยํ ยํ จีวรํ ‘‘อจฺเจกจีวรํ นาม เสนาย วา คนฺตุกาโม โหตี’’ติอาทินา (ปารา. ๖๔๙) ปทภาชนาคเตสุ คมิกคิลานคพฺภินิอภินวุปฺปนฺนสทฺธาทีสุ ¶ อฺตเรน ทูตํ เปเสตฺวา วา อตฺตนา วา อาคนฺตฺวา ‘‘วสฺสาวาสิกํ ทมฺมี’’ติ วตฺวา ทิยฺยตีติ. ตํ โหตจฺเจกจีวรนฺติ ตํ อจฺจายิกจีวรํ นาม โหติ.
๘๖๕. ปุเร ปวารณาเยวาติ มหาปวารณาย ปุเรตรเมว ปฺจมิโต ปฏฺาย ยสฺมึ กิสฺมิฺจิ ทิวเส. ภาเชตฺวา ยทิ คยฺหตีติ เอตฺถ ‘‘เยนา’’ติ จ น กาตพฺโพติ เอตฺถ ‘‘เตนา’’ติ จ กโรติ เจติ เอตฺถ ‘‘โส วสฺสจฺเฉท’’นฺติ จ สามตฺถิยา ลพฺภติ. ภาเชตฺวา ยทิ เยน คยฺหติ, เตน วสฺสจฺเฉโท น กาตพฺโพ. โส วสฺสจฺเฉทํ กโรติ เจ, ตํ ภาเชตฺวา คหิตจีวรํ สงฺฆิกํ โหตีติ โยชนา, ฉินฺนวสฺเสน ตํ จีวรํ สงฺฆสฺเสว ทาตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๘๖๖. ‘‘อนฺโตสมยเมวา’’ติ อิทํ ‘‘อธิฏฺเตี’’ติอาทีหิ ปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. ปทภาชเน ‘‘จีวรกาลสมโย นาม อนตฺถเต กถิเน วสฺสานสฺส ปจฺฉิโม มาโส, อตฺถเต กถิเน ปฺจมาสา’’ติ วุตฺตสมยพฺภนฺตเรเยว ตํ อจฺเจกจีวรํ.
๘๖๗. กถิเน ตุ อนตฺถเตติ ยสฺมึ กถินํ อนตฺถตํ, ตสฺมึ วิหาเรติ วุตฺตํ โหติ. ตุ-สทฺโท วิเสสตฺถโชตโก. อนธิฏฺาย อวิกปฺเปตฺวา ปริหรียติ เอตฺถ อจฺเจกจีวรนฺติ ปริหาโร, มาโส, เอโก จ โส มาโส ¶ จาติ เอกมาโส, ปุพฺพกตฺติกมาสสฺส ปาฏิปททิวสโต ปฏฺาย ยาว อปรกตฺติกมาสสฺส ปุณฺณมี, อยํ จีวรกาลสมโยติ วุตฺโต มาโส. ทสนฺนํ อหานํ สมาหาโร ทสาหํ, ตํ ปรมํ อธิกํ เอตสฺสาติ ทสาหปรโม, มาโส. ‘‘ทสาหานาคตํ กตฺติกเตมาสิกปุณฺณม’’นฺติ (ปารา. ๖๔๘) ปาฬิยํ วุตฺตปุพฺพกตฺติกปุณฺณมิปริยนฺตทสาหาธิโกติ อตฺโถ. กถิเน อนตฺถเต ตุ ทสาหปรโม เอกมาโสว ตสฺส อจฺจายิกวตฺถสฺส ปริหาโร มโตติ โยชนา.
๘๖๘. อตฺถเต กถิเนติ กถินตฺถตวิหาเรติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺส อจฺจายิกวตฺถสฺสาติ สมฺพนฺโธ. ทสาหปรมา ปฺจ มาสาติ สมฺพนฺโธ. อนตฺถตกถิเน วิหาเร ยถาวุตฺตจีวรกาลสมยสงฺขาตวสฺสานาวสานมาโส จ กถินุทฺธารทิวสสงฺขาตปจฺฉิมกตฺติกกาฬปกฺขปาฏิปทโต ยาว ผคฺคุนมาสปุณฺณมี, ตาว เหมนฺตา จตฺตาโร มาสา จาติ ปฺจ มาสา. ปกาสิตาติ ‘‘อนตฺถเต กถิเน วสฺสานสฺส ปจฺฉิโม มาโส, อตฺถเต กถิเน ปฺจ มาสา’’ติ ¶ (ปารา. ๖๔๙) ทีปิตา. ทสาหปรมาติ วุตฺตตฺโถเยว. อตฺถเต กถิเน ทสาหปรมา ปฺจ มาสา ตสฺส อจฺจายิกวตฺถสฺส ปริหาโร กาโลติ มุนินฺเทน ปกาสิตาติ โยชนา.
อยมุภยตฺถ วุตฺตา ทสาหปรมตา อฏฺกถายํ ‘‘อนตฺถเต กถิเน เอกาทสทิวสาธิโก มาโส, อตฺถเต กถิเน เอกาทสทิวสาธิกา ปฺจ มาสา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๕๐) วุตฺตปาเน ยถา น วิรุชฺฌติ, ตถา วิจาเรตฺวา คเหตพฺพา. เอวฺหิ ปาเ สติ น วิรุชฺฌติ –
‘‘ตสฺสจฺจายิกวตฺถสฺส ¶ , กถิเน ตุ อนตฺถเต;
ปริหาเรกมาเสกา-ทสาหปรโม มโต.
อตฺถเต กถิเน ตสฺส, ปฺจ มาสา ปกาสิตา;
ปริหาโร ทิเนเนกา-ทสาหปรมา ปนา’’ติ.
๘๖๙. ปเมน กถิเนนาติ โยชนา. ‘‘อกฺริยํ อจิตฺต’’นฺติ ปทจฺเฉโท. อกฺริยนฺติ อนฺโตสมเย อธิฏฺานาทิอกรณํ.
อจฺเจกจีวรกถาวณฺณนา.
๘๗๐-๑. ภิกฺขูติ สาสงฺกสมฺมเต สปฺปฏิภเย อารฺกเสนาสเน วสนฺตํ ภิกฺขุมาห. ยถาห ‘‘ยานิ โข ปน ตานิ อารฺกานิ เสนาสนานิ สาสงฺกสมฺมตานิ สปฺปฏิภยานิ, ตถารูเปสุ ภิกฺขุ เสนาสเนสุ วิหรนฺโต’’ติ (ปารา. ๖๕๓). ปุพฺพกตฺติกปุณฺณมํ วสิตฺวาติ สมฺพนฺโธ. ปุพฺพกตฺติกปุณฺณมา นาม อสฺสยุชมาสสฺส ชุณฺหปกฺขปนฺนรสี, เอตฺถ ปน สหจริยนเยน ตทุปลกฺขิตา ปุริมิกา ตโย วสฺสานมาสา วุจฺจนฺติ. ปุณฺณมนฺติ เอตฺถ วาสกิริยาย อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. ปุริมิกาย วสฺสํ อุปคนฺตฺวา อจฺฉินฺนวสฺโส หุตฺวา ตโย มาเส วสิตฺวาติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ยสฺมา ปน โย วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ยาว ปมกตฺติกปุณฺณมํ วสตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๕๓-๖๕๔).
‘‘จีวร’’นฺติ ติณฺณํ จีวรานํ อฺตรํ วุจฺจติ. คาเม เปตฺวาติ สมฺพนฺโธ, เอตฺถ ‘‘กตฺติกปุณฺณม’’นฺติ ¶ จ ‘‘อากงฺขมาโน’’ติ จ เสโส, อปรกตฺติกมาเส กตฺติกโจรภเยน จีวรํ ปฏิสาเมตุกาโม ภิกฺขุ อารฺกเสนาสนสฺส สามนฺตา โคจรคาเม นิกฺขิปิตฺวาติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘อุปวสฺสํ ¶ โข ปน กตฺติกปุณฺณมํ…เป… อากงฺขมาโน ติณฺณํ จีวรานํ อฺตรํ จีวรํ อนฺตรฆเร นิกฺขิเปยฺยา’’ติ (ปารา. ๖๕๓).
‘‘สมนฺตา โคจรคาเม’’ติ อิทํ ‘‘อนฺตรฆเร นิกฺขิเปยฺยาติ สมนฺตา โคจรคาเม นิกฺขิเปยฺยา’’ติ (ปารา. ๖๕๔) ปทภาชเน วุตฺตตฺตา วุตฺตํ. ‘‘อปรกตฺติกมาเส’’ติ จ ‘‘กตฺติกปุณฺณมนฺติ กตฺติกจาตุมาสินี วุจฺจตี’’ติ (ปารา. ๖๕๔) ปทภาชนิยวเสน วุตฺตํ. อิธาปิ หิ ‘‘กตฺติกปุณฺณม’’นฺติ อปรกตฺติกชุณฺหปกฺขปนฺนรสิยา วุจฺจมานายาปิ สหจริยนเยน ตํสหจริโต จตุตฺโถ มาโส วุตฺโต.
เอตฺตาวตา ปุริมิกาย วสฺสํ อุปคนฺตฺวา มหาปวารณาย ปวาเรตฺวา วุตฺตลกฺขเณ อารฺกเสนาสเน วสนฺตสฺส อารฺกสฺส ภิกฺขุโน ปจฺฉิมกตฺติกมาเส กตฺติกโจรภเย สติ ติณฺณํ จีวรานํ อฺตรํ โคจรคาเม เปตฺวา อารฺกงฺคํ ปูรยโต จีวเรน วิปฺปวาโส ตสฺมึ มาเส น โหตีติ อนฺุาตภาโว ทีปิโต. ตเทว ปกาเสตุํ นิกฺเขโปปายสนฺทสฺสนมุเขน วกฺขติ ‘‘กตฺติเกเยว มาสสฺมึ…เป… วฏฺฏตี’’ติ.
อิทานิ อสฺมึเยว มาเส ตโต อฺตฺถ ตสฺส ภิกฺขุโน เกนจิ กรณีเยน คจฺฉโต คาเม ปิเตน เตน จีวเรน วิปฺปวสโต นิทฺโทสภาวํ อนุชานนฺเตน ภควตา ‘‘สิยา จ ตสฺส ภิกฺขุโน…เป… เตน จีวเรน วิปฺปวสิตพฺพ’’นฺติ (ปารา. ๖๕๓) วุตฺตมตฺถํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปจฺจเย…เป… สมฺมุติ’’นฺติ. ปจฺจเย สติ ตาทิเสติ ‘‘สิยา ปจฺจโย, สิยา กรณีย’’นฺติ (ปารา. ๖๕๔) วจนโต ตาทิเส กิจฺเจ สตีติ อตฺโถ. ฉารตฺตปรมนฺติ ฉ รตฺติโย ปรมา ยสฺส วาสกมฺมสฺส ตํ ฉารตฺตปรมํ, กิริยาวิเสสนํ, ฉารตฺตปรมํ วาสกมฺมํ กาตพฺพนฺติ อตฺโถ. เตน วินา วสิตพฺพนฺติ คาเม นิกฺขิตฺเตน เตน จีวเรน วินา ตมฺหา อาวาสา อฺตฺถ วสิตพฺพํ. ตเทว ¶ ปากฏํ กาตุํ วกฺขติ ‘‘อฺตฺเถว วสนฺตสฺส, ฉารตฺตปรมํ มต’’นฺติ.
ตโตติ ฉารตฺตโต. อุตฺตริ วสโตติ สตฺตมํ อรุณํ อุฏฺาเปตฺวา วสนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ยถาห ¶ ‘‘ตโต เจ อุตฺตริ วิปฺปวเสยฺยาติ สตฺตเม อรุณุคฺคมเน นิสฺสคฺคิย’’นฺติ (ปารา. ๖๕๔). โทโสติ นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยํ. ‘‘วินา สงฺฆสฺส สมฺมุติ’’นฺติ อิมินา กึ วุตฺตํ โหติ? อุโทสิตสิกฺขาปเท อนุปฺตฺตึ กตฺวา โกสมฺพิยํ คิลานภิกฺขุโน ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว คิลานสฺส ภิกฺขุโน ติจีวเรน อวิปฺปวาสสมฺมุตึ ทาตุ’’นฺติ (ปารา. ๔๗๓) อนฺุาตตฺตา คิลานสฺส ภิกฺขุโน สงฺเฆน ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย ปุริมเมว ยา อวิปฺปวาสสมฺมุติ ทินฺนา, ตํ วินาติ วุตฺตํ โหติ. เตน ลทฺธสมฺมุติเกน ยาว โรโค วูปสมฺมติ, ตาว จิรมฺปิ เตน จีวเรน วินา วสิตุํ วฏฺฏตีติ อธิปฺปาโย. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อฺตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยาติ ยา อุโทสิตสิกฺขาปเท โกสมฺพกสมฺมุติ อนฺุาตา, ตสฺสา สมฺมุติยา อฺตฺร. สเจ สา ลทฺธา โหติ, ฉารตฺตาติเรกมฺปิ วิปฺปวสิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๕๓-๖๕๔).
๘๗๒-๓. จีวรนิกฺเขปํ ทสฺเสตุมาห ‘‘กตฺติเกเยว…เป… ปกาสิโต’’ติ. กตฺติเกเยว มาสสฺมินฺติ จตุนฺนํ วสฺสานานํ มาสานํ ปจฺฉิเม กตฺติกมาเสเยว อิทเมกงฺคํ. ปมาย ปวาริโตติ ทุติยมงฺคํ, อิธ ปมาย วสฺสูปนายิกาย วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ปวาริโตติ โยชนา, มหาปวารณาย ปวาริโตติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ปุริมิกาย อุปคนฺตฺวา มหาปวารณาย ปวาริโต โหตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๕๓-๖๕๔). ปจฺฉิเมน ปมาเณน ยุตฺเตติ ตติยมงฺคํ. เสนาสเนติ เอตสฺส วิเสสนํ. อิห อารฺกเสนาสนสฺส ปจฺฉิมปฺปมาณํ ¶ นาม ปากาเรน วา วติยา วา ปริขาย วา ปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อินฺทขีลสงฺขาตคามทฺวารโกฏฺกุมฺมารโต วา อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส ปริกฺเขปารหฏฺานสงฺขาเต ปริยนฺตเคหสฺส อุปจาเร ิตสฺส ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส พลปฺปมาเณน วิสฺสฏฺเลฑฺฑุปาตทฺวยโต วา ปฏฺาย ปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส สปริกฺเขปํ วา อปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ยสฺสํ ทิสายํ คาโม โหติ, ตตฺถ คามปริยนฺตเสนาสนํ วา เจติยํ วา โพธึ วา อวธึ กตฺวา วิหารคมนีเยน ปกติมคฺเคน วิทตฺถิคมฺภีรํ อาโรปิเตน อาจริยธนุนา ปมิตปฺจธนุสตปมาณทูรนฺติ สงฺเขปโต คเหตพฺพํ.
สาสงฺกสมฺมเตติ จตุตฺถมงฺคํ, ‘‘อิห สปฺปฏิภเย’’ติ เสโส. ‘‘สาสงฺกสมฺมตานิ สปฺปฏิภยานี’’ติ (ปารา. ๖๕๓) หิ ปาฬิ. อิทํ ทฺวยมฺปิ ‘‘เสนาสเน’’ติ เอตสฺส วิเสสนํ. อารามอารามูปจาเรสุ โจรานํ นิสินฺนสยิตฏฺิตภุตฺตปีตฏฺานาทีนํ ทิสฺสมานตาย อาสงฺกาสหิเต ตตฺเถว อารามาทีสุ ปหฏมาริตวิลุตฺตมนุสฺสานํ ทิสฺสมานตาย วิเสเสน สหภยตาย ¶ สปฺปฏิภเย อารฺเก เสนาสเนติ อตฺโถ. วสนฺโต ภิกฺขุ. วสนฺโตวาติ เอตฺถ เอวกาโร อฏฺานปฺปยุตฺโต. ตสฺมา ตโต อาเนตฺวา จตุรงฺคสมาโยเค เอวาติ โยเชตพฺโพ. จตุรงฺคสมาโยเค เอวาติ ยถาวุตฺตานํ จตุนฺนํ องฺคานํ สมาโยเค สนฺนิปาเต สติ เอว. เอตฺถ เอวกาเรน ตสฺส องฺคสฺส อภาเว อลพฺภมานตํ ทีเปติ. ปกาสิโตติ ‘‘ตตฺรายํ องฺคสมฺปตฺตี’’ติอาทิกาย (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๕๓-๖๕๔) อฏฺกถาย วุตฺโต.
๘๗๔. ตํ จีวรํ. มาสเมกนฺติ วสฺสานสฺส ปจฺฉิมมาสสงฺขาตํ เอกํ มาสํ. โย คาโม สเจ ปุริมพทฺธาย อวิปฺปวาสสีมาย ¶ อนฺโต โหติ, ตตฺถ มาสโต อติเรกมฺปิ เปตุํ วฏฺฏตีติ (วชิร. ฏี. ปาราชิก ๖๕๓ อตฺถโต สมานํ) วชิรพุทฺธิตฺเถเรน วุตฺตํ.
๘๗๕. อฺตฺเถวาติ ยสฺส อารฺกเสนาสนสฺส โคจรคาเม จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตโต อารฺกเสนาสนโต พหิ เอว. อยํ อธิปฺปาโยติ ‘‘ยํ คาม’’นฺติอาทิกาย ทิยฑฺฒคาถาย ปฏิปาทิตตฺถทฺวยสงฺขาโต อธิปฺปาโย. อสฺสาติ สาสงฺกสิกฺขาปทสฺส. เอวํ อิมินา สิกฺขาปเทน ‘‘จีวเรน วินา กตฺติกมาเส อรฺเ วเสยฺยา’’ติ อนฺุาตตฺตา ‘‘ฉารตฺตปรมํ เตน ภิกฺขุนา เตน จีวเรน วิปฺปวสิตพฺพ’’นฺติ (ปารา. ๖๕๓) อิมินา โคจรคาเม ตํ เปตฺวา ตสฺมึ อารฺกาวาเส วสิตฺวา เกนจิ กรณีเยน ตโต อาวาสโต คนฺตฺวา พหิ วสโต ทิวสปริจฺเฉทสฺส วิฺายมานตฺตาเยวาห ‘‘ปฏิจฺฉนฺโน ปกาสิโต’’ติ.
๘๗๖. ‘‘สเจ โคจรคามโต ปุรตฺถิมาย ทิสาย เสนาสนํ, อยฺจ ปจฺฉิมํ ทิสํ คโต โหตี’’ติอาทินา (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๕๖) อฏฺกถายํ กถิตนิยาเมน วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เสนาสนมถาคนฺตฺวา’’ติอาทิ. เสนาสนนฺติ อตฺตนา นิวุตฺถํ อารฺกเสนาสนํ. อาคนฺตฺวาติ พหิ คตฏฺานโต อาคนฺตฺวา. โคจรคาเม จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา ตโต ปุรตฺถิมาย ทิสาย อารฺกเสนาสเน วิหรโต วิหารา นิกฺขมฺม ตโต โคจรคามโต ปจฺฉิมทิสาย ทูรฏฺานํ คตสฺส อาคตฏฺานโต ตํ เสนาสนํ อาคนฺตฺวา วิทูรตฺตา สตฺตมํ อรุณํ อุฏฺาเปตุํ อสกฺโกนฺตสฺส ภิกฺขุโน กึ วิหิตนฺติ อยเมตฺถ โยชนา.
๘๗๗. คามสีมมฺปิ ¶ วาคนฺตฺวาติ ยตฺถ จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตํ คามสีมมฺปิ ปุรารุณาเยว อาคนฺตฺวา. ยตฺถ กตฺถจีติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๕๖) สภาเทวาลยทฺวารโกฏฺกาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ กปฺปิยฏฺาเน ¶ . ‘‘ยตฺถ กตฺถจี’’ติ สามฺเน วุตฺตตฺตา ตสฺสา คามสีมาย อนฺโต อารฺกงฺคารกฺขนารหํ ทูรฏฺานํ ลทฺธํ เจ, องฺคเภทํ อกตฺวา ตตฺถ อรุณํ อุฏฺาเปตพฺพํ. ธุตงฺเค วิชฺชมาเนปิ อาปตฺตึ อนาปชฺชิตุํ อนฺโตคาเมปิ อรุณํ อุฏฺาเปตฺวา จีวรปวตฺติเยว าตพฺพา. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘คามสีมมฺปิ โอกฺกมิตฺวา สภายํ วา ยตฺถ กตฺถจิ วา วสิตฺวา จีวรปฺปวตฺตึ ตฺวา ปกฺกมิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๕๖).
๘๗๘. เอวฺจาปิ อสกฺโกนฺโตติ องฺคเภทํ อกตฺวา, กตฺวา วา อนฺโตคามสีมาย อรุณํ อุฏฺาเปตุมฺปิ คนฺตุํ อสกฺโกนฺโต. ตฺวาติ อตฺตโน จีวรสฺส ปิตฏฺานํ สลฺลกฺเขตฺวา. ตตฺเถวาติ เอตฺถ ‘‘ิโต’’ติ ลพฺภติ. ขิปฺปนฺติ สีฆํ, ปุรารุณาติ วุตฺตํ โหติ. อติเรเก าเนติ โยชนา, ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อติเรกจีวรฏฺาเน สฺสตี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๖๕๖), ‘‘อติเรกจีวรฏฺาเน ติฏฺตี’’ติ จินฺเตตฺวาติ อตฺโถ.
๘๗๙. วิสฺสชฺเชตีติ สตฺตมอรุณุฏฺานโต ปุเรตรเมว อฺสฺส เทติ. อุปริปิ เอวเมว วตฺตพฺพํ.
๘๘๐. สาสงฺกสมฺมเต เอวํนามเก สิกฺขาปเท สมุฏฺานาทโย สพฺเพ เตน ทุติเยน กถิเนน สมา อิติ มุนินฺเทน มตา อนุมตา อนฺุาตาติ โยชนา.
สาสงฺกกถาวณฺณนา.
๘๘๑. ชานนฺติ ‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ วจเนน ปริณามิตภาวํ เยน เกนจิ อากาเรน ชานนฺโต. ยถาห ปทภาชเน ¶ ‘‘สามํ วา ชานาตี’’ติอาทิ (ปารา. ๖๕๙). ปริณตนฺติ เอตฺถ ปทภาชเน ‘‘ปริณตํ นาม ‘ทสฺสาม กริสฺสามา’ติ วาจา ภินฺนา โหตี’’ติ วุตฺตนิยาเมน สงฺฆสฺส ปริณตนฺติ อตฺโถ. ลาภนฺติ ลภิตพฺพํ จีวราทิ ยํ กิฺจิ. ยถาห ‘‘ลาโภ นาม จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารา, อนฺตมโส จุณฺณปิณฺโฑปิ ทนฺตกฏฺมฺปิ ทสิกสุตฺตมฺปี’’ติ. อตฺตโน ปริณาเมยฺยาติ ‘‘พหู อาวุโส สงฺฆสฺส ทายกา, พหู สงฺฆสฺส ภตฺตา, มยํ ตุมฺเห นิสฺสาย ตุมฺเห สมฺปสฺสนฺตา อิธ วิหราม. ตุมฺเห เจ อมฺหากํ น ทสฺสถ, อถ โก จรหิ อมฺหากํ ทสฺสติ. เทถาวุโส อมฺหากํ อิมานิ จีวรานี’’ติ (ปารา. ๖๕๗) ปาฬิยา ¶ อาคตนเยน อตฺตโน ปริณาเมยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺส นิสฺสคฺคิยนฺติ เอตฺถ ‘‘ปโยเค ทุกฺกฏํ, ปฏิลาเภนา’’ติ เสโส. นิสฺสคฺคิยนฺติ อิทํ ปริณเต ปริณตสฺึ สนฺธาย วุตฺตํ. เวมติกสฺส ปน ทุกฺกฏํ โหติ. ยถาห ‘‘ปริณเต เวมติโก อตฺตโน ปริณาเมติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ. อปริณตสฺิโน อนาปตฺติ. ยถาห ‘‘ปริณเต อปริณตสฺี อตฺตโน ปริณาเมติ, อนาปตฺตี’’ติ.
๘๘๒. ‘‘อฺสฺส เทหี’’ติ สเจ ปริณาเมตีติ ตถา สงฺฆสฺส ปริณตภาวํ ชานนฺโต ‘‘อฺสฺส เทหี’’ติ ยทิ ปริณาเมติ. สุทฺธิกํ ปาจิตฺติยนฺติ นิสฺสชฺชิตพฺพวตฺถุรหิตํ เกวลํ ปาจิตฺติยมตฺตนฺติ อตฺโถ. สุทฺธจิตฺเตนาติ สวาสนานวเสสกิเลสปฺปหาเนน ปริสุทฺธจิตฺเตน ภควตา. ปาจิตฺติยมุทีริตนฺติ ปาจิตฺติเยสุ อฏฺมสฺส สหธมฺมิกวคฺคสฺส อวสาเน ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ชานํ สงฺฆิกํ ลาภํ ปริณตํ ปุคฺคลสฺส ปริณาเมยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๔๙๐) เทสิตํ.
๘๘๓. เอกํ ¶ จีวรนฺติ สงฺฆสฺส ปริณตจีวรโต เอกํ จีวรํ. จีวรํ วาติ เอตฺถ วา-สทฺโท ปจฺจยนฺตรวิกปฺปตฺโถ. วา ปนาติ เอตฺถ วา-สทฺโท อตฺถวิกปฺปตฺโถ. เอกํ จีวรํ วา อฺํ วา ปจฺจยํ ปรสฺส, เอกํ ปน อตฺตโน วา ปริณาเมยฺย เจติ โยชนา. สทฺธินฺติ เอกโต, เอกกฺขเณติ วุตฺตํ โหติ. ทฺเว ปาจิตฺติโย สทฺธึ สิยุนฺติ โยชนา, อฺสฺส ปริณามเนน สุทฺธปาจิตฺติยฺจ อตฺตโน ปริณามเนน นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยฺจาติ ทฺเว ปาจิตฺติโย เอกกฺขเณ โหนฺตีติ อตฺโถ.
๘๘๔. ปริณาเมตฺวา ปิเต วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา ปริจฺจชิตฺวา ทินฺเน วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สงฺฆสฺสา’’ติอาทิ. ‘‘ปราชโย’’ติ อิทํ ปาทปฺปโหนกํ วตฺถุํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยถาวตฺถุวเสน ปน ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยาปิ วตฺตพฺพา.
๘๘๕. อฺสฺส เจติยสฺส โปณํ ปริณตํ อฺสฺส เจติยสฺส วา สงฺฆสฺส วา ปุคฺคลสฺส วาปิ ปน ปริณาเมยฺยาติ โยชนา. สงฺฆสฺส ปุคฺคลสฺสาติ ปททฺวเยปิ เอวเมว โยเชตพฺพํ. ยถาห ‘‘สงฺฆสฺส ปริณตํ อฺสงฺฆสฺส วา เจติยสฺส วา ปุคฺคลสฺส วา ปริณาเมติ ¶ , อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติอาทิ (ปาจิ. ๔๙๒). อฺสฺส ปุคฺคลสฺส โปณํ อฺสฺส ปุคฺคลสฺส ปริณาเมยฺยาติ.
๘๘๖. อิมสฺส สพฺพสตฺตวิสยตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘โย ปนา’’ติอาทิ.
๘๘๗. อิทํ ปริณตสิกฺขาปทํ. ติสมุฏฺานนฺติ กายจิตฺตวาจาจิตฺตกายวาจาจิตฺตสงฺขาเตหิ ตีหิ สจิตฺตกสมุฏฺาเนหิ สมุฏฺานโต ติสมุฏฺานํ. ปริณามนปจฺจยา อาปชฺชิตพฺพโต กฺริยํ. สงฺฆาทีนํ ปริณตนฺติสฺาย อภาเวน ¶ วิมุจฺจนโต สฺาวิโมกฺขํ. กายวิฺตฺติวจีวิฺตฺตีหิ ปริณาเมตพฺพโต กายกมฺมํ วจีกมฺมํ.
ปริณตกถาวณฺณนา.
ปตฺตวคฺโค ตติโย.
๘๘๘. เย อิมํ วินิจฺฉยํ ตรนฺติ, เต ปฺตฺติมหาสมุทฺทํ ตรนฺตีติ โยชนา. ปฺตฺติสงฺขาตํ วินยปิฏกเมว มหาสมุทฺโท วิยาติ ปฺตฺติมหาสมุทฺโท, ตํ. เอวํ สมุทายํ ทสฺเสตฺวา ตทวยเว ทสฺเสตุมาห ‘‘เนกา’’ติอาทิ. เนกานิ นานปฺปการานิ วตฺตานิ เสนาสนวตฺตาทีนิ ขนฺธกาคตานิ อุคฺคา อุตฺตุงฺคา ตรงฺคมาลา มหาวีจิปรมฺปรา ยสฺสาติ วิคฺคโห, นานปฺปการขนฺธกวตฺตสงฺขาตมหาตรงฺคปรมฺปราย สชฺชิตนฺติ อตฺโถ. สีลํ ปาติโมกฺขสํวราทิกเมว อนฺโต เวลาวลโย ยสฺส โส สีลนฺโต, ตํ, ปาติโมกฺขสํวรสีลาทิจตุปาริสุทฺธิสีลเมว ปฏิปาเทตพฺพตาย อนฺตํ เวลาวลยภูตนฺติ อตฺโถ. อาปตฺติโย สตฺตาปตฺติกฺขนฺธา, สีลาจารทิฏฺิอาชีววิปตฺติโย จ คาหกา มกราทโย ยสฺสาติ วิคฺคโห, สีลาจาราชีวทิฏฺิสมฺปตฺติสงฺขาตมุทุสตฺตนาสกอาปตฺติวิปตฺติสงฺขา- ตมาตงฺคมกราทิจณฺฑสตฺตวนฺตนฺติ อตฺโถ. เอวํ อยํ คาถา สมุทายาวยวานํ สพฺเพสเมว รูปกาลงฺกาเรน วิรจิตาติ ทฏฺพฺพา.
อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา
วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย
นิสฺสคฺคิยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.