📜

ปาจิตฺติยกถาวณฺณนา

๘๘๙. เอวํ นาติวิตฺถารสงฺเขปโต นิสฺสคฺคิยวินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตทนนฺตรํ นิทฺทิฏฺสฺส ปาจิตฺติยกณฺฑสฺส วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุํ ‘‘สมฺปชานมุสาวาเท’’ติอาทิ อารทฺธํ. สมฺปชานมุสาวาเทติ อตฺตโน วจนสฺส มุสาภาวํ ตฺวา, อทิฏฺํ ‘‘ทิฏฺ’’นฺติอาทินา นเยน มุสาวาเท สมฺปชานนฺตสฺส มุสาภณเนติปิ อตฺโถ คเหตพฺโพ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ชานิตฺวา ชานนฺตสฺส จ มุสาภณเน’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒). ‘‘มุสาวาเท’’ติ หิ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ, มุสาวาทนิมิตฺตนฺติ อตฺโถ.

ทวา ภณนฺตสฺสาติ โยชนา. อนุปปริกฺขิตฺวา เวเคน ทิฏฺมฺปิ ‘‘อทิฏฺํ เม’’ติ วทนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘ทวา ภณติ นาม สหสา ภณตี’’ติ ปทภาชนีอฏฺกถายํ ‘‘สหสา ภณตีติ อวีมํสิตฺวา อนุปธาเรตฺวา เวเคน ทิฏฺมฺปิ ‘อทิฏฺํ เม’ติ ภณตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑). รวา ภณนฺตสฺสาติ ‘‘จีวร’’นฺติ วตฺตุกามสฺส ‘‘จีร’’นฺติ วจนํ วิย มนฺทตฺตา โมมูหตฺตา ‘‘อฺํ ภณิสฺสามี’’ติ อฺํ ภณนฺตสฺส. ยถาห ‘‘รวา ภณติ นาม ‘อฺํ ภณิสฺสามี’ติ อฺํ ภณตี’’ติ.

๘๙๐. อฺตฺถาติ จตุตฺถปาราชิกาทีสุ. อตฺตนา อลทฺธํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ ‘‘ลทฺธํ มยา’’ติ มุสา ยสฺส ภณติ, เตน ตงฺขณเมว สุตฺวา ตทตฺเถ าเต ปาราชิกสฺส, อฺาเต กาลนฺตเรน าเต จ ปริยายวจเน จ าเต ถุลฺลจฺจยสฺส, ปริยายวจเน อวิฺาเต ทุกฺกฏสฺส, ทุฏฺโทสสิกฺขาปเท ปาราชิกํ อนาปนฺนสฺส ‘‘อาปนฺโน’’ติ มุสาภณเน สงฺฆาทิเสสสฺส, โอมสวาทสิกฺขาปเท ทุพฺภาสิตสฺส จ วุตฺตตฺตา อาห ‘‘มุสาวาทสฺส การณา ปฺจ อาปตฺติโย’’ติ. อิมาย ปาจิตฺติยา สทฺธึ ฉ อาปตฺติกฺขนฺธา โหนฺติ.

สมฺปชานมุสาวาทกถาวณฺณนา.

๘๙๑-๓. วุตฺเตสุ ชาติอาทีสุ ทสสุ อกฺโกสวตฺถูสูติ โยชนา, ปทภาชเน วุตฺเตสุ ชาตินามโคตฺตกมฺมสิปฺปอาพาธลิงฺคกิเลสอาปตฺติอกฺโกสานํ วเสน ทสสุ อกฺโกสวตฺถูสูติ อตฺโถ . เตสุ กิเลสํ วินา สพฺเพเต หีนุกฺกฏฺวเสน ทฺวิปฺปการา โหนฺติ. ยถาห ปทภาชเน ‘‘ชาติ นาม ทฺเว ชาติโย หีนา จ ชาติ อุกฺกฏฺา จ ชาตี’’ติอาทิ.

ตตฺถ จณฺฑาลาทิชาติ หีนา, ขตฺติยพฺราหฺมณชาติโย อุกฺกฏฺา. นาเมสุ อวกณฺณกชวกณฺณกาทินามานิ ทาสนามตฺตา หีนานิ, พุทฺธรกฺขิตาทินามานิ อุกฺกฏฺานิ. โกสิยาทิโคตฺตํ หีนํ, โคตมาทิโคตฺตํ อุกฺกฏฺํ. กมฺเมสุ วฑฺฒกิมณิการาทิกมฺมานิ หีนานิ, กสิวาณิชฺชาโครกฺขกมฺมานิ อุกฺกฏฺานิ. สิปฺเปสุ นฬการกุมฺภการาทิสิปฺปํ หีนํ, มุทฺทาคณนาทิสิปฺปํ อุกฺกฏฺํ. อาพาเธสุ สพฺเพปิ อาพาธา หีนา, อปิจ มธุเมโห ปีฬาชนกตฺตาภาวา อุกฺกฏฺโ. ลิงฺเคสุ อติทีฆตาทโย หีนา, นาติทีฆตาทโย อุกฺกฏฺา. สพฺเพปิ กิเลสา หีนา. สพฺพาปตฺติโยปิ หีนา, อปิจ โสตาปตฺติสมาปตฺติ อุกฺกฏฺา. อกฺโกเสสุ ‘‘โอฏฺโสิ เมณฺโฑสิ โคโณสี’’ติอาทิโก หีโน, ‘‘ปณฺฑิโตสิ พฺยตฺโตสี’’ติอาทิโก อุกฺกฏฺโ.

อฺตฺรฺาปเทเสนาติ ปริยายกถเนน วินา. โอมสนฺตสฺสาติ วจนปโตเทน โอวิชฺฌนฺตสฺส. สมฺพุทฺเธน ปกาสิตาติ ‘‘จณฺฑาโลสิ เวโนสิ เนสาโทสิ รถกาโรสิ ปุกฺกุโสสี’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย วาจาย ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ สามํ สพฺพธมฺมาวโพธโต ‘‘สมฺพุทฺโธ’’ติ ปฺาเตน ภควตา เทสิตา.

๘๙๔. เตเหวาติ ชาติอาทีหิ อกฺโกสวตฺถูเหว. อฺาปเทเสน ภูเตน วา…เป… อาปนฺนเมว วา อนุปสมฺปนฺนํ อกฺโกสนฺตสฺส ทุกฺกฏํ สมฺพุทฺเธน ปกาสิตนฺติ สมฺพนฺโธ. อิธ ภูตาภูตปทานิ เตหีติ อเปกฺขิตฺวา พหุวจนนฺตานิ โยเชตพฺพานิ. เอเตน ‘‘สนฺติ อิเธกจฺเจ’’ติอาทิทุติยวารตฺถํ (ปาจิ. ๒๖) ทสฺเสนฺเตน ทุกฺกฏสาธนตฺเถน ตเทกการิยํ ตติยํ เยนูนวารฺจ จตุตฺถํ น มยนฺติอาทิวารฺจ สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สนฺติ อิเธกจฺเจ’ติ วาเร ปน ปริหริตฺวา วุตฺตภาเวน ทุกฺกฏํ. เอเสว นโย ‘เยนูน…เป… น มย’นฺติ วาเรสุปี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖).

ปาฬิมุตฺตปเทหิปีติ เอตฺถาปิ ตเถว ‘‘ภูเตน วา’’ติอาทีนิ ปทานิ สมฺพนฺธิตพฺพานิ. ‘‘โจโรสิ, คณฺิเภทโกสี’’ติอาทิ ปาฬิมุตฺตปทํ นาม. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ จตูสุ วาเรสุ, ปาฬิมุตฺตปเทสุ จ. วุตฺตฺหิ ‘‘อนุปสมฺปนฺเน ปน จตูสุปิ วาเรสุ ทุกฺกฏเมว. ‘โจโรสิ, คณฺิเภทโกสี’ติอาทิวจเนหิ ปน อุปสมฺปนฺเนปิ อนุปสมฺปนฺเนปิ สพฺพวาเรสุ ทุกฺกฏเมวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖). ‘‘อนุปสมฺปนฺน’’นฺติ อิมินา ‘‘อิมสฺมิฺจ สิกฺขาปเท เปตฺวา ภิกฺขุํ ภิกฺขุนิอาทโย สพฺเพ สตฺตา อนุปสมฺปนฺนฏฺาเน ิตา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖) อฏฺกถายํ วุตฺตา อนุปสมฺปนฺนา สงฺคหิตา. เตเนเวตฺถาปิ วกฺขติ ‘‘ปวิฏฺานุปสมฺปนฺนฏฺาเน อิธ จ ภิกฺขุนี’’ติ.

๘๙๕. ทวกมฺยตาติ เอตฺถ ‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๒, ๒๓, ๔๒๒; อ. นิ. ๖.๕๘; ๙.๙; มหานิ. ๒๐๖; วิภ. ๕๑๘) วิย ย-การโลโป. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ วุตฺตปาจิตฺติยวตฺถูสุ จ ทุกฺกฏวตฺถูสุ จาติ สพฺพตฺเถว. ทุพฺภาสิตมุทีริตนฺติ ‘‘จณฺฑาโลสิ…เป… ปุกฺกุโสสี’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย วาจาย ทุพฺภาสิตสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๒) วุตฺตนฺติ อตฺโถ. ปรมฺมุขา ปน ปาจิตฺติยวตฺถูหิ จ ทุกฺกฏวตฺถูหิ จ อกฺโกสเน ทุกฺกฏเมว. ตถา ทวกมฺยตาย ปรมฺมุขา วทนฺตสฺสาปิ ทุพฺภาสิตเมวาติ อาจริยา วทนฺติ.

๘๙๖-๗. อตฺถํ ปุรกฺขตฺวา วทโต ภิกฺขุสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. ธมฺโม นาม ‘‘จณฺฑาโลสี’’ติอาทิปาฬิเยว. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ปาฬึ วาเจนฺโต ธมฺมปุเรกฺขาโร’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๕). อนุสาสนี นาม ‘‘อิทานิปิ จณฺฑาโลสิ, มา ปาปธมฺมํ อกาสิ, มา ตโม ตมปรายโน อโหสี’’ติอาทินา (ปาจิ. อฏฺ. ๓๕) นเยน อฏฺกถายํ วุตฺตสรูปาเยว อนุสาสนีปุเรกฺขตาย ตฺวา วทนฺตสฺส จิตฺตสฺส ลหุปริวตฺติตภาวโต อนฺตรา โกเธ อุปฺปนฺเนปิ อนาปตฺติ.

เอตฺถาติ อิมสฺมึ โอมสวาทสิกฺขาปเท. ปฏิฆสมฺปยุตฺตจิตฺเตเนว อาปชฺชิตพฺพตฺตา มานสิกทุกฺขเวทนาว โหติ.

โอมสวาทกถาวณฺณนา.

๘๙๘. ทุวิธาการโต ภิกฺขุเปสุฺเ อาปตฺติ สิยาติ โยชนา. ปิสตีติ ปิสุณา, วาจา , สมคฺเค สตฺเต อวยวภูเต วคฺเค ภินฺเน กโรตีติ อตฺโถ. ปิสุณา เอว เปสุฺํ, ตาย วาจาย สมนฺนาคโต ปุคฺคโล สหจริยนเยน ปิสุโณ, ตสฺส กมฺมํ เปสุฺํ, ภิกฺขูนํ เปสุฺํ ภิกฺขุเปสุฺํ, ตสฺมึ ภิกฺขุเปสุฺเ. ปทภาชเน ‘‘อุปสมฺปนฺโน อุปสมฺปนฺนสฺส สุตฺวา อุปสมฺปนฺนสฺส เปสุฺํ อุปสํหรติ ‘อิตฺถนฺนาโม ตํ ‘จณฺฑาโล…เป… ปุกฺกุโส’ติ ภณตี’ติ อาปตฺติ…เป… ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๙) วุตฺตตฺตา สยํ อุปสมฺปนฺโน หุตฺวา อุปสมฺปนฺนสฺส ชาติอาทีสุ ทสสุ อกฺโกสวตฺถูสุ อฺตเรน อฺํ อุปสมฺปนฺนํ ปรมฺมุขา อกฺโกสนฺตสฺส สุตฺวา ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วกฺขมานสรูเปสุ อตฺตโน ปิยกามตาเภทาธิปฺปายสงฺขาเตสุ ทฺวีสุ การเณสุ อฺตรการณํ ปฏิจฺจ ‘‘อสุโก ตุยฺหํ เอวํ วทตี’’ติ เปสุฺํ หรติ, ตสฺส เปสุฺกถนนิมิตฺตํ ปาจิตฺติยํ โหตีติ อตฺโถ.

ทุวิธาการโตติ เอตฺถ อาการ-สทฺโท การณปริยาโย. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ทฺวีหากาเรหีติ ทฺวีหิ การเณหี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๘). เอตฺถ การณํ นาม อธิปฺปายวิเสโส. ตํ การณํ อธิปฺปายมุเขน ทสฺเสตุมาห ‘‘อตฺตโน’’ติอาทิ. อตฺตโน ปิยกามสฺสาติ อตฺตโน ปิยภาวกามสฺส เปสุฺํ ภณนฺตสฺส, อตฺตโน ปิยภาวํ กามยนฺตสฺสาติ อตฺโถ, ตาทิเสน อธิปฺปาเยนาติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เอวํ อหํ เอตสฺส ปิโย ภวิสฺสามี’’ติ อตฺตโน ปิยภาวํ ปตฺถยมานสฺสา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๘). ปรเภทตฺถิโนปิ วาติ อกฺโกสกสฺส จ อตฺตโน เปสุฺวจนํ สุณนฺตสฺส จาติ อุภินฺนํ เภทํ อิจฺฉนฺตสฺสาติ อตฺโถ, เภทาธิปฺปาเยนาติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ปรสฺส ปเรน เภทํ อิจฺฉนฺตสฺสา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๘).

๘๙๙. ปริยายนเยน อกฺโกสนฺตสฺส วจนสฺส…เป… ทุกฺกฏนฺติ โยชนา, ปริยายอกฺโกสวจนํ สุตฺวา ปรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วทนฺตสฺส ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ โหตีติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘อิตฺถนฺนาโม สนฺติ อิเธกจฺเจ จณฺฑาลา…เป… ภณติ, น โส อฺํ ภณติ, ตํเยว ภณตีติ อาปตฺติ วาจาย วาจาย ทุกฺกฏสฺสา’’ติอาทิ (ปาจิ. ๔๑). ปาฬิมุตฺตนเยน อกฺโกสนฺตสฺส วจนสฺส…เป… ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. เอตฺถ ‘‘โจโรสิ, คณฺิเภทโกสี’’ติอาทินา ทสฺสิโต ปาฬิมุตฺตนโย นาม.

๙๐๐. อนุปสมฺปนฺนสฺส อกฺโกสํ อุปสมฺปนฺนํ หรโตปิ จ ตถา ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. -สทฺเทน อุปสมฺปนฺนสฺส อกฺโกสํ อนุปสมฺปนฺนํ หรโตปิ จ, อนุปสมฺปนฺนสฺส อกฺโกสํ อนุปสมฺปนฺนํ หรโตปิ จ ตถา ทุกฺกฏนฺติ วิกปฺปทฺวยฺจ สมุจฺจิโนติ. ‘‘อิธาปิ ภิกฺขุนึ อาทึ กตฺวา สพฺเพ อนุปสมฺปนฺนา นามา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๘) อฏฺกถาวจนโต ‘‘ภิกฺขุนี’’ติ อุปลกฺขณํ.

๙๐๑. น เจว ปิยกามสฺสาติ ปิยภาวํ อกามยนฺตสฺส จ. น เภทตฺถิโนปิ จาติ เภทํ อนิจฺฉนฺตสฺส จ. ปาปานํ ครหตฺถายาติ เอตฺถ ‘‘เกวล’’นฺติ เสโส. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เอกํ อกฺโกสนฺตํ, เอกฺจ ขมนฺตํ ทิสฺวา ‘อโห นิลฺลชฺโช, อีทิสมฺปิ นาม อายสฺมนฺตํ ปุน วตฺตพฺพํ มฺิสฺสตี’ติ เอวํ เกวลํ ปาปครหิตาย ภณนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๘).

เปสุฺกถาวณฺณนา.

๙๐๓. อฺเนาติ สามเณราทินา. ‘‘ยฺจ ปทํ ยฺจ อนุปทํ ยฺจ อนฺวกฺขรํ ยฺจ อนุพฺยฺชนํ, สพฺพเมตํ ปทโส นามา’’ติ (ปาจิ. ๔๖) ปทภาชเน วุตฺตตฺตา อวยเว สมุทาโยปจารวเสน ‘‘ปิฏกตฺตย’’นฺติ ตเทกเทสปทาทิ เอว วุตฺโตติ คเหตพฺโพ. เอตฺถ ปทาทิสรูปํ อฏฺกถาย เวทิตพฺพํ. วุตฺตฺหิ ตตฺถ ‘‘ปทนฺติ เอโก คาถาปาโท อธิปฺเปโต. อนุปทนฺติ ทุติโย ปาโท. อนฺวกฺขรนฺติ เอเกกมกฺขรํ. อนุพฺยฺชนนฺติ ปุริมพฺยฺชเนน สทิสํ ปจฺฉาพฺยฺชน’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๕). อิทํ คาถามยเทสนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘ยํ กิฺจิ วา เอกมกฺขรํ อนฺวกฺขรํ, อกฺขรสมูโห อนุพฺยฺชนํ, อกฺขรานุพฺยฺชนสมูโห ปทํ, ปมปทํ ปทเมว, ทุติยํ อนุปทนฺติ เอวเมตฺถ นานากรณํ เวทิตพฺพ’’นฺติปิ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๕) วุตฺตํ. อิทํ จุณฺณิยเทสนํ สนฺธาย วุตฺตํ.

ธมฺมนฺติ พุทฺธภาสิตาทิปาฬิธมฺมํ. ปฏิสมฺภิทายฺหิ ธมฺมปฺจเก ปาฬิปิ ธมฺโมติ วุตฺตา. ธมฺมปฺจกํ นาม ผลนิพฺพตฺตโก เหตุ, อริยมคฺโค, ภาสิตํ, กุสลากุสลํ เจติ เอเต ธมฺมสฺิตาติ นิทฺทิฏฺํ. เอตฺถ หิ ภาสิตนฺติ ปาฬิ วุตฺตา. อฏฺกถานิสฺสิโตปิ เอตฺเถว สงฺคหํ คจฺฉติ. โส จ ปุพฺเพ มคธภาสาย ิโต สงฺคีติตฺตยารุฬฺโห คเหตพฺโพ.

‘‘สห ภณนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ สิยา’’ติ อิมินา ‘‘เอกโต ปฏฺเปตฺวา เอกโต โอสาเปนฺตี’’ติอาทินา (ปาจิ. ๔๖) ปทภาชนาคตนเยน อนุปสมฺปนฺเนน สทฺธึ อารภิตฺวา เอกโต อุจฺจารณวเสน ปทํ วา อนุปทํ วา อนฺวกฺขรํ วา อนุพฺยฺชนํ วา วทโต ปทาทิคณนาวเสน ปาจิตฺติยนฺติ วุตฺตํ โหติ.

๙๐๔. สงฺคีตึ อนารุฬฺเหสุ ธมฺเมสุ ราโชวาทาทโย สุตฺตนฺตา อาปตฺติชนกาเยวาติ มหาปจฺจริยาทิสุ วุตฺตาติ โยชนา. ราโชวาโท นาม เอโก สุตฺตนฺโต. อาทิ-สทฺเทน ติกฺขินฺทฺริยาทิสุตฺตนฺตา คหิตา.

๙๐๕. ภิกฺขุสฺมิมฺปิ ภิกฺขุนิยาปิ จ อนุปสมฺปนฺนสฺิโน, วิมติสฺส วา ภิกฺขุสฺส ตถา ปทโสธมฺเม ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา.

๙๐๖-๗. เอกโต อุทฺทิสาเปตีติ เอกโต อุทฺเทสํ คณฺหนฺเตหิ อนุปสมฺปนฺเนหิ สทฺธึ อุจฺจารณวเสน อุทฺทิสาเปติ. สชฺฌายํ วา กโรตีติ ตถา เอกโต สชฺฌายติ.

‘‘สเจ เอกคาถาย เอโก ปาโท น อาคจฺฉติ, เสสํ อาคจฺฉติ, อยํ เยภุยฺเยน ปคุณคนฺโถ นาม. เอส นโย สุตฺเตปิ เวทิตพฺโพตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๘) อฏฺกถาวจนโต ปคุณคนฺถนฺติ เอตฺถ ‘‘เยภุยฺเยนา’’ติ เสโส. โอปาเตตีติ ‘‘เอวํ ภณาหี’’ติ เอกโต ภณติ. อุทฺเทสนฺติ อุทฺทิสิตพฺพํ. เตนาติ อนุปสมฺปนฺเนน.

๙๐๘. ยสฺมา อิทํ ปทโสธมฺมสิกฺขาปทํ วาจโต จ สมุฏฺาติ, วาจาจิตฺตทฺวยาปิ จ สมุฏฺาติ, ตสฺมา อิทํ สมุฏฺานํ ปทโสธมฺมสฺิตนฺติ วุตฺตนฺติ โยชนา.

ปทโสธมฺมกถาวณฺณนา.

๙๐๙-๑๐. สพฺพจฺฉนฺนสพฺพปริจฺฉนฺเน เสนาสเน ติสฺสนฺนํ ปน รตฺตีนํ โย ปน ภิกฺขุ รตฺติยํ เปตฺวา ภิกฺขุํ อฺเน สเจ นิปชฺเชยฺย, ตสฺส ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา. ‘‘ยํ กิฺจิ ปฏิจฺฉาทนสมตฺถํ อิธ ฉทนฺจ ปริจฺฉนฺนฺจ เวทิตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๑) อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา ฉทนารหํ อิฏฺกาสิลาสุธาติณปณฺณาทีนํ เยน เกนจิ สพฺพโส ฉาทิตํ เสนาสนํ สพฺพจฺฉนฺนํ. ‘‘ภูมิโต ปฏฺาย ยาว ฉทนํ อาหจฺจ ปากาเรน วา อฺเน วา เกนจิ อนฺตมโส วตฺเถนปิ ปริกฺขิตฺต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๑) อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา เยน เกนจิ ปริกฺขิปิตฺวา ปฏิจฺฉาทิตเสนาสนํ สพฺพปริจฺฉนฺนํ. ‘‘ฉทนํ อนาหจฺจ สพฺพนฺติเมน ปริยาเยน ทิยฑฺฒหตฺถุพฺเพเธน ปาการาทินา ปริกฺขิตฺตาปิ สพฺพปริจฺฉนฺนาเยวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๑) กุรุนฺทฏฺกถายํ วุตฺตํ, ตํ ‘‘ทิยฑฺฒา’’ติอาทินา วกฺขติ.

เอวํ สพฺพจฺฉนฺนสพฺพปริจฺฉนฺเน เอกสฺมึ เสนาสเน โย ภิกฺขุ อุปสมฺปนฺนโต อฺเน เอเกน วา อเนเกหิ วา ติรตฺตํ สหเสยฺยํ กปฺเปตฺวา จตุตฺถรตฺตึ อาทึ กตฺวา สพฺพรตฺตีสุ สูริยตฺถงฺคมโต ปฏฺาย สกลรตฺติยํ ปมํ วา ปจฺฉา วา อปุพฺพาจริมํ วา ปิฏฺึ ปสาเรตฺวา สเจ เอกเสนาสเน เสยฺยํ กปฺเปติ, ตสฺส เทวสิกํ ปาจิตฺติยํ โหตีติ อิทํ วิธานํ ‘‘อปิเจตฺถ เอกาวาสาทิกมฺปิ จตุกฺกํ เวทิตพฺพ’’นฺติอาทินา (ปาจิ. อฏฺ. ๕๑) อฏฺกถายํ วุตฺตํ.

‘‘เยภุยฺเยน ปริจฺฉนฺเน ฉนฺเน’’ติ อิมินาปิ เอวเมว โยเชตฺวา อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ‘‘ยสฺสา ปน อุปริ พหุตรํ านํ ฉนฺนํ, อปฺปํ อจฺฉนฺนํ, สมนฺตโต จ พหุตรํ ปริกฺขิตฺตํ, อปฺปํ อปริกฺขิตฺตํ, อยํ เยภุยฺเยนฉนฺนา เยภุยฺเยนปริจฺฉนฺนา นามา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๑) อฏฺกถายํ วุตฺตนเยน เยภุยฺเยน ฉนฺนปริจฺฉนฺนํ เวทิตพฺพํ. อตฺโถ วุตฺตนโยเยว. ‘‘เยภุยฺเยน ปํสุกา’’ติ เอตสฺส อฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๖) ตีสุ ทฺเว เยภุยฺยํ นาม, อิธ ปน ปทโสธมฺเม ‘‘เยภุยฺเยน ปคุณํ คนฺถ’’นฺติ เอตสฺส อฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๘) ‘‘เอกคาถายา’’ติอาทิวิวรเณ วิย จตูสุ ตโยปิ ภาคา เยภุยฺยํ นามาติ เวทิตพฺพํ.

๙๑๑. เมถุนสฺส ปโหนกํ ยํ ปน วตฺถุ ปมปาราชิกาย นิทฺทิฏฺํ อนฺตมโส ติรจฺฉานคเตนปิ, เตน ปมปาราชิกวตฺถุนา ปุคฺคเลน สห นิปชฺชิตฺวา อาปตฺติ สหเสยฺยาปตฺติ โหตีติ โยชนา.

๙๑๒-๓. ‘‘อุโภ วา นิปชฺชนฺตี’’ติ วิกปฺปสฺส ปมคาถาทฺวเยเนว อตฺถโต ทสฺสิตตฺตา ปุพฺพาปริยวเสนปิ สมฺภวนฺตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อนุปสมฺปนฺเน’’ติอาทินา (ปาจิ. ๕๒-๕๔) นเยน ทสฺสิตปกฺขทฺวยํ นิทสฺเสตุมาห ‘‘นิปนฺเน’’ติอาทิ. ‘‘อุฏฺหิตฺวา’’ติ อิทํ วิจฺฉาวเสน คเหตพฺพํ. อนุปสมฺปนฺนคณนายปิ วาติ พหูสุ อนุปสมฺปนฺเนสุ เตสํ คณนาย จ. อนุปสมฺปนฺเนสุ พหูสุ เตสํ คณนาย เอกสฺส ภิกฺขุโน พหู อาปตฺติโย โหนฺตีติ เอวํ ทสฺสเนน อุปสมฺปนฺเนสุ พหูสุ เอกสฺมึ อนุปสมฺปนฺเน สติ เตสฺจ ตสฺส ปโยคคณนาย อาปชฺชิตพฺพา พหู อาปตฺติโย จ อุโภสุปิ พหูสุ เอเกกสฺเสว อุปสมฺปนฺนสฺส อนุปสมฺปนฺนคณนาย พหู อาปตฺติโย จ โหนฺตีติปิ ทสฺสิตํ โหติ.

๙๑๔. เอเกเนว ทฺวาเรน วฬฺชิตพฺพโต เอกูปจาเร สตคพฺเภปิ เสนาสเน อุปสมฺปนฺโน เอกสฺมึ คพฺเภ วสนฺโต อตฺตนา สยนคพฺเภ ทฺวารํ ปิทหิตฺวา วา อปิทหิตฺวา วา จตุตฺถรตฺติยํ สยติ เจ, อุปริมตเล, อวเสสคพฺเภสุ จ สยนฺเตหิ อนุปสมฺปนฺเนหิ ปุพฺเพ วุตฺตอาปตฺตินิยโมเยวาติ ทสฺสนตฺถมาห ‘‘สเจ ปิธายา’’ติอาทิ. คพฺภทฺวารํ อุตฺตรปทโลเปน ‘‘คพฺภ’’นฺติ วุตฺตํ. จตุตฺถทิวเส อตฺถงฺคเต สูริเย นิปชฺชติ, อาปตฺติ สิยาติ โยชนา. ‘‘อนุปสมฺปนฺเนน สหา’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ. อาปตฺติ ปาจิตฺติยํ.

๙๑๕. ทิยฑฺฒหตฺถุพฺเพเธนาติ วฑฺฒกิรตเนน ทิยฑฺฒรตนุพฺเพเธน. ปากาโร นาม นิฏฺิโต. จยนํ นาม วิปฺปกตปากาโรติปิ วทนฺติ. อิมินา จ อาฬินฺทสฺส อคฺคหณตฺถํ ‘‘ทสหตฺถุพฺเพธาปิ ชคติ ปริกฺเขปสงฺขฺยํ น คจฺฉตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๑) อฏฺกถา ปมาณนฺติ วทนฺติ. ชคตีติ อาฬินฺทํ. อาทิ-สทฺเทน ภิตฺติปณฺณาวรณาทิคหณํ.

๙๑๖. ทุสฺสกุฏิยนฺติ วตฺถกุฏิยํ.

๙๑๗. ‘‘สพฺพจฺฉนฺนปริจฺฉนฺนาทิปฺปเภทโต เยภุยฺยาทิปฺปเภทโต’’ติ อาทิ-สทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ. ปเมน อาทิ-สทฺเทน สพฺพจฺฉนฺนเยภุยฺยปริจฺฉนฺนสพฺพจฺฉนฺนอุปฑฺฒปริจฺฉนฺนสพฺพปริจฺฉนฺนเยภุยฺยจฺฉนฺน- สพฺพปริจฺฉนฺนอุปฑฺฒจฺฉนฺนสงฺขาตานิ จตฺตาริ เสนาสนานิ คหิตานิ. คาถาย สรูเปน วุตฺตสพฺพจฺฉนฺนสพฺพปริจฺฉนฺเนน สทฺธึ ปฺจ เสนาสนานิ ทสฺสิตานิ โหนฺติ. ทุติเยน อาทิ-สทฺเทน เยภุยฺยจฺฉนฺนเยภุยฺยปริจฺฉนฺน เยภุยฺยจฺฉนฺนอุปฑฺฒปริจฺฉนฺน เยภุยฺยปริจฺฉนฺนอุปฑฺฒจฺฉนฺนสงฺขาตานิ ตีณิ เสนาสนานิ คหิตานิ. อิเม อฏฺ วิกปฺปา ลพฺภนฺติ. กสฺมา วุตฺตํ ‘‘สตฺต ปาจิตฺติยานี’’ติ? มหาอฏฺกถาย วุตฺตตฺตา. ยถาห ‘‘มหาอฏฺกถายํ ปน ‘สพฺพจฺฉนฺเน เยภุยฺเยนปริจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยํ, สพฺพจฺฉนฺเน อุปฑฺฒปริจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยํ, เยภุยฺเยนจฺฉนฺเน อุปฑฺฒปริจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยํ, สพฺพปริจฺฉนฺเน เยภุยฺเยนจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยํ, สพฺพปริจฺฉนฺเน อุปฑฺฒจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยํ , เยภุยฺเยนปริจฺฉนฺเน อุปฑฺฒจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยํ, ปาฬิยํ วุตฺตปาจิตฺติเยน สทฺธึ สตฺต ปาจิตฺติยานี’ติ วุตฺต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๓).

กสฺมา ปน อฏฺกถายํ ‘‘อฏฺ ปาจิตฺติยานี’’ติ วตฺวา ‘‘สตฺตา’’ติ คณนปริจฺเฉโท กโตติ? นิสฺสนฺเทเห ตาว ‘‘เสยฺยา นาม สพฺพจฺฉนฺนา สพฺพปริจฺฉนฺนา, เยภุยฺเยนจฺฉนฺนา เยภุยฺเยนปริจฺฉนฺนา’ติ (ปาจิ. ๕๒) ปาฬิยํ อาคเตสุ ทฺวีสุ วิกปฺเปสุ เอกสฺมึ วุตฺตปาจิตฺติยํ คเหตฺวา ปาฬิยํ วุตฺเตน ปาจิตฺติเยน ‘สตฺตา’ติ วุตฺต’’นฺติ ปริหาโร ทสฺสิโต. สารตฺถทีปนิยฺจ ‘‘สตฺต ปาจิตฺติยานี’ติ ปาฬิยํ วุตฺตปาจิตฺติยทฺวยํ สามฺโต เอกตฺเตน คเหตฺวา วุตฺตํ. วิสุํ ปน คยฺหมาเน สพฺพจฺฉนฺเน สพฺพปริจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยํ, เยภุยฺเยนจฺฉนฺเน เยภุยฺเยนปริจฺฉนฺเน ปาจิตฺติยนฺติ อฏฺเว ปาจิตฺติยานิ โหนฺตี’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๕๓) ปริหาโร วุตฺโต.

สพฺพเยภุยฺยอุปฑฺฒปเทสุ ฉนฺนปริจฺฉนฺนปเทหิ โยชิเตสุ นว วิกปฺปา สมฺภวนฺติ, เตสุ นวเม อุปฑฺฒจฺฉนฺนอุปฑฺฒปริจฺฉนฺนวิกปฺเป ทุกฺกฏสฺส ทสฺสิตตฺตา ปาริเสสโต อิตเรสุ อฏฺสุ อฏฺ ปาจิตฺติยาเนว สมฺภวนฺติ. อฏฺกถายํ ปน อปฺปกํ อูนมธิกํ วา คุณนูปคํ น โหตีติ กตฺวา ‘‘สตฺตา‘‘ติ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท.

๙๑๘. ‘‘อฑฺฒจฺฉนฺเน อฑฺฒปริจฺฉนฺเน’’ติ โยชนา. ‘‘สพฺพปริจฺฉนฺเน จูฬจฺฉนฺเน’’ติ ยถากฺกเมน โยชนา. อิมินา อฏฺกถาคเตสุ ปฺจสุ วิกปฺเปสุ ตติยวิกปฺปํ ทสฺเสตฺวา อาทิ-สทฺเทน สพฺพจฺฉนฺนาทโย เสสวิกปฺปา คหิตา. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สพฺพจฺฉนฺเน จูฬกปริจฺฉนฺเน ทุกฺกฏํ, เยภุยฺเยนจฺฉนฺเน จูฬกปริจฺฉนฺเน ทุกฺกฏํ, สพฺพปริจฺฉนฺเน จูฬกจฺฉนฺเน ทุกฺกฏํ, เยภุยฺเยนปริจฺฉนฺเน จูฬกจฺฉนฺเน ทุกฺกฏํ, ปาฬิยํ อาคตทุกฺกเฏน สห ปฺจ ทุกฺกฏานีหิ วุตฺต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๓). ปาฬิยํ อาคตทุกฺกฏํ นาม อิมิสฺสาเยว คาถาย อาทิมฺหิเยว วุตฺตทุกฺกฏํ. ยถาห ‘‘อุปฑฺฒจฺฉนฺเน อุปฑฺฒปริจฺฉนฺเน อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๕๓).

จูฬจฺฉนฺนาทีนิ เจตฺถ เอวํ เวทิตพฺพานิ – ยสฺส จตูสุ ภาเคสุ เอโก ฉนฺโน, เสสา อจฺฉนฺนา, อิทํ จูฬกจฺฉนฺนํ. ยสฺส ตีสุ ภาเคสุ ทฺเว ฉนฺนา, เอโก อจฺฉนฺโน, อิทํ เยภุยฺเยนจฺฉนฺนํ. ยสฺส ทฺวีสุ ภาเคสุ เอโก ฉนฺโน, เอโก อจฺฉนฺโน, อิทํ อุปฑฺฒจฺฉนฺนํ นาม เสนาสนํ. จูฬปริจฺฉนฺนาทีนิ อิมินา นเยน เวทิตพฺพานิ. ฉนฺนาทีหิปีติ สหตฺเถ กรณวจนํ. ปิ-สทฺโท สมุจฺจยตฺโถ. สพฺพจูฬปริจฺฉนฺนฉนฺนาทีหิ จตูหิปิ สห อฑฺฒจฺฉนฺนปริจฺฉนฺเน ปฺจธา ทุกฺกฏํ ปริทีปิตนฺติ โยชนา.

๙๒๐. สพฺพจฺฉนฺนาทิเกติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ‘‘สพฺพปริจฺฉนฺเน สพฺพอจฺฉนฺเน เยภุยฺเยนอจฺฉนฺเน เยภุยฺเยนอปริจฺฉนฺเน’’ติ (ปาจิ. ๕๔) ปาฬิยํ วุตฺตา อนาปตฺติวารเสสา จ อฏฺกถายํ วุตฺตา ‘‘อุปฑฺฒจฺฉนฺเน จูฬกปริจฺฉนฺเน, อุปฑฺฒปริจฺฉนฺเน จูฬกจฺฉนฺเน , จูฬกจฺฉนฺเน จูฬกปริจฺฉนฺเน’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๓) ตโย อนาปตฺติวารา จ คหิตา.

๙๒๑. นิปนฺเนปีติ เอตฺถ ปิ-สทฺเทน ‘‘ภิกฺขุ นิปนฺเน อนุปสมฺปนฺโน นิสีทติ, อุโภ วา นิสีทนฺตี’’ติ (ปาจิ. ๕๔) ปาฬิยํ วุตฺตปการนฺตเร สมุจฺจิโนติ.

สหเสยฺยกถาวณฺณนา.

๙๒๒. อปิ-สทฺเทน ปเคว มหตฺตริยาติ ทสฺเสติ. สหเสยฺยํ ปกปฺเปยฺยาติ ยถาวุตฺตลกฺขณํ สพฺพจฺฉนฺนสพฺพปริจฺฉนฺนาทิเสนาสนํ ปวิสิตฺวา สูริยตฺถงฺคมโต ปฏฺาย ปุพฺเพ วุตฺตปฺปกาเรเนว ปิฏฺิปฺปสารณลกฺขณํ เสยฺยํ กปฺเปยฺย.

๙๒๓-๔. เทวิยาติ เทวิตฺถิยา. ติรจฺฉานคติตฺถิยาติ โคธาทิกาย. ‘‘เมถุนวตฺถุภูตายา’’ติ อิมินา เมถุนธมฺมสฺส อวตฺถุภูตาย สหเสยฺยาย โทสาภาวํ ทสฺเสติ. วตฺถูนํ คณนายาติ มาตุคามสฺส คณนาย จ ตาสฺจ อตฺตโน จ ปโยคคณนาย จ. อสฺสาติ ภิกฺขุสฺส. มาตุคาเมน ตโย ทิวเส สหเสยฺยาย อิมินา สิกฺขาปเทน อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา จตุตฺถทิวเส สหเสยฺยาย ทฺวีหิปิ สิกฺขาปเทหิ อาปตฺตึ อาปชฺชตีติ เอตฺถ ทุกฺกฏวตฺถุภูตาย อิตฺถิยา ตตฺเถว สหเสยฺยาย อิมินา สิกฺขาปเทน ทุกฺกฏํ อาปชฺชิตฺวา จตุตฺถทิวเส รตฺติยํ สหเสยฺยาย อิมินา สิกฺขาปเทน อาปชฺชิตพฺพทุกฺกเฏน สห ปุริมสิกฺขาปเทน ปาจิตฺติยํ อาปชฺชตีติ เวทิตพฺพํ.

ทุติยสหเสยฺยกถาวณฺณนา.

๙๒๖. ฉปฺปฺจวาจาหิ อุทฺธํ อิตฺถิยา ธมฺมํ ภณนฺตสฺสาติ สมฺพนฺโธ. อิตฺถิยาติ ‘‘มาตุคาโม นาม มนุสฺสิตฺถี, น ยกฺขี, น เปตี, น ติรจฺฉานคตา, วิฺู ปฏิพลา โหติ สุภาสิตทุพฺภาสิตํ ทุฏฺุลฺลาทุฏฺุลฺลํ อาชานิตุ’’นฺติ ปาฬิยํ วุตฺตมนุสฺสิตฺถิยา. ภณนฺตสฺสาติ วกฺขมานลกฺขณํ ธมฺมํ ฉหิ ปเทหิ อุตฺตริ ภณนฺตสฺส. วิฺุํ ปุริสวิคฺคหํ วินาติ ‘‘วิฺู นาม ปุริสวิคฺคโห ปฏิพโล โหติ สุภาสิตทุพฺภาสิตํ ทุฏฺุลฺลาทุฏฺุลฺลํ อาชานิตุ’’นฺติ (ปาจิ. ๖๔) ปาฬิยํ วุตฺตสวนูปจารคตมนุสฺสปุริสํ วินา. ธมฺมนฺติ วกฺขมานปฺปการสรูปํ เทสนาธมฺมํ.

๙๒๗. คาถามยา, จุณฺณิยคนฺถมยาติ ทุวิธา เทสนา, ตตฺถ คาถามยเทสนาย วาจา นาม คาถาปาทลกฺขณาติ ทสฺเสตุมาห ‘‘คาถาปาโท’’ติอาทิ. จุณฺณิยเทสนายํ ปน วาจาปริจฺเฉโท วิภตฺยนฺตวเสน เวทิตพฺโพ. เตนาห คณฺิปเท ‘‘เอโก คาถาปาโท’ติ อิทํ คาถาพนฺธเมว สนฺธาย วุตฺตํ, อฺตฺถ ปน วิภตฺติอนฺตปทเมว คเหตพฺพ’’นฺติ. ปทโสธมฺมํ นิทฺทิฏฺํ ธมฺมนฺติ ปิฏกตฺตยํ. ‘‘อฏฺกถ’’นฺติ อิมินา สงฺคีติตฺตยารุฬฺหํ โปราณฏฺกถํ คเหตพฺพํ. เตเนว คณฺิปเท วุตฺตํ ‘‘อฏฺกถํ ธมฺมปทชาตกาทิวตฺถุฺจา’’ติ. อิมินาปิ โปราณกํ สงฺคีติอารุฬฺหเมว อฏฺกถํ วุตฺตนฺติ วทนฺติ. อฏฺกถาทิปาํ เปตฺวา ทมิฬาทิภาสนฺตเรน ยถารุจิ กเถตุํ วฏฺฏตีติ.

๙๒๘. ปทาทีนํ วสา ฉนฺนํ วาจานํ อุปริ ธมฺมํ เทเสนฺตสฺสาติ โยชนา. เทเสนฺตสฺสาติ ปทโสธมฺเม วุตฺตลกฺขณปทาทิสรูปาหิ ฉหิ วาจาหิ อุตฺตริ ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส. ปทาทิคณนายาติ ยถาวุตฺตลกฺขณปทอนุปทอนฺวกฺขรอนุพฺยฺชนคณนาย.

๙๒๙. ปุริสวิคฺคหนฺติ มนุสฺสปุริสเวสํ. เอตฺถ ติรจฺฉานคตา นาม เวสนิมฺมานารหา อิทฺธิมนฺตา นาคสุปณฺณา.

๙๓๑. วทโตติ อธิกํ ธมฺมํ ภาสโต.

๙๓๒. อิตฺถิรูปนฺติ มนุสฺสิตฺถิเวสํ. ติรจฺฉานคติตฺถิยาติ วุตฺตสรูปาย ติรจฺฉานคติตฺถิยา.

๙๓๓. สยํ อุฏฺาย นิสีทิตฺวา ปุน ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส อนาปตฺติ ปกาสิตาติ สมฺพนฺโธ. มาตุคามสฺส วา ตถาติ เอตฺถ ‘‘ตถา’’ติ อิมินา วุตฺตปฺปการสฺส คหิตตฺตา อุฏฺาย นิสินฺนสฺส มาตุคามสฺส ปุน ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส อนาปตฺติ ปกาสิตาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อุฏฺายา’’ติอาทินา อิริยาปถปริวตฺตนทสฺสเนน นานาอิริยาปเถปิ อนาปตฺตึ ทีเปติ.

๙๓๔. อฺิสฺสา ปุน อฺิสฺสาติ เอตฺถ ‘‘อาคตาคตายา’’ติ เสโส. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อฺสฺส มาตุคามสฺสาติ เอกิสฺสา เทเสตฺวา ปุน อาคตาคตาย อฺิสฺสาปิ เทเสตีติ เอวํ เอกาสเน นิสินฺโน มาตุคามสตสหสฺสนฺนมฺปิ เทเสตีติ อตฺโถ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๖). อวุตฺตสมุจฺจยตฺเถน -สทฺเทน ‘‘ปฺหํ ปุฏฺโ กเถตี’’ติ (ปาจิ. ๖๖) อิทํ สมุจฺจิโนติ. ‘‘ทีฆนิกาโย กิมตฺถิโย ภนฺเต’’ติ ปฺหํ ปุจฺฉโต มาตุคามสฺส สพฺพํ ทีฆนิกายํ วทโตปิ อนาปตฺติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ปฺหํ ปุจฺฉติ, ปฺหํ ปุฏฺโ กเถตีติ มาตุคาโม ‘ทีฆนิกาโย นาม ภนฺเต กิมตฺถํ ทีเปตี’ติ ปุจฺฉติ, เอวํ ปฺหํ ปุฏฺโ ภิกฺขุ สพฺพํ เจปิ ทีฆนิกายํ กเถติ, อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๖). เอตฺถ จ สพฺพํ เจปิ ทีฆนิกายํ กเถตีติ ยาว น นิฏฺาติ, ตาว ปุนทิวเสปิ กเถติ.

๙๓๕. ธมฺมสฺส เทสนาย, วิฺุมนุสฺสปุริสสฺส อสนฺนิหิตกรเณน จ อาปชฺชิตพฺพโต กฺริยากฺริยํ.

ธมฺมเทสนากถาวณฺณนา.

๙๓๖. มหคฺคตํ รูปารูปชฺฌานํ. ปณีตํ โลกุตฺตรธมฺมํ. ปธานภาวํ นีตนฺติ ปณีตํ. อาโรเจนฺตสฺสาติ ‘‘ปมํ ฌานํ สมาปชฺชามี’’ติอาทินา (ปารา. ๒๐๑) นเยน จตุตฺถปาราชิเก วุตฺตนเยน วทนฺตสฺส. ปรินิพฺพานกาเล จ ปุฏฺกาเล จ ภิกฺขุภิกฺขุนีนํ อตฺตนา ลทฺธสฺส อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส อาโรเจตพฺพตฺตา ‘‘เปตฺวา ภิกฺขุนึ ภิกฺขุ’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘อฺสฺสา’’ติ เสโส. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อุปสมฺปนฺนสฺส ภูตํ อาโรเจตีติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมเมว สนฺธาย วุตฺตํ. ปรินิพฺพานกาเล, หิ อนฺตรา วา อติกฑฺฒิยมาเนน อุปสมฺปนฺนสฺส ภูตํ อาโรเจตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๗). ภูเตติ เอตฺถ ‘‘อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม อาโรจิเต’’ติ วตฺตพฺพํ, นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ, อตฺตโน สนฺตาเน อิมสฺมึ อตฺตภาเว สิทฺธอุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส อาโรจนนิมิตฺตนฺติ อตฺโถ.

๙๓๗. โนเจ ชานาติ โส วุตฺตนฺติ ยสฺส อาโรเจติ, โส สเจ สุตกฺขเณเยว วุตฺตนเยเนว ‘‘เอส ปมชฺฌานสฺส ลาภี’’ติอาทินา นเยน วุตฺตํ โน ชานาติ. ปริยายวจเนติ ‘‘โย เต วิหาเร วสติ, โส ปมสฺส ฌานสฺส ลาภี’’ติ เอวมาทิปริยายวจเน. ยสฺส อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อาโรเจติ, โส สเจ สุตสมนนฺตรํ ‘‘เอส เอวํ วทตี’’ติ วุตฺตํ โน ชานาติ, ตาทิสสฺส อาโรเจนฺตสฺส ภิกฺขุโน โหติ อาปตฺติ ทุกฺกฏนฺติ สมฺพนฺโธ. อสฺส ภูตสฺส ปริยายวจเน จ ภิกฺขุโน อาปตฺติ ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา.

๙๓๘. ตถารูเปการเณ สตีติ ปรสฺส การณภาวํ ตฺวาปิ ปฏิปตฺติยา อโมฆภาวทสฺสนสมุตฺเตชนสมฺปหํสนาทิกรสงฺขาเต การเณ สติ. สพฺพสฺสาปีติ อุปสมฺปนฺนานุปสมฺปนฺนสฺส สพฺพสฺส. สีลาทินฺติ สีลสุตปริยตฺติคุณํ. วทโตติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขุโน’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ.

๙๓๙. ตทสมฺภวาติ ทิฏฺิสมฺปนฺนสฺส อุมฺมาทาทีนํ อสมฺภวา. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ทิฏฺิสมฺปนฺนานํ อุมฺมาทสฺส วา จิตฺตกฺเขปสฺส วา อภาวาติ. มหาปจฺจริยมฺปิ หิ วิจาริต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๗). อุมฺมตฺตกปทสฺส อวจเน การณํ วทนฺเตเนว ขิตฺตจิตฺตาทิปทานํ อวจเน การณฺจ อุปลกฺขณโต ทสฺสิตเมวาติ ทฏฺพฺพํ. เอตฺถ จ มคฺคผลทิฏฺิยา สมนฺนาคตานํ อริยานเมว หิ อุมฺมตฺตกาทิภาโว นตฺถิ. ฌานลาภิโน ปน ตสฺมึ สติ ฌานา ปริหายนฺติ, ตสฺมา เตสํ อภูตาโรจนปจฺจยา อนาปตฺติ วตฺตพฺพา, น ภูตาโรจนปจฺจยา.

๙๔๐. อิมิสฺสาปตฺติยา อฺตฺร ฌานมคฺคาทิลาภีนํ อฺสฺส อสมฺภวา ‘‘กุสลาพฺยากเตเหว ทฺวิจิตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. อิทฺจ อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน อริยปุคฺคเลเยว สนฺธาย วุตฺตํ. ปณฺณตฺตึ อชานนฺตา ปน ฌานลาภี ปุถุชฺชนา นานาวตฺถุมฺหิ โลภวเสน อกุสลจิตฺเตนาปิ น อาโรเจนฺตีติ นตฺถิ, ตสฺมา ‘‘ติจิตฺต’’นฺติ วตฺตพฺพํ สิยา, ตถาปิ พหุเลน กุสลาพฺยากตานเมว สมฺภโวติ เอวํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ทฺวิเวทนํ สุโขเปกฺขาวเสน. อิทฺจ สิกฺขาปทํ ปณฺณตฺติอชานนวเสน อจิตฺตกสมุฏฺานํ โหติ. อริยา เจตฺถ ปณฺณตฺตึ ชานนฺตา วีติกฺกมํ น กโรนฺติ, ปุถุชฺชนา ปน ปณฺณตฺตึ ชานิตฺวาปิ วีติกฺกมํ กโรนฺติ. เต จ สตฺถุโน อาณาวีติกฺกมเจตนาย พลวอกุสลภาวโต ฌานา ปริหายนฺตีติ ทฏฺพฺพํ.

ภูตาโรจนกถาวณฺณนา.

๙๔๑. ภิกฺขุโน ทุฏฺุลฺลํ อาปตฺตึ ภิกฺขุสมฺมุตึ เปตฺวา อนุปสมฺปนฺเน อาโรเจนฺตสฺส ภิกฺขุโน อาปตฺตีติ โยชนา. ทุฏฺุลฺลํ อาปตฺตินฺติ สงฺฆาทิเสโส. นนุ จ ‘‘ทุฏฺุลฺลา นาม อาปตฺติ จตฺตาริ จ ปาราชิกานิ เตรส จ สงฺฆาทิเสสา’’ติ (ปาจิ. ๗๙) ปทภาชเน ปาราชิกสงฺฆาทิเสสา ทสฺสิตา, กสฺมา อิธ สงฺฆาทิเสโสว คหิโตติ? วุจฺจเต – ปาราชิกํ ทุฏฺุลฺลสทฺทตฺถทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, อิธ ปน สงฺฆาทิเสโสเยว ภควตา อธิปฺเปโตติ อฏฺกถายํ วิจาริตเมตํ. วุตฺตฺหิ ตตฺถ ‘‘ปาราชิกานิ ทุฏฺุลฺลสทฺทตฺถทสฺสนตฺถํ วุตฺตานิ, สงฺฆาทิเสสํ ปน อิธ อธิปฺเปต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๗๘). วกฺขติ จ ‘‘อิธ สงฺฆาทิเสสาว, ทุฏฺุลฺลาปตฺติโย มตา’’ติ. อนุปสมฺปนฺเนติ ‘‘ภิกฺขุฺจ ภิกฺขุนิฺจ เปตฺวา อวเสโส อนุปสมฺปนฺโน’’ติ (ปาจิ. ๘๐) ปทภาชเน นิทฺทิฏฺอนุปสมฺปนฺนสฺส อาโรเจนฺตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ.

เปตฺวา ภิกฺขุสมฺมุตินฺติ ‘‘อตฺถิ ภิกฺขุสมฺมุติ อาปตฺติปริยนฺตา น กุลปริยนฺตา’’ติอาทินา (ปาจิ. ๘๐) ปทภาชเน ทสฺสิตํ อภิณฺหาปตฺติกสฺส ภิกฺขุโน อายตึ สํวรตฺถํ หิโรตฺตปฺปชนนตฺถํ อาปตฺติโย วา อุปาสกกุลานิ วา อุภยเมว วา ปริจฺฉินฺทิตฺวา วา อปริจฺฉินฺทิตฺวา วา อาปตฺติโย อาโรเจตุํ สงฺเฆน สงฺฆมชฺเฌ ติกฺขตฺตุํ สาเวตฺวา กตสมฺมุตึ เปตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อภิณฺหาปตฺติกํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา ‘เอวเมส ปเรสุ หิโรตฺตปฺเปนาปิ อายตึ สํวรํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ ตสฺส ภิกฺขุโน หิเตสิตาย ติกฺขตฺตุํ อปโลเกตฺวา สงฺเฆน กาตพฺพา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๐).

๙๔๒. ฆเฏตฺวา วทนฺตสฺเสวาติ เอวกาโร ยถาาเน โยเชตพฺโพ. เอวกาเรน พฺยวจฺฉินฺนมตฺถํ วกฺขติ ‘‘วตฺถุ’’นฺติอาทินา. ‘‘อสุจึ โมเจตฺวา’’ติ อิมินา วตฺถุมาห, ‘‘สงฺฆาทิเสส’’นฺติ อิมินา อาปตฺตึ. วชฺชเมว วชฺชตา. ‘‘ปาจิตฺติยาปตฺตี’’ติ อิมสฺสายํ ปริยาโย. ‘‘อยํ อสุจึ โมเจตฺวา สงฺฆาทิเสสํ อาปนฺโน’’ติ วตฺถุนา สทฺธึ ฆเฏตฺวา อาปตฺตึ วทนฺตสฺส วชฺชตา ปาจิตฺติยาปตฺติ โหตีติ โยชนา.

๙๔๓. สุทฺธสฺสาติ ปาราชิกมนาปนฺนสฺส. วทนฺติ วทนเหตุ, วตฺถุนา สทฺธึ สงฺฆาทิเสสสฺส กถนโตติ อตฺโถ.

๙๔๔. อทุฏฺุลฺลายาติ สงฺฆาทิเสสโต อฺาย อาปตฺติยา. ทุฏฺุลฺลสฺิโนติ สงฺฆาทิเสสสฺิโน. เสสา อาปตฺติโยปิ วาติ สงฺฆาทิเสสํ วินา เสเส ฉฬาปตฺติกฺขนฺเธ.

๙๔๕. ตถาติ ทุกฺกฏํ อติทิสติ. ปฺจธา มตํ อนุปสมฺปนฺนสฺส ทุฏฺุลฺลํ อชฺฌาจารํ อาโรเจนฺตสฺส ตถา ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. อนุปสมฺปนฺนสฺส ปฺจธา มตํ ทุฏฺุลฺลํ อชฺฌาจารนฺติ จ ปาณาติปาตาทิปฺจสิกฺขาปทวีติกฺกมา คหิตา. เกจิ ปน ‘‘สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทโย ปฺจา’’ติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. ปาณาติปาตาทีนิ หิ ทเสว สิกฺขาปทานิ สามเณรานํ ปฺตฺตานิ. เตสํ ปฺตฺเตสุเยว จ สิกฺขาปเทสุ ทุฏฺุลฺลาทุฏฺุลฺลวิจารณา กาตพฺพา, น จ สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทีนิ วิสุํ เตสํ ปฺตฺตานิ อตฺถีติ.

อถ ภิกฺขุโน ทุฏฺุลฺลสงฺขาตานิ สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทีนิ อนุปสมฺปนฺนสฺส กึ นาม โหนฺตีติ? อชฺฌาจาโร นาม โหนฺตีติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สุกฺกวิสฺสฏฺิ…เป… อชฺฌาจาโร นามาติ วุตฺต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๒). อิมินาปิ เจตํ สิทฺธํ ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺส สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทิ ทุฏฺุลฺลํ นาม น โหตี’’ติ. ‘‘อชฺฌาจาโร นามา’’ติ หิ วทนฺโต อนุปสมฺปนฺนสฺส สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทิ เกวลํ อชฺฌาจาโร นาม โหติ, น ปน ทุฏฺุลฺโล นาม อชฺฌาจาโรติ ทีเปติ. ‘‘อชฺฌาจาโร นามา’’ติ จ อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา, อกตฺตพฺพรูปตฺตา จ อนุปสมฺปนฺนสฺส สุกฺกวิสฺสฏฺิอาทีนิ ทณฺฑกมฺมวตฺถุปกฺขํ ภชนฺติ. ตานิ จ อฺสฺส อนุปสมฺปนฺนสฺส อวณฺณกามตาย อาโรเจนฺโต ภิกฺขุ ทุกฺกฏํ อาปชฺชตีติ วทนฺติ. อิธ ปน อนุปสมฺปนฺนคฺคหเณน สามเณรสามเณริสิกฺขมานานํ คหณํ เวทิตพฺพํ.

อทุฏฺุลฺลํ อชฺฌาจารนฺติ โยชนา. ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺสา’’ติ จ อชฺฌาหริตพฺพานิ. อนุปสมฺปนฺนสฺส ยถาวุตฺเตหิ ปฺจสิกฺขาปเทหิ อฺํ วิกาลโภชนาทึ อทุฏฺุลฺลํ อชฺฌาจารํ วา. ยถาห ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺส ทุฏฺุลฺลํ วา อทุฏฺุลฺลํ วา อชฺฌาจาร’’นฺติอาทิ (ปาจิ. ๘๒).

๙๔๖. เกวลํวตฺถุํ วา อาโรเจนฺตสฺสาติ ‘‘อยํ สุกฺกวิสฺสฏฺึ อาปนฺโน’’ติอาทินา นเยน วตฺถุมตฺตํ อาโรเจนฺตสฺส. เกวลํ อาปตฺตึ วา อาโรเจนฺตสฺสาติ ‘‘อยํ ปาราชิกํ อาปนฺโน, อยํ สงฺฆาทิเสสํ อาปนฺโน’’ติอาทินา นเยน อาปตฺติมตฺตํ อาโรเจนฺตสฺส จ. ภิกฺขุสมฺมุติยาติ เอตฺถ วตฺถุนา ฆเฏตฺวา อาปตฺตึ อาโรเจนฺตสฺสาติ คเหตพฺพํ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘อนาปตฺตี’’ติ เอตํ ปรามสติ.

ทุฏฺุลฺลาโรจนกถาวณฺณนา.

๙๔๘. อกปฺปิยํ ปถวินฺติ ปทภาชเน ‘‘ทฺเว ปถวิโย ชาตา จ ปถวี อชาตา จ ปถวี’’ติ (ปาจิ. ๘๖) อุทฺทิสิตฺวา –

‘‘ชาตา นาม ปถวี สุทฺธปํสุ สุทฺธมตฺติกา อปฺปปาสาณา อปฺปสกฺขรา อปฺปกถลา อปฺปมรุมฺพา อปฺปวาลิกา เยภุยฺเยนปํสุกา เยภุยฺเยนมตฺติกา, อทฑฺฒาปิ วุจฺจติ ชาตา ปถวี. โยปิ ปํสุปุฺโช วา มตฺติกาปุฺโช วา อติเรกจาตุมาสํ โอวฏฺโ, อยมฺปิ วุจฺจติ ชาตา ปถวี’’ติ (ปาจิ. ๘๖) จ,

‘‘อชาตา นาม ปถวี สุทฺธปาสาณา สุทฺธสกฺขรา สุทฺธกถลา สุทฺธมรุมฺพา สุทฺธวาลิกา อปฺปปํสุ อปฺปมตฺติกา เยภุยฺเยนปาสาณา เยภุยฺเยนสกฺขรา เยภุยฺเยนกถลา เยภุยฺเยนมรุมฺพา เยภุยฺเยนวาลิกา, ทฑฺฒาปิ วุจฺจติ อชาตา ปถวี. โยปิ ปํสุปุฺโช วา มตฺติกาปุฺโช วา อูนจาตุมาสํ โอวฏฺโ, อยมฺปิ วุจฺจติ อชาตา ปถวี’’ติ (ปาจิ. ๘๖) จ –

นิทฺทิฏฺาสุ ทฺวีสุ ปถวีสุ ชาตปถวิสงฺขาตํ อกปฺปิยปถวึ.

เอตฺถ ปาสาณาทีนํ ลกฺขณํ อฏฺกถายํ ‘‘มุฏฺิปฺปมาณโต อุปริ ปาสาณาติ เวทิตพฺพา, มุฏฺิปฺปมาณา สกฺขรา. กถลาติ กปาลขณฺฑานิ. มรุมฺพาติ กฏสกฺขรา. วาลิกาติ วาลุกาเยวา’’ติ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เยภุยฺเยนปํสุกาทีนํ ลกฺขณํ ‘‘เยภุยฺเยนปํสุกาติ ตีสุ โกฏฺาเสสุ ทฺเว โกฏฺาสา ปํสุ, เอโก ปาสาณาทีสุ อฺตโร โกฏฺาโส’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๖) จ ‘‘อทฑฺฒาปีติ อุทฺธนปตฺตปจนกุมฺภการาวาปาทิวเสน ตถา ตถา อทฑฺฒา’’ติอาทิ อฏฺกถาโต จ เวทิตพฺพํ. ‘‘อปฺปปํสุอปฺปมตฺติกา’’ติ ทฺวีสุปิ ปเทสุ นิทฺเทสรูเปน เยภุยฺเยนปาสาณาทิปทปฺจกํ วุตฺตํ, ตตฺถาปิ อตฺโถ เยภุยฺเยนปํสุปทาทีสุ วุตฺตวิปลฺลาเสน เวทิตพฺโพ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เตสํเยว หิ ทฺวินฺนํ ปเภททสฺสนเมต’’นฺติ (ปาจิ. ๘๖).

ขเณยฺย วาติ เอวรูปํ อกปฺปิยปถวิปเทสํ อนฺตมโส ปาทงฺคุฏฺเนาปิ สมฺมุฺชนิสลากายปิ สยํ วา ขณติ. ขณาเปยฺย วาติ อฺเน วา ‘‘อิทํ ขณาหี’’ติอาทินา อกปฺปิยโวหาเรน ขณาเปยฺย. เภทาเปยฺยาติ ตเถว เภทาเปยฺย. ภินฺเทยฺย วาติ ปสฺสาวธาราทีหิปิ ภินฺเทยฺย. อธิการวเสน วา-สทฺทสฺส สพฺพกิริยาปเทหิ สมฺพนฺโธ ลพฺภตีติ เภทาเปยฺย จาติ เอตฺถ -สทฺโท อิธ อวุตฺตสฺส ‘‘ทหติ วา, ทหาเปติ วา’’ติ ปททฺวยสฺส สมุจฺจยโกติ เวทิตพฺโพ. อนฺตมโส ปตฺตมฺปิ ปจนฺโต สยํ วา ทหติ, อฺเน วา ทหาเปตีติอาทิ อิเมสํ ปทานํ อฏฺกถาวเสน (ปาจิ. อฏฺ. ๘๗) เวทิตพฺพํ. ปาจิตฺติยํ สิยาติ ขณนฺตสฺส, ภินฺทนฺตสฺส จ ปหาเร ปหาเร ปาจิตฺติยํ.

๙๔๙. อาณาเปนฺตสฺส อาณตฺติคณนาย, ทหนฺตสฺส อคฺคิปาตคณนาย โหตีติ อิทํ ‘‘ปหาเร ปหาเร ปาจิตฺติย’’นฺติอาทิอฏฺกถาวจนวเสน เวทิตพฺพํ, อิมเมว ทสฺเสตุมาห ‘‘สยเมวา’’ติอาทิ.

๙๕๐. อาณาเปนฺตสฺสาติ สกึ อาณาเปนฺตสฺส.

๙๕๑. ‘‘ขณาเปยฺยา’’ติ สามฺวจนสฺส อปวาททสฺสนตฺถํ ‘‘ขณ โปกฺขรณิ’’นฺติอาทิมาห. โกจิ โทโส น วิชฺชตีติ เอตฺถ โปกฺขรณิอาวาฏาทิสทฺทานํ ปถวิปริยายตฺตาภาวโต เอวํวจเนน อนาปตฺตีติ อธิปฺปาโย.

๙๕๒. ‘‘อิมํ อิธา’’ติอาทีนํ ปทานํ ปจฺจกฺขภูตาธิปฺเปตภูมิวาจกตฺตา เตหิ โยเชตฺวา วุตฺตสฺส ตสฺเสว ปโยคสฺส อาปตฺติกรภาวํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อิม’’นฺติอาทิ.

๙๕๓. กนฺทนฺติ ตาลาทิกนฺทํ. กุรุนฺทนฺติ กุลโจจรุกฺขํ. ถูณนฺติ ถมฺภํ. ขาณุกนฺติ สาขาวิฏปรหิตํ รุกฺขาวยวํ. มูลนฺติ ปถวิยา สุปฺปติฏฺิตภาวกรํ รุกฺขาวยวํ. วฏฺฏตีติ อนิยเมตฺวา วจเนน อนาปตฺติภาวโต วฏฺฏติ.

๙๕๔. อิมนฺติ ปจฺจกฺขปรามาสปเทน นิยเมตฺวา วจนโต อาปตฺติ โหตีติ อาห ‘‘นิยเมตฺวาน วตฺตุํ ปน น วฏฺฏตี’’ติ.

๙๕๕. ฆเฏหิ อุสฺสิฺจิตุนฺติ ฆเฏหิ คเหตฺวา อวสิฺจิตุํ. ตนุกทฺทโมติ ชมฺพาโล. พหลํ กทฺทมํ ภิกฺขุนา อปเนตุํ น จ วฏฺฏตีติ โยเชตพฺพํ.

๙๕๖. นทิยาทีนนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน คงฺคากนฺทราทีนํ คหณํ. ‘‘ตฏ’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ. วฏฺนฺติ วุฏฺีหิ โอวฏฺฺจ. จาตุมาสนฺติ วิโกปนกิริยาย อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ, จาตุมาสพฺภนฺตเร วิโกเปตุํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ.

๙๕๗. สเจ โตยสฺมึ ปตติ ตฏนฺติ โยชนา, สเจ กูลํ ภิชฺชิตฺวา อนฺโตอุทเก ปตตีติ. เทเว วุฏฺเปีติ ปชฺชุนฺนเทเว วุฏฺเปิ. วุฏฺ-สทฺโท กตฺตุสาธโน. จาตุมาสมติกฺกนฺเตปีติ โยชนา. ตตฺถ เหตุทสฺสนตฺถมาห ‘‘โตเย เทโว หิ วสฺสตี’’ติ.

๙๕๘. โสณฺฑินฺติ ปาสาณโปกฺขรณึ. ตตฺถ ตูติ อุทกรหิเต ตสฺมึ โสณฺฑิอาวาเฏ.

๙๕๙. อนฺโตจาตุมาสํ โสเธตุํ ภินฺทิตุนฺติ โยชนา. ‘‘โสเธตุํ ภินฺทิตุํ วิโกเปตุ’’นฺติ กิริยาปเทหิ ‘‘รช’’นฺติ กมฺมปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ตํ รโชราสึ เทเว วุฏฺเ ปจฺฉา อุทกสฺส ฉินฺนตฺตา พหลภูมิสุกฺขมฺปิ วุฏฺิปาตทิวสโต ปฏฺาย อนฺโตจาตุมาเส โกเปตุํ ภินฺทิตุํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ.

๙๖๐. ปุณฺเณ โสณฺฑิมฺหิ ตํ รชํ วิโกเปตุํ วฏฺฏติ จาตุมาสโต อุทฺธนฺติ โยชนา.

๙๖๑. ‘‘ผุสายนฺเต’’ติ เอเตน ‘‘เทโว’’ติ อิทํ ภุมฺมวเสน วิปริณาเมตฺวา ‘‘เทเว ผุสายนฺเต’’ติ โยเชตพฺพํ, ปชฺชุนฺนเทเว วุฏฺิปาตํ กโรนฺเตติ อตฺโถ. ปิฏฺิปาสาณเกติ ปาสาณปิฏฺเ. ตมฺปีติ ตถา ปาสาณปิฏฺเ ลคฺคํ ตมฺปิ รชํ.

๙๖๒. อกตปพฺภาโร นาม ยถา เหฏฺาภาโค วุฏฺิผุสิเตหิ น เตมียติ, ตถา นมิตฺวา ิตปพฺพตปฺปเทโส. อิทํ อโนวสฺสกฏฺาเน อุฏฺิตวมฺมิกานํ อุปลกฺขณํ.

๙๖๓. อพฺโภกาเส วุฏฺิโต วมฺมิโก สเจ โอวฏฺโ, กํ จาตุมาสํ วิโกเปตุํ วฏฺฏตีติ สมฺพนฺโธ. จาตุมาสนฺติ วิโกปนกิริยาย อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. รุกฺเขติ จ ถมฺภปาสาณาทีนํ อุปลกฺขณํ. อุปจิกาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน กาฬกิปิลฺลิกาทีนํ คหณํ. โส นโยติ ‘‘โอวฏฺทิวสโต อุตฺตริ จาตุมาสพฺภนฺตเร โกเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ ยถาวุตฺโต นโย.

๙๖๔. มูสิกุกฺกิรํ นาม มูสิกาหิ อุทฺธฏปํสุ. มูสิกานํ อุกฺกิโร มูสิกุกฺกิโรติ วิคฺคโห. โคกณฺฏกํ นาม คุนฺนํ ขุรานํ อุฏฺิตมตฺติกา. คณฺฑุปฺปาทมลํ นาม ภูลตาย มลมตฺติกา. สมฺพนฺธํ ปน ปกติภูมึ อโกเปนฺเตน มตฺถกโต คณฺหิตุํ วฏฺฏติ.

๙๖๕. กสีติ กสิตฏฺานํ, ตตฺถ นงฺคเลน อุทฺธฏมตฺติกา กสินงฺคลมตฺติกา. ‘‘อจฺฉินฺนา’’ติอิมินา ขณฺฑาขณฺฑิกํ กตฺวา อายตํ หุตฺวา ิตมตฺติกาปฏลมฺปิ อชาตปถวี สิยาติ อาสงฺกานิวตฺตนตฺถมาห ‘‘ภูมิสมฺพนฺธา’’ติ. สาติ กสินงฺคลมตฺติกา.

๙๖๖. เสนาสนนฺติ เอตฺถ ‘‘ปุราณ’’นฺติ ปาเสโส คเหตพฺโพ. โอวฏฺํ จาตุมาสโต อุทฺธํ น วิโกปเยติ โยชนา.

๙๖๗. ตโตติ โอวฏฺทิวสโต ปฏฺาย จาตุมาสาติกฺกนฺตเคหโต. ‘‘โคปานสิ’’นฺติ อิมินา โคปานสิมตฺถเก ิตอุปจิกาปํสุมฺหิ ภิชฺชนฺเตปิ อนาปตฺติภาวํ ทีเปติ. ‘‘ภิตฺติ’’นฺติ อิมินา ตเทกเทสํ ภิตฺติปาทาทิทารุมาห. อิทมฺปิ ภิตฺติมตฺติกํ อุปจิกามตฺติกํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘ถมฺภ’’นฺติ อิทมฺปิ ตํสมฺพนฺธปาการภูมิมตฺติกาอุปจิกาทิปํสุํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปทรตฺถรนฺติ อตฺถตปทรํ. อิทมฺปิ ปทรานํ อุปริ มตฺติกาอุปจิกาปํสุํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘โคปานสิ’’นฺติอาทีหิ ปเทหิ ‘‘คณฺหิสฺสามี’’ติ ปจฺเจกํ โยชนียํ. ‘‘คณฺหิสฺสามี’’ติ อิมินา วิโกปนาธิปฺปายาภาวํ ทีเปติ.

๙๖๘. คณฺหนฺตสฺสาติ เอตฺถ อนาทเร สามิวจนํ, ‘‘สุทฺธจิตฺเตนา’’ติ ปาเสโส. อิฏฺกาติ ฉทนิฏฺกา. อาทิ-สทฺเทน ปาสาณสมุทฺทเผณาทีนํ คหณํ. ปตตีติ สุทฺธจิตฺเตน คณฺหนฺเต สเจ มตฺติกา ฉิชฺชิตฺวา ปตติ, อนาปตฺตีติ อตฺโถ. มตฺติกนฺติ ภิตฺติยํ, ฉทเน จ จาตุมาสาธิโกวฏฺมตฺติกํ, อโนวฏฺํ เจ, คณฺหิตุํ วฏฺฏตีติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สเจ ยา ยา อตินฺตา, ตํ ตํ คณฺหาติ, อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๖). ยทิ คณฺหติ, อาปตฺติ สิยาติ โยชนา.

๙๖๙. อตินฺโตติ วสฺโสทเกน อตินฺโต, อิมินา วินิจฺฉิตพฺพวตฺถุํ ทสฺเสติ. ตสฺส อนฺโตเคเห จ พหิ จ สมฺภวโต อนฺโตเคเห ิตสฺส ตาว วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อนฺโตเคเห สเจ สิยา’’ติ. วสฺโสทเกน ตินฺตาตินฺเตสุ ทฺวีสุ มตฺติกาปุฺเชสุ อตินฺตํ ตาว ทสฺเสตุมาห ‘‘อโนวฏฺโ จา’’ติ.

๙๗๐. วสฺโสทเกน ตินฺเต วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘วุฏฺเ ปุน จา’’ติอาทิ. ‘‘วุฏฺเ’’ติ อิมินา ‘‘มตฺติกาปุฺโช’’ติ ปทํ ภุมฺมวเสน วิปริณาเมตฺวา วุฏฺเ มตฺติกาปุฺเชติ โยเชตพฺพํ, ‘‘เอกทิวสมฺปี’’ติ เสโส, เคหสฺมินฺติ เอตฺถ ‘‘ิเต’’ติ วตฺตพฺพํ, เคหสฺมึ ิเต มตฺติกาปุฺเช วสฺโสทเกน เอกทิวสมฺปิ ตินฺเตติ วุตฺตํ โหติ. วกฺขมานนเยน อฺตฺถ ปหริตฺวา อุฏฺิเตน เตน อเตมิตฺวา อุชุกํ ปติเตหิ วสฺสผุสิเตหิ ตินฺเตติ คเหตพฺพํ. สเจ สพฺโพ ตินฺโต โหตีติ โยชนา. ‘‘มตฺติกาปุฺโช’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ.

๙๗๑. ‘‘สพฺโพ’’ติ อิมินา วิเสสเนน พฺยวจฺฉินฺนํ เอกเทสตินฺเต วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ยตฺตก’’นฺติอาทิ. ตุ-สทฺโท อิมเมว วิเสสํ โชเตติ. ยตฺตกนฺติ เหฏฺา อโนตริตฺวา มตฺถกโต, ปริยนฺตกโต จ ยตฺตกปฺปมาณํ. ตตฺถาติ มตฺติกาปุฺเช. ‘‘อกปฺปิย’’นฺติ เอตสฺส ‘‘จาตุมาสจฺจเยนา’’ติ อนุวตฺตติ. ‘‘อตินฺตํ…เป… กปฺปิย’’นฺติ อิมินา อกปฺปิยฏฺานํ ปริหริตฺวา วา กปฺปิยการเกหิ กปฺปิยวจเนน หราเปตฺวา วา อตินฺตํ านํ ยถากามํ วฬฺเชตพฺพนฺติ อยมตฺโถ ทสฺสิโต โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘กปฺปิยการเกหี’’ติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๖).

๙๗๒. วารินาติ อุชุกํ อากาสโต ปติตวสฺโสทเกน. อฺตฺถ ปหริตฺวา ตตฺถ ปติตฺวา เตมิเต วฏฺฏติ. โส มตฺติกาปุฺโช. ตโต ปรนฺติ เอกาพทฺธกาลโต อุตฺตรึ โส มตฺติกาปุฺโช วารินา เตมิโต ภูมิยา เอกาพทฺโธ เจ โหติ, ตโต ปรํ สา ชาตา ปถวี เอว, โกเปตุํ น วฏฺฏตีติ โยชนา.

๙๗๓. ‘‘โอวฏฺโ’’ติ อิมินา อโนวฏฺปากาโร กปฺปิโยติ พฺยติเรกวเสน ทสฺเสติ. ‘‘มตฺติกามโย’’ติ วิเสสเนน อิฏฺกปาการาทึ พฺยวจฺฉินฺทติ. ตสฺส ปน กปฺปิยภาวํ วกฺขติ ‘‘สเจ อิฏฺกปากาโร’’ติอาทินา. ‘‘จาตุมาสจฺจเย’’ติ อิมินา ตโต อนฺโต วิโกปนียภาวํ ทสฺเสติ.

๙๗๔. ตตฺถาติ โอวฏฺเ มตฺติกปากาเร. อฆํสนฺโตวาติ ปาการมตฺติกํ อโกเปนฺโต. มตฺตโส ฉุปิตฺวาติ ปมาณโต มุทุกํ กตฺวา หตฺถตลํ เปตฺวา. อลฺลหตฺเถนาติ อุทกตินฺเตน หตฺถตเลน. หตฺเถกเทโส หตฺโถ นาม.

๙๗๕. เยภุยฺยกถเลาเนติ ปุพฺเพ วุตฺตนเยน ยสฺสา ตีสุ ภาเคสุ ทฺเว ภาคา กถลา โหนฺติ, ตาทิเส กปฺปิยปถวิฏฺาเน.

๙๗๖. อพฺโภกาเสติ อุปลกฺขณตฺตา อนฺโตเคเหปิ ถมฺภํ จาเลตฺวา ชาตปถวึ วิโกเปตุํ น วฏฺฏตีติ ทฏฺพฺพํ. ทฺวีสุปิ าเนสุ สุทฺธจิตฺเตน นิทฺโทสภาวํ ยถาวุตฺเตน ‘‘ถมฺภํ วา ปทรตฺถรํ. คณฺหิสฺสามี’ติ สฺาย, คเหตุํ ปน วฏฺฏตี’’ติ อิมินา นเยนาห. ปถวินฺติ อกปฺปิยปถวึ.

๙๗๗. อุชุมุทฺธรโต น โทโสติ โยชนา.

๙๗๘. อุจฺจาเลตฺวาติ อุกฺขิปิตฺวา จาเลตฺวา ปริวตฺเตตฺวา. ปวฏฺฏตีติ ปวฏฺเฏตฺวา ปวฏฺเฏตฺวา เนตีติ อตฺโถ. สุทฺธจิตฺตสฺสาติ ‘‘ภูมิ ภิชฺชตี’’ติ อสลฺลกฺเขตฺวา ‘‘ปาสาณํ ปวฏฺเฏตฺวา ปวฏฺเฏตฺวา หริสฺสามี’’ติ สุทฺธจิตฺตวโต.

๙๗๙. ภูมิยํ ทารูนิ ผาเลนฺตานมฺปิ ภูมิยํ สาขาทีนิ กฑฺฒโต จาติ โยชนา.

๙๘๐. กณฺฏกนฺติ รุกฺขกณฺฏกํ, มจฺฉกณฺฏกฺจ. สูจิ นาม อโยมยทนฺตมยตมฺพมยกฏฺมยาทิสูจีนํ อฺตรา. อฏฺึ วาติ โคมหึสาทีนํ อฏฺึ วา. หีรํ วาติ นาฬิเกราทิหีรํ วา. อาโกเฏตุนฺติ ยถา เอกโกฏิ ภูมึ ปวิสติ, ตถา ตาเฬตุํ. ปเวเสตุนฺติ ภูมึ คมยิตุํ.

๙๘๑. ปสฺสาวํ มุตฺตํ. เมทนินฺติ เอตฺถ อกปฺปิยปถวิมาห. ภินฺทิสฺสามีติ เอตฺถ ‘‘เอวํ จินฺเตตฺวา’’ติ เสโส.

๙๘๒. กโรนฺตสฺสาติ สุทฺธจิตฺเตน ปสฺสาวํ กโรนฺตสฺสาติโยเชตพฺพํ. ‘‘สมฺมชฺชโต’’ติ อิทํ ‘‘สมฺมชฺชนฺเตนา’’ติ คเหตพฺพํ , ‘‘สมฺมชฺชนิยา’’ติ เสโส, อนนฺตรํ เมทนีปทํ อุปโยควเสน ‘‘เมทนิ’’นฺติ คเหตพฺพํ, ‘‘วิสม’’นฺติ เสโส, ‘‘สมํ กาตุ’’นฺติ อิมินา โยเชตพฺพํ, สมฺมชฺชนฺเตน อุจฺจฏฺานํ มทฺทิตฺวา, อาวาฏฏฺานํ ปเวเสตฺวา สมํ กาตุํ สมฺมชฺชนิยา ฆํเสตุํ น วฏฺฏตีติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘วิสมํ ภูมึ สมํ กริสฺสามีติ สมฺมชฺชนิยา ฆํสิตุมฺปิ น วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๖).

๙๘๓. ปาทงฺคุฏฺเน วาติ เอตฺถ สมุจฺจยตฺเถน วา-สทฺเทน อฏฺกถายํ วุตฺตํ ‘‘กตฺตรยฏฺิยา ภูมึ โกฏฺเฏนฺตี’’ติ อิทํ สงฺคณฺหาติ. ลิขิตุมฺปีติ ราชึ กาตุมฺปิ ภูมึ ภินฺทนฺเตนาติ โยชนา. ปาเทหีติ ปาทตเลหิ.

๙๘๕. ภูมินฺติ อกปฺปิยภูมึ. ทหติ ทหาเปตีติ เอตฺถ ‘‘โย’’ติ จ ‘‘ตสฺสา’’ติ จ สมฺพนฺธวเสน ลพฺภติ. ปตฺตํ ทหนฺตสฺสาติ ฉวิยา ถิรภาวตฺถํ ธูมํ คาหาเปตฺวา ติณุกฺกาทีหิ ปตฺตํ คณฺหนฺตสฺส.

๙๘๖. ตตฺตกาเนวาติ านปฺปมาณาเนว. อิธาปิ ‘‘โย’’ติ จ ‘‘ตสฺสา’’ติ จ สามตฺถิยา ลพฺภติ.

๙๘๗. ภูมิยนฺติ อกปฺปิยภูมิยํ. ปตฺตํ ปจียติ เอตฺถาติ ปตฺตปจนํ, กปาลํ, ตสฺมึ กปาเล.

๙๘๘. โส อคฺคิ ตานิ ทารูนิ ทหนฺโต คนฺตฺวา เจ เอกํเสน ภูมึ ทหติ, ตสฺมา ทารูนํ อุปริ อคฺคึ เปตุํ น วฏฺฏตีติ โยชนา.

๙๘๙. อิฏฺกา อาวปียนฺติ ปจฺจนฺติ เอตฺถาติ อิฏฺกาวาโป, โส เอว อิฏฺกาวาปโก, อิฏฺกาปจนฏฺานํ. อาทิ-สทฺเทน กุมฺภการาวาปาทึ สงฺคณฺหาติ.

๙๙๐. อุปาทียตีติ อุปาทานํ, อินฺธนํ, น อุปาทานํ อนุปาทานํ, อินฺธนโต อฺํ, ตโต อนุปาทานโตติ อตฺโถ. ขาณุเกติ มตขาณุเก จ สุกฺขรุกฺเข จ ภูมิคตํ อทตฺวา ‘‘นิพฺพาเปสฺสามี’’ติ อคฺคิทานํ วฏฺฏติ. ปจฺฉา อุสฺสาเห กเตปิ น นิพฺพายติ, น โทโสติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สเจ ปน ภูมึ อปฺปตฺตเมวา’’ติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๘๗).

๙๙๑. ติณุกฺกนฺติ ติเณน พทฺธอุกฺกํ. ติณุกฺกนฺติ อุปลกฺขณํ. นาฬิเกรปณฺณาทีหิ พทฺธาปิ สงฺคยฺหนฺติ.

๙๙๒. ตสฺส อคฺคิสฺส ปติตฏฺาเน อินฺธนํ ทตฺวา ปุน ตํ อคฺคึ กาตุํ วฏฺฏตีติ มหาปจฺจริยํ รุตํ กถิตนฺติ โยชนา.

๙๙๓. ‘‘ตสฺส อปถวิย’’นฺติ ปทจฺเฉโท. วิมติสฺสุภยตฺถาปีติ ปถวิอปถวิทฺวเยปิ เวมติกสฺส. ตตฺถ ชาตา ปถวี, อิตรา อปถวี.

๙๙๔. อิมนฺติ อาวาฏํ, มตฺติกํ, ปํสุํ วา.

ปถวีขณนกถาวณฺณนา.

มุสาวาทวคฺโค ปโม.

๙๙๕. ภวนฺตสฺสาติ ชายนฺตสฺส, วฑฺฒมานสฺส จ. ภูตสฺสาติ ชาตสฺส, วฑฺฒิตสฺส จาติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ภวนฺติ อหุวุฺจาติ ภูตา, ชายนฺติ วฑฺฒนฺติ, ชาตา วฑฺฒิตา จา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๐). เอตฺถ จ ‘‘ภวนฺตี’’ติ อิมินา วิรุฬฺหมูเล นีลภาวํ อาปชฺชิตฺวา วฑฺฒมานเก ตรุณคจฺเฉ ทสฺเสติ. ‘‘อหุวุ’’นฺติ อิมินา ปน วฑฺฒิตฺวา ิเต มหนฺเต รุกฺขคจฺฉาทิเก ทสฺเสติ. ‘‘ภวนฺตี’’ติ อิมสฺส วิวรณํ ‘‘ชยนฺติ วฑฺฒนฺตี’’ติ, ‘‘อหุวุ’’นฺติ อิมสฺส ‘‘ชาตา วฑฺฒิตา’’ติ. เอวํ ภูต-สทฺโท ปจฺจุปฺปนฺนาตีตวิสโยติ ทสฺเสติ. ‘‘ภวนฺตสฺส ภูตสฺสา’’ติ อิมินา ปททฺวเยน ‘‘ภูตคามสฺสา’’ติ ปทสฺส ตุลฺยาธิกรณตาทสฺสเนน คาม-สทฺทสฺส ทิฏฺิคตวนนฺตาทิสทฺทานํ ทิฏฺิวนาทิสทฺทตฺเถ วิย ภูตสทฺทตฺเถ วุตฺติปกฺขมาห. ยถาห อฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๐) ‘‘ภูตา เอว วา คาโม ภูตคาโม, ปติฏฺิตหริตติณรุกฺขาทีนเมตํ อธิวจน’’นฺติ. ภูตานํ เทวตานํ คาโม นิวาโสติ วา ภูตคาโม. ภูมิยํ ปติฏฺหิตฺวา หิ หริตภาวมาปนฺนา ติณรุกฺขคจฺฉาทโย เทวตาหิ ปริคยฺหนฺตีติ. ชายนฺตสฺส วฑฺฒนฺตสฺส วา สมฺปตฺตวุทฺธิมริยาทสฺส วา รุกฺขาทิโนติ อตฺโถ.

ปาตพฺยตานิมิตฺตนฺติ เอตฺถ ปาตพฺยภาโว ปาตพฺยตา, ‘‘เฉทนเภทนาทีหิ ยถารุจิ ปริภุฺชิตพฺพตาติ อตฺโถ’’ติ อฏฺกถาวจนโต ปาตพฺยตา-สทฺทสฺส ปริภุฺชิตพฺพตาติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ, สา นิมิตฺตํ เหตุ ยสฺส ปาจิตฺติยสฺส ตํ ปาตพฺยตานิมิตฺตํ. รุกฺขาทีนํ เฉทนผาลนาทิวเสน วิโกปนียตาสงฺขาตปาตพฺยตานิมิตฺตํ ปริภุฺชิตพฺพตาเหตุ ปาจิตฺติยํ อุทีริตํ วุตฺตนฺติ อตฺโถ.

๙๙๖-๗. โสติ ภูตคาโม. ติลพีชาทิโกติ ติลพีชเมตฺถ สุขุมปณฺณเสวาลาทิโก. อาทิ-สทฺเทน จ ตาทิสา อิตรา เสวาลชาติ คหิตา. ‘‘อุปริ ขุทฺทานุขุทฺทกปณฺณงฺกุโร, เหฏฺา ขุทฺทานุขุทฺทกมูลงฺกุโร เสวาโล ติลพีชํ นามา’’ติ คณฺิปเท วุตฺตนฺติ. วิโกเปนฺตสฺส ตํ สพฺพนฺติ ภูมิยํ ปติฏฺาย อุทเก ชายมานกเสวาลาทึ ภูมิยา อุปฺปาฏนจฺเฉทนวเสน ชเล เอว ปติฏฺิตํ สุขุมปณฺณนีลิกาทึ อุทกโต อุทฺธรณจฺเฉทนวเสน ตํ สพฺพํ เสวาลํ วิโกเปนฺตสฺสาติ อตฺโถ.

๙๙๘. หตฺเถนวิยูหิตฺวาติ ชลโต อโมเจตฺวา หตฺเถน ทูรโต อปเนตฺวา. ‘‘โหตี’’ติอาทิ ตสฺส เหตุสนฺทสฺสนตฺถํ. สกลํ อนวเสสํ สพฺพํ ชลํ ตสฺส ยสฺมา านํ โหติ, ตสฺมาติ อตฺโถ.

๙๙๙. เจจฺจาติ ชานนฺโต. ตํ เสวาลชาติกํ ชลา อุทฺธริตุํ อุทเกน วินา ภิกฺขุสฺส น วฏฺฏตีติ โยชนา. านสงฺกมนฺหิ ตนฺติ เหตุทสฺสนํ. ตํ ตถากรณํ ยสฺมา านสงฺกมนํ านโต จาวนํ, ตสฺมา ตํ น วฏฺฏตีติ โยชนา.

๑๐๐๐. ยถาวุตฺตสฺส พฺยติเรกํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อุทเกนา’’ติอาทิ. ตตฺถ อุทเกนาติ สหตฺเถ กรณวจนํ. ตํ เสวาลชาติกํ. วาริสูติ เอตฺถ วาสํ วารยนฺตีติ วารี, เตสุ.

๑๐๐๑. ชเล วลฺลิติณาทีนีติ ชลมตฺถเก วลฺลิฺจ ชายมานกรวลฺลิติณาทีนิ จ. อุทฺธรนฺตสฺสาติ ภูมิยํ ปติฏฺิตํ ภูมิโต, อุทเก ปติฏฺิตํ อุทกโต จ อุทฺธรนฺตสฺส. ตตฺถ อนฺตปกฺขํ ทสฺเสตุมาห ‘‘โตยโต’’ติ. วิโกเปนฺตสฺสาติ ขณฺฑนาทิวเสน โกเปนฺตสฺส. ตตฺถาติ ตสฺมึ อุทเก, เอว-กาโร ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ ‘‘ตตฺเถวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๒) อฏฺกถาวจนโต.

๑๐๐๒. เอตฺถาติ อุทเก เอว. วิโกเปนฺตสฺสาติ กปฺปิยํ อการาเปตฺวา เฉทนาทึ กโรนฺตสฺส. ตานีติ ตถา ปเรหิ อุปฺปาฏิตตฺตา ภูตคามภาวโต มุตฺตานิ วลฺลิติณาทีนิ. พีชคาเมนาติ มูลพีชคามาทิวเสน.

๑๐๐๓. เอวํ อุทกฏฺเ สงฺเขปโต วินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อิตรตฺราปิ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ถลฏฺเ’’ติอาทิ. หริตขาณุโกติ เอตฺถ ‘‘โย’’ติ เสโส. ‘‘ตสฺสา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ, กกุธกรฺชาทีนํ ฉินฺนาวสิฏฺขาณุโกติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ภูตคาเมน สงฺคโห’’ติ อิมินา ตํวิโกปเน ปาจิตฺติยภาวํ ทีเปติ. เอวมุปริปิ.

๑๐๐๔. นาฬิเกราทิกานํขาณูติ เอตฺถาปิ ‘‘อุปริหริโต’’ติ สามตฺถิยา ลพฺภติ. ‘‘พีชคาเมน สงฺคโห’’ติ อิมินา ทุกฺกฏวตฺถุตมาห. เอวมุปริปิ. กิฺจาปิ หิ ตาลนาฬิเกราทีนํ ขาณุ อุทฺธํ อวฑฺฒนโก ภูตคามสฺส การณํ น โหติ, ตถาปิ ภูตคามสงฺขาตนิพฺพตฺตปณฺณมูลพีชโต สมฺภูตตฺตา ภูตคามโต อุปฺปนฺโน นาม โหตีติ พีชคาเมน สงฺคหํ คจฺฉติ.

๑๐๐๕. ตถาปกาสิโตติ ‘‘พีชคาโม’’ติ วุตฺโต.

๑๐๐๖. ผลิตา กทลี ยาว นีลปณฺณา, ตาว สา จ ภูตคาโมติ ปกาสิตาติ โยชนา. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘กทลี ปน ผลิตา ยาว นีลปณฺณา, ตาว ภูตคาเมเนว สงฺคหิตา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๒). นฬนฺติ ขุทฺทกเวฬุ. เวฬูติ มหาเวฬุ. ติณาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน สสฺสาทโย คหิตา.

๑๐๐๗. โย อยํ ปน เวฬุ อคฺคโต ปฏฺาย ยทา สุสฺสติ, ตทา โส พีชคาเมน สงฺคหิโต นาม โหตีติ โยชนา. พีชคาเมนาติ ผฬุพีชคาเมน. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘กตรพีชคาเมน? ผฬุพีชคาเมนา’’ติ.

๑๐๐๘. อินฺทสาโล สลฺลกี. อาทิ-สทฺเทน โสภฺชนาทีนํ สงฺคโห. ตุ-สทฺเทน อฏฺกถายํ ‘‘กิฺจาปิ ราสิกตทณฺฑเกหิ รตนปฺปมาณาปิ สาขา นิกฺขมนฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๒) วุตฺตวิเสสํ โชเตติ. ฉินฺทิตฺวา ปิตทณฺฑเกสุ รตนมตฺตาสุปิ สาขาสุ อุฏฺิตาสุ ภูตคามํ อหุตฺวา พีชคามเมว โหติ อวิรุฬฺหมูลกตฺตาติ อยํ วินิจฺฉโย วินยฺุนา าโต กุกฺกุจฺจกานมุปการาย โหตีติ อาห ‘‘วิฺเยฺโย วินยฺุนา’’ติ. อิมเมวตฺถํ ‘‘มูลมตฺเตปิ วา’’ติอาทินา วกฺขติ.

๑๐๐๙. มณฺฑปาทีนมตฺถายาติ มณฺฑปวติปาการาทีนมตฺถาย. สเจ เต นิกฺขณนฺตีติ ยทิ เต อินฺทสาลาทิทณฺฑเก ภูมิยํ นิขณนฺติ. นิคฺคเต มูลปณฺณสฺมินฺติ ตถา นิขาตทณฺฑโต มูเล จ ปณฺเณ จ ชาเต. ภูตคาเมน สงฺคโหติ เอตฺถ ‘‘เตส’’นฺติ สามตฺถิยา ลพฺภติ, ‘‘วิฺเยฺโย’’ติ อธิกาโร.

๑๐๑๐. นิคฺคเตปีติ ตติเยน ปิ-สทฺเทน อติขุทฺทกตํ สูเจติ.

๑๐๑๑. สกนฺทา ตาลฏฺีติ สกนฺทตาลพีชํ. ปตฺตวฏฺฏีติ สูจิสณฺานา องฺกุรปตฺตวฏฺฏิ. น จ พีชคาโมติ วุจฺจตีติ โยชนา. ‘‘ภูตคาโม’’ติ อิทํ ยถาวุตฺตสฺส พฺยติเรกวเสน ทสฺเสติ.

๑๐๑๒. นาฬิเกรตจนฺติ นาฬิเกรผลฉลฺลึ. ทนฺตสูจีวาติ ทนฺตมยสูจิ อิว. โสปีติ นาฬิเกโรปิ. รุกฺขตจสทฺทานํ ผเลสุ วตฺตมานกาเลสุปิ ตํลิงฺคตา น วิรุชฺฌตีติ ‘‘โส’’ติ อาหาติ วิฺายติ.

๑๐๑๓. มิคสิงฺคสมานายาติ หริตวิสาณสทิสาย. ปตฺตวฏฺฏิยาติ องฺกุรปตฺตวฏฺฏิยา. สติยาติ วิชฺชมานาย. ภูตคาโมติ วุจฺจตีติ อมูลกภูตคาโมติ วุจฺจติ. อิทํ นาฬิเกรสฺส อาเวณิกํ กตฺวา วุตฺตํ.

จตุภาณวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐๑๕-๖. อมฺพฏฺีติ อมฺพพีชํ. ชมฺพุฏฺีติ ชมฺพุพีชํ. อาทิ-สทฺเทน มธุกปนสาทิพีชานํ คหณํ. วนฺทากาติ รุกฺขาทนี. อฺํ วาติ ภณฺฑกทลิมโนรหํ วา. อสฺสาติ วนฺทากาทิโน. อมูลวลฺลีติ เอวํนามิกา วลฺลิ.

๑๐๑๗. โส เสวาโลติ โยชนา.

๑๐๑๘. ฆํสิตฺวาติ เยน เกนจิ ฆํสิตฺวา. ตํ เสวาลํ. ตสฺมาติ ตสฺมา ปาการา.

๑๐๑๙. เสวาเล อปนีเต. อนฺโตติ ปานียฆฏาทีนํ อนฺโตกุจฺฉิมฺหิ. กณฺณกํ อพฺโพหารนฺติ โยชนา. ปานียฆฏาทีนํ พหิ เสวาโล อุทเก อฏฺิตตฺตา, พีชคามานุโลมตฺตา จ ทุกฺกฏวตฺถูติ วทนฺติ. กณฺณกํ นีลวณฺณมฺปิ อพฺโพหาริกเมว.

๑๐๒๐. ปาสาณททฺทูติ มนุสฺสสรีเร โรคากาเรน ปาสาเณ ชายมานสฺเสตํ อธิวจนํ. เสวาลนฺติ ปาสาณเสวาลํ. เสเลยฺยกา นาม สิลาย สมฺภูตา เอกา สุคนฺธชาติ. อปตฺตานีติ ปณฺณรหิตานิ.

๑๐๒๑. ปุปฺผิตนฺติ วิกสิตํ. ตํ อหิจฺฉตฺตํ. มกุลนฺติ อวิกสิตํ.

๑๐๒๒. อลฺลสฺมึ รุกฺเข ตจํ วิโกเปตฺวา ยถา คเหตุํ น วฏฺฏติ, ตถา ปปฺปฏิกมฺปิ นิยฺยาสมฺปิ วิโกเปตฺวา คเหตุํ น วฏฺฏตีติ โยชนา, ปาจิตฺติยเมวาติ อธิปฺปาโย. ปปฺปฏิกมฺปีติ อลฺลตจมตฺถเก สุกฺขตจปฏลมฺปิ. ‘‘อลฺลสฺมิ’’นฺติ อิมินา พฺยติเรเกน มตรุกฺเข โทสาภาวํ ทีเปติ. ‘‘ตจํ วิโกเปตฺวา’’ติ วจนโต รุกฺขตจมฺปิ ปปฺปฏิกมฺปิ สาลกปิตฺถาทินิยฺยาสมฺปิ รุกฺเข อลฺลตจํ อวิโกเปตฺวา มตฺถกโต ฉินฺทิตฺวา คเหตุํ วฏฺฏติ.

๑๐๒๓. อกฺขรจฺฉินฺทนารเหสุ นุหิกทลิอาทีสุ รุกฺเขสุ, ตตฺถชาเตสุ ตาลปณฺณาทิเกสุ วา อกฺขรํ ลิขโต ปาจิตฺติยมุทีรเยติ โยชนา. ‘‘ตตฺถชาเตสู’’ติ อิมินา รุกฺขโต อปนีตปณฺเณสุ ลิขิตุํ วฏฺฏตีติ พฺยติเรกโต ทีเปติ.

๑๐๒๔. ‘‘ปกฺกเมว วา’’ติ วิสุํ วจนโต ‘‘ผลํ วา’’ติ อิมินา อปกฺกํ ผลํ คหิตํ.

๑๐๒๕. ผลินึสาขนฺติ ขาทนารหผลวตึ ชมฺพุสาขาทิกํ สาขํ. คณฺหโต อนุปสมฺปนฺนสฺสาติ คเหตพฺพํ. สยํ ขาทิตุกาโม เจติ ตถา โอนมิตฺวา สาขโต โอจินิตฺวา ทินฺนผลํ สเจ สยํ ขาทิตุกาโม โหติ. เอวํ ทาตุนฺติ ยถาวุตฺตปฺปการํ นาเมตฺวา ทาตุํ.

๑๐๒๖. ปรํ กฺจิ อุกฺขิปิตฺวาติ อฺํ กฺจิ อนุปสมฺปนฺนํ อุกฺขิปิตฺวา. ปุปฺผานิ โอจินนฺเตสูติ กุสุมานิ ลุนนฺเตสุ. อยเมว วินิจฺฉโยติ สามฺนิทฺเทเสปิ เอตฺถ อตฺตโน นาเมตฺวา ทินฺนสาขาย ปุปฺผานิ ปานียวาสตฺถาย น คเหตพฺพานิ. อนุปสมฺปนฺนํ อุกฺขิปิตฺวา ปุปฺผานิ โอจินาเปตฺวา คหิตปุปฺผานิ คเหตพฺพานีติ อยเมตฺถ วิเสโส. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เตหิ ปน ปุปฺเผหิ ปานียํ น วาเสตพฺพํ. ปานียวาสตฺถิเกน สามเณรํ อุกฺขิปิตฺวา โอจินาเปตพฺพานี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๒).

๑๐๒๗. ‘‘สาขา’’ติ ภินฺทิตฺวา วา ฉินฺทิตฺวา วา โมจิตา วุจฺจติ. สาขีนนฺติ รุกฺขานํ. นฺติ ยถาวุตฺตรุกฺขโต โมจิตสาขํ. เยสํ รุกฺขานํ สาขา รุหติ, เตสํ สาขีนํ ตํ สาขํ กปฺปิยํ อการาเปตฺวา วิโกเปนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. ‘‘เยสํ รุกฺขานํ สาขา รุหตี’’ติ วุตฺตตฺตา เยสํ สาขา น รุหติ, เตสํ ตสฺสา กปฺปิยกรณกิจฺจํ นตฺถีติ วทนฺติ.

๑๐๒๘. อลฺลสิงฺคิเวราทิเกสุปีติ อาทิ-สทฺเทน วจลสุณาทีนํ คหณํ.

๑๐๒๙. อนิยามโต วฏฺฏเตวาติ โยชนา. นิยามสรูปํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิมํ รุกฺข’’นฺติอาทิวกฺขมานตฺตา อนิยามโตติ สามฺนิทฺเทเส ‘‘อิม’’นฺติ นิยามวจนาภาวโตติ คเหตพฺพํ.

๑๐๓๒. อุจฺฉุขณฺฑานนฺติ ปูรณโยเค สามิวจนํ, อุจฺฉุขณฺเฑหีติ วุตฺตํ โหติ. สพฺพเมวาติ ปจฺฉิยํ ิตํ สพฺพํ ขณฺฑํ. กตํ โหตีติ กตํ กปฺปิยํ โหติ. เอกสฺมึ กปฺปิเย กเตติ ปจฺฉิยํ สพฺพขณฺเฑสุ ผุสิตฺวา ิเตสุ เอกสฺมึ ขณฺเฑ กปฺปิเย กเต. ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว ปฺจหิ สมณกปฺเปหิ ผลํ ปริภุฺชิตุํ อคฺคิปริชิตํ สตฺถปริชิตํ นขปริชิตํ อพีชํ นิพฺพฏฺฏพีชํเยว ปฺจม’’นฺติ (จูฬว. ๒๕๐) อิติ วุตฺเตสุ อคฺคิสตฺถนเขสุ อฺตเรน ตตฺต อโยขณฺเฑน วา ชลิตคฺคินา วา สูจิมุเขน วา นขจฺเฉทเนน วา สตฺถกธาราย วา มนุสฺสสีหาทีนํ อุปฺปาฏิตานุปฺปาฏิตอปูตินเขน วา วิชฺฌิตฺวา วา ฉินฺทิตฺวา วา กปฺปิยํ กาตพฺพํ. กโรนฺเตน จ อนุปสมฺปนฺเนน ภิกฺขุนา ‘‘กปฺปิยํ กโรหี’’ติ วุตฺเตเยว ‘‘กปฺปิย’’นฺติ ปมํ วตฺวา ปจฺฉา อคฺคิปริชิตาทิ กากพฺพนฺติ คเหตพฺพํ. วกฺขติ จ ‘‘กปฺปิยนฺติ…เป… วฏฺฏตี’’ติ. ‘‘กปฺปิย’’นฺติ วจนํ ปน ยาย กายจิ วาจาย วตฺตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ. ปมํ อคฺคึ นิกฺขิปิตฺวา นขาทีหิ วา วิชฺฌิตฺวา วา ฉินฺทิตฺวา วา กปฺปิยํ กาตพฺพํ. กโรนฺเตน จ ตํ อนุทฺธริตฺวาว ‘‘กปฺปิย’’นฺติ วตฺวา ปจฺฉา อุทฺธริตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ, ‘‘กปฺปิย’’นฺติ วตฺตุกาโม ‘‘กปฺป’’นฺติ เจ วทติ, วฏฺฏตีติ เกจิ.

๑๐๓๓. ทารุนฺติ อุจฺฉูหิ สทฺธึ เอกโตพทฺธทารุํ. ทารุํ วิชฺฌตีติ เอตฺถ ชานิตฺวาปิ วิชฺฌติ วา วิชฺฌาเปติ วา, วฏฺฏติเยว. ‘‘เอกสิตฺเถปี’’ติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.

๑๐๓๔. ตานิ อุจฺฉุทารูนิ. นฺติ วลฺลึ, รชฺชุํ วา.

๑๐๓๕. มริจปกฺเกหีติ ปริณเตหิ มริจปกฺเกหิ. อปริณตานํ ปน อพีชตฺตา กปฺปิเย อกเตปิ วฏฺฏติ. อิทฺจ เสตลสุณตจลสุณาทีหิ มิสฺสภตฺตสฺส อุปลกฺขณํ. เอตฺถ จ ภตฺตสิตฺถสมฺพนฺธวเสน เอกาพทฺธตา เวทิตพฺพา, น ผลาทีนเมว อฺมฺสมฺพนฺธวเสน.

๑๐๓๖. ติลตณฺฑุลกาทิสูติ กปฺปิยํ กาตพฺพติเลหิ มิสฺสตณฺฑุลาทีสุ. อาทิ-สทฺเทน กปฺปิยํ กาตพฺพวตฺถูหิ มิสฺสิตานิ อิตรวตฺถูนิ คหิตานิ. เอกาพทฺเธ กปิตฺเถปีติ กฏาเหน พทฺธพีเช ปริณตกปิตฺถผเลปิ. กฏาเหติ พทฺธมิฺเช กปาเล.

๑๐๓๗. กฏาหํ มุฺจิตฺวาติ สุกฺขตฺตา สมนฺตโต กฏาหํ มุฺจิตฺวา. มิฺชกนฺติ ปริณตกปิตฺถผลมิฺชํ. ตํ กปิตฺถํ ภินฺทาเปตฺวาติ กปิตฺถกฏาหํ ภินฺทาเปตฺวา, อิทํ พีชโต มุตฺตสฺส กฏาหสฺส ภาชนคติกตฺตา วุตฺตํ.

๑๐๓๘. ‘‘อภูตคามอพีเชสู’’ติ ปทจฺเฉโท, อภูตคาเม จ อพีเช จาติ อตฺโถ. นนุ จ ‘‘อพีเช พีชสฺี, เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๙๒) ปาํ วินา ‘‘อภูตคาเม ภูตคามสฺี’’ติ ปาโ นตฺถีติ อภูตคามคฺคหณํ กสฺมา กตนฺติ? วุจฺจเต – ตสฺมึ ปาเ พีชํ ภูตคามฺจ พีชคามํ พีชฺจ พีชพีชนฺติ วตฺตพฺเพ เอกเสสนเยน ‘‘พีช’’นฺติ คเหตฺวา วินิจฺฉิตนฺติ อุภยํ วิภชิตฺวา ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ ตสฺมึ อภูตคามอพีชคามทฺวเย. อิมิสฺสา คาถาย ‘‘อภูตคาเม ภูตคามสฺิโน ทุกฺกฏํ, เวมติกสฺส ทุกฺกฏํ, อพีชคาเม พีชคามสฺิโน ทุกฺกฏํ, เวมติกสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ จตฺตาริ ทุกฺกฏานิ ทสฺสิตานิ. ตตฺถ อภูตคามนฺติ พีชคามํ คเหตพฺพํ. อพีชคามนฺติ โน พีชํ.

๑๐๓๙. ตตฺถ ตสฺมึ ภูตคามพีชคามทฺวเย. ‘‘อตถาสฺิโน’’ติอาทีสุ ‘‘ภูตคามํ วิโกเปนฺตสฺสา’’ติ เสโส, อนาปตฺติ ปกาสิตาติ สมฺพนฺโธ, อภูตคามํ, อพีชนฺติ วา สฺิโน ภูตคามํ พีชมฺปิ วิโกเปนฺตสฺส อนาปตฺติ ปกาสิตาติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. ยถาห ปาฬิยํ ‘‘พีเช อพีชสฺี ฉินฺทติ วา…เป… อนาปตฺตี’’ติ.

อสฺจิจฺจ ภูตคามํ วิโกเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. เอวมุปริปิ โยเชตพฺพํ. คจฺฉนฺตสฺส ปาเทสุ คเหตฺวา วา อาลมฺพณกตฺตรยฏฺิยา ฆํสิตฺวา วา ติณาทีสุ ฉิชฺเชสุปิ ‘‘อิมํ ฉินฺทิสฺสามี’’ติ อมนสิกตตฺตา อนาปตฺตีติ อตฺโถ. อสติสฺสาติ อฺวิหิตสติสฺส วา อฺเน กถยโต วา ปาทงฺคุฏฺาทีหิ ติณาทีนิ ฉินฺทนฺตสฺส. -กาเรน อิธ อวุตฺตํ ‘‘อชานนฺตสฺสา’’ติ อิทํ สมุจฺจิตํ. ‘‘อิมํ ภูตคาม’’นฺติ วา ‘‘อิมสฺมึ อคฺคิมฺหิ ปติเต อิมํ ฑยฺหตี’’ติ วา ‘‘อิมินา อิทํ ภิชฺชติ ฉิชฺชตี’’ติอาทึ วา อชานนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ.

๑๐๔๐. อิทํจาติ อิทํ ภูตคามสิกฺขาปทฺจ. ติสมุฏฺานนฺติ กายจิตฺตวาจาจิตฺตกายวาจาจิตฺตวเสน ติสมุฏฺานํ. เฉทนาทิกิริยาย อาปชฺชนโต กฺริยํ. ติจิตฺตนฺติ ปณฺณตฺตึ อชานิตฺวา เจติยาทีสุ ติณคหนาทิกํ กโรนฺตสฺส อขีณาสวสฺส กุสลํ, ขีณาสวสฺส กิริยํ, ผลปุปฺผาทิโลเภน วิโกเปนฺตานํ เสขปุถุชฺชนานํ อกุสลนฺติ ติจิตฺตํ.

ภูตคามกถาวณฺณนา.

๑๐๔๑. อฺวาทวิเหสเก กมฺมสฺมึ สงฺเฆน กเตติ โยชนา, อฺวาทกวิเหสกาโรปนกมฺเม ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย ปจฺเจกํ สงฺเฆน กเตติ อตฺโถ. ‘‘อฺํ วทตีติ อฺวาทกํ, อฺเนฺํ ปฏิจรณสฺเสตํ นามํ. วิเหเสตีติ วิเหสกํ, ตุณฺหีภูตสฺเสตํ นาม’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๙๘) วจนโต สงฺฆมชฺเฌ วตฺถุนา, อาปตฺติยา วา โจทนาย กตาย ตํ อวตฺตุกาโม หุตฺวา ‘‘โก อาปนฺโน, กึ อาปนฺโน, กิสฺมึ อาปนฺโน’’ติอาทินา (ปาจิ. ๙๔) ปทภาชนานุกฺกเมน ปุจฺฉิตํ เปตฺวา อฺสฺส อวจนํ อฺเนฺํ ปฏิจรณํ, ตํ กโรนฺโต อฺวาทโก. อิธ ปน ภาวปฺปธานวเสน กิริยา คหิตา.

ตเถว โจทิยมาโน หุตฺวา ปุจฺฉิตํ อวตฺตุกาโม หุตฺวา อาปตฺติภีรุกตาย อฺเนฺํ ปฏิจรณํ อกตฺวา สงฺฆํ วิเหเสตุํ ตุณฺหีภูโต วิเหสโก นาม. เอตฺถาปิ ภาวปฺปธานวเสน กิริยาว คเหตพฺพา. อิธ ปน ตพฺภาวาโรปนกมฺมํ วุจฺจตีติ สํเขโป. ปุน ตถา กโรนฺตสฺสาติ ปุนปิ เตเนว ปกาเรน อฺวาทกวิเหสกานิ วิสุํ วิสุํ กโรนฺตสฺส. ปาจิตฺติยทฺวยํ โหตีติ ปทภาชเน ‘‘โรปิเต อฺวาทเก’’ติอาทินา (ปาจิ. ๑๐๐) นเยน จ ‘‘โรปิเต วิเหสเก’’ติอาทินา (ปาจิ. ๑๐๐) นเยน จ วิสุํ วิสุํ ปาจิตฺติยสฺส วุตฺตตฺตา เอเกกสฺมึ วตฺถุมฺหิ เอเกกาย อาปตฺติยา สมฺภวโต ปาจิตฺติยทฺวยํ โหตีติ คเหตพฺพํ.

๑๐๔๒. ธมฺเมติ เอตฺถ ‘‘กมฺเม’’ติ เสโส. ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺี, เวมติโก, อธมฺมกมฺมสฺีติ ตีสุ วิกปฺเปสุ. อธมฺเมติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. กมฺเม อโรปิเตติ อฺวาทกกมฺมาโรปเน อกเต. เอวํ วทนฺตสฺสาติ ‘‘โก อาปนฺโน’’ติอาทีนิ วทนฺตสฺส. วทนฺตสฺส จาติ เอตฺถ จกาเรน กมฺเม อโรปิเต เอวํ วิเหสนฺตสฺส จ ทุกฺกฏนฺติ สมุจฺจิโนติ. อิมสฺมึ ปกฺเข กมฺเม อโรปิเตติ วิเหสกกาลมาห.

๑๐๔๓. อาปนฺนนฺติ อตฺตนา อาปนฺนํ. ภณฺฑนํ ภวิสฺสตีติ สฺิสฺสาติ มยา อิมสฺมึ วุตฺเต สงฺฆสฺส ภณฺฑนกลหาทโย โหนฺตีติ สฺาย ตุณฺหี ภวนฺตสฺส. คิลานสฺสาติ วตฺตุํ อสกฺกุเณยฺยมุขโรคาทิยุตฺตสฺส.

๑๐๔๔. กฺริยากฺริยนฺติ อฺเนฺปฏิจรณํ กฺริยํ. ตุณฺหีภาโว อกฺริยํ.

อฺวาทกกถาวณฺณนา.

๑๐๔๕-๖. สมฺมตสฺสาติ ขนฺธกาคตเสนาสนปฺาปกสมฺมุติอาทีสุ เตรสสุ สมฺมุตีสุ เอกํ วา กติปยา วา สพฺพา วา ทาตุํ สงฺเฆน ตฺตึ เปตฺวา กมฺมวาจํ วตฺวา ทินฺนสมฺมุติกสฺส. ‘‘อุปสมฺปนฺนํ สงฺเฆน สมฺมต’’นฺติ (ปาจิ. ๑๐๖) วจนโต ภิกฺขุโนติ อุปสมฺปนฺนมาห, อยสํ กตฺตุกาโมติ สมฺพนฺโธ. วทนฺโตติ ‘‘ฉนฺเทน อิตฺถนฺนาโม เสนาสนํ ปฺาเปติ, ฉนฺเทน ภตฺตานิ อุทฺทิสตี’’ติอาทึ ภณนฺโต. ‘‘อุปสมฺปนฺเน’’ติ อิทํ ‘‘อุชฺฌาเปตี’’ติ กิริยมเปกฺขิตฺวา กมฺมนิ อุปโยคพหุวจนํ. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – อุชฺฌาเปติ อวฺาย โอโลกาเปติ, ลามกโต วา จินฺตาเปติ, ขียตีติ ‘‘ฉนฺเทน อิตฺถนฺนาโม เสนาสนํ ปฺเปตี’’ติอาทึ กเถนฺโต ปกาเสตีติ. อิมสฺมึ ปกฺเข ‘‘อุปสมฺปนฺนาน’’นฺติ วตฺตพฺเพ สามิอตฺเถ อุปโยควเสน ‘‘อุปสมฺปนฺเน’’ติ วุตฺตํ, อุปสมฺปนฺนานํ สนฺติเก ปกาเสตีติ อตฺโถ.

‘‘ปาจิตฺติยทฺวยํ โหตี’’ติ อิทํ ‘‘อุชฺฌาปนเก ขิยฺยนเก ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๐๕) ทฺวินฺนํ วตฺถูนํ เอกโต วุตฺตตฺตา อิธาปิ เอกโต วุตฺตํ, วิสุํ วิสุํ ปน คเหตพฺพํ. ธมฺเมติ เอตฺถ ‘‘กมฺเม’’ติ เสโส, อุปสมฺปนฺนสฺส สมฺมตสฺส สงฺเฆน ทินฺนสมฺมุติกมฺมํ สเจ ธมฺมกมฺมํ โหตีติ อตฺโถ. อธมฺเมติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.

๑๐๔๗-๘. ภิกฺขุโนติ สมฺมตสฺส ภิกฺขุโน. อสมฺมตสฺส ภิกฺขุสฺส อวณฺณํ ภาสโตติ โยชนา. ยสฺส กสฺสจีติ เอตฺถ ‘‘สนฺติเก’’ติ เสโส, อุปสมฺปนฺนสฺส จ อนุปสมฺปนฺนสฺส จ ยสฺส กสฺสจิ สนฺติเกติ อตฺโถ. อุปสมฺปนฺนกาเล สมฺมตํ ปจฺฉา สามเณรภาวํ อุปคตํ สนฺธาย ‘‘สมฺมตสฺส สามเณรสฺสา’’ติ วุตฺตํ. อวณฺณํ วทโตติ โยชนา.

๑๐๔๙. กโรนฺตํ สมฺมตํ. ภณโตติ อุชฺฌาปยโต, ขียโต. อตฺโถ ปน วุตฺตนโยว. อุชฺฌาปนขียนกิริยาหิ อาปชฺชนโต กฺริยํ. ยสฺมา อุชฺฌาปนํ, ขียนฺจ มุสาวาทวเสเนว ปวตฺตํ, ตสฺมา ‘‘อาทิกมฺมิกสฺส อนาปตฺตี’’ติ ปาจิตฺติยฏฺาเน, ทุกฺกฏฏฺาเน จ อิมินา จ อนาปตฺติทสฺสนตฺถํ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. เอวฺจ กตฺวา อุชฺฌาเปนฺตสฺส, ขียนฺตสฺส จ เอกกฺขเณ ทฺเว ทฺเว อาปตฺติโย โหนฺตีติ อาปนฺนํ.

อุชฺฌาปนกกถาวณฺณนา.

๑๐๕๐. สงฺฆสฺส มฺจาทินฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘สงฺฆิกํ มฺจํ วา ปีํ วา ภิสึ วา โกจฺฉํ วา’’ติ ปาฬิยํ ทสฺสิตํ สงฺฆสนฺตกํ มฺจาทึ. เอตฺถ จ มฺโจ นาม ปาฬิยํ ‘‘จตฺตาโร มฺจา มสารโก พุนฺทิกาพทฺโธ กุฬีรปาทโก อาหจฺจปาทโก’’ติ (ปาจิ. ๑๑๑) จ ทสฺสิโต จตุพฺพิโธ มฺโจ. ตตฺถ มสารโก นาม มฺจปาเท วิชฺฌิตฺวา ตตฺถ อฏนิสิขาหิ อาวุณิตฺวา กตมฺโจ. โส อิทานิ วตฺตมาโน เวตฺตมฺโจ. พุนฺทิกาพทฺโธ นาม อฏนิสีเสสุ พุนฺทิกรนฺตรโต มฺจปาเท ฑํสาเปตฺวา กโต เวตฺตมฺจปทรมฺโจ ทฏฺพฺโพ. กุฬีรปาทโก นาม ปาทพุนฺเท อสฺสขุราทิอาการํ ทสฺเสตฺวา กกฺกฏปาเทหิ วิย วงฺกปาเทหิ โยชิตมฺโจ. อาหจฺจปาทโก นาม อฏนิโย วิชฺฌิตฺวา อฏนิฉิทฺเท ปาทสีเส สิขํ กตฺวา ตํ ปเวเสตฺวา อฏนิยา อุปริ นิกฺขนฺเต ปาทสิขามตฺถเก ติริยํ วิชฺฌิตฺวา อาณึ ปเวเสตฺวา กตมฺโจ.

ปีํ นาม เอวเมว กตํ ตนฺนามกเมว จตุพฺพิธํ;

ภิสิ นาม ‘‘ปฺจ ภิสิโย อุณฺณภิสิ โจฬภิสิ วากภิสิ ติณภิสิ ปณฺณภิสี’’ติ คพฺภวเสน ทสฺสิตา ปฺจ ภิสิโย. ตตฺถ อุณฺณา นาม มนุสฺสโลมํ เปตฺวา อวเสสโลมานิ. โจฬา นาม ปิโลติกา. วากํ นาม มกจิวากาทิกํ. ติณํ นาม ทพฺพติณาทิ. ปณฺณํ นาม ตมาลปณฺณํ เปตฺวา อวเสสปณฺณํ.

โกจฺฉนฺติ ปาฬิยํ ‘‘โกจฺฉํ นาม วากมยํ วา อุสีรมยํ วา มุฺชมยํ วา ปพฺพชมยํ วา อนฺโต สํเวเตฺวา พทฺธํ โหตี’’ติ (ปาจิ. ๑๑๑) ทสฺสิตํ วากํ วา อุสีรํ วา มุฺชติณํ วา เอฬกโลมานิ วา ปพฺพชติณํ วา อาทาย อุโภหิ โกฏีหิ วิตฺถตํ กตฺวา มชฺเฌ ปีเฬตฺวา สงฺกุจิตฺวา ตํ พนฺธิตฺวา สีหจมฺมาทีหิ เวนพนฺธนานิ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ปาทปุฺฉนี วิย นิสชฺชตฺถาย กตํ อาสนนฺติ วทนฺติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เหฏฺา จ อุปริ จ วิตฺถตํ, มชฺเฌ สํขิตฺตํ, ปณวสณฺานํ กตฺวา พทฺธํ โหติ, ตํ กิร มชฺเฌ สีหพฺยคฺฆจมฺมปริกฺขิตฺตมฺปิ กโรนฺติ. อกปฺปิยจมฺมํ นาเมตฺถ นตฺถี’’ติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๑). สนฺถราเปตฺวาติ อุปสมฺปนฺเนน วา อนุปสมฺปนฺเนน วา สนฺถราเปตฺวา. เอตฺถ วินิจฺฉยํ วกฺขติ. สนฺถริตฺวาติ สยํ สนฺถริตฺวา วา.

๑๐๕๑. เนวุทฺธเรยฺยาติ ปฺตฺตฏฺานโต อุทฺธริตฺวา น ปฏิสาเมยฺย. น อุทฺธราเปยฺย วาติ อฺเน วา ตถา น การาเปยฺย. นฺติ มฺจาทึ. ปกฺกมนฺโตติ เอตฺถ ‘‘โย ภิกฺขู’’ติ ลพฺภติ, มฺจาทีนํ อตฺถตฏฺานโต ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส ถามปฺปมาเณน หตฺถํ ปสาเรตฺวา ขิตฺตปาสาณสฺส ปตนฏฺานํ อติกฺกมฺม คจฺฉนฺโตติ อตฺโถ. ยถาห ปาฬิยํ ‘‘มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส เลฑฺฑุปาตํ อติกฺกมนฺตสฺสา’’ติ.

๑๐๕๒. วสฺสิเก จตุโร มาเสติ อนฺโตวสฺสํ จาตุมาเส. สเจ เทโว น วสฺสตีติ เอตฺถ ‘‘กตฺถจิ ชนปเท’’ติ เสโส. เตเนว ‘‘สเจ’’ติ สาสงฺกมาห. ‘‘เยสุ ชนปเทสุ วสฺสกาเล น วสฺสติ, เตสุปิ จตฺตาโร มาเส นิกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติเยวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๐) อฏฺกถายํ วุตฺตํ. ตถา จาปีติ เต จตฺตาโร มาเส อวสฺสนฺเตปิ.

๑๐๕๓. ยตฺถาติ ยสฺมึ ลงฺกาทีปสทิเส เทเส. ยตฺถ อปเรปิ เหมนฺเต จตฺตาโร มาเส เทโว วสฺสติ, ตตฺถ อฏฺ มาเส อชฺโฌกาเส มฺจาทึ เปตุํ น วฏฺฏตีติ โยชนา. คิมฺหาเน ปน จตฺตาโร มาเส พหิ เปตุํ วฏฺฏตีติ พฺยติเรกโต ทสฺเสติ.

๑๐๕๔. นิวาสสฺมินฺติ รุกฺเข กุลาวกํ กตฺวา นิรนฺตรวาเส สติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ยสฺมึ ปน ธุวนิวาเสน กุลาวเก กตฺวา วสนฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๐). กทาจิปีติ อโนวสฺสกาเลปิ.

๑๐๕๕-๖. สงฺฆิกํ ยํ กิฺจิ มฺจาทีติ โยชนา. สนฺถตํ ยทีติ อนาณตฺเตน ยทิ อตฺถตํ, ปฺตฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ. ยตฺถ กตฺถจิ าเนติ รุกฺขมูลมณฺฑปอพฺโภกาสาทิมฺหิ ยตฺถ กตฺถจิ าเน. เยน เกนจีติ สทฺธิวิหาริเกน วา อนฺเตวาสิเกน วา อฺเน วา. ภิกฺขุนาติ อุปสมฺปนฺเนน. โสติ ยสฺสตฺถาย ปฺตฺตํ, โส ภิกฺขุ.

๑๐๕๗. นฺติ ตํ สงฺฆิกํ เวตฺตมฺจาทึ. สนฺถราปิต-สทฺโท กตฺตุสาธโน, สนฺถริตุํ นิโยชกสฺเสว ภิกฺขุโนติ อตฺโถ.

๑๐๕๘. ภิกฺขุนาติ เอตฺถ ‘‘อาณาปโก’’ติ วกฺขมานตฺตา อาณตฺเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปนฺเนนาติ ลพฺภติ. ตสฺเสวาติ อาณตฺติยา อาสนปฺาปกสฺส ตสฺเสว ภิกฺขุโน. ‘‘นิสีทตี’’ติ วจนสฺส อุปลกฺขณตฺตา อาคนฺตฺวา ถวิกํ วา จีวรํ วา ยํ กิฺจิเทว เปติ, ‘‘มยฺหเมว ภาโร’’ติ วา วทติ, ปฺาปโก มุจฺจตีติ คเหตพฺโพ.

๑๐๕๙-๖๐. อนาปุจฺฉาติ เอตฺถ ‘‘โย ภิกฺขุ วา สามเณโร วา อารามิโก วา ลชฺชี โหติ, อตฺตโน ปลิโพธํ วิย มฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๓) อฏฺกถาย วุตฺตสรูปํ ยํ กฺจิ อนาปุจฺฉาติ อตฺโถ. ‘‘ภิกฺขุ วา สามเณโร วา อารามิโก วา ลชฺชี โหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๓) วุตฺตตฺตา อลชฺชึ อาปุจฺฉิตฺวา คนฺตุํ น วฏฺฏตีติ วทนฺติ. ‘‘มยํ คมิสฺสามา’’ติ วตฺวา อนุมติคหณํ อาปุจฺฉนํ นาม, ตํ อนาปตฺติยา กถํ องฺคํ โหตีติ เจ? คมนสฺส อนุมติยา ลทฺธตฺตา. ‘‘กปฺปํ ลภิตฺวา คนฺตพฺพ’’นฺติ วจนโต อนุมติทายเกน วตฺตาวตฺตํ สมฺปฏิจฺฉิตํ วิย โหตีติ ลทฺธกปฺปตฺตา เอวํ คจฺฉติ เจ, วฏฺฏติ. อนิยฺยาเตตฺวาติ นิยฺยาตนํ อกตฺวา วตฺตาวตฺตํ อปฺปฏิยาเทตฺวา, อสมฺปฏิจฺฉาเปตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. วาเรติ ปทวาเร.

๑๐๖๒. ตสฺมา านาติ อตฺตนา ตฺวา อาณาปิตโภชนสาลโต. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘โภชนสาลโต นิกฺขมิตฺวา อฺตฺถ คจฺฉตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๑).

๑๐๖๓. สงฺฆิเก สงฺฆิกสฺิเวมติกปุคฺคลิกสฺีนํ วเสน ติกปาจิตฺติยํ. ติกาตีเตนาติ อกุสลมูลตฺติกาทิโต สวาสนสมุจฺเฉทปฺปหานวเสน อติกฺกนฺเตน. ติกทุกฺกฏนฺติ ‘‘ปุคฺคลิเก สงฺฆิกสฺี, เวมติโก, ปุคฺคลิกสฺี อฺสฺส ปุคฺคลิเก อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๑๒) วจนโต ทุกฺกฏตฺตยํ โหติ.

๑๐๖๔-๕. จิมิลิกํ นาม ปริกมฺมกตาย ภูมิยา ฉวิรกฺขนตฺถํ อตฺถริตพฺพปิโลติกํ. ตฏฺฏิกา นาม ตาลปณฺณาทีหิ กตตฏฺฏิกา. จมฺมํ สีหจมฺมาทิ. เสนาสนปริกฺขาเร อกปฺปิยจมฺมํ นาม นตฺถิ. ยถาห ‘‘อฏฺกถาสุ หิ เสนาสนปริโภเค ปฏิกฺขิตฺตจมฺมํ นาม น ทิสฺสติ, ตสฺมา สีหจมฺมาทีนํ ปริหรเณเยว ปฏิกฺเขโป เวทิตพฺโพ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๒). อิมสฺส จ อฏฺกถาปาสฺส สารตฺถทีปนิยา (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๑๑๒) เอวํ อตฺโถ วณฺณิโต –

‘‘สีหจมฺมาทีนํ ปริหรเณเยว ปฏิกฺเขโป เวทิตพฺโพ’’ติ อิมินา ‘‘น ภิกฺขเว มหาจมฺมานิ ธาเรตพฺพานิ สีหจมฺมํ พฺยคฺฆจมฺมํ ทีปิจมฺมํ, โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ เอวํ วุตฺตาย ขนฺธกปาฬิยา อธิปฺปายํ วิภาเวติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘อนฺโตปิ มฺเจ ปฺตฺตานิ โหนฺติ, พหิปิ มฺเจ ปฺตฺตานิ โหนฺตี’’ติ (มหาว. ๒๕๕) อิมสฺมึ วตฺถุสฺมึ สิกฺขาปทสฺส ปฺตฺตตฺตา มฺจปีเสุ อตฺถริตฺวา ปริโภโคเยว ปฏิกฺขิตฺโต, ภูมตฺถรณวเสน ปริโภโค ปน อปฺปฏิกฺขิตฺโตติ. ยทิ เอวํ ‘‘ปริหรเณเยว ปฏิกฺเขโป’’ติ อิทํ กสฺมา วุตฺตนฺติ? ยถา ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว สพฺพํ ปาสาทปริโภค’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๐) วจนโต ปุคฺคลิเกปิ เสนาสเน เสนาสนปริโภควเสน นิยมิตํ สุวณฺณฆฏาทิกํ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏมานมฺปิ เกวลํ อตฺตโน สนฺตกํ กตฺวา ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏติ, เอวมิทํ ภูมตฺถรณวเสน ปริภุฺชิยมานมฺปิ อตฺตโน สนฺตกํ กตฺวา ตํ ตํ วิหารํ หริตฺวา ปริภุฺชิตุํ น วฏฺฏตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ปริหรเณเยว ปฏิกฺเขโป เวทิตพฺโพ’’ติ วุตฺตนฺติ.

‘‘ผลก’’นฺติ อิมินา ปาาคตํ ผลกปีเมว ทสฺสิตํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ผลกปีํ นาม ผลกมยํ ปี’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๒). ปาทปุฺฉนินฺติ กทลิวากาทีหิ กตํ ปาทปุฺฉนิกํ. ภูมตฺถรณํ นาม จิมิลิกาย สติ ตสฺสา อุปริ, อสติ สุทฺธภูมิยํ อตฺถริตพฺพา กฏสารกาทิวิกติ. อุตฺตรตฺถรณํ นาม สงฺฆิกมฺจปีาทีนํ อุปริ อตฺถริตพฺพปจฺจตฺถรณํ.

ปตฺตาธารกนฺติ ปตฺตวลยาธารกํ. ตํ ยถาวุตฺตปริกฺขารํ. คจฺฉโตติ เลฑฺฑุปาตํ อติกฺกมฺม คจฺฉโต. สเจ ปน ทายเกหิ ทานกาเลเยว สหสฺสคฺฆนกมฺปิ กมฺพลํ ‘‘ปาทปุฺฉนึ กตฺวา ปริภุฺชถา’’ติ ทินฺนํ, ตเถว ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. ตสฺมา อิมํ มฺจปีาทิเสนาสนมฺปิ ‘‘อพฺโภกาเสปิ ยถาสุขํ ปริภุฺชถา’’ติ ทายเกหิ ทินฺนํ เจ, สพฺพสฺมิมฺปิ กาเล อพฺโภกาเส นิกฺขิปิตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ.

๑๐๖๖. อารฺเกนาปิ สเจ คนฺตพฺพํ โหติ, อโนวสฺสเก โนสติ มฺจปีาทึ รุกฺขสฺมึ ลคฺเคตฺวา ยถาสุขํ คนฺตพฺพนฺติ โยชนา.

๑๐๖๗. อุปจิกาทีหีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน มูสิกา คหิตา. น ลุชฺชตีติ น นสฺสติ. ตํ สพฺพนฺติ มฺจาทิกํ สกลํ.

๑๐๖๘. อตฺตโน สนฺตเกติ อตฺตโน ปุคฺคลิเก มฺจาทิวิสเย. รุทฺเธติ วุฑฺฒภิกฺขุนา วา อิสฺสราทีหิ วา ยกฺขสีหาทีหิ วา มฺจาทิเก รุทฺเธ อชฺฌาวุตฺเถ, อภิภวิตฺวา คหิเตติ อตฺโถ . อาปทาสุปีติ พฺรหฺมจริยนฺตรายาทีสุ จ สนฺเตสุ. คจฺฉโต ภิกฺขุโน อนาปตฺตีติ โยชนา.

๑๐๖๙. กายวาจโต, กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺานํ กถินสมุฏฺานํ นาม. ปฺตฺตึ อชานิตฺวา สยํ อนุทฺธรนฺตสฺส กาเยน โหติ, อนาปุจฺฉนฺตสฺส วาจาย โหติ, ปฺตฺตึ ชานิตฺวา เอวํ อกโรนฺตสฺส สจิตฺตเกน เตเนว ทฺวเยน สมุฏฺาตีติ เวทิตพฺพํ. เลฑฺฑุปาตาติกฺกโม กฺริยํ. มฺจาทีนํ อนุทฺธรณาทิ อกฺริยํ.

ปมเสนาสนกถาวณฺณนา.

๑๐๗๐-๓. ภิสีติ ปมสิกฺขาปเท วุตฺตปฺจปฺปการา อิมิสฺสา อฏฺกถาย ‘‘มฺจกภิสิ วา ปีกภิสิ วา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๖) เอวํ ทสฺสิตภิสิ จ. ปจฺจตฺถรณํ นาม ปาวาโร โกชโว วา. ‘‘เอตฺตกเมว วุตฺตนฺติ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ. ‘อิทฺจ อฏฺกถาสุ ตถาวุตฺตภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, อฺมฺปิ ตาทิสํ มฺจปีเสุ อตฺถริตพฺพํ ปจฺจตฺถรณเมวา’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺต’’นฺติ (สารตฺถ. อฏฺ. ปาจิตฺติย ๓.๑๑๖) สารตฺถทีปนิยา ลิขิตํ. นิสีทนนฺติ นิสีทนจีวรํ.

ติณสนฺถาโร เอรกาทีนิ ติณานิ ทฺวีสุ ตีสุ าเนสุ โคเปตฺวา กตสนฺถาโร. ปณฺณสนฺถาโร นาม นาฬิเกราทิปณฺเณ ตเถว โคเปตฺวา กตสนฺถาโร. สยนฺติ เอตฺถาติ เสยฺยา. ‘‘สพฺพจฺฉนฺนปริจฺฉนฺเน’’ติ อิทํ สหเสยฺยกถาย วุตฺตตฺถเมว.

ทสวิธํ เสยฺยนฺติ ทสวิธาสุ เสยฺยาสุ อฺตรนฺติ วุตฺตํ โหติ. สนฺถริตฺวาปิ วาติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ, โส สนฺถราเปตฺวาปีติ อิมํ สมฺปิณฺเฑติ. วา-สทฺทํ ‘‘สยํ อนุทฺธริตฺวา’’ติ เอตฺถ ‘‘อนุทฺธริตฺวา วา’’ติ โยเชตฺวา ‘‘อนุทฺธราเปตฺวา วา’’ติ อยํ วิกปฺโป สงฺคยฺหติ. ตํ เสยฺยํ.

อารามสฺสูปจารนฺติ ‘‘อปริกฺขิตฺตสฺส อุปจาโร นาม เสนาสนโต ทฺเว เลฑฺฑุปาตา’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ อุปจารมาห. อสฺสาติ วิหารสฺส ปริกฺขิตฺตสฺส.

๑๐๗๔. อุภเยสนฺติ เสนาสนเสยฺยานํ. อนฺโตคพฺเภ สนฺถริตฺวา คจฺฉโตติ สมฺพนฺโธ.

๑๐๗๕. อุปจาเร วิหารสฺสาติ เอตฺถ วิหาโร นาม อนฺโตคพฺภาทิสพฺพปริจฺฉนฺนคุตฺตเสนาสนํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘วิหาโรติ อนฺโตคพฺโภ วา อฺํ วา สพฺพปริจฺฉนฺนํ คุตฺตเสนาสนํ เวทิตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๗). ตตฺถ อุปจาโร นาม ตํสมีปํ านํ. ยถาห ‘‘อุปจาเรติ ตสฺส พหิ อาสนฺเน โอกาเส’’ติ. มณฺฑโป นาม ปริจฺฉนฺนาปริจฺฉนฺนสนฺนิปาตมณฺฑโป. ยถาห ‘‘มณฺฑเป วาติ อปริจฺฉนฺเน ปริจฺฉนฺเน วาปิ พหูนํ สนฺนิปาตมณฺฑเป’’ติ. อาทิ-สทฺเทน อุปฏฺานสาลารุกฺขมูลานิ สงฺคหิตานิ. อุปฏฺานสาลา นาม อคุตฺตา โภชนสาลา. ยถาห ‘‘อุปฏฺานสาลายํ วาติ โภชนสาลายํ วา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๗). อคุตฺตตา จ ‘‘านสฺส อคุตฺตตายา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๗) อฏฺกถาวจนโต เวทิตพฺพาติ.

๑๐๗๖. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘สงฺฆิเก สงฺฆิกสฺี, เวมติโก, ปุคฺคลิกสฺี’’ติ วารตฺตเย ปาจิตฺติยตฺตยํ วุตฺตํ. ทสวตฺถูสุ ภวํ ตทนฺโตคธตฺตาติ ทสวตฺถุกํ, ทสนฺนํ วา วตฺถุ ทสวตฺถุ, ตํเยว ทสวตฺถุกนฺติ ภิสิอาทิกํ อฺตรํ เสยฺยาภณฺฑํ. ตสฺสาติ สนฺถารกสฺส. ‘‘ปุคฺคลิเก สงฺฆิกสฺี, เวมติโก, ปุคฺคลิกสฺี อฺสฺส ปุคฺคลิเก อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๑๗) ติกทุกฺกฏํ ทีปิตํ.

๑๐๗๗. อุทฺธริตฺวาติ อตฺถตเสยฺยํ ยถา อุปจิกาหิ น ขชฺชติ, ตถา ปฏิสาเมตฺวา, ‘‘คจฺฉโต’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. อฺเน วุทฺธภิกฺขุอิสฺสราทินา. ปลิพุทฺเธติ เสนาสเน ปริพุทฺเธ นิวาริเต.

๑๐๗๘. สาเปกฺโขว จ คนฺตฺวาติ ‘‘อชฺเชว คนฺตฺวา อิทํ ปฏิสาเมสฺสามี’’ติ อเปกฺขาสหิโตว คามนฺตราทึ คนฺตฺวา. ยถาห ‘‘อชฺเชว อาคนฺตฺวา ปฏิชคฺคิสฺสามี’ติ เอวํ สาเปกฺโข นทีปารํ วา คามนฺตรํ วา คนฺตฺวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๘). ตตฺถ ตฺวาติ คตฏฺาเน ตฺวา, ตโต พหิ คจฺฉามีติ จิตฺเต อุปฺปนฺเนติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘ยตฺถสฺส คมนจิตฺตํ อุปฺปนฺนํ, ตตฺเถว ิโต’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๘). ตํ ปุจฺฉตีติ สมฺพนฺโธ. ตํ เสยฺยํ กฺจิ เปเสตฺวา อาปุจฺฉตีติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘กฺจิ เปเสตฺวา อาปุจฺฉตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๑๘). เอตฺถ จ ปุริมสิกฺขาปเท มฺจาทีนํ ปฺตฺตฏฺานโต อนฺโตวิหาเร วา โหตุ พหิ วา, เลฑฺฑุปาตาติกฺกเมน, อิธ อุปจาราติกฺกเมน ปาจิตฺติยนฺติ อยํ วิเสโส เวทิตพฺโพ.

อพฺโภกาสมฺหิ มฺจาทึ, วิหาเร เสยฺยมตฺตกํ;

หิตฺวา วชนฺตสฺส โทโส, เลฑฺฑุปาตูปจารโตติ.

ทุติยเสนาสนกถาวณฺณนา.

๑๐๗๙. โย ภิกฺขุ สงฺฆิกาวาเส ปุพฺพุปคตํ ภิกฺขุํ ชานํ อนุปขชฺช เสยฺยํ กปฺเปยฺย เจ, อสฺส ภิกฺขุโน ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา. ปุพฺพุปคโต นาม วสฺสคฺเคน ปาเปตฺวา ทินฺนํ เสนาสนํ คเหตฺวา วสนฺโต. ชานนฺติ ‘‘อนุฏฺาปนีโย อย’’นฺติ ชานนฺโต. อนุฏฺาปนียา นาม วุทฺธาทโย. ยถาห ปทภาชเน ‘‘ชานาติ นาม วุฑฺโฒติ, คิลาโนติ, สงฺเฆน ทินฺโนติ ชานาตี’’ติ (ปาจิ. ๑๒๑). อนุปขชฺชาติ อนุปวิสิตฺวา, ตสฺส ปมํ ปฺตฺตํ มฺจาทีนํ อาสนฺนตรํ วกฺขมานลกฺขณํ อุปจารํ ปวิสิตฺวาติ อตฺโถ. เสยฺยํ กปฺเปยฺยาติ ทสวิธาสุ เสยฺยาสุ อฺตรํ อตฺถริตฺวา สยนํ กเรยฺย, นิปชฺเชยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. วกฺขติ จ ‘‘ทสสฺวฺตรํ เสยฺย’’นฺติอาทิ. ‘‘นิสชฺชํ วา’’ติ เสโส. ยถาห ปทภาชเน ‘‘อภินิสีทติ วา อภินิปชฺชติ วา’’ติ.

๑๐๘๐-๒. อุทฺทิฏฺมตฺถํ นิทฺทิสิตุกาโม ปมํ ‘‘อนุปขชฺชเสยฺยํ กปฺเปยฺยา’’ติ เอตฺถ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปาทโธวนปาสาณา…เป… ทุกฺกฏ’’นฺติ. เสนาสนํ ปวิสนฺตสฺส ภิกฺขุโน ปาทโธวนปาสาณา ยาว ตํ มฺจํ วา ปีํ วา นิกฺขมนฺตสฺส ปน มฺจปีโต ยาว ปสฺสาวฏฺานํ, เอตฺถนฺตเร ตุ ยํ านํ, อิทเมว อุปจาโรติ วุจฺจตีติ โยชนา. ตตฺถ อุปจาเรติ โยชนา. พาเธตุกามสฺสาติ ‘‘ยสฺส สมฺพาโธ ภวิสฺสติ, โส ปกฺกมิสฺสตี’’ติ เอวํ อุปฺปนฺนจิตฺตสฺส. สยนฺติ เอตฺถาติ วิคฺคโห.

๑๙๘๓. ‘‘ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ อุทฺเทสโต วุตฺตํ นิทฺทิสิตุมาห ‘‘นิสีทนฺตสฺสา’’ติอาทิ. ตตฺถาติ ตถา อนุปขชฺช อตฺถตาย เสยฺยาย. ‘‘ปาจิตฺติยทฺวย’’นฺติ อิทํ ‘‘ทฺเวปิ กโรนฺตสฺสา’’ติ อิมํ ปจฺฉิมวิกปฺปํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปุริมวิกปฺปทฺวเย ปน ‘‘นิสีทนฺตสฺส วา ปาจิตฺติยํ, นิปชฺชนฺตสฺส วา ปาจิตฺติย’’นฺติ วตฺตพฺพํ. อิมสฺมึ วิกปฺปตฺตเย ปจฺเจกํ ‘‘ติกปาจิตฺติยํ ติกทุกฺกฏ’’นฺติ อุภยสฺสาปิ วตฺตพฺพตา อฏฺกถายํ วุตฺตา. กถํ? สงฺฆิเก สงฺฆิกสฺี, เวมติโก, ปุคฺคลิกสฺี นิสชฺชํ กปฺเปติ, ปาจิตฺติยนฺติ นิสชฺชาย ติกปาจิตฺติยํ, เอวํ เสยฺยาย ติกปาจิตฺติยํ, อุภยตฺถ ติกปาจิตฺติยทฺวยนฺติ เอวํ วิกปฺปทฺวเย ทฺวาทส ปาจิตฺติยานิ. ปุคฺคลิเก สงฺฆิกสฺี, เวมติโก, ปุคฺคลิกสฺี อฺสฺส ปุคฺคลิเก นิสชฺชํ กปฺเปติ, ทุกฺกฏนฺติ นิสชฺชาย ติกทุกฺกฏํ, เอวํ เสยฺยาย ติกทุกฺกฏํ, อุภยตฺถ ติกทุกฺกฏทฺวยนฺติ ทฺวาทส ทุกฺกฏานิ จ เวทิตพฺพานิ.

๑๐๘๔. กโรนฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘นิสีทนาทิ’’นฺติ ปกรณโต ลพฺภติ. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘สงฺฆิเก สงฺฆิกสฺี, เวมติโก, ปุคฺคลิกสฺี’’ติ วิกปฺปตฺตเย ติกปาจิตฺติยํ ปาฬิยํ (ปาจิ. ๑๒๒) วุตฺตํ. เอวํ ปุคฺคลิเกปิ ติกทุกฺกฏํ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘ปุคฺคเล ติกทุกฺกฏ’’นฺติ. อิมินา ยถาวุตฺตปาจิตฺติยทุกฺกฏานิ สามฺเน ติเก ปกฺขิปิตฺวา เอวํ วุตฺตานีติ เวทิตพฺพํ.

๑๐๘๕-๖. ‘‘วุตฺตูปจาร’’นฺติอาทิคาถาทฺวเย วิหารสฺส วุตฺตูปจารํ มุฺจิตฺวา อุปจาเร วา อพฺโภกาเสปิ วา สนฺถรโตปิ วา สนฺถราปยโตปิ วา ตตฺถ นิสีทโต วา ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. ตตฺถ สพฺพตฺเถว ตสฺส นิวาโส วาริโตติ โยชนา. ตตฺถ วิหารสฺสาติ ยถาวุตฺตเสนาสนสฺส. อุปจาเรติ อวิทูเร. อพฺโภกาเสติ ตสฺส เสนาสนสฺส นจฺจาสนฺเน องฺคณปฺปเทเส.

นิสีทโต วาติ วาคฺคหเณน นิปชฺชโต วา ทฺเวปิ กโรนฺตสฺส วาติ สงฺคณฺหาติ. ยถาห ปาฬิยํ ‘‘อภินิสีทติ วา อภินิปชฺชติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๒๒). ตตฺถาติ ตสฺมึ ปุพฺพูปคตสฺส ปตฺเต เสนาสเน. สพฺพตฺเถวาติ ยถาวุตฺตูปจารโต อนฺโต จ พหิ จ อนฺตมโส อชฺโฌกาเสปีติ สพฺพตฺเถว. ตสฺสาติ อนตฺตมนสฺส อนุปขชฺช เสยฺยํ กปฺปยโต ตสฺส วิสภาคปุคฺคลสฺส. นิวาโส วาริโต ปรวิเหเกน สหวาสสฺส มหานตฺถกรตฺตาติ อธิปฺปาโย. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เอวรูเปน หิ วิสภาคปุคฺคเลน เอกวิหาเร วา เอกงฺคเณ วา วสนฺเตน อตฺโถ นตฺถิ, ตสฺมา สพฺพตฺเถวสฺส นิวาโส วาริโต’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๒๒).

๑๐๘๗. ‘‘สีตาทิอุปปีฬิตสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท, สีตาทีหิ อุปปีฬิตสฺส พาธิตสฺสาติ อตฺโถ. อาทิ-สทฺเทน ‘‘อุณฺเหน วา’’ติอาทิกํ สงฺคณฺหาติ. ยถาห ‘‘สีเตน วา อุณฺเหน วา ปีฬิโต ปวิสตี’’ติ. เอตฺถ อาปทา นาม พหิ สยนฺตสฺส ชีวิตพฺรหฺมจริยนฺตรายาปชฺชนํ.

๑๐๘๘. อิทํ สิกฺขาปทํ ทุกฺขเวทนํ โหตีติ โยชนา.

อนุปขชฺชกถาวณฺณนา.

๑๐๘๙. นิกฺกฑฺเฒยฺยาติ นีหเรยฺย. นิกฺกฑฺฒาเปยฺย วาติ นีหราเปยฺย วา.

๑๙๙๐. พหู ภูมิโย วาลิกาตลสงฺขาตา ยสฺส โส พหุภูโม, ปาสาโท. สมาสนฺตวิธิวเสน ‘‘พหุภูโม’’ติ วุจฺจติ.

๑๐๙๑. เปตฺวา เปตฺวาติ ตสฺมึ ตสฺมึ าเน คตินิวตฺตึ กตฺวา กตฺวา.

๑๐๙๒. อยํ นโยติ ‘‘นิกฺขมา’ติ เอกวจเนน คจฺฉนฺเต อเนเกปิ ทฺวารโกฏฺเก อติกฺกนฺเต อาณาปกสฺส เอกาว อาปตฺติ โหติ, ิตฏฺานโต ตฺวา ตฺวา นีหรนฺตสฺส ทฺวารโกฏฺคณนาย โหตี’’ติ อยํ นโย. อาณตฺติยา ขเณเยวาติ ‘‘อิมํ นิกฺกฑฺฒาหี’’ติ อาณตฺติกฺขเณเยว.

๑๐๙๓. เอกาวาติ เอตฺถ ‘‘ปาจิตฺติ โหตี’’ติ วตฺตพฺโพ. พหุกานิ เจติ เอตฺถ ‘‘ทฺวารานี’’ติ วตฺตพฺพํ, อติกฺกาเมตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘เอตฺตเก ทฺวารโกฏฺเก อติกฺกมาเปตฺวา นิกฺกฑฺฒาหี’’ติ จ ‘‘ยาว ปริยนฺตทฺวารโกฏฺกา นิกฺกฑฺฒาหี’’ติ จ ‘‘พหู ทฺวารโกฏฺเก อติกฺกาเมตฺวา นิกฺกฑฺฒาหี’’ติ จ อาณตฺตตฺตา พหู ทฺวารโกฏฺเก อติกฺกาเมตฺวา สเจ นิกฺกฑฺฒตีติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สเจ ปน เอตฺตกานิ ทฺวารานิ นิกฺกฑฺฒาหี’ติ วา ‘ยาว มหาทฺวารํ, ตาว นิกฺกฑฺฒาหี’ติ วา เอวํ นิยเมตฺวา อาณตฺโต โหติ, ทฺวารคณนาย ปาจิตฺติยานี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๒๖). พหูนิ ปาจิตฺติยานิ โหนฺตีติ โยชนา.

๑๐๙๔. อุปฏฺานสาลาทีติ เอตฺถ นิสฺสกฺกตฺเถ ปจฺจตฺตวจนโต อุปฏฺานสาลาทิโตติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. ‘‘อุปจารโต’’ติ อิมินา สมานาธิกรณตฺตา วิหารสฺส อุปฏฺานสาลาทิโต อุปจารโตติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห คณฺิปเท ‘‘อุปจาโร นาม อุปฏฺานสาลาทิมตฺตเมวา’’ติ. กาเยนปิ วาจายปิ ตถา นิกฺกฑฺฒเน จ ทุกฺกฏนฺติ วกฺขมาเนน สห โยชนา. ตสฺสาติ อุปสมฺปนฺนสฺส. อาทิ-สทฺเทน มณฺฑปาทโย คหิตา. ยถาห ‘‘วิหารสฺส อุปจารา วา อุปฏฺานสาลาย วา มณฺฑปา วา รุกฺขมูลา วา อชฺโฌกาสา วา นิกฺกฑฺฒติ วา นิกฺกฑฺฒาเปติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๒๗). ‘‘วาจายา’’ติ อิมินา ‘‘นิกฺขมา’’ติ จ ‘‘อิมํ นิกฺกฑฺฒาหี’’ติ อาณาปนฺจ คหิตํ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา เอเกน ปโยเคน เอกาปตฺติ, นานาปโยเคสุ ปโยคคณนาย, ทฺวารคณนาย วา โหตีติ วุตฺตเมว ปการํ อุปสํหรติ.

๑๐๙๕. ‘‘ตถา’’ติ อิทํ ‘‘อิตรํ นิกฺกฑฺฒนฺตสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ อิมินาปิ โยเชตพฺพํ. ยถา วิหารูปจารโต อุปฏฺานสาลาทิโต อุปสมฺปนฺนํ นิกฺกฑฺฒนฺตสฺส, นิกฺกฑฺฒาเปนฺตสฺส จ ทุกฺกฏํ โหติ, ตถา อนุปสมฺปนฺนสฺส วิหารโต จ วิหารูปจารโต จ นิกฺกฑฺฒนาทึ กโรนฺตสฺส ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ โหตีติ อตฺโถ. ตถา วิหารสฺสูปจารา วา วิหารา วา สพฺเพสมฺปิ ปริกฺขารํ นิกฺกฑฺฒนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. สพฺเพสนฺติ อุปสมฺปนฺนานุปสมฺปนฺนานํ. ปริกฺขารนฺติ อนฺตมโส รชนฉลฺลิปิ สงฺคยฺหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อนฺตมโส รชนฉลฺลิมฺปี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๒๖).

๑๐๙๖. ‘‘อสมฺพทฺเธสู’’ติ อิมินา พฺยติเรกโต อสิถิลพทฺเธสุ ปริกฺขาเรสุ เอกิสฺสาเยว อาปตฺติยา สมฺภวํ ทสฺเสติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘คาฬฺหํ พนฺธิตฺวา ปิเตสุ ปน เอกาว อาปตฺตี’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๒๖). สิถิลพนฺธนํ ปน สมฺมา พนฺธนํ น โหตีติ อสมฺพทฺธวจเนน คหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อสฺส ภิกฺขุสฺส วตฺถูนํ คณนาย ทุกฺกฏํ ปริทีปเยติ โยชนา, ปริกฺขารํ นีหรนฺตสฺส, นีหราเปนฺตสฺส จ อสฺส ภิกฺขุโนติ วุตฺตํ โหติ.

๑๐๙๗-๘. อนฺเตวาสินฺติ จ สทฺธิวิหาริกนฺติ จ เอตฺถ ‘‘อสมฺมาวตฺตนฺต’’นฺติ เสโส. ยถาห อนาปตฺติวาเร ‘‘อนฺเตวาสิกํ วา สทฺธิวิหาริกํ วา น สมฺมา วตฺตนฺตํ นิกฺกฑฺฒตี’’ติอาทิ (ปาจิ. ๑๒๘). นิกฺกฑฺฒนฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘นิกฺกฑฺฒาเปนฺตสฺสา’’ติ เสโส. อสมฺมาวตฺตนฺตํ อนฺเตวาสึ วา อลชฺชึ วา ตถา อสมฺมาวตฺตนฺตํ สทฺธิวิหาริกํ วา อุมฺมตฺตกํ วา เตสํ อนฺเตวาสิอาทีนํ ปริกฺขารํ วา อตฺตโน วสนฏฺานา วา ตถา วิสฺสาสิกสฺส วสนฏฺานา วา นิกฺกฑฺฒนฺตสฺส, นิกฺกฑฺฒาเปนฺตสฺส วา อุปสมฺปนฺนํ วา อนุปสมฺปนฺนํ วา สงฺฆิกวิหารา นิกฺกฑฺฒนฺตสฺส สยํ อุมฺมตฺตกสฺส วา อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา.

อฏฺกถายํ ‘‘อลชฺชีอาทโย ปน อตฺตโน วสนฏฺานโตเยว นิกฺกฑฺฒิตพฺพา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๒๘) วุตฺตํ, ปาฬิยฺจ ‘‘อตฺตโน ปุคฺคลิเก อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. ๑๒๗) วุตฺตํ, ‘‘อตฺตโน วิสฺสาสิกสฺส วสนฏฺานา’’ติ อิทํ กสฺมา วุตฺตนฺติ เจ? อิมสฺเสว ปาสฺส อนุโลมโต วุตฺตํ. อนฺเตวาสิกนฺติอาทีสุ ปมํ อสมฺมาวตฺตนาทิภาเวน ‘‘นิกฺกฑฺฒิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา นิกฺกฑฺฒนฺตสฺส จิตฺตลหุปริวตฺติตาย โกเป อุปฺปนฺเนปิ อนาปตฺติ.

๑๐๙๙. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘นิกฺกฑฺฒนฺตสฺสา’’ติ จ ตตฺเถว เสสํ ‘‘นิกฺกฑฺฒาเปนฺตสฺสา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๒๖) จ ‘‘ตสฺส ปริกฺขารํ วา’’ติ จ ยถาวุตฺตํ อุปสํหรติ. ‘‘สงฺฆารามาปิ สพฺพสฺมา’’ติ อิทํ กลหการเกเนว โยเชตพฺพํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ภณฺฑนการกกลหการกเมว สกลสงฺฆารามโต นิกฺกฑฺฒิตุํ ลภติ. โส หิ ปกฺขํ ลภิตฺวา สงฺฆมฺปิ ภินฺเทยฺยา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๒๘). อิทํ ตูติ เอตฺถ วิเสสตฺถโชตเกน ตุ-สทฺเทน วุตฺตวิเสสนํ วินา อวเสสวินิจฺฉโย อนนฺตรสทิโสเยวาติ ทีเปติ. ติสมุฏฺานํ กายจิตฺตวาจาจิตฺตกายวาจาจิตฺตโต สมุฏฺานโตติ.

นิกฺกฑฺฒนกถาวณฺณนา.

๑๑๐๐-๑. มชฺฌิมาสีสฆฏฺฏายาติ สีสํ น ฆฏฺเฏตีติ อสีสฆฏฺฏา, มชฺฌิมสฺส อสีสฆฏฺฏา มชฺฌิมาสีสฆฏฺฏา, ตาย, ปมาณมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส สีสาฆฏฺฏนปฺปมาณุพฺเพธเหฏฺิมตลายาติ อตฺโถ. เวหาสกุฏิยาติ ปทราทีหิ อุปริ อจฺฉนฺนตลาย ทฺวิภูมิกาทิเภทาย กุฏิยา. อุปรีติ มตฺถเก, อกตปทราทิอตฺถรณาย ตุลามตฺตยุตฺตาย อุปริมตเลติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ยาหิ กาหิจิ อุปริ อจฺฉนฺนตลา ทฺวิภูมิกกุฏิ วา ติภูมิกาทิกุฏิ วา ‘เวหาสกุฏี’ติ วุจฺจติ, อิธ ปน อสีสฆฏฺฏา อธิปฺเปตา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๑). อาหจฺจปาทเกมฺเจติ ‘‘อาหจฺจปาทโก นาม มฺโจ องฺเค วิชฺฌิตฺวา ิโต โหตี’’ติ ปาฬิยํ ทสฺสิเต อฏนิสีสานิ วิชฺฌิตฺวา ปาทสิขํ อาวุณิตฺวา อุปริสิขาย อนาโกฏิตอาณิมฺหิ ิตมฺเจติ อตฺโถ. อาหจฺจปาทเก ปีเติ สมฺพนฺโธ. ยถาห ปาฬิยํ ‘‘อาหจฺจปาทกํ นาม ปีํ องฺเค วิชฺฌิตฺวา ิตํ โหตี’’ติ (ปาจิ. ๑๓๑). โสเยวตฺโถ.

ตสฺมึ อาหจฺจปาทเก มฺเจ วา ปีเ วา นิสีทนฺตสฺส วา นิปชฺชนฺตสฺส วา ตสฺส ภิกฺขุโน ปโยคคณนาย ปาจิตฺติโย สิยุนฺติ โยชนา.

๑๑๐๒-๓. สงฺฆิเก สงฺฆิกสฺิเวมติกปุคฺคลิกสฺีนํ วเสน ติกปาจิตฺติยํ. ปุคฺคเลติ ปุคฺคลิเก วิหาเร. เวหาสกุฏิยา…เป… คณนาเยว ตสฺส ติกทุกฺกฏนฺติ โยชนา. ปุคฺคลิเก สงฺฆิกสฺิเวมติกอฺปุคฺคลิกสฺีนํ วเสน ติกทุกฺกฏํ.

เหฏฺา อปริโภเค วาติ ทารุสมฺภาราทีนํ วเสน เหฏฺิมตเล อวลฺเช วา. สีสฆฏฺฏาย วาติ สีสฆฏฺฏนปฺปมาณตลาย กุฏิยา วา. อเวหาสวิหาเร วาติ อเวหาสกุฏิยา ภูมิยํ กตปณฺณสาลาทีสุ. เอตฺถาปิ ‘‘วิสฺสาสิกวิหาเร’’ติ อิทํ ‘‘อตฺตโน ปุคฺคลิเก อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. ๑๓๒) อิมสฺส อนุโลมนโต วุตฺตํ.

๑๑๐๔. ยตฺถ ปฏาณิ วา ทินฺนาติ ยสฺมึ มฺเจ ปาทสีสานํ อุปริ อฏนิมตฺถกโต ติริยํ อาณิ ปเวสิตา โหติ, ตตฺถ อภินิสีทโต, อภินิปชฺชโต วา น โทโสติ โยชนา. ตตฺถาติ ปุพฺเพ วุตฺตอปเวสิตปฏาณิมฺหิ มฺเจ วา ปีเ วา. ‘‘ตฺวา’’ติ อิมินา นิปชฺชนํ นิวตฺเตติ. ลเคตีติ อุปริพทฺธองฺกุสสิกฺกาทีสุ ยํ กิฺจิ ปริกฺขารํ ลเคติ. อิทํ สิกฺขาปทํ สมุฏฺานโต เอฬกโลเมน สิกฺขาปเทน สมํ มตนฺติ โยชนา.

เวหาสกุฏิกถาวณฺณนา.

๑๑๐๕. ยาว ทฺวารสฺส โกสมฺหาติ เอตฺถ ‘‘มหลฺลกสฺส วิหารสฺสา’’ติ เสโส, ‘‘มหลฺลโก นาม วิหาโร สสฺสามิโก วุจฺจตี’’ติ (ปาจิ. ๑๓๖) ปาฬิยํ วุตฺตตฺตา การาเปตานํ ทายกานํ สมฺภวโต มหลฺลกสฺส ‘‘วิหาโร นาม อุลฺลิตฺโต วา โหติ อวลิตฺโต วา อุลฺลิตฺตาวลิตฺโต วา’’ติ ทสฺสิตเภทสฺส วิหารสฺส ทฺวารโกสสงฺขาตปิฏฺสงฺฆาฏสฺส ‘‘สมนฺตา หตฺถปาสา’’ติ (ปาจิ. ๑๓๖) ปาฬิยํ วุตฺตทฺวารกวาฏปุถุลปฺปมาณทฺวารพาหสมีปํ อวธึ กตฺวาติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ทฺวารโกโส นาม ปิฏฺสงฺฆาฏสฺส สมนฺตา กวาฏวิตฺถารปฺปมาโณ โอกาโส’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๕).

อคฺคฬฏฺปนายาติ เอตฺถ อคฺคฬสหจริเยน ตํสหิตทฺวารกวาเฏน ยุตฺตทฺวารพาหานเมว วุตฺตตฺตา ทฺวารพาหานํ นิจฺจลตฺถายาติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สกวาฏสฺส ทฺวารพนฺธสฺส นิจฺจลภาวตฺถายาติ อตฺโถ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๕). ลิมฺปิตพฺพนฺติ เอตฺถ ‘‘ปุนปฺปุน’’นฺติ เสโส. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ปุนปฺปุนํ ลิมฺปิตพฺโพ วา เลปาเปตพฺโพ วา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๕). ติณมตฺติกานํ อุปริ ปุนปฺปุนํ มตฺติกาเลโป กาตพฺโพติ อตฺโถ.

๑๑๐๖-๗. โย เยฺโย, อยํ นโยติ สมฺพนฺโธ, ‘‘ปุนปฺปุนํ ลิมฺปิตพฺพํ วา เลปาเปตพฺพเมว วา’’ติ โย วุตฺโต, อยํ นโย เวทิตพฺโพติ อตฺโถ. อาโลกํ สนฺเธติ ปิเธตีติ อาโลกสนฺธิ, วาตปานกวาฏานเมตํ อธิวจนํ. ยถาห ‘‘อาโลกสนฺธีติ วาตปานกวาฏกา วุจฺจนฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๕). เอตฺถ กวาฏสฺส สามนฺตา กวาฏทฺวารผลกวิตฺถารปฺปมาณํ เลปฏฺานํ. ยถาห ‘‘สพฺพทิสาสุ กวาฏวิตฺถารปฺปมาโณ โอกาโส’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๕).

เอตฺถายมธิปฺปาโย – วาตปานกวาฏสฺส สามนฺตา ทฺวารผลกวิตฺถารปฺปมาเณ าเน ติณฺณํ มตฺติกานํ อุปริปิ ยตฺตกํ พหลํ อิจฺฉติ, ตตฺตเก าเน อาโลกสนฺธิ ปริกมฺมตฺถาย ลิมฺปิตพฺโพ วา เลปาเปตพฺโพ วาติ. ‘‘ปุนปฺปุนํ ฉาทาเปสิ ปุนปฺปุนํ เลปาเปสี’’ติ (ปาจิ. ๑๓๔) อิมสฺมึ วตฺถุสฺมึ อุปฺปนฺนโทเสน สิกฺขาปทสฺส ปฺตฺตตฺตา เลปํ อนุชานนฺเตน จ ทฺวารพนฺธนสฺส สามนฺตา อฑฺฒเตยฺยหตฺถปฺปมาเณเยว ปเทเส ปุนปฺปุนํ เลปสฺส อนุฺาตตฺตา ตโต อฺตฺถ ปุนปฺปุนํ ลิมฺเปนฺตสฺส วา ลิมฺปาเปนฺตสฺส วา ภิตฺติยํ มตฺติกาหิ กตฺตพฺพกิจฺจํ นิฏฺาเปตฺวา ปุน จตุตฺถเลเป ทินฺเน ปาจิตฺติเยน ภวิตพฺพนฺติ วทนฺติ. คณฺิปเทสุ ปน ตีสุปิ ปุนปฺปุนํ เลปทานสฺส วุตฺตปฺปมาณโต อฺตฺถ ปฏิกฺขิตฺตมตฺตํ เปตฺวา ปาจิตฺติยสฺส อวุตฺตตฺตา ทุกฺกฏํ อนุรูปนฺติ วุตฺตํ.

ฉทนสฺสาติ ปทภาชเน วุตฺตานํ อิฏฺกาสิลาสุธาติณปณฺณจฺฉทนานํ อฺตรสฺส. ทฺวตฺติปริยายนฺติ เอตฺถ อฏฺกถายํ ‘‘ปริยาเยนาติ ปริกฺเขเปน, เอวํ ฉทนํ ปน ติณปณฺเณหิ ลพฺภตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๖) วุตฺตตฺตา ปริยายนฺติ ติเณหิ วา ปณฺเณหิ วา ปริกฺขิปิตฺวา ฉทนเมว คเหตพฺพํ. อิฏฺกาย วา สิลาย วา สุธาย วา ฉทเน ลพฺภมานํ มคฺเคน ฉทนํ ปน อุปลกฺขณวเสน ลพฺภติ. ทฺวตฺติปริยาเยน ฉทนฺจ ‘‘สพฺพมฺปิ เจตํ ฉทนํ ฉทนูปริ เวทิตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๖) อฏฺกถาวจนโต อุปรูปริ ฉทนวเสน เวทิตพฺพํ. หริตํ นาม ปุพฺพณฺณาทิ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘หริตนฺติ เจตฺถ สตฺตธฺเภทํ ปุพฺพณฺณํ, มุคฺคมาสติลกุลตฺถอลาพุกุมฺภณฺฑาทิเภทฺจ อปรณฺณํ อธิปฺเปต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๕). อิเมสุ อฺตรสฺสาภาเวน อหริตํ นาม.

อธิฏฺเยฺยนฺติ วิธาตพฺพํ. ตโต อุทฺธนฺติ ตีหิ ปริยาเยหิ วา ตีหิ มคฺเคหิ วา อุทฺธํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ติณฺณํ มคฺคานํ วา ปริยายานํ วา อุปรี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๖). ปาจิตฺติยํ โหตีติ วกฺขมานทูรตาย ยุตฺเต อหริตฏฺาเน ตฺวา สํวิทหิตฺวา ติกฺขตฺตุํ ฉาทาเปตฺวา ตติยวาเร ‘‘เอวํ กโรหี’’ติ อาณาเปตฺวา ปกฺกมิตพฺพํ. อปกฺกมนฺเตน ตุณฺหีภูเตน าตพฺพํ, ตโต อุตฺตริ จตุตฺถวาเร ฉทนตฺถํ วิทหนฺตสฺส อิฏฺกาทิคณนาย, ติเณสุ ติณคณนาย, ปณฺเณสุ ปณฺณคณนาย ปาจิตฺติยนฺติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ปาฬิยํ ‘‘มคฺเคน ฉาเทนฺตสฺส ทฺเว มคฺเค อธิฏฺหิตฺวา ตติยาย มคฺคํ อาณาเปตฺวา ปกฺกมิตพฺพ’’นฺติอาทิ (ปาจิ. ๑๓๖). ตติยาย มคฺคนฺติ เอตฺถ ตติยายาติ อุปโยคตฺเถ สมฺปทานวจนํ, ตติยํ มคฺคนฺติ อตฺโถ. ตตฺถาติ หริเต, ‘‘สเจ หริเต ิโต อธิฏฺาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๓๗) วจนโต อธิฏฺานาย ติฏฺโตติ ลพฺภติ. พีชโรปนโต ปฏฺาย ยาว สสฺสํ ติฏฺติ, ตาว หริตํ นาม. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ยสฺมิมฺปิ เขตฺเต วุตฺตํ พีชํ น ตาว สมฺปชฺชติ, วสฺเส ปน ปติเต สมฺปชฺชิสฺสตี’’ติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๕).

๑๑๐๘-๙. อหริตฏฺาเนปิ ติฏฺโต ปริจฺเฉทํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปิฏฺิวํเส’’ติอาทิ. ‘‘ปิฏฺิวํเส’’ติ อิทํ วํสยุตฺตเสนาสนวเสน วุตฺตํ. กณฺณิกํ คาหาเปตฺวา กตเสนาสนสฺสาปิ อุปลกฺขณํ โหติ. ปิฏฺิวํเสติ จ ‘‘คงฺคายํ โฆโส’’ติอาทีสุ วิย สามีปิกาธาเร ภุมฺมํ. กุโตยํ วิเสโส ลพฺภตีติ? อฏฺกถายํ ‘‘ปิฏฺิวํสสฺส วา กูฏาคารกณฺณิกาย วา อุปริ, ถุปิกาย วา ปสฺเส นิสินฺโน โหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๕) วุตฺตวิธานโต ลพฺภติ. ‘‘นิสินฺโน’’ติ อฏฺกถาวจนโต ิโตติ เอตฺถ คตินิวตฺติสามฺเน นิสินฺโน จ วุตฺโตติ คเหตพฺโพ. ยสฺมึ าเนติ เอตฺถ ‘‘อหริเต’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ. ‘‘าตุ’’นฺติ อิทํ อธิฏฺานกรณตฺถาย านํ คเหตฺวา วุตฺตนฺติ ‘‘ตสฺส อนฺโต อหริเตปิ ตฺวา อธิฏฺาตุํ น ลพฺภตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๖) อฏฺกถาวจนโต วิฺายติ.

ปตโนกาสโตติ เอตฺถ ปมตฺเถ โต-ปจฺจโย. ฺหิ านํ วิหารสฺส ปตโนกาโสติ โยชนา. หีติ เหตุอตฺเถ วตฺตมานโต ยสฺมา อหริเต ปตนฺตสฺส วิหารสฺเสตํ านํ ปตโนกาโส, ตสฺมา ตตฺถ าตุํ น วฏฺฏตีติ คเหตพฺพํ.

๑๑๑๑. อิมสฺมึ สิกฺขาปเท อาโท ตาว วิหารปทสฺส ปทภาชเน ‘‘วิหาโร นาม อุลฺลิตฺโต วา’’ติอาทิวุตฺตตฺตา (ปาจิ. อฏฺ. ๑๓๖) ตพฺพิปริยายโต ติเณเหว กตฉทนภิตฺติกา กุฏิ ติณกุฏิกาติ วิฺายตีติ ติณฉทนา กุฏิกา ติณกุฏิกา.

ทฺวตฺติปริยายกถาวณฺณนา.

๑๑๑๒. ชานนฺติ โตยสฺส สปฺปาณกภาวํ ชานนฺโต. สิฺเจยฺย สิฺจาเปยฺยาติ เอตฺถ ‘‘เตน อุทเกนา’’ติ วตฺตพฺพํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘เตน อุทเกน สยํ วา สิฺเจยฺยา’’ติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๔๐).

๑๑๑๓. โย ปน ธารํ อจฺฉินฺทิตฺวา สเจ มตฺติกํ สิฺเจยฺย, เอวํ สิฺจโต ตสฺสาติ โยชนา.

๑๑๑๔-๕. สนฺทมานกนฺติ โตยวาหินึ. มาติกํ อาฬึ. สมฺมุขํ กโรนฺตสฺสาติ อุทกํ นฺหายิตุมิจฺฉิตํ ยทิ, สยํ อภิมุขํ กโรนฺตสฺส. ตตฺถ ตตฺถ พนฺธโต อสฺส ภิกฺขุสฺส ปโยคคณนาย อาปตฺติ สิยาติ โยชนา. ปโยคคณนาติ ปโยคคณนาย, อุทกํ พนฺธิตฺวา พนฺธิตฺวา ยถิจฺฉิตทิสาภิมุขกรณปโยคานํ คณนายาติ อตฺโถ.

๑๑๑๖-๗. ยํ ชลํ ติณาทิมฺหิ ปกฺขิตฺเต สเจ ขยํ วา อาวิลตฺตํ วา คจฺฉติ, ตาทิเส อุทเก มตฺติกํ, ติณเมว วา สเจ สกฏปุณฺณมฺปิ เอกโต ปกฺขิเปยฺย, เอวํ ปกฺขิปนฺตสฺส เอกา ปาจิตฺติ. เอเกกํ มตฺติกํ, ติณเมว วา. วา-สทฺเทน กฏฺโคมยาทึ วา ปกฺขิปนฺตสฺส ปโยคคณนาย ปาจิตฺติยนฺติ โยชนา. อาวิลตฺตนฺติ ปาณกา ยถา นสฺสนฺติ, ตถา อาลุฬิตภาวํ. อิมินา เอวํ อวินสฺสมานปาณเก มหาอุทเก ติณาทึ ปกฺขิปนฺตสฺส อนาปตฺติภาวํ ทีเปติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อิทํ ปน มหาอุทกํ…เป… สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๔๐).

๑๑๑๘. ทุกฺกฏํ โหตีติ อาณาปนปจฺจยา ทุกฺกฏํ โหติ. เอกา ปาจิตฺติ.

๑๑๑๙. สพฺพตฺถาติ สปฺปาณเก จ อปฺปาณเก จ. วิมติสฺสาติ สหจริเยน วิมติสหิตมาห.

๑๑๒๐. ‘‘สพฺพตฺถาปาณสฺิสฺสา’’ติอาทีสุ อธิการโต ลพฺภมานํ ‘‘สิฺจนาทีสุ ยํ กิฺจิ กโรนฺตสฺสา’’ติ อิทํ ปจฺเจกํ สมฺพนฺธนียํ. สพฺพตฺถาติ สปฺปาณเก, อปฺปาณเก จ. อปาณสฺิสฺสาติ เอวํ กเตน ปโยเคน นสฺสมานา ปาณกา น สนฺตีติสฺิสฺส. อสฺจิจฺจาติ ยถา ปาณกา น นสฺสนฺติ, เอวํ ฆฏาทีหิ คหิตํ สปฺปาณกอุทกํ อุทเกเยว โอสิฺจนฺตสฺส วา โอสิฺจาเปนฺตสฺส วา วฏฺฏิตฺวา ตสฺมึ อุทเก ติณาทิมฺหิ ปติเต อสฺจิจฺจ กตํ นาม โหติ. อสติสฺสาติ อสติยา กโรนฺตสฺส. อชานโตติ ปาณกานํ อตฺถิภาวํ อชานิตฺวา กโรนฺตสฺส.

๑๑๒๑-๒. วธกจิตฺเต สติ สตฺตเม สปฺปาณกวคฺเค ปมสิกฺขาปทสฺส วิสยภาวโต ตโต วิเสเสตุมาห ‘‘วินา วธกจิตฺเตนา’’ติ. อิมสฺมึ สิกฺขาปเท ปาฬิยํ (ปาจิ. ๑๔๐) ‘‘สปฺปาณกํ อุทก’’นฺติ อิมินา อฏฺกถาคตํ ปมงฺคฺจ ‘‘ชาน’’นฺติ อิมินา ทุติยงฺคฺจ ‘‘สิฺเจยฺย วา สิฺจาเปยฺย วา’’ติ อิมินา จตุตฺถงฺคฺจ วุตฺตํ, น วุตฺตํ ตติยงฺคํ. ตฺจ โข วธกจิตฺตสฺส สตฺตมวคฺเค ปมสิกฺขาปเทน ปาจิตฺติยวจนโต เอตฺถ ตทภาวลกฺขณํ ตติยงฺคํ วุตฺตเมว โหตีติอธิปฺปาเยน อฏฺกถายํ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘วินา วธกจิตฺเตนา’’ติ. เตเนวาห ‘‘จตฺตาเรวสฺส องฺคานิ, นิทฺทิฏฺานิ มเหสินา’’ติ. อสฺสาติ อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส.

๑๑๒๓. สปฺปาณกสฺิสฺส ‘‘ปริโภเคน ปาณกา มริสฺสนฺตี’’ติ ปุพฺพภาเค ชานนฺตสฺสาปิ สิฺจนสิฺจาปนํ ‘‘ปทีเป นิปติตฺวา ปฏงฺคาทิปาณกา มริสฺสนฺตี’’ติ ชานนฺตสฺส ปทีปุชฺชลนํ วิย วินาปิ วธกเจตนาย โหตีติ อาห ‘‘ปณฺณตฺติวชฺชํ ติจิตฺต’’นฺติ. เอตฺถ กิสฺมิฺจิ กุปิตสฺส วา กีฬาปสุตสฺส วา สิฺจโต อกุสลจิตฺตํ, มาลาคจฺฉาทึ สิฺจโต กุสลจิตฺตํ, ปณฺณตฺตึ อชานโต ขีณาสวสฺส อพฺยากตจิตฺตนฺติ ติจิตฺตํ เวทิตพฺพํ. ตสฺสาติ สตฺตมวคฺเค ปมสิกฺขาปทสฺส. อสฺส จาติ อิมสฺส สิฺจนสิกฺขาปทสฺส จ. อิทํ วิเสสนนฺติ อิทํ นานากรณํ. เอตฺถ อิมสฺมึ ปกรเณ นิทฺทิฏฺํ ปกาสิตนฺติ อตฺโถ. ตํ โลกวชฺชํ, อิทํ ปณฺณตฺติวชฺชํ. ตํ อกุสลจิตฺตํ, อิทํ ติจิตฺตํ. ตํ ทุกฺขเวทนํ, อิทํ ติเวทนนฺติ วุตฺตํ โหติ.

สตฺตมวคฺเค ทุติยสฺส อิมสฺส จ โก วิเสโสติ เจ? อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส ‘‘สิฺเจยฺย วา สิฺจาเปยฺย วา’’ติ พาหิรปริโภควเสน ปมํ ปฺตฺตตฺตา ‘‘สปฺปาณกํ อุทกํ ปริภุฺเชยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๓๘๘) สิกฺขาปทํ อตฺตโน นหานปานาทิปริโภควเสน ปฺตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตสฺมึ วา ปมํ ปฺตฺเตปิ อตฺตโน ปริโภควเสเนว ปฺตฺตตฺตา ปุน อิทํ สิกฺขาปทํ พาหิรปริโภควเสน ปฺตฺตนฺติ คเหตพฺพํ.

สปฺปาณกกถาวณฺณนา.

เสนาสนวคฺโค ทุติโย.

๑๑๒๔-๖. อฏฺงฺคยุตฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘สีลวา’’ติอาทิ เอกมงฺคํ, ‘‘พหุสฺสุโต’’ติอาทิ ทุติยํ, ‘‘อุภยานิ โข ปนสฺสา’’ติอาทิ ตติยํ, ‘‘กลฺยาณวาโจ โหตี’’ติอาทิ จตุตฺถํ, ‘‘เยภุยฺเยน ภิกฺขุนีนํ ปิโย โหติ มนาโป’’ติ ปฺจมํ, ‘‘ปฏิพโล โหติ ภิกฺขุนิโย โอวทิตุ’’นฺติ ฉฏฺํ, ‘‘น โข ปเนตํ ภควนฺตํ อุทฺทิสฺสา’’ติอาทิ สตฺตมํ, ‘‘วีสติวสฺโส วา โหติ อติเรกวีสติวสฺโส วา’’ติ อฏฺมนฺติ เอตานิ ปาาคตานิ อฏฺ องฺคานิ นาม. ภิกฺขุนีนํ โอวาโท, ตทตฺถาย สมฺมุตีติ วิคฺคโห. อิธาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. ตฺติ จตุตฺถี ยสฺส กมฺมสฺสาติ วิคฺคโห. ‘‘กมฺเมนา’’ติ เสโส.

อฏฺงฺคยุตฺตสฺส ภิกฺขุสฺส มเหสินา ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน ยา ภิกฺขุโนวาทกสมฺมุติ อิธ อนุฺาตา, ตาย อสมฺมโต โย ภิกฺขูติ โยชนา.

ครุธมฺเมหิ อฏฺหีติ ‘‘วสฺสสตูปสมฺปนฺนาย ภิกฺขุนิยา ตทหุปสมฺปนฺนสฺส ภิกฺขุโน อภิวาทนํ ปจฺจุปฏฺานํ อฺชลิกมฺมํ สามีจิกมฺมํ กาตพฺพ’’นฺติอาทีหิ (ปาจิ. ๑๔๙) ปาฬิยํ อาคเตหิ อฏฺหิ ครุธมฺเมหิ. เอกํ ภิกฺขุนึ, สมฺพหุลา วา ภิกฺขุนิโยติ อิทํ ปกรณโต ลพฺภติ. โอสาเรนฺโตวาติ ปาฬึ อุจฺจาเรนฺโตว. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘โอสาเรตพฺพาติ ปาฬิ วตฺตพฺพา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๔๙). เต ธมฺเมติ ปุพฺเพ วุตฺเต เต อฏฺ ครุธมฺเม. โอวเทยฺยาติ อฏฺครุธมฺมปาฬิภาสนสงฺขาตํ โอวาทํ กเรยฺย.

กึ วุตฺตํ โหติ? ปาฏิปเท โอวาทตฺถาย อาคนฺตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺนา ภิกฺขุนิโย ‘‘เตน ภิกฺขุนา’’ติอาทินา ปาาคตนเยน ‘‘สมคฺคตฺถ ภคินิโย’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สมคฺคมฺหยฺยา’’ติ ยทิ วเทยฺยุํ, ‘‘วตฺตนฺติ ภคินิโย อฏฺ ครุธมฺมา’’ติ ปุนปิ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘วตฺตนฺตยฺยา’’ติ ยทิ วเทยฺยุํ, ‘‘เอโส ภคินิโย โอวาโท’’ติ นิยฺยาเทยฺย. ‘‘น วตฺตนฺตยฺยา’’ติ ยทิ วเทยฺยุํ, ‘‘วสฺสสตูปสมฺปนฺนายา’’ติอาทินา อฏฺครุธมฺมปาฬิภาสนวเสน โอวาทํ กเรยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘โอสาเรนฺโตว เต ธมฺเม โอวเทยฺยา’’ติ.

๑๑๒๗. อฺเน ธมฺเมนาติ สุตฺตนฺเตน วา อภิธมฺเมน วา. เอกโตอุปสมฺปนฺนนฺติ ภิกฺขุนิสงฺเฆเยว อุปสมฺปนฺนํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก เอกโตอุปสมฺปนฺนายา’’ติ. ตถาติ โอวทนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ ทสฺเสติ.

๑๑๒๘. ภิกฺขูนํ สนฺติเกเยว อุปสมฺปนฺนนฺติ มหาปชาปติยา โคตมิยา สทฺธึ ปพฺพชิตา ปฺจสตา สากิยานิโย สงฺคณฺหาติ. ลิงฺควิปลฺลาเส อุปสมฺปนฺนภิกฺขุโน ลิงฺคปริวตฺตเน สติ ตถา ปาจิตฺติ เอว ปกาสิตาติ อตฺโถ.

๑๑๒๙. โอวาทํอนิยฺยาเทตฺวาติ ‘‘วตฺตนฺติ ภคินิโย อฏฺ ครุธมฺมา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘วตฺตนฺตยฺยา’’ติ วุตฺเตติ เอตฺถาปิ โสเยวตฺโถ.

๑๑๓๐. ครุธมฺเมหิ โอวทโต ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.

๑๑๓๑. อคณฺหนฺตสฺส โอวาทนฺติ เอตฺถ โอวาทตฺถํ ยาจนสนฺเทโส ตทตฺถตาย โอวาโทติ คหิโตติ โอวาทสาสนํ อสมฺปฏิจฺฉนฺตสฺสาติ อตฺโถ. อปจฺจาหรโตปิ ตนฺติ ตํ อตฺตนา คหิตํ โอวาทสาสนํ อุโปสถคฺเค อาโรเจตฺวา ปาติโมกฺขุทฺเทสเกน ทินฺนํ ปฏิสาสนํ ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส เนตฺวา อวทนฺตสฺสาปิ. พาลนฺติ สาสนสมฺปฏิจฺฉนฺจ อุโปสถคฺคํ เนตฺวา อาโรจนฺจ ปฏิสาสนํ หริตฺวา ปาฏิปเท ภิกฺขุนิสงฺฆคณปุคฺคลานํ ยถานุรูปํ ปจฺจาโรจนฺจ กาตุํ อชานนตาย พาลํ. คิลานนฺติ อุโปสถคฺคํ คนฺตฺวาปิ อาโรจนสฺส พาธเกน เคลฺเน สมนฺนาคตํ คิลานํ. คมิกนฺติ ปาฏิปทํ อนิสีทิตฺวา คนฺตพฺพํ อจฺจายิกคมนํ คมิกฺจ เปตฺวา ทุกฺกฏํ สิยาติ สมฺพนฺโธ.

๑๑๓๒. กมฺมสฺมินฺติ เอตฺถ กมฺม-สทฺเทน ภิกฺขุโนวาทกสฺส ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน ทินฺนํ สมฺมุติกมฺมํ อธิปฺเปตนฺติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ. ตฺตึ, กมฺมวาจฺจ ปริหาเปตฺวา, ปริวตฺเตตฺวา วา กตํ เจ, อธมฺมกมฺมํ นาม. วคฺเคติ ฉนฺทารหานํ ฉนฺทสฺส อนาหรเณน วา สนฺนิปติตานํ อุกฺโกเฏน วา วคฺเค สติ. ติกปาจิตฺติยํ สิยาติ ‘‘อธมฺมกมฺเม อธมฺมกมฺมสฺี วคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี โอวทติ, เวมติโก โอวทติ, สมคฺคสฺี โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๕๐) อธมฺมกมฺเม อธมฺมกมฺมสฺิปกฺเข วุตฺตปาจิตฺติยตฺตยํ โหติ.

๑๑๓๓. อธมฺเม ปน กมฺมสฺมึ เวมติกสฺสาปีติ โยชนา. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘วคฺเค ภิกฺขุนิสงฺฆสฺมึ, ติกปาจิตฺติยํ สิยา’’ติ อิทํ สงฺคณฺหาติ. กึ วุตฺตํ โหติ? อธมฺมกมฺเม เวมติกปกฺเข ‘‘วคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี, เวมติโก, สมคฺคสฺี โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๕๐) อธมฺมิกกมฺเมเยว วิมติวาเร วุตฺตติกปาจิตฺติยํ โหตีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ธมฺมกมฺมนฺติ สฺิโน’’ติ อิมินาปิ ‘‘อธมฺเม ปน กมฺมสฺมิ’’นฺติ อิทํ โยเชตพฺพํ, ‘‘ตถา’’ติ สมฺพนฺโธ, เตน ‘‘วคฺเค’’ติอาทิกํ สงฺคณฺหาติ. ‘‘อธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺี วคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี โอวทติ, เวมติโก, สมคฺคสฺี โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๕๐) วุตฺตํ ติกปาจิตฺติยํ โหติ. เอวเมตา ปาจิตฺติโย สนฺธายาห ‘‘นว ปาจิตฺติโย วุตฺตา’’ติ.

อิมสฺมึ วิย อธมฺมกมฺมวาเร ‘‘สมคฺเค ภิกฺขุนิสงฺฆสฺมิ’’นฺติ วิกปฺเป จ เอวเมว นว ปาจิตฺติโย โหนฺตีติ อติทิสนฺโต ‘‘สมคฺเคปิ จ ตตฺตกา’’ติ อาห. ยถาห ‘‘อธมฺมกมฺเม อธมฺมกมฺมสฺี สมคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี, เวมติโก, สมคฺคสฺี โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. อธมฺมกมฺเม เวมติโก สมคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี, เวมติโก, สมคฺคสฺี โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. อธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺี สมคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี, เวมติโก, สมคฺคสฺี โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๕๐).

๑๑๓๔. ทฺวินฺนํ นวกานํ วสาติ ยถาทสฺสิตํ วคฺคนวกํ, สมคฺคนวกนฺติ ทฺวินฺนํ นวกานํ วเสน. ตาติ ปาจิตฺติโย.

‘‘ธมฺมกมฺเม อธมฺมกมฺมสฺี วคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี, เวมติโก, สมคฺคสฺี โอวทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ธมฺมกมฺเม เวมติโก วคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี, เวมติโก, สมคฺคสฺี โอวทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺี วคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี, เวมติโก, สมคฺคสฺี โอวทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วคฺคปกฺเข นว ทุกฺกฏานิ. ‘‘ธมฺมกมฺเม อธมฺมกมฺมสฺี สมคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี, เวมติโก, สมคฺคสฺี โอวทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ธมฺมกมฺเม เวมติโก สมคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี, เวมติโก, สมคฺคสฺี โอวทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺี สมคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ วคฺคสฺี, เวมติโก โอวทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺี สมคฺคํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ สมคฺคสฺี โอวทติ, อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. ๑๕๑) เอตฺถ อนฺเต วุตฺตํ อนาปตฺติวารํ วินา อวเสเสสุ อฏฺสุ วาเรสุ สมคฺคปกฺเข อฏฺ ทุกฺกฏานิ. เอวํ ปุริมานิ นว, อิมานิ อฏฺาติ ธมฺมกมฺมปกฺเข สตฺตรส ทุกฺกฏานิ โหนฺตีติ อาห ‘‘ทุกฺกฏํ ธมฺมกมฺเมปิ, สตฺตรสวิธํ สิยา’’ติ.

๑๑๓๕. ‘‘โอสาเรหี’’ติ วุตฺโต กเถติ วาติ โยชนา. ‘‘อฏฺครุธมฺมํ กเถหี’’ติ วุตฺโต ตํ กเถติ วา. ปฺหํ ปุฏฺโ กเถติ วาติ อฏฺครุธมฺมวิสเย ปฺหํ ปุฏฺโ ตเมว วทติ วา. สิกฺขมานาย กเถติ วาติ สมฺพนฺโธ. สิกฺขมานาย อฏฺครุธมฺเม กเถติ วา, เนว โทโสติ อตฺโถ. อุมฺมตฺตกาทิโน กถยโต เนว โทโสติ โยชนา.

๑๑๓๖. อิทานิ ติณฺณมฺปิ พหุสฺสุตานํ ลกฺขเณ เอกตฺถ ทสฺสิเต ภิกฺขุโนวาทกสฺส วิเสโส สุวิฺเยฺโย โหตีติ ตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘วาจุคฺคตาว กาตพฺพา’’ติอาทิ. ทฺเว มาติกา ปคุณา วาจุคฺคตา กาตพฺพาติ โยชนา. ภิกฺขุภิกฺขุนิวิภงฺเค มาติกา ปคุณา วาจุคฺคตาว กาตพฺพาติ โยชนา, ภิกฺขุภิกฺขุนิวิภงฺคมาติกา ปคุณา กตฺวา ตาสํ อฏฺกถํ อุคฺคเหตฺวา ปาฬิโต, อตฺถโต จ วจนปถารุฬฺหา โวหารกฺขมาเยว กาตพฺพาติ วุตฺตํ โหติ. จตฺตาโร ภาณวารา ปคุณา วาจุคฺคตาว กาตพฺพาติ ปกาสิตาติ โยชนา. ‘‘ปคุณา’’ติ อิมินา ปาฬิยํ ปคุณํ กตฺวา ธาเรตฺวา ปริปุจฺฉิตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. ‘‘วาจุคฺคตาว กาตพฺพา’’ติ อิมินา ตทตฺถํ สุตฺวา ธาเรตฺวา ปริปุจฺฉิตพฺพเมวาติ ทสฺเสติ.

๑๑๓๗. ปริกถตฺถายาติ สมฺปตฺตานํ ธมฺมกถนตฺถาย. กถามคฺโคติ มหาสุทสฺสนกถามคฺโค. มงฺคล…เป… อนุโมทนาติ อคฺคสฺส ทานาทิมงฺคเลสุ ภตฺตานุโมทนาสงฺขาตา ทานกถา จ, กุมารมงฺคลาทีสุ มหามงฺคลสุตฺตาทิมงฺคลานุโมทนา จ, อมงฺคลํ นาม กาลกิริยา, ตตฺถ มตกภตฺตาทีสุ ติโรกุฏฺฏาทิกถา จาติ เอวํ ติสฺโสเยวานุโมทนา.

๑๑๓๘. อุโปสถาทิอตฺถายาติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ปวารณาทีนํ สงฺคโห. กมฺมากมฺมวินิจฺฉโยติ กมฺมวคฺเค วุตฺตวินิจฺฉโย, ปริวาเร กมฺมวคฺเค อาคตขุทฺทานุขุทฺทกกมฺมวินิจฺฉโยติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘กมฺมฏฺาน’’นฺติ อิมินา ‘‘อุตฺตมตฺถสฺส ปาปก’’นฺติ วกฺขมานตฺตา วิปสฺสนากมฺมฏฺานมาห. วิปสฺสนาวเสน อุคฺคณฺหนฺเตน จ ธาตุววตฺถานมุเขน อุคฺคเหตพฺพนฺติ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. อุตฺตมตฺถสฺสาติ อรหตฺตสฺส.

๑๑๓๙. เอตฺตกํ อุคฺคเหตฺวาน พหุสฺสุโตติ ยถาวุตฺตธมฺมานํ อุคฺคหิตตฺตา พหุสฺสุโต. ปฺจวสฺโสติ อุปสมฺปทโต ปฏฺาย ปริปุณฺณปฺจสํวจฺฉโร. ‘‘ทสวสฺโส’’ติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. สํวจฺฉรวเสน ปฺจวสฺเสสุ ปริปุณฺเณสุ วุตฺถวสฺสวเสน อปริปุณฺเณสุปิ ปฺจวสฺโสเยว. อิตรถา อูนปฺจวสฺโสติ เวทิตพฺโพ. ปริปุณฺณวีสติวสฺสูปสมฺปทาทีสุ วิย เกจิ สํวจฺฉรคณนํ อวิจาเรตฺวา ‘‘ปฺจวสฺโส’’ติวจนสามฺเน วุตฺถวสฺสคณนเมว คณฺหนฺติ, ตทยุตฺตํ. ตถา คหเณสุ ยุตฺติ วา มคฺคิตพฺพา. มุฺจิตฺวา นิสฺสยนฺติ นิสฺสยวาสํ ชหิตฺวา. อิสฺสโรติ นิสฺสยาจริยวิรเหน อิสฺสโร, อิมินา นิสฺสยมุตฺตลกฺขณํ ทสฺสิตํ.

๑๑๔๐. ทฺเววิภงฺคาติ ภิกฺขุภิกฺขุนิวิภงฺคทฺวยํ. อิธ ‘‘วาจุคฺคตา’’ติ อิทํ ปริปุจฺฉมฺปิ สนฺธายาหาติปิ วุตฺตํ. เตนาห สารตฺถทีปนิยํ ‘‘ทฺเว วิภงฺคา ปคุณา วาจุคฺคตา กาตพฺพา’ติอิทํ ปริปุจฺฉาวเสน อุคฺคหณมฺปิ สนฺธาย วุตฺต’นฺติ วทนฺตี’’ติ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๑๔๕-๑๔๗). พฺยฺชนาทิโตติ เอตฺถ พฺยฺชนํ นาม ปทํ, อาทิ-สทฺเทน สงฺคหิตํ อนุพฺยฺชนํ นาม อกฺขรํ, ปทกฺขรานิ อปริหาเปตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. จตูสฺวปิ นิกาเยสูติ ทีฆมชฺฌิมสํยุตฺต องฺคุตฺตรนิกาเยสุ, นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. เอโก วา นิกาโย โปตฺถโกปิ จ เอโกติ โยชนา. อปิ-สทฺเทน ขุทฺทกนิกายสฺสาปิ สงฺคโห เวทิตพฺโพ. ‘‘ปิ วา’’ติ อิมินา ขุทฺทกนิกาเย ชาตกภาณเกน สาฏฺกถํ ชาตกํ อุคฺคเหตฺวาปิ ธมฺมปทํ สห วตฺถุนา อุคฺคเหตพฺพเมวาติ ทสฺสิเต ทฺเว โปตฺถเก สมุจฺจิโนติ, จตฺตาริ ขนฺธกวตฺตานิ วา.

๑๑๔๒. ทิสาปาโมกฺโข ยตฺถ ยตฺถ วสติ, ตสฺสา ตสฺสาทิสาย ปาโมกฺโข ปธาโน. เยนกามํคโมติ ยตฺถ กตฺถจิ ทิสาภาเค ยถากามํ วุตฺติโก โหตีติ อตฺโถ . ปริสํ อุปฏฺาเปตุํ กามํ ลภเต อิสฺสโรติ โยชนา, อิสฺสโร หุตฺวา ภิกฺขุปริสาย อตฺตานํ อุปฏฺาเปตุํ ยถารุจิยา ลภตีติ อตฺโถ. เอตฺตาวตา ปริสูปฏฺาปกลกฺขณํ วุตฺตํ.

๑๑๔๓. วาจุคฺคนฺติ วาจุคฺคตํ. เอตฺถ จ ‘‘อิทานิ อยํ ภณฺฑปาถาวิธิ น โหตีติ มิหกปริปุจฺฉนกถานุรูปโต อตฺถกรณํ น วาจุคฺคตกรณํ นามาติ วิฺายตี’’ติ นิสฺสนฺเทเห วุตฺตํ. อิมินา ยถาวุตฺตํ ทุติยงฺคเมว สงฺคหิตํ.

๑๑๔๔. อสฺสาติ อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส. อสมฺมตตาทีนิ ตีณิ องฺคานีติ อตฺตโน อสมฺมตตา, ภิกฺขุนิยา ปริปุณฺณูปสมฺปนฺนตา, โอวาทวเสน อฏฺครุธมฺมภณนนฺติ อิมานิ ตีณิ องฺคานิ.

โอวาทกถาวณฺณนา.

๑๑๔๖. ติกปาจิตฺติยนฺติ ‘‘อตฺถงฺคเต สูริเย อตฺถงฺคตสฺี, เวมติโก, อนตฺถงฺคตสฺี’’ติ วิกปฺปตฺตเย. เอกโตอุปสมฺปนฺนนฺติ ภิกฺขุนิสงฺเฆ อุปสมฺปนฺนํ. ‘‘ภิกฺขุสงฺเฆ อุปสมฺปนฺนํ ปน โอวทโต ปาจิตฺติยเมวา’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ.

๑๑๔๘. อุทฺเทสาทินเยนาติ ‘‘อนาปตฺติ อุทฺเทสํ เทนฺโต, ปริปุจฺฉํ เทนฺโต’’ติอาทินา อนาปตฺติวารนเยน. อสฺสาติ ภิกฺขุสฺส.

อตฺถงฺคตสูริยกถาวณฺณนา.

๑๑๔๙. ‘‘สเจ อสมฺมโต’’ติ วกฺขมานตฺตา โอวทนฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘สมฺมตสฺสา’’ติ ลพฺภติ. ภิกฺขุนุปสฺสยนฺติ ภิกฺขุนิวิหารํ. อฺตฺร กาลาติ ‘‘ตตฺถายํ สมโย , คิลานา โหติ ภิกฺขุนี’’ติ วุตฺตกาลโต อฺตฺร. ‘‘คิลานา นาม ภิกฺขุนี น สกฺโกติ โอวาทาย วา สํวาสาย วา คนฺตุ’’นฺติ (ปาจิ. ๑๖๑) ทสฺสิเต คิลานกาเล อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ.

๑๑๕๐. ปาจิตฺติยทฺวยํ โหตีติ ปมสิกฺขาปเทน, อิมินา จ สิกฺขาปเทน ทฺเว ปาจิตฺติยานิ โหนฺตีติ. ‘‘ตีณิปิ ปาจิตฺติยานี’’ติ โยเชตพฺพา, ปมทุติยตติเยหิ สิกฺขาปเทหิ ตีณิ ปาจิตฺติยานิ โหนฺตีติ อตฺโถ.

๑๑๕๑. อฺเน ธมฺเมนาติ ครุธมฺมโต อฺเน พุทฺธวจเนน. ทุกฺกฏทฺวยนฺติ อสมฺมตภิกฺขุนุปสฺสยคมนมูลกํ ทุกฺกฏทฺวยํ. ภิกฺขุโนติ อสมฺมตสฺส ‘‘สมฺมตสฺสาปี’’ติ วกฺขมานตฺตา. ‘‘อฏฺหิ วา ครุธมฺเมหิ อฺเน วา ธมฺเมน โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๕๕) อตฺถงฺคตสิกฺขาปเท วุตฺตตฺตา ‘‘รตฺติเหตุก’’นฺติ อาห, รตฺติโอวาทนมูลนฺติ อตฺโถ.

๑๑๕๒. ปาจิตฺติยทฺวยนฺติ ทุติยตติยมูลกํ. ครุธมฺเมน โอวาโท ครุธมฺโม, โส นิทานํ ยสฺส ปาจิตฺติยสฺสาติ วิคฺคโห. สมฺมตตฺตา ครุธมฺมนิทานสฺส ปาจิตฺติยสฺส อภาวโตติ สมฺพนฺโธ. อิมินา ปมสิกฺขาปเทน อนาปตฺติภาวํ ทสฺเสติ.

๑๑๕๓. ตสฺเสวาติ สมฺมตสฺเสว. ทุกฺกฏํ อิมินา ตติยสิกฺขาปเทน. อนาปตฺติ ปมสิกฺขาปเทน, เตเนวาห ‘‘สมฺมตตฺตา’’ติ. ปาจิตฺติ ทุติยสิกฺขาปเทน, เตเนวาห ‘‘รตฺติย’’นฺติ.

๑๑๕๔. ติกปาจิตฺติยํวุตฺตนฺติ ‘‘อุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺี, เวมติโก, อนุปสมฺปนฺนสฺี ภิกฺขุนุปสฺสยํ อุปสงฺกมิตฺวา อฺตฺร สมยา โอวทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๖๒) ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. อิตรทฺวเยติ ‘‘อนุปสมฺปนฺนาย อุปสมฺปนฺนสฺี, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อนุปสมฺปนฺนาย เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๖๒) ทสฺสิเต อิตรทฺวเย. โอวทนฺตสฺสาติ เยน เกนจิ โอวทนฺตสฺส.

๑๑๕๕. ติกปาจิตฺติยํ, ทุกฺกฏฏฺาเน ทุกฺกฏเมว โหตีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตถา’’ติ. ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตฺวา อฺเน ธมฺเมน โอวทนฺตสฺส ตถาติ โยชนา.

ภิกฺขุนุปสฺสยกถาวณฺณนา.

๑๑๕๖. จีวราทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน ปิณฺฑปาตาทิอิตรปจฺจยตฺตยฺจ สกฺการครุการมานนวนฺทนปูชนานิ จ สงฺคหิตานิ. สมฺมเตติ ภิกฺขุโนวาทกสมฺมุติยา สมฺมเต.

๑๑๕๗. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺี, เวมติโก, อธมฺมกมฺมสฺี เอวํ วทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๖๗) ติกปาจิตฺติยํ ปาฬิยํ ทสฺสิตเมว. อิธ กมฺมํ นาม ยถาวุตฺตํ สมฺมุติกมฺมํ. อธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺิเวมติกอธมฺมกมฺมสฺีนํ วเสน ติกทุกฺกฏํ. วีสติวสฺโส วา อติเรกวีสติวสฺโส วาติ สมฺมุติยา องฺคานิ.

๑๑๕๘. ‘‘สมฺมตํ อนุปสมฺปนฺน’’นฺติ กํ สนฺธายาหาติ เจ? สมฺมเตน หุตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย สามเณรภาวมุปคตํ สนฺธาย วุตฺตํ. อามิสตฺถายาติ จีวราทีนมตฺถาย.

อามิสกถาวณฺณนา.

๑๑๖๒. ภิกฺขุนิยา ทินฺนนฺติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขุสฺสา’’ติ วตฺตพฺพํ. ภิกฺขุนา ทินฺนนฺติ โยชนา. ‘‘ภิกฺขุนิยา’’ติ เสโส . ตตฺถาติ จีวรปฏิคฺคหณสิกฺขาปเท. สูจิตาติ ปกาสิตา.

จีวรทานกถาวณฺณนา.

๑๑๖๓. อฺาติกาย ภิกฺขุนิยา จีวรนฺติ โยชนา.

๑๑๖๔. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท.

๑๑๖๕. สูจึ จีวรํ ปเวเสตฺวาติ สมฺพนฺโธ. สูจินีหรเณติ จีวรโต.

๑๑๖๖. ปโยคสฺส วสาติ เอกกฺขเณ พหู อาวุณิตฺวา สูจิยา นีหรณปโยคคณนาย. พหู ปาจิตฺติโยติ โยชนา, ปโยคปฺปมาณาปตฺติโย โหนฺตีติ อตฺโถ.

๑๑๖๙. อเนกา ปาจิตฺติยาปตฺตี โหนฺตีติ โยชนา. อารปเถติ สูจิมคฺเค. ทุติเย ปเถติ เอตฺถ อาร-สทฺโท คาถาพนฺธสุขตฺถํ ลุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.

๑๑๗๐. กา หิ นาม กถาติ ‘‘อเนกาปตฺติโย โหนฺตี’’ติ เอตฺถ กึ วตฺตพฺพนฺติ อตฺโถ. ติกปาจิตฺติยนฺติ ‘‘อฺาติกาย อฺาติกสฺี, เวมติโก, าติกสฺี จีวรํ สิพฺพติ วา สิพฺพาเปติ วา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๑๗๘) วุตฺตํ ติกปาจิตฺติยํ.

๑๑๗๒. อฺํ ปริกฺขารนฺติ อุปาหนตฺถวิกาทึ. สิพฺพโตติ เอตฺถ ‘‘สิพฺพาปยโต’’ติ อธิการโต ลพฺภติ. สิกฺขมานสามเณริโย สิกฺขมานาทิกา นาม.

๑๑๗๓. สิพฺพนกิริยาย อาปชฺชิตพฺพโต กฺริยํ.

จีวรสิพฺพนกถาวณฺณนา.

๑๑๗๔-๕. สํวิธายาติ ‘‘อชฺช ยาม, สฺเว ยามา’’ติอาทินา นเยน สํวิทหิตฺวา. ยถาห ‘‘อชฺช วา หิยฺโย วา ปเร วา คจฺฉามาติ สํวิทหตี’’ติ (ปาจิ. ๑๘๓). มคฺคนฺติ เอกทฺธานมคฺคํ, อนฺตมโส คามนฺตรมฺปิ. อฺตฺร สมยาติ ‘‘ตตฺถายํ สมโย, สตฺถคมนีโย โหติ มคฺโค สาสงฺกสมฺมโต สปฺปฏิภโย’’ติ (ปาจิ. ๑๘๒) วุตฺตกาลวิเสสา อฺตฺราติ วุตฺตํ โหติ. สตฺถวาเหหิ วินา อคมนีโย มคฺโค สตฺถคมนีโย นาม. โจรานํ สยิตนิสินฺนฏฺิตขาทิตปีตฏฺานานิ ยตฺถ ทิสฺสนฺติ, ตาทิโส มคฺโค สาสงฺโก นาม. โจเรหิ หตมาริตฆาตวิลุตฺตมนุสฺสา ยตฺถ ปฺายนฺติ, โส สปฺปฏิภโย นาม. อิธาติ อิมสฺมึ ภิกฺขุนิยา สทฺธึ กตสํวิธานํ อวิราเธตฺวา ตาย เอกทฺธานมคฺคํ ปฏิปชฺชนกาเลติ อตฺโถ.

อฺโ คาโม คามนฺตรํ, ตตฺถ โอกฺกมนํ อุปคมนํ คามนฺตโรกฺกโม, ตสฺมึ กเตติ อตฺโถ. อคามเก อรฺเ อทฺธโยชนาติกฺกเม วาติ โยชนา, คามรหิตํ อรฺมคฺคมฺปิ ทฺวิคาวุตํ อติกฺกนฺเต วาติ อตฺโถ.

๑๑๗๖. ‘‘อาปตฺติ โหตี’’ติ สามฺโต ทสฺสิตอาปตฺติยา เภทาเภทํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอตฺถา’’ติอาทิ. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปทวินิจฺฉเย, ปกรเณ วา. ทุกฺกฏํ ทีปิตนฺติ สมฺพนฺโธ. อกปฺปิยภูมฏฺโติ เอตฺถ อกปฺปิยา ภูมิ นาม อนฺโตคาเม ภิกฺขุนุปสฺสยทฺวารโกฏฺโกติ เอวมาทิ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘สเจ ปน อนฺโตคาเม ภิกฺขุนุปสฺสยทฺวาเร รถิกาย, อฺเสุ วา จตุกฺกสิงฺฆาฏกหตฺถิสาลาทีสุ สํวิทหนฺติ, ภิกฺขุโน อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๘๒-๑๘๓). เอตฺถ จ จตุนฺนํ มคฺคานํ สมฺพนฺธฏฺานํ จตุกฺกํ. ติณฺณํ มคฺคานํ สมฺพนฺธฏฺานํ สิงฺฆาฏกํ.

๑๑๗๗. กปฺปิยภูมิ นาม ภิกฺขุนุปสฺสยาทิ. ยถาห ‘‘สเจ อุโภปิ ภิกฺขุนุปสฺสเย วา อนฺตราราเม วา อาสนสาลาย วา ติตฺถิยเสยฺยาย วา ตฺวา สํวิทหนฺติ, อนาปตฺติ. กปฺปิยภูมิ กิรายํ. ตสฺมา เอตฺถ สํวิทหนปจฺจยา ทุกฺกฏาปตฺตึ น วทนฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๘๒-๑๘๓). เตเนวาห ‘‘น วทนฺตสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ. ‘‘น วทนฺติ อสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท.

๑๑๗๘. อุภยตฺถาติ อกปฺปิยภูมิยํ ตฺวา สํวิธาย คมเน, กปฺปิยภูมิยํ ตฺวา สํวิธาย คมเน จาติ อุภยวิกปฺเป. คจฺฉนฺตสฺเสวาติ เอวกาเรน นิกฺขนฺตสฺส โชตกํ. ยถาห ‘‘นิกฺขมเน อนาปตฺตี’’ติ. ‘‘ภิกฺขุโน’’ติ อิมินา ภิกฺขุนิยา อนาปตฺติภาวํ ทีเปติ. อาปตฺติเขตฺตนิยมนตฺถมาห ‘‘อนนฺตรสฺสา’’ติอาทิ.

๑๑๗๙. ตตฺราปีติ กปฺปิยภูมิอุปจาโรกฺกมเนปิ. อุทีริตนฺติ มหาปจฺจริยํ. ยถาห ‘‘มหาปจฺจริยํ วุตฺต’’นฺติ.

๑๑๘๐. อนฺตราติ อตฺตโน นิกฺขนฺตคามสฺส, อนนฺตรคามสฺส จ เวมชฺเฌ. ยถาห ‘‘คามโต นิกฺขมิตฺวา ปน ยาว อนนฺตรคามสฺส อุปจารํ น โอกฺกมติ, เอตฺถนฺตเร สํวิทหิเตปิ ภิกฺขุโน ทุกฺกฏ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๘๒-๑๘๓). อิมสฺมึ สิกฺขาปเท กาลทฺวารมคฺคานํ วเสน ตโย สงฺเกตวิสงฺเกตาติ เตสุ มคฺคทฺวารวิสงฺเกเตปิ อาปตฺติ โหเตวาติ ทสฺเสตุมาห ‘‘ทฺวาร…เป… วุจฺจตี’’ติ. กาลวิสงฺเกเต ปน อนาปตฺตึ วกฺขติ. อาปตฺติ ปาจิตฺติ.

๑๑๘๑. อสํวิทหิเต กาเลติ ‘‘ปุเรภตฺตํ คมิสฺสามา’’ติอาทินา กตสํวิธานานํ ปจฺฉาภตฺตาทิ อสํวิทหิตกาลํ นาม, ตสฺมึ. ภิกฺขุสฺเสว วิธานสฺมินฺติ ภิกฺขุนิยา สํวิธานํ วินา ภิกฺขุสฺเสว วิธาเน สติ อาปตฺติ ทุกฺกฏํ.

๑๑๘๒. สมเย วิทหิตฺวา คจฺฉโต วา อสมเย วิทหิตฺวา วิสงฺเกเตน คจฺฉโต วา อาปทาสุ วิทหิตฺวา คจฺฉโต วา อนาปตฺตีติ โยชนา. ตถาติ ‘‘วิทหิตฺวา คจฺฉโต อนาปตฺตี’’ติ อิทํ อติทิสติ.

ตตฺถ สมโย นาม ยถาวุตฺตกาลวิเสโส. วิสงฺเกโต นาม กาลวิสงฺเกโต, ‘‘อสุกสฺมึ ทิวเส อสุกเวลาย คมิสฺสามา’’ติ สํวิทหิตฺวา คมนกาเล ตสฺส กาลสงฺเกตสฺส วิภวนนฺติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘กาลวิสงฺเกเตเยว อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๘๕). อาปทา นาม รฏฺเภเท ชนปทานํ ปลายนกาโล. ยถาห ‘‘รฏฺเภเท จกฺกสมารุฬฺหา ชนปทา ปริยายนฺติ, เอวรูปาสุ อาปทาสู’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๘๕). เอตฺถ จ รฏฺเภเทติ รฏฺวิโลเป. จกฺกสมารุฬฺหาติ อิริยาปถจกฺกํ, สกฏจกฺกํ วา สมารุฬฺหา. อุมฺมตฺตกาทิโนติ อาทิ-สทฺเทน ขิตฺตจิตฺตาทโย คหิตา.

๑๑๘๓. กายวาจาทิกตฺตยาติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน จิตฺตํ คหิตํ, กายวาจาจิตฺตาติ วุตฺตํ โหติ.

สํวิธานกถาวณฺณนา.

๑๑๘๔. อุทฺธํ ชวตีติ อุชฺชวนี, ปฏิโสตคามินี นาวา, ตํ. อโธ ชวนโต โอชวนี, อนุโสตคามินี นาวา, ตํ. อภิรุเหยฺยาติ เอตฺถ ‘‘สํวิธายา’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ภิกฺขุนิยา สทฺธึ สํวิธาย เอกํ นาวํ อภิรุเหยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๑๘๖). โลกสฺสาทสงฺขาตมิตฺตสนฺถเวน ตํ นาวํ อารุยฺห กีฬนจิตฺตํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา อฺมฺํ สํวิธายาติ อตฺโถ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘โลกสฺสาทมิตฺตสนฺถววเสน กีฬาปุเรกฺขาโร สํวิทหิตฺวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๘๘).

๑๑๘๕. สคามตีรปสฺเสน คมเน คามนฺตรวเสน วา ปาจิตฺติ, อคามตีรปสฺเสน คมเน อทฺธโยชเน ปาจิตฺติ อทฺธโยชนาติเรเก าเน คาเม วิชฺชมาเนปิ อวิชฺชมาเนปิ.

๑๑๘๖. โยชนปุถุลาย นทิยา มชฺเฌน คจฺฉโต อทฺธโยชนวเสน อาปตฺติทสฺสนตฺถมาห ‘‘ตถา’’ติอาทิ. ‘‘อูนโยชนปุถุลาย นทิยา มชฺฌํ อุภยภาคํ ภชตีติ ตาทิสิกาย นทิยา มชฺเฌน คจฺฉนฺตสฺส คามนฺตรคณนาย, อทฺธโยชนคณนาย จ อาปตฺตี’’ติ วทนฺติ.

๑๑๘๗. ยถาสุขํ สมุทฺทสฺมินฺติ เอตฺถ ‘‘คนฺตพฺพ’’นฺติ เสโส. ‘‘สพฺพอฏฺกถาสู’’ติอาทินา ยถาสุขคมนานุฺาย เหตุํ ทสฺเสติ. อิมินาว อสนฺทมาโนทเกสุ วาปิตฬากาทีสุ อนาปตฺตีติ วิฺายติ.

๑๑๘๘. ติตฺถสมฺปาทนตฺถายาติ ปรติตฺถํ ปาเปตุํ. ตํ นาวํ. ยุตฺตาติ นาวาปาชกา.

๑๑๘๙. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘อนาปตฺติ ปกาสิตา’’ติ อิมํ สงฺคณฺหาติ. อสํวิทหิตฺวา ภิกฺขุนิยา สทฺธึ เอกํ นาวํ อภิรุเหยฺย วา, ติริยํ ตรณาย ภิกฺขุนิยา สทฺธึ สํวิทหิตฺวาปิ เอกํ นาวํ อภิรุเหยฺย วา, อาปทาสุ ภิกฺขุนิยา สทฺธึ สํวิทหิตฺวาปิ เอกํ นาวํ อภิรุเหยฺย วา, ตถา อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา.

‘‘อนนฺตรสโม’’ติ อิมินา ‘‘อสํวิทหิเต กาเล’’ติอาทินา วุตฺตวินิจฺฉยํ สงฺคณฺหาติ. อิธาปิ กาลวิสงฺเกเต อนาปตฺติ, ติตฺถนาวาวิสงฺเกเต อาปตฺติเยว. ยถาห ‘‘อิธาปิ กาลวิสงฺเกเตเนว อนาปตฺตี’’ติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๙๑). ‘‘โลกสฺสาทมิตฺตสนฺถววเสน กีฬาปุเรกฺขาโร สํวิทหิตฺวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๘๘) วจนโต เกจิ ‘‘อิมํ สิกฺขาปทํ อกุสลจิตฺตํ โลกวชฺช’’นฺติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ. กีฬาปุเรกฺขารตาย หิ อภิรุหิตฺวา คามนฺตโรกฺกมเน, อทฺธโยชนาติกฺกเม วา กุสลาพฺยากตจิตฺตสมงฺคีปิ หุตฺวา อาปตฺตึ อาปชฺชติ. ยทิ หิ โส สํเวคํ ปฏิลภิตฺวา อรหตฺตํ วา สจฺฉิกเรยฺย, นิทฺทํ วา โอกฺกเมยฺย, กมฺมฏฺานํ วา มนสิ กโรนฺโต คจฺเฉยฺย, กุโต ตสฺส อกุสลจิตฺตสมงฺคิตา, เยนิทํ สิกฺขาปทํ ‘‘อกุสลจิตฺตํ, โลกวชฺช’’นฺติ วุจฺจติ, ตสฺมา ปณฺณตฺติวชฺชํ, ติจิตฺตนฺติ สิทฺธํ.

นาวาภิรุหนกถาวณฺณนา.

๑๑๙๐. คิหิสมารมฺภํ หิตฺวา ภิกฺขุนิยา ปริปาจิตํ ภตฺตํ ตฺวา ภุฺชโต ภิกฺขุโน ปาจิตฺติ โหตีติ โยชนา. ปริปาจิตํ นาม ภิกฺขุโน สีลสุตาทิคุณํ กุลานํ วตฺวา นิปฺผาทิตํ. ยถาห ‘‘ภิกฺขุนิยา ปริปาจิตํ, คุณปฺปกาสเนน นิปฺผาทิตํ ลทฺธพฺพํ กตนฺติ อตฺโถ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๙๔). คิหิสมารมฺภนฺติ ภิกฺขุนิยา ปริปาจนโต ปุพฺเพเยว คิหิปฏิยตฺตํ. ยถาห ‘‘ภิกฺขุนิยา ปริปาจนโต ปมเมว ยํ คิหีนํ ปฏิยาทิตํ ภตฺต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๑๙๔). วกฺขติ หิ ‘‘คิหิสมฺปาทิตมฺปิ วา วินา’’ติ.

๑๑๙๑. ‘‘ตสฺสา’’ติ วกฺขมานตฺตา ‘‘ยํ โภชน’’นฺติ โยเชตพฺพํ. ตสฺสาติ ปฺจธา วุตฺตสฺส โภชนสฺส. สพฺเพสุอชฺโฌหาเรสูติ สพฺเพสุ ปรคลกรณปฺปโยเคสุ.

๑๑๙๒. ภิกฺขุนิยา ปริปาจิตํ ภุฺชโต โทโสติ โยชนา.

๑๑๙๓. อุโภสูติ ปริปาจิเตปิ อปริปาจิเตปิ. สพฺพตฺถาติ อิเมสุ ทฺวีสุ ปริภุฺชโต อชฺโฌหารวเสเนว ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.

๑๑๙๕. ปฺจโภชนํ เปตฺวา อฺํ ปน ยํ กิฺจิ ยาคุขชฺชผลาทิกํ ภุฺชนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา.

ปริปาจิตกถาวณฺณนา.

๑๑๙๗. อิทํ สพฺพํ ทสมํ สิกฺขาปทํ สมุฏฺานนยาทินา ทุติยานิยเตเนว สทิสํ มตนฺติ โยชนา. อิทํ สิกฺขาปทนฺติ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ภิกฺขุนิยา สทฺธึ เอโก เอกาย รโห นิสชฺชํ กปฺเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๑๙๙) วุตฺตํ รโหนิสชฺชสิกฺขาปทํ.

รโหนิสชฺชกถาวณฺณนา.

ภิกฺขุนิวคฺโค ตติโย.

๑๑๙๘. เอโกติ เอกทิวสิโก. อาวสโถ ปิณฺโฑติ ปุฺตฺถิเกหิ เอกํ ปาสณฺฑํ อนุทฺทิสฺส ยาวทตฺถํ ทาตุํ สาลาทีสุ ปฺตฺตํ ปฺจสุ โภชเนสุ อฺตรํ โภชนํ. ยถาห ‘‘อาวสถปิณฺโฑ นาม ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรํ โภชนํ สาลาย วา มณฺฑเป วา รุกฺขมูเล วา อชฺโฌกาเส วา อโนทิสฺส ยาวทตฺโถ ปฺตฺโต โหตี’’ติ (ปาจิ. ๒๐๖). อคิลาเนนาติ เอตฺถ ‘‘อคิลาโน นาม สกฺโกติ ตมฺหา อาวสถา ปกฺกมิตุ’’นฺติ วุตฺต ปทภาชนิยอฏฺกถายํ ‘‘อทฺธโยชนํ วา โยชนํ วา คนฺตุํ สกฺโกตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๐๖) วุตฺตตฺตา ตมฺหา อาวสถา อทฺธโยชนํ วา โยชนํ วา คนฺตุํ สมตฺเถน อคิลาเนนาติ อตฺโถ. ตโต อุทฺธนฺติ ทุติยทิวสโต อุตฺตริ.

๑๑๙๙. อโนทิสฺเสว ปฺตฺเต ปิณฺเฑติ โยชนา, ‘‘อิเมสํเยว วา’’ติ อฺตรํ ปาสณฺฑํ วา ‘‘เอตฺตกานํเยว วา’’ติ ตตฺถ ปุคฺคลปริจฺเฉทํ วา อกตฺวา สพฺพสาธารณํ กตฺวา ปฺตฺเต อาวสถปิณฺเฑติ อตฺโถ. ยาวทตฺเถ เอว ปิณฺเฑ ปฺตฺเตติ โยชนา, ยาวตา อตฺโถ กุจฺฉิปูรณาทิกํ ปโยชนเมตฺถ ปิณฺเฑติ วิคฺคโห, ‘‘เอตฺตกํ ทาตพฺพ’’นฺติ อปริจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘ภุฺชนฺตานํ ยาวทตฺถํ ทาตพฺพ’’นฺติ ปฺตฺเต ปิณฺเฑ เอวาติ อตฺโถ. ภุฺชิตพฺพนฺติ กมฺมสาธนํ วา ภาวสาธนํ วา. ‘‘โภชน’’นฺติ อชฺฌาหรณียํ. สกินฺติ เอกวารํ. ตตฺถาติ อาวสเถ.

๑๒๐๐. ตสฺส ปิณฺฑสฺส. อชฺโฌหาเรสุ สพฺเพสูติ สพฺเพสุ อชฺโฌหารปฺปโยเคสุ กเตสุ. ตสฺส อชฺโฌหารกสฺส. ปาจิตฺติโย ปโยคคณนาย.

๑๒๐๑. ‘‘เอเกน กุเลน นาเนกฏฺานเภเทสุ ปฺตฺเต’’ติ, ‘‘นานากุเลหิ วา นาเนกฏฺานเภเทสุ ปฺตฺเต’’ติ จาติ โยชนา. ‘‘ปิณฺเฑ’’ติ อธิกาโร. นานา จ เอโก จ นาเนกา, านานํ เภทา านเภทา, นาเนกา จ เต านเภทา จาติ วิคฺคโห, เตสุ. เอกโภโคติ เอกปิณฺฑปริโภโค. เอวกาเรน ทุติยทิวสาทิปริโภคํ นิวตฺเตติ.

๑๒๐๔. คิลานสฺสาติ วุตฺตลกฺขเณน คิลาโน หุตฺวา ปุนปฺปุนํ ภุฺชนฺตสฺส คจฺฉโต วา อาคจฺฉนฺตสฺส วา อนาปตฺตีติ โยชนา, อนฺตมโส อทฺธโยชนมฺปิ คจฺฉโต, คนฺตฺวา อาคจฺฉโต วา อนฺตรามคฺเค จ คตฏฺาเน จ เอกสฺมึ ทิวเส ภุฺชนฺตสฺส อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘โย คจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค เอกทิวสํ, คตฏฺาเน จ เอกทิวสํ ภุฺชติ, ตสฺสาปิ อนาปตฺติ. อาคจฺฉนฺเตปิ เอเสว นโย’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๐๘). โอทิสฺส ปฺตฺเตติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขู’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘ภิกฺขูนํเยว อตฺถาย อุทฺทิสิตฺวา ปฺตฺโต โหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๐๘). ปริตฺเตติ อุทรปูรณาย อปฺปโหนเก โถเก โภชเน. ยถาห ‘‘ยาวทตฺถํ ปฺตฺโต น โหติ, โถกํ โถกํ ลพฺภติ, ตาทิสํ นิจฺจมฺปิ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๐๘). สกินฺติ ยาวทตฺถํ ปฺตฺตํ วุตฺตนเยน เอกวารํ ภุฺชโต อนาปตฺติ.

๑๒๐๕. ยาคุอาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน ปฺจโภชนโต อฺเสํ อชฺโฌหรณียานํ คหณํ.

อาวสถกถาวณฺณนา.

๑๒๐๖. วุตฺตา สมยา อฺตฺราติ โยชนา, ‘‘ตตฺถายํ สมโย, คิลานสมโย จีวรทานสมโย จีวรการสมโย อทฺธานคมนสมโย นาวาภิรุหนสมโย มหาสมโย สมณภตฺตสมโย’’ติ (ปาจิ. ๒๑๗) วุตฺตา สตฺตวิธกาลา อฺตฺร.

ตตฺถ ยทา ปาทานํ ผลิตตฺตา น สกฺโกติ ปิณฺฑาย จริตุํ, อยํ คิลานสมโย. อตฺถตกถินานํ ปฺจ มาสา, อิตเรสํ กตฺติกมาโสติ อยํ จีวรทานสมโย. ยทา จีวเร กริยมาเน กิฺจิเทว จีวเร กตฺตพฺพํ กโรติ, อยํ จีวรการสมโย. ยทา อทฺธโยชนมฺปิ คนฺตุกาโม วา โหติ, คจฺฉติ วา, คโต วา, อยํ อทฺธานคมนสมโย. นาวาภิรุหนสมเยปิ เอเสว นโย. ยทา โคจรคาเม จตฺตาโร ภิกฺขู ปิณฺฑาย จริตฺวา น ยาเปนฺติ, อยํ มหาสมโย. ยทา โย โกจิ ปพฺพชิโต ภตฺเตน นิมนฺเตติ, อยํ สมณภตฺตสมโย. คโณ กตโมติ อาห ‘‘คโณ’’ติอาทิ.

๑๒๐๗. คณโภชนํ นาม กินฺติ อาห ‘‘ย’’นฺติอาทิ. ยํ ปฺจนฺนํ อฺตรํ นิมนฺตนโต, วิฺตฺติโต วา ลทฺธํ, ตํ อิธ โภชนนฺติ อธิปฺเปตํ โหตีติ โยชนา. นิมนฺตนโตติ ‘‘โภชนาน’’นฺติอาทินา วกฺขมานปฺปกาเรน กตํ อกปฺปิยนิมนฺตนมาห. วิฺตฺติโตปิ วาติ ‘‘สเจปี’’ติอาทินา วกฺขมานนเยน กตมกปฺปิยวิฺตฺติมาห.

๑๒๐๘-๑๑. โภชนานนฺติ นิทฺธารเณ สามิวจนํ, ‘‘อฺตรสฺสา’’ติ เสโส, ‘‘โอทโน สตฺตุ กุมฺมาโส, มจฺโฉ มํสฺจ โภชน’’นฺติ สงฺคหิตานํ ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรสฺส. นามนฺติ วกฺขมานํ โอทนาทินามํ. ภิกฺขู นิมนฺเตตีติ เอตฺถ ‘‘เอกโต, นานโต วา’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘เอกโต นิมนฺติตา. นานโต นิมนฺติตา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๑๗-๒๑๘). เอกโต นิมนฺตนํ นาม สพฺเพสํ ภิกฺขูนํ เอกโต ิตานํ นิมนฺตนํ. นานโต นิมนฺตนํ นาม ภิกฺขูนํ วิสุํ วิสุํ วสนฏฺานํ คนฺตฺวา วา เอกโต ิตฏฺานํ คนฺตฺวา วา อเนเกหิ นิมนฺตนํ. ยถาห ‘‘จตฺตาริ ปริเวณานิ วา วิหาเร วา คนฺตฺวา นานโต นิมนฺติตา, เอกฏฺาเน ิเตสุเยว วา เอโก ปุตฺเตน, เอโก ปิตราติ เอวมฺปิ นานโต นิมนฺติตา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๑๗-๒๑๘).

เววจนํ นาม โอทนาทิสพฺพปทานํ, สมฺปฏิจฺฉถาติอาทิกิริยาปทานฺจ ปริยายวจนํ. ภาสนฺตรํ นาม มาคธวจนโต อฺํ สีหฬทมิฬาทิโวหารนฺตรํ. เววจเนหิ เอว วา ภาสนฺตเรน วา นิมนฺเตตีติ สมฺพนฺโธ.

ตโต นิมนฺตนานนฺตรํ. นิมนฺตนนฺติ ยถาวุตฺตํ อกปฺปิยนิมนฺตนํ. เอกโต คณฺหนฺตีติ อฺมฺสฺส ทฺวาทสหตฺถํ อมุฺจิตฺวา ิตา วา นิสินฺนา วา เอกโต คณฺหนฺติ.

‘‘คณโภชนการณ’’นฺติ อิทํ โภชนปจฺจยา ปาจิตฺติยํ เอวํ คหณมนฺตเรน น โหตีติ วุตฺตํ.

๑๒๑๒. เอกโต, นานโต วาปิ ยํ คมนํ, โภชนมฺปิ วา, ตํ คณโภชเน น การณนฺติปิ วิฺู ภณนฺตีติ โยชนา. เอกโต นานโต วาปีติ เอตฺถ ‘‘ิตา วา นิสินฺนา วา’’ติ เสโส.

๑๒๑๓-๔. วิฺาเปตฺวาติ ‘‘อมฺหากํ จตุนฺนมฺปิ ภตฺตํ เทหี’’ติอาทินา เอกโต วา ‘‘มยฺหํ เทหิ, มยฺหํ เทหี’’ติ ปาเฏกฺกํ วา วิฺาเปตฺวา. เอวมฺปีติ วิฺตฺติโตปิ.

๑๒๑๕. ทุวิธสฺสาติ นิมนฺตกสฺส, วิฺาปกสฺส จ.

๑๒๑๖. สตฺตสุปิ สมเยสุ ภุฺชตํ อนาปตฺตีติ โยชนา, ‘‘คณโภชน’’นฺติ ปกรณโต ลพฺภติ, ยถาวุตฺเตสุ คิลานาทีสุ สตฺตสุ กาเลสุ เลสํ วินา ภุฺชนฺตานนฺติ อตฺโถ. ‘‘เอกโต’’ติ อิทํ ‘‘คเหตฺวา’’ติ อิมินา โยเชตพฺพํ. ภุฺชตนฺติ ภุฺชนฺตานํ. ตถาติ ‘‘อนาปตฺตี’’ติ อิทํ ปจฺจามสติ.

๑๒๑๗. อนุปสมฺปนฺโน จ จารี จ ปตฺโต จ อนิมนฺติโต จ อนุปสมฺปนฺน…เป… นิมนฺติตา, เต จตุตฺเถ กตฺวาติ อตฺโถ , อนุปสมฺปนฺนํ วา ปิณฺฑจารึ วา จตุตฺถสฺส ปตฺตํ วา อนิมนฺติตํ วา จตุตฺถํ กตฺวา เอกโต คเหตฺวา ภุฺชนฺตานํ คณเภโท มุนินา ปกาสิโต, คณสฺส อปริปุณฺณตา ทีปิตาติ วุตฺตํ โหติ. ปิณฺฑาย จรติ สีเลนาติ ปิณฺฑจารี, โส อิธ ปุพฺพปทโลเปน ‘‘จารี’’ติ วุตฺโต, ปิณฺฑปาติโก. โส หิ นิมนฺตนํ อสาทิยนฺโต คณโภชนโก คณขาทโก น โหตีติ อธิปฺปาโย. ปตฺโต นาม วิหาเร นิสีทิตฺวา จตุตฺเถน อตฺตนา ลทฺธพฺพโภชนตฺถาย เปสิโต ปตฺโต. อนิมนฺติโต นาม ปมํ อกปฺปิยนิมนฺตนาย นิมนฺติเต อนนฺโตคโธ อุปสมฺปนฺโน. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. อปิ-สทฺโท เหฏฺา ทสฺสิตํ ทฺวินฺนํ, ติณฺณํ วา วเสน วุตฺตวินิจฺฉยํ อเปกฺขติ.

๑๒๑๘. สมยลทฺธานนฺติ คิลานาทโย สตฺตสมยา ลทฺธา เยหิ เต สมยลทฺธา, เตสํ, นิทฺธารเณ สามิวจนํ. ‘‘อฺตรสฺสา’’ติ เสโส, ‘‘วเสนา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. เนว คณเภโทติ โยชนา. สมยลทฺธกสฺส อตฺตโน อนาปตฺติภาวมนฺตเรน ตํ จตุตฺถํ กตฺวา คณโภชนํ คณฺหนฺตานํ ปน อาปตฺติสมฺภวโต อาห ‘‘อาปตฺติ ปน เวทิตพฺพา’’ติ. ยถาห มหาปจฺจริยํ ‘‘สมยลทฺธโก สยเมว มุจฺจติ, เสสานํ คณปูรกตฺตา อาปตฺติกโร โหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๒๐).

๑๒๑๙. ปฺจโภชเนสุ อฺตรสฺส นามํ คเหตฺวา นิมนฺเตตฺวา เตสุเยว อฺํ ทิยฺยมานํ คณฺหนฺตสฺส วิสงฺเกตาภาวํ ทสฺเสตุมาห ‘‘โภชนานฺจา’’ติอาทิ. โภชนานนฺติ นิทฺธารเณ สามิวจนํ, อฺตรสฺส วเสนาติ วุตฺตํ โหติ. ตํ วิสงฺเกตํ, โอทนาทีนํ นาเมน นิมนฺเตตฺวา ทิยฺยมานํ ยาคุอาทึ คณฺหนฺตสฺส คณโภชนํ น โหตีติ วุตฺตํ โหติ.

๑๒๒๑. ‘‘นิจฺจภตฺต’’นฺติ ธุวภตฺตํ วุจฺจติ. ‘‘นิจฺจภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วทนฺติ, พหูนมฺปิ เอกโต คเหตุํ วฏฺฏติ. สลากภตฺตาทีสุปิ เอเสว นโย.

คณโภชนกถาวณฺณนา.

๑๒๒๓-๔. พหูหิ มนุสฺสเกหีติ วิสุํ วิสุํ นิมนฺติเตหิ อเนเกหิ มนุสฺเสหิ. ปฺจสุ ยสฺส กสฺสาติ เอตฺถ ‘‘สหธมฺมิเกสู’’ติ เสโส, นิทฺธารเณ ภุมฺมํ, ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ ยสฺส กสฺสจีติ อตฺโถ. ‘‘หิตฺวา’’ติอาทินา กิมาหาติ? ยสฺส วิกปฺเปติ, ตสฺมึ สนฺนิหิเต ‘‘มยฺหํ ภตฺตปจฺจาสํ ตุยฺหํ ทมฺมี’’ติ สมฺมุขา วิกปฺปนวเสน วา ตสฺมึ อสนฺนิหิเต ตสฺส นามํ คเหตฺวา ‘‘มยฺหํ ภตฺตปจฺจาสํ อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’’ติ อสมฺมุขา วิกปฺปนวเสน วา ปมนิมนฺตนาย วิกปฺปนํ หิตฺวา, ตํ อวิกปฺเปตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.

ภตฺตนฺติ เอตฺถ ‘‘โย ภุฺชตี’’ติ เสโส. นิมนฺติโต โย ปจฺฉา นิมนฺติตํ ภตฺตํ ภุฺชติ, ตสฺส ปาจิตฺติยนฺติ โยชนา. อุปฺปฏิปาฏิยา เอกสิตฺถมฺปิ ภุฺชโต ตสฺส ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนาติ. กึ วุตฺตํ โหติ? ปจฺฉา นิมนฺติตานํ โภชนํ ปมํ ภุฺชิตฺวา ปมํ นิมนฺติตานํ โภชนํ ปจฺฉา ภุฺชนฺตสฺส จ เอกปตฺเตเยว เหฏฺา ปมํ นิมนฺติตานํ โภชนํ ปกฺขิปิตฺวา อิตรํ อุปริ ปกฺขิปิตฺวา เหฏฺา หตฺถํ โอตาเรตฺวา เหฏฺา ิตโภชเน เอกสิตฺถมฺปิ ปมํ อภุฺชิตฺวา อุปริ ิตํ ปมํ ภุฺชนฺตสฺส จาติ วุตฺตํ โหติ. เตเนว ยถา อุปฺปฏิปาฏิ น โหติ, ตถา มิสฺสีกตํ โภชนํ ภุฺชนฺตสฺส น โทโสติ มหาปจฺจริยํ วินิจฺฉโย พฺยติเรกโต ทสฺสิโต โหติ. ยถาห ‘‘ทฺเว ตีณิ กุลานิ นิมนฺเตตฺวา เอกสฺมึ าเน นิสีทาเปตฺวา อิโต จิโต จ อาหริตฺวา ภตฺตํ อากิรนฺติ, สูปพฺยฺชนํ อากิรนฺติ, เอกมิสฺสกํ โหติ, เอตฺถ อนาปตฺตีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๒๙).

๑๒๒๕-๖. ปรมฺปรโภชนสฺส สรูปํ ปทภาชเน วุตฺตนเยน ทสฺเสตุมาห ‘‘โภชนานมฺปี’’ติอาทิ. เตสเมว ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรํ โภชนํ ปริภุฺชตีติ โยชนา. มเหสินา ปริทีปิตนฺติ ปทภาชเน ‘‘ปรมฺปรโภชนํ นาม ปฺจนฺนํ โภชนาน’’นฺติอาทินา (ปาจิ. ๒๒๗) นเยน วุตฺตํ.

๑๒๒๗. ยตฺถาติ อเนเกหิ เอกภาชเน ปกฺขิตฺเต ยสฺมึ โภชเนติ วุตฺตํ โหติ เอเกเนว ทินฺเน วิจารณาภาวา. สพฺพเมกรสํ สิยาติ วิสุํ วิสุํ วิฺายมานรสํ อหุตฺวา เอกรสเมว โหติ.

๑๒๓๐. ‘‘คาเมนา’’ติ อิมินา คามฏฺาเยว วุตฺตา. ‘‘นิมนฺติตสฺส โทโส น วิชฺชตี’’ติ อิทํ คามปูคนิคเมหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. คาม-สทฺเทน ‘‘คามา วา อรฺา วา’’ติ (ปารา. ๙๑) เอตฺถ วิย นครมฺปิ สงฺคหิตํ. ปูโค นาม วิสุํ วิสุํ สมูหา หุตฺวา ปุฺการิโน ธมฺมิกมนุสฺสา. นิคโม นาม สาปโณ มหาคาโม. สกลคาเมน นิมนฺติโต หุตฺวา สมฺปตฺเต ยตฺถ กตฺถจิ เคเห ภุฺชนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ. ปูคาทีสุปิ เอเสว นโย. ยถาห ‘‘สกเลน คาเมน เอกโต หุตฺวา นิมนฺติตสฺเสว ยตฺถ กตฺถจิ ภุฺชโต อนาปตฺติ. ปูเคปิ เอเสว นโย’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๒๙). นิจฺจภตฺเต โทโส น วิชฺชตีติ อเนกฏฺานโต ทิยฺยมานํ นิจฺจภตฺตมฺปิ อุปฺปฏิปาฏิยา ภุฺชนฺตสฺส น โทโสติ วุตฺตํ โหติ.

๑๒๓๑. กาโย วาจา กายวาจาจิตฺตนฺติ อิเมหิ อาปชฺชนํ กถินสมุฏฺานํ นาม. อิธ กฺริยํ นาม โภชนํ, อกฺริยํ นาม ปมนิมนฺตนสฺส อวิกปฺปนํ, อิทํ ทฺวยเมวาห ‘‘โภชนฺจาวิกปฺปน’’นฺติ.

ปรมฺปรโภชนกถาวณฺณนา.

๑๒๓๒-๓. ปูวาติ อติรสาทโย รสา. ปเหณกตฺถายาติ ปณฺณาการตฺถาย. ปฏิยตฺตาติ สมฺปาทิตา. ปาเถยฺยตฺถายาติ คมิกสฺส สมฺพลตฺถาย. ปฏิยตฺตา มนฺถา วาติ สมฺพนฺโธ. มนฺถา นาม พทฺธสตฺตุอพทฺธสตฺตุติลตณฺฑุลาทโย. ยถาห ‘‘พทฺธสตฺตุอพทฺธสตฺตุติลตณฺฑุลาทิ สพฺพํ อิธ มนฺโถตฺเวว สงฺขํ คจฺฉตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๓). เย ปูวา, มนฺถา วาติ โยชนา. หีติ นิปาตมตฺตํ. ตตฺถ ปฏิยตฺเตสุ เตสุ ปูเวสุ วา มนฺเถสุ วา. ภิกฺขุนาติ เอตฺถ ‘‘อากงฺขมาเนนา’’ติ เสโส.

ทฺวตฺติปตฺตาติ ทฺเว วา ตโย วา ปตฺตาติ วิคฺคโห. ปูราติ มุขวฏฺฏิยา เหฏฺิมราชิสมํ ปุณฺณา. ยถาห ‘‘มุขวฏฺฏิยา เหฏฺิมเลขาย สมปูเร ปตฺเต คเหตฺวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๓). ‘‘ทฺวตฺติปตฺตา ปูรา’’ติ เจตฺถ ปริมาณํ ทสฺสิตํ, ปริมาณปริเมยฺยานํ อเภโทปจาเรน ปูวมนฺถา คเหตพฺพา ยถา ‘‘ทฺเว ติสฺโส ตณฺฑุลนาฬิโย’’ติ. ปูเวหิ วา สตฺตูหิ วาติ โยชนา. สตฺตูติ พทฺธสตฺตุอพทฺธสตฺตูนํ คหณํ, อิมินาว ติลาทีนิ อุปลกฺขิตานิ. ตติยปตฺตสฺส มุขวฏฺฏิยา เหฏฺาราชิยา อุทฺธํ กตฺวา ปกฺขิตฺตฺเจตํ ‘‘ตโต อุตฺตริ’’นฺติ อิมินา จ คยฺหติ. ยถาห ‘‘สเจ ตติยํ ปตฺตํ ถูปีกตํ คณฺหาติ, ปูวคณนาย ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๓).

๑๒๓๗. ตตฺถ เตสุ ปูเวสุ วา มนฺเถสุ วา ทฺเว เจ ปตฺตปูรา ลทฺธาติ โยชนา. เอโก ปตฺตปูโร ปทาตพฺโพติ โยชนา. เอกโตติ เอกปตฺตปูรโต น ปทาตพฺโพติ โยชนา, กิฺจิปิ อกามา น ทาตพฺพนฺติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘เยน เอโก คหิโต, น เตน กิฺจิ อกามา ทาตพฺพํ. ยถารุจิ กาตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๓). เอวํ ททนฺเตน อาสนสาลาย วา อตฺตโน นิพทฺธวาสฏฺาเน วา ทิฏฺสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส สาธารณํ กตฺวา ทานมนฺตเรน น มิตฺตานเมว ทาตพฺพํ. ยถาห ‘‘ยถามิตฺตํ ปน ทาตุํ น ลพฺภตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๓).

๑๒๓๘-๙. อปเหณกํ อปาเถยฺยํ เทนฺตานนฺติ สมฺพนฺโธ. ยถาห ‘‘น ปเหณกตฺถาย น ปาเถยฺยตฺถาย ปฏิยตฺตํ เทนฺตี’’ติ (ปาจิ. ๒๓๕). ตโตติ ปเหณกปาเถยฺยโต. วา-สทฺเทน อิธ อวุตฺตํ ‘‘คมเน ปฏิปฺปสฺสทฺเธ เทนฺตี’’ติ (ปาจิ. ๒๓๕) อนาปตฺติวาเร วุตฺตํ สงฺคณฺหาติ. ตทูนกนฺติ ตโต ทฺวตฺติปตฺตโต อูนกํ. ยถาห ‘‘อูนกทฺวตฺติปตฺตปูเร ปฏิคฺคณฺหาตี’’ติ (ปาจิ. ๒๓๕). อปาเถยฺยาทิอตฺถาย ปฏิยาทิตนฺติ สฺาย ปาเถยฺยาทึ คณฺหนฺตสฺสาปิ อาปตฺติเยว อจิตฺตกตฺตา สิกฺขาปทสฺส. อตฺตโนเยว คหณตฺถํ ‘‘อิมสฺส หตฺเถ เทหี’’ติ วจเนนาปิ อาปชฺชนโต วจีกมฺมํ.

กาณมาตุกถาวณฺณนา.

๑๒๔๐. อฺเนาติ ตทฺธิตโลเปน นิทฺเทโส, อฺตเรนาติ อตฺโถ, ปวาริโตติ สมฺพนฺโธ. โภชนานนฺติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. ปวาริโตติ ‘‘คณฺหถ ภนฺเต ยาว อิจฺฉถา’ติ เอวํ ยาวทตฺถปวารณาย, สยฺจ ‘อลํ อาวุโส โถกํ โถกํ เทหี’ติ เอวํ ปฏิกฺเขปปวารณายา’’ติ อฏฺกถาย วุตฺตปฺปการทฺวเยน ปวาริโตติ อตฺโถ . วิกปฺปทฺวเย ปการทฺวเย ปวาริต-สทฺเท วร-ธาตุสฺส ปตฺถนวารณตฺถวเสนายมตฺโถ เวทิตพฺโพ, ‘‘ปาจิตฺติ อนติริตฺต’’นฺติ ปทจฺเฉโท. ‘‘อนติริตฺตํ โภชน’’นฺติ วิเสสิตพฺพมเปกฺขิตฺวา ‘‘อฺเนา’’ติ เอตฺถ วิภตฺตึ วิปริณาเมตฺวา ‘‘ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรํ โภชน’’นฺติ โยเชตพฺพํ, วกฺขมาเน อนติริตฺตกตโภชนนิทฺเทเส วุตฺเตสุ ปฺจสุ โภชเนสุ อฺตรํ โภชนนฺติ อตฺโถ. ‘‘ขาทนียํ วา โภชนียํ วา’’ติ (ปาจิ. ๒๓๖, ๒๓๘) สห เทสิตตฺตา เอกโยคาเยน ‘‘ขาทนียํ วา’’ติ จ คเหตพฺพํ. ปฺจ โภชนานิ, กาลิกตฺตยฺจ เปตฺวา สพฺพํ ยาวกาลิกํ ขาทนียนฺติ วุตฺตํ.

๑๒๔๑. อสนนฺติ เอตฺถ วิปฺปกตโภชนํ ทิสฺสติ, ภุฺชมาโน เจ ปุคฺคโล โหติ, โภชนกิริยานุปจฺฉินฺนา วตฺตตีติ อตฺโถ. โภชนนฺติ ปวารณปโหนกโอทนาทิ หตฺถาทีสุ ทิสฺสติ. หตฺถปาโสติ ปวารณปโหนกํ โภชนํ ทาตุํ อภิหริตฺวา ิโตกาโส อฑฺฒเตยฺยหตฺถปฺปมาโณ โหตีติ วุตฺตํ โหติ. อภิหรณํ อภิหาโร, โส เอว อภิหารตา, ตถา ทาตุํ ิตสฺส กาเยน กโต อภิหาโร ทิสฺสตีติ วุตฺตํ โหติ. กายวาจาปฏิกฺเขโปติ ตถา อภิหเฏ โภชเน ปฏิคฺคาหกสฺส หตฺถวิการาทิโก กายิโก วา ‘‘อล’’นฺติอาทิโก วาจสิโก วา ปฏิกฺเขโป ปฺายตีติ อตฺโถ.

๑๒๔๒. นิปฺปปฺเจนาติ สห วาสนาย ปหีนตณฺหาทิปปฺจตฺตยรหิเตน ตถาคเตน.

๑๒๔๓. ตตฺถาติ โอทนาทีสุ. สตฺตนฺนนฺติ ‘‘สาลี’’ติอาทินา วกฺขมานานุรูปานํ.

๑๒๔๔. โอทโกติ อุทเก ภโว. เอตฺถาติ ปฺจงฺคปวารณาย. อยํนิจฺฉโยติ วกฺขมานวิธิปฺปการํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสติ.

๑๒๔๕. สาลีติ สพฺพสาลิชาติ. วีหีติ สพฺพวีหิชาติ. กงฺคูติ เสตรตฺตกาฬเภทา สพฺพา กงฺคุชาติ. วรโก เสตวรโก. ธฺเน สมฺภตปุฺสมฺภาเรน ภควตา.

๑๒๔๖. ติณนฺติ ติณพีชเมว วุตฺตํ. ทีปิตํ สงฺคหิตํ. วรกโจรโกติ สุขุมวรโก.

๑๒๔๘. องฺคสมฺปตฺตึ ทสฺเสตุมาห ‘‘หตฺเถนา’’ติอาทิ.

๑๒๔๙. ตนูติ ตนุกา.

๑๒๕๐. น รกฺขติ ปวารณํ.

๑๒๕๑-๒. ธฺรสาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน ทธิอาทโย คหิตา. อาโรเปตฺวาติ อุทฺธนํ อาโรเปตฺวา. ผลนฺติ เอลาฬุกาทิผลํ. ปณฺณนฺติ สูปสากํ. กฬีรนฺติ เวฬุอาทีนํ กฬีรํ. พหูนีติ เตสเมว วิเสสนํ. ตตฺถ จาติ ปกฺขิตฺตปณฺณาทิมฺหิ ตกฺกาทิเก. โอธึ ทสฺเสตีติ เอตฺถ ‘‘ปริโภคกาเล’’ติ เสโส. สฺชเนตีติ เอตฺถ ‘‘ผลาทิยาคู’’ติ ลพฺภติ.

๑๒๕๓-๔. รเสติ มํสาทิรเส. ‘‘ยาคุํ คณฺหถา’’ติ วา ‘‘ยาคุ’’นฺติ วา วตฺวาติ โยเชตพฺพา. ยาคุ สงฺคหิตาติ เอตฺถ โอธิปฺายนอปฺายนวิกปฺปทฺวเย ยาคุยา สโม วินิจฺฉโยติ อธิปฺปาโย.

๑๒๕๕. ฉุปนฺตีติ สมฺผุสนฺติ. ฉุป สมฺผสฺเสติ ธาตุ, ปกฺขิปนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘ยตฺถ มจฺฉมํสํ ปกฺขิปนฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙). สาสปมตฺตมฺปิ มจฺฉมํสํ วา สเจ ปฺายตีติ โยชนา. ปวารณนฺติ เอตฺถ ‘‘ชเนตี’’ติ เสโส. ยาคุยาติ ปทํ ปจฺจตฺตวเสน วิปริณาเมตฺวา ยาคุ ชเนตีติ โยเชตพฺพํ.

๑๒๕๖. สํสฏฺโติ ปริสฺสาวิโต น สฺชเนตีติ โยชนา.

๑๒๕๗. สพฺพโส เปตฺวาติ สมฺพนฺโธ. มํสาทิปกฺขิตฺตโอทนาทิปฺปกรณาวเสสโต องฺคํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สพฺพโส’’ติ. สพฺพโส น ปวาเรตีติ โยชนา. เวฬุตณฺฑุลนฺติ เวฬุวีหีนํ ตณฺฑุลํ. อาทิ-สทฺเทน กนฺทมูลํ สงฺคหิตํ. ยถาห ‘‘เวณุตณฺฑุลาทีหิ วา กนฺทมูลผเลหิ วา เยหิ เกหิจิ กตภตฺต’’นฺติ.

๑๒๕๘. ตโตติ สาลิอาทิโต, เวฬุอาทิโต จ, ตโต นิพฺพตฺตา ปุถุกา วาติ อตฺโถ. ตาหีติ ปุถุกาหิ. สุทฺธาติ ปุถุกาทีหิ อมิสฺสา น ปวาเรนฺตีติ สมฺพนฺโธ.

๑๒๕๙. ภฏฺานนฺติ ภชฺชิตานํ. สตฺตูหิ สงฺคหิตํ สตฺตุสงฺคหิตํ.

๑๒๖๑. สตฺตูนํ โมทโกติ สตฺตุพทฺธํ, พทฺธสตฺตูติ อตฺโถ.

๑๒๖๓. เตเหวาติ ลาเชหิ เอว. สุทฺธํ ขชฺชกํ วาติ วกฺขมานนเยน มจฺฉาทีหิ อสมฺมิสฺสํ ขชฺชกํ.

๑๒๖๔. ‘‘ปูริต’’นฺติอาทินา ตพฺพิปริยายํ ทสฺเสติ. นฺติ กุณฺฑกาทิ.

๑๒๖๖. อกปฺปิยํ มํสํ. อวตฺถุตฺตาติ อกปฺปิยมํสานํ วาเรตพฺพตฺตา ปวารณาย อวตฺถุตฺตา.

๑๒๖๗. วตฺถุกตฺตาติ กปฺปิยมํสสฺส ปวารณาย วตฺถุภูตตฺตา. ปวาเรตีติ เอตฺถ ‘‘ขาทิยมานสฺส จ มํสตฺตา’’ติ เสโส ทฏฺพฺโพ. ยถาห ‘‘ยํ ปน ขาทติ, ตํ กิฺจาปิ ปฏิกฺขิปิตพฺพฏฺาเน ิตํ, ขาทิยมานํ ปน มํสภาวํ น ชหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙).

๑๒๖๘. กิฺจิ กปฺปิยโภชนนฺติ ปฺจสุ โภชเนสุ ยํ กิฺจิ กปฺปิยโภชนํ.

๑๒๖๙. อกปฺปิยํ มํสํ อฺนฺติ อกปฺปิยมํสโต อวเสสํ กุลทูสนาทิวเสน อุปฺปนฺนโภชนํ คหิตํ. ยถาห ‘‘กุลทูสนเวชฺชกมฺมอุตฺตริมนุสฺสธมฺมาโรจนสาทิตรูปิยาทีหิ นิพฺพตฺตํ พุทฺธปฏิกุฏฺํ อเนสนาย อุปฺปนฺนํ อกปฺปิยโภชนํ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรตี’’ติ.

๑๒๗๐-๑. อสนํ โภชนนฺติ องฺคทฺวเย วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สเจ อชฺโฌหฏ’’นฺติอาทิ. อชฺโฌหฏนฺติ ปรคลคตํ โหติ. ‘‘ปตฺเต’’ติ อิมินา ถาลกาทิภาชนฺจ คหิตํ. กตฺถจิ โภชนํ นตฺถีติ โยชนา. ปตฺเต, หตฺเถ, มุเข วา ยตฺถ กตฺถจิ ปฺจนฺนํ โภชนานํ กิฺจิ น วิชฺชติ, คนฺธมตฺตํ ปฺายตีติ วุตฺตํ โหติ.

๑๒๗๒. อาทายาติ เอตฺถ ‘‘อฺตฺร ภุฺชิตุ’’นฺติ เสโส. ‘‘โยปิ อฺตฺร คนฺตฺวา ภุฺชิตุกาโม มุเข ภตฺตํ คิลิตฺวา เสสํ อาทายา’’ติอาทินา (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙) มหาปจฺจริยฏฺกถายํ วุตฺตวจนสฺส ปมาณตฺตา อาห ‘‘น ปวาเรตี’’ติ.

๑๒๗๓. ‘‘มุเข ภตฺตํ คิลิตํ, หตฺเถ ภตฺตํ วิฆาสาทสฺส ทาตุกาโม, ปตฺเต ภตฺตํ ภิกฺขุสฺส ทาตุกาโม, สเจ ตสฺมึ ขเณ ปฏิกฺขิปติ, น ปวาเรตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙) เอวมาคตํ กุรุนฺทฏฺกถํ สงฺคเหตุํ ‘‘มุเข จ ภตฺต’’นฺติอาทิวจนโต จ ‘‘อสนสฺส อุปจฺเฉทา’’ติอาทินา วกฺขมานาย ยุตฺติยา อสนาวสาเน ยุชฺชมานตฺตา จ อิมิสฺสา คาถาย ‘‘โภตฺตุกาโม’’ติ ปาํ อคฺคเหตฺวา ‘‘ทาตุกาโม’’ติ ปาโ คเหตพฺโพ.

๑๒๗๔. ‘‘อสนสฺส อุปจฺเฉทา’’ติ อิมินา ตสฺมึเยว อาสเน ยถานิสินฺเนเนว กาตพฺเพ อสเน อาสาวจฺเฉโท ทีปิโต. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘ตสฺมึ ปน อาสเน น ภุฺชิตุกาโม, วิหารํ ปวิสิตฺวา ภุฺชิตุกาโม, อฺสฺส วา ทาตุกาโม’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙). กุรุนฺทฏฺกถายํ ตสฺส วินิจฺฉยสฺส ทสฺสิตตฺตา ‘‘มหาปฺา’’ติ กุรุนฺทฏฺกถาจริยํ สนฺธายาห. การณาการณฺุโนติ ‘‘ปวารณสฺส อิทํ การณํ, อิทํ อการณ’’นฺติ ชานนฺตา. ‘‘การณาการณฺุนา’’ติ กตฺถจิ โปตฺถเก ลิขนฺติ. ตตฺถ มหาปฺา การณาการณฺุโน อาจริยา อสนสฺส…เป… โสติ หิ การณํ กถยนฺตีติ โยชนา.

๑๒๗๕. หตฺถปาสงฺเค วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘คณฺหโต…เป… ปสาริต’’นฺติ. คณฺหโตติ เยน อิริยาปเถน สมนฺนาคโต หุตฺวา คณฺหาติ, เอวํ คณฺหโต. ปจฺฉิมํ องฺคนฺติ ทายเกน ทินฺนสฺส ปฏิคฺคาหกสฺส โย อวยโว ปรภาเค โหติ , ตํ านาทิอิริยาปถสมนฺนาคตสฺส ปฏิคฺคาหกสฺส ปณฺหิอาทึ ปจฺฉิมํ องฺคํ. ททโต ปสาริตํ หตฺถํ วินา ปุริมํ องฺคนฺติ โยชนา. ปสาริตํ หตฺถนฺติ เอตฺถ ‘‘ทาตุ’’นฺติ เสโส. อุภินฺนนฺติ เอตฺถ ‘‘อนฺตเร’’ติ เสโส. ปฏิคฺคาหกทายกานํ ปจฺฉิมปุริมานํ อุภินฺนํ องฺคานํ อนฺตเร โอกาเส. อฑฺฒํ อุปฑฺฒํ หตฺถํ เตยฺยํ ตติยํ ยสฺสาติ วิคฺคโห, อติเรกวิทตฺถิทฺวิรตนปฺปมาณนฺติ อตฺโถ.

๑๒๗๖. อภิหารงฺเค วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตสฺมิ’’นฺติอาทิ. อฑฺฒเตยฺเย ตสฺมึ าเน ตฺวาติ โยชนา, ทฺวิรตนวิทตฺถิปมาเณ ตสฺมึ าเน ตฺวาติ อตฺโถ. อภิหฏนฺติ อุปนีตํ. ตาทิสนฺติ อภิหฏสทิสํ, ปวารณปโหนกานํ ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรนฺติ อตฺโถ.

๑๒๗๗-๘. อาธารเก วาปีติ วลยาทิปตฺตาธารเกปิ. อูรูสูติ ทฺวินฺนํ อูรูนํ มชฺเฌ, องฺเกติ อตฺโถ. อาหริตฺวาติ อภิหริตฺวา. ภตฺตํ คณฺหาตีติ เอตฺถ ‘‘อิโต’’ติ เสโส, ‘‘อิโต ภตฺตํ คณฺหา’’ติ อนนฺตเร นิสินฺโน จ ภาสตีติ โยชนา. ภตฺตนฺติ อุปลกฺขณํ, ปฺจสุ โภชเนสุ ยํ กิฺจีติ อตฺโถ. นฺติ ตถา คณฺหิตุํ วุตฺตภตฺตาทิโภชนํ. อภิหารสฺส จาติ เอตฺถ -สทฺโท ปทปูรณตฺโถ, เอวการตฺโถ วา, อภาวา เอวาติ โยชนา.

๑๒๗๙. ‘‘ภตฺตปจฺฉิ’’นฺติ อิทํ อุปลกฺขณํ.

๑๒๘๐. ทียมาเนติ เอตฺถ ‘‘โภชเน’’ติ เสโส. อิตโรติ หตฺถปาเส นิสินฺโน. อภิหารงฺคสฺส อภาวา โส น ปวาริโตติ.

๑๒๘๑. ปฏิกฺเขปงฺเค วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘กาเยนา’’ติอาทิ. วาจาภิหารสฺส อนงฺคตฺตา อาห ‘‘กาเยนาภิหฏ’’นฺติ. ยถาห ‘‘วาจาย อภิหฏํ ปฏิกฺขิปโต ปวารณา นตฺถี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙). อภิหฏโภชนํ ปฏิกฺขิปิตุํ องฺคุลิโย วา หตฺถํ วา หตฺถคตสฺส กสฺสจิ จลนาทึ ยํ กฺจิ กายวิการํ กโรนฺโต, ภมุํ อุกฺขิปนฺโต, กุชฺฌิตฺวา โอโลเกนฺโต วา กาเยน ปฏิกฺขิปตีติ วุจฺจติ. ‘‘อล’’นฺติ วา ‘‘น คณฺหามี’’ติ วา ‘‘อาคเมหี’’ติ วา ‘‘อธิวาเสหี’’ติ วา ‘‘มา อากิรา’’ติ วา ‘‘อปคจฺฉาหี’’ติ วา เอวมาทิกํ วทนฺโต วาจาย ปฏิกฺขิปตีติ วุจฺจติ.

๑๒๘๒-๓. อากิราติ เอตฺถาปิ ‘‘อิติ จา’’ติ โยเชตพฺพํ. เอวํ วทนฺตสฺส นิวาเรตุกามตาจิตฺเต สติปิ นิวารณวจเนน โหนฺตํ ปวารณํ อากิราติอาทิวิธิวจเน น โหตีติ อาห ‘‘น ปน’นฺติ ปวารณา’’ติ. ปวารณา ปน น อตฺถีติ โยชนา.

๑๒๘๔. ‘‘รสํ คณฺหถา’’ติ วเทติ สมฺพนฺโธ. ตํ สุตฺวาติ ตํ วจนํ สุตฺวา.

๑๒๘๕. ‘‘สาร’’นฺติ อิทํ วณฺณภณนมตฺตํ. ‘‘อิท’’นฺติ สามฺเน มจฺฉมํสํ วทติ, ปวารณงฺคํ โหติ. มจฺฉรสํ มํสรสนฺติ เอตฺถ ทฺวนฺทสมาสสฺสปิ สมฺภวโต ‘‘มจฺฉํ, มํสํ คณฺหา’’ติ จ วุตฺตํ โหติ, ตฺจ องฺคํ โหติ.

๑๒๘๖. ‘‘รสํ คณฺหา’’ติ วุตฺเต ปนสฺส วิกปฺปสฺส อภาวา ปวารณสฺส องฺคํ น โหติ. เตเนวาห ‘‘อตฺถิ จ มํสํ เจ’’ติ.

๑๒๘๗. มุหุตฺตํอาคเมหีติ กฺจิ กาลํ โอโลเกหิ.

๑๒๘๘. ปนสาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน เวตฺตงฺคาทีนํ คหณํ.

๑๒๙๐. มจฺฉสูปํ มํสสูปนฺติ เอตฺถ สมาสวิกปฺปา ‘‘มจฺฉรสํ มํสรส’’นฺติ เอตฺถ วิย ทฏฺพฺพา.

๑๒๙๑. กรมฺพกนฺติ มจฺฉมํเสน วา อฺเน วา มิสฺสสฺเสว สูปวิเสสสฺส นามํ. เตเนว จ ‘‘มํสกรมฺพกํ คณฺหถ, มจฺฉกรมฺพกํ คณฺหถา’’ติ วุตฺเต นิเสเธน ปวารณา โหติ, ‘‘กรมฺพกํ คณฺหถา’’ติ วุตฺเต อนิยตวจนตฺตา น โหติ. กฬีรสูปาทีหิ สมานวินิจฺฉยภาวํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอเสว นโย วุตฺโต’’ติ.

๑๒๙๒. วุตฺตสฺมินฺติ วุตฺเต.

๑๒๙๓. เยนาติ ภตฺเตน. อาปุจฺฉิโตติ ‘‘คณฺหถา’’ติ วุตฺโต. ตสฺส ภตฺตสฺส. อตฺถิตาย ยาคุยา วิชฺชมานตฺตา. อิติ การณนฺติ อิทํ ปวารณการณํ.

๑๒๙๔. ‘‘ยาคุมิสฺสกํ คณฺหา’’ติ วุตฺเต สา ยาคุ ตตฺถ ตสฺมึ อภิหเฏ ภาชเน ปกฺขิตฺตภตฺเตน สมา วา พหุตรา วา เจ โหติ, โส เอวํ วตฺวา อภิหฏํ ปฏิกฺเขปํ ภิกฺขุ น ปวาเรติ กิราติ โยชนา. กิราติ อรุจึ สูเจติ. เตเนว วกฺขติ ‘‘การณํ ปน ทุทฺทส’’นฺติ.

๑๒๙๕. สพฺพตฺถาติ สพฺพอฏฺกถาสุ.

๑๒๙๖. วิสุํ กตฺวาติ เอกสิตฺถมฺปิ ยถา น โหติ, ตถา รสํ วา ขีรํ วา ภตฺตโต วิโยเชตฺวา.

๑๒๙๗. คจฺฉนฺเตเนวาติ ยาว โภชนนิฏฺานํ, ตาว คจฺฉนฺเตเนว. ยถาห ‘‘คจฺฉนฺเตน นทิปูรํ ปตฺเตนปิ อฏฺตฺวา นทิตีเร คุมฺพํ ปริกฺขิปิตฺวา วิจรนฺเตน นาวํ วา เสตุํ วา อารุฬฺเหน อฏฺตฺวา วฏฺเฏตฺวา วิจรนฺเตนา’’ติ.

๑๒๙๘. โสติ คจฺฉนฺโต. ตโตติ านโต, คมนอิริยาปถสฺส วิโกปิตตฺตาติ อธิปฺปาโย.

๑๒๙๙. อาสนํอวิจาเลตฺวาติ นิสชฺชาวเสน ผุฏฺฏฺานํ อจาเลตฺวา, อนุฏฺหิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อทินฺนาทาเน วิย านาจาวนํ คเหตพฺพ’’นฺติ คณฺิปเท วุตฺตํ.

๑๓๐๐. ตโตติ ปวาริตกาลโต อุทฺธํ, ตโต นิสินฺนฏฺานโต วา. อิโต, เอตฺโต วา. อีสกมฺปิ สํสริตุนฺติ นิสินฺนฏฺานโต อิโต จิโต จ โถกมฺปิ สํสริตุํ, อปคนฺตุนฺติ อตฺโถ.

๑๓๐๑. สพฺพตฺถาติ ปีกาทิสํหาริเม สพฺพสฺมึ อาสเน. ‘‘วินยฺุนา’’ติ อิมินา ‘‘สเจ ปน นํ สห มฺเจน อุกฺขิปิตฺวา อฺตฺร เนนฺติ, วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙) อฏฺกถายํ ‘‘ปีกาทีสุปิ อยเมว วินิจฺฉโย’’ติ วุตฺตภาวํ ชานนฺเตนาติ วุตฺตํ โหติ.

๑๓๐๒. นิปชฺชิตฺวาติ เอตฺถ ‘‘ปริวตฺตนฺเตน เยน ปสฺเสน นิปนฺโน, ตสฺส านํ นาติกฺกเมตพฺพ’’นฺติ วจนโต ปุพฺพสยิตฏฺานํ อวิชหิตฺวา สยิตฺวาเยวาติ อตฺโถ. ตเถวาติ อุกฺกุฏิโก หุตฺวาวาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ตสฺส ปน เหฏฺา ปลาลปีํ วา กิฺจิ วา นิสีทนกํ ทาตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙) อฏฺกถายํ วุตฺตํ.

๑๓๐๓. อติริตฺตํ กโรนฺเตน สิกฺขุนา ภาชนํ โอนเมตฺวาน โภชเน ทสฺสิเต อถ ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพนฺติ โยชนา. ตตฺถ อติริตฺตํ กโรนฺเตนาติ ‘‘อติริตฺตํ นาม กปฺปิยกตํ โหติ, ปฏิคฺคหิตกตํ โหติ, อุจฺจาริตกตํ โหติ, หตฺถปาเส กตํ โหติ, ภุตฺตาวินา กตํ โหติ, ภุตฺตาวินา ปวาริเตน อาสนา อวุฏฺิเตน กตํ โหติ, ‘อลเมตํ สพฺพ’นฺติ วุตฺตํ โหติ, คิลานาติริตฺตํ โหตี’’ติ (ปาจิ. ๒๓๙) วุตฺเตสุ อฏฺสุ อากาเรสุ อนฺตํ วินา ปุริเมหิ สตฺตหิ วินยกมฺมากาเรหิ อติริตฺตํ กโรนฺเตนาติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘อิเมหิ สตฺตหิ วินยกมฺมากาเรหิ ยํ อติริตฺต’’นฺติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙).

อิธ อติริตฺตํ กาตุํ อภิหฏโภชนํ กปฺปิยฺจ นาม โหติ, กปฺปิยกเตน สิงฺคิเวรลสุณาทิวตฺถุนา ยุตฺตตาย จ อกปฺปิยมํสาภาเวน จ กุลทูสนาทีหิ อนุปฺปนฺนภาเวน จ กตฺจ นาม โหติ. ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติ อติริตฺตกตภาวโต เอวํ กปฺปิยฺจ ตํ กตํ จาติ กปฺปิยกตนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอวมุปริปิ กต-สทฺทสฺส อตฺโถ จ สมาสวิคฺคโห จ เวทิตพฺโพ . อวสิฏฺปเทสุ ภิกฺขุนา ปฏิคฺคหิตํ ปฏิคฺคหิตํ นาม. ตํ การาเปตฺวา อาคเตน ภิกฺขุนา โถกํ อุจฺจาเรตฺวา, โอตาเรตฺวา วา ทสฺสิตํ อุจฺจาริตกตํ นาม. กปฺปิยํ การาเปตุมาคตสฺส อฑฺฒเตยฺยหตฺถปฺปมาณหตฺถปาสพฺภนฺตรคเตน อติริตฺตกตํ ‘‘หตฺถปาเส กต’’นฺติ วุจฺจติ. อนฺตมโส ปวารณชนกํ ยํ กิฺจิ โภชนํ กุสคฺเคนาปิ คเหตฺวา ภุตฺตตฺตา ภุตฺตาวินา. ยถาห ‘‘ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรํ โภชนํ อนฺตมโส กุสคฺเคนาปิ ภุตฺตํ โหตี’’ติ. ภุฺชนฺโต ปวาริโต หุตฺวา โย อาสนํ น โกเปติ, โส ภุตฺตาวี ปวาริโต ‘‘อาสนา อวุฏฺิโต’’ติ วุจฺจติ, เตน กตํ ‘‘ภุตฺตาวินา…เป… อวุฏฺิเตน กต’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติ วจีเภทํ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘อลเมตํ สพฺพนฺติ วุตฺตํ โหตี’’ติ ทสฺสิตํ. อยํ สตฺตวิโธ วินยกมฺมากาโร นาม.

คิลานาติริตฺตกํ ปน อิมิสฺสา คาถาย อวุตฺตมฺปิ อนติริตฺตสนฺทสฺสนตฺถํ วกฺขมานาย ‘‘กต’’นฺติอาทิคาถาย ‘‘น คิลานาติริตฺตฺจา’’ติ อิมสฺส วิปริยายโต เวทิตพฺพํ. คิลานโต อติริตฺตํ, ตสฺส อฺทิเนสุ ภุฺชนตฺถาย อุปฏฺาปิตมฺปิ คิลานาติริตฺตํ นาม.

‘‘เตน ภิกฺขุนา’’ติ อิมินา ‘‘ภุตฺตาวินา’’ติ จ ‘‘ภุตฺตาวินา ปวาริเตน อาสนา วุฏฺิเตนา’’ติ จ วุตฺตปฺปกาเรน วิสิฏฺํ เตเนว ปากฏํ ภิกฺขุํ ปรามสติ, ปวารณชนกานํ ปฺจนฺนํ โภชนานํ อฺตรํ อปฺปมตฺตกมฺปิ ภุตฺตาวินา, ภุตฺตาวี ปวาริโตปิ หุตฺวา อาสนา อวุฏฺิเตน วา ภิกฺขุนาติ วุตฺตํ โหติ. โอนมิตฺวาน ภาชเนติ เอตฺถ ‘‘ทสฺสิเต โภชเน’’ติ เสโส, ‘‘อถา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. กปฺปิยกรณารหานิ สิงฺคิเวราทีนิ กปฺปิยํ กาเรตฺวา ปฏิคฺคหาเปตฺวา อาคนฺตฺวา หตฺถปาสพฺภนฺตเร ปตฺวา อติริตฺตํ การาเปนฺเตน ภิกฺขุนา ภาชนํ โถกํ โอนาเมตฺวา อุจฺจาเรตฺวา ทสฺสิตกาลานนฺตราติ วุตฺตํ โหติ. อุตฺตริ กาตพฺพํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อล’’นฺติอาทิ.

เอตฺตาวตา ‘‘เตน ภิกฺขุนา’’ติ อิมินา ‘‘ภุตฺตาวินา กตํ, ภุตฺตาวินา ปวาริเตน อาสนา อวุฏฺิเตน กต’’นฺติ องฺคทฺวยํ สงฺคหิตํ. ‘‘โอนเมตฺวาน ภาชน’’นฺติ อิมินา ‘‘อุจฺจาริตกตํ โหตี’’ติ อิทํ สงฺคหิตํ. ‘‘กปฺปิยกตํ, ปฏิคฺคหิตกตํ, หตฺถปาเสกต’’นฺติ อิทํ ตยํ อนนฺตริยวาจินา อถ-สทฺเทน สงฺคหิตํ. ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติ อิทํ ปเนตฺถ สรูเปเนว ทสฺสิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

๑๓๐๔. ปตฺเต ิตโภชนเมว อติริตฺตํ กาตพฺพนฺติ นตฺถิ, ปจฺฉิอาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ ภาชเน ิตมฺปิ กาตพฺพนฺติ ทสฺเสตุมาห ‘‘กปฺปิยํ ปนา’’ติ. กุณฺเฑติ ภณฺฑุกฺขลิยํ. ภาชเนติ ยํ กิฺจิ ภาชนํ คหิตํ.

๑๓๐๕. เอตนฺติ อติริตฺตกตํ เอตํ โภชนํ. ตํ เอกเมว เปตฺวาติ โยชนา. ‘‘วฏฺฏเตวา’’ติ วุตฺเตปิ อพฺภงฺคาทีนมตฺถายาติ คณฺเหยฺยุนฺติ อาห ‘‘ภุฺชิตพฺพ’’นฺติ, ตเมกํ วินา ปเรหิ ปริภุฺชิตพฺพนฺติ อตฺโถ.

๑๓๐๖-๗. กปฺปิยํ กาเรตฺวาติ อติริตฺตํ กาเรตฺวา. อากิรนฺติ เจติ ยทิ ปกฺขิปนฺติ. ปุน ตถา อติริตฺตํ กาเรตฺวา ภุฺชิตพฺพนฺติ โยชนา.

ตํ เกน อติริตฺตํ กาตพฺพนฺติ อาห ‘‘เยนา’’ติอาทิ. นฺติ อติริตฺตกตํ โภชนํ. เยน อกตนฺติ เยน ภิกฺขุนา ปมํ อติริตฺตํ น กตํ, เตน กาตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. ยถาห ‘‘เยน อกตนฺติ อฺเน ภิกฺขุนา เยน ปมํ น กตํ, เตน กาตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙). ยํ วา อกตํ, ตํ วิสุํ เตน วา กาตพฺพนฺติ โยชนา. ยํ วา อกตนฺติ ตสฺมึ อติริตฺตกตโภชเน อปกฺขิตฺตํ ยํ โภชนํ อติริตฺตํ น กตํ. ตํ วิสุํ เตน วา กาตพฺพนฺติ ปจฺฉา ปกฺขิตฺตํ โภชนํ อติริตฺตํ กเตน ยถา อมิสฺสํ โหติ, ตถา อฺสฺส ภาชนสฺส คหณวเสน วิสุํ กาเรตฺวา เตน ปมํ กตาติริตฺเตนาปิ อติริตฺตํ กาตพฺพํ. ยถาห – ‘‘ยฺจ อกตนฺติ เยน ปมํ กปฺปิยํ กตํ, เตนาปิ ยํ อกตํ, ตํ กาตพฺพํ. ปมภาชเน ปน กาตุํ น ลพฺภติ. ตตฺถ หิ กริยมานํ ปมํ กเตน สทฺธึ กตํ โหติ, ตสฺมา อฺสฺมึ ภาชเน กาตุํ วฏฺฏตีติ อธิปฺปาโย’’ติ.

๑๓๐๘. อกปฺปิยาทีหิสตฺตหีติ ‘‘อนติริตฺตํ นาม อกปฺปิยกตํ โหติ, อปฺปฏิคฺคหิตกตํ โหติ, อนุจฺจาริตกตํ โหติ, อหตฺถปาเส กตํ โหติ, อภุตฺตาวินา กตํ โหติ, ภุตฺตาวินา จ ปวาริเตน อาสนา วุฏฺิเตน กตํ โหติ, ‘อลเมตํ สพฺพ’นฺติ อวุตฺตํ โหตี’’ติ (ปาจิ. ๒๓๙) วุตฺเตหิ สตฺตหิ วินยกมฺมากาเรหิ. อติริตฺตํ กตนฺติ โยชนา. ‘‘โหติ อนติริตฺตก’’นฺติ ปทจฺเฉโท.

๑๓๐๙. อุปกฏฺเวลายปิ อติริตฺตํ กโรนฺเตน ‘‘อหํ ปาโตว ภุฺชิ’’นฺติ วา ‘‘โถกํ ปริภุฺชิ’’นฺติ วา อจินฺเตตฺวา กาตพฺพนฺติ ทสฺเสตุมาห ‘‘โยปี’’ติอาทิ. อุปกฏฺูปนีตมฺปีติ อุปกฏฺเวลาย อุปนีตมฺปิ โภชนํ.

๑๓๑๐. ยามาทิกาลิกนฺติ ยามสตฺตาหยาวชีวิกกาลิกํ. อนามิสฺสนฺติ อามิเสน อมิสฺสํ. ตํ ยามาทิกาลิกํ ปริภุฺชโตติ สมฺพนฺโธ.

๑๓๑๒. คิลานสฺส ภุตฺตาติริตฺตํ วิย กทาจิ ภุฺชิสฺสตีติ อุทฺทิสฺส ปิตมฺปิ คิลานาติริตฺตํ นามาติ อฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๓๘-๒๓๙ อตฺถโต สมานํ) วุตฺตํ. ‘‘วิหาราทีสุ คิลานสฺส ปาปุณนโกฏฺาสมฺปิ คิลานาติริตฺตํ นามา’’ติ วทนฺติ.

๑๓๑๓. กถิเนนาติ ปมกถิเนน.

ปมปวารณกถาวณฺณนา.

๑๓๑๔. อนติริตฺเตนาติ เอตฺถ ‘‘ขาทนีเยน วา โภชนีเยน วา’’ติ เสโส. เอตฺถ ‘‘ขาทนียํ นาม ปฺจโภชนานิ ยามกาลิกํ สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกํ เปตฺวา อวเสส’’นฺติ (ปาจิ. ๒๓๙) วุตฺตํ ปฺจโภชนโต อฺํ สพฺพํ ยาวกาลิกํ ขาทนียํ นาม. ‘‘โภชนียํ นาม ปฺจ โภชนานิ โอทโน กุมฺมาโส สตฺตุ มจฺโฉ มํส’’นฺติ (ปาจิ. ๒๓๙) วุตฺตํ. เอตฺถ วินิจฺฉโย อนนฺตรสิกฺขาปเท วุตฺโต. ปวาเรยฺยาติ เอตฺถ ‘‘อภิหฏฺุ’’นฺติ เสโส. อภิหฏฺุํ ปวาเรยฺยาติ อภิหริตฺวา ‘‘หนฺท ภิกฺขุ ยาวตกํ อิจฺฉสิ, ตาวตกํ คเหตฺวา ขาท วา ภุฺช วา’’ติ เอวํ ปวาเรยฺย. ‘‘ปวาริต’’นฺติปทํ วุตฺตตฺถเมว. ชานนฺติ สุตฺวา วา ทิสฺวา วา ตสฺส ปวาริตภาวํ ชานนฺโต. อาสาทนาเปกฺโขติ อาสาทนํ โจทนํ มงฺกุกรณภาวํ อเปกฺขมาโน. ภุตฺเตติ ตสฺส ปโยเคน อิตเรน ภุฺชิตฺวา ปริโยสาปิเต. ตสฺสาติ โย ตสฺส ปวาริตภาวํ ตฺวา ‘‘ภุฺชา’’ติ นิโยเชสิ, ตสฺส.

๑๓๑๕-๖. เอกสฺส ภุฺชเนน อฺสฺส ปาจิตฺติ โหตีติ กถเมตนฺติ อาสงฺกาย ตถา วุตฺตตฺตา ปริหริตุมาห ‘‘ทุกฺกฏํ…เป… ทสฺสิต’’นฺติ. อิตรสฺส คหเณติ ปวาริตภิกฺขุโน ภุฺชนตฺถาย ปฏิคฺคหเณ. อชฺโฌหารปโยเคสุ จาติ เอตฺถาปิ ‘‘อิตรสฺสา’’ติ สมฺพนฺโธ. สพฺพํ ทุกฺกฏํ, ปาจิตฺติยฺจ. ทสฺสิตนฺติ ‘‘อภิหรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ตสฺส วจเนน ‘ขาทิสฺสามิ ภุฺชิสฺสามี’ติ ปฏิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเร อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. โภชนปริโยสาเน อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๒๔๔) เทสิตํ ภควตาติ อตฺโถ.

๑๓๑๗. อุภยตฺถาปิ วิมติสฺสาติ ปวาริเต จ อปวาริเต จ วิมติสฺส. ทุกฺกฏํ ปริทีปิตนฺติ ‘‘ปวาริเต เวมติโก. อปฺปวาริเต เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๒๔๕) เทสิตํ.

๑๓๑๘. การาเปตฺวาติ เอตฺถ ‘‘ภุฺชาหี’’ติ เสโส. อฺสฺสตฺถายาติ เอตฺถ ‘‘อภิหรนฺโต คจฺฉาหี’’ติ เสโส.

๑๓๑๙. โอมสวาทตุลฺยาวาติ อิทํ อทินฺนาทานสมุฏฺานํ สนฺธายาห.

ทุติยปวารณกถาวณฺณนา.

๑๓๒๐. ขาทนียํ วาติ ปฺจ โภชนานิ จ กาลิกตฺตยฺจ วินา อวเสเสสุ ยํ กิฺจิ วา. โภชนียํ วาติ ปฺจสุ โภชเนสุ อฺตรมฺปิ. วิกาเลติ วิคเต กาเล. กาโล นาม อรุณุคฺคมนโต ยาว มชฺฌนฺติกา, ตทฺโ วิกาโล. ยถาห ‘‘วิกาโล นาม มชฺฌนฺติเก วีติวตฺเต ยาว อรุณุคฺคมนา’’ติ (ปาจิ. ๒๔๙). ิตมชฺฌนฺติโกปิ กาเลเยว สงฺคยฺหติ. ยถาห ‘‘ิตมชฺฌนฺติโกปิ กาลสงฺคหํ คจฺฉติ. ตโต ปฏฺาย ปน ขาทิตุํ วา ภุฺชิตุํ วา น สกฺกา, สหสา ปิวิตุํ ปน สกฺกา ภเวยฺย. กุกฺกุจฺจเกน ปน น กาตพฺพํ. กาลปริจฺเฉทชานนตฺถฺจ กาลตฺถมฺโภ โยเชตพฺโพ, กาลพฺภนฺตเรว ภตฺตกิจฺจํ กาตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๔๘-๒๔๙). โทสนฺติ ปาจิตฺติยํ.

๑๓๒๑. ‘‘ขาทนียํ วา โภชนียํ วา’’ติ เอตฺถ โภชนียสฺส ปวารณสิกฺขาปเท ทสฺสิตสรูปตฺตา ขาทนียํ ตาว สรูปโต ทสฺเสตุมาห ‘‘ยมามิสคต’’นฺติอาทิ. เอตฺถาติ เอเตสุ ขาทนียโภชนีเยสุ. ยํ ปน วนมูลผลาทิกํ อามิสคตํ อามิเส ยาวกาลิเก ปริยาปนฺนํ, ตํ ขาทนียนฺติ โยชนา. กาลิเกสฺวสโมหตฺถนฺติ เอตฺถ คาถาพนฺธวเสน ม-การโลโป, อสมฺโมหตฺถนฺติ วุตฺตํ โหติ. อิทนฺติ วกฺขมานํ สนฺธายาห.

๑๓๒๒. มูลนฺติ ยํ กิฺจิ รุกฺขลตานํ มูลํ. กนฺทนฺติ รุกฺขลตานเมว กนฺทํ. มุฬาลนฺติ ปทุมคจฺฉมูลกนฺทํ. มตฺถกนฺติ ตาลนาฬิเกราทีนํ มตฺถกํ, เวฬุกฬีรปลฺลวงฺกุรานฺจ เอตฺเถว สงฺคโห. ขนฺธกนฺติ อุจฺฉุอาทิขนฺธกํ. ตจนฺติ ฉลฺลิ. ปตฺตนฺติ ปณฺณํ. ปุปฺผนฺติ กุสุมํ. ผลนฺติ รุกฺขลตาทีนํ ผลํ. อฏฺีติ รุกฺขลตาทิพีชํ. ปิฏฺนฺติ ธฺาทิปิฏฺํ. นิยฺยาสนฺติ สิเลสํ. ‘‘ขาทนีย’’นฺติ สพฺพตฺถ ปกรณโต ลพฺภติ.

๑๓๒๓. เอวํ ขาทนียานํ มาติกํ นิกฺขิปิตฺวา เต สรูปโต ทสฺเสตุมาห ‘‘มูลขาทนียาทีน’’นฺติอาทิ. ตตฺถ รุกฺขมูลเมว ขาทนียํ, ตํ อาทิ เยสนฺติ วิคฺคโห. มุขมตฺตนิทสฺสนํ นิโพธถาติ เอตฺถ ‘‘มยา กริยมาน’’นฺติ เสโส. มุขมตฺตนฺติ ปเวสทฺวารมตฺตํ, นิรวเสสโต ทสฺสเน ปปฺจภีรุกานํ ปุพฺเพ ภยํ โหตีติ สงฺเขปโต ขาทนียานิ ทสฺสิสฺสนฺติ วุตฺตํ โหติ. ตถา ทสฺสเน ปโยชนมาห ‘‘นามตฺเถสุ ภิกฺขูนํ ปาฏวตฺถายา’’ติ, มูลขาทนียาทีนํ นาเมสุ จ ตทตฺเถสุ จ ภิกฺขูนํ ปาฏวุปฺปาทนตฺถนฺติ อตฺโถ.

๑๓๒๔-๕. มูลกมูลาทีนิ อุปเทสโตเยว เวทิตพฺพานิ. น หิ ตานิ ปริยายนฺตเรน วุจฺจมานานิปิ สกฺกา วิฺาตุํ. ปริยายนฺตเรนปิ หิ วุจฺจมาเน ตํ ตํ นามํ อชานนฺตานํ สมฺโมโหเยว สิยา, ตสฺมา ตตฺถ น กิฺจิ วกฺขาม. สากานนฺติ สูเปยฺยปณฺณานํ. อิธาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. อาหารตฺถนฺติ อาหาเรน กตฺตพฺพปโยชนํ, อาหารกิจฺจนฺติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อามิสตฺถ’’นฺติปิ ลิขนฺติ. ผรนฺตีติ วิตฺถาเรนฺติ.

๑๓๒๖. ชรฏฺนฺติ ปุราณกนฺทํ. ยํ ตํ ชรฏฺนฺติ สมฺพนฺโธ. เสสานํ ชรฏฺํ ยาวกาลิกนฺติ โยชนา. เสสานนฺติ มูลกาทีนิ วุตฺตานิ. ยถาห ‘‘มูลกขารกชชฺฌรีมูลานํ ปน ชรฏฺานิปิ อามิสคติกาเนวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๔๘-๒๔๙).

๑๓๓๑. โธโตติ นิพฺพตฺติตปิฏฺโ.

๑๓๓๒. อโธโต ขีรวลฺลิยา กนฺโทติ โยชนา. วากฺยปถาตีตาติ ‘‘อสุโก วา อสุโก วา’’ติ วตฺวา ปริยนฺตํ ปาเปตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา วจนปถาตีตา.

๑๓๓๓. ปุณฺฑรีกํ เสตํ. ปทุมํ รตฺตํ.

๑๓๓๔. สมฺภวํ ชาตํ.

๑๓๓๘. ชรฏฺพุนฺโทติ กนฺทสฺส เหฏฺา อตีว ปริณตฏฺานํ.

๑๓๓๙. ปถวิยํ คโตติ อนฺโตปถวิยํ คโต, ปถวิยํ นิมุชฺชิตฺวา คตตรุณทณฺโฑติ วุตฺตํ โหติ.

๑๓๔๐. เอวํ อนฺโตภูมิยํ คโต. ‘‘ปณฺณทณฺโฑ อุปฺปลาทีน’’นฺติ ปทจฺเฉโท. สพฺโพติ ตรุโณปิ ปริณโตปิ. อุปฺปลาทีนํ, ปทุมชาติยา จ สพฺโพ ปณฺณทณฺโฑ ยาวกาลิโกติ โยชนา.

๑๓๔๕. ปตฺตขาทนียํนามาติ ปตฺตสงฺขาตํ ขาทนียํ นาม.

๑๓๔๘. มูลกาทีนนฺติ ‘‘มูลกํ ขารกฺเจวา’’ติอาทิกาย คาถาย วุตฺตมูลกาทีนํ.

๑๓๔๙. กณฺณิกาติ ปทุมกณฺณิกา.

๑๓๖๐. เกตกาทีนนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ติมฺพรุสกํ คหิตํ. ตาลผลฏฺีติ ตรุณผลานํ อฏฺิ.

๑๓๖๑. ‘‘ปุนฺนาคมธุกฏฺีนี’’ติ จ ‘‘ปุนฺนาคมธุกฏฺิจา’’ติ จ โปตฺถเกสุ อุภยถา ปาโ ทิสฺสติ, อตฺโถ ปน เอโกเยว. ‘‘เสลุ อฏฺี’’ติ ปทจฺเฉโท. อนามิเสติ ยาวชีวิเก.

๑๓๖๓. โธตํตาลปิฏฺนฺติ ตาลเผคฺคุํ โกฏฺเฏตฺวา อุทเก มทฺทิตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา กลเล ภาชนตลํ โอติณฺเณ ปสนฺโนทกํ อปเนตฺวา คหิตตาลปิฏฺนฺติ วุตฺตํ โหติ. ตถา ขีรวลฺลิยา ปิฏฺนฺติ โยชนา, ตเถว โกฏฺเฏตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา คหิตขีรวลฺลิยา ปิฏฺนฺติ อตฺโถ.

๑๓๖๔. อโธตํ วุตฺตวิปริยายโต คเหตพฺพํ. ‘‘อาหารตฺถมสาเธนฺตํ, สพฺพํ ตํ ยาวชีวิก’’นฺติ วจนโต เตสุ เตสุ ชนปเทสุ มนุสฺสานํ อาหารกิจฺจํ อกโรนฺตํ มูลาทิ ยาวชีวิกํ, ตทฺํ ยาวกาลิกนฺติ สงฺเขปลกฺขณํ กาตพฺพนฺติ.

วิกาลโภชนกถาวณฺณนา.

๑๓๖๙. โภชนํ สนฺนิธึ กตฺวา ขาทนํ วาติ เอตฺถ โภชนขาทนียานิ ยถาวุตฺตเภทสรูปาเนว. สนฺนิธึ กตฺวาติ ปฏิคฺคเหตฺวา เอกรตฺตมฺปิ อติกฺกาเมตฺวา, สนฺนิทหิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘ปฏิคฺคเหตฺวา เอกรตฺตมฺปิ วีตินามิตสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๓). ตเทว วกฺขติ ‘‘สย’’นฺติอาทินา. ขาทนนฺติ กมฺมสาธโนยํ, ‘‘ขชฺช’’นฺติ อิมินา สมานตฺโถ.

๑๓๗๑. ‘‘สนฺนิธึ กตฺวา’’ติ เอตฺถ นิทฺเทสํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สย’’นฺติอาทิ.

๑๓๗๒. ‘‘ตํ น วฏฺฏตี’’ติ เอตฺถ อตฺถํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตโต’’ติอาทิ. ตโตติ สนฺนิธิกตโภชนโต. สุทฺธจิตฺเตนาติ สวาสนสกลกิเลสปฺปหานโต นิมฺมลจิตฺเตน. ตาทินาติ อฏฺสุ โลกธมฺเมสุ นิพฺพิการภาเวน ตาทินา. อถ วา ยาทิสา ปุริมกา สมฺมาสมฺพุทฺธา รูปารูปคุเณหิ อเหสุํ, ตาทิเสน ภควตา.

๑๓๗๓. โอทนาทีสุ ปฺจสุ โภชเนสุ ตาว อกปฺปิยมํเสน สนฺนิธิวเสน ปาจิตฺติยฺจ อาปตฺติวิเสสฺจ ทสฺเสตุมาห ‘‘อกปฺปิเยสู’’ติอาทิ. ปาจิตฺตีติ สนฺนิธิปาจิตฺติยมาห. อิตเรติ สีหาทิมํสมฺหิ. ทุกฺกเฏน สห ปาจิตฺตีติ โยชนา.

๑๓๗๔. ยามกาลิกสงฺขาตํ ปริภุฺชโตติ เอตฺถ ‘‘สนฺนิธึ กตฺวา’’ติ อธิการโต ลพฺภติ . ‘‘ทุกฺกเฏน สหา’’ติ อวตฺวา ‘‘ปาจิตฺตี’’ติ วุตฺตตฺตา สติ ปจฺจเย ปริภุฺชโตติ คเหตพฺพํ. ยถาห ‘‘ยามกาลิกํ สติ ปจฺจเย อชฺโฌหารโต ปาจิตฺติยํ. อาหารตฺถาย อชฺโฌหารโต ทุกฺกเฏน สทฺธึ ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๓).

๑๓๗๕. อนฺนนฺติ เอตฺถาปิ ‘‘สนฺนิธิกต’’นฺติ อิทํ ปุเร วิย ลพฺภติ, ‘‘ปกติ’’นฺติ อิทํ ‘‘อนฺน’’นฺติ เอตสฺส วิเสสนํ, มนุสฺสมํสาทีหิ อสมฺมิสฺสํ นาติริตฺตกตํ อนฺนมตฺตนฺติ อตฺโถ. ปาจิตฺติยทฺวยนฺติ อนติริตฺตปจฺจยา จ สนฺนิธิปจฺจยา จ ทฺเว ปาจิตฺติยานิ.

๑๓๗๖. ‘‘ทฺเว , ทฺวย’’นฺติ อุภยตฺถาปิ อยเมวตฺโถ.

๑๓๗๗. สามิเสน มุเขน ทฺเวติ เอตฺถ ‘‘ปฺจ โภชนานิ ยามกาลิกํ สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกํ เปตฺวา อวเสสํ ขาทนียํ นามา’’ติ (ปาจิ. ๒๕๔) วุตฺตตฺตา ขาทนียาสงฺคหิเตน ยามกาลิเกน จ เตน สมฺมิสฺสตฺตา สนฺนิธินาเมน มุขคตอามิสมูลเกน จ สนฺนิธิปาจิตฺติยานิ ทฺเว โหนฺตีติ อตฺโถ. สามิเสน มุเขนาติ อุปลกฺขณตฺตา ยถากถฺจิ อามิเส มิสฺสีภูเต เอตฺตกา อาปตฺติโยติ ทฏฺพฺพํ. นิรามิสํ ยามกาลิกํ ภุฺชโต เอกเมว ปาจิตฺติยนฺติ โยชนา, เยน เกนจิ อากาเรน อสมฺมิสฺสํ ยามกาลิกํ ปริภุฺชโต เอกเมว ปาจิตฺติยํ โหตีติ อตฺโถ.

๑๓๗๘. ตเมวาติ สนฺนิหิตเมว กาลิกํ. เตสุ ทฺวีสุ วิกปฺเปสูติ สามิสนิรามิสวิกปฺปทฺวเย. เกวลํ ทุกฺกฏํ วฑฺฒตีติ ปมวิกปฺเป ทฺวีหิ ปาจิตฺติเยหิ สทฺธึ ทุกฺกฏํ, ทุติยวิกปฺเป ปาจิตฺติเยน สทฺธึ ทุกฺกฏํ โหตีติ วุตฺตํ โหติ.

๑๓๗๙. สุทฺธนฺติ เอตฺถ ‘‘สนฺนิธิกตํ โภชน’’นฺติ เสโส. อิทํ ‘‘ปกติโภชเน’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๓) อฏฺกถายํ, อิธ จ ‘‘น โทโส ยามกาลิเก’’ติ ยามกาลิกสฺส วิสุํ วกฺขมานตฺตา วิฺายติ, อกปฺปิยมํสยามกาลิเกหิ อมิสฺสํ โภชนนฺติ วุตฺตํ โหติ.

๑๓๘๐. มํเสติ เอตฺถ ‘‘อกปฺปิเย’’ติ อิทํ ถุลฺลจฺจยาทิวจเนเนว ลพฺภติ. วฑฺฒตีติ ปุพฺเพ วุตฺเตหิ ปาจิตฺติยทฺวเยหิ สทฺธึ มนุสฺสมํเส ถุลฺลจฺจยฺจ สีหาทิมํเส ทุกฺกฏฺจ วฑฺฒติ. มนุสฺสมํเส เสเส สีหมํสาทิเก อกปฺปิยมํเส จ ยถานุกฺกมโต ถุลฺลจฺจยฺเจว ทุกฺกฏฺจาติ ทฺวยํ วฑฺฒตีติ โยชนา.

๑๓๘๑. อนติริตฺตมฺปิ โภชนํ วิกาเล ปริภุฺชโต ภิกฺขุโน ตนฺนิมิตฺตโก โทโส ยถาวุตฺเตสุ สพฺพวิกปฺเปสุ นตฺถีติ โยชนา. ‘‘วิกาล…เป… กาลิเก’’ติ ยามกาลิกสฺส วิสุํ วกฺขมานตฺตา จ อติริตฺตการาปนฺจ โภชเนเยว สมฺภวตีติ อนติริตฺตนฺติ เอตฺถ ‘‘นิหิตโภชน’’นฺติ เสโส. ‘‘อนติริตฺตปจฺจยา ปน วิกาเล สพฺพวิกปฺเปสุ อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๓) อฏฺกถาวจนโต โทโสติ อนติริตฺตปจฺจยา ปาจิตฺติยมาห. เตเนว วกฺขติ ‘‘ตนฺนิมิตฺตโก’’ติ, อนติริตฺตนิมิตฺตโกติ อตฺโถ. สพฺพวิกปฺเปสูติ ‘‘สุทฺธํ วา มนุสฺสมํสมิสฺสํ วา สีหาทิมํสมิสฺสํ วา ยามกาลิกมิสฺสํ วา’’ติ สพฺเพสุ วิกปฺเปสุ. ‘‘ตนฺนิมิตฺตโก’’ติ วจเนเนว วาริตวิกาลาทินิมิตฺตสฺส โทสสฺส สมฺภวํ ทสฺเสติ.

๑๓๘๒-๓. วิกาลปจฺจยา วาติ เอตฺถ วา-สทฺเทน ‘‘อนติริตฺตปจฺจยา’’ติ อิทํ สมุจฺจิตํ. อปิ-สทฺโท ‘‘ยามกาลิเกปี’’ติ โยเชตพฺโพ. สตฺตาหกาลิกํ, ยาวชีวิกํ อาหารสฺเสว อตฺถาย ปฏิคฺคณฺหโต คหเณ, ยถาวุตฺตสฺส สตฺตาหกาลิกยาวชีวิกเภเทน ทุวิธสฺส ตุ อชฺโฌหารปโยเคสุ นิรามิเส วา ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. ตุ-สทฺโท เอว-การตฺโถ.

๑๓๘๔. อถาติ วากฺยารมฺเภ นิปาโต. อามิสสํสฏฺํ สตฺตาหกาลิกํ, ยาวชีวิกํ วาติ โยชนา. คเหตฺวาติ ปฏิคฺคเหตฺวา. ปิตนฺติ อรุณํ อติกฺกาเมตฺวา ปิตํ. ปาจิตฺตีติ สนฺนิธิปาจิตฺติ.

๑๓๘๕. กาโลติ อรุณุคฺคมนาทิมชฺฌนฺติกาวสาโน กาโล. ยาโมติ มชฺฌนฺติกาทิทุติยอรุณุคฺคมนาวสาโน. ตํ ตํ กาลํ กาลิกํ อติกฺกามยโต ตุ โทโสติ โยชนา. ตุ-สทฺโท เอวการตฺโถ. ตํ วา กาลิกนฺติ ยถากฺกมํ ยาวกาลิกํ ยามกาลิกํ สตฺตาหกาลิกนฺติ วุตฺตํ โหติ.

๑๓๘๖. ยาวกาลิกํ อตฺตนา สมฺภินฺนานิ อิตรานิ ตีณิ กาลิกานิ อตฺตโนเยว สภาวํ อุปเนตีติ โยชนา. สโก ภาโว สภาโว, ตํ.

๑๓๘๗-๘. เอวเมววินิทฺทิเสติ ‘‘ปุริมํ ปุริมํ กาลิกํ อตฺตนา สมฺมิสฺสํ ปจฺฉิมํ ปจฺฉิมํ อตฺตโน สภาวเมว คาหาเปตี’’ติ กเถยฺยาติ วุตฺตํ โหติ.

อิเมสูติอาทีสุ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. อนฺโตวุตฺถํ โหตีติ อกปฺปิยกุฏิยํ เปตฺวา อรุณุฏฺาปเนน อนฺโตวุตฺถํ นาม โหติ. สนฺนิธิ จ โหตีติ ปฏิคฺคเหตฺวา ปฏิคฺคหณํ อวิชหิตฺวา อรุณุฏฺาปเนน สนฺนิธิ จ นาม โหติ. โปตฺถเกสุ ‘‘สนฺนิธิ’’นฺติ สานุนาสิโก ปาโ ทิสฺสติ, ‘‘โหตี’’ติ กิริยาย สมฺพนฺธตฺตา สนฺนิธิ-สทฺโท ปเมกวจนนฺโตติ อนุนาสิโก อาคมสนฺธิโชติ เวทิตพฺโพ. อุภยมฺปีติ ยถาวุตฺตํ อนฺโตวุตฺถํ, สนฺนิธิ จาติ อุภยมฺปิ. น โหเตวาติ ปุริมกาลิกทฺวเยน อมิสฺสํ น โหเตว.

๑๓๘๙. กปฺปิยกุฏินาเมน อกตํ, อสมฺมตํ, อปริคฺคหํ, ปาการาทีหิ ปริกฺขิตฺตํ เสนาสนํ อกปฺปิยกุฏิ นามาติ สงฺเขปโต คเหตพฺพํ. อนฺตทฺวเยนาติ สตฺตาหกาลิกยาวชีวิเกน, สหตฺเถ กรณวจนํ. ‘‘มิสฺสิต’’นฺติ เสโส. คหิตนฺติ ปฏิคฺคหิตํ. ตํ ปุพฺพํ ทฺวยนฺติ ยาวกาลิกยามกาลิกทฺวยํ. ปุริมกาลิกทฺวเย ยํ กิฺจิ ตทหุปฏิคฺคหิตมฺปิ อกปฺปิยกุฏิยาเยว เปตฺวา อรุณํ อุฏฺาปิเตน ปจฺฉิมกาลิกทฺวเย เยน เกนจิ สมฺมิสฺสํ อนฺโตวุตฺถํ นาม โหตีติ วุตฺตํ โหติ.

๑๓๙๐. อนฺโตวุตฺเถน ปจฺฉิมกาลิกทฺวเยน สํสฏฺํ ยทิทํ ปุริมกาลิกทฺวยํ, อยํ มุขสนฺนิธิ นาม โหตีติ อฏฺกถายํ (มหาว. อฏฺ. ๒๙๕ อตฺถโต สมานํ) วุตฺตํ. มหาปจฺจริยํ ปน อนฺโตวุตฺถํ โหติ, น กปฺปติ อิติ ทฬฺหํ กตฺวา วุตฺตนฺติ โยชนา.

ตตฺถ ‘‘มุขสนฺนิธี’’ติ จ ‘‘อนฺโตวุตฺถ’’นฺติ จ นามมตฺตเมว นานากรณํ, โสเยวตฺโถติ อุภินฺนํ อฏฺกถาวจนานํ อนตฺถนฺตรตา เวทิตพฺพา. ตถา หิ มุข-สทฺโท อนฺโต-สทฺทปริยาโย, สนฺนิธิ-สทฺโท ปริวุตฺถ-สทฺทปริยาโย. มุเข สนฺนิธิ มุขสนฺนิธีติ กมฺมสาธนํ. พหิ สนฺนิธินิวตฺตนตฺถํ อฏฺกถาสุ มุข-คฺคหณํ, อนฺโต-คหณฺจ กตํ. พหีติ จ ปฏิคฺคเหตฺวา อกปฺปิยกุฏิยา พหิ ยตฺถ กตฺถจิ ปริวุตฺถํ ปจฺฉิมกาลิกทฺวยํ ปุริเมน กาลิกทฺวเยน สํสฏฺํ อธิปฺเปตํ. มุขสนฺนิธิอนฺโตวุตฺถปทานํ อนตฺถนฺตรภาโว สมนฺตปาสาทิกายํ วุตฺโต.

ยถาห ‘‘สามเณโร ภิกฺขุสฺส ตณฺฑุลาทิกํ อามิสํ อาหริตฺวา กปฺปิยกุฏิยํ นิกฺขิปิตฺวา ปุนทิวเส ปจิตฺวา เทติ, อนฺโตวุตฺถํ น โหติ. ตตฺถ อกปฺปิยกุฏิยํ นิกฺขิตฺตสปฺปิอาทีสุ ยํ กิฺจิ ปกฺขิปิตฺวา เทติ, มุขสนฺนิธิ นาม โหติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘อนฺโตวุตฺถํ โหตี’ติ วุตฺตํ, ตตฺถ นามมตฺตเมว นานากรณ’’นฺติ (มหาว. อฏฺ. ๒๙๕). นิสฺสนฺเทเห ปน อฺถา วุตฺโต วิย วิฺายติ, ตตฺถปิ อยเมว นโย เวทิตพฺโพ.

๑๓๙๑. โทโสติ สนฺนิธิโทโส น โหติ. นิทหิตฺวาติ ปฏิคฺคเหตฺวา ปฏิคฺคหณํ อวิชหิตฺวา สกสกกาลพฺภนฺตเรเยว นิทหิตฺวา. เอตฺถ จ เหฏฺิมนฺตโต สนฺนิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘ปตฺตํ โธวิตฺวา ปุน ตตฺถ อจฺโฉทกํ วา อาสิฺจิตฺวา องฺคุลิยา วา ฆํสิตฺวา นิสฺเนหภาโว ชานิตพฺโพ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๓) อฏฺกถายํ วุตฺตํ. เอเตน นิรเปกฺเขน ปฏิคฺคหณํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว สยํ วา อฺเน วา ตุจฺฉํ กตฺวาน สมฺมา โธวิตฺวา นิฏฺาปิเต ปตฺเต ลคฺคมฺปิ อวิชหิตปฏิคฺคหิตเมว โหตีติ ตตฺถ อาปตฺติ วุตฺตาติ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. เอเตน นิรเปกฺเขน ปฏิคฺคหเณ วิสฺสฏฺเ ตาทิเสปิ ปตฺเต โทโส นตฺถีติ สิทฺธํ.

สนฺนิธิกถาวณฺณนา.

๑๓๙๓. ปณีตานิ โภชนานีติ ปาฬิยํ ‘‘เสยฺยถิทํ? สปฺปิ นวนีตํ เตลํ มธุ ผาณิตํ มจฺโฉ มํสํ ขีรํ ทธี’’ติ (ปาจิ. ๒๕๙) อุทฺทิสิตฺวา –

‘‘สปฺปิ นาม โคสปฺปิ วา อชิกาสปฺปิ วา มหึสสปฺปิ วา, เยสํ มํสํ กปฺปติ, เตสํ สปฺปิ. นวนีตํ นาม เตสฺเว นวนีตํ. เตลํ นาม ติลเตลํ สาสปเตลํ มธุกเตลํ เอรณฺฑกเตลํ วสาเตลํ. มธุ นาม มกฺขิกามธุ. ผาณิตํ นาม อุจฺฉุมฺหา นิพฺพตฺตํ. มจฺโฉ นาม โอทโก วุจฺจติ. มํสํ นาม เยสํ มํสํ กปฺปติ, เตสํ มํสํ. ขีรํ นาม โคขีรํ วา อชิกาขีรํ วา มหึสขีรํ วา, เยสํ มํสํ กปฺปติ, เตสํ ขีรํ. ทธิ นาม เตสฺเว ทธี’’ติ (ปาจิ. ๒๖๐) –

นิทฺทิฏฺานิ นว ปณีตโภชนานีติ อตฺโถ. อคิลาโนติ ‘‘อคิลาโน นาม ยสฺส วินา ปณีตโภชนานิ ผาสุ โหตี’’ติ (ปาจิ. ๒๖๐) วุตฺโต. อคิลาโนติ เอตฺถ ‘‘หุตฺวา’’ติ เสโส.

๑๓๙๔. สปฺปินา เทหีติอาทิ วิฺาปนปฺปกาโร. สปฺปิภตฺตนฺติ เอตฺถ กิฺจาปิ สปฺปิสํสฏฺํ ภตฺตํ, สปฺปิ จ ภตฺตฺจ สปฺปิภตฺตนฺติ วิฺายติ, อฏฺกถาสุ ปน ‘‘สาลิภตฺตํ วิย สปฺปิภตฺตํ นาม นตฺถี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๙) การณํ วตฺวา ทุกฺกฏสฺเสว ทฬฺหตรํ กตฺวา วุตฺตตฺตา น สกฺกา อฺํ วตฺตุํ. อฏฺกถาจริยา เอว หิ อีทิเสสุ าเนสุ ปมาณํ.

๑๓๙๕. ปาจิตฺติ ปริยาปุตาติ ‘‘อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเร อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๒๖๐) เอวํ อชฺโฌหารคณนาย ปาจิตฺติ วุตฺตา.

๑๓๙๖. สุทฺธานีติ อนฺเนน อมิสฺสานิ. เสขิเยสูติ สิกฺขากรณีเย วุตฺตนฺติ อตฺโถ.

๑๓๙๗. ยสฺมา สุทฺธานํ ปณีตโภชนานํ วิฺาเปตฺวา ปริภุฺชนํ ทุกฺกฏวิสยํ, ตสฺมา. สตฺตธฺมยนฺติ สาลิอาทีนํ สตฺตนฺนํ ธฺานํ อฺตรสฺส วิการภูตํ.

๑๓๙๘. สเจ ททาตีติ โยชนา. วิสงฺเกตนฺติ อนาปตฺติ โหตีติ วุตฺตํ โหติ.

๑๓๙๙. เทติ เจติ สมฺพนฺโธ. อฺตเรนาติ สหตฺเถ กรณวจนํ. ‘‘ภตฺต’’นฺติ อธิการโต ลพฺภติ. อสฺส ภิกฺขุสฺส. วิสงฺเกตนฺติ อฺํ ยาจิตสฺส อฺสฺส ทินฺนตฺตา สงฺเกตสฺส วิราธเนน อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ.

๑๔๐๐. เยน เยน หีติ เอตฺถาปิ ตเถว กรณวจนํ. ‘‘วิฺตฺต’’นฺติ อิทํ อธิกตสฺส ‘‘ภตฺต’’นฺติ เอตสฺส วิเสสนํ. เยนเยนาติ อนิยเมน ปณีเตน. เตน สปฺปิอาทิ วิสุํ วิสุํ คหิตเมว, สปฺปิอาทีนํ โคสปฺปิอาทิเภโท จ สงฺคหิโต. ตสฺมึ ลทฺเธปีติ ยาจิเตเยว ลทฺเธ สติ. ตสฺส ตสฺส มูเลปิ ลทฺเธติ วิจฺฉาวเสน โยชนา.

กึ วุตฺตํ โหติ? ‘‘สปฺปินา ภตฺตํ เทหี’’ติ สามฺเน วิฺาเปนฺตสฺส ตเมว วา ‘‘อิมินา สปฺปึ กตฺวา คณฺหถา’’ติ นวนีตาทีสุ อฺตรํ วา เธนุํ วา มูลํ วา เทติ เจ, ‘‘โคสปฺปินา ภตฺตํ เทหี’’ติ วิเสสยุตฺตํ กตฺวา วิฺาเปนฺตสฺส ตเมว วา โคนวนีตาทีนิ วา คาวึ วา ‘‘อิทํ ทตฺวา สปฺปึ คณฺหถา’’ติ มูลํ วา สเจ เทติ, วิสงฺเกตํ น โหติ, ยถาวตฺถุกเมว อาปตฺตึ อาปชฺชตีติ วุตฺตํ โหติ.

น อฺถาติ สปฺปึ ยาจิตวโต ‘‘อิมํ คเหตฺวา สปฺปึ กตฺวา คณฺหถา’’ติ อวตฺวา ‘‘สปฺปิ นตฺถิ, อิทํ คณฺหถา’’ติ วตฺวา วา ตุณฺหีภูเตน วา นวนีตาทีสุ กิสฺมิฺจิ ทินฺเน วิเสสวิฺาปกสฺส ตทฺทาเนปิ วิสงฺเกตเมว โหตีติ อตฺโถ. ปาฬิยา อนาคเตปิ ทินฺเน วิสงฺเกตเมว โหติ. ‘‘สเจ ปน อฺํ ปาฬิยา อาคตํ วา อนาคตํ วา เทติ, วิสงฺเกต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๙) อฏฺกถายํ วุตฺตํ.

๑๔๐๑. ปาฬิยนฺติ ปุพฺเพ ทสฺสิตํ ‘‘สปฺปิ นาม โคสปฺปี’’ติอาทึ นิทฺเทสปาฬิมาห. ยถาห ‘‘ปาฬิยํ อาคตนวนีตาทีนิ เปตฺวา’’ติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๙). อฺเหิ นวนีตาทีหิ. สหตฺเถ กรณวจนํ.

๑๔๐๒. ‘‘วิฺาเปตฺวา’’ติ อิมสฺส กมฺมภูตํ ‘‘ภตฺต’’นฺติ อธิกตํ. คาถาพนฺธวเสน วา-สทฺทสฺส รสฺโส กโต. เอกโต วาติ โยชนา, ‘‘นานโต’’ติปิ คหิตเมว, เอกฏฺานโต วา นานฏฺานโต วาติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘สเจ ปน สพฺเพหิปิ สปฺปิอาทีหิ เอกฏฺาเน วา นานฏฺาเน วา วิฺาเปตฺวา’’ติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๙). เตเนว ภุฺชตีติ เอตฺถ ปริกปฺปสูจกํ ‘‘เจ’’ติ อิทฺจ อวกํสสนฺทสฺสนตฺถํ ‘‘กุสคฺเคน เอกพินฺทุมฺปี’’ติ อิทฺจ อชฺฌาหริตพฺพํ. มตาติ อฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๕๙) วุตฺตํ สนฺธายาห. เอกโต วา นานโต วา านา ภตฺตํ วิฺาเปตฺวา เอกรสํ กตฺวา อนฺตมโส กุสคฺเคน เอกพินฺทุมฺปิ ภุฺชติ เจ, นว ปาจิตฺติโย มตาติ โยชนา.

๑๔๐๓. อกปฺปิเยน สปฺปินา เทหีติ วุตฺเตปีติ โยชนา, สหตฺเถ กรณวจนํ. ‘‘ภตฺต’’นฺติ อธิกตํ. ‘‘เยสํ มํสํ กปฺปติ, เตสํ สปฺปี’’ติ (ปาจิ. ๒๖๐) วุตฺตปฺปการสฺส วิปริยายโต อกปฺปิยํ ทฏฺพฺพํ. เตน เจ เทตีติ ยทิ เตน ยาจิเตน เตเนว อกปฺปิเยน สทฺธึ โอทนํ เทตีติ.

๑๔๐๔. ตถาสฺิสฺสาติ ตถาสฺิโน, คิลาโนมฺหีติสฺิโนติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘คิลาโน คิลานสฺี, อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. ๒๖๑).

๑๔๐๕. คิลานกาเล วิฺตฺตํ อคิลานสฺส ภุฺชโต อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา. เอวมิตเรหิปิ ทฺวีหิ ปเทหิ โยเชตพฺพํ. ยถาห ‘‘อนาปตฺติ คิลาโน หุตฺวา วิฺาเปตฺวา อคิลาโน ภุฺชตี’’ติอาทิ (ปาจิ. ๒๖๒). าตกาทีนนฺติ เอตฺถ ‘‘อายตฺต’’นฺติ เสโส. อาทิ-สทฺเทน ‘‘ปวาริตานํ อฺสฺสตฺถาย อตฺตโน ธเนน อุมฺมตฺตกสฺส อาทิกมฺมิกสฺสา’’ติ อิทํ สงฺคณฺหาตีติ.

๑๔๐๖. จตฺตาริ สมุฏฺานานิ ทสฺเสตุมาห ‘‘กายโต’’ติอาทิ.

ปณีตโภชนกถาวณฺณนา.

๑๔๐๗. ‘‘อทินฺน’’นฺติ อิมินา อทินฺนาทานสิกฺขาปเท (ปารา. ๙๑ อาทโย) วิย ปรปริคฺคหิตํ อวตฺวา อปฺปฏิคฺคหิตเมว วตฺตพฺพํ. ยถาห ‘‘อทินฺนํ นาม อปฺปฏิคฺคหิตกํ วุจฺจตี’’ติ (ปาจิ. ๒๖๖). มุขทฺวารนฺติ มุเข ทฺวารํ มุขทฺวารํ, คลนาฬิกา, อิมินา ปน วจเนน ยํ กิฺจิ อชฺโฌหรณียํ, ตํ มุเขน วา ปวิสตุ นาสิกาย วา, คลพิลํ ปวิฏฺเมว อาปตฺติกรนฺติ ทีเปติ. อาหารนฺติ อุทกทนฺตโปเนหิ อฺํ อชฺโฌหริตพฺพํ ยํ กิฺจิ ยาวกาลิกาทึ. ยถาห ‘‘อาหาโร นาม อุทกทนฺตโปนํ เปตฺวา ยํ กิฺจิ อชฺโฌหรณีย’’นฺติ (ปาจิ. ๒๖๖).

อาหเรยฺยาติ มุขทฺวารํ ปเวเสยฺย, อิมินา ปรคลํ อกตฺวา มุเขน ปฏิคฺคหิตคฺคหเณปิ นตฺถิ โทโสติ สูจิตํ. เตเนวาห ‘‘ทนฺตโปโนทกํ หิตฺวา’’ติ. เตเนว วุตฺตํ คณฺิปเท ‘‘ภควโต ทนฺตกฏฺสฺส มุขทฺวารปเน อนาปตฺติวจเนเนว ยํ กิฺจิ วตฺถุํ ปรคลํ อกตฺวา มุเข ปเน อนาปตฺติภาโว วุตฺโต’’ติ. อุทกฺหิ ยถาสุขํ ปาตุํ, ทนฺตกฏฺฺจ ทนฺตโปนปริโภเคน ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ, ตสฺส ปน รสํ คิลิตุํ น วฏฺฏติ. สเจปิ ทนฺตกฏฺรโส อชานนฺตสฺส อนฺโต ปวิสติ, ปาจิตฺติยเมว. ทนฺเต ปุนนฺติ นิมฺมเล กโรนฺติ เอเตนาติ ทนฺตโปนํ.

๑๔๐๘-๙. พฺยติเรกมุเขน อทินฺนลกฺขณํ, ปทภาชเน จ วุตฺตนเยน ปมํ ทินฺนลกฺขณํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘หตฺถปาโส’’ติอาทิ. หตฺถปาโสติ ปวารณสิกฺขาปเท –

‘‘คณฺหโต ปจฺฉิมํ องฺคํ, ททโต ปุริมํ ปน;

อุภินฺนํ อฑฺฒเตยฺยํ เจ, วินา หตฺถํ ปสาริต’’นฺติ. (วิ. วิ. ๑๒๗๕) –

วุตฺตลกฺขโณ หตฺถปาโส. อภินีหาโรติ ตตฺเถว วุตฺตนเยน อภิมุขํ กตฺวา หรณฺจ. มชฺฌิมุจฺจารณกฺขโมติ ปฏิคฺคเหตพฺพภารสฺส อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน ถามมชฺฌิเมน ปุริเสน อุกฺขิปนารหตา. ภาวปฺปธาโนยํ นิทฺเทโส. อวกํโส ปน ‘‘อนฺตมโส รถเรณุมตฺตมฺปี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๙) อฏฺกถาวจนโต เวทิตพฺโพ. อุจฺจารณํ อุกฺขิปนํ. ‘‘อมนุสฺโส’’ติ อิมินา ตทฺสตฺตสามฺเน ติรจฺฉานคตาปิ เวทิตพฺพา. ‘‘ปกฺขี วา’’ติอาทิวกฺขมาเนน วา เวทิตพฺพา. กายาทินาติ กายกายปฏิพทฺธนิสฺสคฺคิยานํ อฺตเรน. เตเนวาห ‘‘ติธา’’ติ.

ทฺวิธาติ กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วา. ปฺจงฺคสํโยเคติ เอตฺถ ‘‘หตฺถปาโส’’ติ ปมงฺคํ, ‘‘อภินีหาโร’’ติ ทุติยํ, ‘‘มชฺฌิมุจฺจารณกฺขโม’’ติ ตติยํ, ‘‘มนุสฺโส…เป… ติธา’’ติ จตุตฺถํ, ‘‘ปฏิคฺคณฺหาติ…เป… ทฺวิธา’’ติ ปฺจมนฺติ อิมานิ ปฺจ องฺคานิ, ปฺจนฺนํ องฺคานํ สํโยโค สมาคโม สนฺนิปาโต ปฺจงฺคสํโยโค, ตสฺมึ. คหณนฺติ ปฏิคฺคหณํ. ตสฺส ภิกฺขุโน. รูหติ สมฺปชฺชติ.

๑๔๑๐-๑๒. อิตโรติ ปฏิคฺคาหโก. ตสฺส องฺคสฺส. น คจฺฉตีติ นโค, ‘‘นโค’’ติ รุกฺโขปิ ปพฺพโตปิ วุจฺจติ. เอวรูเปติ อีทิเส อุจฺจนีจฏฺาเน.

๑๔๑๓. โสณฺฑายาติ หตฺเถน.

๑๔๑๕-๖. อีสกํ โอนตฺวา โถกํ นาเมตฺวา เตน ภิกฺขุนา ตํ เหฏฺิมํ ภาชนํ เอกเทเสนาปิ ปฏิจฺฉิตพฺพนฺติ โยชนา.

๑๔๑๗. อุคฺฆาเฏตฺวา อุจฺจาเรตฺวา, ภาชนานิ วิสุํ วิสุํ โอโรเปตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.

๑๔๑๘. กาชภตฺตนฺติ ภตฺตกาชํ, ภตฺตภริตํ ปิฏกนฺติ วุตฺตํ โหติ. โอนตฺวา เทตีติ สยํ โอนมิตฺวา พฺยาภงฺคึ เทติ.

๑๔๑๙. ‘‘ตึสหตฺโถ’’ติ อิทํ ตึสรตนมตฺโต เจ โหติ, ‘‘ทูร’’นฺติ น ปริสงฺกิตพฺโพติ ทสฺสนตฺถมาห. คหิเตกสฺมินฺติ อุภยโกฏีสุ ปิเต ทฺเว ฆเฏ ปฏิคฺคหาเปตุํ หตฺถปาเส ิเตน ทายเกน ทิยฺยมานํ ตึสหตฺถเวณุํ ปฏิคฺคณฺหนฺเตน เยน เกนจิ กายปฺปเทเสน วา กายปฏิพทฺเธน วา ‘‘อิมํ คณฺหามี’’ติ อาโภคํ กตฺวา มฺจาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ ผุสิตฺวา ปฏิคฺคหิเตติ วุตฺตํ โหติ. ตํ สพฺพนฺติ เตสุ ทฺวีสุ ฆเฏสุ ปกฺขิตฺตํ สพฺพเมว. คหิตเมวาติ ปฏิคฺคหิตเมว โหติ, ทายกสฺส หตฺถปาสพฺภนฺตเร คตตฺตา อิทํ ตสฺส กายปฏิพทฺธนฺติ ‘‘ทูร’’นฺติ สงฺกา น กาตพฺพาติ เอวกาเรน ทีเปติ. ‘‘ทฺวีสุ ฆเฏสุ ภูมิยํ ปิเตสุปิ ตตฺถ พนฺธนเวฬุยํ ปฏิคฺคณฺหนมตฺเตเนว ปฏิคฺคหิตํ โหตี’’ติ คณฺิปเท วุตฺตํ.

๑๔๒๐-๒๔. ‘‘กฏสารเก’’ติ อิมินา โทณิผลกาทโย อุปลกฺขิตา. ‘‘นิสีทตี’’ติ อิทํ ‘‘ติฏฺตี’’ติอาทีนํ อุปลกฺขณํ. มฺจาทีนิ ผุสิตฺวาติ เอตฺถ ‘‘องฺคุลิยาปี’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘ปฏิคฺคหณสฺาย มฺจาทีนิ องฺคุลิยาปิ ผุสิตฺวา ิเตน วา นิสินฺเนน วา นิปนฺเนน วา’’ติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕). ปตฺเตสูติ ตถา ปิเตสุ สพฺเพสุ ปตฺเตสุเยว. ยฺจ ทียตีติ เอตฺถ ‘‘ตถา ิเตนา’’ติ สามตฺถิยา ลพฺภติ.

มฺจาทีสุ องฺคุลิอาทินา เยน เกนจิ ผุฏฺมตฺเตปิ ปฏิคฺคหณสฺส รุหณภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตทาโรหเณนาปิ สิชฺฌตีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปฏิคฺคเหสฺสามี’’ติอาทิ. สเจ ปน ปฏิคฺคเหสฺสามิจฺเจว มฺจาทีนิ อารุหิตฺวา นิสีทติ, ทายโกปิ หตฺถปาเส ตฺวาน เทติ เจ, ตํ สพฺพํ คหิตํ โหตีติ โยชนา.

กุจฺฉิยา กุจฺฉึ อาหจฺจ เย ปตฺตา ภูมิยํ ิตา, เตสุ ยํ ยํ ปตฺตํ องฺคุลิยาปิ วา สูจิยาปิ วา ผุสิตฺวา นิสินฺโน, ตตฺถ ตตฺเถว ทียมานมฺปิ ปฏิคฺคณฺหาติ, วฏฺฏตีติ โยชนา.

๑๔๒๕. กฏสาราทโย สเจ มหนฺตา, ปฏิคฺคหณํ น รุเหยฺยาติ วิกปฺโป สิยาติ ตนฺนิวตฺตนตฺถมาห ‘‘กฏสารเก’’ติอาทิ. ‘‘มหนฺตสฺมิ’’นฺติ อิมินา กฏสารกสฺส ปุน วจเน เหตุมาห. หตฺถตฺถรํ นาม หตฺถิปิฏฺเ อตฺถริตพฺพํ อตฺถรณํ. อาทิ-สทฺเทน อสฺสตฺถรรถตฺถราทึ สงฺคณฺหาติ. ิตปตฺเตสุ ทิยฺยมานํ คณฺหโต ปฏิคฺคหณรุหณเหตุํ ทสฺเสติ ‘‘หตฺถปาสสฺมึ วิชฺชมาเน ตู’’ติ. ตุ-สทฺโท วุตฺตวิเสสเมว โชเตติ.

๑๔๒๖. ตตฺถชาตกปณฺเณสูติ รุกฺเขเยว ิเตสุ ปณฺเณสุ. คเหตุนฺติ ปฏิคฺคเหตุํ. ‘‘น ปเนตานี’’ติอาทิ เยน เหตุนา น วฏฺฏติ, ตสฺส ทสฺสนํ. หิ-สทฺโท ปสิทฺธึ สูเจติ.

๑๔๒๗. ถามมชฺฌิเมน ปุริเสน อุกฺขิปิตุํ อสกฺกุเณยฺยํ อสํหาริยํ. ตาทิเสติ ตถารูเป, อสํหาริเยติ วุตฺตํ โหติ. ขาณุพทฺเธติ ภูมิยํ นิขาตขาณุเก พทฺเธ.

๑๔๒๘. ตินฺติณิกาติ จิฺจา. อาทิ-สทฺเทน ตถา ขุทฺทกานํ กทมฺพปุปฺผปณฺณาทีนํ คหณํ. ‘‘ตินฺติณิกาทิปณฺเณสู’’ติ วจนโต สาขาสุ ปฏิคฺคหณํ รุหตีติ ทฏฺพฺพํ. ภูมิยํ ปตฺถเฏสูติ โยเชตพฺพํ. ยถาห ‘‘ภูมิยํ อตฺถเตสุ สุขุเมสุ ตินฺติณิกาทิปณฺเณสุปิ ปฏิคฺคหณํ น รุหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕).

๑๔๒๙. ปริเวสโกติ ทายโก.

๑๔๓๐. อเสสโต ปุฺฉิตฺวาติ โยชนา.

๑๔๓๑. ปฏิคฺคเหตฺวาวาติ ปตฺตํ ปฏิคฺคเหตฺวาว. ภิกฺขา คเหตพฺพาติ สมฺพนฺโธ.

๑๔๓๒. อปฏิคฺคหิเตติ เอตฺถ ‘‘ปตฺเต’’ติ เสโส. ตํ ปจฺฉา ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภุฺชโต อนาปตฺตีติ โยชนา.

๑๔๓๓. อนาทิยิตฺวาติ อคฺคเหตฺวา, ตสฺมึ วจเน อาทรํ อกตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.

๑๔๓๕. อฺสฺส อนุปสมฺปนฺนสฺส.

๑๔๓๖. ปุพฺพาโภคสฺส อนุรูปวเสน ‘‘สามเณรสฺส ตํ ทตฺวา…เป… ปน วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมา ปน ตํ ‘‘อฺสฺส ทสฺสามี’’ติ จิตฺตุปฺปาทมตฺเตน ปรสนฺตกํ นาม น โหติ, ตสฺมา ตสฺส อทตฺวาปิ ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ.

๑๔๓๗-๙. ภิกฺขุโนติ อฺสฺส ภิกฺขุสฺส. ภตฺตสฺสาติ กฺชิกาทิทฺรวมิสฺสภตฺตมาห. อุปฺลวตีติ อุปริ ปฺลวติ. กฺชิกนฺติ อารนาลํ, อิมสฺส อุปลกฺขณตฺตา ขีรตกฺกาทิทฺรวํ สงฺคหิตํ. ปวาเหตฺวาติ มตฺถกโต ปลาเปตฺวา. อนฺโต ปวิฏฺํ สเจ ตนฺติ ตํ รชํ ยทิ ภตฺตสฺส อนฺโต ปวิฏฺํ โหติ. ปฏิคฺคเหตพฺพนฺติ อนุปสมฺปนฺเน อสติ หตฺถโต อโมเจนฺเตเนว ยตฺถ อนุปสมฺปนฺโน อตฺถิ, ตํ ตตฺถ เนตฺวา ปฏิคฺคเหตพฺพํ.

๑๔๔๐. อปนียาวาติ เอตฺถ ‘‘ถูล’’นฺติ อิทํ ‘‘สุขุมํ เจ’’ติ วกฺขมานวิปริยายโต ลพฺภติ. สภตฺตํ อปนียาติ สมฺพนฺโธ. ยถาห ‘‘อุปริภตฺเตน สทฺธึ อปเนตพฺพํ, ปฏิคฺคเหตฺวา วา ภุฺชิตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕).

๑๔๔๑. เถโวติ พินฺทุ. เถโว…เป… วฏฺฏตีติ เอตฺถ ยถา ปมตรํ ปติตเถเว โทโส นตฺถิ, ตถา อากิริตฺวา อปเนนฺตานํ ปจฺฉา ปติตเถเวปิ อภิหฏตฺตา เนวตฺถิ โทโส.

๑๔๔๒-๔. จรุเกนาติ ขุทฺทกอุกฺขลิยา. ตโต จรุกโต. มสีติ ชลฺลิกาอาทิกา ภสฺมา. ภาชเนติ ภาชนปตฺตาทิภาชเน. ตสฺส จาติ ตสฺส มสิอาทิโน จ.

อนนฺตรสฺส ภิกฺขุสฺส ทียมานํ ยํ ปตฺตโต อุปฺปติตฺวา อิตรสฺส ภิกฺขุโน ปตฺเต สเจ ปตติ, ตํ ปฏิคฺคหิตเมว โหติ, ตสฺมา วฏฺฏเตวาติ โยชนา. ‘‘ทียมาน’’นฺติ เอตฺถ ‘‘ภตฺตาทิกํ ยํ กิฺจี’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ. วฏฺฏเตวา ยนฺติ เอตฺถ ‘‘วฏฺฏเตว อย’’นฺติ ปทจฺเฉโท น กาตพฺโพ ‘‘อย’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺธนียสฺส อภาวโต. ตสฺมา -กาโร คาถาฉนฺทวเสน ทีฆํ กตฺวา วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.

๑๔๔๕-๖. ปายาสสฺสาติ เอตฺถ ปูรณโยเค สามิวจนํ, ปายาเสนาติ วุตฺตํ โหติ. อุณฺหโตติ อุณฺหตฺตา. น สกฺกตีติ น สกฺโกติ. มุขวฏฺฏิยํ วฏฺฏตีติ มุขวฏฺฏึ อุกฺขิปิตฺวา หตฺเถ ผุสาปิเต คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. ตถา มุขวฏฺฏิยา คเหตุํ น สกฺกา เจ, อาธารเกนปิ คเหตพฺโพติ โยชนา.

๑๔๔๗-๘. อาหริยมานํ วา เนว ชานาติ, ทียมานํ วา น ชานาตีติ โยชนา. คาถาพนฺธวเสน ‘‘ชานตี’’ติ รสฺโส กโต. อาโภคนฺติ ‘‘คณฺหามี’’ติ อาโภคํ. ยถาห มหาปจฺจริยํ ‘‘อาโภคมตฺตเมว หิ เอตฺถ ปมาณ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕). ‘‘กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วา ปฏิคฺคณฺหาตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕) วุตฺตตฺตา ปตฺตํ คเหตฺวา นิสินฺนตฺตา ‘‘กายปฏิพทฺเธน คณฺหิสฺสามี’’ติ อาโภคํ กตฺวาติปิ ยุชฺชเตว.

๑๔๔๙. ‘‘หตฺเถน มุฺจิตฺวา’’ติ อิทํ ‘‘อาธารกมฺปิ วา’’ติ อิมินาปิ โยเชตพฺพํ. ‘‘ปาเทน เปลฺเลตฺวา’’ติ อิมินา ปน ‘‘อาธารก’’นฺติ อิทเมว โยเชตพฺพํ. ยถาห ‘‘หตฺเถน อาธารกํ มุฺจิตฺวา ปาเทน เปลฺเลตฺวา นิทฺทายตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕). เปลฺเลตฺวาติ ปีเฬตฺวา, อกฺกมิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.

๑๔๕๐. กมิ-ธาตุสฺส มชฺเฌ ‘‘อกฺก’’อิติ ปทจฺเฉโท ยติหีนโทโสติ.

‘‘สิโลเก นิยตฏฺานํ, ปทจฺเฉทํ ยตึ วิทู;

ตทเปตํ ยติพฺภฏฺํ, สวนุพฺเพชนํ ยถา’’ติ. –

ทณฺฑินา วุตฺตลกฺขณโต สิทฺธตาย โทโส ยถา น โหติ, ตถา วิจาเรตฺวา คเหตพฺพํ. เกจิ ปเนตฺถ อิ-การาคมสฺส ปจฺจยภาวตฺตา ตํสหิโต ม-กาโร ตคฺคหเณน สงฺคยฺหตีติ อุภยปกฺขภาคีติ ธาตุปจฺจยานํ มชฺเฌ ยติยา อิจฺฉิตตฺตา น โทโสติ ปริหรนฺติ. ชาครสฺสาปีติ อนิทฺทายนฺตสฺสาปิ. อนาทโรติ อนาทรภาโว.

๑๔๕๑. ตสฺมาติ ตถา คหณสฺส อนาทรภาวโต. นฺติ ตํ อาธารกํ ปาเทน อกฺกมิตฺวา ปฏิคฺคหณฺจ. ทียมานนฺติ ทายเกน ปฏิคฺคหาปิยมานํ. ปตตีติ ปฏิคฺคาหกสฺส หตฺถํ อผุสิตฺวา รโชรหิตาย สุทฺธภูมิยา วา ปทุมินิปณฺณาทีสุ วา ปตติ. ยถาห ‘‘ยํ ทิยฺยมานํ ทายกสฺส หตฺถโต ปริคฬิตฺวา สุทฺธาย ภูมิยา วา ปทุมินิปณฺณวตฺถกฏสารกาทีสุ วา ปตติ, ตํ สามํ คเหตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕). สรชาย ภูมิยา ปติเต รชํ ปุฺฉิตฺวา วา โธวิตฺวา วา ปฏิคฺคหาเปตฺวา วา ปริภุฺชิตพฺพนฺติ อิทํ อฏฺกถายํ ปน ‘‘สรชาย ภูมิยํ ปตตี’’ติอาทินา ทสฺสิตํ. คเหตุนฺติ เอตฺถ ‘‘ภุฺชิตุ’’นฺติ จ วฏฺฏตีติ เอตฺถ ‘‘ปริจฺจตฺตํ ทายเกหี’’ติ จ เสโส. ยถาห ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว ยํ ทิยฺยมานํ ปตติ, ตํ สามํ คเหตฺวา ปริภุฺชิตุํ. ปริจฺจตฺตํ ตํ ภิกฺขเว ทายเกหี’’ติ (จูฬว. ๒๗๓). ‘‘ยํ ทิยฺยมานํ ปตตี’’ติ อวิเสเสน วุตฺตตฺตา จตูสุปิ กาลิเกสุ อยํ นโย เวทิตพฺโพ.

๑๔๕๒. อพฺโพหาริกนยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ภุฺชนฺตาน’’นฺติ.

๑๔๕๓-๔. ตํ มลํ. เตสูติ อุจฺฉุอาทีสุ วตฺถูสุ. นฺติ มลมิสฺสกํ อุจฺฉุอาทิกํ วตฺถุ. น ปฺายตีติ น ปน ปฺายติ. ตสฺมินฺติ อุจฺฉุอาทิวตฺถุสฺมึ.

๑๔๕๕. นิสโททุกฺขลาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน นิสทโปตมุสลาทีนํ คหณํ.

๑๔๕๖. วาสิยา อุปลกฺขณตฺตา ตชฺชาติกํ ยํ กิฺจิ สตฺถมฺปิ คเหตพฺพํ. ขีเรติ อนุปสมฺปนฺเนน ตาปิตขีเร, อิทํ อุปริ อามกสฺส วิสุํ คหเณน วิฺายติ. นีลิกาติ นีลวณฺณํ. สตฺถเก วิย นิจฺฉโยติ สตฺเถน อุฏฺิตมเล อุจฺฉุขณฺเฑ วิย ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภุฺชิตพฺพนฺติ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

๑๔๕๗. นฺติ ตํ อคฺคิสนฺตตฺตวาสิอาทึ, ตาปวตฺถุโต วาสิ คเหตพฺพา.

๑๔๕๙. นฺติ ตํ หตฺถาทิกายาวยวํ วา จีวรํ วา โธวิตฺวา ปติตกิลิฏฺชลมิสฺสโมทนํ. รุกฺขมูลาทีสุ นิสีทิตฺวา ภุฺชนฺตสฺส ปตฺตาทีสุ รุกฺขปณฺณาทึ โธวิตฺวา ปติตกิลิฏฺโทเกปิ เอเสว วินิจฺฉโยติ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอเสวา’’ติอาทิ.

๑๔๖๐. ชลํ สเจ สุทฺธํ ปตติ, วฏฺฏตีติ โยชนา, ‘‘รุกฺขโต’’ติ ลพฺภติ. อพฺโภกาเส จ สเจ สุทฺธํ โตยํ ปตติ, วฏฺฏตีติ เอตฺถ ‘‘อากาสโต’’ติ ลพฺภติ. อุภยตฺถาปิ รุกฺขปณฺเณสุ, อากาเส จ รชสฺส ปมเมว วสฺโสทเกน โธวิตตฺตา อาห ‘‘สุทฺธ’’นฺติ.

๑๔๖๑. อจฺฉุปนฺเตนาติ อผุสนฺเตน. ตสฺส สามเณรสฺส.

๑๔๖๒. ปตฺตนฺติ อนุปสมฺปนฺนสฺส ปตฺตํ. ฉุปิตฺวาติ อนุปสมฺปนฺนปตฺตคโตทนํ ผุสิตฺวา. ตํ อตฺตโน ปตฺเต ภตฺตํ. ยถาห ‘‘อปฺปฏิคฺคหิเต โอทนํ ฉุปิตฺวา ปุน อตฺตโน ปตฺเต โอทนํ คณฺหนฺตสฺส อุคฺคหิตโก โหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕).

๑๔๖๔. ปจฺฉาติ ตสฺมึ คหิเตปิ อคหิเตปิ ปจฺฉา. ตํ ปฏิคฺคหิตโภชนํ.

๑๔๖๗. ตสฺส อตฺตโน ปตฺตคตสฺส ภตฺตสฺส.

๑๔๖๘. ปเรนาติ อปฺปฏิคฺคหิตปตฺเตน.

๑๔๖๙-๗๐. ‘‘ยาคุอาทีนํ ปจเน ภิกฺขูนํ ภาชเน’’ติ สมฺพนฺโธ. ปจนฺติ เอตฺถาติ ปจนํ, ภาชนํ. ภาชนูปริ หตฺเถสุ สามเณรสฺสาติ ภาชนสฺส อุปริ กเตสุ สามเณรสฺส หตฺเถสุ. ปติตํ หตฺถโต ตสฺมินฺติ ตสฺส สามเณรสฺส หตฺถโต ปริคฬิตฺวา ตสฺมึ ภาชเน ปติตํ.

๑๔๗๑. ‘‘น กโรติ อกปฺปิย’’นฺติ เอตฺถ การณมาห ‘‘ปริจฺจตฺตฺหิ ต’’นฺติ. ตฺหิ ยสฺมา ปริจฺจตฺตํ, ตสฺมา อกปฺปิยํ น กโรตีติ วุตฺตํ โหติ. เอวํ อกตฺวาติ ยถาวุตฺตปกาเรน อกตฺวา. อากิรเตว เจติ สเจ ภาชเน อากิรติ เอว. ตํ ตถา ปกฺขิตฺตํ ภตฺตภาชนํ. นิรามิสํ กตฺวาติ ตตฺถ ปติตํ อามิสํ ยถา น ติฏฺติ, เอวํ โธวิตฺวา ภุฺชิตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ.

๑๔๗๒-๓. กุฏนฺติ ฆฏํ. อาวชฺเชตีติ กุฏํ นาเมตฺวา ยาคุํ อาสิฺจติ.

๑๔๗๔. หตฺเถติ ทฺเว หตฺเถ. ตตฺถาติ ตตฺถ ภูมิยํ ปิเตสุ ทฺวีสุ หตฺถตเลสุ.

๑๔๗๕-๖. เอกสฺส คหณูปคํ เจ ภารนฺติ ถามมชฺฌิเมน เอเกน ปุริเสน อุกฺขิปนปฺปมาณํ ภารํ สเจ ภเวยฺย. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘เอกสฺส คหณูปคํ ภาร’’นฺติ อิทํ ปจฺจามสติ.

๑๔๗๗. ลคฺเคนฺตีติ โอลมฺพนฺติ. ตตฺถาติ ตสฺมึ มฺจปีเ. วฏฺฏเตวาติ อุคฺคหิตกํ น โหตีติ ทีเปติ.

๑๔๗๘. สมฺมุชฺชนฺโตติ สมฺมชฺชนฺโต. ฆฏฺเฏตีติ อสฺจิจฺจ สมฺมชฺชนิยา ผุสติ.

๑๔๗๙. ตํ ตฺวาติ ปฏิคฺคหิตภาวํ ตฺวา. เปตุํ วฏฺฏติ อุคฺคหิตกํ น โหตีติ อธิปฺปาโย.

๑๔๘๐. นฺติ ปฏิคฺคหิตสฺาย คหิตํ ตํ อปฺปฏิคฺคหิตํ. อฺถา ปน น กตฺตพฺพนฺติ อปิหิตํ ปิธาตุฺจ ปิหิตํ วิวริตุฺจ น วฏฺฏตีติ อตฺโถ.

๑๔๘๑. พหิเปติ เจติ ยทิ ปุพฺเพ ปิตฏฺานโต พหิ เปติ. เตนาติ พหิ เปตฺวา มุตฺตหตฺเถน เตน ภิกฺขุนา. นฺติ พหิ ปิตํ หตฺถโต มุตฺตํ. ตฺวาติ อปฺปฏิคฺคหิตภาวํ ตฺวา. ตํ ตถา ตฺวา ปิตํ.

๑๔๘๒-๓. อุฏฺเติ ยทิ กณฺณิกาติ สเจ กณฺณิกา สฺชายติ. สิงฺคิเวราทิเกติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ปิปฺผลิอาทีนํ คหณํ. มูเลติ ปฺจมูลาทิเก มูเล. ฆุณจุณฺณนฺติ ฆุณปาณเกหิ อุปฺปาทิตจุณฺณํ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘อุฏฺเตี’’ติ กิริยํ ปจฺจามสติ. ตํสมุฏฺานโตติ ปฏิคฺคหิตเตลาทีสุ สมุปฺปนฺนตฺตา. ตฺเวาติ ปวุจฺจตีติ ปมปฏิคฺคหิตํ ตเมว เตลาทิกนฺติ วุจฺจติ. เตนาห ‘‘ปฏิคฺคหณ…เป… น วิชฺชตี’’ติ.

๑๔๘๔-๕. โกจิปุคฺคโลติ สามเณรคมิกาทีสุปิ โย โกจิ สตฺโต. ตาลปิณฺฑินฺติ ตาลกณฺณิกํ ผลํ. อฺโ ภูมฏฺโติ ภูมิยํ ิโต อฺโ โกจิ ปุคฺคโล อิตฺถี วา ปุริโส วา.

๑๔๘๖. ฉินฺทิตฺวาติ ฉินฺทํ กตฺวา. วตินฺติ หตฺถปาสปฺปโหนกพหลวตึ. ยถาห ‘‘หตฺถปาเส สตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕). ทณฺฑเก อผุสิตฺวาวาติ ยตฺตเกน คมนเวโค นิพฺพายติ, เอตฺตกํ, ปหรณโต วติทณฺฑเก วา อปฺปหริตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ปหริตฺวา ตฺวา คจฺฉติ เจ, น วฏฺฏติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘มยํ ปน ‘ยํ านํ ปหฏํ, ตโต สยํ ปติตมิว โหตี’ติ ตกฺกยาม. ตสฺมิมฺปิ อฏฺตฺวา คจฺฉนฺเต ยุชฺชติ สุงฺกฆาตกโต ปวฏฺเฏตฺวา พหิ ปติตภณฺฑํ วิยา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕).

๑๔๘๗-๘. ปากาโรติ เอตฺถ ‘‘วตึ วา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕) อฏฺกถายํ อาคตตฺตา อิทํ อธิการโต คเหตพฺพํ. ‘‘น ปุถุโล’’ติ เอตฺถ อธิปฺเปตปฺปมาณํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อนฺโต…เป… ปโหติ เจ’’ติ. ‘‘อุทฺธํ หตฺถสตํ คนฺตฺวา’’ติ อิมินา ทายกสฺส ทาตุมิจฺฉาย อากาสํ ตํ อุกฺขิปิตฺวา วิสฺสฏฺภาวํ าเปติ. สมฺปตฺตนฺติ หตฺถปฺปตฺตํ. คณฺหโตติ ปฏิคฺคหณสฺาย คณฺหโต.

๑๔๘๙. ‘‘สามเณร’’นฺติ อิทํ อุปลกฺขณนฺติ คิหิโนปิ คหณํ. ตตฺเถวาติ ขนฺเธ เอว. นิสินฺโน สามเณโร.

๑๔๙๑-๒. ผลินึ สาขนฺติ ผลวตึ สาขํ. ‘‘ขาทิตุ’’นฺติ อิทํ ‘‘จิตฺเต สมุปฺปนฺเน’’ติ อิมินา โยเชตพฺพํ. สเจ ผลํ ขาทติ, เอวํ ขาทิตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา. มกฺขิกานํ นิวารตฺถนฺติ มกฺขิกานํ นิวาเรตุํ.

๑๔๙๓. ฉายตฺถฺจ มกฺขิกา นิวาเรตุฺจ คยฺหมานา ผลสาขา สุขปริโภคตฺถาย กปฺปิยํ การาเปตฺวา ปฏิคฺคหิตา เจ, ขาทิตุมิจฺฉาย สติ ปุน อปฺปฏิคฺคหิตาปิ วฏฺฏตีติ ทสฺเสตุมาห ‘‘กปฺปิยํ ปน กาเรตฺวา’’ติอาทิ.

๑๔๙๔-๕. ‘‘ตํ โส ปฏิคฺคหาเปตฺวา’’ติ วกฺขมานตฺตา ‘‘คเหตฺวา’’ติ อิทํ อปฺปฏิคฺคหาเปตฺวา คหณํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. ตํ ปฏิคฺคหิตนฺติ เอตฺถ ‘‘เจ ปุพฺพเมวา’’ติ เสโส.

๑๔๙๖-๙. ภิกฺขุสฺส ปาเถยฺยตณฺฑุเลติ สมฺพนฺโธ. โสติ สามเณโร. อิตเรหีติ ภิกฺขุนา คหิเตหิ อตฺตโน ตณฺฑุเลหิ.

ทฺวีสุ ปตฺเตสูติ อุปลกฺขณํ. พหูสุปิ เอเสว นโย. อตฺตนา ลทฺธํ ภิกฺขูนํ ทตฺวา เตหิ ลทฺธํ อตฺตนา คเหตฺวา อฺเสํ ทานวเสน พหุนฺนมฺปิ ทาตุํ วฏฺฏตีติ อฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕ อตฺถโต สมานํ) วุตฺตํ ตเมว ทสฺเสตุมาห ‘‘ยาคุํ ภิกฺขุสฺสา’’ติอาทิ. ‘‘อาวุโส ตุยฺหํ ยาคุํ มยฺหํ เทหี’ติ เอวํ เถเรหิ ปฏิปาฏิยา ยาจิตฺวาปิ ปิวิตุํ วฏฺฏติ, สพฺเพหิ สามเณรสฺส สนฺตกเมว ภุตฺตํ โหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕) อฏฺกถายํ วุตฺตํ. สามเณรสฺส ปีตตฺตาติ เอตฺถ ‘‘ยาคุยา’’ติอิทํ อธิการโต ลพฺภติ.

๑๕๐๐. อิมสฺสาติ ปาเถยฺยตณฺฑุลหารกสฺส. ‘‘น วิเสสตา’’ติ อิมินา วิสุํ อวตฺตพฺพตํ ทีเปติ.

๑๕๐๑. อสฺส วิเสสสฺสาติ ยถาวุตฺตวินิจฺฉยวิเสสสฺส วิสุํ วตฺตพฺพภาเวติ เสโส. ตสฺสาติ สามเณรตณฺฑุลหารกสฺส ภิกฺขุสฺส. สาลยภาวนฺติ อตฺตนา หฏตณฺฑุเลสุ ปริกฺขีเณสุ ‘‘อิทํ อมฺหากมฺปิ ปทสฺสตี’’ติ สาลยภาโว. ฉายาทีนมตฺถาย คยฺหมานาย สาขาย อิมิสฺสา ผลํ ขาทิตุกามตาย สติ ขาทนารหนฺติ อาลยสฺส กาตุํ สกฺกุเณยฺยตฺตา อยมฺปิ อวิเสโสติ วิฺายติ, ตตฺถ สมฺภวนฺตํ ปน วิเสสํ ทสฺเสตุมาหาติ วตฺตุํ ยุชฺชติ.

๑๕๐๒-๔. นิจฺจาเลตุํ น สกฺโกตีติ นิจฺจาเลตฺวา สกฺขรา อปเนตุํ น สกฺโกติ. เจลโกติ จูฬสามเณโร. ปกฺกกาลสฺมึ วิวริตฺวา ปกฺกตา าตพฺพาติ โยชนา. ปิ-สทฺโท ปน-สทฺทตฺเถ. โอโรเปตฺวาติ อุทฺธนโต โอโรเปตฺวา. ปุพฺพตณฺฑุลโธวนตฺถาย กตปฏิคฺคหณสฺเสว ปมาณตฺตา อาห ‘‘น ปจฺฉสฺส ปฏิคฺคหณการณ’’นฺติ. อสฺสาติ โภชนสฺส.

๑๕๐๕. การิตนฺตสฺส ทฺวิกมฺมกตฺตา อาห ‘‘อุทฺธนํ สุทฺธภาชน’’นฺติ, อุทฺธเนติ วุตฺตํ โหติ.

๑๕๐๖. โกจีติ อนุปสมฺปนฺโน. เตน ภิกฺขุนาติ อุทฺธนํ สุทฺธภาชนํ อาโรเปตฺวา เยน อคฺคิ กโต, เตน ภิกฺขุนา. อิทฺจ อุปลกฺขณํ อฺเนปิ น กาตพฺพตฺตา.

๑๕๐๗. ปจฺฉาติ ตณฺฑุลปกฺเขปโต ปจฺฉา. ตํ ยาคุํ. สเจ ปจตีติ อคฺคึ กโรนฺโต ปจติ. สามปากา น มุจฺจตีติ ตํ ยาคุํ ปิวนฺโต สามปากทุกฺกฏโต น มุจฺจติ.

๑๕๐๘. วลฺลิยา สห ตตฺถ วลฺลิยํ ชาตํ ผลํ กิฺจิ อีสกมฺปิ จาเลติ, ตโต ลทฺธํ กิฺจิ ผลํ ตสฺเสว ภิกฺขุโน น วฏฺฏตีติ โยชนา, ตํ ปริภุฺชโต ทุรุปจิณฺณทุกฺกฏํ โหตีติ อธิปฺปาโย. ตสฺเสวาติ เอวกาเรน อฺเสํ วฏฺฏตีติ ทีเปติ.

๑๕๐๙. ปรามฏฺุนฺติ อามสิตุํ. อปสฺสยิตุนฺติ อวลมฺพิตุํ, อปสฺสนํ วา กาตุํ. ‘‘กิรา’’ติ อิมินา เกวลํ มหาปจฺจริยํ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕) วุตฺตภาวํ สูเจติ.

๑๕๑๐-๑. ตตฺถาติ ตสฺมึ เตเล. หตฺเถน สณฺฑาสคฺคหณํ อมุฺจนฺเตน. ตํ เตลํ.

๑๕๑๕-๖. โลณกิจฺจนฺติ อลวณฏฺาเน โลเณน กาตพฺพกิจฺจํ. สนฺนิหิตเสสกาลิกสมฺมิสฺสํ ยาวชีวิกํ วิย สมุทฺโททกสฺส อสนฺนิธิภาวํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ยาวชีวิกสงฺขาต’’นฺติอาทิ. กาลวินิมฺมุตฺตนฺติ อกาลิกํ, จตูสุ กาลิเกสุ อสงฺคหิตนฺติ อตฺโถ.

๑๕๑๗. หิมสฺส กรกาติ หิโมทกสฺส มุตฺตา วิย ปตฺถินสกฺขรา. พหลมฺปิ จาติ ปกฺขิตฺตฏฺาเน มุเข วา กทฺทมวณฺณสฺส อปฺายนปฺปมาณพหลํ ปานียฺจ. อปฺปฏิคฺคหิตํ วฏฺฏติ. สเจ กทฺทมวณฺณํ ปฺายติ, น วฏฺฏตีติ. ยถาห ‘‘สเจ ปน มุเข จ หตฺเถ จ ลคฺคติ, น วฏฺฏติ, ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภุฺชิตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕).

๑๕๑๘. กสิตฏฺาเนติ กฏฺฏฺาเน. น วฏฺฏติ อปฺปฏิคฺคหิตํ. เอวํ สพฺพตฺถ.

๑๕๑๙. โสพฺโภ ทุกฺโขคาหนชลาสโย. ‘‘อาวาโฏ’’ติ เกจิ. กกุโธติ อชฺชุโน.

๑๕๒๐. ปานียสฺส ฆเฏติ ปานียฆเฏ. ตํ ปานียฆฏํ.

๑๕๒๑. วาสตฺถาย ปุปฺผานิ วาสปุปฺผานิ. ตตฺถาติ ตสฺมึ ปานียฆเฏ. กมลฺลิกาสูติ ปาฏลิกุสุมาทีหิปิ สห กณฺฏกมลฺลิกาสุ. ทินฺนาสูติ ปานีเย ปกฺขิตฺตาสุ.

๑๕๒๒. วิสตีติ อนฺโตคลํ ปวิสติ. เตเนว อฏฺกถายํ ‘‘อปฺปฏิคฺคเหตฺวา ปิตํ ปฏิคฺคเหตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕) วุตฺตํ. อิทํ อฏฺกถาวจนํ ‘‘อฺตฺร อุทกทนฺตโปนา’’ติ (ปาจิ. ๒๖๖) ปาฬิยา วิรุชฺฌตีติ เจ? น วิรุชฺฌติ. สา หิ เกวลํ ทนฺตกิจฺจํ สนฺธาย วุตฺตา, อิทํ รสํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ. เตเนว ตทนนฺตรํ ‘‘อชานนฺตสฺส รเส ปวิฏฺเปิ อาปตฺติเยว. อจิตฺตกฺหิ อิทํ สิกฺขาปท’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕) วุตฺตํ. ตสฺส สิกฺขาปทสฺส อจิตฺตกตา ‘‘อปฺปฏิคฺคหิตเก ปฏิคฺคหิตสฺี’’ติอาทิกาย ปาฬิยา กปฺปิยสฺิโนปิ ปาจิตฺติยสฺส วุตฺตตฺตา วิฺายติ. ปสนฺโนทกสฺส ปน อปฺปฏิคฺคเหตฺวาปิ ปาตพฺพตาย ทนฺตกฏฺเน สทิสตฺตา เอกโยคนิทฺทิฏฺานํ สเหว ปวตฺตีติ วิฺายติ. อุทกสฺส จ ทนฺตโปนสฺส จ ตุลฺยโทเสน ภวิตพฺพนฺติ.

๑๕๒๓. มุตฺโตทกสิงฺฆาณิกาทิทฺรวอสฺสุขีราทิทฺรวสฺส อาโปธาตุปฺปการตฺตา, กณฺณมลาทิโน ฆนทพฺพสฺส ปถวิธาตุปฺปการตฺตา ‘‘สรีรฏฺเสุ ภูเตสู’’ติ อิมินา ขีราทิมาห. ‘‘กิ’’นฺติ อิทํ น วฏฺฏตีติ ปเทนปิ โยเชตพฺพํ. กปฺปากปฺปิยมํสานนฺติ เอตฺถ ‘‘สตฺตาน’’นฺติ สามตฺถิยา ลพฺภติ.

๑๕๒๔. โลณนฺติ เอตฺถ ‘‘เอตํ สพฺพมฺปี’’ติ อิทํ อธิการโต ลพฺภติ.

๑๕๒๕. เอตฺถาติ เอเตสุ ยถาวุตฺเตสุ กณฺณมลาทีสุ.

๑๕๒๘. จตฺตาริวิกฏานีติ มหาวิกฏํ นาม คูถํ, มตฺติกา, มุตฺตํ, ฉาริกา จาติ วุตฺตานิ จตฺตาริ วิกฏานิ. ตานิ หิ วิรุทฺธานิ สปฺปวิสานิ กตานิ วิหตานีติ ‘‘วิกฏานี’’ติ วุจฺจนฺติ. นตฺถิ ทายโก เอตฺถาติ นทายกํ, านํ, ตสฺมึ. ‘‘น อ โน มา อลํ ปฏิเสเธ’’ติ วุตฺตตฺตา ปฏิเสธวาจินา -สทฺเทน สมาโส, ‘‘อทายเก’’ติ อิมินา อนตฺถนฺตรํ. อิธ ทุพฺพโจ จ อสมตฺโถ จ อสนฺโต นามาติ อฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๕; กงฺขา. อฏฺ. ทนฺตโปนสิกฺขาปทวณฺณนา, อตฺถโต สมานํ) วุตฺตํ. อิทํ กาโลทิสฺสํ นาม.

๑๕๒๙. ปถวินฺติ อกปฺปิยปถวึ. ตรุนฺติ อลฺลรุกฺขํ. อิมินา สปฺปทฏฺกาเล อสติ กปฺปิยการเก วิกฏตฺถาย อตฺตนา จ กตฺตพฺพนฺติ ทสฺเสติ.

๑๕๓๐. อจฺเฉทคาหโตติ วิลุมฺปิตฺวา คณฺหนโต. ‘‘ตสฺสา’’ติ อิทํ สพฺเพหิ เหตุปเทหิ ยุชฺชติ. ตสฺสาติ อปฺปฏิคฺคหิตสฺสาติ อตฺโถ. อปรสฺส อภิกฺขุกสฺส ทาเนน จาติ โยชนา. ‘‘อภิกฺขุกสฺสา’’ติ ปน วิเสสเนน อุปสมฺปนฺนสฺส ทินฺเน ปฏิคฺคหณํ น วิชหตีติ ทีเปติ. สพฺพนฺติ ยถาวุตฺตํ กาเยน คหณาทิปฺปการสฺส กลฺยํ คหิตํ. เอวนฺติ อิมินา นิยาเมน.

๑๕๓๑. ทุรุปจิณฺเณติ ทุฏฺุ อุปจิณฺเณ ทุรามฏฺเ, อปฺปฏิคฺคหิตสฺส อามิสภตฺตภาชนาทิโน กีฬาวเสน หตฺเถน ปรามสเน จ ตตฺถชาตกผลินึ สาขาย วา วลฺลิยา วา คเหตฺวา จาลเน จาติ อตฺโถ. อุคฺคหิตสฺส คหเณติ อปฺปฏิคฺคหิตภาวํ ตฺวาว คหิตสฺส กสฺสจิ วตฺถุโน ปฏิคฺคหเณ จ. อนฺโตวุตฺเถ จาติ อกปฺปิยกุฏิยา อนฺโต เปตฺวา อรุณํ อุฏฺาปิเต จ. สยํปกฺเก จาติ ยตฺถ กตฺถจิ อตฺตนา ปกฺเก จ. อนฺโตปกฺเก จาติ อกปฺปิยกุฏิยา อนฺโตเยว ปกฺเก จ. ทุกฺกฏํ นิทฺทิฏฺนฺติ สมฺพนฺโธ.

๑๕๓๒-๓. ปฏิคฺคหิตเก ตสฺมึ ปฏิคฺคหิตสฺิสฺสาติ สมฺพนฺโธ. ทนฺตโปนํ ทนฺตกฏฺํ.

๑๕๓๔. ภิกฺขุนีนนฺติ ภิกฺขุโน จ ภิกฺขุนิยา จ ภิกฺขุนีนํ, เอกเทสสรูเปกเสโส. เอตฺถ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. วินิจฺฉโย นวมชฺฌิมเถรภิกฺขุนีนํ ยโต อวิเสเสน อิจฺฉิตพฺพโก, ตโต ตสฺมา เหตุนา สกโล อยํ วินิจฺฉโย อสมาสโต มยา กถิโตติ โยชนา. กุสลตฺติกาทีสุ วิย อตฺถสากลฺยสฺส อตฺถสงฺเขปโตว วตฺตุํ สกฺกุเณยฺยตฺตา ‘‘สกโล’’ติ วตฺวาปิ กถาย วิตฺถาริตภาวํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อสมาสโต’’ติ.

ทนฺตโปนกถาวณฺณนา.

โภชนวคฺโค จตุตฺโถ.

๑๕๓๕. ‘‘อเจลกาทีน’’นฺติอาทีสุ ‘‘อเจลโก นาม โย โกจิ ปริพฺพาชกสมาปนฺโน นคฺโค’’ติ (ปาจิ. ๒๗๑) ปทภาชเน วุตฺตํ, ตทฏฺกถาย ‘‘ปริพฺพาชกสมาปนฺโนติ ปพฺพชฺชํ สมาปนฺโน’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๖๙) วุตฺตํ, ตสฺมา อเจลกปพฺพชฺชมุปคโตเยเวตฺถ อเจลโก นาม. อาทิ-สทฺเทน ‘‘ปริพฺพาชกสฺส วา ปริพฺพาชิกาย วา’’ติ (ปาจิ. ๒๗๐) มาติกา-คเต ทฺเว สงฺคณฺหาติ. อิเมสุ จ ทฺวีสุ ‘‘ปริพฺพาชโก นาม ภิกฺขุฺจ สามเณรฺจ เปตฺวา โย โกจิ ปริพฺพาชกสมาปนฺโน’’ติ (ปาจิ. ๒๗๑) วุตฺโต ปริพฺพาชโก นาม. ‘‘ภิกฺขุนิฺจ สิกฺขมานฺจ สามเณริฺจ เปตฺวา ยา กาจิ ปริพฺพาชิกสมาปนฺนา’’ติ (ปาจิ. ๒๗๑) วุตฺตา ปริพฺพาชิกา นามาติ คเหตพฺพา. ปริพฺพาชกา ปเนตฺถ ฉนฺนาเยว คเหตพฺพา. เทนฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขุสฺสา’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ, เอตฺถ ‘‘กายาทินา’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘ทเทยฺยาติ กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วา นิสฺสคฺคิเยน วา เทตี’’ติ (ปาจิ. ๒๗๑).

๑๕๓๖. ติกปาจิตฺติยนฺติ ติตฺถิเย ติตฺถิยสฺี, เวมติโก, อติตฺถิยสฺีติ ติเก ปาจิตฺติยตฺตยํ.

๑๕๓๗. อติตฺถิเย ติตฺถิยสฺิสฺส, เวมติกสฺส จ ตสฺส ภิกฺขุโน ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.

๑๕๓๘-๙. เตสนฺติ ติตฺถิยานํ. พหิเลปนนฺติ พหิสรีเร ลิมฺปิตพฺพํ กิฺจิ เทนฺตสฺส. เตสํ ติตฺถิยานํ สนฺติเก สมีเป อตฺตโน ภตฺตปตฺตาทิกํ โภชนํ เปตฺวา ‘‘โภชนํ คณฺหถา’’ติ วทนฺตสฺส จ อนาปตฺตีติ โยชนา. ‘‘สมุฏฺานํ เอฬกูปม’’นฺติ ปทจฺเฉโท.

อเจลกกถาวณฺณนา.

๑๕๔๐-๒. ภิกฺขุ ภิกฺขุโน ยํ กิฺจิ อามิสํ ทาเปตฺวา วา อทาเปตฺวา วาติ โยชนา. กึ วุตฺตํ โหติ? ‘‘เอหาวุโส, คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย ปวิสิสฺสามา’’ติ (ปาจิ. ๒๗๕) สิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว วตฺวา เยน สทฺธึ คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺโ, ตสฺส ภิกฺขุสฺส ขาทนียาทิเภทํ ยํ กิฺจิ อามิสํ ทาเปตฺวา วา อทาเปตฺวา วาติ.

ตํ ภิกฺขุํ ‘‘คจฺฉา’’ติ วตฺวา อุยฺโยเชตีติ โยชนา. กึ วุตฺตํ โหติ? เอวํ โย ภิกฺขุ เตน สทฺธึ คามํ ปวิฏฺโ, ตํ ‘‘คจฺฉาวุโส, น เม ตยา สทฺธึ กถา วา นิสชฺชา วา ผาสุ โหติ, เอกกสฺส เม กถา วา นิสชฺชา วา ผาสุ โหตี’’ติ (ปาจิ. ๒๗๕) วตฺวา ตปฺปจฺจยา เตสํ อิตฺถิยาสทฺธึ วจนาทีนํ อนาจารานํ ปจฺจยา คนฺตุํ นิโยเชตีติ. ตปฺปจฺจยาติ ‘‘อุยฺโยชนมตฺตสฺมิ’’นฺติ วิเสสนํ. ปเมน จาติ เอตฺถ -สทฺโท อฏฺานปฺปยุตฺโต ‘‘อุยฺโยชนมตฺตสฺมิฺจา’’ติ โยเชตพฺโพ. ตสฺสาติ อุยฺโยชกสฺส.

อสฺสาติ อุยฺโยชิตสฺส, อวยวสมฺพนฺเธ สามิวจนํ. อุปจารสฺมึ อติกฺกนฺเตติ วกฺขมานลกฺขเณ ทสฺสนูปจาเร วา สวนูปจาเร วา อติกฺกนฺเตติ อตฺโถ, ภาวลกฺขเณ ภุมฺมํ. ปุน อสฺสาติ อุปจารสฺส. ทฺวาทสรตนปริโยสานํ, ตทนฺโตคธํ ปาการาทิ เอว วา อุปจารสฺส สีมา นาม.

๑๕๔๓. ตํ สรูปโต ทสฺเสตุมาห ‘‘ทสฺสเน’’ติอาทิ. อชฺโฌกาเส ทสฺสเน อุปจารสฺส ทฺวาทส หตฺถา ปมาณํ เทสิตาติ โยชนา. สวเน จ อชฺโฌกาเส เอวํ สวนูปจารสฺส อชฺโฌกาเส ทฺวาทส หตฺถา ปมาณํ เทสิตาติ โยชนา, สวเน จ อุปจารสฺส อวธิ ทฺวาทสหตฺถปฺปมาณเมวาติ วุตฺตนฺติ อตฺโถ. น เจตเรติ อิตรสฺมึ อนชฺโฌกาเส เอวํ อุปจารสฺส ปมาณํ ทฺวาทสหตฺถา น จ เทสิตา, กึ นุ พฺยาวธากรา กุฏฺฏาทโย อุปจารสฺส ปมาณนฺติ เทสิตาติ วุตฺตํ โหติ. วุตฺตฺเจตํ อฏฺกถายํ ‘‘สเจ ปน อนฺตรา กุฏฺฏทฺวารปาการาทโย โหนฺติ, เตหิ อนฺตริตภาโวเยว ทสฺสนูปจาราติกฺกโม, ตสฺส วเสน อาปตฺติ เวทิตพฺพา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๗๖). อิธ อุปจารทฺวเย สมาเนปิ อุยฺโยชิตมวธิอนฺตํ สนฺธาย อสวนูปจารํ วุตฺตนฺติ วิฺายติ.

๑๕๔๔. ‘‘ติกปาจิตฺตีติ อุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีหิ ติกปาจิตฺติยํ . อิตเรติ อนุปสมฺปนฺเน. ติกทุกฺกฏนฺติ อนุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน ติกทุกฺกฏํ. ‘‘อิตเรติ สามเณเรเยวา’’ติ นิสฺสนฺเทเห ลิขิตํ. เอตสฺเสวตฺถสฺส วชิรพุทฺธินาปิ วุตฺตภาโว ทสฺสิโต. ตถาทสฺสนํ ปฺจสหธมฺมิเกสุ อิธาธิปฺเปตมนุปสมฺปนฺนํ สนฺธาย วุตฺตํ เจ, ยุชฺชติ. อฺถา ปาฬิอฏฺกถาสุ ‘‘อนุปสมฺปนฺเน’’ติ สามฺเน นิทฺทิฏฺตฺตา คหฏฺานุปสมฺปนฺนมฺปิ ตถา อุยฺโยเชนฺตสฺส อนาปตฺติ น วตฺตพฺพาติ อมฺหากํ ขนฺติ.

อุภินฺนนฺติ อุปสมฺปนฺนานุปสมฺปนฺนานํ. นิสฺสนฺเทเห ปน ‘‘ภิกฺขุสามเณราน’’นฺติ ลิขิตํ. กลิสาสนาโรปเนติ เอตฺถ กลีติ โกโธ, ตสฺส สาสนํ อาณา กลิสาสนํ, ตสฺส อาโรปนํ ปวตฺตนํ กลิสาสนาโรปนํ, ตสฺมึ, โกธวเสน านนิสชฺชาทีสุ โทสํ ทสฺเสตฺวา ‘‘ปสฺสถ โภ อิมสฺส านํ นิสชฺชํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ, ขาณุโก วิย ติฏฺติ, สุนโข วิย นิสีทติ, มกฺกโฏ วิย อิโต จิโต จ วิโลเกตี’’ติ เอวํ ‘‘อปฺเปว นาม อิมินาปิ อุพฺพาฬฺโห ปกฺกเมยฺยา’’ติ อมนาปวจนสฺส ภณเนติ วุตฺตํ โหติ.

๑๕๔๕. อุยฺโยเชนฺตสฺสกิจฺเจนาติ วิหารปาลกาทีนํ โภชนหรณาทิกิจฺเจน เปเสนฺตสฺส, อิมสฺส อุปลกฺขณตฺตา ‘‘อนาปตฺติ ‘อุโภ เอกโต น ยาเปสฺสามา’ติ อุยฺโยเชตี’’ติอาทินา (ปาจิ. ๒๗๘) อนาปตฺติวาราคตา สพฺเพปิ ปการา คเหตพฺพา.

อุยฺโยชนกถาวณฺณนา.

๑๕๔๖. ขุทฺทเกติ เอตฺถ ‘‘สยนิฆเร’’ติ เสโส อุปริ ‘‘อสยนิฆเร ตสฺส, สยนิฆรสฺิโน’’ติ วกฺขมานตฺตา ลพฺภติ. ‘‘มหลฺลเก’’ติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ปิฏฺิสงฺฆาฏโต อฑฺฒเตยฺยหตฺถปฺปมาณํ ยสฺส เวมชฺเฌ โหติ, อีทิเส ขุทฺทเก สยนิฆเรติ อตฺโถ. ปิฏฺิวํสนฺติ ปิฏฺิวํเสน นิยมิตํ เคหมชฺฌํ. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘ปิฏฺิวํสํ อติกฺกมิตฺวา’ติ อิมินา มชฺฌาติกฺกมํ ทสฺเสตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๘๐). สโภชเนติ สห โภชเนหีติ สโภชนํ, ตสฺมึ สโภชเน. อถ วา สโภชเนติ สโภเค. ราคปริยุฏฺิตสฺส ปุริสสฺส หิ อิตฺถี โภโค, อิตฺถิยา จ ปุริโส, เมถุนราเคน สารตฺตปุริสิตฺถิสหิเตติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ปทภาชเน ‘‘สโภชนํ นาม กุลํ อิตฺถี เจว โหติ ปุริโส จ, อิตฺถี จ ปุริโส จ อุโภ อนิกฺขนฺตา โหนฺติ, อุโภ อวีตราคา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๘๑). อิมินา ปริยุฏฺิตสฺส เมถุนราคคฺคิโน ตงฺขเณ นิพฺพตฺตภาโว ทีปิโต. กุเลติ ฆเร.

๑๕๔๗. หตฺถปาสนฺติ อฑฺฒเตยฺยรตนปฺปมาณเทสํ. ปิฏฺิสงฺฆาฏกสฺส จาติ ทฺวารสพนฺธสฺส จ. สยนสฺสาติ สยนฺติ เอตฺถาติ สยนํ, ตสฺส, อาสนฺเน าเน โย นิสีทติ สโภชเน กุเล, ‘‘ตสฺสา’’ติ อิมินา โยเชตพฺพํ, สยนสฺส สมีเป าเน โย นิสีทตีติ อตฺโถ. มหลฺลเกติ ปุพฺเพ วุตฺตปฺปมาณโต มหนฺเต สยนิฆเร. ‘‘อีทิสฺจ สยนิฆรํ มหาจตุสาลาทีสุ โหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๘๐) อฏฺกถายํ วุตฺตํ.

๑๕๔๘. สยนเมตสฺส อตฺถีติ สยนี, สยนี จ ตํ ฆรฺจาติ วิคฺคโห. ตตฺถาติ สยนิฆเร.

๑๕๔๙-๕๐. ทุติเย สตีติ ทุติเย ภิกฺขุมฺหิ สติ. ยถาห อนาปตฺติวาเร ‘‘ภิกฺขุ ทุติโย โหตี’’ติ (ปาจิ. ๒๘๓). วีตราเคสูติ วีตราคปริยุฏฺาเนสุ. วุตฺตลกฺขณํ ปเทสนฺติ ขุทฺทกมหนฺตเสนาสเน วุตฺตลกฺขณปเทส. อนติกฺกมฺม นิสินฺนสฺสาติ อนติกฺกมิตฺวา นิสีทโต.

สโภชนกถาวณฺณนา.

๑๕๕๒. เตสนฺติ ทฺวินฺนํ อนิยตสิกฺขาปทานํ. เอสนฺติ อิเมสํ ทฺวินฺนํ รโหปฏิจฺฉนฺนรโหนิสชฺชสิกฺขาปทานํ, อยเมว วิเสโสติ อนนฺตรสิกฺขาปเทน สมุฏฺานภาวสงฺขาโต อยํ วิเสโส ทีปิโตติ โยชนา.

รโหปฏิจฺฉนฺนรโหนิสชฺชกถาวณฺณนา.

๑๕๕๓-๖. วุตฺโตติ นิมนฺติโต. สนฺตํ ภิกฺขุนฺติ ‘‘กุลํ อุปสงฺกมิสฺสามี’’ติ ยสฺมึ ปเทเส จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ, ตสฺส สามนฺตา ทฺวาทสหตฺถพฺภนฺตเร ิตํ ภิกฺขุนฺติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘ยตฺถ ิตสฺส กุลานิ ปยิรุปาสนจิตฺตํ อุปฺปนฺนํ, ตโต ปฏฺาย ยํ ปสฺเส วา อภิมุเข วา ปสฺสติ, ยสฺส จ สกฺกา โหติ ปกติวจเนน อาโรเจตุํ, อยํ สนฺโต นามา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๙๘). เอตฺถ ยํ ทฺวาทสหตฺถพฺภนฺตเร ิเตน โสตุํ สกฺกา ภเวยฺย, ตํ ปกติวจนํ นาม. อนาปุจฺฉาติ ‘‘อหํ อิตฺถนฺนามสฺส ฆรํ คจฺฉามี’’ติ วา ‘‘จาริตฺตํ อาปุจฺฉามี’’ติ วา อีทิเสน วจเนน อนาปุจฺฉิตฺวา. จาริตฺตํ อาปชฺเชยฺย เจติ ยทิ สฺจเรยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. อฺตฺร สมยาติ ‘‘ตตฺถายํ สมโย, จีวรทานสมโย จีวรการสมโย’’ติ (ปาจิ. ๒๙๙) สิกฺขาปเท อนุปฺตฺติวเสน วุตฺตา ทุวิธา สมยา อฺสฺมึ กาเล.

อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เปตฺวา’’ติอาทิ. ‘‘อวีติวตฺเต มชฺฌนฺเห’’ติ อิมินา ปุเรภตฺตํ, ปจฺฉาภตฺตฺจ สงฺคหิตํ. เอตฺถ จ ปุเรภตฺตํ ปจฺฉาภตฺตนฺติ เยน ภตฺเตน นิมนฺติโต, ตสฺมึ อภุตฺเต วา ภุตฺเต วาติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘ปุเรภตฺตํ นาม เยน นิมนฺติโต, ตํ อภุตฺตาวี. ปจฺฉาภตฺตํ นาม เยน นิมนฺติโต, ตํ อนฺตมโส กุสคฺเคนปิ ภุตฺตํ โหตี’’ติ (ปาจิ. ๓๐๐) ปทภาชเน วุตฺตํ. อฺสฺส ฆรนฺติ นิมนฺติตโต อฺสฺส เคหํ. ฆรูปจาโรกฺกมเน ทุกฺกฏนฺติ สมฺพนฺโธ, อตฺตนา คตเคหสฺส อุปจาโรกฺกมเน ทุกฺกฏนฺติ อตฺโถ. ปเมน ปาเทนาติ สมฺพนฺโธ.

ฆรุมฺมาเรติ อฺสฺส เคหุมฺมาเร. ฆรูปจาเร ทุกฺกฏํ สนฺธาย ‘‘อปรมฺปิ จา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘สมติกฺกเม’’ติ อิมินา สห ‘‘ฆรุมฺมาเร’’ติ ปทํ ‘‘ฆรุมฺมารสฺสา’’ติ วิภตฺติวิปริณาเมน โยเชตพฺพํ.

๑๕๕๗. ิตฏฺาเนติ ยตฺถ ิตสฺส คมนจิตฺตํ อุปฺปนฺนํ, ตสฺมึ าเน ทฺวาทสหตฺถพฺภนฺตเรติ อิทํ ยถาวุตฺตนิยาเมเนว คเหตพฺพํ. โอโลเกตฺวาติ อุภยปสฺสํ, อภิมุขฺจ โอโลเกตฺวา. ‘‘ยํ ปสฺเส วา อภิมุเข วา ปสฺสตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๒๙๘) อฏฺกถายํ วุตฺตํ.

๑๕๕๘. ทูเรติ ทฺวาทสหตฺถโต ทูรเมวาห. อิโต จิโต จ คเวสิตฺวา อาโรจเน กิจฺจํ นตฺถีติ โยชนา.

๑๕๕๙. น โทโสติ อนาปตฺติ. สมเยติ เอตฺถ ‘‘อนาปุจฺฉโต’’ติ เสโส. เอตฺถ จ อุปริ จ ‘‘น โทโส’’ติ ปจฺเจกํ ยุชฺชติ. สนฺตํ ภิกฺขุนฺติ สมฺพนฺโธ. ฆเรนาติ อฺสฺส ฆเรน, เอตฺถ ‘‘ฆรูปจาเรน จา’’ติ เสโส. อารามํ คจฺฉโตติ เอตฺถ เตน มคฺเคนาติ วุตฺตํ โหติ.

๑๕๖๐. ‘‘เตน มคฺเคนา’’ติ จ ‘‘คจฺฉโต’’ติ จ ปททฺวยํ ‘‘ติตฺถิยานํ ปสฺสย’’นฺติ จ ‘‘ภิกฺขุนิปสฺสย’’นฺติ จ อุภยตฺถ ตถา-สทฺเทน ลพฺภติ. เตน ฆเรน, ฆรูปจาเรน วา คนฺตพฺพมคฺเคน ติตฺถิยารามํ วา ภิกฺขุนิปสฺสยํ วา คจฺฉโต อนาปตฺตีติ อตฺโถ. อาปทาย คจฺฉตีติ โยชนา. ชีวิตพฺรหฺมจริยนฺตรายา อาปทา. อาสนสาลํ วาติ สีหฬทีเป วิย ภิกฺขูนํ ภุฺชนตฺถาย ยตฺถ ทานปตีหิ อาสนานิ ปฺาปียนฺติ, ตํ อาสนสาลํ วา, โภชนสาลนฺติ อตฺโถ. ‘‘อาปทายาสนสาล’’นฺติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน ยการโลโป. ภตฺติยสฺส ฆรนฺติ นิมนฺติตฆรํ วา สลากภตฺตทายกานํ วา ฆรํ.

๑๕๖๑. ปเวสนํ กฺริยํ. อนาปุจฺฉนํ อกฺริยํ. อจิตฺตกสมุฏฺานมิสฺสกตฺตา ‘‘อจิตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. กุสลากุสลาพฺยากตานํ อฺตรจิตฺตสมงฺคินา อาปชฺชิตพฺพํ สนฺธาย ‘‘ติจิตฺตฺจา’’ติ วุตฺตํ.

จาริตฺตกถาวณฺณนา.

๑๕๖๒. ‘‘สพฺพา’’ติ อิทํ วิวรนฺโต ‘‘จตุมาสปวารณา ปุนปวารณา นิจฺจปวารณา’’ติ ปวารณตฺตยํ ทสฺเสติ. เอตฺถ จ ‘‘จตุมาสปจฺจยปวารณา สาทิตพฺพาติ คิลานปจฺจยปวารณา สาทิตพฺพา’’ติ (ปาจิ. ๓๐๗) ปทภาชเน วุตฺตํ. ปุนปวารณา จ จตฺตาโรเยว มาเส เภสชฺเชน ปวารณํ. เตนาห อฏฺุปฺปตฺติยํ ‘‘เตน หิ ตฺวํ มหานาม สงฺฆํ อปรมฺปิ จตุมาสํ เภสชฺเชน ปวาเรหี’’ติ. นิจฺจปวารณา นาม ยาวชีวํ เภสชฺเชเหว ปวารณา. วุตฺตมฺปิ เจตํ ภควตา อฏฺุปฺปตฺติยํ ‘‘เตน หิ ตฺวํ มหานาม สงฺฆํ ยาวชีวํ เภสชฺเชน ปวาเรหี’’ติ (ปาจิ. ๓๐๓).

สพฺพา เจตา ปวารณา เภสชฺชปริยนฺตรตฺติปริยนฺตตทุภยปริยนฺตอปริยนฺตวเสน จตุพฺพิธา โหนฺติ. ยถาห –

‘‘เภสชฺชปริยนฺตา นาม เภสชฺชานิ ปริคฺคหิตานิ โหนฺติ ‘เอตฺตเกหิ เภสชฺเชหิ ปวาเรมี’ติ. รตฺติปริยนฺตา นาม รตฺติโย ปริคฺคหิตาโย โหนฺติ ‘เอตฺตกาสุ รตฺตีสุ ปวาเรมี’ติ. เภสชฺชปริยนฺตา จ รตฺติปริยนฺตา จ นาม เภสชฺชานิ จ ปริคฺคหิตานิ โหนฺติ รตฺติโย จ ปริคฺคหิตาโย โหนฺติ ‘เอตฺตเกหิ เภสชฺเชหิ เอตฺตกาสุ รตฺตีสุ ปวาเรมี’ติ. เนวเภสชฺชปริยนฺตา นรตฺติปริยนฺตา นาม เภสชฺชานิ จ อปริคฺคหิตานิ โหนฺติ รตฺติโย จ อปริคฺคหิตาโย โหนฺตี’’ติ (ปาจิ. ๓๐๗).

๑๕๖๓. ‘‘สาทิตพฺพา’’ติ วุตฺเต สาทิยนปฺปกาเร ทสฺเสตุมาห ‘‘วิฺาเปสฺสามี’’ติอาทิ. เภสชฺชมฺปิ สติ เม ปจฺจเย วิฺาเปสฺสามีติ โยชนา, ‘‘สาทิตพฺพา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ตเทว พฺยติเรกโต ทสฺเสตุมาห ‘‘น ปฏิกฺขิปิตพฺพา’’ติ. ปฏิกฺเขปการณํ ทสฺเสตุมาห ‘‘โรโคทานิ น เมติ จา’’ติ. สา ติวิธา ปวารณา.

๑๕๖๔. ติกปาจิตฺติยํวุตฺตนฺติ ‘‘ตตุตฺตริ ตตุตฺตริสฺี, เวมติโก, นตตุตฺตริสฺี เภสชฺชํ วิฺาเปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๐๙) วุตฺตํ ปาจิตฺติยตฺตยํ. อิธ ตตุตฺตรีติ เอตฺถ เยหิ เภสชฺเชหิ ปวาริโต, ยาสุ จ รตฺตีสุ ปวาริโต, ตโต เจ อุตฺตริ อธิกนฺติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘เภสชฺชปริยนฺเต เยหิ เภสชฺเชหิ ปวาริโต โหติ, ตานิ เภสชฺชานิ เปตฺวา อฺานิ เภสชฺชานิ วิฺาเปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ จ ‘‘รตฺติปริยนฺเต ยาสุ รตฺตีสุ ปวาริโต โหติ, ตา รตฺติโย เปตฺวา อฺาสุ รตฺตีสุ วิฺาเปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๐๘) จ. ตตฺถ เวมติกสฺส จ ทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ โยชนา.

๑๕๖๕. ตโต จตุมาสโต อุตฺตริ อติเรกํ ตตุตฺตริ, ตตุตฺตริ น โหตีติ นตตุตฺตริ, นตตุตฺตรีติ สฺา อสฺส อตฺถีติ นตตุตฺตริสฺี, ภิกฺขุ, ตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. เยหิ เภสชฺเชหิ ปวาริโต, ตานิ วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ สห เสเสน โยเชตพฺพํ. ยถาห ‘‘อนาปตฺติ เยหิ เภสชฺเชหิ ปวาริโต โหติ, ตานิ เภสชฺชานิ วิฺาเปตี’’ติ (ปาจิ. ๓๑๐). เยน วา เยหิ เภสชฺเชหิ ยาสุ วา รตฺตีสุ ปวาริโต, ตโต อฺมฺปิ ยถาตถํ อาจิกฺขิตฺวา ภิยฺโย วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ สห เสเสน โยเชตพฺพํ. ยถาตถํ อาจิกฺขิตฺวา ภิยฺโย วิฺาเปนฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘อิเมหิ ตยา เภสชฺเชหิ ปวาริตมฺห, อมฺหากฺจ อิมินา จ อิมินา จ เภสชฺเชน อตฺโถ’ติ อาจิกฺขิตฺวา วิฺาเปติ, ‘ยาสุ ตยา รตฺตีสุ ปวาริตมฺห, ตาโย จ รตฺติโย วีติวตฺตา, อมฺหากฺจ เภสชฺเชน อตฺโถ’ติ อาจิกฺขิตฺวา วิฺาเปตี’’ติ (ปาจิ. ๓๑๐) วจนโต ยถาตถํ วตฺวา อธิกํ วิฺาเปนฺตสฺสาติ อตฺโถ.

๑๕๖๖. อฺสฺส ภิกฺขุสฺส อตฺถาย วา วิฺาเปนฺตสฺส ภิกฺขุสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. าตกานํ วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ เอตฺถ าตกานํ สนฺตกํ วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ. อตฺตโน วา ธเนน วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. เอตฺถ ธนํ นาม ตณฺฑุลาทิ กปฺปิยวตฺถุ.

๑๕๖๗. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘วิฺาเปนฺตสฺสา’’ติ อิทํ ปจฺจามสติ. อุมฺมตฺตกาทีนนฺติ วิเสสิตพฺพมเปกฺขิตฺวา ‘‘วิฺาเปนฺตาน’’นฺติ พหุวจนํ กาตพฺพํ.

เภสชฺชกถาวณฺณนา.

๑๕๖๘. อุยฺยุตฺตนฺติ สงฺคามตฺถาย กตอุยฺโยคํ, คามโต นิกฺขมฺม คจฺฉนฺตํ วา เอกตฺถ สนฺนิวิฏฺํ วา. ยถาห ‘‘อุยฺยุตฺตา นาม เสนา คามโต นิกฺขมิตฺวา นิวิฏฺา วา โหติ ปยาตา วา’’ติ (ปาจิ. ๓๑๔). อฺตฺร ปจฺจยาติ เปตฺวา ตถารูปปจฺจยํ.

๑๕๖๙. ทสฺสนสฺสุปจารสฺมินฺติ เอตฺถ ทสฺสนูปจารํ นาม ยสฺมึ าเน ิตสฺส เสนา ปฺายติ, ตํ านํ. ยถาห ‘‘ยตฺถ ิโต ปสฺสติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๑๔). อุปจารํ วิมุฺจิตฺวา ปสฺสนฺตสฺสาติ ยถาวุตฺตทสฺสโนปจารฏฺานํ เอตฺถ ตฺวา โอโลเกตุํ น สุกรนฺติอาทินา การเณน ตํ านํ ปหาย อฺตฺถ วิโลเกนฺตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. เกนจิ ปฏิจฺฉนฺนํ หุตฺวา อทิสฺสมานมฺปิ นินฺนํ านํ โอติณฺณํ อปฺายมานมฺปิ ปฺายนฺตมฺปิ โอโลเกตุํ น สกฺกา เอวเมว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. ยถาห ‘‘เกนจิ อนฺตริตา วา นินฺนํ โอรุฬฺหา วา น ทิสฺสตี’’ติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๑๔). ปโยคโตติ ยถาวุตฺตทสฺสนปโยคคณนาย.

๑๕๗๐. อิทานิ จตุรงฺคเสนาลกฺขณํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อาโรหา ปน จตฺตาโร’’ติอาทิ. อาโรหาติ เอตฺถ หตฺถาโรหา ทฏฺพฺพา. ตปฺปาทรกฺขกาติ ตสฺส ปาทรกฺขกาติ วิคฺคโห. ทฺเว ทฺเวติ เอเกกํ ปาทํ รกฺขนฺตา ทฺเว ทฺเว. ทฺวาทสโปโสติ ทฺวาทส โปสา เอตสฺสาติ วิคฺคโห. ทฺวาทสปุริสยุตฺโต เอโก หตฺถี นาม.

๑๕๗๑. อาโรโหติ เอตฺถ อสฺสาโรโห วุจฺจติ. ติปุริโสติ ตโย ปุริสา อสฺสาติ วิคฺคโห. หโยติ อสฺโส. เอโก สารถีติ รถจาริโก. ‘‘โยโธ เอโก’’ติ ปทจฺเฉโท. อาณิรกฺขาติ รถจกฺกทฺวยสฺส อคฬนตฺถํ อกฺขกสฺส อุโภสุ โกฏีสุ อาโกฏิตา ทฺเว อาณิโย รกฺขนกา.

๑๕๗๒. จตุโปโสติ จตฺตาโร โปสา ยสฺสาติ วิคฺคโห. จตุสจฺจวิภาวินาติ จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ เทสเกน ภควตา. ปทหตฺถาติ อาวุธหตฺถา. ปชฺชเต คมฺยเต อเนน ปเร หนิตุนฺติ ปทํ, อาวุธํ, ปทานิ หตฺเถสุ เยสํ เต ปทหตฺถาติ ภินฺนาธิกรโณ พาหิรตฺถสมาโส ยถา ‘‘วชิรปาณี’’ติ. ปตฺติปทาติ-สทฺโท อนตฺถนฺตรา, มนุสฺสเสนาย อธิวจนํ.

๑๕๗๓. จตุรงฺคสมายุตฺตาติ จตูหิ องฺเคหิ อวยเวหิ สมายุตฺตาติ วิคฺคโห.

๑๕๗๔. หตฺถิอาทีสูติ ยถาวุตฺตลกฺขณหตฺถิอสฺสรถปทาตินามเกสุ จตูสุ องฺเคสุ, นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. เอเกกนฺติ เอเกกํ องฺคํ. เอเตสุ อวกํสโต เอกํ ปุริสารุฬฺหมปิ หตฺถิฺจ ตถา อสฺสฺจ เอกํ ปทหตฺถปุริสฺจ เอกเมกํ กตฺวา อาห ‘‘เอเกกํ ทสฺสนตฺถาย คจฺฉโต’’ติ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อนฺตมโส เอกปุริสารุฬฺหํ เอกมฺปิ หตฺถิมฺปี’’ติอาทิ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๑๕). อนุยฺยุตฺเตปีติ สงฺคามํ วินา อฺเน การเณน นิกฺขนฺเต. ยถาห ‘‘อนุยฺยุตฺตา นาม ราชา อุยฺยานํ วา นทึ วา คจฺฉติ, เอวํ อนุยฺยุตฺตา โหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๑๕).

๑๕๗๕. สมฺปตฺตนฺติ เอตฺถ ‘‘เสน’’นฺติ ปกรณโต ลพฺภติ. อาปทาสูติ ชีวิตพฺรหฺมจริยนฺตราเย สติ ‘‘เอตฺถ คโต มุจฺจิสฺสามี’’ติ คจฺฉโต อนาปตฺติ. ตถารูเป ปจฺจเย คิลานาวโลกนาทิเก คมนานุรูปปจฺจเย สติ อนาปตฺตีติ โยชนา.

อุยฺยุตฺตกถาวณฺณนา.

๑๕๗๖-๗. ‘‘สิยา จ ตสฺส ภิกฺขุโน โกจิเทว ปจฺจโย เสนํ คมนาย, ทิรตฺตติรตฺตํ เตน ภิกฺขุนา เสนาย วสิตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. ๓๑๘) อนุฺาตตฺตา เกนจิ กรณีเยน สงฺคามตฺถํ อุยฺยุตฺตาย เสนาย ทิรตฺตติรตฺตํ ปฏิปาฏิยา วสิตฺวา จตุตฺถรตฺติยํ วสนฺตสฺส ปน ภิกฺขุโน อาปตฺตึ ทสฺเสตุมาห ‘‘จตุตฺเถ’’ติอาทิ. อนาปตฺติวาเร ‘‘คิลาโน วสตี’’ติ (ปาจิ. ๓๒๑) วุตฺตตฺตา อาห ‘‘อโรควา’’ติ. เสนายาติ เอตฺถ ปริกฺเขปารหฏฺาเนน วา สฺจรณปริยนฺเตน วา เสนา ปริจฺฉินฺทิตพฺพา, เอวํ ปริจฺฉินฺนาย เสนาย อนฺโตวาติ อตฺโถ.

ติกปาจิตฺติยนฺติ ‘‘อติเรกติรตฺเต อติเรกสฺี, เวมติโก, อูนกสฺี เสนาย วสติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๒๐) ปาจิตฺติยตฺตยํ วุตฺตํ.

เสนาวาสกถาวณฺณนา.

๑๕๘๐. อุยฺโยธิกํ นาม สงฺคามฏฺานํ. ยถาห อฏฺกถายํ ‘‘อุคฺคนฺตฺวา อุคฺคนฺตฺวา เอตฺถ ยุชฺฌนฺตีติ อุยฺโยธิกํ, สมฺปหารฏฺานสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๒๒). พลคฺคนฺติ ‘‘เอตฺตกา หตฺถี’’ติอาทินา (ปาจิ. ๓๒๔) ปทภาชนาคตนเยน พลสฺส คณนฏฺานํ พลคฺคํ. ยถาห ‘‘พลสฺส อคฺคํ ชานนฺติ เอตฺถาติ พลคฺคํ, พลคณนฏฺานนฺติ อตฺโถ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๒๒). เสนาพฺยูหนฺติ ‘‘อิโต หตฺถี โหนฺตุ, อิโต อสฺสา, อิโต รถา, อิโต ปตฺตี โหนฺตู’’ติ (ปาจิ. ๓๒๔) ปทภาชเน วุตฺตเสนาสนฺนิเวสฏฺานํ เสนาพฺยูหํ. ยถาห ‘‘เสนาย วิยูหํ เสนาพฺยูหํ, เสนาสนฺนิเวสสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๒๒).

๑๕๘๑. ปุริเมติ อนนฺตรสิกฺขาปเท. ‘‘ทฺวาทสปุริโส หตฺถี’’อิติ โย หตฺถี วุตฺโตติ โยชนา. เตนาติ เตน หตฺถินา เหตุภูเตน.

๑๕๘๒. ‘‘เสเสสู’’ติ อิมินา อสฺสานีกรถานีกปตฺตานีกา คหิตา. ปตฺตานีกํ นาม ‘‘จตฺตาโร ปุริสา ปทหตฺถา ปตฺตี ปจฺฉิมํ ปตฺตานีก’’นฺติ (ปาจิ. ๓๒๔) เสนงฺเคสุ ปฏินิทฺเทเสน นิพฺพิเสสํ กตฺวา วุตฺตํ. ติณฺณนฺติ เอเตสํ อุยฺยุตฺตาทีนํ.

อุยฺโยธิกกถาวณฺณนา.

อเจลกวคฺโค ปฺจโม.

๑๕๘๓. ปิฏฺาทีหีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ปูวาทึ สงฺคณฺหาติ. ยถาห ‘‘สุรา นาม ปิฏฺสุรา ปูวสุรา โอทนสุรา กิณฺณปกฺขิตฺตา สมฺภารสํยุตฺตา’’ติ (ปาจิ. ๓๒๘). เอตฺถ จ ปิฏฺํ ภาชเน ปกฺขิปิตฺวา ตชฺชํ อุทกํ ทตฺวา ปกฺขิปิตฺวา กตา ปิฏฺสุรา. เอวํ ปูเว, โอทเน จ ภาชเน ปกฺขิปิตฺวา ตชฺชํ อุทกํ ทตฺวา มทฺทิตฺวา กตา ‘‘ปูวสุรา, โอทนสุรา’’ติ วุจฺจติ. ‘‘กิณฺณา’’ติ ปน ตสฺสา สุราย พีชํ วุจฺจติ, เย ‘‘สุราโมทกา’’ติปิ วุจฺจนฺติ, เต ปกฺขิปิตฺวา กตา กิณฺณปกฺขิตฺตา. หรีตกิสาสปาทินานาสมฺภาเรหิ สํโยชิตา สมฺภารสํยุตฺตา.

ปุปฺผาทีหีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ผลาทีนํ คหณํ. ยถาห ‘‘เมรโย นาม ปุปฺผาสโว ผลาสโว มธฺวาสโว คุฬาสโว สมฺภารสํยุตฺโต’’ติ (ปาจิ. ๓๒๘). ตตฺถ จ ปุปฺผาสโว นาม มธุกปุปฺผาทีนํ ชาติรสกโต เจว ตาลนาฬิเกรปุปฺผานฺจ รโส จิรปริวาสิโต. ผลาสโว ปน มุทฺทิกาปนสผลาทีนิ มทฺทิตฺวา เตสํ รเสน กโต. มธฺวาสโว นาม มุทฺทิกานํ ชาติรเสน กโต. มกฺขิกามธุนาปิ กรียตีติ วทนฺติ. อุจฺฉุรโส คุฬาสโว. หรีตกามลกกฏุกภณฺฑาทินานาสมฺภารานํ รโส จิรปริวาสิโต สมฺภารสํยุตฺโต. อาสโว เมรยํ โหตีติ โยชนา.

๑๕๘๔. พีชโต ปฏฺายาติ สมฺภาเร ปฏิยาทิตฺวา จาฏิยํ ปกฺขิตฺตกาลโต ปฏฺาย ตาลนาฬิเกราทีนํ ปุปฺผรเส ปุปฺผโต คฬิตาภินวกาลโตเยว จ ปฏฺาย. ปิวนฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘กุสคฺเคนา’’ติปิ เสโส. อุภยมฺปิ จาติ สุรํ, เมรยฺจาติ อุภยมฺปิ. พีชโต ปน ปฏฺาย กุสคฺเคน ปิวนฺตสฺสปิ ภิกฺขุโน ปาจิตฺติยํ โหตีติ โยเชตพฺพํ. ปโยคพาหุลฺเลน อาปตฺติพาหุลฺลํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปโยเค จ ปโยเค จา’’ติ. อิทฺจ วิจฺฉินฺทิตฺวา วิจฺฉินฺทิตฺวา ปิวนฺตสฺส ภิกฺขุโน ปโยเค จ ปโยเค จ ปาจิตฺติยํ โหตีติ โยเชตพฺพํ. ยถาห ‘‘วิจฺฉินฺทิตฺวา วิจฺฉินฺทิตฺวา ปิวโต ปโยคคณนาย อาปตฺติโย’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๒๘). เอเกเนว ปโยเคน พหุมฺปิ ปิวนฺตสฺส เอกํ เอว อาปตฺตึ พฺยติเรกโต ทีเปติ. ยถาห ‘‘เอเกน ปน ปโยเคน พหุมฺปิ ปิวนฺตสฺส เอกา อาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๒๘).

๑๕๘๕. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘มชฺเช มชฺชสฺี, มชฺเช เวมติโก, มชฺเช อมชฺชสฺี ปิวติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๒๘) ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ.

๑๕๘๖. ‘‘อนาปตฺติ นมชฺชํ โหติ มชฺชวณฺณํ มชฺชคนฺธํ มชฺชรสํ, ตํ ปิวตี’’ติ (ปาจิ. ๓๒๘) วุตฺตตฺตา อาห ‘‘อมชฺชํ มชฺชวณฺณ’’นฺติอาทิ. อริฏฺํ นาม อามลกผลรสาทีหิ กโต อาสววิเสโส. โลณโสวีรกํ นาม อฏฺกถายํ

‘‘หรีตกามลกวิภีตกกสาเว, สพฺพธฺานิ, สพฺพอปรณฺณานิ, สตฺตนฺนมฺปิ ธฺานํ โอทนํ, กทลิผลาทีนิ สพฺพผลานิ, เวตฺตเกตกขชฺชูริกฬีราทโย สพฺพกฬีเร, มจฺฉมํสขณฺฑานิ, อเนกานิ จ มธุผาณิตสินฺธวโลณติกฏุกาทีนิ เภสชฺชานิ ปกฺขิปิตฺวา กุมฺภิมุขํ ลิมฺปิตฺวา เอกํ วา ทฺเว วา ตีณิ วา สํวจฺฉรานิ เปนฺติ, ตํ ปริปจฺจิตฺวา ชมฺพุรสวณฺณํ โหติ. วาตกาสกุฏฺปณฺฑุภคนฺทลาทีนฺจ สินิทฺธโภชนภุตฺตานฺจ อุตฺตรปานํ ภตฺตชีรณกเภสชฺชํ ตาทิสํ นตฺถิ. ตํ ปเนตํ ภิกฺขูนํ ปจฺฉาภตฺตมฺปิ วฏฺฏติ, คิลานานํ ปากติกเมว. อคิลานานํ ปน อุทกสมฺภินฺนํ ปานปริโภเคนา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๙๒) –

วิภาวิโต เภสชฺชวิเสโส. สุตฺตํ นาม อเนเกหิ เภสชฺเชหิ อภิสงฺขโต อมชฺชภูโต อาสววิเสโส.

๑๕๘๗. วาสคาหาปนตฺถายาติ สุคนฺธิภาวคาหาปนตฺถํ. อีสกนฺติ มชฺชวณฺณคนฺธรสา ยถา น ปฺายนฺติ, เอวํ อปฺปมตฺตกํ. ยถาห ‘‘อนติกฺขิตฺตมชฺเชเยว อนาปตฺติ. ยํ ปน อติกฺขิตฺตมชฺชํ โหติ, ยตฺถ มชฺชสฺส วณฺณคนฺธรสา ปฺายนฺติ, ตสฺมึ อาปตฺติเยวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๒๙). สูปาทีนํ ตุ ปาเกติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน มํสปากาทโย สงฺคหิตา. ยถาห ‘‘สูปสมฺปาเก มํสสมฺปาเก เตลสมฺปาเก’’ติ (ปาจิ. ๓๒๘).

๑๕๘๘. วตฺถุอชานนา อจิตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. ยถาห ‘‘วตฺถุอชานนตาย เจตฺถ อจิตฺตกตา เวทิตพฺพา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๒๙). วตฺถุอชานนตา จ นาม ‘‘มชฺช’’นฺติ อชานนภาโว. อิทนฺติ อิทํ สิกฺขาปทํ. -สทฺเทน อฺานิ จ คิรคฺคสมชฺชาทิสิกฺขาปทานิ สมุจฺจิโนติ. อกุสเลเนวาติ อกุสลจิตฺเตเนว. ปานโตติ ปาตพฺพโต. โลกวชฺชกนฺติ สาธุโลเกน วชฺเชตพฺพนฺติ อตฺโถ. โลกวชฺชเมว โลกวชฺชกํ.

นนุ เจตฺถ วตฺถุอชานนตาย อจิตฺตกตฺเต ตํวตฺถุอชานนํ กุสลาพฺยากตจิตฺตสมงฺคิโนปิ สมฺภวติ, กสฺมา ‘‘อกุสเลเนว ปานโต โลกวชฺชก’’นฺติ วุตฺตนฺติ? วุจฺจเต – ยสฺมา อมชฺชสฺาย ปิวโต, มชฺชสฺาย จ ปิวโต มชฺชํ วตฺถุนิยาเมน กิเลสุปฺปตฺติยาว ปจฺจโย โหติ, ยถา มชฺชํ ปีตํ อชานนฺตสฺสาปิ อกุสลานเมว ปจฺจโย โหติ, น กุสลานํ, ตถา อชฺโฌหรณกาเลปิ วตฺถุนิยาเมน อกุสลสฺเสว ปจฺจโย โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘อกุสเลเนว ปานโต โลกวชฺชก’’นฺติ. ยถา ตํ นิฬินิชาตเก (ชา. ๒.๑๘.๑ อาทโย; ชา. อฏฺ. ๕.๑๘.๑ อาทโย) เภสชฺชสฺาย อิตฺถิยา มคฺเค องฺคชาตํ ปเวเสนฺตสฺส กุมารสฺส ‘‘อิตฺถี’’ติ วา ‘‘ตสฺสา มคฺเค เมถุนํ ปฏิเสวามี’’ติ วา สฺาย อภาเวปิ กามราคุปฺปตฺติยา สีลาทิคุณปริหานิ วตฺถุนิยามโต จ อโหสิ, เอวมิธาปิ ทฏฺพฺโพ.

เกจิ ปน ‘‘อกุสเลเนว ปานโต’’ติ อิทํ อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส สจิตฺตกปกฺขํ สนฺธาย วุตฺตํ, อฺถา ปาณาติปาตาทีสุปิ อติปฺปสงฺโคติ มฺมานา พหุการณํ, นิยมนฺจ ทสฺเสสุํ. วินยฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๒๙), ปน ขุทฺทกปาฏฺกถายํ (ขุ. ปา. อฏฺ. สิกฺขาปทวณฺณนา), วิภงฺคฏฺกถาทีสุ จ ‘‘ติจิตฺต’’นฺติ อวตฺวา ‘‘อกุสลจิตฺต’’มิจฺเจว วุตฺตตฺตา, สิกฺขาปทสฺส สามฺลกฺขณํ ทสฺเสนฺเตน ปกฺขนฺตรลกฺขณทสฺสนสฺส อยุตฺตตฺตา จ อฏฺกถาสุ ยถารุตวเสเนว อตฺถคฺคหเณ จ กสฺสจิ วิโรธสฺส อสมฺภวโต สจิตฺตกปกฺขเมว สนฺธาย อกุสลจิตฺตตา, โลกวชฺชตา เจตฺถ น วตฺตพฺพา. ‘‘วตฺถุํ ชานิตฺวาปิ อชานิตฺวาปิ มชฺชํ ปิวโต ภิกฺขุสฺส ปาจิตฺติยํ. สามเณรสฺส ปน ชานิตฺวาว ปิวโต สีลเภโท, น อชานิตฺวา’’ติ (มาหาว. อฏฺ. ๑๐๘ อตฺถโต สมานํ) ยํ วุตฺตํ, ตตฺถ การณํ มคฺคิตพฺพํ. สิกฺขาปทปฺตฺติยา พุทฺธานเมว วิสยตฺตา น ตํ มคฺคิตพฺพํ, ยถาปฺตฺเตเยว วตฺติตพฺพํ. อิทํ ปน สิกฺขาปทํ อกุสลจิตฺตํ, สุโขเปกฺขาเวทนานํ วเสน ทุเวทนฺจ โหติ. วินยฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๒๙), ปน มาติกฏฺกถายฺจ (กงฺขา. อฏฺ. สุราปานสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘ติเวทน’’นฺติ ปาโ ทิสฺสติ, ขุทฺทกปาวณฺณนาย (ขุ. ปา. อฏฺ. สิกฺขาปทวณฺณนา), วิภงฺคฏฺกถาทีสุ (วิภ. อฏฺ. ๗๐๓ อาทโย) จ ‘‘สุขมชฺฌตฺตเวทนาวเสน ทุเวทน’’นฺติ จ ‘‘โลภโมหมูลวเสน ทฺวิมูลก’’นฺติ จ วุตฺตตฺตา โส ‘‘ปมาทปาโ’’ติ คเหตพฺโพ.

สุราปานกถาวณฺณนา.

๑๕๘๙. เยนเกนจิ องฺเคนาติ องฺคุลิอาทินา เยน เกนจิ สรีราวยเวน. หสาธิปฺปายิโนติ หเส อธิปฺปาโย หสาธิปฺปาโย, โส เอตสฺส อตฺถีติ วิคฺคโห, ตสฺส, อิมินา กีฬาธิปฺปายรหิตสฺส อนาปตฺตึ พฺยติเรกโต ทีเปติ. วกฺขติ จ ‘‘อนาปตฺติ นหสาธิปฺปายสฺสา’’ติ. ผุสโต ผุสนฺตสฺส.

๑๕๙๐. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ อุปสมฺปนฺนานุปสมฺปนฺเนสุ. กายปฏิพทฺธาทิเก นเยติ ‘‘กาเยน กายปฏิพทฺธํ อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติเอวมาทินา (ปาจิ. ๓๓๒) ทสฺสิเต นเย. อนุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน ตีณิ ทุกฺกฏานิ วุตฺตานีติ อาห ‘‘ตเถวานุปสมฺปนฺเน, ทีปิตํ ติกทุกฺกฏ’’นฺติ. เอตฺถ จ ‘‘ตเถวา’’ติ อิมินา อุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน ติกปาจิตฺติยสฺส วุตฺตภาโว ทีปิโต โหติ. ยถา อุปสมฺปนฺเน ติกปาจิตฺติยํ ทีปิตํ, ตเถว อนุปสมฺปนฺเน ติกทุกฺกฏํ ทีปิตนฺติ โยชนา.

๑๕๙๑. เอตฺถ…เป… ภิกฺขุนีติ เอตฺถ ภิกฺขุปิ ภิกฺขุนิยา อนุปสมฺปนฺนฏฺาเน ิโตติ เวทิตพฺโพ.

๑๕๙๒. นหสาธิปฺปายสฺส ผุสโตติ หสาธิปฺปายํ วินา วนฺทนาทีสุ ปาทาทิสรีราวยเวน ปรํ ผุสนฺตสฺส. กิจฺเจ สตีติ ปิฏฺิปริกมฺมาทิกิจฺเจ สติ.

องฺคุลิปโตทกกถาวณฺณนา.

๑๕๙๓. ชเลติ เอตฺถ ‘‘อุปริโคปฺผเก’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘อุปริโคปฺผเก อุทเก’’ติ (ปาจิ. ๓๓๗). นิมุชฺชนาทีนนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน อุมฺมุชฺชนปฺลวนานิ คหิตานิ. ยถาห ‘‘อุปริโคปฺผเก อุทเก หสาธิปฺปาโย นิมุชฺชติ วา อุมฺมุชฺชติ วา ปลวติ วา’’ติ (ปาจิ. ๓๓๗). ‘‘เกวล’’นฺติ อิมินา นหานาทิกิจฺเจน โอตรนฺตสฺส อนาปตฺตีติ ทีเปติ.

๑๕๙๔. อุปริโคปฺผเก ชเลติ โคปฺผกานํ อุปริภาคปฺปมาเณ ชเล. นิมุชฺเชยฺยปิ วาติ อนฺโตชลํ ปวิสนฺโต นิมุชฺเชยฺย วา. ตเรยฺย วาติ ปฺลเวยฺย วา.

๑๕๙๕-๖. อนฺโตเยโวทเก นิมุชฺชิตฺวาน คจฺฉโต ตสฺส หตฺถปาทปโยเคหิ ปาจิตฺตึ ปริทีปเยติ โยชนา.

๑๕๙๗. หตฺถาทิสกลสรีราวยวํ สงฺคณฺหิตุํ ‘‘เยน เยนา’’ติ อนิยมาเมฑิตมาห. ชลํ ตรโต ภิกฺขุโน เยน เยน ปน องฺเคน ตรณํ โหตีติ โยชนา.

๑๕๙๘. ตรุโต วาปีติ รุกฺขโตปิ วา. ติกปาจิตฺติยนฺติ อุทเก หสธมฺเม หสธมฺมสฺิเวมติกอหสธมฺมสฺีนํ วเสน ติกปาจิตฺติยํ. ‘‘ติกทุกฺกฏ’’นฺติ ปาโ ทิสฺสติ, ‘‘อุทเก อหสธมฺเม หสธมฺมสฺี, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. อุทเก อหสธมฺเม เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๓๘) วตฺวา ‘‘อุทเก อหสธมฺเม อหสธมฺมสฺี, อนาปตฺตี’’ติ (ปาจิ. ๓๓๘) ตติยวิกปฺเป ปาฬิยํ อนาปตฺติ วุตฺตาติ โส ปมาทปาโ, ‘‘ทฺวิกทุกฺกฏ’’นฺติ ปาโเยว คเหตพฺโพ.

๑๕๙๙. นาวํ ตีเร อุสฺสาเรนฺโตปิ วาติ สมฺพนฺโธ. อุสฺสาเรนฺโตติ ตีรมาโรเปนฺโต. ‘‘กีฬตี’’ติ อิทํ ‘‘ปาเชนฺโต’’ติ อิมินาปิ โยเชตพฺพํ.

๑๖๐๐. กถลาย วาติ ขุทฺทกกปาลิกาย วา. อุทกนฺติ เอตฺถ ‘‘ภาชนคตํ วา’’ติ เสโส. ‘‘ภาชนคตํ อุทกํ วา’’ติ (ปาจิ. ๓๓๘) หิ ปทภาชเน วุตฺตํ.

๑๖๐๑. กฺจิกํวาติ ธฺรสํ วา. อปิ-สทฺโท ‘‘ขีรํ วา ตกฺกํ วา รชนํ วา ปสฺสาวํ วา’’ติ (ปาจิ. ๓๓๘) ปาฬิยํ อาคเต สมฺปิณฺเฑติ. จิกฺขลฺลํ วาปีติ อุทกกทฺทมํ วา. เอตฺถ วิเสสโชตเกน อปิ-สทฺเทน ‘‘อปิจ อุปริโคปฺผเก วุตฺตานิ อุมฺมุชฺชนาทีนิ เปตฺวา อฺเน เยน เกนจิ อากาเรน อุทกํ โอตริตฺวา วา อโนตริตฺวา วา ยตฺถ กตฺถจิ ิตํ อุทกํ อนฺตมโส พินฺทุํ คเหตฺวา ขิปนกีฬายปิ กีฬนฺตสฺส ทุกฺกฏเมวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๓๖) อฏฺกถาคตํ วินิจฺฉยวิเสสํ สมฺปิณฺเฑติ. วิกฺขิปนฺติ วิกฺขิปิตฺวา.

๑๖๐๒. สติ กิจฺเจ ชลํ วิคาหิตฺวา นิมุชฺชนาทิกํ กโรนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. กิจฺจํ นาม นหานาทิกํ.

๑๖๐๓. อนนฺตรสฺสาติ องฺคุลิปโตทกสิกฺขาปทสฺส. วิเสโสว วิเสสตา, โกจิ วิเสโส นตฺถีติ อตฺโถ.

หสธมฺมกถาวณฺณนา.

๑๖๐๔-๕. โย ภิกฺขุ ภิกฺขุนา ปฺตฺเตน วุจฺจมาโน อสฺส วจนํ อกตฺตุกามตาย อาทรํ ปน สเจ น กโรติ, ตสฺส ตสฺมึ อนาทริเย ปาจิตฺติยมุทีรเยติ โยชนา, อิมินา วากฺเยน ปุคฺคลานาทรมูลกํ ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. ยถาห ‘‘อนาทริยํ นาม ทฺเว อนาทริยานิ ปุคฺคลานาทริยฺจ ธมฺมานาทริยฺจา’’ติ (ปาจิ. ๓๔๒), ‘‘ปุคฺคลานาทริยํ นาม อุปสมฺปนฺเนน ปฺตฺเตน วุจฺจมาโน ‘อยํ อุกฺขิตฺตโก วา วมฺภิโต วา ครหิโต วา อิมสฺส วจนํ อกตํ ภวิสฺสตี’ติ อนาทริยํ กโรติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๔๒) จ.

ธมฺมเมว วา อสิกฺขิตุกาโม โย ภิกฺขุ ภิกฺขุนา ปฺตฺเตน วุจฺจมาโน อสฺส วจนํ อกตฺตุกามตาย อาทรํ ปน สเจ น กโรติ, ตสฺส ตสฺมึ อนาทริเย ปาจิตฺติยมุทีรเยติ โยชนา, อิมินา ธมฺมานาทริยมูลกํ ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. ยถาห ‘‘ธมฺมานาทริยํ นาม อุปสมฺปนฺเนน ปฺตฺเตน วุจฺจมาโน กถายํ นสฺเสยฺย วา วินสฺเสยฺย วา อนฺตรธาเยยฺย วา, ตํ นสิกฺขิตุกาโม อนาทริยํ กโรติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๔๒). อนาทริเยติ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ.

๑๖๐๖. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘อุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺี, เวมติโก, อนุปสมฺปนฺนสฺี อนาทริยํ กโรติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๔๓) ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. ติกาตีเตนาติ โลกตฺติกมติกฺกนฺเตน. อนุปสมฺปนฺนานาทเร ติกทุกฺกฏนฺติ อนุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน ติกทุกฺกฏํ.

๑๖๐๗. สุตฺเตเนวาภิธมฺเมนาติ เอตฺถ เอวกาโร ‘‘ทุกฺกฏ’’นฺติ อิมินา โยเชตพฺโพ. ‘‘สุตฺเตนอภิธมฺเมนา’’ติ ปททฺวเยน อเภโทปจารโต สุตฺตาภิธมฺมาคโต ปริยตฺติธมฺโม วุตฺโต. อปฺตฺเตนาติ ปฺตฺตสงฺขาตวินยโต อฺตฺตา อปฺตฺเตน. ‘‘อปฺตฺเตนา’’ติ อิทํ ‘‘สุตฺเตน อภิธมฺเมนา’’ติ ปททฺวยวิเสสนํ. ภิกฺขุนา วุตฺตสฺส ตสฺมึ ภิกฺขุมฺหิ วา ธมฺเม วา อนาทรํ กโรโต ทุกฺกฏเมว. สามเณเรน อุภเยนปิ ปฺตฺเตน วา อปฺตฺเตน วา วุตฺตสฺส ตสฺมึ สามเณเร วา ปฺตฺเต วา อปฺตฺเต วา ธมฺเม อนาทรํ กโรโต ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏเมวาติ โยชนา.

๑๖๐๘. โทโสติ ปาจิตฺติยทุกฺกฏสงฺขาโต โกจิ โทโส.

๑๖๐๙. เอตฺถาติ อิมสฺมึ อาจริยานํ คาเห. คารยฺโห อาจริยุคฺคโห เนว คเหตพฺโพติ โยชนา. คารยฺโห อาจริยุคฺคโหติ เอตฺถ ‘‘ยสฺมา อุจฺฉุรโส สตฺตาหกาลิโก, ตสฺส กสโฏ ยาวชีวิโก, ทฺวินฺนํเยว สมวาโย อุจฺฉุยฏฺิ, ตสฺมา วิกาเล อุจฺฉุยฏฺึ ขาทิตุํ วฏฺฏติ คุฬหรีตเก วิยา’’ติ เอวมาทิโก สมฺปติ นิพฺพตฺโต คารยฺหาจริยวาโท. กตโร ปน คเหตพฺโพติ? ปเวณิยา อาคโต อาจริยุคฺคโหว คเหตพฺโพ.

กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘โลกวชฺเช อาจริยุคฺคโห น วฏฺฏติ, ปณฺณตฺติวชฺเช ปน วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๔๔) วุตฺตํ. มหาปจฺจริยํ ‘‘สุตฺตํ, สุตฺตานุโลมฺจ อุคฺคหิตกานํเยว อาจริยานํ อุคฺคโห ปมาณํ, อชานนฺตานํ กถา อปฺปมาณ’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๔๔) วุตฺตํ. ‘‘ตํ สพฺพํ ปเวณิยา อาคเต สโมธานํ คจฺฉตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๔๔) อฏฺกถายํ วุตฺตํ. เอตฺถ โลกวชฺเช อาจริยุคฺคโห น วฏฺฏตีติ โลกวชฺชสิกฺขาปเท อาปตฺติฏฺาเน โย อาจริยวาโท, โส น คเหตพฺโพ, โลกวชฺชมติกฺกมิตฺวา ‘‘อิทํ อมฺหากํ อาจริยุคฺคโห’’ติ วทนฺตสฺส อุคฺคโห น วฏฺฏตีติ อธิปฺปาโย. สุตฺตานุโลมํ นาม อฏฺกถา. ปเวณิยา อาคเต สโมธานํ คจฺฉตีติ ‘‘ปเวณิยา อาคโต อาจริยุคฺคโหว คเหตพฺโพ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๔๔) เอวํ วุตฺเต มหาอฏฺกถาวาเทเยว สงฺคหํ คจฺฉตีติ อธิปฺปาโย.

อนาทริยกถาวณฺณนา.

๑๖๑๐-๑. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ภิกฺขุํ ภึสาเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๓๔๖) มาติกาวจนโต ภยสฺชนนตฺถายาติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขุสฺสา’’ติ เสโส. เตเนว วกฺขติ ‘‘อิตรสฺส ตุ ภิกฺขุสฺสา’’ติ. รูปาทินฺติ รูปสทฺทคนฺธาทึ. อุปสํหเรติ อุปฏฺเปติ , ทสฺเสตีติ วุตฺตํ โหติ. ภยานกํ กถนฺติ โจรกนฺตาราทิกถํ. ยถาห ‘‘โจรกนฺตารํ วา วาฬกนฺตารํ วา ปิสาจกนฺตารํ วา อาจิกฺขตี’’ติ (ปาจิ. ๓๔๘). ปรสนฺติเกติ เอตฺถ ‘‘ปโร’’ติ วุตฺตนเยน ลพฺภมาโน อุปสมฺปนฺโน คเหตพฺโพ.

ทิสฺวา วาติ อุปฏฺาปิตํ ตํ รูปาทึ ทิสฺวา วา. สุตฺวา วาติ ตํ ภยานกํ กถํ สุตฺวา วา. ยสฺส ภยทสฺสนตฺถาย ตํ อุปฏฺาเปสิ, โส ภายตุ วา มา วา ภายตุ. อิตรสฺสาติ ตทุปฏฺาปกสฺส ภิกฺขุสฺส. ตงฺขเณติ อุปฏฺาปิตกฺขเณ.

๑๖๑๒. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘อุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺี, เวมติโก, อนุปสมฺปนฺนสฺี ภึสาเปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๔๘) ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. ติกทุกฺกฏนฺติ อนุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน ติกทุกฺกฏํ. ‘‘อนุปสมฺปนฺนํ ภึสาเปตุกาโม’’ติอาทิเก ทุกฺกฏวาเร อนุปสมฺปนฺนคฺคหเณน คิหิโนปิ สงฺคยฺหมานตฺตา ‘‘สามเณรํ คหฏฺํ วา’’ติ อาห. สามเณรํ…เป… ภิกฺขุโน ตเถว ภึสาเปนฺตสฺส ติกทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ โยชนา.

ภึสาปนกถาวณฺณนา.

๑๖๑๔. โชตินฺติ อคฺคึ. ตปฺเปตุกาโมติ วิสิพฺเพตุกาโม. ‘‘เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ปทีเปปิ โชติเกปิ ชนฺตาฆเรปิ กุกฺกุจฺจายนฺตี’’ติ (ปาจิ. ๓๕๒) อุปฺปนฺนวตฺถุมฺหิ ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว ตถารูปปจฺจยา โชตึ สมาทหิตุํ สมาทหาเปตุ’’นฺติ (ปาจิ. ๓๕๒) วุตฺตตฺตา เอตฺถ ‘‘ตถารูปํ ปจฺจย’’นฺติ อิมินา ปทีปุชฺชลนฺจ ปตฺตปจนสรีรเสทนาทิกมฺมฺจ ชนฺตาฆรวตฺตฺจ คเหตพฺพํ. เอตฺถ จ โชติเกปีติ ปตฺตปจนเสทนกมฺมาทีสุ โชติกรเณติ อตฺโถ.

๑๖๑๕. สยํสมาทหนฺตสฺสาติ อตฺตนา ชาเลนฺตสฺส.

๑๖๑๖. ชาลาเปนฺตสฺส…เป… ทุกฺกฏนฺติ อาณตฺติยา อาปชฺชิตพฺพํ ทุกฺกฏํ สนฺธายาห. อาณตฺติยา ชลิเต อาปชฺชิตพฺพาปตฺติ ‘‘ชาลุฏฺาเน ปนาปตฺติ, ปาจิตฺติ ปริกิตฺติตา’’ติ อนุวตฺตมานตฺตา สิทฺธาติ วิสุํ น วุตฺตา.

๑๖๑๗. คิลานสฺสาติ ‘‘คิลาโน นาม ยสฺส วินา อคฺคินา น ผาสุ โหตี’’ติ (ปาจิ. ๓๕๔) วุตฺตสฺส คิลานสฺส. อวิชฺฌาตํ อลาตํ อุกฺขิปนฺตสฺสาติ คหเณน ภฏฺํ อนิพฺพุตาลาตํ อคฺคิโน สมีปํ กโรนฺตสฺส, ยถาาเน เปนฺตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ.

๑๖๑๘-๙. วิชฺฌาตํ อลาตนฺติ นิพฺพุตาลาตํ. ยถาวตฺถุกํ ปาจิตฺติยนฺติ วุตฺตํ โหติ. อฺเน วา กตํ วิสิพฺเพนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. วิสิพฺเพนฺตสฺสาติ ตปฺเปนฺตสฺส. องฺคารนฺติ วีตจฺจิกํ องฺคารํ. ปทีปุชฺชลนาทิเกติ อาทิ-สทฺเทน ‘‘โชติเก ชนฺตาฆเร ตถารูปปจฺจยา’’ติ (ปาจิ. ๓๕๒) อาคตํ สงฺคณฺหาติ. เอตฺถ จ ตถารูปปจฺจยาติ เปตฺวา ปทีปาทีนิ อฺเนปิ ตถารูเปน ปจฺจเยน.

โชติสมาทหนกถาวณฺณนา.

๑๖๒๐-๑. มชฺฌิเม เทเสติ ชมฺพุทีเป ยตฺถ โพธิมณฺฑลํ โหติ, ตสฺมึ นวโยชนสตาวฏฺเฏ มชฺฌิมมณฺฑเล, อิมินา อิทํ สิกฺขาปทํ ตตฺเถว เทโสทิสฺสกตาย นิยตนฺติ ทสฺเสติ. เตเนว วกฺขติ อนาปตฺติวาเร ‘‘ปจฺจนฺติเมปิ วา เทเส’’ติ. จุณฺณนฺติ สิรีสจุณฺณาทิกํ จุณฺณํ. อภิสงฺขรโตติ ปฏิยาเทนฺตสฺส.

๑๖๒๒-๓. ‘‘มาเส อูนสฺิโน’’ติ ปทจฺเฉโท. อติเรกทฺธมาเส อูนสฺิโน วา อติเรกทฺธมาเส วิมติสฺส วา ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. อติเรกทฺธมาเส นฺหายนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. สมเยสุ จ นฺหายนฺตสฺส อนาปตฺตีติ เอตฺถ ‘‘อุณฺหสมโย ปริฬาหสมโย คิลานสมโย กมฺมสมโย อทฺธานคมนสมโย วาตวุฏฺิสมโย’’ติ (ปาจิ. ๓๖๓) ทสฺสิเตสุ ฉสุ สมเยสุ อฺตเร สมฺปตฺเต สมเย สตึ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา อูนมาเสปิ นหายนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ.

ตตฺถ เชฏฺมาโส จ อาสาฬฺหิมาสสฺส ปุริมปกฺโข จาติ ทิยฑฺฒมาโส อุณฺหสมโย นาม. ยถาห ‘‘อุณฺหสมโย นาม ทิยฑฺโฒ มาโส เสโส คิมฺหาน’’นฺติ (ปาจิ. ๓๖๔), วสฺสานสฺส ปโม มาโส ปริฬาหสมโย นาม. ยถาห ‘‘ปริฬาหสมโย นาม วสฺสานสฺส ปโม มาโส’’ติ (ปาจิ. ๓๖๔). ‘‘ยสฺส วินา นหานา น ผาสุ โหตี’’ติ (ปาจิ. ๓๖๔) วุตฺโต สมโย คิลานสมโย นาม. ‘‘อนฺตมโส ปริเวณมฺปิ สมฺมฏฺํ โหตี’’ติ (ปาจิ. ๓๖๔) วุตฺโต กมฺมสมโย นาม. ‘‘อทฺธโยชนํ คจฺฉิสฺสามี’ติ นหายิตพฺพ’’นฺติ (ปาจิ. ๓๖๔) วุตฺโต อทฺธานคมนสมโย นาม. ‘‘ภิกฺขู สรเชน วาเตน โอกิณฺณา โหนฺติ, ทฺเว วา ตีณิ วา อุทกผุสิตานิ กาเย ปติตานิ โหนฺตี’’ติ (ปาจิ. ๓๖๔) วุตฺโต วาตวุฏฺิสมโย นาม.

นทีปารํ คจฺฉโตปิ อูนกทฺธมาเส นฺหายนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. วาลิกํ อุกฺกิริตฺวานาติ เอตฺถ สุกฺขาย นทิยา วาลิกํ อุกฺกิริตฺวา. กตาวาเฏสุปิ อูนกทฺธมาเส นฺหายนฺตสฺสปิ อนาปตฺตีติ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘นฺหายนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ อิทํ ปจฺจามสติ.

๑๖๒๔. ปจฺจนฺติเมปิ วา เทเสติ ชมฺพุทีเป ยถาวุตฺตมชฺฌิมเทสโต พหิ ปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ, ขุทฺทเกสุ จ ทีเปสุ. สพฺเพสนฺติ ลทฺธสมยานํ, อลทฺธสมยานฺจ สพฺเพสํ ภิกฺขูนํ. อาปทาสูติ ภมรอนุพนฺธาทิอาปทาสุ. ยถาห ‘‘ภมราทีหิ อนุพทฺธสฺส อุทเก นิมุชฺชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๖๖). กายจิตฺตสมุฏฺานํ เอฬกโลมสมุฏฺานํ นาม.

นฺหานกถาวณฺณนา.

๑๖๒๕-๗. ‘‘นวํ นาม อกตกปฺปํ วุจฺจตี’’ติ (ปาจิ. ๓๖๙) ปาฬิวจนโต จ ‘‘ปฏิลทฺธนวจีวเรนาติ อตฺโถ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๖๘) อฏฺกถาวจนโต จ จีวรนฺติ เอตฺถ ‘‘นว’’นฺติ เสโส. กปฺปิยํ พินฺทุํ อทตฺวา นวํ จีวรํ ภิกฺขุ ปริภุฺชติ, ตสฺเสวํ ปริภุฺชโต ปาจิตฺตีติ สมฺพนฺโธ. ฉนฺนนฺติ โขมาทีนํ, นิทฺธารเณ สามิวจนํ. อฺตรํ นวํ จีวรนฺติ นิทฺธาเรตพฺพํ. ยตฺถ กตฺถจีติ ‘‘จตูสุ วา โกเณสุ ตีสุ วา ทฺวีสุ วา เอกสฺมึ วา โกเณ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๖๘) อฏฺกถาวจนโต จีวรโกเณสุ ยตฺถ กตฺถจิ.

กํสนีเลนาติ จมฺมการนีเลน. จมฺมการนีลํ นาม ปกตินีลํ. คณฺิปเท ปน ‘‘จมฺมการา อุทเก ติผลํ, อโยคูถฺจ ปกฺขิปิตฺวา จมฺมํ กาฬํ กโรนฺติ, ตํ จมฺมการนีล’’นฺติ วุตฺตํ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘อโยมลํ โลหมลํ, เอตํ กํสนีลํ นามา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๖๘) วุตฺตํ. ปตฺตนีเลน วาติ ‘‘โย โกจิ นีลวณฺโณ ปณฺณรโส’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๖๘) อฏฺกถาย วุตฺเตน นีลปณฺณรเสน. เยน เกนจิ กาเฬนาติ องฺคารชลฺลิกาทีสุ อฺตเรน เยน เกนจิ กาฬวณฺเณน. ‘‘กทฺทโม นาม โอทโก วุจฺจตี’’ติ (ปาจิ. ๓๖๙) วุตฺตตฺตา กทฺทเมนาติ อุทกานุกทฺทมสุกฺขกทฺทมาทึ สงฺคณฺหาติ.

‘‘มงฺคุลสฺส ปิฏฺิปฺปมาณกํ มยูรสฺส อกฺขิปฺปมาณก’’นฺติ ยถากฺกเมน โยชนา.

๑๖๒๘. ‘‘ปาฬิกปฺโป กณฺณิกากปฺโป’’ติ โยชนา, มุตฺตาวลิ วิย ปาฬึ กตฺวา อปฺปิตกปฺโป จ กณฺณิกากาเรน อปฺปิตกปฺโป จาติ อตฺโถ. กตฺถจีติ เอตฺถ ‘‘ยถาวุตฺตปฺปเทเส’’ติ เสโส. ‘‘จตูสุ วา โกเณสุ ตีสุ วา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๖๘) วุตฺตตฺตา ‘‘อเนกํ วา’’ติ อาห. วฏฺฏเมว วฏฺฏกํ, อิมินา อฺํ วิการํ น วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ. ยถาห ‘‘เปตฺวา เอกํ วฏฺฏพินฺทุํ อฺเน เกนจิปิ วิกาเรน กปฺโป น กาตพฺโพ’’ติ (ปาจิ. ๓๖๘).

๑๖๒๙. ‘‘อนาปตฺติ ปกาสิตา’’ติ อิทํ ‘‘วิมติสฺสจา’’ติ เอตฺถ -สทฺเทน สมุจฺจิตํ ‘‘อาทินฺเน อาทินฺนสฺิโน’’ติ ตติยวิกปฺปํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยถาห ‘‘อาทินฺเน อาทินฺนสฺี, อนาปตฺตี’’ติ.

๑๖๓๐. ‘‘กปฺเป นฏฺเปิ วา’’ติอาทีหิ จ โยเชตพฺพํ. ปิ-สทฺเทน ‘‘กปฺปกโตกาเส ชิณฺเณ’’ติ อิทํ สมฺปิณฺเฑติ. ยถาห ‘‘กปฺปกโตกาโส ชิณฺโณ โหตี’’ติ. เตน กปฺปกเตนาติ สหตฺเถ กรณวจนํ. สํสิพฺพิเตสูติ เอตฺถ ‘‘อกปฺปกเตสู’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘กปฺปกเตน อกปฺปกตํ สํสิพฺพิตํ โหตี’’ติ. นิวาสนปารุปนํ กฺริยํ. กปฺปพินฺทุอนาทานํ อกฺริยํ.

ทุพฺพณฺณกรณกถาวณฺณนา.

๑๖๓๑-๔. ‘‘วิกปฺปนา นาม ทฺเว วิกปฺปนา สมฺมุขาวิกปฺปนา จ ปรมฺมุขาวิกปฺปนา จา’’ติ (ปาจิ. ๓๗๔) วุตฺตตฺตา ‘‘วิกปฺปนา ทุเว’’ติอาทิมาห. อิตีติ นิทสฺสเน, เอวนฺติ อตฺโถ. กถํ สมฺมุขาวิกปฺปนา โหตีติ อาห ‘‘สมฺมุขาย…เป… นิทฺทิเส’’ติ. เอกสฺสาติ เอตฺถ ‘‘พฺยตฺตสฺสา’’ติ เสโส. อิธ พฺยตฺโต นาม วิกปฺปนปจฺจุทฺธารณวิธึ ชานนฺโต.

ยถาวจนโยคโตติ ‘‘อิมํ จีวร’นฺติ วา, ‘อิมานิ จีวรานี’ติ วา, ‘เอตํ จีวร’นฺติ วา, ‘เอตานิ จีวรานี’ติ วา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙) อฏฺกถาย วุตฺตํ อนติกฺกมฺม, วจนสมฺพนฺธกฺกเมนาติ อตฺโถ. ตเทกเทสสรูปํ ทสฺเสติ ‘‘อิมํ จีวร’’นฺติ.

‘‘อปจฺจุทฺธฏโต’’ติ อิมินา ‘‘น กปฺปตี’’ติ เอตสฺส เหตุํ ทสฺเสติ.

๑๖๓๕. ‘‘สนฺตก’’มิจฺจาทิ ปจฺจุทฺธรณปฺปกาโร. ยถาปจฺจยํ กโรหีติ ตุยฺหํ รุจฺจนกํ กโรหีติ อตฺโถ.

๑๖๓๖. สมฺมุขาวิกปฺปนฺตรํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อปรา สมฺมุขา วุตฺตา’’ติอาทิ. อตฺตนา อภิรุจิตสฺส ยสฺส กสฺสจิ นามํ คเหตฺวาติ โยชนา. สหธมฺมินนฺติ เอตฺถ ‘‘ปฺจนฺน’’นฺติ เสโส, นิทฺธารเณ สามิวจนํ.

๑๖๓๙. เอวนฺติ วกฺขมานาเปกฺขํ. อปิ-สทฺโท ปน สทฺทสฺสตฺเถ.

๑๖๔๐. มิตฺโตติ ทฬฺหมิตฺโต, ‘‘เตน วตฺตพฺพํ ‘โก เต มิตฺโต วา สนฺทิฏฺโ วา’’ติ (ปาจิ. ๓๗๔) วจนโต อิทํ อุปลกฺขณํ. ปุน เตนปิ ภิกฺขุนา วตฺตพฺพนฺติ โยชนา.

๑๖๔๑-๒. ‘‘อหํ ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน ทมฺมี’ติ วา…เป… ‘ติสฺสาย สามเณริยา ทมฺมี’ติ วา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๖๙) เสสอฏฺกถาปาเน ‘‘อิท’’มิจฺจาทิปาโ โยเชตพฺโพ.

๑๖๔๓. ทฺวีสูติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ, เอตฺถ ‘‘วิกปฺปนาสู’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ.

๑๖๔๔-๕. อิธปน อิมสฺมึ สาสเน เยน ปน ภิกฺขุนา สห จีวรสามิเกน ตํ วินยกมฺมํ กตํ, ตสฺส อวิสฺสาเสน วิสฺสาสภาวํ วินา โส วินยกมฺมกโต ภิกฺขุ ตํ จีวรํ ปริภุฺเชยฺย, ตสฺส ภิกฺขุโน ปาจิตฺตีติ โยชนา. ฉนฺทานุรกฺขนตฺถํ ‘‘วินยํกมฺม’’นฺติ อนุสฺสาราคโม เวทิตพฺโพ, วินยกมฺมนฺติ อตฺโถ. ตํ จีวรํ อธิฏฺหนฺตสฺส วา วิสฺสชฺชนฺตสฺส วา ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.

๑๖๔๖. ปจฺจุทฺธารกวตฺเถสูติ ปจฺจุทฺธฏวตฺเถสุ. อปจฺจุทฺธารสฺิโนติ อปจฺจุทฺธฏสฺิโน. ตตฺถาติ อปจฺจุทฺธฏวตฺเถสุ. เวมติกสฺสาติ ‘‘ปจฺจุทฺธฏานิ นุ โข มยา, อปจฺจุทฺธฏานี’’ติ สํสยาปนฺนสฺส.

๑๖๔๗. ปจฺจุทฺธารณสฺิสฺสาติ ปจฺจุทฺธฏมิทนฺติ สฺิสฺส. วิสฺสาสาติ ยสฺส วา จีวรํ วิกปฺเปสิ, เตน อปจฺจุทฺธฏมฺปิ ตสฺส วิสฺสาสา ปริภุฺชโต จ. ยถาห ‘‘ตสฺส วา วิสฺสสนฺโต ปริภุฺชตี’’ติ (ปาจิ. ๓๗๖).

วิกปฺปนกถาวณฺณนา.

๑๖๔๘-๙. ‘‘ปตฺโต นาม ทฺเว ปตฺตา อโยปตฺโต มตฺติกาปตฺโต’’ติ (ปาจิ. ๓๗๙) ชาติยา กปฺปิยปตฺตานํ วุตฺตตฺตา อาห ‘‘อธิฏฺานุปคํ ปตฺต’’นฺติ. ตาทิสนฺติ อธิฏฺานุปคํ. สูจิฆรํ นาม สสูจิกํ วา อสูจิกํ วา. กายพนฺธนํ นาม ปฏฺฏิกา วา สูกรนฺตกํ วา. นิสีทนํ นาม สทสํ วุจฺจติ.

‘‘ปตฺตํ วา’’ติอาทีหิ อุปโยคนฺตปเทหิ ‘‘อปเนตฺวา นิเธนฺตสฺสา’’ติ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. นิเธนฺตสฺสาติ เอตสฺส ‘‘หสาเปกฺขสฺสา’’ติ วิเสสนํ. ยถาห ‘‘หสาเปกฺโขปีติ กีฬาธิปฺปาโย’’ติ (ปาจิ. ๓๗๙). ‘‘เกวล’’นฺติ อิมินา ทุนฺนิกฺขิตฺตสฺส ปฏิสามนาธิปฺปายาทิอฺาธิปฺปายาภาวํ ทีเปติ. วกฺขติ จ ‘‘ทุนฺนิกฺขิตฺตมนาปตฺติ, ปฏิสามยโต ปนา’’ติ.

๑๖๕๐. เตนาปีติ อาณตฺเตน. ตสฺสาติ อาณาปกสฺส. ติกทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ อนุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน ติกทุกฺกฏํ วุตฺตํ, อิมินา จ อุปสมฺปนฺนสนฺตเก ติกปาจิตฺติยนฺติ อิทฺจ วุตฺตเมว โหติ.

๑๖๕๑. อฺนฺติ ปาฬิยํ อนาคตํ ปตฺตตฺถวิกาทิปริกฺขารํ.

๑๖๕๒. สพฺเพสูติ ปาฬิยํ อาคเตสุ จ อนาคเตสุ จ สพฺเพสุ ปริกฺขาเรสุ.

๑๖๕๓. ธมฺมกถํ กตฺวาติ ‘‘สมเณน นาม อนิหิตปริกฺขาเรน ภวิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๗๗) อฏฺกถาคตนเยน ธมฺมกถํ กตฺวา. อนิหิตปริกฺขาเรนาติ อปฺปฏิสามิตปริกฺขาเรน. นิเธติ เจ, ตถา อนาปตฺตีติ โยชนา. อวิเหเสตุกามสฺสาติ วิเหสาธิปฺปายรหิตสฺส. อกีฬสฺสาติ กีฬาธิปฺปายรหิตสฺส เกวลํ วตฺตสีเสน ‘‘ปฏิสาเมตฺวา ทสฺสามี’’ติ อปนิเธนฺตสฺส.

๑๖๕๔. อทินฺนาทานสมุฏฺานาปตฺตีนํ อกุสลาทิวเสนปิ สจิตฺตกตฺตา อาห ‘‘อิทํ อกุสเลเนว สจิตฺต’’นฺติ.

จีวราปนิธานกถาวณฺณนา.

สุราปานวคฺโค ฉฏฺโ.

๑๖๕๕. ‘‘ติรจฺฉานคตํ ปาณ’’นฺติ อิมินา ‘‘โย ปน ภิกฺขุ สฺจิจฺจ ปาณํ ชีวิตา โวโรเปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๓๘๓) อิมสฺมึ สิกฺขาปเท อธิปฺเปตํ ปาณํ ทสฺเสติ. อาปตฺตินานตฺตาภาวา อาห ‘‘มหนฺตํ ขุทฺทกมฺปิ วา’’ติ. ยถาห ‘‘อิมสฺมิฺจ สิกฺขาปเท ติรจฺฉานคโตเยว ‘ปาโณ’ติ เวทิตพฺโพ, ตํ ขุทฺทกมฺปิ มหนฺตมฺปิ มาเรนฺตสฺส อาปตฺตินานากรณํ นตฺถิ, มหนฺเต ปน อุปกฺกมมหนฺตตฺตา อกุสลํ มหนฺตํ โหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๘๒). ‘‘มาเรนฺตสฺส อสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท. ‘‘ขุทฺทกมฺปิ วา มาเรนฺตสฺสา’’ติ อิมินา อฏฺกถายํ ‘‘อนฺตมโส มฺจปีํ โสเธนฺโต มงฺคุลพีชเกปิ ปาณสฺี นิกฺการุณิกตาย ตํ ภินฺทนฺโต อปเนติ, ปาจิตฺติยํ. ตสฺมา เอวรูเปสุ าเนสุ การุฺํ อุปฏฺเปตฺวา อปฺปมตฺเตน วตฺตํ กาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตวินิจฺฉโยปิ สงฺคหิโต.

๑๖๕๖. อุภยตฺถจาติ ปาเณ วา อปาเณ วาติ อุภยตฺถาปิ. อวเสสวินิจฺฉโย ปเนตฺถ มนุสฺสวิคฺคเห วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

สฺจิจฺจปาณกถาวณฺณนา.

๑๖๕๘. สปฺปาณกนฺติ สห ปาณเกหีติ สปฺปาณกํ. เย ปริโภเคน มรนฺติ, เอวรูปา อิธ ‘‘ปาณกา’’ติ อธิปฺเปตา. อสฺสาติ ภิกฺขุโน.

๑๖๕๙. ‘‘อวิจฺฉิชฺชา’’ติ อิมินา วิจฺเฉเทเนว ปโยคนานตฺตํ โหตีติ ทีเปติ. ปตฺตปูรมฺปีติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท พฺยติเรเก.

๑๖๖๐-๑. อสฺส ปาจิตฺติ ปริทีปิตาติ สมฺพนฺโธ. ตาทิเสนาติ สปฺปาณเกน. อาวิฺฉิตฺวานาติ ปริพฺภมิตฺวา. ยาคุโยติ เอตฺถ ‘‘อุณฺหา’’ติ สามตฺถิยา ลพฺภติ. อิทฺจ ปาณีนํ มารณตฺถํ ยํ กิฺจิ อุณฺหวตฺถุํ สปฺปาณเกน อุทเกน อนิพฺพาเปตุํ อุปลกฺขณํ. ตํ สปฺปาณกํ อุทกํ. นฺหายโตปิ วาติ เอตฺถ ปิ-สทฺเทน อฏฺกถายํ

‘‘อุทกโสณฺฑึ วา โปกฺขรณึ วา ปวิสิตฺวา พหิ นิกฺขมนตฺถาย วีจึ อุฏฺาปยโตปิ. โสณฺฑึ วา โปกฺขรณึ วา โสเธนฺเตหิ ตโต คหิตอุทกํ อุทเกเยว อาสิฺจิตพฺพํ. สมีปมฺหิ อุทเก อสติ กปฺปิยอุทกสฺส อฏฺ วา ทส วา ฆเฏ อุทกสณฺานกปฺปเทเส อาสิฺจิตฺวา ตตฺถ อาสิฺจิตพฺพํ. ‘ปวฏฺฏิตฺวา อุทเก ปติสฺสตี’ติ อุณฺหปาสาเณ อุทกํ นาสิฺจิตพฺพํ. กปฺปิยอุทเกน ปน ปาสาณํ นิพฺพาเปตฺวา อาสิฺจิตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๘๗) –

วุตฺตวินิจฺฉยํ สมฺปิณฺเฑติ.

๑๖๖๒. อุภยตฺถปีติ สปฺปาณเกปิ อปฺปาณเกปีติ อุภยตฺเถว.

๑๖๖๔-๖. ปาณปฏิพทฺธตาย การณํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ปตน’’นฺติอาทิ. สลภาทีนนฺติ ปฏงฺคาทีนํ . ตฺวาติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. เอวมุปริปิ. ปทีปุชฺชลนนฺติ เอตฺถ ‘‘วิยา’’ติ เสโส. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. สปฺปาณภาโวว สปฺปาณภาวตา, ตํ. ภุฺชโตติ ภุฺชิตพฺพโต.

สลภาทีนํ ปตนํ ตฺวาปิ สุทฺเธน เจตสา ปทีปุชฺชลนํ วิย สปาณภาวํ ตฺวาปิ ชลสฺาย ภุฺชิตพฺพโต เอตฺถ ปณฺณตฺติวชฺชตา เยฺยาติ โยชนา.

เอวํ สนฺเต สิฺจนสปฺปาณกสิกฺขาปทานํ อุภินฺนมฺปิ โก วิเสโสติ อาห ‘‘สิฺจเน’’ติอาทิ. สิฺจนํ สิฺจนสิกฺขาปทํ สิฺจเน วุตฺตํ สิฺจนวิสเย ปฺตฺตํ, อิทํ ปน สปฺปาณกสิกฺขาปทํ ปริโภเค วุตฺตํ อชฺโฌหารวิสเย ปฺตฺตนฺติ อยเมว ตสฺส เจว อสฺส จ วิเสโสติ โยชนา.

สปฺปาณกกถาวณฺณนา.

๑๖๖๗. ยถาธมฺมนฺติ โย ยสฺส อธิกรณสฺส วูปสมนาย ธมฺโม วุตฺโต, เตเนว ธมฺเมนาติ อตฺโถ. ‘‘กิจฺจาธิกรณ’’นฺติ อิมินา อิตรานิ อธิกรณานิ อุปลกฺขิตานิ. ยถาห ‘‘อธิกรณํ นาม จตฺตาริ อธิกรณานิ วิวาทาธิกรณํ อนุวาทาธิกรณํ อาปตฺตาธิกรณํ กิจฺจาธิกรณ’’นฺติ (ปาจิ. ๓๙๔). อปโลกนกมฺมาทีนิ จตฺตาริ สงฺฆกิจฺจํ นาม, ตเทว สมเถหิ อธิกรณียตฺตา วูปสเมตพฺพตฺตา อธิกรณนฺติ กิจฺจาธิกรณํ. ปุน นีหาตพฺพนฺติ ปุน นีหริตพฺพํ, วูปสเมตพฺพนฺติ อตฺโถ. อิมินา ‘‘อกตํ กมฺม’’นฺติอาทินา ปาฬิยํ ทสฺสิตา ทฺวาทส อุกฺโกฏา อุปลกฺขิตาติ ทฏฺพฺพา. อุกฺโกเฏนฺตสฺสาติ ตสฺส ตสฺส ภิกฺขุโน สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘อกตํ กมฺม’’นฺติอาทีนิ วตฺวา อุจฺจาเลนฺตสฺส ยถาปติฏฺิตภาเวน ปติฏฺาตุํ น เทนฺตสฺส. เอตฺถ จ ปติฏฺาตุํ น เทนฺตสฺสาติ ตสฺส ปวตฺติอาการทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ยํ ปน ธมฺเมน อธิกรณํ นิหฏํ, ตํ สุนิหฏเมว.

๑๖๖๘. ‘‘อกตํ กมฺมํ, ทุกฺกฏํ กมฺมํ, ปุน กาตพฺพํ กมฺม’’นฺติ วทตา วทนฺเตน ภิกฺขุนา ตํ กมฺมํ อุจฺจาเลตุํ น วฏฺฏตีติ โยชนา.

๑๖๖๙. วิปฺปกเตติ อารทฺธานิฏฺิเต. นฺติ ปฏิกฺโกสนฺตํ. สฺาเปตฺวาติ กตกมฺมสฺส อนวชฺชภาวํ าเปตฺวา. น ปนฺถาติ ตถา อสฺาเปตฺวา.

๑๖๗๐. อธมฺเม ปน กมฺมสฺมินฺติ ยถาปาฬิอาคเต กมฺมสฺมึ. อุภยตฺถาปีติ ธมฺมกมฺเม, อธมฺมกมฺเม วาติ อุภยตฺถ.

๑๖๗๑. น จ กมฺมารหสฺส วาติ เอตฺถ -สทฺโท ‘‘วคฺเคน จา’’ติ โยเชตพฺโพ. -สทฺโท วา-สทฺทตฺเถ ทฏฺพฺโพ. ‘‘อธมฺเมน, วคฺเคน วา น กมฺมารหสฺส วา กต’’นฺติ ชานโต อุกฺโกฏเน โทโส นตฺถีติ โยชนา.

อุกฺโกฏนกถาวณฺณนา.

๑๖๗๓. ‘‘ทุฏฺุลฺลา นาม อาปตฺติ จตฺตาริ จ ปาราชิกานิ เตรส จ สงฺฆาทิเสสา’’ติ (ปาจิ. ๓๙๙) วจนโต ปาราชิกานมฺปิ ทุฏฺุลฺลตฺตา, อิธ จ ปาราชิกสฺส อนธิปฺเปตตฺตา อิธาธิปฺเปตเมว ทสฺเสตุํ ‘‘สงฺฆาทิเสส’’นฺติ อิมินา ทุฏฺุลฺล-ปทํ วิเสสิตํ. ยถาห ‘‘เอตฺถ จตฺตาริ ปาราชิกานิ อตฺถุทฺธารวเสน ทสฺสิตานิ, สงฺฆาทิเสสาปตฺติ ปน อธิปฺเปตา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๓๙๙). ตฺวาติ สามํ วา อฺโต วา ชานิตฺวา. ฉาทยโต ตสฺส ปริยาปุตาติ ‘‘อิมํ ชานิตฺวา โจเทสฺสนฺติ, สาเรสฺสนฺติ, นาโรเจสฺสามี’’ติ ปฏิจฺฉาเทนฺตสฺส ตสฺส ปริยาปุตา เทสิตา.

๑๖๗๔-๕. ธุรํ นิกฺขิปิตฺวาติ ‘‘อฺสฺส น อาโรเจสฺสามี’’ติ ธุรนิกฺเขปํ กตฺวา. ตสฺสาติ ทุฏฺุลฺลสฺส. ปฏิจฺฉาทนํ เหตุ การณํ ยสฺส อาโรจนสฺสาติ วิคฺคโห. ปฏิจฺฉาทนเหตุกนฺติ อาโรจนกิริยาย วิเสสนํ, ‘‘อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามํ สงฺฆาทิเสสํ อาปนฺโน, อฺสฺส น อาโรเจหี’’ติ วตฺวา อาโรจนํ กโรตีติ วุตฺตํ โหติ. อิตีติ วุตฺตนิทสฺสเน, หีติ เอวการตฺเถ, เอวเมว วทตีติ อตฺโถ.

ยาว โกฏิ น ฉิชฺชติ, ตาว เอวํ ภิกฺขูนํ สตมฺปิ สหสฺสมฺปิ ตํ อาปตฺตึ อาปชฺชติ เอวาติ โยชนา.

๑๖๗๖. มูเลนาติ สงฺฆาทิเสสํ อาปนฺนปุคฺคเลน. อาโรจิตสฺส ทุติยสฺสาติ สมานาธิกรณํ. มูเลน ‘‘มม อาปตฺตึ อาปนฺนภาวํ อฺสฺส น อาโรเจหี’’ติ อาโรจิตสฺส ทุติยภิกฺขุสฺส สนฺติกา สุณนฺเตน ตติเยน นิวตฺติตฺวา ตสฺเสว ทุติยสฺส ปกาสิเต อาโรจนสฺส โกฏิ ฉินฺนาติ วุจฺจตีติ โยชนา. โกฏีติ อาโรจนกิริยาวสานํ วุจฺจติ.

๑๖๗๗. ทุฏฺุลฺลาย จ ทุฏฺุลฺลสฺีติ เอตฺถ ‘‘อาโรเจนฺโต’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ. อิตเรสุ ปน ทฺวีสูติ ทุฏฺุลฺลาย เวมติโก, อทุฏฺุลฺลสฺีติ ทฺวีสุ.

๑๖๗๘. อทุฏฺุลฺลายาติ ปฺจวิธาย ลหุกาปตฺติยา. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ วิกปฺเปสุ. ติกทุกฺกฏํ นิทฺทิฏฺนฺติ อทุฏฺุลฺลาย ทุฏฺุลฺลสฺิเวมติกอทุฏฺุลฺลสฺีนํ วเสน ทุกฺกฏตฺตยํ ปาฬิยํ (ปาจิ. ๔๐๐) ทสฺสิตนฺติ อตฺโถ. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ. อนุปสมฺปนฺนวาเรสูติ ตีสุ อนุปสมฺปนฺนวิกปฺเปสุ. ทุกฺกฏนฺติ อนุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน ติกทุกฺกฏนฺติ อตฺโถ.

๑๖๗๙-๘๐. ‘‘สงฺฆสฺส เภทนาทีนิ ภวิสฺสนฺตี’’ติอาทีหิ สพฺเพหิ ปเทหิ ‘‘น อาโรเจติ เจ, โทโส นตฺถี’’ติ อิทํ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. สภาคํ วา น ปสฺสตีติ ตถา อปสฺสนฺโต น อาโรเจติ เจ, โทโส นตฺถิ. กกฺขโฬ อยนฺติ น อาโรเจติ เจ, โทโส นตฺถิ.

๑๖๘๑. อฺสฺส อนาโรจเนน อาปชฺชิตพฺพโต ‘‘อกฺริย’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘อาโรเจตพฺพ’’นฺติ อนุฺาตสฺส อนาโรจนํ อนาทรมนฺตเรน น โหตีติ อาห ‘‘ทุกฺขเวทน’’นฺติ. เอตฺถ จ มาติกฏฺกถายํ ‘‘สมนุภาสนสทิสาเนวา’’ติ (กงฺขา. อฏฺ. ทุฏฺลฺลสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตํ, อิธ ‘‘ธุรนิกฺเขปตุลฺยาวา’’ติ, อุภยตฺถ นามมตฺตเมว วิเสโส, เอกเมว สมุฏฺานนฺติ เวทิตพฺพํ.

ทุฏฺุลฺลกถาวณฺณนา.

๑๖๘๒. อูนวีสติวสฺสนฺติ เอตฺถ ‘‘ชาน’’นฺติ เสโส, ‘‘อูนวีสติวสฺโส’’ติ ชานนฺโตติ อตฺโถ. อูนวีสติวสฺโส นาม ปฏิสนฺธิโต ปฏฺาย อปริปุณฺณวีสติสํวจฺฉโร. โยติ โย ภิกฺขุ อุปชฺฌาโย หุตฺวา. กเรยฺยาติ การาเปยฺย. อุปสมฺปชฺชตีติ อุปสมฺปโท, ตํ. โย ชานํ อูนวีสติวสฺสํ ปุคฺคลํ อุปสมฺปทํ อุปสมฺปนฺนํ กเรยฺย, ตสฺส เอวํ อุปสมฺปาเทนฺตสฺส ภิกฺขุโน ปาจิตฺติยํ โหตีติ โยชนา. เสสานนฺติ ‘‘คณสฺส จ อาจริยสฺส จ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๐๔) ปาฬิยํ ทสฺสิตานํ คหณํ.

๑๖๘๓. อูนวีสติวสฺสภาวํ ชานตา วา อชานตา วา ภิกฺขุนา โย ปุคฺคโล เจ อุปสมฺปาทิโต, โส อนุปสมฺปนฺโนว โหติ, ปุน โส ปริปุณฺณวีสติวสฺโส สมาโน อุปสมฺปนฺโน กาตพฺโพ อุปสมฺปาเทตพฺโพเยวาติ โยชนา.

๑๖๘๔. ทสวสฺสจฺจเยน ปริปุณฺณทสวสฺโส หุตฺวา อุปชฺฌายสฺส สโต อสฺส ภิกฺขุปฏิฺสฺส อฺเสํ อุปสมฺปาทเน โกจิ โทโส เจ เอกํเสน นตฺถิ น วิชฺชตีติ โยชนา.

๑๖๘๕. ตํ ภิกฺขุนฺติ อูนวีสติวสฺโส หุตฺวา อุปสมฺปชฺชิตฺวา ปริปุณฺณทสวสฺโส อุปชฺฌาโย หุตฺวา อุปสมฺปาเทนฺตํ ตํ ภิกฺขุปฏิฺํ. คโณ เจ ปริปูรตีติ มชฺฌิมเทเส ทสวคฺโค, ปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ ปฺจวคฺโค คโณ สเจ อนูโน โหติ. เตติ อุปสมฺปาทิตา. สูปสมฺปนฺนาติ สุฏฺุ อุปสมฺปนฺนา.

๑๖๘๖-๗. โย ภิกฺขุ อุปชฺฌาโย หุตฺวา ‘‘อูนวีสติวสฺสปุคฺคลํ อุปสมฺปาทยิสฺสามิ’’อิติ คณมฺปิ วา อาจริยมฺปิ วา ปตฺตมฺปิ วา ปริเยสติ, มาฬกฺจ สมฺมนฺนติ พทฺธสีมํ พนฺธติ, ตสฺส สพฺเพสุ ปโยเคสุ ทุกฺกฏํ. ตถา ตฺติยา ทุกฺกฏํ. ตถา ทฺวีสุ กมฺมวาจาสุปิ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.

๑๖๘๘-๙. วีสติ จ ตานิ วสฺสานิ จาติ วีสติวสฺสานิ, อูนานิ วีสติวสฺสานิ ยสฺส โส อูนวีสติวสฺโส, อูนวีสติวสฺโสติ สฺา อูนวีสติวสฺสสฺา, สา เอตสฺส อตฺถีติ ‘‘อูนวีสติวสฺสสฺี’’อิติ วตฺตพฺเพ นิปาตนลกฺขเณน วสฺส-สทฺทโลปํ กตฺวา ‘‘อูนวีสติสฺี’’ติ วุตฺตํ, ตสฺส อูนวีสติสฺิสฺส. ปริปุณฺณานิ วีสติวสฺสานิ เอตสฺสาติ ‘‘ปริปุณฺณวีสติวสฺโส’’ติ วตฺตพฺเพ นิปาตนลกฺขเณน วีสติวสฺส-สทฺทโลปํ กตฺวา ‘‘ปริปุณฺโณ’’ติ ปุคฺคโล วุจฺจติ, ตสฺมึ ปริปุณฺเณ, ปริปุณฺณวีสติวสฺเส ปุคฺคเลติ อตฺโถ. อุภยตฺถาติ อูนวีสติปริปุณฺณวีสติวสฺเสสุ อุโภสุ ปุคฺคเลสุ.

อูนวีสติวสฺสกถาวณฺณนา.

๑๖๙๑. เถยฺยสตฺเถนสทฺธินฺติ ‘‘เถยฺยสตฺโถ นาม โจรา กตกมฺมา วา โหนฺติ อกตกมฺมา วา’’ติอาทินา (ปาจิ. ๔๐๙) ปทภาชเน วุตฺตสรูเปน สตฺถสงฺขาเตน ชนสมูเหน สหาติ วุตฺตํ โหติ. สหาทิโยเค กรณวจนํ. ชานนฺโตติ ‘‘เถยฺยสตฺโถ’’ติ ชานนฺโต. สํวิธายาติ ‘‘คจฺฉามาวุโส, คจฺฉาม ภนฺเต, คจฺฉามาวุโส, อชฺช วา หิยฺโย วา ปเร วา อปเร วา คจฺฉามา’’ติ ปทภาชเน วุตฺตนเยน สํวิทหิตฺวาติ อตฺโถ. มคฺคนฺติ เอกทฺธานมคฺคํ, เอตฺถ ‘‘อนฺตมโส คามนฺตรมฺปี’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘เอกทฺธานมคฺคํ ปฏิปชฺเชยฺย อนฺตมโส คามนฺตรมฺปี’’ติ. ปาจิตฺติยํ สิยาติ ‘‘คาเม คามนฺตเร คามนฺตเร อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. อคามเก อรฺเ อทฺธโยชเน อทฺธโยชเน อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ วุตฺตปฺปการํ ปาจิตฺติยํ ภเวยฺย.

๑๖๙๒. น อุทฺธโฏติ อิธ น วุตฺโต.

๑๖๙๓-๔. มคฺคาฏวิวิสงฺเกเตติ มคฺควิสงฺเกเต, อฏวิวิสงฺเกเต จ. ยถาวตฺถุกเมวาติ ปาจิตฺติยเมว. เตสูติ สตฺถิเกสุ. อสํวิทหนฺเตสูติ สํวิธานํ อกโรนฺเตสุ. สยํ วิทหโตปิ จาติ อตฺตนา สํวิทหนฺตสฺส จ. อุภยตฺถาติ เถยฺยสตฺเถ วา อเถยฺยสตฺเถ วาติ ทฺวีสุ.

๑๖๙๕. อเถยฺยสตฺถสฺิสฺสาติ เอตฺถ ‘‘อุภยตฺถา’’ติ อนุวตฺเตตพฺพํ. กาลสฺสายนฺติ กาลิโก, วิสงฺเกโต, ตสฺมึ, กาลสมฺพนฺธินิ วิสงฺเกเต จ อนาปตฺตีติ อตฺโถ. ‘‘กาลิเก’’ติ อิมินา วิสงฺเกตวิเสสเนน มคฺคาฏวิวิสงฺเกเตปิ อาปตฺติเยวาติ ทีเปติ.

๑๖๙๖. กายจิตฺตโต , กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺานโต อิทํ สิกฺขาปทํ เถยฺยสตฺถสมุฏฺานํ กถิตนฺติ โยชนา.

เถยฺยสตฺถกถาวณฺณนา.

๑๖๙๗. สตฺตมนฺติ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ มาตุคาเมน สทฺธึ สํวิธายา’’ติอาทินา (ปาจิ. ๔๑๓) อุทฺทิฏฺํ สตฺตมสิกฺขาปทํ. ภิกฺขุนิยา สทฺธึ สํวิธาเนนาติ ภิกฺขุนิยา สทฺธึ สํวิธานสิกฺขาปเทน. สมุฏฺานาทินาติ สมุฏฺานาทินา วินิจฺฉเยน. ตุลฺยนฺติ สทิสํ. โกจิปีติ อปฺปมตฺตโกปิ.

สํวิธานกถาวณฺณนา.

๑๖๙๘. เอเต ปฺจ ธมฺมา อนฺตรายกราติ ปกาสิตาติ โยชนา. อิธ อยํ อนฺตรายกร-สทฺโท ปาฬิยํ อาคเตน อนฺตรายิก-สทฺเทน สมานตฺโถ. ตสฺมา กมฺมนฺตรายิกา, กิเลสนฺตรายิกา, วิปากนฺตรายิกา, อุปวาทนฺตรายิกา, อาณาวีติกฺกมนฺตรายิกาติ อิเม ปฺจ อนฺตรายิกา ธมฺมา ภควตา ปกาสิตาติ วุตฺตํ โหติ.

ตตฺถ ตํตํสมฺปตฺติยา วิพนฺธนวเสน สตฺตสนฺตานสฺส อนฺตเร เวมชฺเฌ เอติ อาคจฺฉตีติ อนฺตราโย, ทิฏฺธมฺมิกาทิอนตฺโถ, อนติกฺกมนฏฺเน ตสฺมึ อนฺตราเย นิยุตฺตา, อนฺตรายํ วา ผลํ อรหนฺติ, อนฺตรายสฺส วา กรณสีลาติ อนฺตรายิกา (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๔๑๗; กงฺขา. อภิ. ฏี. อริฏฺสิกฺขาปทวณฺณนา).

ปฺจานนฺตริยกมฺมาเนว กมฺมนฺตรายิกา, ตถา ภิกฺขุนิทูสกกมฺมํ. ตํ ปน โมกฺขสฺเสว อนฺตรายํ กโรติ, น สคฺคสฺส. อิทฺจ มิจฺฉาจารลกฺขณสฺส อภาวโต วุตฺตํ. น หิ ภิกฺขุนิยา ธมฺมรกฺขิตภาโว อตฺถิ. ปากติกภิกฺขุนิวเสน เจตํ วุตฺตํ. อริยาย ปน ปวตฺตํ อปายสํวตฺตนิกเมว. นนฺทมาณวโก (ม. นิ. อฏฺ. ๓.๗; ธ. ป. อฏฺ. ๑.๖๘ อุปฺปลวณฺณตฺเถรีวตฺถุ; อ. นิ. อฏฺ. ๒.๓.๓๔) เจตฺถ นิทสฺสนํ. อุภินฺนํ สมานจฺฉนฺทตาวเสน วา น สคฺคนฺตรายิกตา, โมกฺขนฺตรายิกตา ปน โมกฺขตฺถาย ปฏิปตฺติยา วิทูสนโต. อภิภวิตฺวา ปน ปวตฺติยา สคฺคนฺตรายิกตาปิ น สกฺกา นิวาเรตุนฺติ วทนฺติ.

อเหตุกทิฏฺิอกิริยทิฏฺินตฺถิกทิฏฺิสงฺขาตา มิจฺฉาทิฏฺิธมฺมา นิยตภาวปฺปตฺตา กิเลสนฺตรายิกา นาม. ปณฺฑกติรจฺฉานคตอุภโตพฺยฺชนกานํ ปฏิสนฺธิจิตฺตุปฺปาทธมฺมา วิปากนฺตรายิกา นาม. ปณฺฑกาทิคฺคหณฺเจตฺถ นิทสฺสนมตฺตํ สพฺพายปิ อเหตุกปฏิสนฺธิยา วิปากนฺตรายิกภาวโต . อริยูปวาทา อุปวาทนฺตรายิกา นาม. เต ปน ยาว อริเย น ขมาเปนฺติ, ตาวเทว, น ตโต ปรํ. สฺจิจฺจ อาปนฺนา สตฺตาปตฺติกฺขนฺธา อาณาวีติกฺกมนฺตรายิกา นาม. เตปิ ยาว ภิกฺขุภาวํ วา ปฏิชานาติ, น วุฏฺาติ วา น เทเสติ วา, ตาวเทว, น ตโต ปรํ.

๑๖๙๙-๗๐๐.

‘‘อนนฺตรายิกา เอเต;

ยถา โหนฺติ ตถา อหํ;

เทสิตํ มุนินา ธมฺมํ;

อาชานามีติ โย วเท’’ติ. –

เอวํ ทุติยคาถา วตฺตพฺพา. ตถา อวุตฺเต ‘‘ติกฺขตฺตุ’’นฺติอาทิคาถา ปมคาถาย สทฺธึ ฆฏนา เอว น สิยา. ตสฺมา เอตฺถายํ คาถา ปริหีนาติ วิฺายติ.

เอเตติ ‘‘อนฺตรายิกา’’ติ ภควตา ปกาสิตา ปฺจ ธมฺมา ‘‘ยถา อนนฺตรายิกา โหนฺติ, ตถา อหํ มุนินา เทสิตํ ธมฺมํ อาชานามี’’ติ โย ภิกฺขุ วเทยฺย, โส ปน ภิกฺขุ ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺโพติ สมฺพนฺโธ. เกหิ กถํ วตฺตพฺโพติ อาห ‘‘เย ปสฺสนฺตี’’ติอาทิ. เย ตถาวาทิตํ ภิกฺขุํ ปสฺสนฺติ, ‘‘อสุโก อายสฺมา เอวํวาที’’ติ ปรโต สุณนฺติ จ, เตหิ. โส ปน ภิกฺขุ ‘‘มา อายสฺมา เอวํ อวจา’’ติ ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺโพติ โยชนา.

๑๗๐๑. อวทนฺตสฺสาติ ตํ ทิสฺวา วา สุตฺวา วา ยถาวุตฺตนเยน อวทนฺตสฺส. ทุกฺกฏนฺติ าตทุกฺกฏํ. ตํ ทุลทฺธึ. อนิสฺสชโตติ ภิกฺขูหิ เอวํ วุตฺเตปิ อนิสฺสชนฺตสฺส. ตถา ทุกฺกฏนฺติ อติทิสติ.

๑๗๐๒. กมฺมวาจายาติ ตติยาย กมฺมวาจาย. โอสาเนติ ปริโยสาเน, ยฺยกาเร ปตฺเตติ อธิปฺปาโย. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺี น ปฏินิสฺสชฺชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. ธมฺมกมฺเม เวมติโก น ปฏินิสฺสชฺชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. ธมฺมกมฺเม อธมฺมกมฺมสฺี น ปฏินิสฺสชฺชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๒๑) ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. อธมฺเม ติกทุกฺกฏํ วุตฺตนฺติ อธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺิเวมติกอธมฺมกมฺมสฺีนํ วเสน ติกทุกฺกฏํ วุตฺตํ.

๑๗๐๓. ‘‘อนาปตฺติ อกตกมฺมสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท. กมฺมํ นาม สมนุภาสนกมฺมํ. ยถาห ‘‘อนาปตฺติ อสมนุภาสนฺตสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๒๒).

อริฏฺกถาวณฺณนา.

๑๗๐๔. ตฺวาติ อโนสาริตภาวํ สยเมว วา ปรโต วา ตสฺส วา สนฺติกา ตฺวา. อกตานุธมฺเมนาติ อกโต โอสารณสงฺขาโต อนุธมฺโม ยสฺส โส อกตานุธมฺโม, เตน, สหโยเค กรณวจนํ. ตถาวาทิกภิกฺขุนาติ ‘‘ตถาหํ ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามี’’ติอาทึ วทนฺเตน ภิกฺขุนา. ‘‘อกตานุธมฺเมนา’’ติ อิมินา สมานาธิกรณํ. สํวเสยฺยาติ อุโปสถาทิกํ สงฺฆกมฺมํ กเรยฺย. ภุฺเชยฺย จาติ อามิสสมฺโภคํ วา ธมฺมสมฺโภคํ วา กเรยฺย. สห เสยฺย วาติ นานูปจาเรปิ เอกจฺฉนฺเน นิปชฺเชยฺย.

๑๗๐๕. อิทานิ ยถาวุตฺตปาจิตฺติยสฺส เขตฺตนิยมํ ทสฺเสตุมาห ‘‘อุโปสถาทิกํ กมฺม’’นฺติอาทิ. อาทิ-สทฺเทน ปวารณํ คหิตํ. ยถาห ‘‘อุโปสถํ วา ปวารณํ วา’’ติ (ปาจิ. ๔๒๕). เตน สหาติ อุกฺขิตฺตเกน สห. ‘‘กมฺมสฺส ปริโยสาเน’’ติ อิทํ สํวาเสน อาปตฺติเขตฺตนิทสฺสนํ.

๑๗๐๖. เอเกเนว ปโยเคน พหุํ ยามกาลิกาทิอามิสํ คณฺหโต เอกํ ปาจิตฺติยํ. ตถา เอเกเนว ปโยเคน พหุํ อามิสํ ททโตปิ เอกํ ปาจิตฺติยํ. พหูสุ ปโยเคสุ พหูนิ ปาจิตฺติยานีติ โยชนา. อิมินา จ อามิสสมฺโภเคน ตุลฺยผลํ ธมฺมสมฺโภคมฺปิ สหจริเยน อาหาติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ ปน ปทาทีหิ อุทฺทิสนฺตสฺส วา อุทฺทิสาเปนฺตสฺส วา ปทโสธมฺเม วุตฺตนเยน อาปตฺติ เวทิตพฺพา.

๑๗๐๗. อิตโรติ ปกตตฺโต. อิตรสฺมินฺติ อุกฺขิตฺตเก. ปโรติ ปกตตฺโต. อุโภปิ วาติ ปกตตฺตอุกฺขิตฺตา ทฺเวปิ วา. ‘‘เอกตฺถ เอกโต นิปชฺชนฺตี’’ติ เสโส. อิเมสุ ตีสุปิ าเนสุ ‘‘ปาจิตฺตี’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ.

๑๗๐๘. อุฏฺหิตฺวา ปุนปฺปุนํ นิปชฺชนฺตสฺส นิปชฺชนปโยคานํ วเสน อาปตฺติโย สิยุนฺติ อชฺฌาหารโยชนา กาตพฺพา. ‘‘อุกฺขิตฺตเก นิปนฺนสฺมิ’’นฺติอาทินา วุตฺตาปตฺติวินิจฺฉโย กตฺถ โหตีติ อาห ‘‘เอกนานูปจาเรสุ, เอกจฺฉนฺเน วินิจฺฉโย’’ติ. นานูปจาเรสูติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท จ ‘‘วินิจฺฉโย’’ติ เอตฺถ อยนฺติ จ โยเชตพฺโพ. เอโก อุปจาโร อสฺสาติ เอกูปจารํ, นานา อุปจาโร อสฺสาติ นานูปจารํ, เอกูปจารฺจ นานูปจารฺจ เอกนานูปจารานิ เอกเทสสรูเปกเสเสน, เตสุ. เอกโต ฉนฺนานิ เอกจฺฉนฺนานิ, เตสุ เอกจฺฉนฺเนสูติ วตฺตพฺเพ วณฺณโลเปน วา วจนวิปลฺลาเสน วา ‘‘เอกจฺฉนฺเน’’ติ วุตฺตํ. เอกนานูปจาเรสุปิ เสนาสเนสุ เอกจฺฉนฺเนสุ อยํ ยถาวุตฺตอาปตฺติวินิจฺฉโย ทฏฺพฺโพติ อตฺโถ.

๑๗๐๙. อุภยตฺถาปีติ อุกฺขิตฺตานุกฺขิตฺเตสุ ทฺวีสุปิ.

๑๗๑๐. ‘‘สฺิสฺส โอสาริโตติ จา’’ติ ปทจฺเฉโท.

อุกฺขิตฺตกถาวณฺณนา.

๑๗๑๒. ตถา วินาสิตนฺติ ‘‘อชฺชตคฺเค เต อาวุโส สมณุทฺเทส น เจว โส ภควา สตฺถา อปทิสิตพฺโพ, ยมฺปิ จฺเ สมณุทฺเทสา ลภนฺติ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ทิรตฺตติรตฺตํ สหเสยฺยํ, สาปิ เต นตฺถิ, จร ปิเร วินสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๒๙) วุตฺตนเยน นาสิตํ. ‘‘ตถา นาสิตํ สมณุทฺเทส’’นฺติ (ปาจิ. ๔๒๘) วจนโต ‘‘สมณุทฺเทส’’นฺติ เสโส. ชานนฺติ วุตฺตนเยน ‘‘นาสิโต อย’’นฺติ ชานนฺโต. อุปลาเปยฺยาติ ‘‘อุปลาเปยฺย วาติ ตสฺส ปตฺตํ วา จีวรํ วา อุทฺเทสํ วา ปริปุจฺฉํ วา ทสฺสามี’’ติ (ปาจิ. ๔๓๐) ปทภาชเน อาคตนเยน สงฺคณฺเหยฺย. เตนาติ นาสิเตน. อุปฏฺาเปยฺย วาติ เตน ทิยฺยมานานิ จุณฺณมตฺติกาทีนิ สาทิยนฺโต เตน อตฺตโน อุปฏฺานํ การาเปยฺย วา. ‘‘เตนา’’ติ อิทํ สหตฺเถ กรณวเสน ‘‘สมฺภุฺเชยฺยา’’ติอาทีหิ จ โยเชตพฺพํ. วาติ เอตฺถ คาถาพนฺธวเสน รสฺโส. สมฺโภคสหเสยฺยา อนนฺตรสิกฺขาปเท วุตฺตนยา เอว. ตสฺมา อาปตฺติปริจฺเฉโทเปตฺถ ตสฺมึ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

๑๗๑๓. อตฺถุทฺธารวเสน อฏฺกถายํ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๒๘) วุตฺตา ติสฺโส นาสนา ทสฺเสตุมาห ‘‘สํวาเสน…เป… ติสฺโส’’ติ. ตตฺถ ตีสุ กตมา อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘เอตฺถา’’ติอาทิ. ทณฺฑกมฺเมน นาสนา เอตฺถ อธิปฺเปตาติ โยชนา. เอตาสํ วิภาโค จ ‘‘ตตฺถ อาปตฺติยา อทสฺสนาทีสุ อุกฺเขปนา สํวาสนาสนา นาม. ‘ทูสโก นาเสตพฺโพ, เมตฺติยํ ภิกฺขุนึ นาเสถา’ติ อยํ ลิงฺคนาสนา นาม. ‘อชฺชตคฺเค เต อาวุโส สมณุทฺเทส น เจว โส ภควา สตฺถา อปทิสิตพฺโพ’ติ อยํ ทณฺฑกมฺมนาสนา นามา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๒๘) อฏฺกถาย วุตฺโต.

๑๗๑๕. ‘‘วุตฺตา สมนุภาสเน’’ติ (วิ. วิ. ๑๗๐๓) ตตฺถ วุตฺตตฺตา อาห ‘‘อริฏฺเน สมา มตา’’ติ.

กณฺฏกกถาวณฺณนา.

สปฺปาณกวคฺโค สตฺตโม.

๑๗๑๖-๗. โย ภิกฺขุ สิกฺขาปทํ วีติกฺกมนฺโต ตํ วีติกฺกมํ เย ปสฺสนฺติ, สุณนฺติ จ, เตหิ ภิกฺขูหิ สิกฺขาปเทน วุจฺจมาโน ‘‘มาวุโส เอวํ อกาสิ, น กปฺปติ เอตํ ภิกฺขุสฺสา’’ติ สิกฺขาปเท วุตฺตนเยน วุจฺจมาโน ‘‘เอตสฺมึ สิกฺขาปเท เยน มํ ตุมฺเห วเทถ, เอตสฺมึ สิกฺขาปทตฺเถ ยาว อฺํ วิยตฺตํ พหุสฺสุตํ ปกตฺุํ วินยธรํ น ปุจฺฉามิ, ตาว อหํ น สิกฺขิสฺสามี’’ติ ภณติ, ตสฺส เอวํ ภณนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ สิยาติ สาธิปฺปายโยชนา.

๑๗๑๘-๙. อนุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน อนุปสมฺปนฺเน สตฺถุนา ติกทุกฺกฏํ ทีปิตนฺติ โยชนา, อิมินา จ อุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน อุปสมฺปนฺเน ติกปาจิตฺติยํ ทีปิตํ โหติ. อปฺตฺเตน โอวทนปฺปการํ ทสฺเสตุมาห ‘‘น สลฺเลขายิทํ โหตี’’ติ. อุโภหิปิ อุปสมฺปนฺนานุปสมฺปนฺเนหิ . ‘‘อิทํ สลฺเลขาย น โหตี’’ติ อปฺตฺเตน วุจฺจมานสฺส ‘‘น ตาวาห’’นฺติอาทีนิ วทโต ตสฺส ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา. ‘‘น โทโส อุมฺมตฺตกาทีน’’นฺติ ปทจฺเฉโท.

สหธมฺมิกกถาวณฺณนา.

๑๗๒๐. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ปาติโมกฺเข อุทฺทิสฺสมาเน เอวํ วเทยฺยา’’ติอาทิสิกฺขาปทปาโต (ปาจิ. ๔๓๙) อุทฺทิฏฺเหีติ เอตฺถ ‘‘ขุทฺทานุขุทฺทเกหิ สิกฺขาปเทหี’’ติ เสโส. ปาราชิกํ เปตฺวา อวเสสา อุปาทายุปาทาย ขุทฺทานุขุทฺทกาติ นิทฺทิฏฺา. เอตฺถ กินฺติ ปฏิกฺเขเป, เอเตหิ กึ, ปโยชนํ นตฺถีติ วุตฺตํ โหติ. เอเตหีติ สมีปตฺเถ วจนสามฺเน ‘‘อิเมหี’’ติ เอตสฺส ปริยาโย. ‘‘กึ ปนิเมหี’’ติ (ปาจิ. ๔๓๙) สิกฺขาปทปาเ ปฏิกฺเขปสฺส การณํ ทสฺเสติ ‘‘กุกฺกุจฺจาทินิทานโต’’ติ. เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน วิเหสาวิเลขา คหิตา. เอตฺถ กุกฺกุจฺจํ นาม ‘‘กปฺปติ นุ โข, น กปฺปติ นุ โข’’ติ กุกฺกุจฺจกรณํ. วิเหสา นาม วิปฺปฏิสาโร. วิเลขา นาม วิจิกิจฺฉาสงฺขาตา มโนวิเลขตา มโนวิเลขา, อิเมหิ สกเลหิ ปเทหิ สิกฺขาปทวิวณฺณกปฺปกาโร ทสฺสิโต. ‘‘อิติ สิกฺขาปทวิวณฺณเน’’ติ อิติ-สทฺโท อชฺฌาหริตฺวา โยเชตพฺโพ. วิวณฺณเนติ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ.

กุกฺกุจฺจาทินิทานโต เอเตหิ ขุทฺทานุขุทฺทเกหิ สิกฺขาปเทหิ อุทฺทิฏฺเหิ กึ อิติ สิกฺขาปทวิวณฺณเน ปาจิตฺติยาปตฺติ โหตีติ โยชนา.

๑๗๒๑. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘อุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺี วินยํ วิวณฺเณติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. อุปสมฺปนฺเน เวมติโก…เป… อนุปสมฺปนฺนสฺี…เป… ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๔๑) ตีณิ ปาจิตฺติยานิ วุตฺตานิ. ตํ วินยํ สเจ ปน อนุปสมฺปนฺนสฺส สนฺติเก วิวณฺเณติ, ติกทุกฺกฏนฺติ โยชนา.

๑๗๒๒-๔. อุภินฺนมฺปีติ อุปสมฺปนฺนานํ, อนุปสมฺปนฺนานํ อุภินฺนมฺปิ, ‘‘สนฺติเก’’ติ เสโส. อฺธมฺมวิวณฺณเนติ วินยโต อฺเสํ สุตฺตาภิธมฺมานํ วิวณฺณเน.

อนาปตฺติวิสยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘นวิวณฺเณตุกามสฺสา’’ติอาทิ. นวิวณฺเณตุกามสฺส ‘‘หนฺท สุตฺตนฺตํ ปริยาปุณ, ปจฺฉาปิ วินยํ ปริยาปุณิสฺสสิ’’ อิติ เอวํ วทนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. สทิสา เอว สาทิสา.

วิเลขนกถาวณฺณนา.

๑๗๒๕. โมหนกถายํ ตาว –

‘‘อนฺวฑฺฒมาสํ โย ภิกฺขุ;

ปาติโมกฺเข อเสสโต;

อุทฺทิสฺสมาเน อฺาณ-

ตาย ปุจฺฉติ อตฺตโน’’ติ. –

ปมคาถาย ภวิตพฺพํ. เอวฺหิ สติ ‘‘อฺาเณนา’’ติอาทิคาถา ปริปุณฺณสมฺพนฺธา สิยาติ วิฺายติ.

อฺาเณนาติ เอตฺถ วา ‘‘อาปนฺนตฺตา’’ติ เสโส. อาปตฺติโมกฺโขติ อาปตฺติยา โมกฺโข. อฺาเณน อาปนฺนตฺตา อาปตฺติโมกฺโข เนว วิชฺชตีติ โยชนา. กึ กาตพฺพนฺติ อาห ‘‘กาเรตพฺโพ’’ติอาทิ. ยถา ธมฺโม ิโต, ตถา ภิกฺขุ กาเรตพฺโพติ สมฺพนฺโธ. ธมฺม-สทฺโท ปาฬิวาจโก, ปาฬิยํ ยถา วุตฺตํ, ตถา กาเรตพฺโพติ อตฺโถ, เทสนาคามินี อาปตฺติ เจ, เทสาเปตพฺโพ, วุฏฺานคามินี เจ, วุฏฺาเปตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘ยถาธมฺโม กาเรตพฺโพ’’ติ (ปาจิ. ๔๔๔). อฺาเณน อาปนฺนตฺตา ตสฺส อาปตฺติยา โมกฺโข นตฺถิ. ยถา ปน ธมฺโม จ วินโย จ ิโต, ตถา ภิกฺขุ กาเรตพฺโพ, เทสนาคามินึ เจ อาปนฺโน โหติ, เทสาเปตพฺโพ, วุฏฺานคามินึ เจ, วุฏฺาเปตพฺโพติ อตฺโถ.

๑๗๒๖. อุตฺตรินฺติ ยถาธมฺมกรณโต อุตฺตรึ. ทุติเยเนวาติ ตฺติทุติเยเนว. นินฺทิตฺวาติ ‘‘ตสฺส เต อาวุโส อลาภา’’ติอาทินา ครหิตฺวา.

๑๗๒๗. เอวํอาโรปิเต โมเหติ ยถาธมฺมกรณโต อุปริ ยถาวุตฺตนเยน ตํ ปุคฺคลํ ครหิตฺวา ตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย ตสฺส เอวํ โมเห อาโรปิเต. ปุน ยทิ โมเหตีติ โยชนา. ตสฺมึ โมหนเก ปุคฺคเล ปาจิตฺติ วุตฺตาติ โยชนา.

๑๗๒๘. ทีปิตํ ติกทุกฺกฏนฺติ ‘‘อธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺี โมเหติ, เวมติโก, อธมฺมกมฺมสฺี โมเหติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๔๗) ติกทุกฺกฏํ ทสฺสิตํ. เอตสฺส วิปริยายโต ติกปาจิตฺติยํ เวทิตพฺพํ. ยถาห ‘‘ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺี โมเหติ, เวมติโก, อธมฺมกมฺมสฺี โมเหติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๔๗). เอตฺถ กมฺมนฺติ โมหาโรปนกมฺมํ อธิปฺเปตํ. ยถาห ‘‘ธมฺมกมฺเมติอาทีสุ โมหาโรปนกมฺมํ อธิปฺเปต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๔๗).

๑๗๒๙-๓๐. ‘‘น จ โมเหตุกามสฺสา’’ติอาทีหิ ‘‘อนาปตฺตีติ วิฺเยฺย’’นฺติ อิทํ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. ‘‘วิตฺถาเรน อสุตสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท. เอตฺถ ‘‘ปาติโมกฺข’’นฺติ กมฺมปทํ อเปกฺขิตพฺพํ. วิตฺถาเรน อูนกทฺวตฺติกฺขตฺตุํ สุตสฺส จาติ โยชนา. ตถาติ อิมินา ‘‘อนาปตฺตีติ วิฺเยฺย’’นฺติ อิทํ ปจฺจามสติ.

โมหนกถาวณฺณนา.

๑๗๓๑-๒. กุทฺโธติ กุปิโต. ปหารํ เทตีติ กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วา นิสฺสคฺคิเยน วา อนฺตมโส อุปฺปลปตฺเตนาปิ ปหารํ เทติ. ยถาห ‘‘ปหารํ ทเทยฺยาติ กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วา นิสฺสคฺคิเยน วา อนฺตมโส อุปฺปลปตฺเตนาปิ ปหารํ เทตี’’ติ (ปาจิ. ๔๕๑). เอตฺถ ‘‘อฺสฺส ภิกฺขุสฺสา’’ติ เสโส. ตสฺสาติ อเปกฺขิตฺวา ‘‘โย’’ติ ลพฺภติ.

อฏฺกถาคตํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สมฺปหริตุกาเมนา’’ติอาทิ, อิมินา มรณาธิปฺปาเยน ปหเฏ ปาราชิกนฺติ วุตฺตํ โหติ.

๑๗๓๓. ‘‘อิติ เอวํ กเต อยํ สงฺฆมชฺเฌน วิโรจตี’’ติ วิรูปกรณาเปกฺโข วิรูปกรเณ อเปกฺขวา ตสฺส จ อเปกฺขิตสฺส ภิกฺขุสฺส กณฺณํ วา นาสํ วา ยทิ ฉินฺทติ, ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.

๑๗๓๔. อนุปสมฺปนฺเนติ สามิวจนตฺเถ ภุมฺมํ. ‘‘อิตฺถิยา’’ติอาทีหิ ปเทหิ ยถารหํ โยเชตพฺพํ ‘‘อนุปสมฺปนฺนาย อิตฺถิยา อนุปสมฺปนฺนสฺส ปุริสสฺสา’’ติ. ติรจฺฉานคตสฺสปีติ เอตฺถ ‘‘อนฺตมโส’’ติ เสโส. ยถาห ‘‘อนฺตมโส ติรจฺฉานคตสฺสปี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๕๒).

๑๗๓๕. ‘‘สเจ ปหรติ อิตฺถิฺจา’’ติ ปทจฺเฉโท. รตฺเตน เจตสาติ กายสํสคฺคราเคน รตฺเตน จิตฺเตน. วินิทฺทิฏฺาติ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ โอติณฺโณ วิปริณเตน จิตฺเตน มาตุคาเมน สทฺธึ กายสํสคฺคํ สมาปชฺเชยฺยา’’ติอาทินา (ปารา. ๒๗๐) ทสฺสิตา.

๑๗๓๖. โมกฺขาธิปฺปาโยติ ตโต อตฺตโน โมกฺขํ ปตฺเถนฺโต. โทโส น วิชฺชตีติ ทุกฺกฏาทิโกปิ โทโส นตฺถิ.

๑๗๓๗-๙. เหเตุกามมายนฺตํ โจรมฺปิ วา ปจฺจตฺถิกมฺปิ วา อนฺตรามคฺเค ปสฺสิตฺวาติ โยชนา. ทิสฺวา กถํ ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ อาห ‘‘มา อิธาคจฺฉุปาสกา’’ติอาทิ, อาคมนปฏิกฺเขเปน ตตฺเถว ติฏฺาติ วุตฺตํ โหติ. อายนฺตนฺติ เอวํ วุตฺเต ตํ อนาทิยิตฺวา อาคจฺฉนฺตํ. ยถาห ‘‘วจนํ อนาทิยิตฺวา อาคจฺฉนฺต’’นฺติ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๕๓).

เอเสว นโยติ ‘‘มา อาคจฺฉา’ติ วุตฺเตปิ อาคจฺฉนฺตํ ปหเฏ มเตปิ อนาปตฺตี’’ติ อยํ นโย.

๑๗๔๐. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘อุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺี, เวมติโก, อนุปสมฺปนฺนสฺี ปหารํ เทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๕๒) ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. เสเสติ อนุปสมฺปนฺเน. ติกทุกฺกฏนฺติ ‘‘อนุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺี, เวมติโก , อนุปสมฺปนฺนสฺี ปหารํ เทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๕๒) ติกทุกฺกฏํ วุตฺตํ. อนาณตฺติกตฺตา อาห ‘‘กายจิตฺตสมุฏฺาน’’นฺติ. กายจิตฺตานํ สุโขเปกฺขาปิ สมฺภวนฺตีติ ตโต วิเสเสตุมาห ‘‘ทุกฺขเวทน’’นฺติ.

ปหารกถาวณฺณนา.

๑๗๔๑. กายนฺติ กาเยกเทสํ หตฺถาทิอวยวมาห. วาติ ทุติยตฺถสมฺปิณฺฑเน. กายพทฺธนฺติ กายปฏิพทฺธํ ปหรณโยคฺคาโยคฺเคสุ กตฺตรยฏฺิสตฺถาทีสุ อฺตรํ. สเจ อุจฺจาเรยฺยาติ สเจ ปหรณาการํ ทสฺเสตฺวา อุกฺขิเปยฺย, อิทํ ‘‘กายํ วา กายปฏิพทฺธํ วา’’ติ อิเมหิ ปเทหิ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. ตสฺสาติ อุจฺจาริตกายาทิกสฺส. อุคฺคิรณปจฺจยาติ อุกฺขิปนการณา.

๑๗๔๒. อสมฺปหริตุกาเมนาติ ปหารทานํ อนิจฺฉนฺเตน. ทินฺนตฺตาติ ปหารสฺส ทินฺนตฺตา. อปฺปหริตุกามตฺตา ปุริมสิกฺขาปเทน ปาจิตฺติยํ น โหติ, อุคฺคิริตุกามตาย กตปโยคสฺส อุคฺคิรณมตฺเต อฏฺตฺวา ปหารสฺส ทินฺนตฺตา อิมินาปิ ปาจิตฺติยํ น โหติ, อชฺฌาสยสฺส, ปโยคสฺส จ อสุทฺธตฺตา อนาปตฺติยาปิ น ภวิตพฺพนฺติ ทุกฺกฏํ วุตฺตํ.

๑๗๔๓. สเจ เตน ปหาเรน ภิกฺขุโน หตฺถาทีสุปิ ยํ กิฺจิ องฺคํ ภิชฺชติ, ปหฏสฺส ปหารทายกสฺส ทุกฺกฏนฺติ สมฺพนฺโธ.

๑๗๔๔. เสโส วินิจฺฉโย ‘‘โมกฺขาธิปฺปาโย’’ติอาทิโก อิธ อวุตฺโต วินิจฺฉโย สมุฏฺานาทินา สทฺธึ อนนฺตเร วุตฺตนเยน วินยฺุนา เวทิตพฺโพติ โยชนา. ‘‘ติรจฺฉานาทีนํ วจฺจกรณาทึ ทิสฺวาน ปลาเปตุกามตาย กุชฺฌิตฺวาปิ อุคฺคิรนฺตสฺส โมกฺขาธิปฺปาโย เอวา’’ติ วทนฺติ.

ตลสตฺติกถาวณฺณนา.

๑๗๔๕. อมูลเกนาติ ทิฏฺาทิมูลวิรหิเตน, เอตฺถ ‘‘ภิกฺขุ’’นฺติ เสโส. สงฺฆาทิเสเสนาติ เตรสนฺนํ อฺตเรน. ตสฺสาติ โจทกสฺส, โจทาปกสฺส วา ปาปภิกฺขุโน. สเจ จุทิตโก ตสฺมึ ขเณ ‘‘เอส มํ โจเทตี’’ติ ชานาติ, ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา, อิมินา ‘‘สเจ เอวํ น ชานาติ, จิเรน วา ชานาติ, ทุกฺกฏํ โหตี’’ติ สิทฺธํ.

๑๗๔๖. ตตฺถาติ อุปสมฺปนฺเน. ติกปาจิตฺติยนฺติ ‘‘อุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺี อมูลเกน สงฺฆาทิเสเสน อนุทฺธํเสติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. เวมติโก…เป… อนุปสมฺปนฺนสฺี อมูลเกน สงฺฆาทิเสเสน อนุทฺธํเสติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๖๒) ติกปาจิตฺติยํ . ทิฏฺาจารวิปตฺติยา โจทโก ทุกฺกฏาปตฺตีติ อมูลิกาย ทิฏฺิวิปตฺติยา วา อาจารวิปตฺติยา วา อนุทฺธํเสนฺตสฺส ทุกฺกฏาปตฺติ โหตีติ อตฺโถ. เสเส จาติ อนุปสมฺปนฺเน. ติกทุกฺกฏนฺติ อนุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน ตีณิ ทุกฺกฏานิ โหนฺตีติ อตฺโถ.

๑๗๔๗. ‘‘ตถาสฺิสฺส อนาปตฺตี’’ติ ปทจฺเฉโท. ตถาสฺิสฺสาติ สมูลกสฺิสฺส.

อมูลกกถาวณฺณนา.

๑๗๔๘-๙. สฺจิจฺจาติ ตสฺส ปริปุณฺณวีสติวสฺสาทิภาวํ ชานนฺโตเยว. ภิกฺขุโนติ เอตฺถ ‘‘อฺสฺสา’’ติ เสโส . อูนวีสติวสฺโส ตฺวํ มฺเติ เอตฺถ ‘‘มฺเ’’ติ อิมินา ปริกปฺปตฺถวาจินา นิปาเตน ‘‘อุทกํ มฺเ อาทิตฺต’’นฺติอาทีสุ (ปารา. ๓๘๓) วิย มุสาวาทาปตฺติยา อวิสยตํ ทีเปติ. หิเตสิตาย อนุสิฏฺิทานาทิเก ตถารูเป อฺสฺมึ ปจฺจเย การเณ อสติ ‘‘อูนวีสติวสฺโส ตฺวํ มฺเ’’ อิติ เอวมาทินา อฺสฺส ภิกฺขุโน โย ภิกฺขุ สเจ สฺจิจฺจ กุกฺกุจฺจํ อุปฺปาเทยฺย, ตสฺส เอวํ กุกฺกุจฺจํ อุปฺปาเทนฺตสฺส ภิกฺขุโน วาจาย วาจาย ปาจิตฺติ โหตีติ โยชนา.

๑๗๕๐. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตนฺติ ‘‘อุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺี สฺจิจฺจ กุกฺกุจฺจํ อุปทหติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส. เวมติโก…เป… อนุปสมฺปนฺนสฺี สฺจิจฺจ กุกฺกุจฺจํ อุปทหติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๖๗) ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ. เสเส จาติ อนุปสมฺปนฺเน จ. ติกทุกฺกฏนฺติ อนุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน ติกทุกฺกฏํ. วชฺชเมว วชฺชตา.

๑๗๕๑. หิเตสิตาย ภาสโตติ สมฺพนฺโธ. มา เอวนฺติ เอตฺถ ‘‘กโรหี’’ติ เสโส, ปุนปิ มา เอวํ กโรหีติ อตฺโถ. ‘‘อหํ ตํ อิตฺถิยา สห นิสินฺนํ มฺเ, ตยา วิกาเล ภุตฺตํ มฺเ, ปุน มา เอวํ กโรหิ’’ อิติ หิเตสิตาย ภาสโต อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา.

สฺจิจฺจกถาวณฺณนา.

๑๗๕๓. ภณฺฑนํ นาม กลโห, ภณฺฑนํ ชาตํ เยสนฺติ วิคฺคโห, ชาตภณฺฑนานนฺติ อตฺโถ, ‘‘วจน’’นฺติ เสโส. โสตุํ อุปสฺสุตึ ติฏฺเยฺยาติ โยชนา. อุเปจฺจ สุยฺยติ เอตฺถาติ หิ อุปสฺสุติ, านํ, ยํ านํ อุปคเตน สกฺกา โหติ กเถนฺตานํ สทฺทํ โสตุํ, ตตฺถาติ อตฺโถ. โย ปน ภิกฺขุ ภณฺฑนชาตานํ ภิกฺขูนํ วจนํ โสตุํ อุปสฺสุตึ สเจ ติฏฺเยฺย, ตสฺส ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา.

๑๗๕๔. โจเทตุกามตาย คจฺฉโต อสฺสาติ โยชนา.

๑๗๕๕. โสตุนฺติ ปจฺฉโต คจฺฉนฺตานํ ภณฺฑนชาตานํ วจนํ โสตุํ. โอหียนฺตสฺสาติ ปกติคมนํ หาเปตฺวา โอสกฺกนฺตสฺส. ปุรโต คจฺฉโต ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. คจฺฉโต ตุริตํ วาปีติ ปุรโต คจฺฉนฺตานํ ภณฺฑนชาตานํ วจนํ โสตุํ ปจฺฉโต สีฆํ คจฺฉนฺตสฺสาปิ. อยเมว วินิจฺฉโยติ ปเท ปเท อยํ เอว วินิจฺฉโย.

๑๗๕๖. อตฺตโน ิโตกาสนฺติ สมฺพนฺโธ. อุกฺกาสิตฺวาปิ วาติ อุกฺกาสิตสทฺทํ กตฺวา วา. เอตฺถ อหนฺติ วา วตฺวา าเปตพฺพนฺติ โยชนา.

๑๗๕๗. ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ อุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน. เสเส จาติ อนุปสมฺปนฺเน. ติกทุกฺกฏํ อนุปสมฺปนฺเน อุปสมฺปนฺนสฺิเวมติกอนุปสมฺปนฺนสฺีนํ วเสน.

๑๗๕๘. โอรมิสฺสนฺติ มยา คหิตทุคฺคาหโต วิรมิสฺสามิ.

๑๗๕๙. กายจิตฺตโต จ กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺานโต เถยฺยสตฺถสมุฏฺานํ. สิยา กิริยํ โสตุกามตาย คมนวเสน, สิยา อกิริยํ ิตฏฺานํ อาคนฺตฺวา มนฺตยมานํ อชานาปนวเสน, เตนาห ‘‘อิทํ โหติ กฺริยากฺริย’’นฺติ. คมเนน สิชฺฌนโต กายกมฺมํ. ตุณฺหีภาเวน สิชฺฌนโต วจีกมฺมํ. สโทสนฺติ สาวชฺชํ, อกุสลจิตฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ.

อุปสฺสุติกถาวณฺณนา.

๑๗๖๐. ธมฺมิกานนฺติ ธมฺเมน วินเยน สตฺถุสาสเนน กตานํ. กมฺมานนฺติ อปโลกนกมฺมํ, ตฺติกมฺมํ, ตฺติทุติยกมฺมํ, ตฺติจตุตฺถกมฺมนฺติ อิเมสํ จตุนฺนํ กมฺมานํ. ขียตีติ อรุจึ ปกาเสติ.

๑๗๖๑. อุภยตฺถาติ อธมฺเม, ธมฺเม จ.

๑๗๖๒. อธมฺเมนาติ เอตฺถ ‘‘กมฺเมนา’’ติ เสโส, ธมฺมวิรุทฺเธน กมฺเมนาติ อตฺโถ. ‘‘กมฺมสฺมิ’’นฺติ อิทํ วิภตฺตึ วิปริณาเมตฺวา ‘‘กมฺเมนา’’ติ อนุวตฺเตตพฺพํ. วคฺเคนาติ ‘‘ฉนฺทารหานํ ฉนฺโท อาหโฏ โหติ, สมฺมุขีภูตา น ปฏิกฺโกสนฺตี’’ติ (มหาว. ๓๘๗) วุตฺตสามคฺคิลกฺขณสฺส วิรุทฺธตฺตา อสมคฺเคน, เอตฺถ ‘‘สงฺเฆนา’’ติ เสโส. ‘‘ตถา อกมฺมารหสฺสา’’ติ ปทจฺเฉโท. ‘‘อธมฺเมน กมฺเมน อิเม กมฺมํ กโรนฺตี’’ติ จ ‘‘อสมคฺเคน สงฺเฆน อิเม กมฺมํ กโรนฺตี’’ติ จ ‘‘อธมฺเมน กมฺเมน วคฺเคน สงฺเฆน อิเม กมฺมํ กโรนฺตี’’ติ จ ตถา ‘‘อกมฺมารหสฺส อิเม กมฺมํ กโรนฺตี’’ติ จ ตฺวา โย ขียติ, ตสฺส จ อนาปตฺติ ปกาสิตาติ โยชนา.

กมฺมปฏิพาหนกถาวณฺณนา.

๑๗๖๔-๕. อาโรจิตํ วตฺถุ ยาว น วินิจฺฉิตํ วาติ โยชนา, ‘‘โจทเกน จ จุทิตเกน จ อตฺตโน กถา กถิตา, อนุวิชฺชโก สมฺมโต, เอตฺตาวตาปิ วตฺถุเมว อาโรจิตํ โหตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๘๑) อฏฺกถาย วุตฺตตฺตา อาโรจิตํ วตฺถุ ยาว น วินิจฺฉิตํ โหตีติ อตฺโถ. ตฺติ วา ปิตา , กมฺมวาจา นิฏฺํ ยาว น คจฺฉติ, เอตสฺมึ…เป…โหติ อาปตฺติ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา.

๑๗๖๖. ฉนฺทํ อทตฺวา หตฺถปาเส ชหิเต ตสฺส ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา.

๑๗๖๗-๙. อธมฺเมปิ กมฺมสฺมึ ธมฺมกมฺมนฺติ สฺิโน ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. ธมฺมกมฺเม จ อธมฺมกมฺมสฺิโน อนาปตฺติ อิธ น วุตฺตา, ปาฬิยํ ปน วุตฺตตฺตา อิธาปิ โยเชตพฺพา. ‘‘สงฺฆสฺส ภณฺฑนาทีนิ ภวิสฺสนฺตี’’ติ สฺิโน คจฺฉโต จ โย วา คิลาโน โหติ, ตสฺส คจฺฉโต จ คิลานสฺส กรณีเย สติ คจฺฉโต จ กมฺมํ นโกเปตุกามสฺส คจฺฉโต จ ปสฺสาวนาทินา ปีฬิตสฺส คจฺฉโต จ ‘‘อาคมิสฺสามิ’’อิติ เอวํ คจฺฉโตปิ น โทสตาติ โยชนา. ตตฺถ โทโส เอว โทสตา, อาปตฺติ, นโทสตา อนาปตฺติ. หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา คมเนน, ฉนฺทสฺส อทาเนน จ อาปชฺชนโต กฺริยากฺริยํ.

ฉนฺทํอทตฺวาคมนกถาวณฺณนา.

๑๗๗๐-๑. สมคฺเคน สงฺเฆน สทฺธินฺติ สมานสํวาสเกน สมานสีมายํ ิเตน สงฺเฆน สทฺธึ. วุตฺตฺหิ ‘‘สมคฺโค นาม สงฺโฆ สมานสํวาสโก สมานสีมายํ ิโต’’ติ (ปาจิ. ๔๘๖). จีวรนฺติ วิกปฺปนุปคมาห. ยถาห ‘‘จีวรํ นาม ฉนฺนํ จีวรานํ อฺตรํ จีวรํ วิกปฺปนุปคํ ปจฺฉิม’’นฺติ (ปาจิ. ๔๘๖). สมฺมตสฺสาติ เสนาสนปฺาปกาทิสมฺมุตึ ปตฺเตสุ อฺตรสฺส. ขียตีติ ‘‘โย โย มิตฺโต, ตสฺส ตสฺส เทนฺตี’’ติอาทินา นเยน อวณฺณํ ภณติ.

ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺิเวมติกอธมฺมกมฺมสฺีนํ วเสน ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ.

๑๗๗๒-๔. สงฺเฆนาสมฺมตสฺสาปิ จีวรํ, อฺเมว วา ตเถว สมคฺเคน สงฺเฆน ทตฺวา ขียติ, ตสฺส ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. อนุปสมฺปนฺเน ตเถว สมคฺเคน สงฺเฆน ทินฺเน สพฺพตฺถ จีวเร, อฺปริกฺขาเร จ ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. อนุปสมฺปนฺเนติ สมฺปทานตฺเถ ภุมฺมํ, อนุปสมฺปนฺนสฺสาติ อตฺโถ.

สภาวโต ฉนฺทาทีนํ วเสเนว กโรนฺตํ ขียนฺตสฺส จ อนาปตฺตีติ โยชนา. นยา วินิจฺฉยกฺกมา.

ทุพฺพลกถาวณฺณนา.

๑๗๗๕. อิทํ ทฺวาทสมนฺติ สมฺพนฺโธ, ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ชานํ สงฺฆิกํ ลาภํ ปริณตํ ปุคฺคลสฺส ปริณาเมยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๔๙๐) อิมํ ทฺวาทสมํ สิกฺขาปทนฺติ อตฺโถ. ตึสกกณฺฑสฺมึ นิสฺสคฺคิยกณฺเฑ. อนฺติเมนาติ เอตฺถ ‘‘สิกฺขาปเทนา’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ. -สทฺโท เอวการตฺโถ. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ชานํ สงฺฆิกํ ลาภํ ปริณตํ อตฺตโน ปริณาเมยฺย, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปารา. ๖๕๘) อิมินา อนฺติเมเนว สิกฺขาปเทน สพฺพถา สพฺพํ วตฺตพฺพํ ตุลฺยนฺติ โยชนา. อยเมว วิเสสตาติ เอตฺถ วิเสโสเยว วิเสสตา, อยเมว วิเสโสติ อตฺโถ.

๑๗๗๖. ตตฺถาติ ตสฺมึ นิสฺสคฺคิยาวสาเน สิกฺขาปเท. อตฺตโน ปริณามนาติ อตฺตโน ปริณามนเหตุ.

ปริณามนกถาวณฺณนา.

สหธมฺมิกวคฺโค อฏฺโม.

๑๗๗๗-๘. โย ปน ภิกฺขุ เทวิยา วาปิ รฺโ วาปิ อวิทิตาคมโน อปฺปฏิสํวิทิตาคมโน สยนียฆรา ราชสฺมึ อนิกฺขนฺเต, เทวิยา อนิกฺขนฺตาย ตสฺส สยนียฆรสฺส อุมฺมารํ อินฺทขีลํ สเจ อติกฺกเมยฺย, ตสฺส ภิกฺขุโน ปเม ปาเท ทุกฺกฏํ สิยา, ทุติเย ปาเท ปาจิตฺติยํ สิยาติ โยชนา.

๑๗๗๙. ปฏิสํวิทิเตติ อตฺตโน อาคมเน นิเวทิเต. เนวปฏิสํวิทิตสฺิโนติ อนิเวทิตสฺิโน. ตตฺถาติ ตสฺมึ ปฏิสํวิทิตาคมเน. เวมติกสฺสาติ ‘‘ปฏิสํวิทิตํ นุ โข, น ปฏิสํวิทิตํ นุ โข’’ติ สํสยมาปนฺนสฺส.

๑๗๘๐-๑. เนว ขตฺติยสฺส อปฺปฏิสํวิทิเตปิ วา น ขตฺติยาภิเสเกน อภิสิตฺตสฺส อปฺปฏิสํวิทิเตปิ วา ปวิสโต น โทโสติ โยชนา, เอวรูปานํ อนิเวทิเตปิ ปวิสนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ.

อุโภสุ ราชินิ จ เทวิยา จ สยนิฆรโต พหิ นิกฺขนฺเตสุ ปวิสโตปิ วา อุภินฺนํ อฺตรสฺมึ นิกฺขนฺเต ปวิสโตปิ วา น โทโสติ โยชนา. กถิเนนาติ เอตฺถ ‘‘สมุฏฺานาทินา สม’’นฺติ เสโส, อิทํ สิกฺขาปทํ สมุฏฺานาทิวเสน กถินสิกฺขาปเทน สมานนฺติ วุตฺตํ โหติ. สยนียฆรปฺปเวโส กฺริยํ. อปฺปฏิสํเวทนํ อกฺริยํ.

อนฺเตปุรกถาวณฺณนา.

๑๗๘๒. รชตํ , ชาตรูปํ วา อตฺตโน อตฺถาย อุคฺคณฺหนฺตสฺส, อุคฺคณฺหาปยโตปิ วา ตสฺส นิสฺสคฺคิยาปตฺตีติ โยชนา.

๑๗๘๓. คณปุคฺคลสงฺฆานํ อตฺถาย เจติเย นวกมฺมสฺส อตฺถาย อุคฺคณฺหาปยโต, อุคฺคณฺหโตปิ วา ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา. ชาตรูปรชตานํ สรูปํ นิสฺสคฺคิเย วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

๑๗๘๔. มุตฺตาทิรตนมฺปิ วุตฺตสรูปเมว. สงฺฆาทีนมฺปีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน คณปุคฺคลเจติยานํ สงฺคโห.

๑๗๘๕-๖. ยํ กิฺจิ คิหิสนฺตกํ สเจ กปฺปิยวตฺถุ วา โหตุ, อกปฺปิยวตฺถุ วาปิ โหตุ, มาตุกณฺณปิฬนฺธนํ ตาลปณฺณมฺปิ วา โหตุ, ภณฺฑาคาริกสีเสน ปฏิสามยโต ตสฺส ปาจิตฺติยาปตฺติ โหตีติ โยชนา.

๑๗๘๗. น นิเธตพฺพเมวาติ น ปฏิสาเมตพฺพเมว.

๑๗๘๘. เอโส หิ ยสฺมา ปลิโพโธ นาม, ตสฺมา เปตุํ ปน วฏฺฏตีติ โยชนา.

๑๗๘๙. อนุฺาเต าเนติ เอตฺถ ‘‘ปติต’’นฺติ เสโส. เอตฺถ อนุฺาตฏฺานํ นาม อชฺฌาราโม วา อชฺฌาวสโถ วา. ยถาห ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว รตนํ วา รตนสมฺมตํ วา อชฺฌาราเม วา อชฺฌาวสเถ วา อุคฺคเหตฺวา วา อุคฺคหาเปตฺวา วา นิกฺขิปิตุํ ‘ยสฺส ภวิสฺสติ, โส หริสฺสตี’’ติ (ปาจิ. ๕๐๔). เอตฺถ จ อชฺฌาราโม นาม ปริกฺขิตฺตสฺส อนฺโตปริกฺเขโป, อปริกฺขิตฺตสฺส ทฺวินฺนํ เลฑฺฑุปาตานํ อนฺโต. อชฺฌาวสโถ นาม ปริกฺขิตฺตสฺส อนฺโตปริกฺเขโป, อปริกฺขิตฺตสฺส มุสลปาตพฺภนฺตรํ. ‘‘อุคฺคเหตฺวา’’ติ อิทํ อุปลกฺขณํ, อุคฺคหาเปตฺวาติปิ วุตฺตํ โหติ.

๑๗๙๐-๑. อนุฺาเต ปน าเน ยถาวุตฺตอชฺฌารามาทิเก าเน รตนํ วา รตนสมฺมตํ วา มนุสฺสานํ อุปโภคปริโภคํ วา สยนภณฺฑํ วา คเหตฺวา นิกฺขิปนฺตสฺส, รตนสมฺมตํ วิสฺสาสํ คณฺหนฺตสฺส จ ตาวกาลิกเมว วา คณฺหนฺตสฺส อุภยตฺถ อุมฺมตฺตกาทีนฺจ น โทโสติ โยชนา.

สฺจริตฺตสโมทยนฺติ เอตฺถ ‘‘สมุฏฺานาทินา อิทํ สิกฺขาปท’’นฺติ วตฺตพฺพํ, อิทํ สิกฺขาปทํ สมุฏฺานาทินา สฺจริตฺตสมชาติกนฺติ อตฺโถ.

รตนกถาวณฺณนา.

๑๗๙๒. ปุเรติ ปุพฺพภาเค.

๑๗๙๓-๔. สนฺตนฺติ จาริตฺตสิกฺขาปเท วุตฺตสรูปํ. อนาปุจฺฉาติ ‘‘วิกาเล คามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉามี’’ติ อนาปุจฺฉิตฺวา. ปจฺจยํ วินาติ ตาทิสํ อจฺจายิกํ กรณียํ วินา. ปริกฺเขโปกฺกเมติ ปริกฺเขปสฺส อนฺโตปเวเส. อุปจาโรกฺกเมติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.

๑๗๙๕. อถาติ วากฺยนฺตรารมฺเภ.

๑๗๙๖. ตโต อฺนฺติ ปมํ วิกาเล คามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉิตฺวา ตโต ปวิฏฺคามโต อฺํ คามํ. ปุน ตโตติ ทุติยคามมาห. กตฺถจิ โปตฺถเก ‘‘อาปุจฺฉเน กิจฺจ’’นฺติ ปาโ ทิสฺสติ, ‘‘อาปุจฺฉนกิจฺจ’’นฺติ ปาโเยว ปน ยุตฺตตโร. ยถาอากงฺขิตปมาณํ ทสฺเสตุมาห ‘‘คามสเตปิ วา’’ติ.

๑๗๙๗. ปสฺสมฺเภตฺวานาติ ปฏิวิโนเทตฺวา. อนฺตรา อฺํ คามํ ปวิสนฺติ เจติ โยชนา.

๑๗๙๘-๙. กุลฆเร วา อฺตฺถ อาสนสาลาย วา ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา โย ภิกฺขุ สปฺปิภิกฺขาย วา เตลภิกฺขาย วา สเจ จริตุกาโม สิยาติ โยชนา.

ปสฺเสติ ปกติวจนสวนารเห อตฺตโน สมีเป, เอเตเนว เอตฺตกา านา ทูรีภูโต อสนฺโต นาม โหตีติ พฺยติเรกโต ลพฺภตีติ ทสฺเสติ. อสนฺเตติ อวิชฺชมาเน วา วุตฺตปฺปมาณโต ทูรีภูเต วา. นตฺถีติ เอตฺถ ‘‘จินฺเตตฺวา’’ติ เสโส.

๑๘๐๒. อโนกฺกมฺมาติ อนุปสกฺกิตฺวา. มคฺคาติ คนฺตพฺพมคฺคา.

๑๘๐๓. ติกปาจิตฺติยนฺติ วิกาเล วิกาลสฺิเวมติกกาลสฺีนํ วเสน ติกปาจิตฺติยํ วุตฺตํ.

๑๘๐๔. อจฺจายิเก กิจฺเจ วาปีติ สปฺปทฏฺาทีนํ เภสชฺชปริเยสนาทิเก อจิรายิตพฺพกิจฺเจ สติ คจฺฉโต.

๑๘๐๕. อนฺตรารามนฺติ คามพฺภนฺตเร สงฺฆารามํ. ภิกฺขุนีนํ อุปสฺสยนฺติ ภิกฺขุนิวิหารํ. ติตฺถิยานํ อุปสฺสยนฺติ ติตฺถิยารามํ.

๑๘๐๖-๗. อนฺตรารามาทิคมเน น เกวลํ อนาปุจฺฉา คจฺฉโตเยว, กายพนฺธนํ อพนฺธิตฺวา, สงฺฆาฏึ อปารุปิตฺวา คจฺฉนฺตสฺสาปิ อนาปตฺติ.

อาปทาสุปีติ สีโห วา พฺยคฺโฆ วา อาคจฺฉติ, เมโฆ วา อุฏฺเติ, อฺโ วา โกจิ อุปทฺทโว อุปฺปชฺชติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุปิ พหิคามโต อนฺโตคามํ คจฺฉโต อนาปตฺตีติ อตฺโถ.

วิกาลคามปฺปเวสนกถาวณฺณนา.

๑๘๐๘. อฏฺิทนฺตมยํ วาปิ วิสาณชํ วาปิ สูจิฆรนฺติ โยชนา. อฏฺิ นาม ยํ กิฺจิ อฏฺิ. ทนฺโตติ หตฺถิทนฺโต. วิสาณํ นาม ยํ กิฺจิ วิสาณํ.

๑๘๐๙. ลาเภติ ปฏิลาเภ. เภทนกนฺติ เภทนเมว เภทนกํ, ตํ อสฺส อตฺถีติ เภทนกํ, ปมํ ภินฺทิตฺวา ปจฺฉา เทเสตพฺพตฺตา ตํ เภทนกํ อสฺส ปาจิตฺติยสฺส อตฺถีติ เภทนกํ, ปาจิตฺติยํ, อสฺสตฺถิอตฺเถ อ-การปจฺจโย.

๑๘๑๐-๑. ‘‘อนาปตฺติ อรณิเก’’ติ ปทจฺเฉโท. อรณิเกติ อรณิธนุเก. วิเธติ กายพนฺธนสฺส วิธเก. อฺชนิกาติ อฺชนินาฬิกา. ทกปุฺฉนิยาติ นหาตสฺส คตฺเต อุทกปุฺฉนเปสิกาย. วาสิชเฏติ วาสิทณฺฑเก.

สูจิฆรกถาวณฺณนา.

๑๘๑๒-๓. มฺจปีสรูปํ ทุติเย ภูตคามวคฺเค จตุตฺถสิกฺขาปเท วุตฺตเมว. ‘‘สุคตงฺคุเลน อฏฺงฺคุลปาทก’’นฺติ อฏฺงฺคุลปาทกสฺส อาคตตฺตา ‘‘อฏฺงฺคุลปฺปมาเณนา’’ติ เอตฺถ ‘‘ปาเทนา’’ติ เสโส.

เหฏฺิมาฏนินฺติ อฏนิยา เหฏฺิมตลํ. อฏนิยา เหฏฺิมํ เหฏฺิมาฏนี, ตํ เปตฺวา, อฺตฺร เหฏฺิมาย อฏนิยาติ วุตฺตํ โหติ. เทสนาปุพฺพภาคิเยน มฺจปาทจฺเฉเทน สห วตฺตตีติ สจฺเฉทา. ตํ ปมาณํ. อติกฺกมโตติ อติกฺกามยโต, คาถาพนฺธวเสน ย-การโลโป.

๑๘๑๕. ปมาเณน กโรนฺตสฺสาติ อฏนิยา เหฏฺา วฑฺฒกิรตนปฺปมาเณน ปาเทน โยเชตฺวา กโรนฺตสฺส, เอเตเนว ‘‘อูนกํ กโรนฺตสฺสา’’ติ อิทํ อุปลกฺขิตํ. ตสฺสาติ ตสฺส อปฺปมาณิกสฺส. ฉินฺทิตฺวาติ อฏนิโต เหฏฺา วฑฺฒกิรตนาติริตฺตํ านํ ฉินฺทิตฺวา.

๑๘๑๖. ปมาณโต นิขณิตฺวาติ เอตฺถ ‘‘อธิก’’นฺติ สามตฺถิยา ลพฺภติ, ปมาณโต อธิกํ านํ นิขณิตฺวา, อนฺโตภูมึ ปเวเสตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. อุตฺตานํ วาปีติ อุทฺธํ ปาทํ กตฺวา ภูมิยํ วา ทารุฆฏิกาสุ วา เปตฺวา. อฏฺฏํ วา พนฺธิตฺวา ปริภุฺชโตติ อุกฺขิปิตฺวา ตุลาสงฺฆาเฏ เปตฺวา อฏฺฏํ พนฺธิตฺวา ปริภุฺชนฺตสฺส อนาปตฺติ.

มฺจกถาวณฺณนา.

๑๘๑๗. ตูลํ โอนทฺธเมตฺถาติ ตูโลนทฺธํ, ตูลํ ปกฺขิปิตฺวา อุปริ จิมิลิกาย โอนทฺธํ, ‘‘ตูลํ นาม ตีณิ ตูลานิ รุกฺขตูลํ ลตาตูลํ โปฏกิตูล’’นฺติ (ปาจิ. ๕๒๘) วุตฺตตูลานํ อฺตรํ ปกฺขิปิตฺวา อุปริ ปิโลติกาย สิพฺพิตฺวา กตนฺติ วุตฺตํ โหติ. โปฏกิตูลนฺติ เอรกตูลาทิ ยํ กิฺจิ ติณชาตีนํ ตูลํ. อุทฺทาลนเมว อุทฺทาลนกํ, ตํ อสฺส อตฺถีติ อุทฺทาลนกนฺติ วุตฺตนยเมว. อติกฺกนฺตา อีติ อุปทฺทโว เยน โส อนีติ, ภควา, เตน อนีตินา.

๑๘๑๘. อาโยเคติ อาโยคปตฺเต. พนฺธเนติ กายพนฺธเน. อํสพทฺธเกติ อํสพนฺธนเก. พิพฺโพหเนติ อุปธาเน. ถวิกาติ ปตฺตถวิกา. ถวิกาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน สิปาฏิกาทีนํ สงฺคโห. ถวิกาทีสุ ตูโลนทฺเธสุ ปริภุตฺเตสุ ภิกฺขุโน อนาปตฺตีติ โยชนา.

๑๘๑๙. อฺเน จ กตนฺติ เอตฺถ ‘‘มฺจํ วา ปีํ วา’’ติ ปกรณโต ลพฺภติ. อุทฺทาเลตฺวาติ ปิโลติกํ อุปฺปาเฏตฺวา ตูลํ อปเนตฺวา. นยาติ สมุฏฺานาทโย.

ตูโลนทฺธกถาวณฺณนา.

๑๘๒๐. นิสีทนนฺติ นิสีทนจีวรํ. ปมาณโตติ ‘‘ตตฺริทํ ปมาณํ, ทีฆโส ทฺเว วิทตฺถิโย สุคตวิทตฺถิยา, ติริยํ ทิยฑฺฒํ , ทสา วิทตฺถี’’ติ (ปาจิ. ๕๓๑) วุตฺตปมาณโต. ปมาณาติกฺกเม ปโยเค ตสฺส ทุกฺกฏํ สิยาติ โยชนา.

๑๘๒๑. สจฺเฉทนฺติ ปมาณโต อติริตฺตปเทสสฺส เฉทนกิริยาสหิตปฏิกมฺมํ ปาจิตฺติยมุทีริตนฺติ อตฺโถ. ตสฺสาติ นิสีทนสฺส. ทฺวีสุ าเนสุ ผาเลตฺวา ติสฺโส ทสา กาตพฺพา สิยุนฺติ โยชนา.

๑๘๒๒. ตทูนกนฺติ ตโต ปมาณโต อูนกํ. วิตานาทึ กโรนฺตสฺสาติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน อตฺถรณสาณิปาการภิสิพิพฺโพหนานํ สงฺคโห. ‘‘สฺจริตฺตสมา นยา’’ติ อิทํ วุตฺตตฺถเมว.

นิสีทนกถาวณฺณนา.

๑๘๒๓. โรเคติ กณฺฑุปิฬกาทิโรเค สติ. ยถาห ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว ยสฺส กณฺฑุ วา ปิฬกาวา อสฺสาโว วา ถุลฺลกจฺฉุ วา อาพาโธ, ตสฺส กณฺฑุปฏิจฺฉาทิ’’นฺติ (มหาว. ๓๕๔). เอตฺถ กณฺฑูติ กจฺฉุ. ปิฬกาติ โลหิตตุณฺฑิกา สุขุมปิฬกา. อสฺสาโวติ อริสภคนฺทลมธุเมหาทิวเสน อสุจิปคฺฆรณํ. ถุลฺลกจฺฉุ วา อาพาโธติ มหาปิฬกาพาโธ วุจฺจติ. ปมาณโตติ ‘‘ตตฺริทํ ปมาณํ, ทีฆโส จตสฺโส วิทตฺถิโย สุคตวิทตฺถิยา, ติริยํ ทฺเว วิทตฺถิโย’’ติ (ปาจิ. ๕๓๘) วุตฺตปฺปมาณโต.

กณฺฑุปฏิจฺฉาทิกถาวณฺณนา.

๑๘๒๕. ปมาเณเนวาติ ‘‘ตตฺริทํ ปมาณํ, ทีฆโส ฉ วิทตฺถิโย สุคตวิทตฺถิยา, ติริยํ อฑฺฒเตยฺยา’’ติ (ปาจิ. ๕๔๓) วุตฺตปฺปมาเณเนว. ปมาณาติกฺกเมติ วสฺสิกสาฏิกาย ยถาวุตฺตปมาณโต อติกฺกมเน, นิมิตฺตตฺเถ เจตํ ภุมฺมํ. ตสฺส ภิกฺขุสฺส. นโยติ เฉทนปาจิตฺติยาทิโก วินิจฺฉยนโย.

วสฺสิกสาฏิกกถาวณฺณนา.

๑๘๒๖. สุคตสฺส จีวเรน ตุลฺยปฺปมาณํ จีวรํ โย ภิกฺขุ สเจ กาเรยฺย, ตสฺส จีวรสฺส กรเณ ตสฺส ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏํ สิยาติ โยชนา. ตุลฺยํ ปมาณํ ยสฺสาติ วิคฺคโห.

๑๘๒๗. อตฺตโน วตฺถานํ กรณการาปนํ วินา อฺโต ปฏิลาโภ นาม นตฺถิ, สูจิกมฺมปริโยสาเน จีวรสรูปสฺส ปฏิลาโภเยเวตฺถ ปฏิลาโภติ วิฺายติ.

๑๘๒๘. ตสฺสาติ ยํ ‘‘สุคตสฺส จีวเรนา’’ติ วุตฺตํ, ตสฺส สุคตจีวรสฺส. ทีฆโส ปมาเณน สุคตสฺส วิทตฺถิยา นว วิทตฺถิโย, ติริยํ ปมาเณน ฉ วิทตฺถิโย วินิทฺทิฏฺา สิกฺขาปเทเยว กถิตาติ โยชนา.

นนฺทกถาวณฺณนา.

ราชวคฺโค นวโม.

อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย

ปาจิตฺติยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปโม ภาโค นิฏฺิโต.

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

วินยปิฏเก

วินยวินิจฺฉย-ฏีกา (ทุติโย ภาโค)