📜

เสขิยกถาวณฺณนา

๑๘๗๐. เอวํ ปาฏิเทสนียวินิจฺฉยํ ทสฺเสตฺวา ตทนนฺตรํ อุทฺทิฏฺานํ เสขิยานํ วินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘โย อนาทริเยเนวา’’ติอาทิ. โยติ เถโร วา นโว วา มชฺฌิโม วา. เอตฺถ อนาทริยํ นาม สฺจิจฺจ อาปตฺติอาปชฺชนํ, นิวาสนาทิวตฺถสฺส อุคฺคหเณ นิรุสฺสาหฺจ. ปจฺฉโตปิ วาติ เอตฺถ วา-สทฺเทน ‘‘ปสฺสโตปิ วา’’ติ อิทํ สงฺคณฺหาติ. ตสฺส จาติ เอตฺถ -สทฺโท วกฺขมานสมุจฺจโย.

๑๘๗๑. น เกวลํ วุตฺตนเยน นิวาเสนฺตสฺเสว โหติ, ขนฺธกาคตหตฺถิโสณฺฑาทิอากาเรนาปิ นิวาเสนฺตสฺส ทุกฺกฏํ โหตีติ อาห ‘‘หตฺถิโสณฺฑาที’’ติอาทิ. หตฺถิโสณฺฑาทินิวาสนํ ปรโต ขุทฺทกวตฺถุกฺขนฺธเก (จูฬว. ๒๘๐) อาวิ ภวิสฺสติ. ปริมณฺฑลนฺติ สมนฺตโต มณฺฑลํ กตฺวา. วตฺถพฺพนฺติ นิวตฺถพฺพํ นิวาเสตพฺพนฺติ อตฺโถ.

๑๘๗๒. ชาณุมณฺฑลโตเหฏฺาติ เอตฺถ ‘‘ชงฺฆฏฺิสีสโต ปฏฺายา’’ติ เสโส. อฏฺงฺคุลปฺปมาณกนฺติ วฑฺฒกิองฺคุเลน อฏฺงฺคุลมตฺตนฺติ อาจริยา. ‘‘โย ปน สุกฺขชงฺโฆ วา มหาปิณฺฑิกมํโส วา โหติ, ตสฺส สารุปฺปตฺถาย ชาณุมณฺฑลโต อฏฺงฺคุลาธิกมฺปิ โอตาเรตฺวา นิวาเสตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๗๖) อฏฺกถํ สงฺคณฺหิตุมาห ‘‘ตโต อูนํ น วฏฺฏตี’’ติ.

๑๘๗๓. อสฺจิจฺจ อปริมณฺฑลํ นิวาเสนฺตสฺส อนาปตฺตีติ โยชนา. เอวมุปริปิ. อสฺจิจฺจาติ ‘‘อปริมณฺฑลํ นิวาเสสฺสามี’’ติ เอวํ อสฺจิจฺจ, อถ โข ‘‘ปริมณฺฑลํเยว นิวาเสสฺสามี’’ติ วิรชฺฌิตฺวา อปริมณฺฑลํ นิวาเสนฺตสฺส อนาปตฺติ. อสติสฺสาปีติ อฺวิหิตสฺสาปิ ตถา นิวาเสนฺตสฺส อนาปตฺติ. อชานนฺตสฺสาติ เกวลํ ปริมณฺฑลํ นิวาเสตุํ อชานนฺตสฺส อนาปตฺติ. อปิจ นิวาสนวตฺตํ อุคฺคเหตพฺพํ. อุคฺคหิตวตฺโตปิ สเจ ‘‘อารุฬฺห’’นฺติ วา ‘‘โอรุฬฺห’’นฺติ วา น ชานาติ, ตสฺสาปิ อนาปตฺติเยว. คิลานสฺสาติ ยสฺส ชงฺฆาย วา ปาเท วา วโณ โหติ, ตสฺส อุกฺขิปิตฺวา วา โอตาเรตฺวา วา นิวาเสนฺตสฺส อนาปตฺติ. ปาโทติ เจตฺถ ปาทสมีปํ อธิปฺเปตํ. อาปทาสูติ วาฬา วา โจรา วา อนุพนฺธนฺติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ อนาปตฺติ.

ปริมณฺฑลกถาวณฺณนา.

๑๘๗๔. อุโภ โกเณ สมํ กตฺวาติ ปารุปนสฺส เอกํเส กตสฺส ปิฏฺิปสฺเส, อุทรปสฺเส จ โอลมฺพมาเน อุโภ กณฺเณ หตฺถิปิฏฺเ คณฺฑา วิย สมํ กตฺวา. ปริมณฺฑลํ กตฺวาติ เอตสฺเสว อตฺถปทํ. สาทรนฺติ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส. สาทรํ วา ปารุปิตพฺพนฺติ โยชนา, สาทรํ ปารุปนํ กตฺตพฺพนฺติ อตฺโถ. เอวํ อกโรนฺตสฺสาติ ปารุปนวตฺเต อาทรํ ชเนตฺวา เอวํ อปารุปนฺตสฺส.

๑๘๗๕. ‘‘ปริมณฺฑลํ นิวาเสสฺสามีติ สิกฺขา กรณียา’’ติ (ปาจิ. ๕๗๖) วา ‘‘ปริมณฺฑลํ ปารุปิสฺสามีติ สิกฺขา กรณียา’’ติ (ปาจิ. ๕๗๗) วา ‘‘อนฺตรฆเร’’ติ อวิเสเสตฺวา วุตฺตตฺตา อาห ‘‘อวิเสเสน วุตฺต’’นฺติ. อิทํ สิกฺขาปททฺวยํ ยสฺมา อวิเสเสน วุตฺตํ, ตสฺมา ฆเร, วิหาเร วา กาตพฺพํ ปริมณฺฑลนฺติ โยชนา. ฆเรติ อนฺตรฆเร. วิหาเร วาติ พุทฺธุปฏฺานาทิกาลํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปริมณฺฑลํ กตฺตพฺพนฺติ ปริมณฺฑลเมว นิวาเสตพฺพํ ปารุปิตพฺพนฺติ อตฺโถ.

ทุติยํ.

๑๘๗๖. อุโภ โกเณ สมํ กตฺวาติ สมฺพนฺโธ. คีวเมว จ อนุวาเตน ฉาเทตฺวาติ โยชนา.

๑๘๗๗. ตถา อกตฺวาติ ยถาวุตฺตวิธานํ อกตฺวา. ชตฺตูนิปีติ อุโภ อํสกูฏานิปิ. อุรมฺปิ จาติ หทยมฺปิ. วิวริตฺวาติ อปฺปฏิจฺฉาเทตฺวา. ยถากามนฺติ อิจฺฉานุรูปํ. คจฺฉโตติ เอตฺถ ‘‘อนฺตรฆเร’’ติ เสโส. อนฺตรฆรํ นาม คาเม วา โหตุ วิหาเร วา, ปจิตฺวา ภุฺชิตฺวา คิหีนํ วสนฏฺานํ.

ตติยํ.

๑๘๗๘-๙. ‘‘มณิพนฺธโต’’ติ อิมินาปิ ‘‘เหฏฺา’’ติ โยเชตพฺพํ. วาสูปคสฺสาติ เอตฺถ ‘‘กายํ วิวริตฺวา นิสีทโต’’ติ เสโส. วาสูปโค นาม รตฺติวาสตฺถาย อุปคโต, เอเตน วาสตฺถาย อนฺตรฆรํ อุปคจฺฉนฺเตน สุปฺปฏิจฺฉนฺเนเนว อุปคนฺตพฺพนฺติ ทีปิตํ โหติ, เอเตเนว วาสูปคตสฺส สนฺติกํ อุปคตสฺส ยถากามํ คมเน น โทโสติ จ วุตฺตเมว โหติ. เตนาห คณฺิปเท ‘‘เอกทิวสมฺปิ วาสูปคตสฺส สนฺติกํ ยถาสุขํ คนฺตุํ วฏฺฏติ, โก ปน วาโท จตุปฺจาหํ วาสมธิฏฺาย วสิตภิกฺขูนํ สนฺติก’’นฺติ.

จตุตฺถํ.

๑๘๘๐. สุวินีเตนาติ หตฺถปาทานํ อกีฬาปเนเนว สุฏฺุ วินีเตน.

ปฺจมํ.

๑๘๘๑. คาถาพนฺธวเสน ‘‘สตีมตา’’ติ ทีโฆ กโต. อวิกาเรนาติ ตํตทวโลกาสหิเตน . ยุคํ มตฺตา ปมาณํ เอตสฺสาติ ยุคมตฺตํ, รถยุคํ จตุหตฺถปฺปมาณํ, ตตฺตกํ ปเทสํ. เปกฺขินาติ โอโลเกนฺเตน. ‘‘ภิกฺขุนา โอกฺขิตฺตจกฺขุนา’’ติ ปทจฺเฉโท.

๑๘๘๒. อนฺตรฆเร ยตฺถ กตฺถจิปิ เอกสฺมิมฺปิ าเน ตฺวาติ โยชนา. เอวํ วุตฺเตปิ ตถารูเป อนฺตราเย สติ คจฺฉโตปิ โอโลเกตุํ ลพฺภติ. เอกสฺมึ ปน าเน ตฺวาติ เอตฺถ คจฺฉนฺโตปิ ปริสฺสยาภาวํ โอโลเกตุํ ลพฺภติเยว. ‘‘ตถา คาเม ปูช’’นฺติ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. ปิ-สทฺโท ปน-สทฺทตฺโถ, โอโลเกตุํ ปน วฏฺฏตีติ วุตฺตํ โหติ.

๑๘๘๓. โอโลเกนฺโต ตหํ ตหนฺติ โย อนาทริยํ ปฏิจฺจ ตํ ตํ ทิสาภาคํ ปาสาทํ กูฏาคารํ วีถึ โอโลเกนฺโต.

สตฺตมํ.

๑๘๘๔. เอกโตวาปีติ เอกอํสกูฏโต วา. อุภโต วาปีติ อุภยํสกูฏโต วา. อินฺทขีลกโต อนฺโตติ คามทฺวารินฺทขีลโต อนฺโต, ฆเรติ วุตฺตํ โหติ.

นวมํ.

๑๘๘๕. ตถา นิสินฺนกาเลปีติ อินฺทขีลสฺส อนฺโต นิสินฺนกาเลปิ. กุณฺฑิกํ นีหรนฺเตน จ จีวรํ อนุกฺขิปิตฺวา ทาตพฺพา กุณฺฑิกาติ โยชนา. กุณฺฑิกนฺติ จ อุปลกฺขณมตฺตํ. ธมฺมกรณาทีสุปิ เอเสว นโย.

ทสมํ.

ปโม วคฺโค.

๑๘๘๖. คนฺตุฺเจว นิสีทิตุฺจ น วฏฺฏตีติ โยชนา. -สทฺโท กิริยาสมุจฺจโย. หสนียสฺมึ วตฺถุสฺมินฺติ หาสชนเก การเณ. สิตมตฺตนฺติ มนฺทหาสํ.

ปมทุติยานิ.

๑๘๘๗. อปฺปสทฺเทนาติ ‘‘กิตฺตาวตา อปฺปสทฺโท โหติ? ทฺวาทสหตฺเถ เคเห อาทิมฺหิ สงฺฆตฺเถโร, มชฺเฌ ทุติยตฺเถโร, อนฺเต ตติยตฺเถโรติ เอวํ นิสินฺเนสุยํ สงฺฆตฺเถโร ทุติยตฺเถเรน สทฺธึ มนฺเตติ, ทุติยตฺเถโร ตสฺส สทฺทฺเจว สุณาติ, กถฺจ ววตฺถเปติ. ตติยตฺเถโร ปน สทฺทเมว สุณาติ, กถํ น ววตฺถเปติ. เอตฺตาวตา อปฺปสทฺโท โหตี’’ติ (ปาจิ. ๕๘๘) วุตฺตอปฺปสทฺทยุตฺเตน. สเจ ปน ตติยตฺเถโร กถฺจ ววตฺถเปติ, มหาสทฺโท นาม โหตีติ.

ตติยํ.

๑๘๘๘. กายปฺปจาลกํ กตฺวาติ กายํ จาเลตฺวา จาเลตฺวา. อุปริปิ เอเสว นโย. หตฺถสฺส วุตฺตลกฺขณตฺตา ‘‘พาหู’’ติ มณิพนฺธโต ยาว อํสกูฏา คเหตพฺพา.

๑๘๘๙. อุชุํ ปคฺคเหตฺวาติ อุชุํ เปตฺวา. อาสิตพฺพนฺติ นิสีทิตพฺพํ. ‘‘สเมน อิริยาปเถน ตู’’ติ ปทจฺเฉโท.

๑๘๙๐. อิตฺถมฺภูเต กรณวจนํ. คมนปฏิสํยุตฺเตสุ สิกฺขาปเทสุ คมนสฺส อสมฺภโวติ อาห ‘‘นิสีทเนน ยุตฺเตสู’’ติ.

ปฺจมฉฏฺสตฺตมฏฺมนวมานิ.

ทุติโย วคฺโค.

๑๘๙๑. ขมฺภํ กตฺวาติ กฏิยา เอกปสฺเส วา ทฺวีสุ วา ปสฺเสสุ กปฺปรสนฺธิโต อาภุชิตฺวา หตฺถํ เปตฺวา. ยถาห – ‘‘ขมฺภกโต นาม กฏิยํ หตฺถํ เปตฺวา กตขมฺโภ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๕๙๖). อุกฺกุฏิกาย วา คจฺฉโตติ โยชนา. อุกฺกุฏิกา วุจฺจติ ปณฺหิโย อุกฺขิปิตฺวา อคฺคปาเทหิ วา อคฺคปาเท อุกฺขิปิตฺวา ปณฺหีหิ เอว วา ภูมึ ผุสนฺตสฺส คมนํ.

๑๘๙๒. ทุสฺสปลฺลตฺถิกายาติ อาโยคปลฺลตฺถิกาย. อนฺตรฆเร นิสีทนฺตสฺส ตสฺส ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา.

๑๘๙๓. ทุติเยจาติ ‘‘น ขมฺภกโต อนฺตรฆเร นิสีทิสฺสามี’’ติ (ปาจิ. ๕๙๗) สิกฺขาปเท จ. จตุตฺเถ จาติ ‘‘น โอคุณฺิโต อนฺตรฆเร นิสีทิสฺสามี’’ติ (ปาจิ. ๕๙๙) สิกฺขาปเท จ. ฉฏฺเติ ‘‘น ปลฺลตฺถิกาย อนฺตรฆเร’’อิจฺจาทิ (ปาจิ. ๖๐๑) สิกฺขาปเท จ. อิติ เอวํ สารุปฺปา สมณาจารานุจฺฉวิกา ฉพฺพีสติ สิกฺขาปทานิ ปกาสิตานิ.

ปมทุติยตติยจตุตฺถปฺจมฉฏฺานิ.

๑๘๙๔. วิฺุนา ภิกฺขุนา สกฺกจฺจํ สติยุตฺเตน, ปตฺตสฺินา จ หุตฺวา สมสูโปว ปิณฺฑปาโต คเหตพฺโพติ โยชนา. เอวํ เอตาย คาถาย สิกฺขาปทตฺตยํ สงฺคหิตํ. สกฺกจฺจนฺติ สตึ อุปฏฺเปตฺวา. ‘‘สติยุตฺเตนา’’ติ อิทํ ‘‘สกฺกจฺจ’’นฺติ เอตสฺส อตฺถปทํ. ‘‘สตึ อุปฏฺเปตฺวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๐๒) หิ อฏฺกถายํ วุตฺตํ. ปตฺเต สฺา ปตฺตสฺา, สา อสฺส อตฺถีติ ปตฺตสฺี, อนฺวิหิเตน อตฺตโน ภาชเนเยว อุปนิพทฺธสฺินาติ อตฺโถ.

๑๘๙๕. ภตฺตจตุพฺภาโคติ ภตฺตสฺส จตุพฺภาคปฺปมาโณ. ตโต อธิกํ คณฺหโต ทุกฺกฏํ.

๑๘๙๖. ‘‘รสรเส’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘รเสรเส’’ติ คาถาพนฺธวเสน วุตฺตํ. ทฺเว สูเป เปตฺวา อวเสสานิ โอโลณิสากสูเปยฺยมจฺฉรสมํสรสาทีนิ รสรสาติ เวทิตพฺพานิ. เอตฺถ จ ‘‘โอโลณีติ ทธิกตํ โครส’’นฺติ เกจิ. ‘‘เอกา พฺยฺชนวิกตี’’ติ อปเร. ‘‘โย โกจิ สุทฺโธ กฺชิกตกฺกาทิรโส’’ติ อฺเ. สากสูเปยฺยคฺคหเณน ยา กาจิ สูเปยฺยสาเกหิ กตา พฺยฺชนวิกติ วุตฺตา. มํสรสาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน อวเสสา สพฺพาปิ พฺยฺชนวิกติ สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพํ. าตกาทีนนฺติ เอตฺถ ‘‘สนฺตกํ คณฺหนฺตสฺสา’’ติ เสโส. อฺตฺถายาติ เอตฺถ ‘‘กตํ คณฺหนฺตสฺสา’’ติ เสโส. ธเนนาติ เอตฺถ ‘‘อตฺตโน’’ติ จ ‘‘กีต’’นฺติ จ ‘‘คณฺหนฺตสฺสา’’ติ จ เสโส. าตกาทีนํ สนฺตกํ คณฺหนฺตสฺส, อฺตฺถาย กตํ คณฺหนฺตสฺส, อตฺตโน ธเนน กีตํ คณฺหนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ.

สตฺตมฏฺมนวมานิ.

๑๘๙๗. อธิฏฺานูปคสฺส ปตฺตสฺส มุขวฏฺฏิยา อนฺโตเลขาปมาเณน ปูริโตว คเหตพฺโพติ โยชนา.

๑๘๙๘. อนาปตฺติวิสยํ ทสฺเสตฺวา อาปตฺติวิสยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ. ตตฺถาติ อธิฏฺานูปเค ปตฺเต. ถูปีกตํ กตฺวาติ เอตฺถ ‘‘ทิยฺยมาน’’นฺติ เสโส. ยถาวุตฺตเลขาติกฺกโม ยถา โหติ, เอวํ ถูปีกตํ ทิยฺยมานํ คณฺหโต อาปตฺติ ทุกฺกฏนฺติ สมฺพนฺโธ. อิมินา ปมํ ถูปีกตสฺส อธิฏฺานูปคปตฺตสฺส ปจฺฉา ปฏิคฺคหณฺจ ปมปฏิคฺคหิตปตฺเต ปจฺฉา โภชนสฺส ถูปีกตสฺส ปฏิคฺคหณฺจ นิวาริตนฺติ เวทิตพฺพํ.

๑๘๙๙. กาลิกตฺตยเมว จ ถูปีกตํ วฏฺฏเตวาติ โยชนา. เสเสติ อนธิฏฺานูปเค ปตฺเต. สพฺพนฺติ จตุพฺพิธํ กาลิกํ ถูปีกตํ วฏฺฏตีติ โยชนา.

๑๙๐๐. เปเสตีติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขู’’ติ เสโส. ภิกฺขุ ภิกฺขูนํ ยทิ เปเสตีติ โยชนา. ‘‘วิหารํ เปเสตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๐๕) อฏฺกถาย อธิปฺปายํ ทสฺเสตุํ ‘‘ภิกฺขูน’’นฺติ วจเนน ปฏิคฺคหณํ อวิชหิตฺวา ภิกฺขุนา เอว เปสิตํ คณฺหนฺตานํ ภิกฺขูนํ อนาปตฺตีติ ทีปิตํ โหติ. อฺถา ‘‘ปูเรตุํ วฏฺฏตี’’ติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพนฺติ วิฺายติ.

๑๙๐๑. ปกฺขิปฺปมานนฺติ มุขวฏฺฏิโต อุจฺจํ กตฺวา มชฺเฌ ปกฺขิปิยมานํ. ผลาทิกนฺติ อาทิ-สทฺเทน โอทนาทิมฺปิ สงฺคณฺหาติ. เหฏฺาโอโรหตีติ สมนฺตา โอกาสสมฺภวโต จาลิยมานํ มุขวฏฺฏิปฺปมาณโต เหฏฺา ภสฺสติ.

๑๙๐๒. ตกฺโกลกาทีนนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ปูคผลาทีนํ สงฺคโห. เปตฺวาติ ภตฺตมตฺถเก นิกฺขิปิตฺวา. วฏํสกนฺติ อวฏํสกํ.

๑๙๐๓. ปูวสฺสาติ วิการสมฺพนฺเธ สามิวจนํ, ปูววฏํสกนฺติ วุตฺตํ โหติ. ปูวสฺส ยาวกาลิกตฺตา อาห ‘‘อิทํ ถูปีกตํ สิยา’’ติ.

๑๙๐๔. ปณฺณานํ วิสุํ ภาชนตฺตา อาห ‘‘วฏฺฏตี’’ติ.

๑๙๐๕. อสฺสาติ ภิกฺขุสฺส. ตํ ตุ สพฺพนฺติ ‘‘ถูปีกตตฺตา น วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ ตํ ปน สพฺพํ. คหิตํ สุคหิตนฺติ วิราเธตฺวา ปฏิคฺคหิตํ เจ, สุปฺปฏิคฺคหิตํ.

ทสมํ.

ตติโย วคฺโค.

๑๙๐๖. ‘‘อุปริ โอธิ’’นฺติ ปทจฺเฉโท. อุปรีติ ภตฺตสฺส อุปริ. โอธินฺติ ปริจฺเฉทํ. ปฏิปาฏิยาติ อตฺตโน ทิสาย ปริยนฺตโต ปฏฺาย อนุกฺกเมน.

๑๙๐๗. อฺเสนฺติ เอตฺถ ‘‘เทนฺโต’’ติ เสโส. อตฺตโน ภตฺตํ อฺเสํ เทนฺโต อฺสฺส ภาชเน อากิรํ อากิรนฺโต ปน ปฏิปาฏึ วินาปิ ตหึ ตหึ โอมสติ เจ, นตฺถิ โทโสติ โยชนา. อุตฺตริภงฺคกํ ตถา อากิรนฺโต ตตฺถ ตตฺถ โอมสติ, นตฺถิ โทโสติ โยชนา . ภุฺชนตฺถาย คณฺหนฺโตปิ เจตฺถ วตฺตพฺโพ. อุตฺตริภงฺคํ นาม พฺยฺชนํ.

ตติยํ.

๑๙๐๘. มตฺถกํ โอมทฺทิตฺวา ปริภุฺชโต โทโสติ โยชนา. ‘‘ถูปกโตติ มตฺถกโต, เวมชฺฌโต’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๑๐) อฏฺกถาวจนโต มตฺถกนฺติ เอตฺถ ภตฺตมตฺถกมาห. โอมทฺทิตฺวาติ หตฺเถน ภตฺตํ อวมทฺทิตฺวา.

๑๙๐๙. เสสเก ปริตฺเตปิ จาติ อวสิฏฺเ อปฺปเกปิ จ. สํกฑฺฒิตฺวานาติ ตสฺมึ ตสฺมึ าเน ิตํ สํหริตฺวา. เอกโต ปน มทฺทิตฺวา ภุฺชโต อนาปตฺตีติ โยชนา.

ปฺจมํ.

๑๙๑๐. ภิยฺโยกมฺยตาเหตูติ ปุน คณฺหิตุกามตาเหตุ. สูปํ วาติ มุคฺคาทิสูปํ วา. พฺยฺชนํ วาติ อุตฺตริภงฺคํ วา.

ฉฏฺํ.

๑๙๑๑. วิฺตฺติยนฺติ สูโปทนวิฺตฺติยํ. ‘‘าตกานํ วา ปวาริตานํ วา อฺสฺส อตฺถาย วา อตฺตโน ธเนน วา’’ติ อิทํ อนาปตฺติยํ อธิกํ. คิลาโนปิ หุตฺวา ปเรสํ ปตฺตํ อุชฺฌานสฺาย โอโลเกนฺตสฺส อาปตฺติ โหตีติ อาห ‘‘อุชฺฌาเน คิลาโนปิ น มุจฺจตี’’ติ. อุชฺฌาเนติ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ.

๑๙๑๒. ทสฺสามีติ อิมสฺส ภตฺตํ โอโลเกตฺวา ‘‘ยํ ตตฺถ นตฺถิ, ตํ ทสฺสามี’’ติ วา ‘‘ทาเปสฺสามี’’ติ วา. อวมฺิตฺวา อุชฺฌายนจิตฺตํ อุชฺฌานํ, อุชฺฌาเน สฺา อุชฺฌานสฺา, สา อสฺส อตฺถีติ วิคฺคโห. นอุชฺฌานสฺิโน จ อนาปตฺตีติ าตพฺพนฺติ โยชนา.

สตฺตมฏฺมานิ.

๑๙๑๓. ‘‘เตสํ มชฺฌปฺปมาเณนา’’ติ อิมินา อสารุปฺปวเสน ขุทฺทกปฏิกฺเขโป กโตติ เวทิตพฺโพ. ‘‘นาติมหนฺต’’นฺติ จ อติมหนฺตสฺเสว ปฏิกฺขิตฺตตฺตา ขุทฺทเก อาปตฺติ น ทิสฺสตีติ. กพโฬติ อาโลโป.

๑๙๑๔. มูลขาทนียาทิเก สพฺพตฺถ ขชฺชเก ปนาติ โยชนา. ผลาผเลติ ขุทฺทเก, มหนฺเต จ ผเล.

นวมํ.

๑๙๑๕. ทสเม นตฺถิ กิฺจิ วตฺตพฺพํ.

ทสมํ.

จตุตฺโถ วคฺโค.

๑๙๑๖. ‘‘อนาหเฏ’’ติ เอตสฺส อตฺถปทํ ‘‘มุขทฺวารํ อปฺปตฺเต’’ติ. ยถาห ‘‘อนาหเฏติ อนาหริเต, มุขทฺวารํ อสมฺปาปิเตติ อตฺโถ’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๑๗). ‘‘มุขทฺวารํ วิวรนฺตสฺสา’’ติ เอตฺตเก วุตฺเต มุขทฺวาร-สทฺทสฺส สมฺพนฺธิสทฺทตฺตา กสฺสาติ อเปกฺขาย ‘‘มุขทฺวารํ วิวริสฺสามี’’ติ อตฺตโนปเทกวจเนน พฺยฺชิตเมวตฺถํ ปกาเสตุํ อตฺตโน-คหณํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. -สทฺโท เอวการตฺโถ, อปฺปตฺเต วาติ โยเชตพฺโพ, อสมฺปตฺเตเยวาติ อตฺโถ.

ปมํ.

๑๙๑๗. สกลํหตฺถนฺติ เอตฺถ หตฺถ-สทฺโท ตเทกเทเสสุ องฺคุลีสุ ทฏฺพฺโพ. ‘‘หตฺถมุทฺทา’’ติอาทีสุ วิย สมุทาเย ปวตฺตโวหารสฺส อวยเวปิ ปวตฺตนโต เอกงฺคุลิมฺปิ มุเข ปกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ.

๑๙๑๘. อสฺสาติ ภิกฺขุโน. พฺยาหรนฺตสฺสาติ กเถนฺตสฺส.

ทุติยตติยานิ.

๑๙๒๐. ปิณฺฑุกฺเขปกนฺติ ปิณฺฑํ อุกฺขิปิตฺวา อุกฺขิปิตฺวา. อิธาปิ ขชฺชกผลาผเลสุ อนาปตฺติ. กพฬจฺเฉทกมฺปิ วาติ กพฬํ ฉินฺทิตฺวา. อิธ ขชฺชกผลาผเลหิ สทฺธึ อุตฺตริภงฺเคปิ อนาปตฺติ. คณฺเฑ กตฺวาติ เอตฺถ ผลาผลมตฺเตเยว อนาปตฺติ.

จตุตฺถปฺจมฉฏฺานิ.

๑๙๒๑-๒. หตฺถํ นิทฺธุนิตฺวานาติ หตฺถํ นิทฺธุนิตฺวา ภตฺตํ ภุฺชโตติ จ สมฺพนฺโธ. สิตฺถาวการกนฺติ สิตฺถานิ อวกิริตฺวา อวกิริตฺวา. ชิวฺหานิจฺฉารกํ วาปีติ ชิวฺหํ นิจฺฉาเรตฺวา นิจฺฉาเรตฺวา. จปุ จปูติ วาติ ‘‘จปุ จปู’’ติ เอวํ สทฺทํ กตฺวา. สตฺตเมติ ‘‘น หตฺถนิทฺธุนก’’นฺติ สิกฺขาปเท. อฏฺเมติ ‘‘น สิตฺถาวการก’’นฺติ สิกฺขาปเท. กจวรุชฺฌเนติ กจวราปนยเน.

สตฺตมฏฺมนวมทสมานิ.

ปฺจโม วคฺโค.

๑๙๒๓. ‘‘สุรุ สุรู’’ติ เอวํ สทฺทํ กตฺวา น โภตฺตพฺพนฺติ โยชนา. หตฺถนิลฺเลหกํ วาปีติ หตฺถํ นิลฺเลหิตฺวา นิลฺเลหิตฺวา.

๑๙๒๔. ผาณิตํ , ฆนยาคุํ วา องฺคุลีหิ คเหตฺวา องฺคุลิโย มุเข ปเวเสตฺวาปิ ตํ โภตฺตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา.

๑๙๒๕. เอกาย องฺคุลิกายปิ ปตฺโต น เลหิตพฺโพว. ชิวฺหาย เอกโอฏฺโปิ น นิลฺเลหิตพฺพโกติ โยชนา. พหิ โอฏฺฺจ ชิวฺหาย น เลหิตพฺพํ. โอฏฺเ ลคฺคํ สิตฺถาทึ ยํ กิฺจิ อุโภหิ โอฏฺมํเสหิเยว คเหตฺวา อนฺโต กาตุํ วฏฺฏติ.

ปมทุติยตติยจตุตฺถานิ.

๑๙๒๖-๘. จ คเหตพฺพํ, ปฏิกฺกูลวเสน ปฏิกฺขิตฺตนฺติ โยชนา. หิ-อิติ ‘‘ยสฺมา’’ติ เอตสฺส อตฺเถ, เตเนว วกฺขติ ‘‘ตสฺมา’’ติ. ‘‘ปานียถาลก’’นฺติ อิทํ อุปลกฺขณมตฺตํ สงฺขาทีนมฺปิ ตถา นคเหตพฺพตฺตา. สราวํ วาติ ตฏฺฏกํ วา.

อนามิเสน หตฺเถนาติ อามิสรหิเตน หตฺเถกเทเสน. ยถาห ‘‘สเจ ปน หตฺถสฺส

เอกเทโส อามิสมกฺขิโต น โหติ, เตน ปเทเสน คเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๓๑). อามิสมกฺขิเตเนว หตฺเถน ‘‘โธวิสฺสามี’’ติ วา ‘‘โธวาเปสฺสามี’’ติ วา คณฺหนฺตสฺส ปน อนาปตฺติ.

ปฺจมํ.

๑๙๒๙. อุทฺธริตฺวาติ สสิตฺถกา ปตฺตโธวนา สิตฺถกานิ อุทฺธริตฺวา ตํ ปตฺตโธวโนทกํ ฆรา พหิ อนฺตรฆเร ฉฑฺเฑนฺตสฺส อนาปตฺติ. ภินฺทิตฺวาติ สสิตฺถเก ปตฺตโธวเน สิตฺถกานิ มทฺทิตฺวา อุทเกน สมฺภินฺทิตฺวา อุทกคติกาเนว กตฺวา ตํ อุทกํ ฆรา พหิ อนฺตรฆเร ฉฑฺเฑนฺตสฺส อนาปตฺติ. คเหตฺวาติ สสิตฺถกํ ปตฺตโธวโนทกํ คเหตฺวา ปฏิคฺคเห ฉฑฺเฑนฺตสฺส อนาปตฺติ. สสิตฺถกํ ปตฺตโธวโนทกํ ฆรา พหิ นีหริตฺวา อนฺตรฆเร ฉฑฺเฑนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อชฺฌาหารโยชนา เวทิตพฺพา. เอตฺถ ปฏิคฺคโห นาม เขฬมลฺลาทิโก อุจฺฉิฏฺหตฺถโธวนภาชนวิเสโส.

ฉฏฺํ.

๑๙๓๐. ฉตฺตํ ยํ กิฺจีติ ‘‘ฉตฺตํ นาม ตีณิ ฉตฺตานิ เสตจฺฉตฺตํ กิลฺชจฺฉตฺตํ ปณฺณจฺฉตฺตํ มณฺฑลพทฺธํ สลากพทฺธ’’นฺติ (ปาจิ. ๖๓๔) วุตฺเตสุ ตีสุ ฉตฺเตสุ อฺตรํ. เอตฺถ จ เสตจฺฉตฺตนฺติ วตฺถปลิคุณฺิตํ ปณฺฑรจฺฉตฺตํ. กิลฺชจฺฉตฺตนฺติ วิลีวจฺฉตฺตํ. ปณฺณจฺฉตฺตนฺติ ตาลปณฺณาทีหิ เยหิ เกหิจิ กตํ. ‘‘มณฺฑลพทฺธํ สลากพทฺธ’’นฺติ อิทํ ปน ติณฺณมฺปิ ฉตฺตานํ ปฺชรทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตานิ หิ มณฺฑลพทฺธานิ เจว โหนฺติ สลากพทฺธานิ จ. ‘‘ยํ กิฺจี’’ติ อนวเสสปริคฺคหวจเนน ‘‘ยมฺปิ จ ตตฺถชาตทณฺเฑน กตํ เอกปณฺณจฺฉตฺตํ โหติ, ตมฺปิ ฉตฺตเมวา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๓๔) อฏฺกถาย วุตฺตํ ฉตฺตวิเสสํ คณฺหาติ. หตฺเถนาติ เอตฺถ ‘‘อมุฺจิตฺวา’’ติ เสโส. สรีราวยเวนาติ เอตฺถ ‘‘คเหตฺวา’’ติ เสโส. วา-สทฺโท อปิ-สทฺทตฺโถ. อํสกูฏาทิสรีราวยเวน คเหตฺวาปิ หตฺเถน อมุฺจิตฺวา ธาเรนฺตสฺสาติ อตฺโถ.

สเจ ปนสฺส อฺโ ฉตฺตํ ธาเรติ, ฉตฺตปาทุกาย วา ิตํ โหติ, ปสฺเส วา ิตํ โหติ,

หตฺถโต อปคตมตฺเต ฉตฺตปาณิ นาม น โหติ, ตสฺส ธมฺมํ เทเสตุํ วฏฺฏติ. ‘‘น ฉตฺตปาณิสฺส อคิลานสฺสา’’ติ วจนโต, อิธ ‘‘สพฺพตฺถ อคิลานสฺสา’’ติ วกฺขมานตฺตา จ เอตฺถ ‘‘อคิลานสฺสา’’ติ ลพฺภติ. ธมฺมปริจฺเฉโท เจตฺถ ปทโสธมฺเม วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. เอวมุปริปิ.

สตฺตมํ.

๑๙๓๑. ทณฺฑปาณิมฺหีติ เอตฺถ ทณฺโฑ ปาณิมฺหิ อสฺสาติ วิคฺคโห. กิตฺตกปฺปมาโณ ทณฺโฑติ อาห ‘‘จตุหตฺถปฺปมาโณ’’ติอาทิ. มชฺฌิมหตฺถโตติ ปมาณมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส หตฺถโต, โย ‘‘วฑฺฒกิหตฺโถ’’ติ วุจฺจติ.

อฏฺมํ.

๑๙๓๒. สตฺถปาณิสฺสาติ เอตฺถาปิ วิคฺคโห วุตฺตนโยว. วกฺขมานํ สกลํ ธนุวิกตึ, สรวิกติฺจ เปตฺวา อวเสสํ ขคฺคาทิ สตฺถํ นาม. ขคฺคํ สนฺนหิตฺวา ิโตปิ สตฺถปาณิ นุ โขติ อาสงฺกาย นิวตฺตนตฺถมาห ‘‘สตฺถปาณี’’ติอาทิ. ‘‘น โหติ อสิ’’นฺติ ปทจฺเฉโท.

นวมํ.

๑๙๓๓-๕. สเรน สทฺธึ ธนุํ วา สุทฺธธนุํ วา สุทฺธสรํ วา สชิยํ ธนุทณฺฑํ วา นิชิยํ ธนุทณฺฑํ วา คเหตฺวา ิตสฺสาปิ วา นิสินฺนสฺสาปิ วา นิปนฺนสฺสาปิ วา สเจ โย ตถา ปทโสธมฺเม วุตฺตลกฺขณํ สทฺธมฺมํ เทเสติ, ตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฏํ โหตีติ โยชนา. สเจ ปนสฺส ธนุ ขนฺเธ ปฏิมุกฺกํ โหติ, ยาว น คณฺหาติ, ตาว วฏฺฏติ. ชิยาย สห วตฺตตีติ สชิยํ.

ทสมํ.

ฉฏฺโ วคฺโค.

๑๙๓๖. ปาทุการุฬฺหกสฺสาติ ปาทุกํ อารุฬฺโห ปาทุการุฬฺโห, โสเยว ปาทุการุฬฺหโก, ตสฺส. กถํ อารุฬฺหสฺสาติ อาห ‘‘อกฺกมิตฺวา’’ติอาทิ. อกฺกมิตฺวา ิตสฺสาติ ฉตฺตทณฺฑเก องฺคุลนฺตรํ อปฺปเวเสตฺวา เกวลํ ปาทุกํ อกฺกมิตฺวา ิตสฺส. ปฏิมุกฺกสฺส วาติ ปฏิมุฺจิตฺวา ิตสฺส. เอตํ ทฺวยมฺปิ ‘‘ปาทุการุฬฺหกสฺสา’’ติ เอตสฺส อตฺถปทํ. ยถาห ‘‘น ปาทุการุฬฺหสฺส อคิลานสฺส ธมฺโม เทเสตพฺโพ. โย อนาทริยํ ปฏิจฺจ อกฺกนฺตสฺส วา ปฏิมุกฺกสฺส วา โอมุกฺกสฺส วา อคิลานสฺส ธมฺมํ เทเสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๖๓๘).

ปมํ.

๑๙๓๗-๔๐. อุปาหนคตสฺสาปีติ อกฺกนฺตาทิอากาเรน อุปาหนารุฬฺหสฺส จ. ยถาห ‘‘อกฺกนฺตสฺส วา ปฏิมุกฺกสฺส วา’’ติ. สพฺพตฺถาติ ฉตฺตปาณิอาทีสุ สพฺพสิกฺขาปเทสุ. อคิลานสฺสาติ อิทํ โยเชตพฺพนฺติ เสโส. ยาเน วา คตสฺส อคิลานสฺส ธมฺมํ เทเสติ, ทุกฺกฏนฺติ โยชนา. ตตฺถ ยาเน วา คตสฺสาติ สเจ ทฺวีหิ ชเนหิ หตฺถสงฺฆาเตน คหิโต, สาฏเก วา เปตฺวา วํเสน วยฺหติ, อยุตฺเต วา วยฺหาทิเก ยาเน, วิสงฺขริตฺวา วา ปิเต จกฺกมตฺเตปิ นิสินฺโน โหติ, ยานคโตตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ.

สยเนปิ วา อนฺตมโส กฏสารเก วา ฉมาย วา นิปนฺนสฺสาปิ อคิลานสฺสาติ โยชนา. ยถาห ‘‘สยนคตสฺสาติ อนฺตมโส กฏสารเกปิ ปกติภูมิยมฺปิ นิปนฺนสฺสา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๔๑). อุจฺเจ ปีเ วา อุจฺเจ มฺเจปิ วา นิสินฺเนน, ิเตน วา นิปนฺนสฺส เทเสตุํ น วฏฺฏตีติ โยชนา. ‘‘ตฺวา’’ติ อิมินา ‘‘นิสีทิตฺวา’’ติ อิทฺจ สงฺคหิตเมว. สยเนสุ คตสฺส จ เทเสนฺเตน สยเนสุ คเตนาปิ สมาเน วาปิ อุจฺเจ วา นิปนฺเนเนว วฏฺฏตีติ โยชนา.

๑๙๔๑. ‘‘ตเถวจา’’ติ อิมินา ‘‘วฏฺฏตี’’ติ อิทํ คหิตํ.

ทุติยตติยจตุตฺถานิ.

๑๙๔๒. ‘‘ปลฺลตฺถิกาย นิสินฺนสฺสา’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน ยการสฺส โลปํ กตฺวา ‘‘ปลฺลตฺถิกา นิสินฺนสฺสา’’ติ วุตฺตํ, อาโยคปลฺลตฺถิกาย วา หตฺถปลฺลตฺถิกาย วา ทุสฺสปลฺลตฺถิกาย วา ยาย กายจิ ปลฺลตฺถิกาย นิสินฺนสฺสาติ อตฺโถ. เวิตสีสสฺสาติ ทุสฺสเวเนน วา โมลิอาทีหิ วา ยถา เกสนฺโต น ทิสฺสติ, เอวํ เวิตสีสสฺส.

๑๙๔๓. ยทิ เกสนฺตํ วิวราเปตฺวา เทเสติ, วฏฺฏตีติ โยชนา. ‘‘อยเมว วินิจฺฉโย’’ติ อิมินา ‘‘สีสํ วิวราเปตฺวา เทเสติ, วฏฺฏตี’’ติ อนาปตฺติวาโรปิ วุตฺโต โหติ.

ปฺจมฉฏฺสตฺตมานิ.

๑๙๔๔-๕. อฏฺเม ‘‘อาสเน นิสินฺนสฺสาติ อนฺตมโส วตฺถมฺปิ ติณานิปิ สนฺถริตฺวา นิสินฺนสฺสา’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๔๕) อิทฺจ นวเม ‘‘อุจฺเจ อาสเนติ อนฺตมโส ภูมิปฺปเทเสปิ อุนฺนเต าเน นิสินฺนสฺส เทเสตุํ น วฏฺฏตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๖๔๗) อิทฺจ ทสเม ‘‘สเจปี’’ติอาทินา วกฺขมานวินิจฺฉยฺจ เปตฺวา วตฺตพฺพวิเสสาภาวา อาห ‘‘อฏฺเม นวเมวาปิ, ทสเม นตฺถิ กิฺจิปี’’ติ. เอตฺถ ‘‘วตฺตพฺพ’’นฺติ เสโส. เถรุปฏฺานํ คนฺตฺวาน ิตํ ทหรํ อาสเน นิสินฺโน เถโร เจ ปฺหํ ปุจฺฉตีติ อชฺฌาหารโยชนา. กเถตพฺพมุปายํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ตสฺส ปสฺเส ปนฺสฺส, กเถตพฺพํ วิชานตา’’ติ. เอตฺถ ‘‘ิตสฺสา’’ติ เสโส . ตสฺส สมีปวตฺติโน กสฺสจิ อภาเว สชฺฌายํ อธิฏฺหิตฺวาปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ.

อฏฺมนวมทสมานิ.

สตฺตโม วคฺโค.

๑๙๔๖. คจฺฉโต ปุรโตติ เอตฺถ ‘‘ปจฺฉโต คจฺฉนฺเตนา’’ติ เสโส. ปจฺฉโต คจฺฉนฺเตน ปุรโต คจฺฉโต ปฺหํ น วตฺตพฺพนฺติ โยชนา. สเจ ปุรโต คจฺฉนฺโต ปฺหํ ปุจฺฉติ, กึ กาตพฺพนฺติ อาห ‘‘ปจฺฉิมสฺสา’’ติอาทิ.

๑๙๔๗. อุคฺคหิตํ ธมฺมํ ปุรโต คจฺฉนฺเตน สทฺธึ ปจฺฉโต คจฺฉนฺโต สชฺฌายติ, วฏฺฏตีติ โยชนา. สมเมว คจฺฉโต ยุคคฺคาหํ กเถตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา. ยุคคฺคาหนฺติ อฺมฺํ. อฺมฺ-สทฺทปริยาโย หิ ยุคคฺคาห-สทฺโท.

ปมํ.

๑๙๔๘. สกฏมคฺเค เอเกกสฺส จกฺกสฺส ปเถน คจฺฉนฺโต เอเกกสฺส จกฺกสฺส ปเถน สมํ คจฺฉโต ธมฺมํ เทเสตุํ วฏฺฏติ. อุปฺปเถนาปิ คจฺฉนฺโต อุปฺปเถน สมํ คจฺฉนฺตสฺส ธมฺมํ เทเสตุํ วฏฺฏตีติ อชฺฌาหารโยชนา. อุปฺปเถนาติ อมคฺเคน. เอวํ อนาปตฺติวิสเย ทสฺสิเต ตพฺพิปริยายโต อาปตฺติวิสโย ทสฺสิโตเยวาติ เวทิตพฺโพ.

ทุติยํ.

๑๙๔๙. ตติเย นตฺถิ วตฺตพฺพนฺติ ‘‘น ิโต อคิลาโน อุจฺจารํ วา ปสฺสาวํ วา กริสฺสามี’’ติ (ปาจิ. ๖๕๑) เอตสฺส วินิจฺฉโย ยถารุตวเสน สุวิฺเยฺโยติ กตฺวา วุตฺตํ. สเจ ปฏิจฺฉนฺนํ านํ คจฺฉนฺตสฺส สหสา อุจฺจาโร วา ปสฺสาโว วา นิกฺขมติ, อสฺจิจฺจ กโต นาม, อนาปตฺติ. อยเมตฺถ วิเสโส ทฏฺพฺโพ. สิงฺฆาณิกาย เขเฬเนว สงฺคหิตตฺเตปิ พาตฺตึสโกฏฺาเสสุ วิสุํเยว ทสฺสิโต เอโก โกฏฺาโสติ สิกฺขาปเทสุ อวุตฺตมฺปิ สงฺคเหตฺวา อาห ‘‘อุจฺจาราทิจตุกฺก’’นฺติ.

๑๙๕๐. เอตฺถ หริตํ นาม อิทนฺติ ทสฺเสตุมาห ‘‘ชีวรุกฺขสฺสา’’ติอาทิ. รุกฺขสฺสาติ อุปลกฺขณํ ชีวมานกติณลตาทีนมฺปิ หริเตเยว สงฺคหิตตฺตา. ‘‘ทิสฺสมานํ คจฺฉตี’’ติ วจเนเนว อทิสฺสมานคตํ อหริตนฺติ พฺยติเรกโต วิฺายติ. สาขา วา ภูมิลคฺคา ทิสฺสมานา คจฺฉติ, ตํ สพฺพํ หริตเมวาติ โยชนา.

๑๙๕๑. สหสา วจฺจํ นิกฺขมเตวาติ สมฺพนฺโธ. อสฺส ภิกฺขุโน. วจฺจนฺติ อุปลกฺขณํ ปสฺสาวาทีนมฺปิ ทสฺสิตตฺตา. วฏฺฏตีติ เอตฺถ ‘‘คิลานฏฺาเน ิตตฺตา’’ติ เสโส.

๑๙๕๒. ปลาลณฺฑุปเก วาปีติ ปลาลจุมฺพฏเกปิ. เอตฺถ ‘‘อปฺปหริตํ อลภนฺเตนา’’ติ เสโส. กิสฺมิฺจีติ สุกฺขติณาทิมฺหิ กิสฺมิฺจิ. ตํ วจฺจํ ปจฺฉา หริตํ โอตฺถรติ, วฏฺฏตีติ โยชนา.

๑๙๕๓. เอตีติ ปวิสติ. เอตฺถาติ อิมสฺมึ สิกฺขาปเท. ‘‘เขเฬน เอว จา’’ติ ปทจฺเฉโท.

ตติยจตุตฺถานิ.

๑๙๕๔. วจฺจกุฏิสมุทฺทาทิอุทเกสูติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน สพฺพํ อปริโภคชลํ สงฺคณฺหาติ. เตเนว ‘‘เตสํ อปริโภคตฺตา’’ติ อปริโภคตฺตเมว การณมาห.

๑๙๕๕. อุทโกเฆติ เอตฺถ ‘‘ชาเต’’ติ เสโส. อชลนฺติ อชลฏฺานํ. ชเลติ ปริโภคารหชเล. อิธาปิ ถลกโต อุทกํ โอตฺถรติ, อนาปตฺติ.

ปฺจมํ.

อฏฺโม วคฺโค.

๑๙๕๖-๗. ปกิณฺณกวินิจฺฉยํ ทสฺเสตุมาห ‘‘สมุฏฺานาทโย’’ติอาทิ. เยฺยาติ วกฺขมานนเยน เวทิตพฺพา. เอตฺถาติ เอเตสุ เสขิเยสุ. อุชฺชคฺฆิกา อาทิ เยสนฺติ วิคฺคโห, ตคฺคุณสํวิฺาโณยํ พาหิรตฺถสมาโส, อุชฺชคฺฆิกาอปฺปสทฺทปฏิสํยุตฺตานิ จตฺตาริ สิกฺขาปทานีติ อตฺโถ. ฉมา จ นีจาสนฺจ านฺจ ปจฺฉา จ อุปฺปโถ จ ฉมานีจาสนฏฺานปจฺฉาอุปฺปถา, เต สทฺทา เอเตสํ สิกฺขาปทานํ อตฺถีติ ตปฺปฏิสํยุตฺตานิ สิกฺขาปทานิ ฉมา…เป… อุปฺปถวา, ฉมาทิปทวนฺตานิ ปฺจ สิกฺขาปทานีติ อตฺโถ. เอตฺถ าน-สทฺเทน า-ธาตุสฺเสว รูปตฺตา สิกฺขาปทาคโต ิต-สทฺโท คหิโต. ‘‘ทสสู’’ติ วตฺตพฺเพ วณฺณโลเปน, วิภตฺติวิปลฺลาเสน วา ‘‘ทสา’’ติ วุตฺตํ. สมนุภาสเน สมุฏฺานาทีหิ เอเตสุ ทสสุ สิกฺขาปเทสุ สมุฏฺานาทโย ตุลฺยา วุตฺตาติ โยชนา.

กึ วุตฺตํ โหติ? อิมานิ ทส สิกฺขาปทานิ สมนุภาสนสมุฏฺานานิ, เอเกกเมตฺถ กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ วุตฺตํ โหติ.

๑๙๕๘-๙. ‘‘ฉตฺต’’นฺติอาทีนิ สิกฺขาปทานํ อุปลกฺขณปทานิ. เอตานิ เอกาทส สิกฺขาปทานิ สมุฏฺานาทินา ปน ธมฺมเทสเนน ตุลฺยาว สทิสา เอวาติ โยชนา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อิมานิ เอกาทส สิกฺขาปทานิ ธมฺมเทสนาสมุฏฺานานิ, กิริยากิริยานิ, สฺาวิโมกฺขานิ, สจิตฺตกานิ, โลกวชฺชานิ, วจีกมฺมานิ, อกุสลจิตฺตานิ, ทุกฺขเวทนานีติ.

สูโปทเนน วิฺตฺตีติ สูโปทน-สทฺเทน ลกฺขิตํ วิฺตฺติสิกฺขาปทํ. วิฺตฺติสิกฺขาปทานํ พหุตฺตา อิทเมว วิเสสิตํ. เถยฺยสตฺถสมํ มตนฺติ สมุฏฺานาทีหิ เถยฺยสตฺถสิกฺขาปเทน สมานํ มตนฺติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สูโปทนวิฺตฺติสิกฺขาปทํ เถยฺยสตฺถสมุฏฺานํ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.

๑๙๖๐. อวเสสา ติปฺาสาติ อวเสสานิ เตปฺาสสิกฺขาปทานิ. สมานา ปเมน ตูติ ปเมน ปาราชิเกน สมุฏฺานาทิโต สมานานีติ อตฺโถ, ปมปาราชิกสทิสสมุฏฺานานีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อนาปตฺติ อาปทาสู’’ติ ปทจฺเฉโท. ปริมณฺฑลํ นิวาเสตฺวา, ปารุปิตฺวา จรนฺตานํ โจรุปทฺทวาทิ อาปทา นาม. อปิ-สทฺเทน นทิสนฺตรณาทึ สงฺคณฺหาติ. เสขิเยสุ สพฺเพสูติ เยภุยฺยวเสน วุตฺตํ.

๑๙๖๑. ‘‘น อุชฺฌานสฺี ปเรสํ ปตฺตํ โอโลเกสฺสามี’’ติอาทีนํ (ปาจิ. ๖๑๔) อิมสฺส อนาปตฺติวารสฺส อสมฺภวโต น ปนาคโตติ ปาฬิยํ น วุตฺโต. ตสฺสาปิ ยถาวตฺถุกาว อาปตฺติโย ทฏฺพฺพา.

อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา

วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย

เสขิยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๙๖๒. โย อิมํ วินิจฺฉยํ วิทิตฺวา ิโต, โส หิ ยสฺมา วินเย วิสารโท โหติ, วินีตมานโส จ โหติ, ปเรหิ ทุปฺปธํสิโย จ โหติ, ตโต ตสฺมา การณา สมาหิโต สตตํ อิมํ วินยวินิจฺฉยํ สิกฺเขยฺยาติ โยชนา.

ตตฺถ อิมํ วินิจฺฉยํ วิทิตฺวาติ สพฺพโลกิยโลกุตฺตรคุณสมฺปตฺตินิทานํ อิมํ วินยวินิจฺฉยํ อตฺถโต, คนฺถโต, วินิจฺฉยโต จ สกฺกจฺจํ ตฺวา. วิสารโทติ สารชฺชนํ สารโท, วิคโต สารโท อสฺสาติ วิสารโท, วินยปริยตฺติยา, อาปตฺตาทิวิภาเค จ นิพฺภโย นิราสงฺโกติ วุตฺตํ โหติ. น เกวลํ อิมสฺส ชานเน เอโสว อานิสํโส, อถ โข วินีตมานโส จ โหติ, สํยตจิตฺโต โหตีติ อตฺโถ. โสติ อิมํ วินิจฺฉยํ สกฺกจฺจํ วิทิตฺวา ิโต ภิกฺขุ. ปเรหีติ อิมํ อชานนฺเตหิ อฺเหิ. ทุปฺปธํสิโย จ โหตีติ อนภิภวนีโย จ โหติ.

ตโตติ ตสฺมา วินเย วิสารทตาทิสพฺพคุณสมฺปนฺนเหตุตฺตา. หีติ ยสฺมาติ อตฺโถ. สิกฺเขติ สชฺฌายนสวนาทิวเสน สิกฺเขยฺย, อุคฺคณฺเหยฺยาติ อตฺโถ. ‘‘สตต’’นฺติ อิมินา สพฺพตฺถกกมฺมฏฺาเน วิย เอตฺถาปิ สตตาภิโยโค กาตพฺโพติ ทสฺเสติ. วิกฺขิตฺตสฺส ยถาภูตปฏิเวธาภาวโต ตปฺปฏิปกฺขาย เอกคฺคตาย นิโยเชนฺโต อาห ‘‘สมาหิโต’’ติ, สมฺมา วินยวินิจฺฉเย อาหิโต ปติฏฺิโต เอกคฺคจิตฺโตติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘อวิกฺขิตฺตสฺสายํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม วิกฺขิตฺตสฺสา’’ติ.

๑๙๖๓. เอวํ อิมาย คาถาย วุตฺตเมวตฺถํ ปการนฺตเรนาปิ ทสฺเสตุมาห ‘‘อิม’’นฺติอาทิ. เตติ อเปกฺขิตฺวา ‘‘เย’’ติ ลพฺภติ. เย เถรา วา นวา วา มชฺฌิมา วา. ปรมนฺติ อมตมหานิพฺพานปฺปตฺติยา มูลการณสฺส สีลสฺส ปกาสนโต อุตฺตมํ. อสํกรนฺติ นิกายนฺตรลทฺธีหิ อสมฺมิสฺสํ. สํกรนฺติ วุตฺตปฺปการคุโณเปตตฺตา กายจิตฺตสุขการณํ สมฺมุขํ กโรตีติ สํกรํ. สวนามตนฺติ สทฺทรสาทิโยเคน กณฺณรสายนํ. อมตนฺติ ตโตเยว อมตํ สุมธุรํ. อมตมหานิพฺพานาวหตฺตา วา ผลูปจาเรน อมตํ. อิมํ วินยวินิจฺฉยํ. อเวจฺจาติ สกฺกจฺจํ วิทิตฺวา. อธิเกติ อธิสีลาทิสิกฺขตฺตยปฺปกาสเนน อุกฺกฏฺเ. หิเตติ โลกิยโลกุตฺตรสุขเหตุตฺเตน หิเต. หิโนติ อตฺตโน ผลนฺติ ‘‘หิต’’นฺติ สุขเหตุ วุจฺจติ. กลิสาสเนติ โลภาทิกิเลสวิทฺธํสเน. สาสเนติ วินยปริยตฺติสงฺขาตสาสเนกเทเส. ปฏุตฺตนฺติ พฺยตฺตภาวํ. น ยนฺติ น คจฺฉนฺติ. เก เตติ กตเม เต. ‘‘น เกจิ สนฺติ จา’’ติ นิสฺสนฺเทเห อิมิสฺสา คาถาย อตฺโถ ลิขิโต.

เอวํ เอตฺถ อตฺถโยชนา เวทิตพฺพา – ปรมํ อุตฺตมํ อสํกรํ นิกายนฺตรลทฺธีหิ อสมฺมิสฺสํ สํกรํ สกลโลกิยโลกุตฺตรสุขาภินิปฺผาทกํ สวนามตํ โสตรสายนํ อิมํ วินิจฺฉยปฺปกรณํ อเวจฺจ สกฺกจฺจํ วิทิตฺวา อธิเก อธิสีลาทิสิกฺขตฺตยปฺปกาสเนน อุกฺกฏฺเ หิเต โลกิยโลกุตฺตรสุขเหตุภูเต กลิสาสเน สกลสํกิเลสวิทฺธํสเก สาสเน วินยปิฏกสงฺขาเต ปริยตฺติสาสเน เย ปฏุตฺตํ น ยนฺติ, เต เก นามาติ โยชนา, เย อิมํ ปกรณํ อเวจฺจ วิทิตฺวา ิตา, เต เอกํสโต วินยปิฏเก ปฏุตฺตํ ปาปุณนฺติ เยวาติ อธิปฺปาโย.

อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา

วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย

ภิกฺขุวิภงฺคกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.